เสียงธรรม หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ สลบแล้วฟื้น เล่านรก-สวรรค์

ในห้อง 'ธรรมเทศนาทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย Bacary, 24 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. nasskes

    nasskes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +106
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  2. กากะวิริยะ

    กากะวิริยะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนา สาธุ ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. ภูริทัตโต

    ภูริทัตโต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +8
    อนุโมทนาครับ
     
  4. suriyatum

    suriyatum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +5
    ขออนุโมทนาบุณด้วยครับ
     
  5. tithiwatt

    tithiwatt สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +1
    อนุโมทนา
     
  6. เขามอ

    เขามอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +539
    อนุโมทนา ขอบคุณ ที่ นำธรรมมาฝากครับ
     
  7. Shinya

    Shinya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +13
    ......................อนุโมทนา สาธุครับ............................
     
  8. udomwong

    udomwong สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +2
    ขออนุโมทนาบุณด้วยครับ
     
  9. วันมงคล2

    วันมงคล2 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +69
    อนุโมทนาบุญครับสาธุ สาธุ สาธุอนุโมทามิ.
     
  10. Chaiwat_Khamhom

    Chaiwat_Khamhom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    710
    ค่าพลัง:
    +91
    ขออนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  11. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,687
    ค่าพลัง:
    +5,777
    อนุโมทนาครับ
     
  12. j_samsen

    j_samsen สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +4
    ขออนุโมทนาบุญค่ะ
     
  13. souri

    souri สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  14. kritsada_li

    kritsada_li เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +324
    ขออนุโมทนาสาธุ<!-- google_ad_section_end --> ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,966
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    หลวงปู่สรวง เล่าวินาทีละสังขารของหลวงปู่จาม .... มีเทวดาลอยมาทั่วสารทิศเต็มท้องฟ้าเพื่อรอรับหลวงปู่
    010(24).jpg


    “ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ พระมหาเถระผู้เป็นที่รักยิ่งของหมู่เทพเทวดา ”

    ช่วงประมาณกลางเดือนมกราคม ต้นปี ๒๕๕๖ หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ ท่านได้เมตตาเล่าศิษยานุศิษย์ฟังว่า...ขณะที่ท่านกำลังพักอยู่ภายในกุฏิ เวลาประมาณตี ๔ ตี ๕ ได้มีเทวบุตร เทวธิดา จำนวนมากมายมหาศาล ลอยผ่านมาทางอากาศ เมื่อผ่านมาทางวัดศรีฐานใน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ก็ลงมากราบนมัสการองค์ท่าน แล้วลอยไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือต่อไปทางจังหวัดมุกดาหาร เป็นจำนวนมากเต็มท้องฟ้า มีเทวดาเป็นหมื่นเป็นแสนลอยอยู่เต็มท้องฟ้าเลย
    พอช่วงเช้า เวลาฉันจังหัน หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ จึงได้เล่าเหตุการณ์นี้ให้พระสงฆ์ที่วัดท่านฟัง เรื่องเห็นเทวดาจำนวนมากลอยอยู่บนอากาศ พอเมื่อเวลาสาย ๆ ใกล้ ๆ เที่ยง พระที่วัดจึงมากราบเรียนว่า มีโยมโทรศัพท์มาแจ้งว่า “ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ท่านละสังขารลงเมื่อเวลา ๐๙.๐๙ น. ช่วงเช้าวันนี้เอง(วันเสาร์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๖) ” หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ ท่านจึงว่า... มิน่าถึงได้เห็นเทวดามาจำนวนมากมายมหาศาลลอยมาทั่วทุกทิศทุกทาง ที่แท้ก็เพื่อไปรอรับหลวงปู่จาม (มหาปุญโญ) เรานี่เอง ”

     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,966
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    หลวงตาสรวง_สิริปุญโญ.jpg
    ประวัติขององค์หลวงตาสรวง สิริปุญโญ และวันเวลาละสังขาร

    หลวงตาสรวง สิริปุญโญ ได้ละสังขารแล้วด้วยอาการสงบเมื่อเช้ามืดของวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ ๐๕.๐๐ นาฬิกา
    ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๐ ณ กุฏิภายในวัดศรีฐานใน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร สิริอายุ ๘๖ ปี ๙ เดือน ๑๙ วัน พรรษา ๖๔

    หลวงตาสรวง สิริปุญโญ วัดศรีฐานใน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร องค์ท่านถือกำเนิด ในสกุล “ลุล่วง”
    ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๓ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย ณ บ้านศรีฐาน ต.กระจาย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี
    (ปัจจุบันคือ ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร) มีพี่น้อง ๖ คน โดยมีหลวงตาพวง สุขินทริโย เป็นพระพี่ชาย สมัยที่ท่านยังเป็นเด็ก
    มารดาของท่านมักพาไปทำบุญที่วัดป่าศรีฐานในอยู่เสมอ วัดศรีฐานในนี้หลวงปู่บุญช่วย ธัมมวโร ลูกศิษย์ของหลวงปู่เสาร์
    เป็นผู้มาสร้างขึ้น ปีที่องค์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล พาพระสงฆ์มาวิเวกปักกลดในป่า ภายในวัดป่าศรีฐานในนั้น เป็นช่วงที่หลวงตาสรวง
    ท่านเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ (ตำแหน่งที่หลวงปู่เสาร์ มาปักกลดปัจจุบันอยู่บริเวณกุฏิหลังเก่าของหลวงตาสรวงนั่นเอง)
    ท่านได้ติดตามโยมแม่ มาถวายภัตตาหารหลวงปู่เสาร์ และยังได้มีโอกาสล้างเท้าหลวงปู่เสาร์ ประเคนอาหาร ล้างกระโถนให้ท่าน
    และได้ก้นบาตรไปกินที่โรงเรียนอีกด้วย เมื่อหลวงปู่เสาร์ อำลาบ้านศรฐาน ไปวัดดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    พี่ชายท่านหลวงตาพวง ซึ่งตอนนั้นเรียนจบแล้ว ได้มีโอกาสติดตามหลวงปู่เสาร์ไปด้วยกันกับหลวงปู่สอ สุมังคโล
    ส่วนที่วัดศรีฐานใน ภายหลังหลวงปู่ดี ฉันโน ศิษย์เอกของหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ได้มาเป็นเจ้าอาวาส ทำให้หลวงตาสรวง
    เมื่อครั้นยังเป็นเด็กได้มีโอกาสฟังธรรมจากพระกัมมัฏฐาน และเป็นการปลูกฝังนิสัยในทางพระพุทธศาสนาเพิ่มเติมขึ้นไปอีก

    หลวงตาสรวง ท่านอุปสมบท เมื่ออายุ ๒๓ ปี ตรงกับวันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๖ ณ วัดศรีฐานใน จ.ยโสธร
    โดยมี พระครูพิศาลศีลคุณ(หลวงปู่โฮม วิสาโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่บุญสิงห์ สีหนาโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    หลวงปู่คำสิงห์ อาภาโส เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพุทธศาสนาว่า “สิริปุญโญ”
    แปลว่า “ผู้มีบุญอันประเสริฐ” ภายหลังจากบวชแล้ว ได้ไปศึกษาธรรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์หลาย ๆ รูป
    เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร , หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร , หลวงปู่ชอบ ฐานสโม , หลวงปู่ขาว อนาลโย , หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นต้น

    “..กรรมฐาน ๕ พระอุปัชฌาย์ให้แล้วตั้งแต่วันบวช ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ให้พิจารณา ให้จิตมันเบื่อหน่ายกาย
    มันถึงจะได้ไม่มาเกิดอีก ถ้าไม่เบื่อมันก็มาเกิดอีก ถ้าเกิดอีกก็แสดงว่ายังมีบาปยังมีบุญ…”

    โอวาทธรรมคำสอนหลวงตาสรวง สิริปุญโญ

    ศึกษาธรรมอยู่กับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร
    . . . ช่วงที่อยู่ที่ถ้ำขามนั้น พระอาจารย์สรวงท่านเล่าว่า เสือมันร้องอยู่ตลอด ทำให้จิตไม่ค่อยเป็นสมาธิ เพราะกลัวเสือ
    วันหนึ่งหลังสรงน้ำหลวงปู่ฝั้น เสร็จก็ไปนวดเส้นท่าน หลวงปู่ฝั้น ถามว่า “ท่านภาวนากันยังไง ภาวนาแบบไหนไม่มีพุทโธ
    ระวังพวกช้างพวกเสือจะมาคาบไปกินหล่ะ” พอหลวงปู่ฝั้น พูดเสร็จ ก็ยิ่งทำให้ท่านเกิดความกลัวยิ่งขึ้น หลวงปู่ฝั้น
    จึงบอกว่า “ขยับมานี่ จะบอกคาถาลี้ช้างลี้เสือให้” จากนั้นหลวงปู่ฝั้น ก็มาจับที่มือ ตอนที่เราประนมมือไหว้อยู่ ชี้ลงที่กลางหน้าอก
    และบอกว่า “ให้เอาจิตจี้ลงไปตรงนี้ จี้ลงไปลึก ๆ อย่าให้มันออกไปที่อื่น ให้มันเข้าไปที่โครงกระดูกลึก ๆ โน่น
    ให้ทำทุกวัน อย่าให้มันส่งออกไปที่อื่น”

    จากนั้นจึงได้ทำตามคำสอนของหลวงปู่ฝั้น พอกลับไปที่กุฏิก็ได้ยินเสียงเสือมันร้องอีก ก็เลยกำหนดตามคำสอน
    เอาจิตจดจ่อไปที่กลางอกเข้าไปที่กลางกระดูก พอจิตสงบก็เห็นโครงกระดูกทั้งร่าง ภาวนาต่อไปจนจิตมันสงบ
    มารู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว พระอาจารย์สรวง ท่านเล่าว่า “พอจิตมันเข้าไปอยู่ที่ตรงนั้นแล้วมันมีอำนาจมาก
    ไม่รู้สึกกลัวช้างกลัวเสือเลย มีแต่ความกล้าหาญ หากเราเคยทำกรรมกับมันไว้ก็ขอให้เสือมันกินเลย จะได้หมดเวรหมดกรรม”
    นี่แหละ หลังจากนั้นก็ไม่กลัวช้างกลัวเสืออีกเลย

    ศึกษาธรรมอยู่กับหลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร ที่วัดป่าเขารัง จ.อุดรธานี
    . . . ช่วงที่จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่มหาบุญมี ได้มีโอกาสอุปัฏฐากรับใช้องค์ท่านด้วย ในพรรษานี้พระอาจารย์สรวง
    ท่านได้ถือเนสันชิก คือถืออริยบท ๓ ยืน เดิน และนั่ง ไม่เอนกายนอนตลอดไตรมาส หลวงปู่มหาบุญมี ท่านก็ต้องการทดสอบ
    ว่าจะมีความตั้งใจมากน้อยแค่ไหน วันหนึ่งได้ไปนวดจับเส้นที่เท้าหลวงปู่มหาบุญมี ขณะที่นวด ๆ อยู่ก็รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน
    และไม่รู้สึกตัว หลับฟุบคาขาของท่าน หลวงปู่มหาบุญมี ก็เลยใช้เท้าถีบยันพระอาจารย์สรวง ติดฝาผนังกุฏิ
    พอหลวงตาสรวงรู้สึกตัวก็ค่อย ๆ คลานเข้าไปจับเส้นที่เท้าต่อ พอเริ่มหลับก็โดนถีบอีกนับไปนับมาคืนนั้นโดนยันไป ๓ รอบ

    ต่อจากนั้น หลวงปู่มหาบุญมี ก็ลุกขึ้นไปเดินจงกรม พระอาจารย์สรวง เห็นดังนั้นจึงลุกขึ้นไปเดินจงกรมเช่นกัน
    เมื่ออาจารย์ท่านเนจงกรมไม่หยุด ลูกศิษย์ก็ต้องเดินต่อทั้งง่วง ๆ อย่างนั้นแหละ เดินจนสว่าง หลวงปู่มหาบุญมี
    ท่านก็สะพายบาตรไปที่ศษลา พระอาจารย์สรวง ก็เตรียมหาน้ำไปถวายหลวงปู่ ล้างหน้าบ้วนปาก และทำข้อวัตรตามปกติ
    หลวงปู่มหาบุญมี ได้ถาม พระอาจารย์สรวงว่า “เป็นอย่างไร กิเลสตัวใหญ่มั้ย มันตัวใหญ่ขนาดไหนนะกิเลส”

    พระอาจารย์สรวง ตอบว่า “ไม่ได้มีอะไรครับหลวงปู่ ดีแล้ที่หลวงปู่ตักเตือนให้ ทำให้มีสติขึ้นมาพอสมควรครับ”
    ถ้าเป็นพระรูปอื่นโดนแบบนี้คงหนีหายไปเลย หรือไม่ก็โกรธเคืองครูบาอาจารย์เป็นอย่างมาก แต่สำหรับพระอาจารย์สรวง
    ท่านกลับขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงปู่มหาบุญมี ที่ให้ข้อคิด
    และทำให้ท่านสามารถตั้งฐานตั้งตัวนี้ให้มั่นคงในการประพฤติปฏิบัติต่อไปได้

    ศึกษาธรรมอยู่กับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่วัดป่าอัมพวัน จ.เลย
    . . . คืนหนึ่งท่านได้จับเส้นถวายหลวงปู่ชอบ หลวงปู่จึงถามถึงการทำความเพียรว่า “เอาจิตไว้ที่ไหน”
    จึงกราบเรียนท่านไปว่า “หลวงปู่ฝั้น บอกให้ดูที่อก เอาไว้ในโครงกระดูกข้างใน กระผมจึงดูที่หัวใจตั้งแต่นั้นมา”
    หลวงปู่ชอบพูดว่า “เออดี ให้ทำอยู่ทุกวัน ทุกคืน ทุกลมหายใจเข้าออก ขอให้เร่งเร็ว ๆ ให้เดินหน้า อย่าถอยหลังนะ”
    พอจับเส้นเสร็จก็ออกจากกุฏิท่าน ไปเดินจงกรมต่อ ซึ่งทางจงกรมอยู่ไม่ไกลจากกุฏิหลวงปู่ชอบมากนัก
    สักครู่ได้มองเห็นแสงสว่างเจิดจ้าสว่างไสววยพุ่งสู่ท้องฟ้าทางด้านกุฏิหลวงปู่ชอบอยู่ที่เนินสูงๆ
    อีกสักครู่ได้ยินเสียงชาวบ้านตื่นตระหนกตกใจ พากันวิ่งกรูพร้อมถือถังน้ำ ร้องเรียกไฟไหม้ ๆ กุฏิหลวงปู่ชอบ
    พอไปถึงกุฏิ หลวงปู่ชอบท่านออกจากสมาธิ แล้วบอกลูกหลานชาวบ้านว่า “พากันมาทำไม ไม่เห็นมีไฟไหม้ที่ไหน
    แสงไฟอันนี้ไม่มีพิษภัยกับใคร เป็นแสงศีลแสงธรรมนั่นเอง การที่เกิดเป็นแสงรัศมีโชติช่วง
    ในบริเวณกุฏินั้นเป็นเพราะอานิสงส์จากการภาวนานั่นเอง

    เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ปี พ.ศ.๒๕๕๖ เวลาประมาณตี ๔ ตี ๕ ขณะที่หลวงตาสรวง ท่านกำลังพักอยู่ภายในกุฏิ
    ได้มีเทวบุตร เทวธิดา จำนวนมากมายมหาศาล ลอยผ่านมาทางอากาศ เมื่อผ่านมาทางวัดศรีฐานใน ก็ลงมากราบนมัสการท่าน
    แล้วลอยไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือต่อไปทางจังหวัดมุกดาหาร เป็นจำนวนมากเต็มท้องฟ้า
    มีเทวดาเป็นหมื่นเป็นแสนลอยอยู่เต็มท้องฟ้าเลย

    พอช่วงเช้า เวลาฉันจังหัน หลวงตาสรวง จึงได้เล่าเหตุการณ์นี้ให้พระสงฆ์ที่วัดฟัง เรื่องเห็นเทวดาจำนวนมากลอยอยู่บนอากาศ
    พอเมื่อเวลาสาย ๆ ใกล้ ๆ เที่ยง พระที่วัดจึงมากราบเรียนว่า มีโยมโทรศัพท์มาแจ้งว่า
    “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ท่านละสังขารลงเมื่อเวลา ๐๙.๐๙ น. ช่วงเช้าวันนี้เอง(วันเสาร์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๖)”
    หลวงตาสรวง ท่านจึงพูดว่า
    “มิน่าถึงได้เห็นเทวดามาจำนวนมากมายมหาศาลลอยมาทั่วทุกทิศทุกทาง ที่แท้ก็เพื่อไปรอรับหลวงปู่จาม เรานี่เอง”

    หลวงตาสรวง สิริปุญโญ ได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบ ณ กุฏิภายในวัดศรีฐานใน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร
    ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๐ เมื่อเวลาประมาณ ๐๕.๐๐ นาฬิกา สิริอายุ ๘๖ ปี ๙ เดือน ๑๙ วัน พรรษา ๖๔
    ลูกหลานขอกราบน้อมส่งหลวงตาสรวง สิริปุญฺโญ สู่แดนพระนิพพาน ธรรมอันใดที่ท่านได้รู้ได้เห็นธรรมอันประเสริฐดีแล้ว
    ขอลูกหลานได้รู้ธรรมเห็นธรรมนั้นด้วยเทอญ

    “..ถ้าความเพียรของเรากล้า มันเผาได้หมดทุกอย่าง เผากิเลสได้หมด เผาความโลภ ความโกรธ ความหลง
    ออกจากหัวใจของสัตว์โลก เผาได้หมดทุกอย่าง ในร่างกายของเรานี้อะไรจะมาขวางไม่ได้ จะมาปิดบังไม่ได้..”

    โอวาทธรรมคำสอนหลวงตาสรวง สิริปุญโญ
    :- http://www.kammatan.com/th/2017/03/ajahn-suang-watsrithan/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2023
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,966
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ เทศน์อบรม-ภาวนา 10 พ.ย. 2559

    Gaston Blue
    Published on Nov 17, 2016
     

แชร์หน้านี้

Loading...