ทางสู่ความมั่งมีศรีสุข วาสนาบารมี

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย สาสนี, 24 มีนาคม 2018.

  1. สาสนี

    สาสนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +210
    บทนำ

    หลายคนมีความฉงนสงสัยอยู่ในใจว่า ทำไมบางคนประสบความสำเร็จในชีวิต? แต่บางคนกลับล้มเหลว! ทำไมบางคนค้าขายเจริญรุ่งเรือง? แต่บางคนกลับล่มจม ทั้ง ๆ ที่เงินทุนเท่ากัน อยู่ในทำเลเดียวกัน ทำไมบางคนโดดเด่นในหน้าที่การงาน? แต่บางคนกลับตกต่ำย่ำแย่

    ผู้รู้กล่าวว่า "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนต้องมีเหตุและปัจจัย" แล้วอะไรเล่าอยู่เบื้องหลังและเป็นแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว? คำตอบก็คือ "วาสนาบารมี" เรามาศึกษาและทำความรู้เข้าใจในเรื่องวาสนาบารมี ให้กระจ่างแจ้งกันเถิด
     
  2. สาสนี

    สาสนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +210
    วาสนาบารมี คืออะไร

    วาสนาคือ สิ่งที่สร้างสะสมไว้ในอดีต ซึ่งติดตามมาให้ผลในปัจจุบัน

    บารมี คือ บุญ กุศล คุณงามความดี ที่ได้บำเพ็ญสะสมต่อเนื่องกันมา ถ้าทำสะสมไว้มากก็เรียกว่า มหาบารมี

    ดังนั้นคนที่มีวาสนาบารมี จึงหมายถึง ผู้ที่ได้รับผลแห่งบุญกุศลที่ตนสร้างสะสมไว้ในอดีต เหตุนี้เอง โบราณจึงกล่าวว่า

    "แข่งเรือแย่งพาย แข่งกันได้ แต่แข่งบุญวาสนา แข่งกันไม่ได้"

    เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะวาสนาของใครก็ต้องบุคคลนั้นได้ทำมาไว้เอง คนที่ไม่ได้ทำย่อมไม่มีวาสนาติดตัวมา

    คนที่ทำไว้น้อย จะให้มีวาสนามากกว่าคนที่สร้างไว้มากย่อมเป็นไปไม่ได้

    ฉะนั้นวาสนา จึงเป็นเรื่องที่ต้องแข่งกับตัวเอง คนทำมากก็ได้มาก คนทำน้อยก็ได้น้อย คนไม่ได้ทำก็ไม่มีเลย

    "ปุพเพ จ กตปุญญตา"

    วาสนาบารมี มีความหมายตรงกับ มงคลข้อที่ 5 คัมภีร์มงคลสูตรของพระพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงเทศนาแสดงแก่เทพยดา ให้รู้ถึงเหตุปัจจัยที่จะนำความสุขความเจริญมาสู่ชีวิต 38 ประการ

    "ปุพเพ จ กตปุญญตา" หมายถึง กระทำไว้แล้วในปางก่อน หรือ ความเป็นผู้มีบุญเก่ามาดี นั่นเอง
     
  3. สาสนี

    สาสนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +210
    บุญวาสนามีประโยชน์อย่างไร

    การมีบุญวาสนาหรือบุญเก่า ถือเป็นมงคลในชีวิตเพราะจะส่งผลดีให้ 4 ประการคือ
    1.บุคคลผู้นั้น ชีวิตเกิดมาจะพรั่งพร้อมด้วยปัจจัย 4 ไม่อดอยากขาดแคลน
    2.บุคคลผู้นั้นมีโอกาสที่จะสร้างความดีให้ยิ่งขึ้นต่อไปได้ เพราะมีต้นทุนเดิมไปต่อเติมบุญใหม่
    3.บุคคลนั้นมีเสบียงไว้ใช้ทั้งภพนี้ และภพหน้า ไม่ตกอยู่ในสภาพสมบัติขาดมือ
    4.บุคคลนั้นย่อมมีความผาสุขร่มเย็นในชีวิต
     
  4. สาสนี

    สาสนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +210
    ลักษณะของคนอาภัพ อ้บโชค

    มีบุญวาสนา ตรงข้ามปับอาภัพอับโชค คนบุญน้อยด้อยวาสนา ได้ชื่อว่าเกิดมาเป็นคนอาภัพ

    ลักษณะคนอาภัพ สังเกตได้จาก
    1. หัวแข็ง เป็นคนที่สอนไม่ได้ ยึดถือความคิดของตนเป็นใหญ่ ไม่ยอมฟังใคร
    2. แล้งน้ำใจ เป็นคนใจแคบ ไม่คิดจะช่วยเหลือใครเกื้อกูลใคร คอยแต่จะชุบมือเปิบ จ้องกินจ้องใช้ เป็นเด็กก็ไม่เคยบ่วยเหลืองานพ่อแม่ โตขึ้นก็จะกลายเป็นคนอาภัพโชค
    3.ไร้สัจจะ เป็นคนพูดแล้วไม่ทำ หรือทำไม่ได้อย่างที่พูดสัญญาไว้
    4.อกตัญญู เป็นคนไม่มีจิตสำนึกระลึกถึงบุญคุณใครเลย

    ดังนั้นคนหัวแข็ง แล้งน้ำใจ ไร้สัจจะ อกตัญญู จึงตกอยู่ในสภาพอาภัพอับโชคตลอดชาติ
     
  5. สาสนี

    สาสนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +210
    วาสนาบารมีมาจากไหน?

    วาสนาและบารมี เกิดจากการหมั่นเพียรสร้างบุญ และ กุศล อย่างต่อเนื่อง

    อะไรคือ บุญ? อะไร คือ กุศล?

    ทุกวันนี้เราเรียกการทำความดี รวมกันเป็นคำเดียวว่า "บุญกุศล" แต่ในอดีตแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ทำบุญ และ สร้างกุศล เพราะการทำความดีโดยการทำบุญ และสร้างกุศล เป็นคนละอย่างกันและให้ผลลัพธ์ต่างกัน

    บุญ หมายถึง ความปิติอิ่มเอิบใจจากการทำความดี
    กุศล หมายถึง การชำระล้างกิเลสให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ

    ดังนั้น "การทำบุญ" จึงได้แก่ การใหทานอันหมายถึงรู้จักแบ่งปัน เสียสละในทุกรูปแบบ อาทิเช่น

    1.ให้ทรัพย์เป็นทาน ได้แก่ บริจาคเงินทอง สิ่งของ ปัจจัยช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนทุกข์ยาก
    2.อุทิศแรงกายเป็นทาน ได้แก่ เสียสละเวลาอุทิศแรงกาย ออกไปบำเพ็ญสาธารณประโยชน์
    3.ให้ธรรมะเป็นทาน ได้แก่ แบ่งปันความรู้ ช่วยชี้ทางให้ผู้คนดำเนินชีวิตไปหนทางที่ถูกต้องดีงาม

    ส่วน "การสร้างกุศล" ได้แก่การบำเพ็ญจิตภาวนาและขัดเกลาจิตใจ มุ่งขจัดกิเลสความชั่วทั้งหลายให้หมดสิ้นไป

    กุศล เป็นสิ่งที่ต้องแสวงหาจากภายในจิตใจของแต่ละคน และไม่อาจหาได้จากการทำบุญให้ทานที่เป็นวัตถุภายนอก

    เราต้องแยกแยะให้เห็นความแตกต่างระหว่าง บุญภายนอก และ กุศลภายใน

    แต่ทว่าผู้ที่จะได้มาซึ่งวาสนาบารมีอย่างเต็มบริบูรณ์ ต้องทำทั้งบุญภายนอกและสร้างกุศลภายในควบคู่กันไป

    "บุญวาสนา เป็นสิ่งที่สร้างกันได้
    ไม่มี....ก็ทำให้มีได้
    ที่มีอยู่แล้ว...ก็ทำให้มียิ่งขึ้นได้"

    โอวาทหลวงปู่มั่น
     
  6. สาสนี

    สาสนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +210
    ทัศนคติที่ถูกต้องในการทำบุญ

    การทำบุญไม่จำกัดเฉพาะ จำนวน สถานที่ และบุคคล

    ทำบุญไม่จำกัดจำนวน อย่ารอให้มีมากแล้วจึงจะคิดทำบุญ ผลบุญขึ้นอยู่กับพลังศรัทธา คนมีมากทำมาก ไม่แปลก คนที่มีน้อยก็ทำตามกำลังศรัทธาไม่เดือดร้อน

    ทำบุญไม่ต้องใข้เงินเสมอไป การให้อภัย การไม่ถือโทษ ไม่โกรธเกลียด ไม่ผูกเวรต่อใคร เป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่

    พระอริยเจ้าตรัสว่า

    "รักคนที่ใคร ๆ ก็รัก...ไม่ใช่เรื่องยาก
    แต่รักคนที่ใคร ๆ เกลียด นั่นไม่ง่ายเลย
    คนร่ำรวยบริจาคเงิน มิใช่เรื่องแปลก
    แต่คนยังจะยากจนแล้วยังบริจาค.....นี่สิไม่ธรรมดา

    การทำบุญไม่จำกัดสถานที่

    การทำบุญให้ทาน ไม่จำกัดเฉพาะแต่ไปวัดเท่านั้น เราสามารถทำได้ทุกแห่งที่มีความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล โรงเรียนสถานศึกษา บ้านเด็กกำพร้า มูลนิธิ สถานสงเคราะห์

    ทำบุญไม่จำกัดเฉพาะบุคคล

    การทำบุญไม่จำกัดเฉพาะต้องทำกับพระสงฆ์ หรือนักบวชเท่านั้น เราสามารถทำบุญให้ทานกับทุกชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าเด็กเล็ก คนชรา คนพิการ คนเจ็บไข้ได้ป่วย เด็กกำพร้า คนจากไร้ ฯลฯ ตลอดจนถึง นก กา สุนัข แมว วัว ควาย ช้าง ม้า ฯลฯ

    การทำบุญที่ให้อานิสงส์สูงสุด

    ชาวพุทธมีความคติความเชื่อว่า การได้ทำบุญกับพระอรหันต์ได้รับอานิสงส์สูงสุด จะเป็นรองก็แต่บุญที่ถวายแก่พระพุทธเจ้าเท่านั้น

    แต่พระองค์ทรงกลับย้ำว่า พ่อแม่ คือ พระอรหันต์ของลูก พระองค์ได้ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่าง โดยเสด็จโปรดพระมารดาถึงบนสรวงสวรรค์และโปรดพระบิดาให้ได้ดวงตาเห็นธรรม

    ดั่งนั้น ผู้ใดจะปราถนาจะทำบุญกับพระอรหันต์ จงปรนนิบัติรับใช้ทำนุบำรุงดูแลพ่อแม่ของตนด้วยความกตัญญูกตเวทีเถิด เพราะพระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า

    "ความดีในโลกนี้ยังมีอีกนับร้อยพันอย่าง ทว่าความกตัญญูกตเวที เป็นสุดยอดแห่งความดี"
     

แชร์หน้านี้

Loading...