เทวดาประจำตัว

<CENTER></CENTER>
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล กรุณาใช้วิจารณญานในการเชื่อครับ




ภพภูมิของเทพ-เทวดามีทั้งหมด ๖ ชั้นนับจากโลกมนุษย์ขึ้น

ไป จะอยู่ในสภาวะหรือมีสภาพร่างกายและทุกอย่างเป็นทิพย์ทั้ง

หมด(อากาศธาตุ) จะไม่มีรูปร่างที่จับต้องได้ด้วยกายหรือมอง

เห็นได้ด้วยตาเนื้อของมนุษย์ได้ เราจะรู้เห็นและสัมผัสได้โดย

ทางจิตเท่านั้นและจะต้องเป็นจิตที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่าง

ดีถึงขั้นที่เรียกว่าได้ " อภิญญาจิต "


ภพภูมิของเทพเทวดานั้นมี

แต่เสวยและรับแต่ความสุข ความเกษมสำราญแต่เพียงอย่าง

เดียวไม่มีความทุกข์ยากลำบากอะไร เพราะอยากจะได้หรืออยาก

จะมีอะไรแค่ทำการนึกคิดเอาก็ได้สมประสงค์สมปรารถนา

ทุกอย่าง เทพเทวดาก็มีอารมณ์มีความรู้สึกรัก โลภ โกรธ

หลง มีครอบครัว มีพ่อแม่ มีลูกมีหลานเหมือนกับมนุษย์

ทุกอย่าง เทพเทวดาก็มีทุกข์เหมือนกัน มีตอนที่รู้ว่าบุญใกล้จะ

หมดแล้วจะต้องลงมาเกิดยังโลกมนุษย์และทุกข์มากๆ ถ้ามาเกิด

ยังโลกมนุษย์แล้วไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะการที่ได้มาเกิดเป็น

มนุษย์นั้นสมารถทำตัวเอง ศึกษาหลักธรรมแล้วปฏิบัติฝึกจิตของ

ตนเองให้หลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้


เทพเทวดาเหล่านี้มาจาก

ไหน? ก็เป็นดวงจิตดวงวิญญาณที่มาจากมนุษย์ที่ตายแล้วและ

เป็นมนุษย์ที่มีทาน มีศีล มีภาวนา(ยังไม่สำเร็จฌาน)และมีธรรม

เพราะผลของบุญกุศลที่ได้ทำมานี้ จะส่งผลให้จิตของเขาไปเกิด

เป็นเทพเทวดา จะไปเกิดที่ชั้นไหนสูงหรือไม่ จะไปเกิดกับ

ครอบครัวกับพ่อแม่คู่ไหนบนสวรรค์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผลของบุญ

กุศลที่ได้กระทำไว้ตอนเป็นมนุษย์นั้นไปสมพงษ์หรือพอดีกับพ่อ

แม่ที่เป็นเทพเทวดาคู่ไหนและบนสวรรค์ชั้นไหนอีกที ......

การลงมาเกิดยังโลกมนุษย์ของเทวดานั้นมีด้วยกันหลาย

สาเหตุ เท่าที่รู้และจากประสบการณ์ที่ทำงานนี้มาก็มี ......



๑. หมดบุญหรือหมดอายุขัย

๒. ทำผิดกฎของสวรรค์

๓. ถูกส่งให้ลงมาทำหน้าที่ยังโลกมนุษย์



สวรรค์(ตามหลักศาสนาพุทธ)มีทั้งหมด ๖ ชั้น(ชั้นของเทพเทวดา)โดยมีดังนี้ ......



๑. ชั้นที่ ๑ เรียกชั้น จาตุมหาราชิกา

มีอายุ ๙ ล้านปีมนุษย์

๒. ชั้นที่ ๒ เรียกชั้น ตาวติงสา หรือ ดาวดึงส์

มีอายุ ๓๖ ล้านปีมนุษย์

๓. ชั้นที่ ๓ เรียกชั้น ยามา

มีอายุ ๑๔๔ ล้านปีมนุษย์

๔. ชั้นที่ ๔ เรียกชั้น ตุสิตา หรือ ดุสิต

มีอายุ ๕๗๖ ล้านปีมนุษย์

๕. ชั้นที่ ๕ เรียกชั้น นิมมานรตี

มีอายุ ๒,๓๐๔ ล้านปีมนุษย์

๖. ชั้นที่ ๖ เรียกชั้น ปรนิมมิตวสวัตตี

มีอายุ ๙,๒๑๖ ล้านปีมนุษย์



เมื่อหญิงชาย(พ่อ-แม่)ยังโลกมนุษย์ได้ร่วมหลับนอนกัน

เชื้ออสุจิของชาย(พ่อ)เข้าผสมไข่ของหญิงแล้ว มีดวงจิตของ

เทพเทวดาองค์หนึ่งองค์ใดได้หมดบุญจากสวรรค์ลงมาผสม

(ปฏิสนธิวิญญาณ) มาร(เทพบุตรมาร)ก็ตามลงมาผสมด้วยอีก

เพื่อขัดขวางการสร้างบุญบารมีของเทพเทวดาตนนี้



พ่อแม่ พี่

น้องหรือเพื่อนๆที่อยู่บนสวรรค์ด้วยกันอย่างใดอย่างหนึ่งก็ลงตาม

มาผสมด้วยหนึ่งดวงจิต เพื่อดูแลให้ความช่วยเหลือปกป้องเรา

ทุกเรื่องจากการกลั่นแกล้งของพวกมาร ตามมาด้วยความรักและ

ความเป็นห่วงตลอดช่วงอายุของการเกิดมาเป็นมนุษย์ของเรา

เรียกเทพเทวดาเหล่านี้ว่า " เทวดาประจำตัว "



แต่พอถึงเวลาเข้า

จริงๆแล้วเทพเทวดาเหล่านี้กลับช่วยเหลืออะไรเราไม่ได้ เพราะมี

พลังน้อยกว่าพวกมาร ก็ได้แต่ยืนดูเราห่างๆช่วยเหลืออะไรเราไม่

ได้เวลาเราตกทุกข์ได้ยากเกิดความลำบาก



ถ้าหากเทพเทวดา

ประจำตัวของใครเป็นผู้หญิงจิตใจและลักษณะอาการของมนุษย์

คนๆนั้นก็จะออกไปลักษณะทางผู้หญิง ถ้าเป็นร่างของมนุษย์

ผู้ชายก็จะเป็น กะเทย และถ้าหากเทพเทวดาประจำตัวของใคร

เป็นผู้ชายจิตใจและลักษณะอาการของมนุษย์คนๆนั้นก็จะออกไป

ลักษณะทางผู้ชายเหมือนกัน ถ้าเป็นร่างของมนุษย์ผู้หญิงก็จะ

เป็น ทอม การที่มนุษย์คนไหนเป็นทอมหรือกระเทยนั้น ก็มี

สาเหตุมาจากผลของกรรมในอดีตชาติและมาจากเหล่าเทพเทวดา

ที่ทำผิดกฎสวรรค์ด้วยเช่นกัน



ท่านทราบหรือไม่ว่าเทวดาประจำตัว

ของท่านเป็นใคร? ชื่ออะไร? มาจากชั้นไหน? เกี่ยวข้องกับ

ท่านอย่างไร? มีผลและมีอิทธิพลต่อตัวของท่านอย่างไร? ท่าน

ควรที่จะปฏิบัติตนและแก้ไขอย่างไรบ้าง?

 

อื่ม....คุ้นๆเหมือนเคยอ่านเรื่องแบบนี้มาเหมือนกัน

คำถามของผม คือ คนที่ไม่ได้มาจากสวรรค์จะมีเทวดาประจำตัวหรือไม่...?

ขออนุโมทนาสาระประโยชน์จากท่านเจ้าของกระทู้นี้ครับ

 

เคยอยากทราบครับ

 

สาูธุ อยากทราบต่อครับผม

 

เทวดาเป็นวิญญาณคนหรือเปล่าครับ

 

(y)
อืมเทวดาประจำตัวอืม​

 

เทวดาประจำตัว(2)

ครับ ผมก็ไม่ได้มาเขียนต่อเสียหลายวัน
พอดีติดตามพระอาจารย์ไปธุดงค์มา
ก็ได้เห็นได้รู้ในสิ่งต่างๆที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น
มาพูดถึงเรื่องเทวดาประจำตัวต่อดีกว่าครับ

ท่านเคยสังเกตเคยคิดเคยวิเคราะห์มั้ยครับว่า
ทำไมพระสงฆ์เกจิอาจารย์ ท่านดูคนแล้วรู้เลยว่าคนคนนี้ดี
หรือชั่วนิสัยเป็นอย่างไร
พระเหล่านี้ท่านสามารถมองเห็นดวงจิตหรือว่าภพอีกภพหนึ่งนั่นคือภูติผี เทวดา วิญญาณต่างๆ
นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่อาจรู้ไม่อาจเห็น
ท่านสามารถมองเห็นเทวดาหรือว่าภูติผีประจำตัวของท่านได้
ถ้าท่านเป็นคนดีมากก็จะมีเทวดาประจำตัวหลายองค์ด้วยกันครับ

ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่ามนุษย์มีเทวดาประจำตัว
ผมได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ทั้งยังได้สอบถามจากพระอาจารย์ต่างๆ ท่านก็ได้บอกเหมือนกันว่า
มนุษย์บางคน(คนชั่ว)เขาไม่มีเทวดาประจำตัวเลย
แต่จะมีจำพวกภูติผีปีศาจมาอยู่แทน
ฉะนั้นเมื่อพระอาจารย์เห็นภูตผีปีศาจที่ตามมาก็จะรู้ได้เลยว่าเป็นคนชั่ว

ท่านยังบอกอีกว่าโดยมากแล้วเทวดาหรือภูตผีประจำตัวนั้น
มิได้เป็นญาติหรือเป็นพี่น้องกับเราเลย
สาเหตุที่มาอยู่กับเรานั้น
ดูเหมือนจะเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
เทวดาที่อยู่กับคนดี ก็จะชักนำจิตใจให้ทำดีเราก็ได้บุญ
เค้าก็จะพลอยรับส่วนบุญด้วย เป็นการสร้างสมบารมีด้วยกัน

พระอาจารย์หลายท่านสามารถติดต่อกับเทวดาประจำตัวได้
ท่านสามารถสนทนากันทางจิตได้
ท่านสามารถถามตอบกับเทวดาประจำตัวได้ เช่นถามว่าเป็นใครมาจากไหน
ถ้าผู้สนใจอยากรู้ว่าเทวดาประจำตัวคือใครมาจากไหน
ก็ลองไปหาพระอาจารย์ที่ท่านเก่งๆดู
<O
วันนี้ก็ขอไว้แค่นี้ก่อนแล้วกัน
ยังมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับเทวดาประจำตัว
ที่ผมอยากจะบอกกล่าวกับผู้สนใจทุกท่าน
ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าทำไมหลายคนหรือแม้แต่ท่านเองรอดตายทั้งๆที่ไม่มีพระเครื่องเลย? <O</O

 

เชื่อเรื่องเทวดาประจำตัวเพราะก็มีอยู่กับเขาเหมือนกัน
แถมยังมีอยู่ในบ้านอีกมากมายลองไปดูในบ้านกันสิมีดวงธรรมอยู่ไหม
ถ้ามีนั่นแหละบ้านพี่ชายคนที่5เขาสวดมนต์ไหว้พระทุกคืน
ทั้งสองคนผัวเมียแต่คนละเวลา
มีดวงธรรมดวงใหญ่ในบริเวณบ้านหลายวงเลย
เห็นได้ในรูปเลยวันก่อนได้รับปริญญาเลยไปถ่ายรูปกับพี่น้องแต่ละบ้าน
บ้านนี้มีดวงธรรมใหญ่มากบ้านอื่นก็มีแต่น้อย
แถมในวันฉลองได้ทำบุญถวายสังฆทานในตอนกลางวัน
ตอนเย็นกลางคืนมีงานเลี้ยงเขาก็มาร่วมด้วยเห็นได้ในรูปเพียบ
เลยใช้กล้องหลายตัวมีเวลาจะนำมาให้ชม

 

สอบถาม คุณคนไชยาครับ
มีวิธีติดต่อกับเทวดาประจำตัวไหม?

 

พูดตามตรงผมเคยสัมผัสกับสิ่งเร้นลับต่างๆมาก็ไม่ใช่น้อย แต่ผมไม่เคยติดต่อไม่เคยเห็นเทวดาประจำตัวของผมเลย เคยนั่งอธิษฐานให้ท่านมาให้ผมได้เห็นหน่อยในฝันก็ได้ ก็ไม่เคยเห็น แต่ผมก็รู้เรื่องเทวดาประจำตัวของผม จากพระอาจารย์นั่นแหละ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอก แต่เมื่อฟังท่านพูดถึงเทวดาประจำตัวของผมแล้ว ผมเชื่อมั่นเต็มที่ว่าท่านอาจารย์ผู้นี้รู้จริง ท่านบอกว่าเทวดาประจำตัวของผมมีมากกว่า1องค์(ท่านไม่บอกว่ากี่องค์) ท่านบอกว่ามีอยู่องค์หนึ่งเป็นบรรพบุรุษของผม มาคอยปกป้องคุ้มครองลูกหลาน(ก็คือผม) ท่านเข้าสมาธิติดต่อกับบรรพบุรุษของผม ท่านเล่าให้ผมฟังเรื่องของเทวดาประจำตัวของผม บางเรื่องผมก็รู้ บางเรื่องก็ไม่รู้ ผมก็ไปถามเรื่องนี้กับย่า ซึ่งตรงกับที่ท่านบอกทุกประการ ทั้งๆที่พระอาจารย์รูปนี้ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกับผมแต่อย่างใด ทำให้ผมสนใจเรื่องเทวดาประจำตัวขึ้นมา แล้วก็พยายามที่จะศึกษามัน ผมจะศึกษาเรื่องนี้ต่อไป

 

มี แต่ท่านจะเชื่อหรือไม่ โปรดใช้วิจารณาญ ไม่เชื่อก็อย่าเหน็บแหนม เพราะเป็นเรื่องการระเบิดจิต

น่าจะใช้คำว่า เทพประจำกาย มากว่าเทวดาประจำตัว เพราะเทวดามีอยู่ทั่วไป แต่พระญาณบางองค์อาจจะเป็นเทพธรรมบาล หรือมหาเทพ หรือมหาเทวี หรือฉรรพรังสีแห่งพุทธะ หลักการมีอยู่ว่า...

ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ขอถวายเครื่องบริขารเหล่านี้ อันประกอบด้วย ผ้าไตร ดอกบัว และปัจจัยนี้ (เงินหนึ่งสลึง) แก่องค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า ขอบรมครูองค์พระศาสดาทรงโปรดสั่งสอน และโปรดชี้ทางแสงสว่างเพื่อให้ถึงฝั่งหมาย ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญฯ

1) พนมมือด้วยดอกบัว ผ้าไตรตั้งที่ข้อพับ เหรียญสลึงวางไว้บนผ้าไตร
2) ตั้งจิตเป็นสมาธิ และกล่าวคำอธิฐานข้างต้น
3) เริ่มสวดมนต์และออกเสียงคำว่า นะโม ๆ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อยๆ เร็วๆ ดังๆ

จนกว่าจิตท่านจะเปิดรับพุทธญาณ (แต่หากเป็นไปได้ควรมีครูบาอาจารย์ควบคุม) หากท่านมีบารมีเพียงพอและมีปัญญาญาณเห็นพระอริยะสัจจสี่รู้แจ้งแล้ว จึงจะเข้ากระแสนี้ได้

หากเสียงเริ่มเปลี่ยนไป ก็อย่าได้กังวล ตั้งสติ วางดอกบัว และผ้าไตรลง จากนั้น ให้นั่งสมาธิและสวดต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไปและเสียงสวดเงียบสงบลง เป็นอันเสร็จพิธี

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

 

ส่วนหนึ่ง คนที่เกิดมามีเทวดามาคุ้มครอง มาจากสวรรค์
แต่อาจจะมาเกิดเปนมนุษย์หลายชาติ เพราะเทวดาเอง
ไม่สามารถสร้างบุญบารมีได้เอง ต้องมาเกิดเปนมนุษย์
จึงจะสามารถสร้างบารมีได้
นี่คือเหตุหนึ่ง ที่เรามีความเชื่อว่า คนมีเทวดาคุ้มครอง
คนบางคนรู้จากคนอื่นบอกว่า มีเทพคอยคุ้มครอง
แต่ไม่สามารถสื่อกับองค์บารมีได้เลย คือพูดภาษาเทพไม่ได้
ก็ให้สังเกตุเรืองการสัมผัส อาจมีความรู้สึกรู้เรืองที่จะเกิดขึ้น
มีลางสังหรณ์บอกเหตุ ฝันแม่นอะไรแบบนี้
บางคนก็พูดภาษาเทพมานาน แต่ไม่ได้สังเกตุว่าตัวเองพูด
ต้องสังเกตุจากอาการที่ปรากฏ ตามที่บางท่านได้บอกว่า
มีอาการแบบนี้ ท่านก็จะพอรู้ได้ว่า ท่านมีเทพคอยคุ้มครอง

เมื่อท่านมีเทพเทวดาคุ้มครอง ท่านอยู่ทุกที่ค่ะ
นั่นคือสาเหตุหนึ่งที่บางท่านถือสันโดษไปเลย
เกรงว่าตนจะทำผิดเรืองหนึ่งเรืองใด
คนมีองค์ ไม่ต้องเชิญเทพองค์ค่ะ ท่านอยู่ทุกขณะที่คุณต้องการ
หรือระลึกนึกถึงท่าน

 

ใช่เลยไม่ต้องเชิญเพราะท่านอยู่กับเราตลอด ตอนที่เราไปรับปริญญายังคุยกับท่านในใจว่านี่เป็นความสำเร็จที่ทางโลกเขาวัดกัน
ยังชวนท่านถ่ายรูปด้วยกันก็ติดดวงธรรมมาด้วย
แม้ตอนไปฉลองบนเรือก็คุยกับท่านว่านี่เป็นความดีใจแบบชาวโลก
ท่านก็ปรากฏให้เห็นในรูปด้วยเป็นดวงธรรม
แต่เล่ามานี่อย่าคิดว่าบ้านะเราคุยกับท่านข้างเดียวท่านยังไม่ได้พูดด้วยหรอก

 

รอคนไชยา มาเขียนให้อ่านอีกน่ะ อย่าไปนานเพราะเป็นความรู้ดี ชอบศึกษาครับ และขออนุโมทนาบุญกับคนไชยาด้วยขอรับ

 

ขออนุญาติสนทนาด้วยคนนะครับ
จากประสบการณ์โดยตรงของผม ตอนเด็กๆ นิสัยค่อนข้างซุกซนมาก เคยเฉียดตายมาหลายครั้ง แต่ก็รอดมาทุกครั้งโดยไม่เป็นอะไรเลย ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรครับ
เคยมีครั้งหนึ่งปีนต้นไม้ สูงประมาณตึก 3 ชั้น และพลาดตกลงมา ในช่วงนั้นจะวูบไปเลยครับ คือไม่ได้สติ แต่รู้สึกตัวอีกที จะนั่งอยู่ที่โคนต้นไม้ แต่ไม่มีรอยแผลใดๆเลยครับ

เราทุกคนไม่เคยที่จะอยู่คนเดียวครับ แต่ละคนจะมีรูปธรรมทางพลังงานชั้นสูงคอยดูแลอยู่ ตามดูแลเราทุกภพ ทุกชาติ จนกว่าจะเข้าสู่นิพพานครับ

รูปธรรมชั้นสูงที่มีพระคุณกับเรามาตลอด ไม่มีรูปธรรมที่เป็นมนุษย์เหมือนกับเราๆท่านๆ แต่เป็นรูปธรรมทางพลังงานครับ ไม่มีรูปขันธ์เหมือนมนุษย์เราครับ ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะเห็นเป็นตัวตนได้ครับ แต่รู้สึกได้ครับ

ก่อนนอนท่านลองทำใจให้สงบ ทำจิตให้ชุ่มชื่นด้วยพรหมวิหาร 4 แล้วลองพูดคุยกับท่าน ลองขอบคุณท่านจากใจจริงดูสิครับ ที่คอยดูแลจิตวิญญาณเรามาโดยตลอด ไม่ว่าเราจะเกิดใหม่ซักกี่ภพชาติ ไม่ว่าเราจะทำตัวเหลวไหลขนาดไหน ท่านก็อยู่กับเราตลอดเวลา

แต่เราไม่เคยที่จะตระหนักเลย ลองขอบคุณกับท่านจากใจจริงดูซิครับ แล้วลองดูว่าจิตใจเรารู้สึกอย่างไร ร่างกายเรารู้สึกอย่างไร

 

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่สนใจการปฎิบัติธรรมเช่นกัน ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ก็คงเหลือแต่เพียงการปฎิบัติสมาธิเท่านั้นที่ยังไม่ปฎิบัติ ถ้ายังไม่ปฎิบัติสมาธิ ปัญญาก็เกิดน้อยหรือเปล่า เคยที่จะปฎิบัติแต่ติดตรงที่ไม่มีความรู้ หรือชอบฟังคนเขาเล่ากันมาว่า ถ้านั่งสมาธิ ไม่มีผู้ที่ชำนาญในการควบคุมก็จะทำให้จิตเตลิด ใช่หรือไม่ค๊ะ แล้วเรื่องของเทวดาประจำองค์ดิฉันก็คิดว่าตนเองก็มีเหมือนกัน เพราะมีเหตุการณ์หนึ่งที่สามารถทำให้เชื่ออย่างนั้นหลาย ๆ ครั้ง อาทิ ครั้งหนึ่งนอนให้ห้อง ( ห้องเช่า )ตอนนั้นยังไม่ได้ซื้อเตียงสำหรับนอนให้สูงกว่าพื้น ต้องนอนกับฟูกบนพื้น แล้วพอตกดึกดิฉันนอนหลับไป มีกิ้งกือคงมาจากพื้นข้างนอก คงจะเข้ามาทางร่องประตูด้านล่าง กิ้งกือไต่ขึ้นมาบนหน้าของดิฉันและจะเข้าจมูกดิฉัน ก่อนที่จะรู้สึกตัว ตอนนั้นหลับอยู่ ดิฉันได้ยินเสียงผู้หญิงมาพูกเสียงกระซิบแบบดังว่า ให้รีบตื่นสิ ตื่นสิ ตื่นสิ แล้วตะโกนเป็นครั้งสุดท้ายว่า บอกให้ตื่นขึ้นมาสิ ดิฉันตื่นขึ้นมา ด้วยสัญชาตญานเอามือไปจับกิ้งกือตัวนั้นที่กำลังไต่เข้าไปในรูจมูกออกเสียก่อน คิดดูสิค๊ะถ้าไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น ขอบคุณจริง ๆ สำหรับเสียงๆ นั้น

 

เทวดาประจำตัว(3)

ครับสวัสดีผู้สนใจทุกท่านครับ ผมไม่ได้เข้ามาห้องนี้ประมาณหนึ่งเดือน ก็มาเข้าเมื่อวันสองวันนี้เอง ผมไปหาดใหญ่มานะครับ ผมจะขอพูดถึงเรื่องเทวดาประจำตัวต่อนะครับ

ผมได้ไปศึกษาเพิ่มเติมมาเรื่องของเทวดาประจำตัวนั้น มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปก็มี เช่นท่าน"พลูหลวง"เรียกว่า "เทวดารักษาอายุ" บางท่านเรียกเทพประจำกายบ้าง เทพพิทักษ์บุคคลบ้าง ผมขอเรียกว่าเทวดาประจำตัวก็แล้วกันนะครับ

ดังที่เคยกล่าวไว้แล้วว่าเทวดาประจำตัวนั้นท่านมาอยู่กับเราในลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย "เทวดาฝ่ายดี(สัมมาเทวดา)"จะอยู่กับคนดีท่านจะคอยชักนำจิตใจเราให้ใฝ่สูง(ไม่ใช่มักใหญ่ใฝ่สูงนะครับอย่าเข้าใจผิด) เช่นถ้าเราเป็นคนดีแต่เพื่อนชั่วชักชวนให้เราไปปล้น ขณะที่เราถูกเพื่อนชักชวนนั้น จะมีสิ่งๆหนึ่งจะมีความคิดความคิดหนึ่งคอยคิดอยู่ว่ามันจะดีรึมันบาปนะนี่คือหน้าที่ของ"จิตใต้สำนึก"(ไว้วันหลังค่อยพูดถึงเรื่องนี้) จิตใต้สำนึกจะคอยควบคุมเราในขั้นแรก ต่อมาถ้าเรายังดื้อดึงยังอยากทำชั่วอีก ด้วยบารมีของเทวดาประจำตัวท่านจะคอยขัดขวางเราด้วยวิธีการต่างๆ ทำให้รถเสียบ้าง ทำให้ต้องเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆก่อนบ้าง เพื่อที่จะเตือนสติเรา ถ้าเรารู้ตัวก็จะบังเกิด"จิตสำนึก"ขึ้นมาว่านี่เรากำลังจะทำชั่วนะ เราจะบาปนะ เราก็จะยกเลิกการทำชั่วทันที(นี่แหละที่เขาเรียกว่าทำชั่วไม่ขึ้น) แต่ถ้าเกิดว่าเราคิดขึ้นมาว่าอยากทำชั่วว่ะ ถึงอย่างไรวันนี้ต้องปล้นให้ได้ ดื้อรั้นอยู่อย่างนั้น ในที่สุดจิตใจที่เคยบริสุทธิ์ก็จะเศร้าหมอง ความชั่วก็เข้าครอบครองจิตใจ เทวดาฝ่ายดีก็จะปกปักรักษาท่านต่อไปไม่ได้ เทวดาฝ่ายชั่วก็จะเข้ามาแทนที่ เมื่อนั้นความฉิบหายก็จะมาเยือนท่านอย่างแน่นอน

"เทวดาฝ่ายชั่ว(มิจฉาเทวดา),มาร"จะอยู่กับคนชั่วจะคอยชักนำจิตใจเราให้ใฝ่ต่ำ เช่นถ้าเราเป็นคนชั่วแต่เพื่อนดีชักชวนให้เราไปวัด ขณะที่เราถูกเพื่อนชักชวนนั้น จะมีสิ่งๆหนึ่งจะมีความคิดความคิดหนึ่งคอยคิดอยู่ว่ามันจะดีรึมันไม่สนุกนะ มันน่าเบื่อนะ นี่คือหน้าที่ของ"จิตใต้สำนึก" จิตใต้สำนึกจะคอยควบคุมเราในขั้นแรก ต่อมาถ้าจิตใจเราใฝ่ดีใฝ่ธรรม แต่ด้วยบารมีของเทวดาประจำตัวจะคอยขัดขวางเราด้วยวิธีการต่างๆ ทำให้รถเสียบ้าง ทำให้ต้องเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆก่อนบ้าง เพื่อที่จะเรียกความชั่วในตัวเราให้กลับคืนมา ถ้าเรายอมให้ความชั่วครอบงำจิตใจเราได้เราก็จะชั่วอยู่อย่างนี้ แต่ถ้าเราไม่ยอมให้ความชั่วเข้ามาครอบงำเราเชื่อมั่นในสิ่งที่ถูก เราก็จะชนะเทวดาฝ่ายชั่วและเอาชนะความชั่วในตัวเราเอง เมื่อนั้นเทวดาฝ่ายชั่วก็จะอยู่กับเราไม่ได้ เทวดาฝ่ายดี(สัมมาเทวดา)ก็จะมาปกป้องเราแทน เมื่อนั้นสิ่งดีๆก็จะเข้ามาในชีวิต

เห็นมั้ยครับว่าเราสามารถเลือกได้ สามารถกำหนดได้ว่า จะให้เทวดาประเภทไหนมาปกปองคุ้มครองท่าน หากท่านทำดี ก็ไม่ต้องกังวลสัมมาเทวดาและความดีก็จะปกป้องท่านเอง ที่สำคัญความดีนั่นแหละสำคัญที่สุด

วันนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับวันหน้าผมจะมาคุยเรื่องนี้ใหม่ มีอะไรสอบถามก็ถามได้นะครับ ถ้าตอบได้ผมจะตอบ ตอบไม่ได้ผมก็จะพยายามหาคำตอบจากตำราบ้าง จากผู้รู้บ้างมาตอบท่านให้ได้

สำหรับคำถามที่ถามมาว่า"เทวดาจะตามเราเข้าส้วมมั้ย"
ผมคิดว่าท่านไม่เข้าไปเฝ้าเราถึงประตูส้วมหรอกครับ มันไม่ใช่ที่ๆเทวดาจะอยู่นะครับ แต่ถ้าหากว่าจะมีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับเรา(เทวดาจะรู้ล่วงหน้า) ท่านก็คงจะเตือนสติเราตามทีได้กล่าวไว้แล้วนั่นแหละครับ ถ้ามันถึงคราวที่ต้องชดใช้เวรกรรมต่อให้ใครก็ช่วยเราไม่ได้หรอกครับ

ขอบพระคุณครับ

 

อยากทราบคับคุณไชยา

อยากทราบคับว่าการที่เรา สวดบทชุมนุมเทวดาอะ มีผลดียังไงคับ
และจะมีผลกับเทวดาประจำตัวเราหรือเปล่าคับ
ขอบคุณคับ

 

อยากทราบคับว่า การที่เราสวดมนต์บทคาถาชุมนุมเทวดา อะคับ
มีผลกับเทวดาประจำตัวเราไหมคับและสวดแล้วมีผลดีในทางไหนคับ
วอนพี่ไชยา ช่วยไชข้อกังขาด้วย คับ