ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ใส่บาตรพระบวชใหม่ ๓ ครั้ง...
สำหรับกรณีที่ง่ายสุดแล้ว....

ส่วนการเพิ่มพลังในวัตถุ
หรือเรียกเท่ห์ๆว่าการปลุกเสก
หลักการคือ ขอเชื่อมต้นกระแสพลังงาน
กับวัตถุนั้นๆแล้วตัดซะ
ต่อไปก็จะเข้าถึงต้นกระแสพลังงาน
ด้วยการระลึกเอา จะด้วยวิธีใดๆก็ได้
จริงๆเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ถ้าเข้าถึงต้นพลังงานข้างบนได้ปกติ
จะทำเมื่อไร ที่ไหน เวลาใดก็ได้หมด..
ภายในเวลาไม่กี่วินาทีหรอก...
เพราะท่านไม่เคยปิดเรื่องการเชื่อม..

ซึ่งการเพิ่มพลังงาน ก็มีหลากหลายวิธีการมาก
แล้วแต่สูตรใครสูตรมัน ส่วนมากก็คือการทำพิธี
เชิญท่านโน้นนั่นนี้ ปลุกเสกอย่างเป็นทางการ
แต่แปลกว่า ส่วนใหญ่แบบนี้จะไม่ค่อยได้รับความนิยม

ที่ได้รับความนิยม นอกจากเชื่อมต้นพลังงานหลักแล้ว
มักจะมีการใส่วิชาเฉพาะ ซึ่งจะแปรฝันตามจิตผู้ฝึกวิชานั้นๆ
พวกนี้จะให้ผลได้เร็วกว่า ดังกว่า
มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากกว่าสังเกตุได้

ส่วนเรื่องเชื่อมต้นกระแส
เราเน้นทำบ่อยๆให้มากขึ้น
บ่อยคือทำไม่นาน ครั้งละ ๕ ถึง ๑๐ วินาที
แต่เพิ่มความถี่ให้มากขึ้น....

ปล.สังขาราอนิจจัง สังขารไม่เที่ยง
จะแบกอะไรก็อย่าลืมดูอายุตัวเองด้วย ๕๕๕

 

เกศาหลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน

 

ขุ่นพี่นพเคอะ อิน้องยังละอ่อนอยู่ก๊ะเจ้า อิคิๆๆๆ
พอไปเจอของถูกเจอนั่นเจอนี่มันก็หยิบๆๆๆพอลากตะกร้ามาจ่ายตังค์นั่นแหละ เฮ้ย ใครมันเป็นคนหยิบฟร่ะ มันวิ่งหนีไปหนีไปทางไหน

บวกกับที่นี่ไม่มีร้านสะดวกเสียทรัพย์อย่าง7-11(ใครรู้จักทางซีพีช่วยให้มาเปิดผลาญเงินข้าน้อยที่นี่ทีเถอะ) ต้องเตรียมของกินไปเอง ร้านค้ามีน้อยเปิดปิดเป็นเวลา จะออกข้างนอกไปซื้อทีก็เดินมันไปซิ แต่งองค์ทรงเครื่องอีก(ช้านรักเมืองไทยอีกเป็นกองก็ตอนนี้แหละ) เวลาไปห้างไปตลาดทีต้องเอาให้คุ้ม(วันนั้นไปสองห้างสองตลาดกับอากาศ-17องศา บ้าไปแว้ว) ไอที่แบกนี่ยังไม่พอ ถุงหูหิ้วใบใหญ่อีกหนึ่ง

 

@nopphakan พึ่งสังเกตุเห็นลายเซ็นพี่นบเปลี่ยนไป๋ ได้ทริคเด็ดๆอะไรมาป่าวค่ะ?

"ไม่ใช้กาย ไม่ใช้จิต อันนั้นแหล่ะสภาวะดับ"

หุหุ

 

เอิ่ม เริ่มเป็นอะไรที่ฟังดูยิ่งใหญ่กับประโยคที่ใหญ่ยิ่ง ใช่ทะเลขี้ผึ้งมั้ยเอ่ย

 

อ้อ เมื่อวันก่อนคุณยายแม่ชีแกวูบ แล้วถูงส่งโรงบาล
ตอนนี้หมอแจงโรคมาเพียบ ความดัน เบาหวาน ไตเสื่อม ของเก่ามีอัมพฤกด้วย แต่ตอนี้ที่ต้องระวังคือ น้ำตาลต่ำจนวูบ และไตเสื่อม ล่าสุดที่เจอกันตัวแกนิดเดียว แต่พอดูไลกลุ่มญาติๆล่าสุดรายงานผลสุขภาพ แกตัวบวมจนน่าตกใจ แต่ยังมีอารมณ์ชูไม้ชูมือเหมือนจะเต้นอี๊ก(ยายใครไม่รู้ เป็นไรกลัวที่ไหน)

แต่หมอบอกว่าถือว่าไตและร่างกายก็ใช้ได้สำหรับคนเป็นโรคและสภาพไว(จะให้ฟิตปั๋งเท่า20เป็นไปบ่ได้)แกชอบบ่นว่าอีกไม่กี่ปีกูก็ตายแล้ว แต่พวกเรายังอยากให้แกทะเลาะเอ้ย อยู่เป็นที่รักไปอีก

คำถามคือ กับคนอายุ84-85นี่เรามีวิธีดูแลไต ลดอาการบวมนอกเหนือจากควบคุมอาหารมั้ยค่ะ
ที่อยู่ก็ควบคุมเกลือและอาหารเข้มงวด(จนดูน่าเบื่อไม่น่าอร่อยเลย)

 

ลดอาหารรสจัด ทานน้ำเปล่าให้พอเพียง ทานเห็ดหลินจือบำรุงสุขภาพและไต สาธุค่ะ

 

ว่างๆจะไปช่วยดูให้อีกแรงเน้อ

 

ขอบพระคุณล่วงหน้าคะ

 

ครั้งหนึ่ง...
กาลเวลาเปลี่ยน สิ่งต่างๆย่อมเปลี่ยน ชอบเปลี่ยน รึ ชอบคงเดิมกันนะ ^_^ แล้วแต่ใจคน

 

ป๋านบ หนูเพิ่งทราบข่าวจากเพจพระอาจารย์ดิ่งท่านมรณภาพแล้ว ยังไม่ได้มีโอกาสไปกราบท่านเลย แล้วการรักษาผู้ป่วยที่วัดเค้าจะจัดการต่อไปยังไงน๊อ? เสียใจจังเลย

 

พึ่งทราบข่าวเหมือนกัน ตอนแรกว่าจะไปหาท่านตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่พอโทรไปท่านก็ป่วยแล้ว เลยไม่ได้ไปเลย

 

ก็คงจะยากที่จะมีคนไปทำต่อ...
ส่วนตัวคาดว่า ต่อไปที่สองคอนคงมีท่านอื่นๆมาครอบครอง
คงจะเหลือแต่สัมมา..
ส่วนการรักษา ก็มีหลายท่าน
ที่เริ่มปรากฏมาให้เห็นเรื่อยๆ..
แต่อย่างว่า ช่วยตัวเอง รักษาตัวเองดีที่สุด...
ปล.ว่าแล้วตะงิดๆก่อนหน้าวันพระ ถึงได้มีอะไรแปลกๆ
ตอนนั้นอยู่ไม่ไกลจากวัดท่านแท้ๆ..
มีภาคส่วนบางกลุ่มมาพยายามให้ออกไป.
มายกขา และพยายามยกตัวอยู่นั่นหละ..
เราก็นึกว่าใครมาทำอะไร
ดันนึกไม่ถึงว่าจะเกี่ยวกับ อ.ท่าน
นึกๆย้อนแล้ว หงุดงิดจัง..
เสียดายไม่ได้ลาอย่างเป็นทางการ...
แถมยังไปอารมย์เสียใส่พวกนั้นอีก...
พูดแล้ว..แอบอารมย์ บ่ จอยเล็กน้อย..

 

ถามลูกศิษย์ใกล้ชิดแล้ว พอจ ดิ่งท่านละสังขารตอนเช้าวันอาทิตย์ค่ะพี่ ตรงกับที่พี่เล่าพอดีเลย

 

อ.กิตติ อุปถัมภ์ จะจัดกิจกรรมใช้พลังจิตว่างรักษาโรคและจัดกระดูกฟรี วันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2560 นี้ ณ วัดศรีมาศราษฎร์บำรุง ผัง 2 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ท่านใดสนใจสามารถไปรับการรักษาฟรีได้ค่ะ

 

ป๋านบ ได้ทันเจอหลวงตาอ๋อยตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ไม๊คะ? ติ๋วถามพ่อว่ารู้จักป่าว แกว่าพ่อไม่เคยเห็น แต่ยายหนูรู้จักและได้เคยคุยกะท่านอยู่เพราะขายของในตลาดสดเทศบาล 1 พวกพ่อค้าแม่ค้าจะได้เจอท่านบ่อยสมัยที่ท่านยังเป็นฆราวาสธรรมดา

 

ครั้งหนึ่งตอนมีชีวิต
และอีดครั้งที่ไม่คิดมาก่อนว่าเป็นท่าน
อีกครั้งหนึ่งตอนท่านเสียชีวิตแล้ว

พึ่งเห็นข้อความนี้ พูดเรื่องนี้
ทุกวันนี้ยังนึกเรื่องนี้อยู่
ทันเห็นท่านตอนวันทำพิธีฝั่งลูกนิมิตรแค่ครั้งเดียว
จำได้เพราะมีคนมาจาก กทม คุยอยู่ข้างๆว่า
จะไปวัดป่าธรรมอุทยานต่อ. นี้ก็ครั้งแรก
ที่ได้ยินชื่อวัดนี้เหมือนกัน
นอกจากเหตุการณ์
โดนเจ้ๆพนักงานแบงค์สีม่วง
ลวนลามทางวาจานะ ๕๕๕

ท่านอยู่ในชุดสีแดงอ่อน
อยู่ตรงทิศท่านท้าวเวชสุวรรณ
ตอนนั้นรุ่นน้องที่ไปสำรวจงานดินที่วัดพาไปร่วมงาน
ตั้งแต่ทางเข้าวัดยังลำบากต้องเดินด้วยเท้า
เกือบครึ่งกิโลได้ และต้องขับรถอ้อมไปไกลมาก
เพราะยังไม่มีถนนตัดมาหมู่บ้านเหม่อนทุกวันนี้

คือสายตาตอนนั้นที่เห็นท่านครั้งแรกเห็น
ท่านดูอวบๆเลยนะ หน้าใสกิ๊กและสีผิว
ออกขาวอมชมพูชนิดที่ผู้หญิงเห็นยังอิจฉา
ไม่ใช่แบบในรูปถ่ายที่เห็นทั่วไปนะ
ตอนนั้นนึกแค่ว่าท่าน เป็นผู้ชายใส่ชุดแดงทั้งชุด
ที่ผิวและหน้าตาสวยงามดี
ตอนนั้นมีขันใหญ่วางข้างหน้า
เราก็ทำบุญแต่ไม่รับวัถตุท่าน(ปกติช่วงนั้นไม่ห้อยอะไรเลยไม่รับ)
คือถ้าดูรูปปัจจุบันจะไม่นึกว่าเป็นท่านเลยนะ
ที่สองตาเห็นท่านบุคคลิกท่านอย่างนี้จริงๆ
จำได้เพราะว่าเป็นอะไรที่ติดตามาก
คืองงว่าคืออะไร ทำไมชุดแดง เรียกไม่ถูก

พอมีเหตุที่คล้ายๆฝันเห็นพระองค์สีดำ
อยู่ในทิศทางที่วัดตั้งอยู่ เลยลองขับรถไปเล่นดู
ตอนไปวัดยังไปถามหลวงพ่อที่วัดว่า
หลวงตาอ๋อยอยู่ไหมครับ
หลวงพ่อดูงงๆ และถามกลับว่า
โยมจะมาหาท่านทำไม
เลยบอกว่าจะมาไหว้ครับ
นึกออกไหมสัญญาที่มีในใจมันเป็น
แบบที่เล่าให้ฟังจริงๆ ๕๕๕
หลวงพ่อบอกท่านเสียชีวิตนานแล้ว ๕๕
ฮาเลยหลวงพ่อนึกว่าเป็นมุข
บอกว่าถ้าอยากไหว้โยมก็ไปหาท่านเองเลย ๕๕
แต่ใจลึกๆ คือคิดว่าท่านยังอยู่

หลวงพ่อเลยถามว่า ทำไมถึงได้มาหละโยม
เลยเล่าให้ฟังว่าฝันเห็นพระองค์สีดำ
ในทิศทางที่เห็นมาทางด้านนี้ก็้เลยลอง
ขับรถมาเล่นๆคับ ท่านเลยบอกว่า
ข้างบนมีอยู่องค์หนึ่งโยมเคยเห็นยัง
เลยลองไปดู โห้ๆๆๆองค์เดียวกับในฝันเลย๕๕๕

แถมพระครูปลัดที่ชัยภูมิ
ยังบอกให้ไปฝึกต่อยอดบางอย่าง
ที่วัดด้วยนะ เราก็งงเอ๊ะทำไมอะไร มารู้ทีหลังว่าท่าน
เป็นเกลอกัน ไปมาหาสู่กันบ่อย พึ่งสังเกตเห็น
รูปถ่ายหลวงตาอ๋อยที่กุฏิพระครูปลัดที่ชัยภูมิ ๕๕๕

มันมีเหตุอย่างหนึ่งนะที่น่าจะสัมพันธ์กัน คือช่วงหนึ่ง
น่าจะ ๕ ปีก่อนช่วงนั้นยังนั่งสมาธิอยู่ เที่ยวด้วย
คือคล้ายๆฝันนะ.
ได้เห็นท่านพ่อพยายมแวะมาหาที่บ้านนี่หละ
(คือช่วงนั้นแอบเปรี้ยวเล็กน้อย)
แต่ว่ามาแบบแต่งทรงเครื่องสวยงามนะ
แต่ที่แปลกใจตอนนั้นคือ หน้าตาท่านไม่เหมือน
กับรูปปั้นพยายมที่เคยเห็นมาเมื่อสมัยก่อน
แค่รู้เฉยๆว่าเป็นท่านพ่อพยายม
และพอรู้ว่ามาทำไม ๕๕๕
พอมาฟังเทปหลวงตาม้า
พูดถึงท่านก็เลยเก๊ทเลย๕๕๕
คือถ้าสติมากพอ น่าจะรู้มาตั้ง
หลายปีได้แล้วเรื่องนี้ ๕๕๕

ปล.พระครูปลัดบอกว่า ถ้าท่านยังอยู่
เรื่องรักษาโรค ในประเทศไทยท่านไม่เป็น
สองรองใคร. ส่วนตัวพึ่งมารู้ตอนที่ได้อ่าน
ประวัติท่านที่เจดีย์ภายหลังนี่เอง ๕๕๕
ถ้าเจอก่อนป่านนี้พาพระบิดาไปรักษาเบาหวาน
นานแล้ว ๕๕๕

 

นิโรธมี ๒ แบบนะเท่าที่รู้ตอนนี้
คือแบบข้างบนคือ
ลักษณะสมาธิและจิตนำ
แต่จะเหลือตัววิญญานอยู่ตัวหนึ่งเรียกนิโรธสมาบัติ
แต่พอเข้าสภาวะจะทิ้งกายทิ้งจิตเหมือนกัน
และดับสัญญาต่างไปได้เหมือน
กับนิโรธที่ไม่ใช้จิตไม่ใช้สมาธินำเข้าสภาวะ
เรียกนิโรธเฉยๆหรือเรียกว่าสภาวะดับ
เป็นแบบสูญยตา ซึ่งจะดับ
คือ ทำได้ยากทั้งสองแบบนั่นหละ
เอาแค่ซักสิบวินาทีออกมาก็หอบแล้ว
ไม่ต้องระดับโปรซีรี่ย์ที่ท่านเล่นได้ข้ามวัน
ปล บทความนี้ควรอ่านเฉยๆพอ