ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เฝ้าระวังแผ่นดินไหวภาคเหนือ​

เผยแพร่เมื่อ 2 ม.ค. 2017​

เฝ้าระวังแผ่นดินไหวภาคเหนือ หลังจาก "รอยเลื่อนแม่วาง" ปลดปล่อยพลังงานอย่างต่อเนื่องในช่วงปีใหม่ #ThaiPBS

 

สภาวะการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย กับมหันตภัยของโลก โดย Dr.G.G.Junior
(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

​

สภาวะการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย กับมหันตภัยของโลก

โดยเริ่มจาก จังหวัดเชียงราย มีแผ่นดินยุบบางส่วน โดยเฉพาะ อ.เชียงแสน จะเสียหายจากแผ่นดินยุบ เกือบทั้งอำเภอ

จังหวัดเชียงใหม่ เกิดรอยแยกจากรอยเลื่อนของแผ่นดินใต้จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิด ความเสียหายจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุด ตามแนวรอยเลื่อน แถบเทือกเขา อำเภอแม่สะเรียง ผ่านขึ้นดอยอินทนนท์ และรอยแยกเข้าที่ลุ่มตัวเมืองเชียงใหม่ ออกไปสู่อำเภอแม่ริม ไปเข้าสู่จังหวัดเชียงราย

แถบจังหวัดพิษณุโลก พบภัยจากน้ำเป็นบางส่วน จังหวัดกำแพงเพชรพบภัยจากน้ำเล็กน้อย

จังหวัดตาก ส่วนที่เกี่ยวเนื่องเลียบตามชายแดนพม่า และแม่ฮ่องสอนจะเกิดภัยแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก

จังหวัดกาญจนบุรีเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินแยกยุบตามรอยเลื่อน ที่ทอดยาวไปกับเทือกเขาตะนาวศรี เกิดความร้อนผุดขึ้นบางพื้นที่

จังหวัดสุโขทัยพบภัยจากน้ำมากพอสมควร

ต่ำลงมาตั้งแต่จังหวัดลพบุรี อ่างทอง อยุธยาจะกลายเป็นที่ลุ่มมากขึ้น กรุงเทพมหานคร ปากน้ำ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ถูกน้ำคุกคามทั้งหมด

ส่วนนครปฐม ยังคงอยู่บางส่วน ในที่สูงรอยต่อกับจังหวัดกาญจนบุรีถึงสุพรรณบุรี แต่ต้องระวังที่เก็บน้ำ เช่น ถ้าเขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรีแตก พื้นที่เหล่านี้ก็เกิดภัยจากน้ำได้เช่นกัน

ภาคใต้ทั้งหมดจะกลายเป็นพื้นที่เกาะ ในส่วนที่เป็นเกาะปัจจุบันเช่น ภูเก็ตจะจมหายไปจนเกือบหมด เป็นไข่มุกใต้ท้องทะเล

อีสานเป็นพื้นที่ปลอด จากภัยพิบัติ แต่แห้งแล้งหนัก ในส่วนพื้นดินเป็นดินทรายยิ่งโก่งตัวขึ้นก็ยิ่งแห้งแล้ง ในพื้นที่ดินแดงจะมีน้ำมากขึ้น

ภาคตะวันออกนั้น ในพื้นที่อ่อนนุ่ม จะจมน้ำลงไปก่อน แล้วน้ำจะคืนให้บางส่วนทีหลัง ส่วนพื้นที่อยู่ปลายแหลม ไม่มีเหลือที่ให้มนุษย์ มีแต่สัตว์น้ำที่ครอบครองดินแดนแทน

Dr.G.G.Junior

ที่มา https://www.dek-d.com/board/view/1039004/

 

แผ่นดินไหวหลายระลอกทางตอนกลางของอิตาลีวานนี้คร่าชีวิตแล้ว 1 คน


อามาตริเช 19 ม.ค.- แผ่นดินไหว 4 ครั้งที่เกิดขึ้นใน 4 ชั่วโมงทางตอนกลางของอิตาลีเมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน และปลุกความรู้สึกขวัญผวาของผู้อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวที่เสียหายหนักจากแผ่นดินไหวหลายระลอกเมื่อปีก่อน

ทางการท้องถิ่นเผยว่า พบผู้เสียชีวิตใต้ซากอาคารที่พังถล่มในเมืองกาสเตล กาสตาญา จังหวัดเตราโม ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นักท่องเที่ยว 3 คน จากทั้งหมด 20 คน ที่พักในโรงแรมจังหวัดเปสการาถูกพัดหายไปพร้อมกับหิมะถล่ม การค้นหาและกู้ภัยเผชิญอุปสรรคจากหิมะที่ตกหนัก ทำให้หลายชุมชนถูกตัดขาดและกว่า 130,000 ครัวเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้

แผ่นดินไหวระลอกแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.25 น.วันพุธตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 16.25 น.วันพุธตามเวลาในไทย วัดความรุนแรงได้ระหว่าง 5.1-5.3 จากนั้นอีก 50 นาทีต่อมาเกิดแผ่นดินไหวระลอกสองขนาด 5.4-5.7 ตามด้วยแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ในอีกไม่กี่นาที และแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวขนาดใหญ่กว่าร้อยครั้ง หนึ่งในนั้นวัดความรุนแรงได้ 5.1 เมื่อเวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 20.30 น.ตามเวลาในไทย แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในหลายแคว้น รวมถึงกรุงโรมที่อยู่ห่างออกไปกว่าร้อยกิโลเมตร ศูนย์กลางแผ่นดินไหวทั้งหมดอยู่ใกล้เมืองอามาตริเชที่เสียหายหนักจากแผ่นดินไหวเดือนสิงหาคมปีก่อน ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตร่วม 300 คน.- สำนักข่าวไทย

คาดแผ่นดินไหวอิตาลี ทำหิมะถล่มทับคนในโรงแรมตายถึง 30 คน


โรม 19 ม.ค.- ทางการอิตาลีแจ้งว่า แผ่นดินไหวทางตอนกลางประเทศเมื่อวานนี้ทำให้เกิดหิมะถล่มทับโรงแรมเชิงเขาที่มีแขกและพนักงานในเวลานั้นราว 30 คน คาดว่าทั้งหมดอาจเสียชีวิต

สำนักงานป้องกันพลเรือนอิตาลียืนยันว่า โรงแรมที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฝั่งตะวันออกของภูเขาแกนแซสโซถูกหิมะหนา 2 เมตรกลบมิด เจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาทางส่งรถพยาบาลและอุปกรณ์ไปช่วยเหลือ ขณะเกิดเหตุมีแขกและพนักงานอยู่ในโรงแรมราว 30 คน หิมะถล่มเพราะแผ่นดินไหวระลอกแรกจากทั้งหมด 4 ระลอกที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ตำรวจพิเศษที่ไปถึงที่เกิดเหตุแล้วไม่พบสัญญาณผู้รอดชีวิตภายในโรงแรม ขณะที่ตัวโรงแรมถูกหิมะดันจนเลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมถึง 10 เมตร

ก่อนหน้านี้ทางการอิตลียืนยันว่า พบผู้เสียชีวิต 1 คนใต้ซากอาคารที่พังถล่มในเมืองกาสเตล กาสตาญา จังหวัดเตราโม แผ่นดินไหวระลอกแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.25 น.วันพุธตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 16.25 น.วันพุธตามเวลาในไทย วัดความรุนแรงได้ระหว่าง 5.1-5.3 จากนั้นอีก 50 นาทีต่อมาเกิดแผ่นดินไหวระลอกสองขนาด 5.4-5.7 ตามด้วยแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ในอีกไม่กี่นาที และแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวขนาดใหญ่กว่าร้อยครั้ง หนึ่งในนั้นวัดความรุนแรงได้ 5.1 เมื่อเวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 20.30 น.ตามเวลาในไทย แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในหลายแคว้น รวมถึงกรุงโรมที่อยู่ห่างออกไปกว่าร้อยกิโลเมตร ศูนย์กลางแผ่นดินไหวทั้งหมดอยู่ใกล้เมืองอามาตริเชที่เสียหายหนักจากแผ่นดินไหวเดือนสิงหาคมปีก่อน ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตร่วม 300 คน.- สำนักข่าวไทย

ปธน.จีนเรียกร้องทั่วโลกปลดอาวุธนิวเคลียร์


เจนีวา 19 ม.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมือกันช่วยทำให้โลกปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ตรงข้ามกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ประกาศพัฒนาแสนยานุภาพอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ

ประธานาธิบดีสีกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการเดินทางเยือนสำนักงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์วานนี้ว่า อาวุธนิวเคลียร์เปรียบเหมือนอาวุธที่พร้อมจะสร้างภัยคุกคามให้กับมนุษยชาติ ดังนั้นโลกควรจะปราศจากอาวุธอันตรายเช่นนี้ รวมทั้งจีนขอเสนอให้ช่วยกันสร้างโลกให้เป็นชุมชนสำหรับการแบ่งปันอนาคต โดยทำให้เป็นสถานที่ที่ทุกฝ่ายจะได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ประธานาธิบดีสีเรียกร้องให้ทุกประเทศคัดค้านลัทธิการอยู่โดดเดี่ยว และให้หันหน้ามาร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม การก่อการร้าย หรืออาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งล้วนเป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับนโยบายของนายทรัมป์ ที่เอาประโยชน์ของสหรัฐเป็นที่ตั้ง

ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นกล่าวว่า การให้คำมั่นสัญญาของจีนในครั้งนี้มีความสำคัญกว่าครั้งที่ผ่านๆมา เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกต่างมีความซับซ้อนปนเปกัน จนนำไปสู่ความไม่มีเสถียรภาพ ความไม่สงบ และปัญหาต่างๆ โดยหนทางเดียวที่จะรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกเหล่านี้ได้คือ การร่วมมือกันในระดับพหุภาคี.-สำนักข่าวไทย

เผยไอเอสสังหาร 12 คน ทั้งครูและทหารในซีเรีย


เบรุต 19 ม.ค.- กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียรายงานวันนี้ว่า กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ใช้วิธีการประหารอย่างน้อย 12 คนในเมืองพัลไมราเมืองเก่าของซีเรีย หลังจากยึดเมืองกลับมาได้อีกเป็นครั้งที่สองเมื่อเดือนธันวาคม

กลุ่มสังเกตการณ์เผยว่า กลุ่มไอเอสตัดคอ 4 คน ซึ่งเป็นพนักงานของรัฐและครูที่หน้าพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง ส่วนอีก 8 คน ซึ่งประกอบด้วยทหาร 4 คน และนักรบ 4 คน ที่ถูกรวบตัวมาได้จากที่ต่างๆในซีเรีย ถูกยิงสังหาร รายงานพบว่ามีการสังหารที่โรงละครโรมันในเมืองพัลไมรา ซึ่งกลุ่มไอเอสใช้วิธีสังหารนักรบของรัฐบาลไปอย่างน้อย 25 คน กลุ่มไอเอสเข้ายึดเมืองพัลไมราเป็นครั้งที่สองจากกองกำลังรัฐบาลเมื่อธันวาคม หลังจากที่กองกำลังรัฐบาลซีเรียและกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากปฏิบัติการทางอากาศของรัสเซียเข้ายึดเมืองคืนจากไอเอสเมื่อเดือนมีนาคม หลังเคยถูกยึดไปก่อนเมื่อ 2558 .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ มาเลเซียเรียกร้องเมียนมาร์หยุดเข่นฆ่าชาวโรฮิงญา


กัวลาลัมเปอร์ 19 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซียเรียกร้องเมียนมาร์ให้ยุติการเลือกปฏิบัติและก่อความรุนแรงต่อชาวมุสลิมโรฮิงญาทุกรูปแบบ รวมถึงขอให้ประเทศมุสลิมทั่วโลกแสดงท่าทีมีส่วนร่วม เพื่อยุติโศกนาฏกรรมด้านมนุษยธรรมในครั้งนี้

ผู้นำมาเลเซียกล่าวต่อที่ประชุมองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า ขอเรียกร้องให้ยุติการเข่นฆ่าและการกระทำรุนแรงต่อเด็ก ผู้หญิง และชาวมุสลิม โดยรัฐบาลเมียนมาร์จะต้องแสดงท่าทีและหยุดการกระทำที่เป็นการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ รวมถึงยุติการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาโดยทันที และนำตัวผู้ร้ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้บรรดาประเทศมุสลิมซึ่งเป็นสมาชิกของโอไอซี ไม่ควรที่จะนิ่งเฉยกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือชาวโรฮิงญาในเมียนมาร์ให้รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมด้านมนุษยธรรมในครั้งนี้

เหตุเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกวาดล้างในรัฐยะไข่ของเมียนมาร์ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 86 คน และอีกประมาณ 66,000 คน ลี้ภัยไปยังบังกลาเทศ นอกจากนี้ บรรดาผู้ลี้ภัย ชาวบ้าน และกลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชนกล่าวหากองทัพว่า ใช้กำลังกดขี่ข่มเหงชาวบ้าน รวมถึงข่มขืนหญิงสาวชาวโรฮิงญา และเผาทำลายบ้านเรือน แต่รัฐบาลนำโดยนางออง ซาน ซู จี ผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว และว่า รายงานหลายฉบับเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น อีกทั้งยังเน้นย้ำว่า ปัญหาในรัฐยะไข่เป็นเรื่องภายในประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจเวียดนามตะลุมบอนกับผู้ประท้วงจีน


ฮานอย 19 ม.ค.- ตำรวจเวียดนามตะลุมบอนกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ชุมนุมประท้วงเหตุการณ์จีนรุกรานหมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้เมื่อปี 2517

นักเคลื่อนไหวราว 100 คนชุมนุมใจกลางกรุงฮานอยเนื่องในวาระครบ 43 ปีที่จีนยึดหมู่เกาะพาราเซล เป็นดินแดนที่ทั้งสองประเทศอ้างกรรมสิทธิและเป็นประเด็นพิพาททางการทูตจนถึงขณะนี้ กลุ่มนักเคลื่อนไหวตะโกนขับไล่ผู้รุกรานและถือป้ายต่อต้านศัตรูเก่าแก่ใกล้ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมหรือทะเลสาบคืนดาบ แต่ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบบุกเข้าไปยึดป้ายและกวาดจับผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งขึ้นรถโดยสารที่จอดอยู่ทันที ขณะที่ผู้สื่อข่าวถูกสั่งให้ออกจากที่ชุมนุมและหยุดบันทึกภาพ

จีนเข้ายึดหมู่เกาะพาราเซลตั้งแต่บุกเข้าไปหลังจากทหารเวียดนามที่มีสหรัฐสนับสนุนในขณะนั้นถอนกำลังออกไปในปี 2517 การรุกรานดังกล่าวทำให้ทหารเวียดนามเสียชีวิตอย่างน้อย 70 นาย กลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ทางการใช้ความเด็ดขาดกับจีนเพื่อนำหมู่เกาะหวงซาซึ่งเป็นชื่อที่เวียดนามใช้เรียกหมู่เกาะพาราเซลและหมู่เกาะจางซาซึ่งเป็นชื่อที่เวียดนามใช้เรียกหมู่เกาะสแปรตลีย์ กลับมาเป็นของเวียดนาม ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2557 จีนได้ย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปในน่านน้ำพิพาท ทำให้ชาวเวียดนามประท้วงด้วยความรุนแรงถึงขั้นที่มีผู้เสียชีวิต.- สำนักข่าวไทย

ปี 2559 โลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์


แมริแลนด์ 19 ม.ค.- สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (โนอา) เปิดเผยว่า ปี 2559 ที่ผ่านมา เป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเดินหน้าทำสถิติสูงสุดเป็นที่สามติดต่อกัน

โนอาเผยว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวดินและผิวน้ำทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 58.69 องศาฟาเรนไฮต์ หรือราว 14.82 องศาเซลเซียส สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บบันทึกข้อมูลในปี พ.ศ.2423 สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของศตวรรษที่ 20 อยู่ 1.69 องศาฟาเรนไฮต์ และสูงกว่าสถิติปี 2558 อยู่ 0.07 องศาฟาเรนไฮต์ นอกจากนี้ แม้ว่าช่วงครึ่งหลังของปีมีอากาศเย็นเพราะอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานีญา แต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นเดือนธันวาคมที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับสามนับตั้งแต่เก็บสถิติมา ทั้งนี้ นับตั้งแต่โลกเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 อุณหภูมิโลกประจำปีลบสถิติมาแล้วทั้งหมด 5 ปีคือ 2548, 2553, 2557, 2558 และ 2559

เว็บไซต์ของ NOAA ระบุด้วยว่า ปีที่แล้วเป็นปีที่อากาศในอเมริกาเหนือร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา อเมริกาใต้และแอฟริการ้อนเป็นอันดับสองเท่าที่เคยมีมา เอเชียและยุโรปร้อนเป็นอันดับสามเท่าที่เคยมีมา ออสเตรเลียร้อนเป็นอันดับห้าเท่าที่เคยมีมา ขณะที่ขนาดน้ำแข็งในทะเลอาร์ติกเฉลี่ยอยู่ที่ 10.1528 ล้านตารางกิโลเมตร น้อยที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บบันทึกข้อมูลในปี 2522 ส่วนขนาดน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกเฉลี่ยอยู่ที่ 11.1628 ล้านตารางกิโลเมตร น้อยที่สุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่เริ่มเก็บบันทึกข้อมูลในปี 2522.-สำนักข่าวไทย

เกิดอุบัติเหตุรถนักเรียนในอินเดีย เสียชีวิต 15 คน


นิวเดลี 19 ธ.ค. – ตำรวจอินเดียรายงานว่า เด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน และอีกหลายสิบคน ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนชนรถบรรทุกทางภาคเหนือในวันนี้

ผู้บัญชาการตำรวจรัฐอุตตรประเทศซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุกล่าวว่า คนขับรถบัสเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และคาดว่าเด็กนักเรียนกว่า 15 คน เสียชีวิตด้วย ขณะที่ยังคงมีปฏิบัติการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ตำรวจท้องที่ยืนยันทางทวิตเตอร์ว่า เด็กเสียชีวิต 15 คน และตัวเลขอาจสูงถึง 20 คน ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งตามปกติในฤดูหนาวช่วงเช้าทางภาคเหนือของอินเดียมักมีหมอกทึบปกคลุมอยู่ ข้อมูลกระทรวงคมนาคมอินเดียระบุว่า อุบัติเหตุจราจรในอินเดียทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 150,000 คน ในแต่ละปี หรือเทียบเท่ากับวันละราว 400 คน .- สำนักข่าวไทย

สหรัฐผลิตเหรียญที่ระลึกทรัมป์แจกผู้ร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง


กรีนเบย์ 19 ม.ค. – สหรัฐจัดทำเหรียญที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ เพื่อมอบให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตนในวันพรุ่งนี้

รายงานระบุว่า ด้านหน้าของเหรียญที่ระลึกเป็นรูปนายทรัมป์ ซึ่งเขาเป็นผู้เลือกรูปภาพเอง ขณะที่ด้านหลังเป็นรูปตราประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมระบุวันเข้ารับตำแหน่ง ด้านเจ้าของบริษัท เมดัลคราฟท์ มินท์ ผู้ผลิตเหรียญที่ระลึก ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองกรีนเบย์ ในรัฐวิสคอนซิน กล่าวว่า พนักงานบริษัทของเขารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ บริษัทนี้เคยเป็นผู้ผลิตเหรียญที่ระลึกในสมัยนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช และนายบารัค โอบามา เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธตอนทรัมป์รับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ


โซล 19 ม.ค. – สื่อเกาหลีใต้รายงานอ้างแหล่งข่าวทางทหาร ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบยิงต้นแบบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ในวันเดียวกับที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ เผยวานนี้ว่า ตรวจสอบพบการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนขีปนาวุธในเกาหลีเหนือ ซึ่งเชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนท่อนล่างของขีปนาวุปข้ามทวีปรุ่นใหม่ เพราะรูปร่างและความยาวมีความแตกต่างจากขีปนาวุธพิสัยกลางมูซูดันแบบปกติ ทำให้มีความกังวลว่า เกาหลีเหนืออาจกำลังเตรียมที่จะทดสอบอาวุธในอนาคตอันใกล้ โฆษกคณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ แถลงว่า ขณะที่การรายงานข่าวดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันความถูกต้อง ทางกองทัพจะยังคงเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ

นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ว่า เกาหลีเหนือเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปในอนาคตอันใกล้ ขณะที่สื่อทางการรายงานว่า การทดสอบอาจเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ โดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องโครงการพัฒนาขีปนาวุธในเกาหลีเหนือเชื่อว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าวมีมูลน่าเชื่อถือ.-สำนักข่าวไทย

ผู้อพยพเร่งลอบเข้าสหรัฐก่อนทรัมป์สร้างกำแพงด้านเม็กซิโก


เม็กซิโกซิตี 19 ม.ค.- ผู้อพยพที่ต้องการลอบเข้าสหรัฐจากฝั่งเม็กซิโกเร่งหาทางผ่านแดนแม้ต้องเผชิญกับโดรนตรวจตราทางอากาศอย่างเข้มงวด งูพิษตามพื้นทราย และแก๊งค้ามนุษย์ ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะสร้างกำแพงหลังขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในวันศุกร์นี้

ชาวฮอนดูรัสกลุ่มหนึ่งเดินทางออกจากบ้านเกิดตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสมาถึงเมืองกาบอร์กา ชายแดนเม็กซิโกหวังลอบเข้าสหรัฐก่อนทรัมป์รับตำแหน่ง ทางการรัฐทางเหนือของเม็กซิโกเผยว่า จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้เดือนละหลายพันถึงหลายหมื่นคน ขอให้รัฐบาลกลางส่งทรัพยากรมาเพิ่มเติมเพื่อรับมือคลื่นผู้ลอบเข้าเมือง เจ้าหน้าที่คณะทำงานเฉพาะกิจเม็กซิโกเผยว่า ผู้ลอบเข้าเมืองใช้กลเม็ดทุกอย่างเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม มีทั้งทาสีขวดน้ำดื่มเป็นสีดำไม่ให้สะท้อนแสง สวมเสื้อคลุมและผ้าปิดหน้าลายพราง สวมรองเท้าแตะพื้นบางไม่ให้ทิ้งรอยเท้าไว้บนพื้นทราย บางคนถึงกับทำพื้นรองเท้าดูเหมือนกีบเท้าวัว ตระเตรียมยาแก้ปวดแก้ไข้และพิษงู

ผู้อพยพแต่ละคนจ่ายเงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35,392 บาท) ให้แก๊งค้ามนุษย์พามาจากบ้านเกิด และเมื่อมาถึงชายแดนเม็กซิโกจะต้องจ่ายอีก 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 177,000 บาท) เพื่อข้ามไปสหรัฐ หากไม่มีเงินต้องยอมขนกัญชาหนัก 50 กิโลกรัมเพื่อให้ได้ข้ามพรมแดน.-สำนักข่าวไทย

กลุ่มต่อต้านทรัมป์ในกรุงวอชิงตันเคลื่อนไหว


วอชิงตัน ดี.ซี. 19 ม.ค. – กลุ่มผู้ประท้วงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เดินขบวนต่อต้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐ โดยกล่าวหานายทรัมป์ว่าเป็นพวกเผด็จการฟาสซิสต์และเป็นพวกละเมิดกฎหมาย

กลุ่มต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์เดินขบวนประท้วงจากแมคเฟอร์สัน สแควร์ ไปยังอาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา หรือยูเอสแคพปิตอล มุ่งหวังที่จะหยุดนายทรัมป์และนายไมค์ เพนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งและเดินเข้าสู่ทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มดิสรัพท์เจ 20 ที่เตรียมจะเคลื่อนไหวปิดกั้นถนนเข้าสู่บริเวณสถานที่จัดพิธีสาบานตน ด้านตำรวจจะส่งเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบหลายพันนายลงพื้นที่เพื่อดูแลและควบคุมสถานการณ์ โดยคาดว่าพิธีสาบานตนในครั้งนี้จะมีผู้เดินทางมาเข้าร่วมชมบริเวณทำเนียบขาวและอาคารรัฐสภาราว 900,000 คน.-สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

สงขลาฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากท่วมหมู่บ้าน-โรงเรียน


สงขลาฝนตกหนักสะสม น้ำป่าจากเทือกเขาแก้วไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน โรงเรียนต้องปล่อยเด็กกลับก่อนกำหนด - สถานการณ์น่าเป็นห่วง

ที่ จ.สงขลา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นระยะ ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาแก้ว ซึ่งมีสีเหลืองขุ่น เริ่มไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 5 บ้านโฮ๊ะ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ ได้รับผลกระทบหนักที่สุดถูกน้ำป่าเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 ครัวเรือน รวมทั้งเส้นทางในหมู่บ้านหลายซอยถูกน้ำท่วมสูงบ้านเรือนหลายหลังเริ่มถูกตัดขาด และพื้นที่การเกษตรทั้งสวนยางและสวนผลไม้ก็ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ โรงเรียนบ้านหินผุดซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านจำเป็นต้องปล่อยนักเรียนกลับบ้านก่อนกำหนดตั้งแต่ช่วงบ่าย เพราะปริมาณน้ำป่าที่ไหลลงมาเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัย

และนอกจากพื้นที่หมู่ 5 บ้านโฮ๊ะ แล้ว มวลน้ำป่าซึ่งค่อนข้างเชี่ยว ยังไหลต่อลงไปยังหมู่ 2 หมู่ 1 และหมู่ 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน ทางฝ่ายปกครองต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณทางน้ำป่าไหลผ่านเตรียมพร้อมรับสถานการณ์และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

พัทลุงน้ำยังท่วม 5 อำเภอ ริมทะเลสาบ-จับตาฝน


น้ำยังท่วม 5 อำเภอ ริมทะเลสาบสงขลา ใน จ.พัทลุง ล่าสุดมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง จับตาฝนระลอกใหม่ห่วงดินสไลด์, หินถล่ม - ท่วมขังเพิ่ม

นายศิลป์ชัย รามณีย์ ปลัดจังหวัดพัทลุง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พัทลุง เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้คงเหลือพื้นที่ชุมชนริมทะเลสาบสงขลา 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองพัทลุง, ควนขนุน, เขาชัยสน, ปากพะยูน และ บางแก้ว ที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ วัดระดับสูงสุดประมาณ 20 - 30 เซนติเมตร สำหรับสาเหตุที่ทำให้การระบายเป็นไปได้ช้านั้น มาจากปัจจัยทะเลหนุนสูง คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมในปริมาณมาก ภายใน 1 สัปดาห์จากนี้ไป ระดับน้ำน่าจะลดลงจนแห้งสนิท

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันจะมีฝนระลอกใหม่ตกลงมาบ้างแล้ว แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่าส่งผลกระทบกับพื้นที่ใดในจังหวัดมากนัก ซึ่งจากการประเมินข้อมูลคาดว่า ช่วง 1 - 2 วัน (20 - 21 ม.ค. 60) จะเกิดฝนตกหนักมาก ทำให้ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ล่าสุด นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือ โดยมีจุดเสี่ยงคือเขตอำเภอติดภูเขา ประกอบด้วย อ.กงหรา, ศรีนครินทร์ และ ศรีบรรพต เนื่องจากอาจจะเกิดดินโคลนสไลด์, หินถล่ม รวมถึงอำเภอติดริมทะเลสาบสงขลา ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่อีกด้วย

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

สตูลเฝ้าระวังภัยธรรมชาติหลังเกิดฝนตกต่อเนื่อง


จังหวัดสตูล เฝ้าระวังภัยธรรมชาติ หลังเกิดฝนตกต่อเนื่อง ขณะหลายหน่วยงานยังเปิดรับบริจาคช่วยผู้ประสบภัยในพื้นที่ใกล้เคียง

นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการ จ.สตูล แต่งตั้งหัวหน้าส่วนราชการ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ กรณีอาจจะเกิดภัยพิบัติ วาตภัย อุทกภัย แผ่นดินยุบ แผ่นดินสไลด์ เกิดเหตุร้ายทางธรรมชาติ ที่อาจจะเกิดความเสียหายทรัพย์สิน และชีวิตของประชาชน ในพื้นที่ จ.สตูล ขณะนี้ จ.สตูล เกิดฝนตกหนักทั้งวัน ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก ซึ่งหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ก็ยังเปิดรับของบริจาคเข้าช่วยเหลือในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.ตรัง จ.สงขลา ส่วนสถานศึกษาในสังกัดที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ จ.สตูล ได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ล่าสุด สถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่การประถมศึกษา จ.สตูล ได้ทยอยร่วมบริจาคช่วยเหลือประชาชนใน จ.นราธิวาส

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

ลำปางหนาวระลอกสุดท้าย พบมีทะเลหมอกหนาเกิดขึ้น


ลำปางหนาวระลอกสุดท้าย พบมีทะเลหมอกหนาเกิดขึ้น รถยนต์ต้องเปิดไฟหน้า

เช้านี้ถนนหลายสายที่ตัวเมืองลำปางยังคงมีหมอกลงจัด โดยเฉพาะถนนสายลำปาง - งาว บริเวณสะพานลอยข้ามทางรถไฟ หน้าบริเวณลานอเนกประสงค์ตลาดเทศบาล 7 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ทำให้รถยนต์ต่าง ๆ ต้องเปิดไฟหน้า เพื่อเพิ่มการมองเห็น ส่วนช่วง เช้าวันนี้ที่สถานีตรวจวัดสภาพอากาศการเกษตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้รายงานอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณพื้นราบที่ อ.ห้างฉัตร หนาวเย็นต่ำสุดใน จ.ลำปาง วัดได้ 19 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว หลังฝนหยุดตก

ทั้งนี้ สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง คาดว่า ช่วงนี้จะเป็นช่วงปลายฤดูหนาวแล้ว โดยจะพบอากาศหนาวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่อุณหภูมิจะเริ่มอุ่นขึ้นในช่วงต้นเดือนหน้า โดยทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการคาดหมายลักษณะอาการช่วงฤดูหนาวของภาคเหนือว่า ฤดูหนาวจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2560

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

เชียงใหม่ลงพื้นที่ให้ความรู้ชาวบ้านรับมือแผ่นดินไหว


ปภ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ให้ความรู้ ผู้นำชุมชน ใน อ.จอมทอง เพื่อซักซ้อมความพร้อมรับมือเหตุแผ่นดินไหวหลังเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอจอมทอง ปภ.เชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ สำนักทรัพยากรธรณีเขต 1 ลำปาง ซึ่งดูแลภาคเหนือตอนบน ได้จัดประชุมทำความเข้าใจและให้ความรู้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จากเหตุแผ่นดินไหวและอาคารถล่มให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน และเกี่ยวข้องของอำเภอจอมทอง

เพื่อจะได้ให้ความรู้เผยแพร่แก่ชุมชนต่อไป เนื่องจากมีเหตุแผ่นดินไหวขนาดเล็กเกิดขึ้นทุกวันในระยะนี้ ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตกใจ ซึ่งตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา มีเหตุแผ่นดินไหวขนาดเล็ก แรงสั่นสะเทือนขนาด 1 - 2 ในพื้นที่ อ.จอมทอง และแม่วาง ที่เป็นรอยเลื่อนผ่านบริเวณดังกล่าวกว่า 50 ครั้งแล้ว เฉพาะ อ.จอมทอง มีเหตุมากถึง 35 ครั้ง จากทั้งหมดกว่า 80 ครั้ง ใน 8 อำเภอ ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมนี้

ในขณะที่ปี 2559 ที่ผ่านมามีเหตุเพียง 39 ครั้ง ใน 11 อำเภอ โดยในวันที่ 27 ม.ค. 60 ก็จะทำการฝึกซ้อมแผนใน อ.แม่วาง ต่อไป ก่อนทำการซ้อมแผนใหญ่ร่วมกันในเดือนกุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ จะมีกลุ่มรอยเลื่อนผ่าน 2 กลุ่มคือ กลุ่มรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน ที่จะผ่านในพื้นที่แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และ ตาก และกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ที่ผ่านเชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย จากภาพรวมที่มี 14 รอยเลื่อนของภาคเหนือ ทั้งนี้ ทำให้เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงภัยหากมีเหตุรุนแรงขึ้น จึงต้องสร้างความเข้าใจและความพร้อมแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เรียนรู้ในการรับมือกับภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้นี้

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

ปภ.เตือน 9 จังหวัดใต้ รับมือฝนตกหนัก-เฝ้าระวังดินถล่ม


ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ 7 จังหวัด ประสานจังหวัดเร่งฟื้นฟูพื้นที่เสียหาย พร้อมเตือน 9 จังหวัดภาคใต้รับมือฝนตกหนัก-เฝ้าระวังดินถล่ม

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 122 อำเภอ 755 ตำบล 5,812 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 549,333 ครัวเรือน 1,681,195 คน ผู้เสียชีวิต 45 ราย สถานที่ราชการเสียหาย 24 แห่ง ถนน 2,267 จุด คอสะพาน 207 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง นราธิวาส ปัตตานี และกระบี่ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง สงขลา และชุมพร รวม 37 อำเภอ 174 ตำบล 1,140 หมู่บ้าน

โดยภาพรวมสถานการณ์ในปัจจุบันระดับน้ำลดลงทุกจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์ สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิตและทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2560 ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง ฝนตกหนักและหนักมากบางแห่งในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 9 จังหวัด เสี่ยงภัยและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

น้ำยังท่วมที่ลุ่มติดริมแม่น้ำตรังต่อเนื่อง โรงเรียนปิดสอน


น้ำยังท่วม ที่ลุ่มติดริมแม่น้ำตรังต่อเนื่อง โรงเรียนได้รับผลกระทบต้องปิดการเรียนการสอน

สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ตรัง เริ่มคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มติดแม่น้ำตรัง เขต ต.หนองตรุด อ.เมือง โดยน้ำยังท่วมขังโรงเรียนบ้านคลองขุด หมู่ 2 ทำให้ต้องปิดการเรียนการสอน ไปเรียนร่วมกับโรงเรียนวัดไพรสณฑ์ ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ด้วยสาเหตุที่น้ำท่วมบ่อยและมีนักเรียนจำนวนน้อย

ส่วนที่พนังกั้นแม่น้ำตรัง หมู่ 2 ต.หนองตรุด ขณะนี้ระดับน้ำลดลงไปมาก แต่น้ำจากแม่น้ำตรังยังไหลเข้าท่วมพื้นที่ สำหรับ ต.หนองตรุด มีพื้นที่ติดแม่น้ำตรัง หมู่ 1, 2, 4, 5, 6, 7 และ 8 จึงเกิดน้ำท่วมหนักกว่าพื้นที่อื่น ๆ

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

ฝนใหม่เติมน้ำสะสมลุ่มปากพนังเมืองคอน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร


ฝนระลอกใหม่เติมมวลน้ำสะสมลุ่มปากพนังเมืองคอน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร เชื่อไม่กระทบภาพรวมอุทกภัย เร่งระบายต่อเนื่อง

นายเทอดศักดิ์ ลักษณะหุต หัวหน้าฝ่ายวิชาการศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า หลังเกิดฝนตกระลอกใหม่ในช่วง 16 - 19 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่ามวลน้ำฝนดังกล่าวได้เข้ามาเติมบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังอยู่ ในบริเวณอำเภอท้ายน้ำ เช่น อ.เชียรใหญ่, ปากพนัง สูงขึ้นจากเดิม 5 เซนติเมตร และส่งผลต่อระยะเวลาการระบายออกสู่อ่าวไทย ล่าช้ากว่าปกติที่ 1 สัปดาห์ เพิ่มอีก 1 วัน แต่คาดว่าจะไม่กระทบกับภาพรวมมากนัก เนื่องจากหลายหน่วยงานได้สนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำเข้ามาติดตั้งเพื่อช่วยเร่งพร่องน้ำออกสู่ทะเล ทำให้มวลน้ำก้อนดังกล่าวสามารถระบายได้รวดเร็วและคล่องตัว ทั้งนี้พบว่าปัจจุบันภายใน จ.นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ทั้งหมด 5 อำเภอ คือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช, เฉลิมพระเกียรติ, หัวไทร, เชียรใหญ่ และ ปากพนัง วัดระดับน้ำเฉลี่ย 20 - 30 เซนติเมตร เบื้องต้นประเมินว่าภายใน 1 สัปดาห์จากนี้ทุกจุดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีพื้นที่ใดประสบปัญหาอยู่ในภาวะวิกฤติ แต่ทางจังหวัดก็ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองนครนครศรีธรรมราช, เทศบาลเมืองทุ่งสง, เทศบาลตำบลชะอวด และ ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เนื่องจากเป็นจุดเปราะบาง นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับบริเวณที่มีน้ำท่วมขังมานานหลายวัน เพราะ คุณภาพของน้ำจะเริ่มเน่าเสียจนส่งผลกระทบกับสุขอนามัยของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างเร่งสูบออกโดยเร็วที่สุด

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

อุตุฯเตือนฉบับที่ 17 ใต้ฝนตกหนัก-อ่าวไทยคลื่นสูง


กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 17 แจ้งเตือนฝนตกบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว และจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.60) ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 19 - 21 มกราคม 2560 ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนในช่วงวันที่ 22 - 25 มกราคม 2560 ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กงดออกจากฝั่งในวันที่ 19 - 25 มกราคม 2560

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

เกาะติดสถานการณ์ฝนในพื้นที่ภาคใต้ | 19-01-60 | ชัดข่าวเที่ยง​

เผยแพร่เมื่อ 18 ม.ค. 2017​

วันนี้เรายังคงต้องเกาะติดสถานการณ์ฝนในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพราะหลายจุดยังมีฝนตกลงมา ซึ่งฝนเหล่านี้จะตกถึงเมื่อไหร่ จุดไหนจะยังต้องเฝ้าระวังภัยธรรมชาติที่เกิดจากฝนตกหนักอยู่ไหม วันนี้ไปติดตามกับคุณคุปตนันต์ พิสิฐมหันต์

 

​

 

เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 6.8 บริเวณนอกชายฝั่งประเทศหมู่เกาะโซโลมอน


ซิดนีย์ 20 ม.ค. – สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ (ยูเอสจีเอ) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 6.8 บริเวณนอกชายฝั่งประเทศหมู่เกาะโซโลมอน ที่อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ในวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

ยูเอสจีเอ ระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.04 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 06.04 น. เช้าวันนี้ (20 ม.ค.) ตามเวลาในประเทศไทย เป็นแผ่นดินไหวที่ระดับความลึก 33 กิโลเมตร จุดที่เกิดอยู่ห่างจากเมืองคิราคิรา ไปทางตะวันออกราว 70 กิโลเมตร ศูนย์เตือนภัยพิบัติสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่รัฐฮาวายของสหรัฐ กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนี้ไม่ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธันวาคม เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบริเวณชายฝั่งนอกเมืองคิราคิรา 3 ครั้ง แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติโซโลมอนส์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้.-สำนักข่าวไทย

กลุ่มสิทธิยื่นคำร้องขอรายละเอียดผลประโยชน์ทับซ้อนของทรัมป์


วอชิงตัน 20 ม.ค.- สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (เอซีแอลยู) ยื่นคำร้องกับหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งขอรายละเอียดผลประโยชน์ทับซ้อนของนายโดนัลด์ ทรัมป์และครอบครัวที่อาจเกิดขึ้นจากการเป็นผู้นำประเทศ

เอซีแอลยูยื่นคำร้องโดยอาศัยอำนาจของกฎหมายเสรีภาพแห่งข่าวสาร หนึ่งวันก่อนที่ทรัมป์จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของประเทศ ขอให้หน่วยงานรัฐบาลเปิดเผยเอกสารชี้แจงผลประโยชน์ทับซ้อนที่เกิดขึ้นจริงหรืออาจเกิดขึ้น รายละเอียดระเบียบการยกเลิกผลประโยชน์ทางการเงินและข้อห้ามเรื่องการเล่นพรรคเล่นพวก โดยขอให้เปิดเผยอีเมล ความเห็นทางกฎหมาย บันทึกและการสื่อสารต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน หนึ่งวันหลังจากทรัมป์ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี รวมถึงการสื่อสารทั้งหมดของคณะถ่ายโอนอำนาจของทรัมป์ เอซีแอลยูประกาศจะใช้เงินบริจาคที่ระดมได้มาตั้งแต่วันเลือกตั้งจ้างคนเพิ่มอีก 100 คนเพื่อยื่นคำร้องในหลายเรื่องทั้งการทำแท้งและคุมกำเนิด การเข้าเมือง ความโปร่งใสของรัฐบาล เสรีภาพในการแสดงออก สิทธิกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ และตั้งกองทุนต่อสู้การละเมิดสิทธิพลเรือนของรัฐบาลทรัมป์

ทรัมป์ วัย 70 ปี ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะเป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจของเขาต่อไป แต่จะให้บุตรชาย 2 คนเป็นผู้บริหารแทน ที่ปรึกษาทางกฎหมายของเขาเผยว่า บริษัททรัมป์ออร์แกไนเซชันจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำข้อตกลงต่างประเทศใหม่ ๆ อย่างไรก็ดี เกิดความคลางแคลงใจเรื่องการเล่นพรรคเล่นพวกเมื่อทรัมป์แต่งตั้งนางอิวังกา ทรัมป์ บุตรสาวและสามีคือนายแจเรด คุชเนอร์ เป็นที่ปรึกษาอาวุโสในทำเนียบขาว.- สำนักข่าวไทย

ผู้นำจีนเตรียมปรับสัมพันธ์ใหม่กับสหรัฐ


จีน 19 ม.ค.-ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงของจีน พูดถึงความสัมพันธ์รูปแบบใหม่กับสหรัฐ ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะทำพิธีสาบานตน รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ โดยเตือนทรัมป์ว่าการต่อต้านการค้าเสรี และการโดดเดี่ยวตัวเอง จากระบบการค้าโลกจะไม่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใด

นายสี กล่าวในเวทีเวิร์ล อีโคโนมิค ฟอรัม ที่เมืองดาวอส ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่าประเทศใหญ่ไม่ควรเอาเปรียบทางการค้า ต่อประเทศ ที่เล็กกว่า พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมโลกเพิ่มความเป็นเอกภาพในการปกป้องสิ่งแวดล้อม และการปราบปรามการก่อการร้าย รวมถึง การลดระดับ การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

ผู้นำจีน ยังพูดถึงการแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศ และการเสริมสร้างกลุ่มพันธมิตรกับทุกประเทศทั่วโลก โดยสำหรับสหรัฐจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่ รวมถึงการเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ ที่สร้างสรรค์กับรัสเซีย ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตียเรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวยกย่องประธานาธิบดีจีนในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาคมโลก ว่าจีนจะก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำโลกยุคปัจจุบัน ที่เป็นแบบ “พหุภาคี”

แม้นายสีไม่ได้เอ่ยชื่อนายทรัมป์แต่หลายฝ่ายก็เข้าใจตรงกันว่า เขาต้องการสื่อความหมายถึงนายทรัมป์ ที่ต้องการใช้นโยบายต่างประเทศ ในรูปแบบที่ “ต้องมีผู้แพ้ และผู้ชนะ” โดยนายสีย้ำว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า แลว่าปัญหาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐสามารถเจรจาแก้ปัญหาได้ ขณะที่สื่อจีนส่งคำเตือนถึงนายทรัมป์ว่า จีนคือผู้ซื้อฝ้าย ข้าวสาลี ถั่ว และเครื่องบินโบอิ้งรายใหญ่ของสหรัฐ และว่าความร่วมมือระหว่างสหรัฐและจีน ย่อมส่งผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย แต่นายวิลเบอร์ รอสส์ ว่าที่รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐ ยังคงตำหนิจีนอย่างหนักว่า กีดกันการค้าสูงมาก สหรัฐจึงเตรียมตอบโต้จีนอย่างหนักเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นนายทรัมป์ เคยขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราสูงถึง 45% .-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน-นิวยอร์กวุ่น ผู้คนประท้วงต่อต้านทรัมป์ก่อนเข้าสาบานตน


วอชิงตัน 20 ม.ค. – ชาวอเมริกันหลายพันคนออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนในกรุงวอชิงตันและนครนิวยอร์ก ในช่วงคืนก่อนวันจัดพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ด้านเจ้าหน้าที่ระดมกำลังรักษาความสงบ

กลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคนในนครนิวยอร์ก ซึ่งประกอบด้วย นักการเมือง ดารา และนักเคลื่อนไหว รวมตัวประท้วงนายทรัมป์ บริเวณทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ล แอนด์ ทาวเวอร์ ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ขณะที่ในกรุงวอชิงตัน เกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชน โดยมีการเผยแพร่ภาพตำรวจใช้สเปรย์พริกไทยพ่นใส่กลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ยังมีรายงานเหตุเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มต่อต้านนายทรัมป์ บริเวณด้านนอกอาคารสโมสรผู้สื่อข่าวแห่งชาติสหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่พยายามกันทั้ง 2 ฝ่ายไม่ให้ก่อเหตุปะทะกัน

พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายทรัมป์จะมีขึ้นที่อาคารรัฐสภาสหรัฐ ในช่วงเที่ยงของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมในพิธีราว 900,000 คน เป็นทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนและต่อต้านนายทรัมป์ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงราว 28,000 นาย ถูกส่งลงพื้นที่เพื่อดูแลและควบคุมสถานการณ์ พร้อมมีการล้อมรั้ว กั้นถนน และตรวจยานพาหนะรอบพื้นที่ 8 ตารางกิโลเมตร ใจกลางกรุงวอชิงตัน.-สำนักข่าวไทย

ฝ่ายการเมืองรัสเซียยิ้มรอโดนัลด์ ทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ


มอสโก 20 ม.ค. – เจ้าหน้าที่และสมาชิกสภารัสเซียต่างแสดงท่าทียินดีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ ซึ่งถือเป็นความหวังว่าความสัมพันธ์กับสหรัฐจะดีขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์สัญญาไว้ว่าจะประสานความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานกับรัสเซีย หลังตึงเครียดกันทั้งจากวิกฤตในยูเครน สงครามซีเรีย และประเด็นอื่นๆ นายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟของรัสเซียกล่าวว่า แม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนว่านายทรัมป์จะดำเนินนโยบายในทิศทางใดภายหลังจากพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันศุกร์ แต่รัสเซียก็พร้อมที่จะมีส่วนร่วมด้วยเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน นายเมดเวเดฟซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียระหว่างปี 2551-2555 เคยวิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามาว่าปฏิบัติต่อรัสเซียอย่างไร้เหตุผลและไม่เหมาะสมมาตลอด.-สำนักข่าวไทย

ชาวฟิลิปปินส์ชุมนุมเรียกร้องดูเตอร์เตอย่าข้องแวะทรัมป์


มะนิลา 20 ม.ค. – ชาวมุสลิมและนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายกว่า 200 คนในฟิลิปปินส์ชุมนุมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ทำตามสัญญาในการกำหนดนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระแยกผลประโยชน์ออกจากสหรัฐ โดยการตีตนออกห่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐที่กำลังจะเข้าพิธีสาบานตนในวันนี้

กลุ่มผู้ประท้วงชุมนุมบริเวณด้านหน้าของสถานทูตสหรัฐในกรุงมะนิลา เพื่อกดดันให้มีการย้ายฐานทัพทหารชาวอเมริกันออกจากแผ่นดินฟิลิปปินส์ เพราะนโยบายต่อต้านผู้อพยพและชาวมุสลิมทำให้ทรัมป์ดูน่าหวาดระแวงยิ่งกว่านายบารัค โอบามา ที่กำลังจะก้าวพ้นออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ นอกจากนี้แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงยังกล่าวอีกว่า ทรัมป์เป็นพวกนิยมลัทธิจักรวรรดินิยมยิ่งกว่าโอบามา

ประธานาธิบดีดูเตอร์เตแสดงตัวเป็นปรปักษ์กับโอบามา หลังถูกวิจารณ์เรื่องนโยบายปราบปรามยาเสพติดรุนแรงในฟิลิปปินส์ แต่กลับแสดงความยินดีกับทรัมป์ที่ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในสหรัฐ อีกทั้งมีการส่งผู้แทน 2 คนเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ด้วย.-สำนักข่าวไทย

นายกฯญี่ปุ่นหวังกระชับสัมพันธ์สหรัฐในยุคโดนัลด์ ทรัมป์


โตเกียว 20 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะกล่าวปราศรัยในสภาญี่ปุ่นว่า ต้องการกระชับความเป็นพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐต่อไป ในช่วงเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงที่นายโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ทรัมป์มีถ้อยแถลงหาเสียงที่สร้างความกังวลให้กับญี่ปุ่นและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงการให้ประเทศพันธมิตรต้องจ่ายค่าดำเนินการด้านความมั่นคงเพิ่มเติมสำหรับกองกำลังสหรัฐ และคัดค้านการทำข้อตกลงการค้าเสรีข้ามแปซิฟิก(ทีพีพี) นายกรัฐมนตรีอาเบะแถลงนโยบายในการประชุมสภาว่า ความเป็นพันธมิตรญี่ปุ่น-สหรัฐต้องดำเนินต่อไป และจะเป็นนโยบายสำคัญด้านการทูตและความมั่นคงของญี่ปุ่น นายอาเบะกล่าวคาดว่าจะเดินทางเยือนสหรัฐในเร็วๆนี้เพื่อกระชับความเป็นพันธมิตรกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ หลังจากที่นายอาเบะได้พบกับนายทรัมป์ในนครนิวยอร์กภายหลังชนะการเลือกตั้งสหรัฐเมื่อเดือนพฤศจิกายน .-สำนักข่าวไทย

เผยญี่ปุ่นจะซ้อมจำลองการรับมือไต้หวัน-จีนปะทะกัน


โตเกียว 20 ม.ค.- สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ญี่ปุ่นจะซ้อมจำลองการรับมือกรณีไต้หวันและจีนเกิดการปะทะทางทหาร โดยจะเป็นการซ้อมแลกเปลี่ยนความเห็นในห้องประชุม ไม่มีการเคลื่อนกำลังพลจริง

แหล่งข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นเผยกับสำนักข่าวเกียวโดนิวส์ว่า กองกำลังป้องกันตนเองจะซ้อมรบตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์หน้า โดยมีกองทัพสหรัฐเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ ไม่มีการเคลื่อนกำลังพลจริง เป็นการซ้อมการรับมือของญี่ปุ่นและสหรัฐกรณีไต้หวันและจีนเกิดความขัดแย้งทางทหาร โฆษกกระทรวงป้องกันประเทศของญี่ปุ่นไม่ให้ความเห็นต่อข่าวนี้ ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามปกติในวันนี้ว่า เรื่องนี้สะท้อนว่าคนบางคนในญี่ปุ่นไม่ต้องการให้โลกมีเสถียรภาพ ขอย้ำว่าเรื่องไต้หวันเป็นเรื่องภายในของจีน หวังว่าญี่ปุ่นจะระมัดระวังอย่างยิ่งในคำพูดและการกระทำ ไม่ทำสิ่งใดที่จะสั่นคลอนสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค

การซ้อมรบในสัปดาห์หน้าจะเป็นบททดสอบกองทัพญี่ปุ่น หลังจากกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อนขยายขอบเขตให้สามารถเข้าร่วมรบในต่างประเทศหากความมั่นคงของญี่ปุ่นตกอยู่ในอันตราย จากเดิมที่ทำได้เพียงป้องกันตนเองตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญที่ใช้มาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2.-สำนักข่าวไทย

กู้ภัยอิหร่านเร่งค้นหานักผจญเพลิงติดใต้ซากตึกถล่ม


เตหะราน 20 ม.ค. – ทีมกู้ภัยเร่งออกค้นหานักดับเพลิงราว 20 คน ที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง หลังตึกเก่าสูง 15 ชั้นในกรุงเตหะรานของอิหร่านพังถล่มวานนี้

สำนักข่าวอีร์นาของทางการอิหร่านรายงานว่า นักผจญเพลิง 1 คนสามารถหลบหนีออกมาได้ทัน ก่อนที่ตึกปลาสโค ซึ่งเกิดเหตุไฟไหม้มานานกว่า 4 ชั่วโมง พังถล่มลงมา แต่สุดท้ายก็ต้องมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเนื่องจากทนพิษบาดแผลไฟไหม้ไม่ไหว ทีมกู้ภัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและสุนัขดมกลิ่นออกปฏิบัติการค้นหานักดับเพลิงที่ติดอยู่ภายใต้ซากตึกตลอดคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถระบุตำแหน่งหรือพบร่างผู้เสียชีวิต นับเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ชาวอิหร่านอย่างมาก โดยสถานีโทรทัศน์ของทางการมีการใช้สัญลักษณ์สีดำแสดงความไว้อาลัยให้แก่ผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

สำนักข่าวอีร์นาเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 84 คนจากเหตุไฟไหม้ โดย 5 คนยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักงานบริการฉุกเฉินกรุงเตหะรานกล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้ที่ติดอยู่ภายใต้ซากตึก แต่จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบผู้รอดชีวิตแม้แต่เพียงรายเดียว ด้านประธานาธิบดีฮัสซัน โรวฮานี ของอิหร่านเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุตึกถล่มในครั้งนี้โดยทันที โดยก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เผยว่า ฝ่ายผู้จัดการอาคารไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามคำเตือนเกี่ยวกับอัคคีภัยหลายครั้ง.-สำนักข่าวไทย

แพทย์ไร้พรมแดนเผยเหตุโจมตีผิดพลาดที่ไนจีเรีย เสียชีวิตกว่า 90 คน


เจนีวา 20 ม.ค. – กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน(เอ็มเอสเอฟ) แถลงวันนี้ว่า การโจมตีทางอากาศผิดพลาดของกองทัพอากาศไนจีเรียโดนค่ายผู้ไร้ที่อยู่จากกลุ่มติดอาวุธโบโกฮาราม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 คน

แถลงการณ์ระบุว่า เหยื่อปฏิบัติการโจมตีทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียเมื่อวันอังคาร ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ทางการไนจีเรียแถลงว่า คณะกรรมการสอบสวนกองทัพอากาศจะตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการกองทัพไนจีเรียแถลงว่า มีความผิดพลาดการในการทิ้งระเบิดโจมตีและมีจุดมุ่งหมายเพื่อกวาดล้างที่มั่นกลุ่มติดอาวุธ กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนแถลงว่า เครื่องบินกองทัพอากาศไนจีเรียบินวนสองรอบและทิ้งระเบิดสองครั้งกลางเมืองรานน์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 90 คน และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น โดยมีรายงานจากผู้อยู่อาศัยและผู้นำชุมชนบอกว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 170 คน .-สำนักข่าวไทย

อิตาลีจะค้นหาคนในโรงแรมที่ถูกหิมะถล่มต่อไปแม้ความหวังเลือนลาง


เปนเน 20 ม.ค.- เจ้าหน้าที่กู้ภัยอิตาลียืนยันจะเดินหน้าค้นหาผู้ติดอยู่ในโรงแรมเชิงเขาที่ถูกหิมะถล่มต่อไป หลังจากเริ่มการค้นหาตั้งแต่วานนี้และมีความหวังเลือนลางที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม

หิมะที่ถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อบ่ายวันพุธตามเวลาท้องถิ่นก่อตัวเป็นกำแพงขวางเส้นทางไปยังโรงแรมซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น เจ้าหน้าที่กำลังเร่งทลายกำแพงหิมะเพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในโรงแรมไม่ต่ำกว่า 25 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย โดยยังคงหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมหลังจากช่วยได้ 2 คนและนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน สถานีโทรทัศน์ในอิตาลีหลายแห่งแพร่ภาพซากปรักหักพังและกองหิมะที่ไหลเข้าไปในโรงแรม

โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมระดับสี่ดาว ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาแกรนซาสโซที่ระดับความสูง 1,200 เมตร ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวไปทางตะวันออก 90 กิโลเมตร ช่วงที่หิมะถล่มมีแขกพักอยู่ในโรงแรม 20-22 คน และมีพนักงานโรงแรมทำงานอยู่ 7-8 คน ทางการท้องถิ่นยืนยันว่า ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือเป็นแขก 2 คน ที่ไม่ได้อยู่ในโรงแรมขณะเกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นประท้วงเกาหลีใต้เอ่ยถึงหมู่เกาะพิพาทบนเว็บไซต์โอลิมปิก


โตเกียว 20 ม.ค. – กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นประท้วงรัฐบาลเกาหลีใต้ หลังมีการอ้างถึงหมู่เกาะทาเคชิมะ ซึ่งเกาหลีใต้เรียกว่าด็อกโด ที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง 2 ประเทศ บนเว็บไซต์สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชางปีหน้า

นายฟุมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ รวมถึงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ เกาหลีใต้ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชางในปี 2561 บนเว็บไซต์สำหรับการแข่งขันมีการเอ่ยถึงชื่อหมู่เกาะและทะเลญี่ปุ่นที่เป็นข้อพิพาท พร้อมมีคำอธิบายบอกเล่าธรรมชาติอันสวยงามบนเกาะ และว่าหมู่เกาะด็อกโดเป็นดินแดนสุดพิเศษที่อยู่ท่ามกลางใจชาวเกาหลี เพราะเป็นสถานที่แห่งความภาคภูมิใจอันเป็นที่สุดแห่งภาคตะวันออก

นายคิชิดะแสดงความไม่เห็นด้วยต่อเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องรัฐบาลเกาหลีใต้ให้จัดการกับเรื่องนี้ ด้านเกาหลีใต้เห็นว่า การอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะดังกล่าวของญี่ปุ่นเป็นผลจากการล่าอาณานิคมในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเกาหลีใต้ประท้วงญี่ปุ่นที่พยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ว่า เกาหลีใต้เป็นผู้รุกรานญี่ปุ่นตลอดมา.- สำนักข่าวไทย

ราชายาเสพติดเม็กซิโกเตรียมขึ้นศาลนิวยอร์กวันนี้


นิวยอร์กซิตี 20 ม.ค.- นายฮัวคีน เอล ชาโป กุซมาน ราชายาเสพติดเม็กซิโกจะถูกนำตัวขึ้นศาลนิวยอร์กของสหรัฐในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ไม่กี่ชั่วโมงหลังถูกเนรเทศมาจากเม็กซิโก

โฆษกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเผยว่า นายกุซมานวัย 59 ปี จะถูกนำตัวขึ้นศาลรัฐบาลกลางย่านบรุกลิน อัยการเขตตะวันออกของนิวยอร์กจะเปิดแถลงข่าวคดีในเวลา 10.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 22.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย นายกุซมานถูกนำตัวออกจากเรือนจำเมืองฮัวเรซหรือซิวดัด ฮัวเรซ รัฐชีวาวา ทางตอนเหนือของเม็กซิโกขึ้นเครื่องบินเล็กมายังท่าอากาศแมคอาร์เธอร์ยานเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เขาถูกทางการสหรัฐฟ้องร้อง 6 คดี มีทั้งฟอกเงิน ค้ายาเสพติด ลักพาตัวและฆาตกรรมในนครชิคาโก เมืองไมแอมีและนครนิวยอร์ก ขณะที่เจ้าหน้าที่ศาลเม็กซิโกกล่าวว่า เขาจะถูกพิจารณาคดีในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเทกซัส

กุซมานถูกจับกุมได้เมื่อเดือนมกราคมปีก่อน หลังใช้อุโมงค์ใต้ดินเล็ดลอดหลบหนีจากเรือนจำทางตอนกลางของประเทศที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 และเป็นการหนีเรือนจำครั้งที่สอง เขาเป็นหัวหน้าแก๊งซีนาโลอาที่อาจค้ายาเสพติดข้ามชาติใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ต้องการตัวของสหรัฐมานาน การที่เม็กซิโกยอมเนรเทศเขาไปสหรัฐถูกมองว่าต้องการยื่นไมตรีให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ ขณะที่ทนายความของเขาแสดงความแปลกใจที่มีการเนรเทศกะทันหันทั้งที่มีการอุทธรณ์คัดค้านถึง 4 ครั้ง.-สำนักข่าวไทย

เศรษฐกิจจีนกระเตื้อง แม้ปี 2559 ซบเซาที่สุดในรอบหลายปี


ปักกิ่ง 20 ม.ค. – สถิติทางการจีนระบุว่า ตัวเลขเศรษฐกิจปรับขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสสุดท้ายปี 2559 โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาล และการเติบโตในภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แต่ตัวเลขตลอดทั้งปียังคงถือว่าชะลอตัวที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี

รัฐบาลจีนรายงานวันนี้ว่า จีนซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสองของโลกขยายตัวร้อยละ 6.8 จากปีก่อนในช่วงสามเดือนที่สิ้นสุดเมื่อธันวาคม เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.7 ในไตรมาสก่อนนั้น ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2559 ของจีนอยู่ที่ร้อยละ 6.7 ลดลงจากร้อยละ 6.9 เมื่อปี 2558 และถือว่าซบเซาที่สุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษหลังปี 2533 ซึ่งเคยอยู่ที่ร้อยละ 3.9 เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวลงในช่วงที่ผู้นำจีนต้องการหันมาส่งเสริมการเติบโตภายในประเทศอย่างยั่งยืน แทนที่การพึ่งพาการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ปรับเพิ่มตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้อีก 0.3 จุด มาอยู่ที่ร้อยละ 6.5 แต่เตือนว่าภาระหนี้จีนสูงขึ้นเสี่ยงฉุดให้เศรษฐกิจชะลอลง .- สำนักข่าวไทย

ธนาคารกลางยุโรปจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 0


แฟรงก์เฟิร์ต 20 ม.ค. – นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เผยว่า อีซีบีจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซน

นายดรากีแถลงว่า การตัดสินใจที่จะใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเป็นความพยายามที่ต้องการช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัว แม้ว่าข้อมูลสถิติล่าสุดจะแสดงให้เห็นว่า กลุ่มประเทศยูโรโซนเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี อยู่ที่ร้อยละ 1.1 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้อีซีบีจะยังคงปริมาณการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือน 80,000 ล้านยูโร (ราว 3.02 ล้านล้านบาท)ไปจนถึงเดือนมีนาคม หลังจากนั้นวางแผนที่จะปรับลดลงเหลือ 60,000 ล้านยูโร (ราว 2.26 ล้านล้านบาท)ไปจนถึงสิ้นปี

ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า นโยบายคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0 ส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้อีซีบีทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น อีกทั้งสภาพเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันเป็นโอกาสเหมาะที่จะยุติการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรน.- สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

ผู้ว่าฯปัตตานีเตือนน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก


ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีเตือนน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำปัตตานี

นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี แจ้งว่า ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ทำให้มีปริมาณน้ำสะสม อาจมีน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากขึ้นได้ ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำปัตตานี จึงขอแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนบริเวณแม่น้ำสายบุรี อำเภอสายบุรี อำเภอกะพ้อ และชุมชนใกล้เคียงแม่น้ำสายบุรี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในส่วนของประชาชนในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปัตตานี บริเวณตอนล่างเขื่อนปัตตานี เช่นเดียวกัน ในพื้นที่ลุ่มต่ำอำเภอยะรัง แม่ลาน หนองจิก และอำเภอเมืองปัตตานี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิดระวังน้ำป่าไหลหลากและเก็บสิ่งของไว้ที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้ในทันที พร้อมให้สถานีวิทยุกระจายเสียงให้ประชาชนได้รับทราบด้วย

ด้านฉก.ทพ.41 พร้อมกำลังพล ร้อย.ทพ.4109 ร่วมกับ ผู้นำท้องถิ่น, ลูกจ้างโครงการสร้างงานและจ้างงานเร่งด่วน (4,500) ได้เข้าช่วยเหลือประชาชน และเคลื่อนย้ายสิ่งของจำเป็น ไปที่ปลอดภัย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในพื้นที่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา สำหรับประชาชนในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา หากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หรือประสบเหตุการณ์จากอุทกภัย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกเวลา โทร. 080-8626930

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

พัทลุง-นำน้ำหมักชีวภาพออกฉีดพ่นแก้น้ำเสีย


จังหวัดพัทลุงได้นำน้ำหมักชีวภาพออกฉีดพ่นเพื่อปัญหาน้ำเสียแล้ว หลังน้ำท่วมขังหลายวัน พร้อมให้ความรู้ประชาชนหลังน้ำลด

นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง และผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง ได้นำเจ้าหน้าที่ออกฉีดพ่นน้ำมักชีวภาพ เพื่อแก้ปัญหาน้ำเสีย และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพของประชาชน โดยที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักและมีน้ำท่วมเกิดขึ้นในจังหวัดพัทลุงตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาและในขณะนี้พบว่า บริเวณที่มีน้ำขังบางส่วนเริ่มเน่าเสีย และส่งกลิ่นรบกวนประชาชน เช่น ในพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา บ้านลำปำ

รวมทั้งคูคลองในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เนื่องจากสิ่งปฏิกูล เช่น มูลสัตว์ ขยะ และเศษวัชพืชต่าง ๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงกล่าวว่า ขณะจังหวัดพัทลุงได้มอบหมายให้สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง ทำการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพิ่มขึ้น เพื่อให้บริการประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำเน่าเสียบริเวณที่อยู่อาศัย รวมทั้งแหล่งน้ำขังต่าง ๆ พร้อมได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังน้ำลด เพื่อป้องกันอันตรายจากโรคภัยต่าง ๆ เช่น โรคฉี่หนู โรคบาดทะยัก โรคน้ำกัดเท้า โรคทางเดินอาหาร รวมทั้งโรคไข้เลือดออกจากการระบาดของยุงลายที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

นครศรีฯฝนตกหนัก-น้ำป่าหลากอุทยานเขาหลวงปิดน้ำตก


จ.นครศรีฯอ่วมน้ำป่าหลากรุนแรงอีกครั้ง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง สั่งปิดน้ำตกทุกแห่ง ด้านผู้ว่าฯ แจ้งเตือนทุกอำเภอเฝ้าระวังภัย ขณะที่เทศบาลเริ่มท่วมแล้ว 10 - 15 ซม. เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมหากระดับน้ำเพิ่มขึ้น อพยพประชาชน

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เฝ้าติดตามมวลน้ำป่าจำนวนมหาศาลที่หลากลงมาจากต้นน้ำตกพรหมโลก อย่างรุนแรงหลายชั่วโมงติดต่อกัน โดยมีสภาพน้ำมีสีคล้ำ และมีระดับสูงกว่ามวลน้ำป่าระลอกช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นายวิกรานต์ ทั่วด้าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ได้เข้าติดตามสถานการณ์ของมวลน้ำป่าในพื้นที่ โดยระบุว่ามวลน้ำระลอกนี้ มีเป็นจำนวนมาก และที่น่าเป็นห่วงคือทุกพื้นที่ชุ่มอิ่มน้ำหมดแล้ว ดังนั้น มวลน้ำระลอกใหม่นี้จะสร้างภาวะอุทกภัยในพื้นที่รับน้ำได้อีกครั้ง โดยขณะนี้ได้แจ้งเตือนส่วนราชการให้ระวังมวลน้ำระลอกนี้ เนื่องจากแนวเทือกเขายังคงมีฝนตกอย่างหนักและต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ดังนั้น น้ำจึงยังหลากอีกมหาศาล และขณะนี้ได้มีการประกาศปิดน้ำตกทุกแห่งโดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นเวลา 5 วัน เนื่องจากอาจเกิดอันตรายกับผู้มาเที่ยวชมได้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม พบว่ามวลน้ำก้อนนี้ได้หลากลงมาส่งผลกระทบกับหลายหมู่บ้านใน ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช แล้ว โดยน้ำได้บ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งสวนผลไม้ สวนยางพารา ประชาชนได้ช่วยกันอพยพสิ่งของหนีมวลน้ำก้อนนี้แล้ว ขณะที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในบริเวณรับมวลน้ำจากต้นน้ำบริเวณนี้ได้เตรียมรับสถานการณ์ด้วยการเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้รองรับแล้วเพื่อป้องกันบริเวณนิรภัยการบิน

ด้าน นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ลุ่ม และประชาชนทั้ง 23 อำเภอของจังหวัด ได้เฝ้าระวังและติดตามการแจ้งเตือนภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม อย่างใกล้ชิด ในระหว่างวันที่ 20 - 21 มกราคมนี้ พร้อมทั้งได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอมีการประเมินสถานการณ์ทุกระยะ และเตรียมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทันทีเมื่อสถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

หลังจากมีรายงานฝนตกหนักถึงหนักมากในเกือบทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่โซนภูเขา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แสดงความห่วงใยไปยังประชาชนในพื้นที่ โดยขอให้มีการรับฟังประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยา การประกาศเตือนของส่วนราชการ รวมทั้งมีการติดตามสถานการณ์ และให้ความร่วมมือกับส่วนราชการอย่างเคร่งครัด หากมีประกาศให้มีการอพยพก็ให้รีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยนำเฉพาะของมีค่าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ให้ยกไว้ในที่สูงเท่าที่จะทำได้ และออกมาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ติดตั้งธงสีแดงแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมให้ขนย้ายสิ่งของพ้นน้ำพร้อมเตรียมอพยพ หลังจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ น้ำระบายลงท่อระบายน้ำไม่ทัน ประกอบกับระดับน้ำในคลองระบายน้ำสายหลักมีน้ำล้นตลิ่ง จึงทำให้มีน้ำท่วมในพื้นที่ ดังนี้ ซอยสารีบุตร ซอยประตูขาว ซอยวัดมุมป้อม หน้าตลาดสดคูขวาง สามแยกท่าด่าน ถึงวัดท่าโพธิ์ โดยมีระดับน้ำสูงขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 10 - 15 ซม. ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ขึ้นธงแดง แจ้งเตือนประชาชน และหากมีระดับน้ำเพิ่มปริมาณมากขึ้น ขอให้ประชาชนเตรียมอพยพ ย้ายที่อยู่ ณ ศูนย์พักพิงผู้อพยพ ที่ทางเทศบาลได้จัดเตรียมไว้ คือโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งร้องทุกข์ ขอความช่วยเหลือ มายังศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ ป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มได้ที่ ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครนครศรีธรรมราช โทร. 199 หรือ 075 – 348118, 075-358440, ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

ฝนถล่มนราธิวาสหนักทุกอำเภอ - 200 กว่ามิลลิเมตร


ฝนถล่มนราธิวาส รอบที่ 4 ตกหนักทุกอำเภอ ระดับ 200 กว่ามิลลิเมตร ยังไม่ทีท่าจะหยุด จับตา อ.เมือง น้ำทะลักท่วมหลายจุด

นายสมหวัง เรืองเพ็ง ปลัดจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ฝนยังตกหนักในทุกพื้นที่ 13 อำเภอ ทั่วทั้งจังหวัด ตกมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนถึงปัจจุบัน และล่าสุดยังตกหนักอยู่ โดยที่หนักมากคือที่ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก อ.เจาะไอร้อง ปริมาณน้ำฝนระดับ 200 มิลลิเมตร ส่วนอำเภออื่น ฝนตกในระดับ 100 - 160 มิลลิเมตร ส่งผลให้ขณะนี้น้ำเข้าท่วมในหลายพื้นที่แล้ว ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นในลักษณะน้ำมาเร็วไปไว แต่จะมีพื้นที่ท่วมขังนาน เช่น อ.เมืองนราธิวาส ที่รับน้ำมากจาก อ.จะแนะ อ.ศรีสาคร และเป็นพื้นที่ลุ่มในป่าพรุ ทำให้น้ำขังอยู่นานกว่าปกติ และขณะนี้ได้ท่วมบางจุดแล้ว

ทั้งนี้ ทางจังหวัดไม่ต้องประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (อุทกภัย) เพราะเคยประกาศไปตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว และเมื่อวันที่ 1 - 5 มกราคม 2560 ได้ประกาศไปแล้ว 13 อำเภอ 75 ตำบล ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ถือว่าเป็นภัยต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ทาง นายสิทธิชัย ศักดาผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งระดมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

นายกฯเล็กเมืองนราฯ ร่วมนาวิกฯ ช่วยชุมชนน้ำท่วมขัง


นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ร่วมนาวิกฯ เร่งช่วยเหลือชุมชนที่น้ำท่วมขังกว่า 7 จุด

นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส เปิดเผยถึงสภาวะน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ว่า จากการที่ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในห้วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา โดยน้ำที่ท่วมขังเกิดจากการระบายไม่ทัน และเข้าท่วมถนนหนทางต่าง ๆ รวมทั้งเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎรบางชุมชนตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ ซึ่งได้แก่บริเวณ ถ.เจริญพงศ์ ถ. ณ นคร ถ.ประชาภิรมย์ ซอยละม้ายอุทิศ แยกบายพาสวงเวียนนกและแยกต้นโพธิ์ เป็นต้น โดยระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 40 เซนติเมตร ซึ่งจุดที่วิกฤตคือ ณ นคร โดยขณะนี้ตนเองได้สนธิกำลังร่วมกับ น.ท.ธีรวิทย์ ศิริวัลลภ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 33 นำกระสอบทรายไปวางไว้ที่ศูนย์รวม คือ ที่วัดประชาภิรมย์ เพื่อที่จะให้ประธานแต่ละชุมชนที่ได้รับผลกระทบเดินทางมารับไปวางตามจุดต่าง ๆ รวมจุดละ 300 - 400 กระสอบ รวมทั้งได้นำทรายไปลงไว้ในบางจุด

นอกจากนี้ ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการเปิดประตูระบายน้ำที่คลองยะกัง ก่อนใช้เครื่องสูบน้ำจำนวน 5 ตัว ทำการสูบน้ำที่ท่วมขังให้ไหลลงคลองยะกัง ซึ่งจะช่วยให้ระดับน้ำที่ท่วมขังลดระดับลงอีกด้วย

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

จับตาเมืองคอนต่อเนื่องหลังฝนถล่ม


นครศรีธรรมราชฝนถล่ม เฝ้าระวังเขตเทศบาลเมือง ขณะบางชุมชนได้รับผลกระทบแล้ว

นายเทอดศักดิ์ ลักษณะหุต หัวหน้าฝ่ายวิชาการศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีมวลน้ำสะสมทางอำเภอตอนบน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าที่สถานีวัดระดับน้ำ X.200 บ.วังไทร อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำยังอยู่ห่างจากจุดวิกฤติที่จะก่อให้เกิดผลกระทบกับตัวเมืองนครศรีธรรมราช ใน อีก 18 ชั่วโมงข้างหน้า ที่ +33.9 เมตร ในปริมาณ +33.5 เมตร ล่าสุด หลายหน่วยงานกำลังอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีจุดเสี่ยงอยู่ที่ เขตตัว อ.เมืองนครศรีธรรมราช และ อำเภอทางตอนเหนือ ประกอบด้วย อ.พรหมคีรี, ลานสกา และ ร่อนพิบูลย์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากมวลน้ำมีมาก ก็มีแนวโน้มสูงว่าจะหลากลงไปสมทบในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ที่ปัจจุบันยังมีอำเภอประสบปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งในวันนี้พบว่ามีมวลน้ำเข้ามาเติมภายในลุ่มน้ำปากพนัง ประมาณ 99 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำสะสมภาพรวมทั้งหมดอยู่ 254 ล้านลูกบาศก์เมตร

ด้าน นายวานิช แก้วประจุ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้ระดับน้ำในลำคลองสาขาต่าง ๆ ปรับระดับสูงขึ้น เบื้องต้นพบว่าในพื้นที่ลุ่มต่ำของเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เริ่มได้รับผลกระทบแล้วคือ ซอยสารีบุตร, ตลาดคูขวาง และ ตลาดสหไทยพลาซ่า วัดปริมาณน้ำประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

สงขลาฝนตกต่อเนื่อง เตือนจุดเสี่ยงรับน้ำเชิงเขาแก้ว


สงขลาฝนตกต่อเนื่อง ทำแม่น้ำลำคลองปรับระดับสูงขึ้น เตือนพื้นที่เสี่ยงภัยรับน้ำเชิงเขาแก้วติดตามสถานการณ์

ที่ จ.สงขลา แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ติดริมทะเลสาบสงขลา จะเริ่มคลี่คลายจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติเหลือเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งยังมีน้ำท่วมขัง แต่ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ สภาพอากาศซึ่งมีฝนตกต่อเนื่องมา 2 วัน หลายพื้นที่อยู่ในภาวะเสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา เนื่องจากปัจจุบันลำคลองสาขาต่างๆ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและบางจุดเกือบล้นฝายกั้นน้ำ เบื้องต้นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา ได้แจ้งเตือนให้พื้นที่เสี่ยงภัยที่เคยเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมซ้ำซากให้เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยประสานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และจัดเจ้าหน้าที่ติดตามและประสานสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำตลอดแนวเทือกเขาแก้วตั้งแต่ อ.รัตภูมิ หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง สะเดา นาทวี และอ.สะบ้าย้อย

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

ฝนถล่มปัตตานีขอประชาชนติดตามข่าวสารใกล้ชิด


ฝนตกต่อเนื่องใน จ.ปัตตานี เตือนประชาชนติดตามข่าวสารใกล้ชิด พบ 2 อำเภอเสี่ยงเกิดน้ำท่วม

นายฉลอง เกียรติศักดิ์โสภณ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี (ผคบ.ปัตตานี) เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ที่ จ.ปัตตานี เริ่มมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นแม้จะยังไม่ได้รับรายงานว่ามีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบเกิดน้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับระดับน้ำในลุ่มน้ำต่าง ๆ ของจังหวัดยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่งค่อนข้างมาก แต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอย่าง อ.เมือง และ หนองจิก รวมถึงบริเวณที่มีลักษณะภูมิประเทศแบบลุ่มต่ำ เนื่องจากหากเกิดฝนตกหนักลงมาติดต่อกันเป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดมวลน้ำสะสม เข้าท่วมขังบ้านเรือนราษฎรในจุดดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนให้ประชาชน เฝ้าระวังอุทกภัยในระยะนี้ ด้วยการติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ และข้อแนะนำจากจังหวัดต่อไป

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

ฝนถล่มนครศรีหวั่นท่วมระลอก 3 เตือนประชาชนรับมือ


ฝนถล่มนครศรีธรรมราชต่อเนื่อง หวั่นท่วมระลอก 3 น้ำเริ่มหลากล้นตลิ่ง เตือนประชาชนเตรียมรับมืออีกครั้ง

ฝนตกหนักต่อเนื่องใน จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้ระดับน้ำในลำคลองสายต่าง ๆ เริ่มเข้าสู่ภาวะล้นตลิ่งอีกครั้ง ขณะที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้แจ้งเตือนและยกธงสีเหลืองในจุดสำคัญ เพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมอีกระลอก เพราะฝนยังคงตกต่อเนื่อง
ส่วนที่บริเวณเชิงเทือกเขาหลวง ล่าสุด พบว่ามีน้ำป่าหลากลงมาเป็นระยะ ซึ่งสอดคล้องกับการประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่แจ้งให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชน ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศแบบลุ่มต่ำ ภายในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กำลังอยู่ระหว่างเตรียมอพยพสิ่งของไปเก็บไว้บนที่สูง

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

อุตุฯเตือนฉบับที่ 22 ฝนตกหนักภาคใต้-อ่าวไทยคลื่นลมแรง


กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 22 แจ้งเตือนฝนตกบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอก แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศเวียดนาม ลาว และทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในคืนนี้ (20 ม.ค.60) ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 20 - 21 มกราคม 2560 ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนในช่วงวันที่ 22 - 25 มกราคม 2560 ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กงดออกจากฝั่งในวันที่ 19 - 25 มกราคม 2560

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

รู้ก่อนร้อนหนาว | 20-01-60 | เช้าข่าวชัดโซเชียล​

เผยแพร่เมื่อ 19 ม.ค. 2017​

สุดสัปดาห์แล้ว สภาพอากาศจะเป็นอย่างไร พื้นที่ภาคใต้จุดไหนยังเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับฝนตกหนักอีกหรือไม่ ส่วนทางตอนบนจะหนาวเย็นลงแค่ไหน วันนี้ต้องถามคุณคุปตนันต์ พิสิฐมหันต์

 

จีนตอบโต้ทรัมพ์เรื่องเกาหลีเหนือ​

เผยแพร่เมื่อ 4 ม.ค. 2017
จีนตอบโต้ทรัมพ์เรื่องเกาหลีเหนือ #ThaiPBS​

 

เบื้องลึก !! ผงะ..เผาตัวเอง ประท้วงทรัมป์​

เผยแพร่เมื่อ 20 ม.ค. 2017​

 

ทรัมป์สาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45


สหรัฐ 21 ม.ค. – พิธีสาบานตนเป็นผู้นำสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านไปโดยสมบูรณ์ พร้อมคำมั่นจะทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 70 ปี มหาเศรษฐีฝีปากกล้า ผู้ไร้ประสบการณ์ทางการเมือง แต่ฟันฝ่าจนชนะเลือกตั้งได้ ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐแล้ว ที่อาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (20 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หรือราวเที่ยงคืน ตามเวลาในไทย ท่ามกลางแขกคนสำคัญเข้าร่วมคับคั่ง รวมทั้งประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ที่จะหมดวาระในวันเดียวกัน และนางมิเชล โอบามา ผู้กำลังจะกลายเป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 ทั้งยังมีอดีตประธานาธิบดีและนักการเมืองระดับสูงอีกหลายคน รวมทั้งฝูงชนที่มาเฝ้ารอชมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้อยู่ด้านล่าง

เมื่อเวลาสำคัญมาถึง หลังจากนายไมค์ เพนซ์ ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีไปก่อนหน้านั้นแล้ว นายทรัมป์ก็เริ่มพิธีสาบานตนต่อหน้านายจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลฎีกา โดยชูมือขวาขึ้น และวางมือซ้ายบนคัมภีร์ไบเบิลที่อดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น เคยใช้สาบานตน และคัมภีร์ไบเบิลที่คุณแม่เคยมอบให้ตอนเขาเรียนจบไฮสคูล จากนั้นเริ่มกล่าวคำสาบานตนสั้นๆ แค่ 35 คำ โดยกล่าวตามนายจอห์น โรเบิร์ตส์ ใจความว่า ข้าพเจ้า นายโดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ขอสาบานอย่างหนักแน่นว่า จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและอย่างสุดความสามารถ เพื่อธำรง ปกป้อง และพิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา ขอพระเจ้าโปรดประทานพร โดยหลังกล่าวปฏิญาณตนเสร็จสิ้น นายทรัมป์ได้เข้าสวมกอดสมาชิกครอบครัวที่มากันอย่างพร้อมหน้า รวมทั้งนางเมลาเนีย ผู้จะเป็นสตรีหมายเลข 1 คนใหม่ของสหรัฐ

ต่อมานายทรัมป์ได้กล่าวสุนทรพจน์หลังขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐเต็มตัว ระบุว่า นี่คือช่วงเวลาของพวกคุณ เป็นวันที่ประชาชนจะกลายเป็นผู้ปกครองชาติอีกครั้ง ตนจะไม่ปล่อยให้ผู้คนผิดหวังหรือตกต่ำอีก ประเทศจะถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยมือและแรงงานอเมริกัน นายทรัมป์ยังให้คำมั่นจะสร้างงานและดึงงานกลับมา จะทำเพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกันทุกคนโดยไม่มีแบ่งแยกสีผิว จะบริหารประเทศโดยถือประโยชน์อเมริกาเป็นที่หนึ่ง ก่อนกล่าวปิดท้ายสุนทรพจน์ด้วยคำมั่นที่เขาพูดมาตลอดว่า จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยความร่วมมือของทุกคน

ส่วนภารกิจต่อจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และภริยา ได้เดินไปส่งนายบารัค โอบามา และนางมิเชล ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับออกจากงาน ก่อนเข้าร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับเหล่าสมาชิกสภาคองเกรส และเข้านั่งทำงานแรกในทำเนียบขาว ด้วยการลงนามเอกสารเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและคำประกาศ รวมทั้งกฎหมายเพื่อละเว้นโทษ เปิดทางให้ พล.อ.เจมส์ แมททิส ขึ้นเป็นรัฐมนตรีกลาโหมได้ เพราะกฎหมายปัจจุบันห้ามเจ้าหน้าที่กองทัพที่พ้นหน้าที่ไม่ถึง 7 ปี รับตำแหน่งทางการเมือง

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าพิธีสาบานตนของนายทรัมป์จะเริ่มขึ้น มีฝูงชนชุมนุมประท้วงต่อต้านนายทรัมป์ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เกิดการปะทะกับตำรวจปราบจลาจล และทุบทำลายกระจกอาคารร้านค้า มีผู้ถูกจับกุมหลายคน

ด้านสีสันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน ชาวเมืองเซฟนิกา บ้านเกิดของนางเมลาเนีย ในประเทศสโลวีเนีย ได้เชิญนักท่องเที่ยวและผู้สื่อข่าวไปสำรวจที่ต่างๆ รวมทั้งบ้านญาติๆ ของเมลาเนีย เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยว และหวังว่าชื่อเสียงของเมลาเนียจะช่วยให้เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการค้าดีขึ้น

ขณะที่ร้านขายเสื้อผ้าและแอกเซสเซอรีแนวทหารในกรุงมอสโกของรัสเซีย จัดโปรโมชั่นลด 10% ให้ผู้ถือพาสปอร์ตสหรัฐ เพื่อร่วมแสดงความยินดีที่นายทรัมป์สาบานตนด้วย เช่นเดียวกับกลุ่มผู้สนับสนุนนายทรัมป์ ร่วมจัดปาร์ตี้เฉลิมฉลองการสาบานตนของนายทรัมป์ ที่ร้านในกรุงมอสโก ซึ่งอยู่ห่างจากทำเนียบเครมลินหลายร้อยกิโลเมตร ตั้งแต่งานพิธีในกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังไม่เริ่ม. – สำนักข่าวไทย

จับผู้ประท้วงทรัมป์ในวอชิงตันกว่า 200 คน


วอชิงตัน 21 ม.ค.- ตำรวจสหรัฐจับกุมผู้ประท้วงอย่างน้อย 217 คน และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 6 คน จากการปะทะกับผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงแสดงความไม่พอใจระหว่างที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45

ผู้ประท้วงหลากหลายกลุ่มเดินขบวนไปทั่วกรุงวอชิงตัน ดีซี ในช่วงที่ทรัมป์สาบานตนที่อาคารรัฐสภา บางกลุ่มขว้างปาก้อนหินและขวดน้ำใส่ตำรวจ ทำให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแสง บางกลุ่มทุบทำลายกระจกหน้าต่างธนาคารและร้านค้า บางคนเผายวดยานและขยะ มีคนโยนหมวกสีแดงพิมพ์ประโยคหาเสียงของทรัมป์ Make America Great Again เข้ากองไฟ ตำรวจเผยว่า ผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมจะถูกนำตัวขึ้นศาลในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น

ด้านผู้สนับสนุนทรัมป์เผยว่า คาดไว้ว่าจะมีการประท้วงทรัมป์ แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงเช่นนี้ ขณะที่นางมูเรียล โบว์เวอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดีซี สังกัดพรรคเดโมแครต ประณามการใช้ความรุนแรง นอกจากกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังมีการชุมนุมต่อต้านทรัมป์ในหลายเมืองทั่วโลก แต่ที่กรุงมอสโกของรัสเซียกลับยินดีกับการสาบานตนของทรัมป์ เพราะคาดหวังในแง่ดีว่า ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศจะดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

หัวหน้าคณะไต้หวันเปิดใจหลังร่วมพิธีสาบานตนทรัมป์


วอชิงตัน 21 ม.ค.- นายหยู ซื่อคุน อดีตนายกรัฐมนตรีไต้หวันมองว่า ความสัมพันธ์ไต้หวัน-สหรัฐในยุคของนายโดนัลด์ ทรัมป์รุ่งเรืองที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ก็เกรงว่านายทรัมป์จะใช้ความสัมพันธ์นี้เป็นเครื่องต่อรองกับจีน

นายหยู อดีตนายกรัฐมนตรีปี 2545-2548 และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้านำคณะผู้แทนไต้หวัน 11 คนไปร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ของทรัมป์ที่รัฐสภาเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ หลังจากนั้นได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี ตำหนิประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนว่า ใจแคบกรณียื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อสหรัฐไม่ให้เชิญไต้หวันมาร่วมงาน และมองว่าความสัมพันธ์ไต้หวัน-สหรัฐขณะนี้น่าจะดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะการที่ทรัมป์รับโทรศัพท์แสดงความยินดีของนางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันและให้นางไช่แวะสหรัฐระหว่างการเยือนลาตินอเมริกาเป็นสัญญาณที่ดีว่าความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น

นายหยูเผยว่า บางคนในไต้หวันกังวลว่านายทรัมป์จะใช้ความสัมพันธ์กับไต้หวันเป็นเครื่องต่อรองกับจีน เช่นที่ให้สัมภาษณ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อเดือนก่อนว่า ทุกอย่างล้วนต้องเจรจา รวมถึงนโยบายจีนเดียวที่จีนอาจจะรักษาไว้ได้หากเจรจาการค้ากับสหรัฐ นายหยูกล่าวว่าได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับหน่วยงานของสหรัฐและได้รับความมั่นใจว่าจะไม่มีทางเกิดขึ้นเพราะกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันปี 2522 ได้กำหนดความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่ทางการทูตกับไต้หวันเอาไว้ หลังให้การรับรองจีนแผ่นดินใหญ่แทนไต้หวัน ส่วนเรื่องข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก (ทีพีพี) ที่ทรัมป์ประกาศจะถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงนี้ ไต้หวันก็หวังว่าทั้งสองฝ่ายอาจจะมีข้อตกลงการค้าทวิภาคีแทน.-สำนักข่าวไทย

ปธน.เม็กซิโกจะกระชับสัมพันธ์กับทรัมป์


เม็กซิโกซิตี 21 ม.ค.- ประธานาธิบดีเอ็นรีเก เปนญา เนียโตของเม็กซิโกเผยว่า จะกระชับความสัมพันธ์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ แม้ว่าคำขู่ของทรัมป์ทำให้เศรษฐกิจเม็กซิโกเสี่ยงเกิดวิกฤตและค่าเงินเปโซร่วงหนัก

ประธานาธิบดีเปนญา เนียโต ผู้เคยเปรียบเทียบทรัมป์ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งสหรัฐว่าเหมือนอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีและเบนิโต มุสโสลินี ผู้นำเผด็จการอิตาลี ทวีตว่า จะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนในการเจรจากับสหรัฐที่มีการเคารพกัน จะเสริมสร้างความสัมพันธ์บนความรับผิดชอบร่วมกัน ขณะที่รัฐบาลเม็กซิโกเผยว่า ประธานาธิบดีจะแถลงนโยบายต่างประเทศในเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่คณะผู้แทนเม็กซิโกจะเดินทางไปหารือกับคณะที่ปรึกษาของทรัมป์ในอีกไม่กี่วัน

ด้านนายลูอิส วิเดกาไรย์ รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกที่จะนำคณะไปสหรัฐเผยว่า จะพบกับที่ปรึกษาอาวุโสทำเนียบขาวและนายจอห์น เคลลี นายพลวัยเกษียณที่พิ่งได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิ เขายืนยันว่า จะเจรจากับสหรัฐอย่างไม่กลัวและจะหาทางสร้างหลักประกันว่าเงินที่ชาวเม็กซิโกในสหรัฐส่งกลับบ้านเกิดจะได้รับความคุ้มครอง ไม่ถูกยึดอย่างแน่นอน

ทรัมป์ประกาศจะสร้างกำแพงยาวตลอดพรมแดนทางใต้ที่ติดกับเม็กซิโกเพื่อสกัดไม่ให้ชาวเม็กซิโกลอบเข้าประเทศ จะฉีกข้อตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) ที่ทำไว้กับเม็กซิโกและแคนาดาหากไม่สามารถเจรจาแก้ให้เป็นประโยชน์กับสหรัฐ และจะเก็บภาษีลงโทษบริษัทที่ไปผลิตในเม็กซิโก บริษัทสำรวจในเม็กซิโกสอบถามชาวเม็กซิโก 600 คนพบว่า กว่า 3 ใน 4 ไม่ชอบทรัมป์มากหรือมากที่สุด 4 ใน 5 คาดว่าเศรษฐกิจเม็กซิโกจะวิกฤตและมีการลงทุนลดลงในสมัยรัฐบาลทรัมป์ ขณะที่ประธานาธิบดีเปนญา เนียโตก็มีคะแนนนิยมตกต่ำที่สุดเพราะไม่สามารถทำในสิ่งที่รับปากไว้มากมาย เช่น ลดราคาค่าน้ำและค่าไฟ.-สำนักข่าวไทย

ทรัมป์ประเดิมคำสั่งประธานาธิบดีด้วยเรื่องโอบามาแคร์


วอชิงตัน 21 ม.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐลงนามคำสั่งประธานาธิบดีคำสั่งแรกให้หน่วยงานรัฐบาลทุกแห่งหาทางจำกัดภาระทางเศรษฐกิจและการบริหารอันเกิดจากกฎหมายประกันสุขภาพสมัยรัฐบาลบารัค โอบามาหรือที่เรียกว่าโอบามาแคร์

ประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 70 ปีตรงไปยังห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวทันทีที่เสร็จสิ้นพิธีสาบานตนที่หน้าอาคารรัฐสภา ลงนามคำสั่งประธานาธิบดีฉบับแรกให้หน่วยงานรัฐบาลทุกแห่งยกเลิก เลื่อนหรือให้การยกเว้นการปฏิบัติตามมาตราต่าง ๆ ที่เพิ่มภาระการคลังให้แก่รัฐ บริษัทหรือบุคคล ขณะเดียวกันขอให้เพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินโครงการประกันสุขภาพควบคู่ไปกับการทำให้ธุรกิจระหว่างรัฐในการให้บริการสุขภาพและประกันสุขภาพเปิดกว้างและเสรี

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ทรัมป์อาจขยายการยกเว้นการบังคับใช้ระเบียบที่กำหนดให้บุคคลต้องทำประกันสุขภาพหรือบริษัทต้องทำประกันสุขภาพให้พนักงานไม่เช่นนั้นจะถูกปรับ นอกจากนี้ยังอาจลดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในแผนการประกันสุขภาพ การยกเลิกโอบามาแคร์เป็นเรื่องสิ่งที่ทรัมป์ใช้หาเสียงมาโดยตลอด และได้สั่งให้รัฐสภาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภายกเลิกโอบามาแคร์ภายในวันที่ 27 มกราคมนี้ควบคู่ไปกับการมีแผนประกันสุขภาพแบบใหม่มาใช้แทน.-สำนักข่าวไทย

ประท้วงนโยบาย ทรัมป์ ในออสเตรเลีย


ออสเตรเลีย 21 ม.ค.- ชาวออสเตรเลียราว 3,000 คน ชุมนุมประท้วงที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์คในนครซิดนีย์ ก่อนเดินขบวนไปยังสถานกงสุลสหรัฐ เพื่อประท้วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ

ชาวออสเตรเลียราว 3,000 คน ชุมนุมประท้วงที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์คในนครซิดนีย์ ก่อนเดินขบวนไปยังสถานกงสุลสหรัฐ เพื่อประท้วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กรณีนโยบายกีดกันผู้เข้าเมือง, สิทธิของชนกลุ่มน้อย และสิทธิสตรีของนายทรัมป์ ขณะที่ในวันนี้กลุ่มสตรีได้วางแผนที่จะเดินขบวนประท้วงนายทรัมป์ตามที่ต่างๆ 673 แห่งทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 2 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

สื่อเอเชียพากันวิจารณ์นโยบายแยกตัวโดดเดี่ยวของทรัมป์


โตเกียว 21 ม.ค.- สื่อในเอเชียวิพากษ์วิจารณ์นโยบายแยกตัวโดดเดี่ยวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐว่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและหว่านเพาะความแตกแยกทั่วโลก จากการย้ำระหว่างการสาบานตนว่าสหรัฐอเมริกาต้องมาก่อน

หนังสือพิมพ์โยมิอูริ สายอนุรักษ์นิยมของญี่ปุ่นตั้งคำถามว่า เคยมีรัฐบาลใหม่สหรัฐชุดใดบ้างที่เริ่มต้นด้วยการทำให้โลกเกิดความอึดอัดใจไปทั่วแทนที่จะเกิดความหวัง ดูเหมือนว่าทรัมป์พร้อมจะไม่ใส่ใจทั้งพันธมิตรและบรรทัดฐานโลกหากไม่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐ ส่วนหนังสือพิมพ์อาซาฮี สายเสรีนิยมระบุว่า ทรัมป์เป็นภัยต่อระเบียบโลกที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเย็น เพราะคนเอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างเขาอาจจะทำให้ความขัดแย้งและความแตกแยกที่เกิดขึ้นในสหรัฐแพร่กระจายไปทั่วโลก ผู้นำใหม่แห่งทำเนียบขาวจะต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงที่มาพร้อมกับคำพูดและการกระทำของตนเอง

บทบรรณาธิการฉบับต่างประเทศของไชนาเดลี หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนชี้ว่า รัฐบาลจีนควรเตรียมพร้อมรับมือกับกรณีเลวร้ายจากรัฐบาลใหม่สหรัฐและหาทางแก้ไข ขณะที่ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ของออสเตรเลียเตือนว่า ออสเตรเลียในฐานะประเทศส่งออกที่พึ่งพาทั้งสหรัฐและจีนจะเดือดร้อนหนักจากนโยบายโดดเดี่ยวตนเองของสหรัฐและสงครามการค้าระหว่างสองประเทศนี้ เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์อินเดียที่เตือนในอินเดียนเอ็กซ์เพรสว่า นอกจากจะต้องเตรียมรับมือกับสหรัฐที่ปกป้องทางการค้ามากขึ้นแล้ว อินเดียยังต้องเตรียมรับมือกับสหรัฐที่จะไม่สนใจเรื่องของประเทศอื่นด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำอัฟกานิสถานยินดีที่ทรัมป์รับปากเคียงข้างทหารอเมริกัน


คาบูล 21 ม.ค.- นายอับดุลลาห์ อับดุลลาห์ ผู้นำอัฟกานิสถานหวังว่า สหรัฐจะสนับสนุนรัฐบาลอัฟกานิสถานต่อไป หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐรับปากจะเคียงข้างทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน

นายอับดุลลาห์ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บริหารอัฟกานิสถาน ถือเป็นผู้นำร่วมกับประธานาธิบดีอัชราฟ กานีตามข้อตกลงทางการเมืองที่สหรัฐช่วยเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเมื่อปี 2557 กล่าวในงานขอรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติมูลค่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 19,470 ล้านบาท) ว่า ขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐทั้งในนามของตนเอง รัฐบาลและประชาชนชาวอัฟกานิสถาน เขาได้ชมการสนทนาทางวีดิโอลิงค์ที่ประธานาธิบดีทรัมป์รับปากกับทหารอเมริกันที่ค่ายเหนือของคาบูลว่า จะให้การสนับสนุนทหารเหล่านี้ ทำให้เขามั่นใจว่าความร่วมมือของสองประเทศจะดำเนินต่อไปในทุกด้าน

ประธานาธิบดีทรัมป์วีดิโอลิงค์คุยกับทหารอเมริกันที่ค่ายดังกล่าวระหว่างร่วมงานเลี้ยงหลังการสาบานตนรับตำแหน่งว่า จะอยู่เคียงข้างทหารไปตลอดและจะทำงานร่วมกัน พร้อมกับชื่นชมว่ามีความกล้าหาญอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทรัมป์เคยสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีกานีช่วงต้นเดือนธันวาคม แต่ไม่ได้พูดชัดเจนว่าจะให้ความช่วยเหลือทางทหารและการพัฒนากับอัฟกานิสถานต่อไปหรือไม่ รวมถึงอนาคตของทหารอเมริกันร่วม 9,000 นาย ที่ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน.-สำนักข่าวไทย

รถนักเรียนชนขอบทางในอิตาลีดับ 16 ศพ


อิตาลี 21 ม.ค.-เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารนักเรียนชาวฮังการี ชนเข้ากับขอบทางก่อนระเบิดไฟลุกท่วม โดยเหตุเกิดบนทางหลวงใกล้กับเมืองเวโรนา ของอิตาลี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน และรอดชีวิต 39 คน

ด้านตำรวจอิตาลี ระบุ รถบัสคันดังกล่าว โดยสารนักเรียนอายุระหว่าง 15-17 ปี ซึ่งเดินทางมาจากฝรั่งเศส กำลังจะไปที่กรุงบูดาเปสต์ของฮังการี ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุ ขณะที่ในจุดเกิดเหตุไม่พบรถคู่กรณีแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

เหตุระเบิดในตลาดปากีสถาน ดับ 21 คน


ปากีสถาน 21 ม.ค.- เกิดเหตุระเบิดในตลาดซึ่งมีผู้คนหนาแน่นในเขตเคอร์ราม ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน

เกิดเหตุระเบิดในตลาดซึ่งมีผู้คนหนาแน่นในเขตเคอร์ราม ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ใกล้กับพรมแดนที่ติดกับอัฟกานิสถาน เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน บาดเจ็บอีก 40 คน ขณะที่รายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุระเบิดนี้ยังคงสับสน บางแหล่งระบุว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ทำขึ้นเอง ขณะที่บางแหล่งบอกว่าเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่ที่กลุ่มตอลีบานเคยเคลื่อนไหวและมีความตึงเครียดระหว่างชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ กับนิกายชีอะห์. -สำนักข่าวไทย

คนจีนแห่เดินทางกลับบ้านฉลองตรุษจีน


คนจีนแห่เดินทางกลับบ้านฉลองตรุษจีน

จีน 21 ม.ค.-ชาวจีนเกือบ 500,000 คน โดยสารรถไฟที่สถานีรถไฟ 3 แห่งในนครเซี่ยงไฮ้กันอย่างเนืองแน่น เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด ก่อนจะถึงเทศกาลตรุษจีนในสุดสัปดาห์หน้าที่สถานีรถไฟหงเฉียวเพียงแห่งเดียว มีผู้โดยสารมากถึงเกือบ 274,000 คน คาดว่าในปีนี้จะมีชาวจีนเดินทางราว 2,980 เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่าร้อยละ 2 .-สำนักข่าวไทย

เมียนมาร์ติมาเลเซียที่จัดประชุมโอไอซีเรื่องโรฮิงญา


ย่างกุ้ง 21 ม.ค.- เมียนมาร์ตำหนิมาเลเซียที่จัดการประชุมองค์กรความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) กดดันรัฐบาลเมียนมาร์เรื่องชาวโรฮิงญาที่หนีการกวาดล้างของกองทัพเมียนมาร์ข้ามพรมแดนเข้าไปในบังกลาเทศไม่ต่ำกว่า 66,000 คนแล้ว

หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศว่า เสียใจที่มาเลเซียจัดการประชุมโอไอซีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นการฉวยโอกาสใช้วิกฤตที่เกิดขึ้นมาประชาสัมพันธ์จุดหมายทางการเมืองบางอย่าง และละเลยถึงสิ่งที่รัฐบาลเมียนมาร์ได้พยายามปกป้องชีวิตและดูแลความปลอดภัยของผู้คนไม่ให้ถูกกลุ่มสุดโต่งที่เกิดขึ้นใหม่ทำร้าย

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซักขอให้สมาชิกโอไอซี 57 ชาติ ดำเนินการเพื่อยุติโศกนาฏกรรมมนุษย์ที่ถูกตีแผ่ออกมา พร้อมกับเรียกร้องให้เมียนมาร์หยุดทำร้ายและเลือกปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญา อีกทั้งยังกล่าวถึงสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ว่า เป็นเรื่องน่าอดสูหากไม่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมนี้ ปัจจุบันมีชาวโรฮิงญาหนีภัยไปอาศัยในมาเลเซียราว 56,000 คน ปีที่แล้วมาเลเซียได้เรียกเอกอัครราชทูตเมียนมาร์เข้าพบเพื่อประท้วงเรื่องการปฏิบัติไม่ดีต่อชาวโรฮิงญา.-สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

น้ำท่วมนครศรีธรรมราช คาดพื้นที่เกษตรเสียหาย 4 แสนไร่


เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ประเมินผลกระทบน้ำท่วม พื้นที่ประสบภัย 1,276,611 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 422,805 ไร่

นายชลินทร์ ประพฤติตรง เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า พื้นที่ประสบภัยกระทบทั้ง 23 อำเภอ 164 ตำบล โดยทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราชได้มอบหมายให้เกษตรอำเภอทุกอำเภอ และเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งกรณีเร่งด่วน การเยียวยาให้ความช่วยเหลือ กรณีเสียหายโดยสิ้นเชิง และการฟื้นฟูอาชีพหลังจากน้ำลด สำหรับความเสียหายเบื้องต้น จากอุทกภัยซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่การปลูกข้าว พืชไร่ พืชสวน และอื่นๆ 1,990,770 ไร่ พื้นที่ประสบภัย 1,276,611 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 422,805 ไร่ ครัวเรือนเกษตรกรที่ประสบภัย 127,414 ครัวเรือน แบ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 167,076 ไร่ ประสบภัย 159,363 ไร่ พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 100,967 ไร่ พื้นที่ปลูกพืชไร่ 18,340 ไร่ ประสบภัย 15,889 ไร่ พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 12,151 ไร่ พืชสวนและพืชอื่น ๆ พื้นที่ปลูก 1,805,354 ไร่ ประสบภัย 1,101,359 ไร่ พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 309,687 ไร่ และได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ สำรวจความเสียหายและเร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทันที สำหรับการเปิดศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย

ด้าน การเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช จะสามารถทำให้การทำงานในพื้นที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเกษตรกรจะสามารถประสานงาน ขอรับความช่วยเหลือได้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที และหลังจากน้ำลด ทางศูนย์ฯ จะเร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เพื่อให้พืชผลทางการเกษตรต่าง ๆ อยู่รอดได้จากช่วงน้ำท่วม และจะหาแนวทางเสริมอาชีพอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือต่อไป

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

นครศรีฯฝนตกหนัก อ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 4 แห่ง เพิ่มขึ้น


ผ.อ.ชลประทานนครศรีฯ ระบุฝนหนัก 2 วัน อ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 4 แห่งในจังหวัดมีปริมาณเพิ่มขึ้น ขณะลุ่มปากพนังคาด 10 วัน ระบายหมด

นายวานิช แก้วประจุ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ฝนที่ตกลงมาในช่วงวันที่ 19-20 มกราคมที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 4 แห่งในจังหวัดมีปริมาณเพิ่มขึ้น คือ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อ.ชะอวด ความจุ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) มีน้ำส่วนเกิน 5 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน ความจุ 72 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำส่วนเกิน 2 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำคลองดินแดง อ.พิปูน ความจุ 60 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำส่วนเกิน 3 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำเสม็ดจวน ความจุ 1.7 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำน้ำเต็มความจุ ซึ่งปริมาณน้ำส่วนเกินที่ล้นทางระบายน้ำฉุกเฉินหรือ สปิลเวย์(Spill Way)นั้น ยังไม่ส่งผลกระทบต่อท้ายน้ำแต่อย่างใด โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสที่อำเภอชะอวด ขณะนี้มีน้ำล้นสปิลเวย์ที่ 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

นายยรรยง โกศลกาญจน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังบน กล่าวว่าในการแจ้งเตือนภัยของอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสนั้น จะวัดปริมาณน้ำล้นที่ฝายคลองไม้เสียบเป็นหลักหากปริมาณน้ำล้นเกินกว่า 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เจ้าหน้าที่จะแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพี่น้องประชาชนทันที ซึ่งกว่ามวลน้ำจากฝายคลองไม้เสียบไปถึงตลาดอำเภอชะอวดใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง ด้านนายเทอดศักดิ์ ลักษณะหุต ผู้แทนศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ฝนที่ตกลงมาในช่วงวันที่ 19-20 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้มีน้ำคงค้างสะสมในพื้นที่ประมาณ 584 ล้าน ลบ.ม. ต้องใช้เวลาในการระบายประมาณ 10 วัน นอกจากนี้จะมีน้ำจากพื้นที่เชิงเขา เช่น อ. ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ ลานสกา เป็นต้น ไหลลงไปสมทบอีกด้วย

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

นราธิวาสน้ำซัดถนนพัง - 2,400 ครัวเรือน ถูกตัดขาด


ผู้ว่านราธิวาส พร้อม ผบ.ฉก.นำทหารติดตั้งสะพานชั่วคราว แทนถนนที่ถูกน้ำกัดเซาะขาด ราษฎร 2,400 ครัวเรือนถูกตัดขาด

นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส เดินทางพร้อมด้วย พล.ต.วิชาญ สุขสง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส โดยได้นำชุดทหารช่างจากกองพันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15 ซึ่งมี พ.ท.วิสุทธิ์ นวลละออง ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 15 เป็นหัวหน้าชุด เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณถนนสายบ้านค่าย-อ่าวมะนาว ซึ่งตั้งอยู่ ม.2 บ.ค่าย ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะในช่วงคืนที่ผ่านมา จนทำให้ถนนถูกตัดขาดระยะทางประมาณ 8 เมตร ความลึกกว่า 2 เมตร ส่งผลให้ราษฎรที่อาศัยในพื้นที่ 3 หมู่บ้านคือ ม.1 บ.บางมะนาว ม.7 บ.ปูลากาป๊ะ และ ม.12 บ.บูกิตอ่าวมะนาว

ซึ่งอยู่ใกล้อ่าวมะนาว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.นราธิวาส รวม 2,400 ครัวเรือน ประมาณกว่า 8,000 คน เดือดร้อนอย่างหนัก ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เสมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ซึ่งชุดทหารช่างฯ ได้ทำการตรวจสอบความเสียหาย ก่อนที่จะได้นำกำลังพลเข้าทำการติดตั้งสะพานชั่วคราว ซึ่งเป็นรถสะพานเครื่องหนุนมั่น ความยาว 15 เมตร ความกว้าง 5 เมตร สามารถรับน้ำหนักได้ 15 ตัน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้ราษฎรสามารถสัญจรได้ชั่วคราว ส่วนการก่อสร้างถนนถาวรแทนที่ชำรุดนั้น

ทางด้าน พ.ท.วิสุทธิ์ หน.ชุดฯ กล่าวว่า ต้องรอทางจังหวัดนราธิวาสอนุมัติงบประมาณในการฟื้นฟู แต่คาดว่าภายในเดือนนี้จะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ และใช้เวลาในการดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์ เพื่อที่จะให้กลับเข้าสู่สภาวะปรกติโดยเร็วที่สุด สำหรับการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นไปตามโครงการกองทัพบกช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในหลายห้วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายสิทธิชัย ผวจ.นราธิวาส พร้อมด้วย พล.ต.วิชาญ ผบ.ฉก.นราธิวาส ยังได้มอบถุงยังชีพจำนวน 40 ชุด ให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้เป็นการเบื้องต้นอีกด้วย
ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

สุราษฏร์พื้นที่ลุ่มต่ำท่วม-อ.เคียนซาสูงกว่าตลิ่ง


จ.สุราษฏร์ ยังท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.เคียนซา น้ำยังสูงกว่าระดับตลิ่ง ขณะพุนพิน-บ้านนาสา-เมือง-ดอนสัก-บ้านนาเดิม ยังท่วม

ศูนย์ประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์น้ำท่วมวันนี้ (21 ม.ค.2560) ว่า จังหวัดสุราษฏร์ธานี ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ อําเภอเคียนซา อําเภอพุนพิน อําเภอบ้านนาสาร อําเภอเมือง อําเภอดอนสัก และอําเภอบ้านนาเดิม โดยอําเภอพระแสง ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.76เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นใน 1-2 วันนี้ แต่ไม่ล้นตลิ่ง อําเภอเคียนซา ระดับน้ำลดลงแต่ยังสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.29 เมตร แนวโน้มลดลง คาดต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 21ม.ค. 60 อําเภอพุนพินระดับน้ำลดลงต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.10 เมตร (เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนในบางช่วงเวลา) แต่ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม อําเภอเมือง ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าระดับไม่มีผลกระทบ

ทาง ชลประทานสุราษฎรธานี เร่งผลักดันน้ำ ตัดยอดน้ำออกสู่ทะเลทางคลองพุนพิน เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขตอําเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และได้ติดตั้ง เครื่องผลักดันน้ำ จํานวน 27 เครื่อง ที่ ปตร.คลองท่าโพธิ์ 2 เครื่อง ปตร. ไชยา 2 เครื่องและคลองบางกล้วยใหญ่ 6 เครื่อง และสะพานศรีวิชัยข้ามคลองพุนพิน 15 เครื่อง และได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือ สนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จํานวน 26 ลํา ดําเนินการติดตั้งบริเวณสะพานพระจุลฯจํานวน 16 เครื่อง และบริเวณสะพานพุนพิน จํานวน 10 เครื่อง และเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำตาปี (บริเวณร้านอาหารอาเตี่ย) จํานวน 10 เครื่อง

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

ผู้การฯนราธิวาส จับมือ ผบ.ทพ.ช่วยน้ำท่วม


ผู้การ ตร.นราธิวาส จับมือผบ.ทพ.45 นำถุงยังชีพ 200 ชุดเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยที่ระแงะ

พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เดินทางพร้อมด้วย พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 45 นำถุงยังชีพจำนวน 200 ชุด เดินทางด้วยเรือท้องแบนและเรือพายจำนวน 3 ลำเข้าไปให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.ระแงะ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสภาวะฝนที่ได้ตกซ้ำลงมาอย่างหนักอีกระลอกหนึ่ง ในห้วง 3-4 วันที่ผ่านมา โดยระดับน้ำท่วมสูง 1.50-2 เมตร ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.ระแงะ รายงานว่าพื้นที่ อ.ระแงะ ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมครั้งนี้ทั้งอำเภอรวม 7 ตำบล 61 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ต.ตันหยงมัส ต.ตันหยงลิมอ ต.เฉลิม ต.บาโงสะโต ต.กาลิซา ต.มะรือโบตกและ ต.บองอ ราษฎรเดือดร้อนจำนวนกว่า 2,000 ครัวเรือน รวมกว่า 4,000 คน

สำหรับการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้จำนวน 200 ครัวเรือน ใน 3 จุด จุดแรกคือที่ ถ.ลานไทร ซ.3 ม.1 เขตเทศบาลตันหยงมัส จุที่ 2 บริเวณมัสยิดตันหยงมัส และจุดสุดท้ายที่โรงฆ่าสัตว์ ม.7 เขตเทศบาลตันหยงมัส อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้มีการเร่งออกสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม เพื่อที่การให้ความช่วยเหลือจะได้เป็นไปอย่างทั่วถึง

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

สงขลาน้ำท่วมระลอก 4 สะบ้าย้อย อพยพ 202 คน


จ.สงขลา ถูกน้ำท่วมระลอก 4 อ.สะบ้าย้อย ต้องอพยพชาวบ้านแล้ว 36 ครัวเรือน กว่า 202 คน พื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาถูกน้ำหนุนเข้าท่วมอีกครั้ง

หลังจากที่เกิดฝนตกต่อเนื่องกันระยะนี้ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่4 เช่นที่บ้านแลแบง หมู่1 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย น้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ได้ไหลลงมาเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้และได้มีการอพยพชาวบ้านออกจากหมู่บ้านแล้ว 36 ครัวเรือนจำนวน 202 คน ไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวภายในศาลาประชาคมอำเภอสะบ้าย้อย

นอกจากนี้ น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ภายในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อยบางส่วนโดยเฉพาะเส้นทางสายสะบ้าย้อย-บ้านโหนด น้ำท่วมสูงประมาณ 50 เมตร และสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากยังมีน้ำหนุนขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับในพื้นที่4 อำเภอริมทะเลสาบสงขลาขณะนี้บางพื้นที่เริ่มถูกน้ำจากทะเลสาบสงขลาหนุนเข้าท่วมซ้ำอีกครั้งเช่นในพื้นที่ อ.กระแสสินธุ์ หลายชุมชนระดับน้ำสูงขึ้นและอยู่ในภาวะเฝ้าระวัง 10 ไฟล์แนบ

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

ยะลาฝนลดน้ำท่วมขัง 5 ตำบล-ประชาชนเดือดร้อน 2 พันคน


ปริมาณฝนยะลาน้อยลงกว่าวานนี้ ยังมีพื้นที่น้ำท่วมขัง 5 ตำบล ประชาชน เดือดร้อยกว่า 2 พันคน

คืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.ยะลา เช้าวันนี้ ยังคงมีท้องฟ้ามืดครื้มและมีฝนตกลงมา แต่ไม่หนักเหมือนเมื่อวานนี้ ทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ซ้ำซากในเขตอำภอเมืองยะลา ที่ ต.สะเตงนอก ม.3 บ้านเปาะยานิ ชุมชนหลังวัดตรีมิตร ชุมชนวิฑูรอุทิศ ยังคงมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร เนื่องจากปัญหาปริมาณน้ำที่มีสะสมจากฝนตกหนัก ระบายน้ำออกไม่ทัน

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดยะลา ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.เมืองยะลา มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม 5 ตำบล ได้แก่ ต.พร่อน ต.สะเตงนอก ต.ยุโป ต.ลำใหม่ และ ต.ท่าสาป มีประชาชนได้รับความเดือนร้อนจำนวน 2,882 คน 720 ครัวเรือน ถนน 1 สาย สะพาน 1 แห่ง ฝายกั้นน้ำ 1 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตร 566 ไร่ ที่ได้รับความเสียหาย

ด้าน ทางชลประทานยะลา ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง เขื่อนเก็บน้ำชลประทานปัตตานี ให้แจ้งเตือนประชาชนท้ายเขื่อน อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ เตรียมขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

พัทลุงน้ำกัดเซาะพนัง หลากท่วมบ้านเรือนประชาชน


พัทลุง น้ำกัดเซาะพนังกันน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน วัด พื้นที่การเกษตร อำเภอควนขนุน

สถานการณ์ฝนที่ตกลงมาหนักตลอดทั้งวันที่ผ่านมา จนล่าสุดเมื่อช่วงเย็นและค่ำที่ผ่านมาน้ำป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดพัทลุง ที่ไหลหลากลงมาจากเทือกเขาผ่านมายังพื้นที่ลุ่มน้ำคลองท่าแนะ ของ อำเภอศรีบรรพตได้ไหลลงมาท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.ชะมวง อ.ควนขนุน โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.ชะมวง ระดับน้ำท่วมสูงราว 40-50 เซนติเมตร และบางจุดกระแสน้ำไหลเชียว เนื่องจากน้ำได้กักเซาะพนังกันน้ำจนขาดทำให้น้ำได้ไหลบ่าออกจากลำคลองท่วมบ้านเรือนประชาชน และภายในบริเวณวัดล้อในท้องที่ใกล้เคียง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 พัทลุง และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารช่างที่ 402 ค่ายอภัยบริรักษ์เร่งลงพื้นที่สำรวจและเร่งให้การช่วยเหลือ พร้อมนำเครื่องยังชีพมอบให้กับพระภิกษุที่อาศัยอยู่ภายในวัดล้อที่น้ำป่าไหลหากท่วม

ในเบื้องต้นตรงพื้นที่ดังกล่าวในรอบ 1 เดือนกว่า ได้ถูกน้ำท่วมมาแล้ว 3 ระลอก และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ทำให้ชาวบ้านยังไม่ขนย้ายสิ่งของลงจากที่สูงเพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์น้ำท่วม จึงยังไม่มีผลกระทบมากนัก

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

อุตุฯ เตือน ใต้ฝนหนัก อ่าวไทยคลื่นแรง ฉบับที่ 26


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย " ฉบับที่ 26

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และในพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง ในช่วงวันที่ 21-25 มกราคม 2560 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.00 น. กรมอตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.00 น.

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8 ที่ปาปัวนิวกินี


สิงคโปร์ 22 ม.ค. – สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐมีรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวระดับ 8 ห่างไปราว 47 กิโลเมตรทางตะวันตกของเมืองอราวา บนเกาะบูเกนวิลล์ทางปาปัวนิวกินี โดยมีประกาศเตือนภัยสึนามิรวมหลายประเทศใกล้เคียง

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.30 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมาในไทย และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 40 กิโลเมตร ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกแถลงเตือนว่า อาจเกิดคลื่นสึนามิเป็นวงกว้างหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในอีกสามชั่วโมงถัดมาบริเวณพื้นที่บางส่วนตามแนวชายฝั่งปาปัวนิวกินี อินโดนีเซีย นาอูรู วานูอาตู และหมู่เกาะโซโลมอน แถลงการณ์เตือนว่า อาจมีคลื่นสูง 1-3 เมตร ตามแนวชายฝั่งปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน ส่วนประเทศอื่นๆ ใกล้เคียงอาจมีคลื่นสูงเล็กน้อย .- สำนักข่าวไทย

ยกเลิกเตือนภัยสึนามิแล้วหลังแผ่นดินไหวที่ปาปัวนิวกินี


ซิดนีย์ 22 ม.ค. – แผ่นดินไหวขนาด 7.9 ทางฝั่งปาปัวนิวกินีในวันนี้ ทำให้ต้องประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิในหลายพื้นที่บริเวณหมู่เกาะแปซิฟิกและได้ยกเลิกในเวลาต่อมา โดยเหลือเพียงที่ปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอนที่อยู่ใกล้เคียงเท่านั้น

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐได้ปรับลดระดับแผ่นดินไหวจากขนาด 8 มาอยู่ที่ระดับ 7.9 บริเวณชายฝั่งทางเหนือของเกาะบูเกนวิลล์และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 154 กิโลเมตร ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกได้ปรับแถลงการณ์ว่า อาจมีคลื่นสูง 0.3-1 เมตรตามแนวชายฝั่งปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน โดยได้ยกเลิกประกาศเตือนภัยในบริเวณใกล้เคียงที่นาอูรู วานูอาตู และอินโดนีเซียก่อนหน้านี้ ทางด้านออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ประเมินความเสี่ยงแล้วและไม่พบอันตรายหรือความเสียหายตามแนวชายฝั่ง .-สำนักข่าวไทย

รถไฟโดยสารของอินเดียตกรางเสียชีวิต 23 คน


อินเดีย 22 ม.ค.-รถไฟโดยสารของอินเดีย สายฮิรากัน เอ็กซ์เพรสส์ประสบอุบัติเหตุตกราง ที่สถานีคูเนรู เมืองวิเซียนากรัม ในรัฐอันตรประเทศทางใต้ของอินเดีย เมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 คน บาดเจ็บกว่า 50 คน

รายงานแจ้งว่าตู้โดยสารถึง 7 ตู้กระเด็นออกจากราง หน่วยกู้ภัยต้องใช้เวลาถึงเช้าวันนี้ในการตัดถ่างซากตู้รถไฟที่เสียหาย เพื่อช่วยผู้ที่ติดอยู่ในซากออกมา ขบวนรถไฟนี้แล่นจากเมืองจักดัลปุระ ในรัฐชาร์ติสการ์ ไปยังเมืองพูพาเนสวาร์ ในรัฐโอดิชา ส่วนสาเหตุระหว่างการสืบสวนการรถไฟของอินเดียมีขนาดใหญ่เป็นที่ 3 ของโลกแต่กลับมีระบบการให้สัญญาณ และระบบสื่อสารและการซ่อมบำรุงที่ย่ำแย่.-สำนักข่าวไทย

พายุทอร์นาโดพัดถล่มสหรัฐเสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน


สหรัฐ 22 ม.ค.-พายุทอร์นาโดลูกใหญ่พัดถล่ม ทางใต้รัฐมิสซิสซิปปี ของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

ขณะที่ทางการเตือนให้เตรียมรับมือพายุทอร์นาโดลูกใหม่ ที่จะพัดเข้าถล่มอีก ซึ่งอิทธิพลของพายุทอร์นาโดนั้นทำให้อาคารหลายหลังพังพินาศ เสาไฟหักโค่น รถยนต์เสียหาย รวมระยะทางราว 25 ไมล์ มีผู้บาดเจ็บ 28 คน มหาวิทยาลัยวิลเลียมแคร์รี ซึ่งได้รับความเสียหาอย่างหนักต้องอพยพนักศึกษาในหอพักไปยังที่ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

เหตุดินถล่มในจีน คาดมีผู้เสียชีวิต 12 คน


ปักกิ่ง 22 ม.ค.- เจ้าหน้าที่จีนคาดว่า มีผู้เสียชีวิต 12 คนจากเหตุดินถล่มในมณฑลหูหนาน

สื่อทางการจีนรายงานว่า หน่วยกู้ภัยยังไม่สามารถจับสัญญาณชีพผู้ติดอยู่ภายใน 10 คนที่อยู่ใต้ซากกองหินและเศษซากปรักหักพังภายหลังดินถล่มในมณฑลหูหนานเมื่อค่ำวันศุกร์ แถลงการณ์รัฐบาลท้องถิ่นในเขตนานจางระบุว่า การกู้ภัยมีอุปสรรคจากกองหิน 150 ตันที่ถล่มลงมา สื่อทางการรายงานว่า หน่วยกู้ภัยพยายามเคลื่อนย้ายกองหินและซากหักพังก่อนขุดค้นกู้ภัยต่อไป หน่วยกู้ภัยช่วยผู้รอดชีวิตออกมาได้ 5 คนจากซากหักพัง ซึ่งสองคนในนั้นเสียชีวิตที่โรงพยาบาล มณฑลหูหนานเป็นเขตภูเขาที่มีดินถล่มหลายครั้งเนื่องจากฝนตกหนัก .-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียเตรียมตัวรับมือไฟไหม้ป่าในต้นปีนี้


จาการ์ตา 22 ม.ค. – ทางการในจังหวัดริอาวของอินโดนีเซียได้ประกาศเตือนภัยฉุกเฉินไว้ก่อนเพื่อเป็นแนวทางรับมือกับไฟไหม้ป่าซึ่งอาจลุกลามจนควบคุมยากเมื่อใกล้เข้าสู่หน้าแล้งในอีกไม่กี่เดือนนี้

เมืองท้องถิ่นสองแห่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งจะปูทางให้รัฐบาลกลางสามารถส่งความช่วยเหลือมาสู่ท้องถิ่นได้ ที่ผ่านมาอินโดนีเซียประสบปัญหาลำบากในการควบคุมไฟไหม้ป่า ซึ่งเหตุไฟไหม้ป่าลุกลามครั้งใหญ่เมื่อปี 2558 ทั้งที่สุมาตราและกาลิมันตัน ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการทูตกับมาเลเซียและสิงคโปร์ประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องทนกับหมอกควันทึบปกคลุมท้องฟ้านานหลายสัปดาห์ ขณะที่ในปี 2560 นี้คาดกันว่าสภาพอากาศจะแห้งแล้งกว่าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้อินโดนีเซียต้องเตรียมรับมือวิกฤตไฟป่าล่วงหน้า .-สำนักข่าวไทย

ศรีลังกาแล้งหนัก


ศรีลังกา 22 ม.ค.-พายุฝนที่พัดถล่มภาคต่างๆ ของศรีลังกาวานนี้ ยังไม่สามารถคลี่คลายปัญหาภัยแล้งที่กำลังเผชิญอยู่ได้ หลายแห่งปริมาณฝนเมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีที่แล้วแค่เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ชาวบ้านต้องทำพิธีขอฝนตามความเชื่อ

ปีที่แล้วนั้นมีช่วงหนึ่งที่ศรีลังกาฝนตกหนักกว่า 300 มิลลิเมตรใน 3 วัน เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม หลังจากนั้นฝนก็หายไปตลอดทั้งปี ทำให้ขณะนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำ สำหรับฤดูเพาะปลูกที่จะเริ่มในเดือนมีนาคมนี้มีน้ำเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น สำนักพยากรณ์อากาศระบุว่า ภัยแล้งนี้จะมีไปจนถึงเดือนกรกฏาคม.-สำนักข่าวไทย

ไฟป่าลุกลามทั่วชิลี


ชิลี 22 ม.ค.-ชิลีต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ในการต่อสู้กับไฟป่าที่เกิดขึ้นหลายสิบแห่งถูกเผาวอดไปแล้วเกือบ 4 แสนไร่ และส่อเค้าลุกลามไปยังเมืองต่างๆ รวมทั้งโรงงาน และไร่องุ่น

นักดับเพลิงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องสนธิกำลังกันช่วยดับไฟป่ากว่า 18 แห่ง ในภาคกลางและภาคใต้ มีบ้านถูกเผาวอดไปกว่า 40 หลัง จากไฟป่าที่เกิดขึ้นกว่า 50 จุด ควันจากไฟป่า ได้พัดเข้าสู่กรุงซานติอาโก ทำให้เกิดหมอกพิษ สำนักงานป่าไม้ชิลี ระบุว่าไฟป่านี้เกิดจากน้ำมือมนุษย์ แต่ไม่อาจระบุแน่ชัดได้ว่าเป็นการกระโดยเจตนาหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดาไลลามะหวังผู้นำสหรัฐและรัสเซียจะร่วมมือกันเพื่อสันติ


นิวเดลี 22 ม.ค. – องค์ดาไลลามะผู้นำทางจิตวิญญาณทิเบตกล่าวคาดหวังว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียจะร่วมมือกันเพื่อสันติภาพโลก

ผู้นำชาวพุทธของทิเบตกล่าวในรายการที่อินเดียว่า โลกต้องการให้ผู้นำประเทศทั้งสองมีความเข้าใจกันและกัน ก่อนหน้านี้องค์ดาไลลามะกล่าวที่มองโกเลียเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า เขาไม่กังวลเรื่องที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และหวังว่าจะได้พบกันหลังจากเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายทรัมป์ได้ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐไปเมื่อวันศุกร์ .-สำนักข่าวไทย

เกิดระเบิดรถยนต์ใกล้สถานทูตอิตาลีในลิเบีย


ตริโปลี 22 ม.ค. – เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงกล่าวว่า เกิดเหตุระเบิดรถยนต์เมื่อค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นใกล้กับสถานทูตอิตาลีที่เพิ่งเปิดทำการอีกครั้งในกรุงตริโปลี

คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศท้องถิ่นมีแถลงการณ์ทางสื่อออนไลน์ว่า พบศพไหม้เกรียมสองศพในรถยนต์ และยังไม่แน่ชัดว่ากลุ่มใดก่อเหตุระเบิด รถยนต์บางคันที่จอดอยู่ใกล้เคียงพลอยได้รับความเสียหายไปด้วยจากเหตุระเบิดที่ดังไปไกลอย่างน้อยหนึ่งกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่เปิดเผยกล่าวคาดว่า คนร้ายอาจติดระเบิดไว้กับรถยนต์ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นใกล้กับกระทรวงวางแผนลิเบียและสถานทูตอียิปต์ที่ปิดทำการอยู่ และอยู่ห่างไปราว 350 เมตรจากสถานทูตอิตาลีซึ่งถือเป็นชาติตะวันตกแห่งแรกที่เปิดทำการสถานทูตในกรุงตริโปลีอีกครั้งตั้งแต่เมื่อต้นเดือน ในขณะที่สถานทูตต่างชาติส่วนใหญ่ยังคงปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2557 จากเหตุสู้รบและโจมตีในลิเบีย .-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบขาวเผยทรัมป์มีแผนพบผู้นำเม็กซิโกและอังกฤษ


วอชิงตัน 22 ม.ค. – ทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเตรียมการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษ และประธานาธิบดีเอนรีเก เปญา เนียโตของเม็กซิโกในเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นสองประเทศพันธมิตรสหรัฐที่มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายสหรัฐในยุคประธานาธิบดีทรัมป์

โฆษกทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะได้ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่กรุงวอชิงตันในปลายสัปดาห์หน้า โดยจะได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศ ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของอังกฤษ นายทรัมป์ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป(อียู) กล่าวว่า ต้องการทำความตกลงทางการค้าทวิภาคีกับสหราชอาณาจักรโดยเร็ว ประเด็นการค้ายังเป็นหัวข้อการหารือของประธานาธิบดีทรัมป์ในระหว่างพบกับผู้นำเม็กซิโก รวมถึงนโยบายผู้อพยพและความมั่นคง ซึ่งคาดว่าผู้นำสหรัฐและเม็กซิโกจะได้หารือกันวันที่ 31 มกราคมนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังต้องการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือที่ได้ลงนามร่วมกับแคนาดา และเม็กซิโกไปเมื่อปี 2537 .-สำนักข่าวไทย

มาดอนนาร่วมขบวนประท้วงทรัมป์ที่วอชิงตัน


วอชิงตัน 22 ม.ค. – มาดอนนา นักร้องเพลงป๊อปชื่อดังวัย 58 ปีมาร่วมงานโดยไม่เปิดเผยล่วงหน้าร่วมกับประชาชนนับแสนคนในกรุงวอชิงตันเพื่อแสดงพลังสตรีต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ

มาดอนนามาร่วมขบวนพร้อมกับคนบันเทิงและกลุ่มสิทธิพร้อมกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า เป็นการแสดงพลังสตรีในยุคเผด็จการ ซึ่งพวกเธอจะไม่หวาดกลัวและจะไม่ยอมรามือ โดยมีแอชลีย์ จัดด์ นักแสดงหญิงฮอลลีวู้ดมาร่วมด้วย ก่อนหน้านี้มาดอนนาช่วยนางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยหวังจะให้สหรัฐมีประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ อย่างไรก็ตามนักร้องหญิงรุ่นใหญ่ได้แสดงความผิดหวังและกล่าวโทษว่าผู้หญิงด้วยกันยังไม่ส่งเสริมผู้สมัครหญิงเลย ภายหลังจากทราบผลว่านายโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ .- สำนักข่าวไทย

กลุ่มสตรีในสหรัฐ-หลายประเทศทั่วโลกเดินขบวนต้านทรัมป์


สหรัฐ 22 ม.ค.-กลุ่มสตรีในสหรัฐและอีกหลายประเทศทั่วโลกออกมาเดินขบวนต่อต้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ

การเดินขบวนครั้งนี้เป็นกิจกรรมเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่าการเดินขบวนของผู้หญิง (Women’s March) โดยที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 200,000 คน ขณะที่ผู้จัดการบอกว่าน่าจะมีผู้เข้าร่วมมากถึง 500,000 คน ขณะที่คนดังในแวดวงต่างๆ เข้าร่วมการเดินขบวนอย่างคับคั่ง รวมถึงมาดอนนา ศิลปินชื่อดังที่ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อผู้ร่วมงาน พร้อมกับโจมตีผู้นำสหรัฐคนใหม่อย่างสาดเสียเทเสีย ผู้จัดงานนี้ชี้ว่า ต้องการเน้นถึงเรื่องสิทธิสตรีและสิทธิมนุษยชนด้านต่างๆ ซึ่งพวกเขาเห็นว่ากำลังถูกคุกคามจากรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์

นอกจากที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.แล้ว ยังมีการเดินขบวนของกลุ่มสตรีในหลายเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐ ทั้งที่เดนเวอร์ ชิคาโก ลอสแองเจลิส นิวยอร์ก และบอสตัน ส่วนในสหราชอาณาจักรก็มีผู้ร่วมเดินขบวนหลายหมื่นคนในกรุงลอนดอนและตามเมืองใหญ่อีกหลายเมืองทั่วประเทศ ทั้งที่นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย กรีซ โปรตุเกส และญี่ปุ่น โดยมีการชูป้ายประท้วงโจมตีพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่นายทรัมป์ปฏิบัติต่อสตรี ซึ่งรวมถึงทัศนคติในเชิงเหยียดเพศของเขา ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากที่เริ่มต้นภารกิจวันแรกในตำแหน่งผู้นำสหรัฐ ด้วยการลงนามคำสั่งประธานาธิบดีคำสั่งแรก

ให้หน่วยงานรัฐบาลทุกแห่งหาทางจำกัดภาระทางเศรษฐกิจและการบริหารอันเกิดจากกฎหมายประกันสุขภาพสมัยรัฐบาลบารัค โอบามา หรือที่เรียกว่า “โอบามาแคร์” แล้ว เขาได้เข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่วิหารแห่งชาติกรุงวอชิงตัน ก่อนจะเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือซีไอเอ ในรัฐเวอร์จิเนีย.-สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

น้ำท่วมทั้งปัตตานีหนักสุด 3 อำเภอ กระทบประชาชนกว่า 7 หมื่นคน


น้ำท่วมทั้ง จ.ปัตตานี ต่อเนื่อง หนักสุด 3 อำเภอ ประชาชนกว่า 70,000 คน ได้รับผลกระทบ

นายอำนาจ ผลมาตย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังเกิดฝนตกอย่างหนักในช่วง 1 - 2 วัน ที่ผ่านมา ล่าสุด ทั้ง 12 อำเภอของจังหวัดปัตตานี ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมแล้ว ประกอบด้วย อ.เมืองปัตตานี, โคกโพธิ์, หนองจิก, ปะนาเระ, มายอ, ทุ่งยางแดง, สายบุรี, ไม้แก่น, ยะหริ่ง, ยะรัง, กะพ้อ และ แม่ลาน แต่ไม่ครอบคลุมทุกตำบลโดยพื้นที่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำสายบุรี, แม่น้ำปัตตานี รวมถึงที่ลุ่มต่ำ หนักสุด คือ อ.เมือง ต.ปะกาฮะรัง อ.ยะรัง และ อ.สายบุรี วัดระดับสูงสุดประมาณ 70 - 80 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้มวลน้ำจาก จ.นราธิวาส และ ยะลา ยังคงไหลบ่ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทรงตัวอยู่ต่อไปอีก 2 - 3 วัน หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติม ระดับน้ำจะลดลงจนแห้งสนิท แต่ทั้งนี้มีรายงานว่า จะมีฝนตกลงมาอีกระลอกในวันที่ 25 - 26 ม.ค. 60 ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพรวมพบปัจจุบัน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนใน 12 อำเภอ 102 ตำบล 482 หมู่บ้าน แล้ว 22,200 ครัวเรือน หรือคิดเป็น 74,000 คน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือมอบอาหารกล่อง พร้อมขอรับการสนับสนุนน้ำดื่มสะอาด รวมถึงถุงยังชีพ สำหรับนำมามอบให้ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อน

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

มวลน้ำสะสมลุ่มปากพนัง 530 ล้านลูกบาศก์เมตร- 9 อำเภอ ยังท่วม


มวลน้ำสะสมลุ่มปากพนัง 530 ล้านลูกบาศก์เมตร เร่งผลักดันออกสู่ทะเล ขณะ 9 อำเภอยังท่วม คาด 9 วัน คลี่คลาย

นายเทอดศักดิ์ ลักษณะหุต หัวหน้าฝ่ายวิชาการศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังเกิดฝนตกระลอกใหม่เมื่อช่วงวันที่ 18 - 21 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดมวลน้ำสะสมบริเวณลุ่มน้ำปากพนังเพิ่มเติม ล่าสุดอยู่ที่ 530 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบพื้นที่ 9 อำเภอ ภายในลุ่มน้ำปากพนัง กำลังประสบภาวะน้ำท่วมขังประกอบด้วย อ.เมือง, ลานสกา และ ร่อนพิบูลย์ ตอนล่าง นอกจากนี้ ยังมีที่ อ.ชะอวด, จุฬาภรณ์, หัวไทร, เชียรใหญ่, เฉลิมพระเกียรติ และ ปากพนัง วัดระดับน้ำเฉลี่ย ประมาณ 40 - 70 เซนติเมตร เบื้องต้นทุกหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งผลักดันมวลน้ำออกสู่ทะเล คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมภายใน 9 วัน ระดับน้ำจะลดลงจนแห้งสนิท แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือความเดือดร้อนของชาวบ้านใน อ.ปากพนัง เนื่องจากเป็นจุดรับน้ำจุดสุดท้ายก่อนระบายออกสู่ทะเล จึงทำให้มวลน้ำมากองรวมกันและท่วมขังเป็นเวลานานจนกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเมื่อเกิดการแช่น้ำเป็นเวลานาน ก็จะทำให้เน่าเสียหายยืนต้นตายได้ โดยสถานการณ์น้ำท่วมระลอกนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 นับจากครั้งแรก คือเมื่อเดือนธันวาคม สืบเนื่องมาจนถึงต้นเดือนมกราคม และจวบจนถึงขณะนี้

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่สามารถเดินเครื่องผลักดันน้ำให้อยู่ในระดับปกติได้ เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงอย่างแน่นอน เพราะภาพรวมปัจจุบัน การระบายค่อนข้างเป็นไปด้วยดีไม่มีอะไรติดขัด

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

ฝนถล่มสงขลา ทำน้ำท่วมตลาดคลองแห


ฝนตกต่อเนื่องใน จ.สงขลา ทำระดับน้ำคลองแหหนุนเข้าท่วมตลาด ดินทรุดต้นไม้ใหญ่โค่นล้มทับเพิงพักนักท่องเที่ยว

ฝนตกต่อเนื่อง ใน จ.สงขลา ทำให้ปริมาณน้ำในคลองแหเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบอย่างหนักกับตลาดน้ำคลองแห ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองคลองแห อ.หาดใหญ่ เนื่องจากน้ำในคลองแหได้หนุนเข้าท่วมบริเวณท่าน้ำ ซึ่งเป็นจุดจอดเรือและทางเดินจนจมมิด นักท่องเที่ยงไม่สามารถลงไปเดินได้

นอกจากนี้ ดินยังทรุดตัวทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ริมคลองล้มลงมาทับเพิงพักของนักท่องเที่ยวเสียหาย 1 หลัง และเรือเสียหาย 3 ลำ แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดน้ำคลองแหจะถูกน้ำท่วมแต่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังคงเปิดบริการให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ ตั้งแต่เวลา 13.00 - 21.00 น. โดยในส่วนของตลาดน้ำทางเรือ ได้ขึ้นมาจำหน่ายและปรุงอาหารบริเวณริมคลองแทน และในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ทางเทศบาลเมืองคลองแห จะเริ่มเข้ามาเคลียร์พื้นที่และซ่อมแซมจุดที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะต้นไม้ที่ล้มทับเพิงพักนักท่องเที่ยว และรอให้ระดับน้ำลดลงก็จะเข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดซึ่งคาดว่าตลาดน้ำคลองแหจะกลับมาอยู่ในสภาพเดิมในช่วงสุดสัปดาห์หน้า

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

ผวจ.ยะลาลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน อ.เมือง


ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ใน อ.เมือง พร้อมมอบถุงยังชีพ - เงินช่วยเหลือ

ที่บ้านเลขที่ 38/5 หมู่ 2 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์การบริหารตำบลตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา เข้าตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมมอบพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยมอาคารแปรรูปทุเรียนทอด ซึ่งได้รับความเสียหายจากดินสไลด์ ทับบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งเป็นบ้านเงินช่วยเหลือจำนวน 25,000 บาท แก่ครอบครัว ด.ช.อัครกร นลศิริ อายุ 8 ปี ที่ได้จมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา ของ นางแยนะ สารีมา อยู่ ม.1 ต.บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมมอบเงินช่วยเหลือและถุงยังชีพอีกด้วย

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

หลายหมู่บ้านใน จ.พัทลุง ยังท่วมบางส่วนเริ่มเครียด


หลายหมู่บ้านใน จ.พัทลุง ยังไม่พ้นวิกฤติน้ำท่วม บางส่วนเริ่มมีอาการเครียด เพราะไม่สามารถประกอบอาชีพได้

สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พัทลุง ยังไม่พ้นถาวะวิกฤติ แม้ฝนจะหยุดตกแล้ว แต่หลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมสูงเป็นระลอกที่ 4 โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่ม 7 ลุ่มน้ำหลักที่มีน้ำไหลลงมาจากเขตรักษาพันสัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เขต อ.ควนขนุน อ.เมือง อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว อ.ปากพะยูน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา จากปริมาณฝนที่ตกลงมาช่วงวันที่ 18 - 20 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำลงมาเติมเต็มในพื้นที่ลุ่มดังกล่าว จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มยังคงได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ 5 อำเภอ

สำหรับมวลน้ำฝนที่ตกลงมาในรอบใหม่นี้ พบว่าได้ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวังเลน เขต ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เกิดน้ำล้นสปริลล์เวย์ต่อเนื่องถึง 3 วัน เพราะมีน้ำกักเก็บเกินความจุที่ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชลประทาน ต้องเปิดประตูน้ำเพื่อรักษาระดับ ทำให้น้ำหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนใน หมู่ 2, 7, 10 ของ ต.แหลมตะโหนด อ.ควนขนุน ชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำท่วมขังบ้านเรือน ซึ่งบางรายน้ำท่วมบริเวณบ้านมานาน จนต้องทำสะพานไม้เพื่อเดินทางเข้าออก

ด้านชาวบ้านในพื้นที่ ต.แหลมโตนด กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าน้ำจะแห้งสนิทเมื่อใด ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบาก เพราะไม่สามารถประกอบอาชีพทำสวนยางพารา ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของครอบครัวได้ ต้องทำใจโดยการเดินไปมาบนถนนแวะทักทายเพื่อนบ้านเพื่อไม่ให้ตัวเองเครียดในระยะนี้แทน

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

นครศรีฯ ยังอ่วม จับตาเชิงเขา อ.พรหมคีรี-จุฬาภรณ์


จ.นครศรีธรรมราช ยังหนักจับตา อ.พรหมคีรี-จุฬาภรณ์ พื้นที่ลาดเชิงเขา ฝนถล่ม 300 มม. ขณะลุ่มน้ำปากพนังยังอ่วมยาวถึงสิ้นเดือน ม.ค.

นายณรงค์พร ณ พัทลุง ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ล่าสุด (22 ม.ค.) ยังมีฝนตกอยู่บ้างแต่ไม่หนักเหมือน 2 วันที่แล้ว ในภาพรวมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย เหลือเพียง 8-9 อำเภอ ที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ และเนื่องจาก ในช่วงวันที่ 19-21 มกราคมที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ส่งผลให้มีน้ำไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา เช่น อ.พรหมคีรี อ.ลานสกา อ.จุฬาภรณ์ อ.นบพิตำ อ.พิปูน อ.ฉวาง

แต่ปริมาณน้ำยังน้อยกว่าช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา จึงไม่ส่งผลผลกระทบมากนัก จะมีหนักคือ อ.พรหมคีรี อ.จุฬาภรณ์ ที่ปริมาณฝนหนัก 200-300 มิลลิเมตร ส่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อย่าง อ. ปากพนัง อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทร อ.เฉลิมพระเกียรติ ยังต้องจับตาเหมือนเดิม เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำจากอำเภออื่นๆ ทั้งนี้ต้องจับตาสถานการณ์ต่อไปจนถึงวันที่ 25-26 มกราคม 2560 ที่คาดว่าจะหมดฝน แล้วจะเข้าสู่โหมดการฟื้นฟูอย่างเต็มพื้นที่ ยกเว้นพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ที่คาดว่าประมาณสิ้นเดือนมกราคมนี้ สถานการณ์จึงจะคลี่คลาย

ส่วนทาง นายเทอดศักดิ์ ลักษณะหุต ผู้แทนศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า จากฝนหนัก1-2วันที่ผ่านมา ทำให้ลุ่มน้ำปากพนังมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 584 ล้าน ลบ.ม. ต้องใช้เวลาในการระบายประมาณ 10 วัน

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

ปัตตานีฝนซา จับตาพื้นที่ท้ายน้ำ อ.เมือง-หนองจิก


จ.ปัตตานี ฝนซาลงแล้ว เหลือ อ.สายบุรี น้ำยังขัง ขณะจับตายาวถึง 25 ม.ค. อ.เมือง อ.หนองจิก พื้นที่ท้ายแม่น้ำ

นายไพโรจน์ จริตงาม ปลัดจังหวัดปัตตานี กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ล่าสุด (22 ม.ค.) คลี่คลายแล้ว และฝนตกในพื้นที่ไม่ได้มากเหมือนช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา มีเพียงพื้นที่ราบลุ่มบางส่วนที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เช่น อ.สายบุรี ที่มีการก่อสร้างขวางทางน้ำทำให้การระบายค่อนข้างข้า ซึ่งตนและนายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือแล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาสถานการณ์จนถึงวันที่ 25 ม.ค. ในพื้นที่ท้ายน้ำอย่าง อ.เมือง อ.หนองจิก เพราะแม่น้ำปัตตานี มีต้นน้ำอยู่ในเทือกเขาสันกาลาคีรี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไหลผ่านเขื่อนบางลาง ผ่านจังหวัดปัตตานีและสิ้นสุดที่อำเภอเมืองปัตตานี ไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทย อย่างไรช่วงที่ผ่านมา (3 ม.ค. 2560) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดปัตตานี ได้ประกาศพื้นที่เกิดภัยพิบัติ 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.แม่ลาน อ.ยะรัง อ.โคกโพธิ์ อ.ปะนาเระ อ.กะพ้อ อ.สายบุรี อ.มายอ อ.เมือง และ อ.ทุ่งยางแดง

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

5 เขื่อนหลักโคราช ยังน่าห่วง เหลือน้ำ 44% ชลประทานเชื่อเอาอยู่


5 เขื่อนหลักโคราช ยังน่าห่วงเหลือน้ำกักเก็บ 44% ชลประทานที่ 8 มั่นใจสามารถบริหารจัดการได้เพียงพอ

นายชิดชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนทั้ง 5 แห่ง ของ จ.นครราชสีมา ยังน่าเป็นห่วง โดยขณะนี้มีระดับน้ำเหลือเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 44 ของความจุกักเก็บ ประกอบไปด้วย เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 113 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 36 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนมูลบน อ.ครบุรี มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 68 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 125 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 79 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 55 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 98 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ ระดับน้ำดังกล่าว ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยังสามารถบริหารจัดการได้ โดยทางสำนักชลประทานที่ 8 จะเน้นบริหารจัดการเพื่อการใช้อุปโภคบริโภคเป็นหลัก เช่น การส่งน้ำไปให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จัดเก็บไว้เพื่อสำรองใช้ทำน้ำประปา ส่งน้ำให้ประปาหมู่บ้าน และบางส่วนก็จะส่งลงคลองธรรมชาติเพื่อรักษาระบบนิเวศ

ถึงอย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ทางสำนักชลประทานที่ 8 ก็จะต้องมาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือในช่วงเข้าสู่หน้าแล้งอย่างเต็มตัว ระหว่างช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ที่จะถึงนี้

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

อุตุฯเตือน ฉบับที่ 30 ภาคใต้ฝนตกหนัก-อ่าวไทยคลื่นลมแรง


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย" ฉบับที่ 30 ลงวันที่ 22 มกราคม 2560

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 22-25 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และในพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม

และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 25 มกราคม 2560 ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.00 น.

กรมอตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.00 น.

(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย
(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

เครื่องหมายไมโครชิพและกฏหมายวันอาทิตย์ (The Mark of the Beast & Sunday Law)​

เผยแพร่เมื่อ 8 มี.ค. 2015​

สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตคุณ นี่คือ เครื่องหมายสัตว์ร้ายหรือไมโครชิพและกฏหมายวันอาทิตย์(The Mark of the Beast & Sunday Law) ตามคำพยากรณ์ของพระเยซูคริสต์ใน Bible ซาตานจะใช้เครื่องหมายทางการค้าที่มีชื่อว่า "ไมโครชิพ" ตามที่ Bible เรียกว่า เป็นเครื่องหมายของสัตว์ร้าย" มาบังคับฝังในร่างกายของมนุษย์ ตามพระธรรมวิวรณ์ 13:16-17 เพราะประเทศมหาอำนาจจะไม่อนุญาตให้คนที่ไม่ฝัง สามารถทำการซื้อขายสิ่งใดๆได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายไมโครชิพนั้น คำพยากรณ์นี้กำลังจะสำเร็จแล้วในโลกใบนี้...โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.7sda.com

 

"ทรัมป์" รุกกีดกันการค้าสะเทือนโลก​

เผยแพร่เมื่อ 18 ม.ค. 2017​

 

ทรัมป์ประกาศจะเริ่มเจรจานาฟตาใหม่


วอชิงตัน 23 ม.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐรับปากจะเริ่มรื้อการเจรจาเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) ระหว่างพบหารือกับผู้นำแคนาดาและเม็กซิโกในเร็ว ๆ นี้

ประธานาธิบดีกล่าวเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีเป็นวันที่ 2 รายงานระบุว่า ทรัมป์จะต้อนรับประธานาธิบดีเอ็นรีเก เปนญา เนียโตของเม็กซิโกในวันที่ 31 มกราคม ส่วนนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดายังไม่ได้กำหนดวันต้อนรับแต่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ด้านเว็บไซต์ทำเนียบขาวได้ปรับปรุงเนื้อหาเกี่ยวกับนาฟตาทันทีที่ทรัมป์สาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ เพื่อตอกย้ำสิ่งที่ได้หาเสียงไว้ว่าจะรื้อการเจรจานาฟตาที่สหรัฐทำไว้กับแคนาดาและเม็กซิโกตั้งแต่ปี 2537 ทรัมป์ตำหนินาฟตาระหว่างหาเสียงว่าเป็นข้อตกลงการค้าเลวร้ายที่สุดเท่าที่สหรัฐเคยลงนามมา

ระเบียบนาฟตาเปิดทางให้สมาชิกสามารถถอนตัวได้ด้วยการแจ้งประเทศอื่นในกลุ่ม โดยมีเวลาในการเจรจา 180 วัน หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในเวลานั้น นาฟตาก็จะเป็นอันถูกยกเลิก แคนาดาและเม็กซิโกประกาศหลังจากทรัมป์ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีว่า พร้อมเจรจากับรัฐบาลใหม่สหรัฐเพื่อทบทวนเงื่อนไขในนาฟตา โดยแคนาดาหวังว่าจะคงนาฟตาไว้แม้สหรัฐถอนตัว.-สำนักข่าวไทย

เอ็นจีโอสหรัฐเตรียมฟ้องทรัมป์รับเงินจากรัฐบาลต่างชาติ


วอชิงตัน 23 ม.ค.- กลุ่มทนายความและนักวิจัยในสหรัฐเตรียมยื่นฟ้องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันนี้โดยกล่าวหาผู้นำคนใหม่ละเมิดรัฐธรรมนูญที่ห้ามรับเงินจากรัฐบาลต่างชาติ

กลุ่มพลเรือนเพื่อความรับผิดชอบและจริยธรรมในวอชิงตัน (CREW) แถลงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ละเมิดรัฐธรรมนูญเนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศของเขาดำเนินงานโดยอาศัยไมตรีจิตบางส่วนจากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ต่างชาติ เช่น กรณีแขกต่างชาติจ่ายเงินค่าที่พักและใช้บริการสนามกอล์ฟของทรัมป์ หรือกรณีรัฐบาลต่างชาติเช่าอสังหาริมทรัพย์ของทรัมป์ ถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญที่บัญญัติห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางรับของขวัญหรือสินจ้างจากรัฐบาลต่างชาติ

ประธานกลุ่ม CREW กล่าวว่า จำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมาย เพราะก่อนหน้านี้หวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดรัฐธรรมนูญก่อนเข้ารับตำแหน่ง ทางกลุ่มจะไม่ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย แต่จะยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางแมนฮัตตันทันทีที่เปิดศาลในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

ทรัมป์ประกาศก่อนสาบานตนรับตำแหน่งให้บุตรชายคนโต 2 คนบริหารบริษัททรัมป์ออร์แกไนเซชันในนครนิวยอร์ก แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดการวางมืออย่างชัดเจน ทำให้กลุ่มจับตาด้านจริยธรรมและพรรคเดโมแครตตำหนิ.- สำนักข่าวไทย

เผยที่ปรึกษาความมั่นคงของทรัมป์ถูกสอบเรื่องความสัมพันธ์กับรัสเซีย


วอชิงตัน 23 ม.ค.- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า นายไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังถูกหน่วยต่อต้านการสอดแนมสอบสวนเรื่องที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

นายฟลินน์ นายพลวัยเกษียณวัย 58 ปี เพิ่งสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์ อยู่ในกลุ่มคนใกล้ชิดทรัมป์ที่หน่วยต่อต้านการสอดแนมกำลังตรวจสอบเรื่องการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซีย อย่างไรก็ดี วอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุว่า ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องผลการสอบสวนหรือการสอบสวนเรียบร้อยแล้วหรือไม่

นายฟลินน์ถูกจับตาเรื่องรับเงินจากสถานีโทรทัศน์อาร์ทีของรัสเซียให้เข้าร่วมงานเลี้ยงเมื่อปีก่อน และได้นั่งโต๊ะเดียวกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า เขาได้โทรศัพท์สนทนากับนายเซอร์เก คิสลาค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐหลายครั้งในวันก่อนที่บารัค โอบามา ประธานาธิบดีในขณะนั้นประกาศมาตรการลงโทษรัสเซียจากข้อกล่าวหาเรื่องโจมตีไซเบอร์เพื่อมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ด้านนายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวและผู้อำนวยฝ่ายสื่อสารประธานาธิบดีทรัมป์ชี้แจงว่า นายฟลินน์สนทนากับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐในวันคริสต์มาสเพื่ออวยพรวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

มาดอนนาชี้แจงเรื่องพูดว่าจะระเบิดทำเนียบขาว


วอชิงตัน 23 ม.ค.- มาดอนนา นักร้องเพลงป็อปรุ่นใหญ่ชี้แจงว่า คำกล่าวที่ว่าคิดอยากระเบิดทำเนียบขาว เป็นเพียงการกล่าวเปรียบเปรยเท่านั้น เพราะเธอไม่ใช่ผู้ชอบใช้ความรุนแรง

มาดอนนาวัย 58 ปีชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่า เธอไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรง คำกล่าวของเธอระหว่างร่วมการเดินขบวนวีเมนมาร์ชในกรุงวอชิงตัน ดีซีเมื่อวันเสาร์เป็นเพียงการเปรียบเปรยเพื่อแสดงความรู้สึก 2 อย่างในเวลาเดียวกันคือความรู้สึกมีหวังกับความรู้สึกโกรธแค้นเคือง

มาดอนนากล่าวในการเดินขบวนว่า คิดเรื่องจะระเบิดทำเนียบขาวและพร้อมจัดการกับนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากนั้นได้กล่าวคำหยาบไปถึงผู้ที่คิดว่าการเดินขบวนครั้งนี้จะไม่มีผลอะไร ถ้อยคำของเธอตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์ และทำให้สถานีโทรทัศน์บางแห่งตัดสินใจยกเลิกการถ่ายทอดสดการเดินขบวนดังกล่าวทันที คลิปคำพูดของเธอถูกเผยแพร่ทั้งสดและย้อนหลัง หลายคนตำหนิเธอ หลายคนเรียกร้องให้สอบสวนเธอฐานขู่ก่อการร้าย

ผู้จัดการเดินขบวนต่อต้านผู้นำคนใหม่สหรัฐคาดว่า มีคนเข้าร่วมการเดินขบวนที่จัดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกเมื่อวันเสาร์ราว 5 ล้านคน ส่วนจำนวนผู้เข้าร่วมการเดินขบวนที่กรุงอชิงตัน ดีซีมากกว่าที่ผู้จัดตั้งเป้าไว้ที่ 200,000 คนอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการ.-สำนักข่าวไทย

มาเลเซียขอให้ทรัมป์ทบทวนยุทธศาสตร์เอเชีย


สิงคโปร์ 23 ม.ค.- นายฮิชัมมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียเรียกร้องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐให้ทบทวนยุทธศาสตร์เอเชียของเขา และขอให้สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เติมเต็มช่องว่างที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

นายฮิชัมมุดดินกล่าวต่อที่ประชุมประจำปีครั้งที่ 5 เวทีฟูลเลอร์ตันของสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษา การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสการเจรจาแชงกรีลาระหว่างวันที่ 22-24 มกราคมที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นการประชุมเจ้าหน้าที่ทหารในเอเชียแปซิฟิกและสหภาพยุโรปรวมกว่า 20 ประเทศในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ย้ำหลายครั้งว่าอาจจะลดพันธกรณีที่สหรัฐมีในต่างประเทศบางอย่าง มาเลเซียหวังว่าผู้นำสหรัฐจะทบทวนความคิดนี้เพราะเอเชียแปซิฟิกมีความสำคัญต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะเดียวกันก็อาจถึงเวลาที่อาเซียนจะต้องเติมเต็มสุญญากาศที่จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงท่าทีของมหาอำนาจ

นายฮิชัมมุดดินยังได้ใช้เวทีนี้เรียกร้องให้แก้ไขข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ด้วยวิถีทางทางการทูต เพราะการสั่งสมแสนยานุภาพทางทหารในภูมิภาคนี้ก่อให้เกิดความวิตกว่าอาจเกิดการปะทะกันโดยไม่เจตนาและจะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ทุกฝ่ายจะต้องมองข้ามความคิดที่น่าเบื่อแบบเด็ก ๆ เรื่องใครแพ้ใครชนะ เพราะสันติภาพเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมีใครสูญเสีย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเอเชียแปซิฟิกเกิดช่องว่างรอให้สันติภาพบังเกิดนานเกินไปแล้วเพราะความรู้สึกว่าต้องเลือกข้าง

รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียยังได้ย้ำสิ่งที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซักของมาเลเซียเรียกร้องต่อที่ประชุมองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) เมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องให้เมียนมาร์ยุติการเลือกปฏิบัติและทำร้ายชาวโรฮิงญาว่า ปัญหานี้จะต้องได้รับการแก้ไข ไม่สามารถซุกไว้ได้อีกต่อไป เพราะกระทบต่อชาวมุสลิมจำนวนมากและเป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างยิ่ง.-สำนักข่าวไทย

พายุกระหน่ำภาคใต้สหรัฐ เสียชีวิต 18 คนแล้ว


แทมปา 23 ม.ค. – สภาพอากาศอันตรายช่วงสุดสัปดาห์ในเขตภาคใต้ของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนแล้ว โดยที่รัฐจอร์เจียมีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 12 คนเมื่อวานนี้ ภายหลังพายุฝนและทอร์นาโดกระหน่ำหลายรัฐ

นายเนธาน ดีล ผู้ว่าการรัฐจอร์เจียทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 7 เมืองของพื้นที่ทางตอนกลาง-ใต้ โดยเตือนว่าสภาพอากาศเลวร้ายจะยังคงอยู่ต่อไปซึ่งจะทำให้เกิดลมกระโชกแรงและน้ำท่วมในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐจอร์เจียในวันนี้ จึงขอให้ประชาชนทั้งหมดในรัฐจอร์เจียระมัดระวังตัวและป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สิน พายุพัดในรัฐจอร์เจียทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คนภายหลังจากทอร์เนโดกระหน่ำในรัฐมิสซิสซิปปีเมื่อวันเสาร์ มีผู้เสียชีวิต 4 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บกว่า 50 คน และบ้านเรือนเสียหาย 480 หลังในมิสซิสซิปปี สถานีพยากรณ์อากาศแห่งชาติออกประกาศเตือนอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันในเมืองโรมและคาลฮูนวันนี้ และแนะนำให้ชาวบ้านอพยพไปอยู่ในพื้นที่สูง .-สำนักข่าวไทย

คาดว่าภาคเหนือจีนต้องฉลองตรุษจีนท่ามกลางหมอกควัน


ปักกิ่ง 23 ม.ค.- ทางการจีนคาดว่าจะมีหมอกควันทึบปกคลุมกรุงปักกิ่งและพื้นที่ทางภาคเหนือในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง หลังจากเคยเผชิญหมอกควันพิษปกคลุมจนทำให้การจราจรโกลาหล ระงับเที่ยวบิน และปิดท่าเรือ

ศูนย์สังเกตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติรายงานทางโปรแกรมวีแชทของทางการว่า ภาวะมลภาวะเลวร้ายจะครอบคลุมพื้นที่ 4 มณฑลทางภาคเหนือของจีน ซึ่งรวมถึงมณฑลเหอเป่ยใกล้กรุงปักกิ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันพฤหัสบดี แม้คาดว่าคุณภาพอากาศจะดีขึ้นเล็กน้อยในวันที่ 27 มกราคม แต่จะเลวร้ายลงอีกในวันถัดไป ซึ่งเป็นวันปีใหม่ของจีนและอาจมีหมอกทึบปกคลุมทั่วภูมิภาค ในช่วงที่ประชาชนหลายร้อยล้านคนทั่วประเทศจะเดินทางกลับภูมิลำเนากันครั้งใหญ่ เพื่อเยี่ยมครอบครัวและเพื่อนฝูงระหว่างเทศกาลตรุษจีน ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะมีการเดินทางกันเกือบ 3,000 ล้านครั้ง .- สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้ย้ำต้องเร่งตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธเพราะภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ


โซล 23 ม.ค. – นายฮวาง คโยอัน รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าววันนี้ว่า การประจำการระบบป้องกันภัยขีปนาวุธของสหรัฐในเกาหลีใต้จะล่าช้าอีกต่อไปไม่ได้แล้ว จากภัยคุกคามนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและแม้จีนไม่เห็นด้วยก็ตาม

ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้และสหรัฐแถลงร่วมกันว่า การนำระบบป้องกันขีปนาวุธ(ทาด)มาติดตั้งในเกาหลีใต้ เพื่อสกัดภัยคุกคามนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ แต่จีนย้ำว่าเรดาร์จากระบบทาดอาจเจาะผ่านเข้ามาในดินแดนของจีนได้ ทำให้มีเสียงเรียกร้องจากผู้นำฝ่ายค้านเกาหลีใต้บางส่วนที่ต้องการให้ชะลอหรือยกเลิกการติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธสหรัฐในดินแดนของเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตามนายฮวางแถลงกับผู้สื่อข่าวว่า เกาหลีเหนือเพิ่มขีดความสามารถทางนิวเคลียร์และพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธนิวเคลียร์ได้มากขึ้น จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาเจรจาปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือแล้ว รักษาการผู้นำเกาหลีใต้กล่าวตอบคำถามเกี่ยวกับท่าทีของจีนที่ไม่เห็นด้วยในการติดตั้งระบบทาดว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลบ้างและอาจต้องมีเวลาในการจัดการปัญหาดังกล่าว หลังจากเกาหลีใต้คาดว่าจีนอาจมีการตอบโต้ต่อการติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธทาด .- สำนักข่าวไทย

พบอีก 4 ศพ จากอาคารสูงในเมืองหลวงอิหร่านพังถล่ม หาไม่พบกว่า 20 คน


เตหะราน 23 ม.ค.- คณะเจ้าหน้าที่อิหร่านกู้ศพได้อีก 4 ศพจากเหตุอาคารสูงเก่าแก่ในกรุงเตหะรานพังถล่มเมื่อสัปดาห์ก่อนหลังไฟไหม้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 7 คนแล้ว และยังหาตัวไม่พบอีกกว่า 20 คน

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเผยกับสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า กู้ศพได้อีก 4 ศพบริเวณชั้นใต้ดินของอาคารปลาสโกและส่งไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดูแนวโน้มแล้วไม่น่าจะพบผู้รอดชีวิตจากเหตุไฟไหม้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ทำให้อาคารพังถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาขณะที่สื่อหลายแห่งกำลังรายงานข่าว เนื่องจากความร้อนจัดทำให้ไฟปะทุขึ้นอีกในช่วงที่เจ้าหน้าที่กำลังรื้อถอนซากอาคาร อาคารพังถล่มขณะที่มีผู้อยู่ในอาคารมากถึง 30 คน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดับเพลิงชั้นบน

อาคารปลาสโกสูง 17 ชั้นสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2505 ในยุคที่เศรษฐกิจอิหร่านเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นอาคารสูงที่สุดของกรุงเตหะรานในขณะนั้นและถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ ชั้นล่างเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ ชั้นบนเป็นร้านอาหารและมีโรงงานเสื้อผ้าหลายแห่ง นายกเทศมนตรีกรุงเตหะรานเผยว่า ผู้ดูแลอาคารเพิกเฉยต่อคำเตือนของทางการหลายครั้งเรื่องโครงสร้างอาคารทรุดโทรมและไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุรถไฟด่วนอินเดียตกรางเพิ่มเป็นกว่าร้อยคนแล้ว


นิวเดลี 23 ม.ค.- เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทมส์ของอินเดียรายงานวันนี้ว่า เหตุรถไฟด่วนตกรางเมื่อกลางดึกวันเสาร์มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 39 คน บาดเจ็บ 67 คน

รถไฟด่วนสายหิราขัณฑ์เอ็กซ์เพรสเดินทางจากรัฐฉัตตีสครห์มุ่งหน้าไปรัฐโอริสสาตกรางใกล้สถานีรถไฟในรัฐอานธรประเทศเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตู้ขบวนตกราง 7 ตู้ ในจำนวนนี้สามตู้พังเสียหายหนัก ผลการสอบสวนเบื้องต้นชี้ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากความบกพร่องของรางรถไฟ ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นการก่อวินาศกรรม

ด้านสำนักข่าวพีทีไอรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยอาจขอให้สำนักงานสอบสวนแห่งชาติ (เอ็นไอเอ) ซึ่งกำลังสอบสวนว่าหน่วยข่าวกรองปากีสถานเกี่ยวข้องในเหตุรถไฟด่วนสายอินดอร์-ปัฏนาตกรางเมื่อปีก่อนหรือไม่พิจารณาเรื่องนี้ไว้ในการสอบสวนด้วย.-สำนักข่าวไทย

ชาวโคลอมเบียประท้วงต่อต้านคว่ำกฎหมายห้ามสู้วัวกระทิงในเมืองหลวง


โบโกตา 23 ม.ค. – ตำรวจในกรุงโบโกตาของโคลอมเบียเปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงนับพันคน ที่ชุมนุมต่อต้านยกเลิกกฎหมายห้ามสู้วัวกระทิงในเมืองหลวง

ก่อนหน้านี้ ทางการกรุงโบโกตามีการออกกฏหมายห้ามสู้วัวกระทิงในเมืองเมื่อปี 2555 แต่ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาให้คว่ำกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยระบุว่าการสู้วัวกระทิงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโคลอมเบีย และประเพณีดังกล่าวไม่สามารถปิดกั้นได้ บรรดาผู้ประท้วงคำตัดสินของศาลตั้งสิ่งกีดขวางและขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ตำรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ขว้างระเบิดแสงและใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงมีการจับกุมผู้ประท้วงหลายคน นักศึกษาในกลุ่มผู้ประท้วงรายหนึ่งกล่าวว่า เขาไม่ได้กำลังประท้วงประเพณีการสู้วัวกระทิงเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงกำลังประท้วงการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่และเพื่อสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมประท้วง

ด้านผู้ว่าการคนปัจจุบันของกรุงโบโกตากล่าวว่า เขาสนับสนุนบรรดานักเคลื่อนไหวปกป้องสิทธิสัตว์ แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากปฏิบัติตามคำสั่งของศาล ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนประเพณีการสู้วัวกระทิงออกมาเยาะเย้ยผู้ประท้วง โดยระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองอย่างชัดเจน และว่า พวกเขามีสิทธิที่จะเรียกร้องให้มีการนำประเพณีต่อสู้วัวกระทิงกลับมาภายใต้เสรีภาพการแสดงออกเช่นกัน.- สำนักข่าวไทย

ชาวเม็กซิโกชุมนุมปิดกั้นพรมแดนฝั่งสหรัฐ ประท้วงรัฐบาลขึ้นราคาน้ำมัน


ตีฮัวนา 23 ม.ค. – กลุ่มผู้ประท้วงชาวเม็กซิโกชุมนุมปิดถนนบริเวณด่านพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ต่อต้านนโยบายขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาลประธานาธิบดีเอนรีเก เปญา เนียโต

ผู้ชุมนุมราว 50 คนรวมตัวปิดทางเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองโอเทเมซ่า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างเมืองแซนดีเอโกของสหรัฐและเมืองตีฮัวนาของเม็กซิโก นอกจากนี้ ยังมีการปิดถนนข้ามพรมแดนมุ่งไปทางใต้ที่เขตแซนอิซิโดรหลายชั่วโมง รวมถึงที่เมืองโนกาเลสในรัฐแอริโซนาของสหรัฐ ส่งผลให้หน่วยงานทางการของสหรัฐต้องสั่งปิดเส้นทาง และปรับเส้นทางจราจร อย่างไรก็ตาม การเดินทางจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐยังคงเปิดตามปกติ

ทั้งนี้ เหตุประท้วงปิดกั้นพรมแดนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตำรวจในรัฐโซโนลาของเม็กซิโกต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงการปรับขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาลบริเวณพรมแดนติดกับเมืองโนกาเลส. -สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียรวบกลุ่มพัวพันไอเอสที่ถูกส่งมาจากตุรกี


จาการ์ตา 23 ม.ค. – ตำรวจอินโดนีเซียจับกุมตัว 17 คนที่สงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ภายหลังจากทางการตุรกีส่งตัวกลับมาเนื่องจากวิตกว่าพวกเขาต้องการเดินทางเข้าซีเรีย

ที่ผ่านมาชาวอินโดนีเซียหลายร้อยคนซึ่งเดินทางไปเข้าร่วมกลุ่มไอเอสในตะวันออกกลางเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลว่ากลุ่มคนหัวรุนแรงเหล่านี้อาจกลับมาก่อเหตุโจมตีเมื่อเดินทางกลับประเทศตนเอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียแถลงว่า กลุ่มคนดังกล่าวซึ่งรวมถึงเด็กหลายคนถูกรวบตัวที่ท่าอากาศระหว่างประเทศกรุงจาการ์ตาเมื่อวันเสาร์ ภายหลังเดินทางมาด้วยเที่ยวบินจากนครอิสตันบูลของตุรกี ทางการตุรกีมีความสงสัยว่ากลุ่มคนดังกล่าววางแผนเดินทางเข้าซีเรียในพื้นที่ที่กลุ่มไอเอสครอบครองอยู่ จึงได้ตัดสินใจส่งตัวกลับอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียกล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้มีความพัวพันกับไอเอส โดยกำลังตรวจสอบเครือข่ายจัดหาคนและให้ทุนสนับสนุน .-สำนักข่าวไทย

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนพุ่งแตะ 731 ล้านคน


ปักกิ่ง 23 ม.ค. – ศูนย์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแห่งประเทศจีน (ซีเอ็นเอ็นไอซี) เผยจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนพุ่งสูงแตะ 731 ล้านคนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เนื่องจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซกระตุ้นให้ชาวจีนมีการบริโภคออนไลน์มากขึ้น

ซีเอ็นเอ็นไอซีแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 จากช่วงสิ้นปี 2558 และเท่ากับจำนวนประชากรในยุโรปทั้งภูมิภาค จากเดิมที่เป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลกอยู่แล้ว อันเป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายส่งเสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโครงการ “อินเทอร์เน็ตพลัส” ของรัฐบาลที่ต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตด้วยการบริโภคในประเทศและส่งเสริมบทบาทของเทคโนโลยีออนไลน์ แม้ว่าจะคุมเข้มเรื่องเนื้อหาบนโลกออนไลน์และบล็อกไม่ให้เข้าสู่เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง เฟซบุ๊กและกูเกิลก็ตาม

ซีเอ็นเอ็นไอซีระบุว่า จำนวนผู้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือมีมากถึง 695 ล้านคน หรือเท่ากับร้อยละ 95.1 ของทั้งหมด นอกจากนี้ข้อมูล ณ วันที่ 12 ธันวาคมปีที่แล้วยังแสดงให้เห็นว่า มีผู้ใช้บริการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ 475 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาร์ขอเวลาแก้วิกฤตโรฮิงญา


สิงคโปร์ 23 ม.ค.- ทางการเมียนมาร์ขอเวลาประชาคมโลกในการแก้ไขวิกฤตชาวโรฮิงญา ท่ามกลางกระแสวิตกว่ากลุ่มติดอาวุธอาจฉวยโอกาสจากวิกฤตโรฮิงญา

พล.ร.ต.มินต์ เน รัฐมนตรีช่วยกลาโหมเมียนมาร์กล่าวต่อที่ประชุมประจำปีครั้งที่ 5 เวทีฟูลเลอร์ตันของสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษา การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสการเจรจาแชงกรีลาระหว่างวันที่ 22-24 มกราคมที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นการประชุมเจ้าหน้าที่ทหารในเอเชียแปซิฟิกและสหภาพยุโรปรวมกว่า 20 ประเทศในวันนี้ว่า รัฐบาลเมียนมาร์ตระหนักดีว่ามีกระแสวิตกเรื่องข่าวที่แพร่กระจายในวงกว้างเกี่ยวกับสถานการณ์ในรัฐยะไข่ที่ชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ รวมทั้งลงโทษผู้กระทำผิด รัฐบาลไม่ให้อภัยผู้ละเมิดสิทธิของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ จะดำเนินคดีทางกฎหมายทันทีที่มีหลักฐาน ทั้งเมียนมาร์และประชาคมโลกควรมุ่งหาทางออกที่ยั่งยืนให้กับปัญหานี้ ขอเวลาให้รัฐบาลเมียนมาร์เพื่อให้ความพยายามหาทางออกที่ยั่งยืนให้แก่ปัญหาที่ซับซ้อนนี้เห็นผล

รัฐมนตรีช่วยกลาโหมเมียนมาร์กล่าวเรื่องนี้หลังจากนายฮิชัมมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียกล่าวสุนทรพจน์ในเวทีเดียวกันวันนี้ว่า สถานการณ์ในรัฐยะไข่หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องอาจถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ฉวยประโยชน์เพราะกลุ่มนี้กำลังหาทางสร้างฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความเป็นไปได้ที่น่ากลัวนี้จะนำมาซึ่งความสูญเสียที่ลุกลามนอกภูมิภาค ดังนั้นปัญหาโรฮิงญาจะเป็นบททดสอบความเป็นเอกภาพของอาเซียนที่จะต้องได้รับการแก้ไข ไม่สามารถซุกไว้ได้อีกต่อไป เพราะกระทบต่อชาวมุสลิมจำนวนมากและเป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างยิ่ง.-สำนักข่าวไทย

คูเวตประกาศภาวะฉุกเฉินจากน้ำมันรั่วทางชายฝั่ง


คูเวต 23 ม.ค. – บริษัทน้ำมันแห่งชาติของคูเวตประกาศภาวะฉุกเฉินต่อกรณีน้ำมั่นรั่วในแหล่งขุดเจาะน้ำมันทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

บริษัทคูเวตออยแถลงวันนี้โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าแหล่งน้ำมันใดรั่วไหลมาตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวของทางการคูเวตรายงานว่า คือแหล่งน้ำมันอัล-มักวา บริษัทน้ำมันแถลงว่ายังไม่มีแนวโน้มว่ามีก๊าซพิษรั่วไหล และไม่ได้เผยรายละเอียดว่าน้ำมันรั่วไหลปริมาณเท่าใด คูเวตซึ่งเป็นสมาชิกองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ สำนักข้อมูลพลังงานสหรัฐกล่าวว่า คูเวตผลิตน้ำมันดิบราว 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีน้ำมันสำรองมากเป็นอันดับหกของโลก เมื่อเดือนสิงหาคมคูเวตเผยนำมันรั่วที่แหล่งน้ำมันอาห์มาดี ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ก่อนนั้นมีน้ำมันรั่วและไฟไหม้แหล่งน้ำมันอีกแห่ง .-สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

แผ่นดินไหว อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ 2 ครั้ง ขนาด 2.8 และ 1.7 ริกเตอร์


แผ่นดินไหว อ.แม่วาง เชียงใหม่ 2 ครั้ง ขนาด 2.8 และ 1.7 ริกเตอร์ ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานวันที่ 23 มกราคม 2560 ได้เกิดแผ่นดินไหว ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ 2 ครั้ง โดยเมื่อเวลา 11.18 น. วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 2.8 ตามมาตราวัดริกเตอร์ ความลึก 4 กิโลเมตร และในเวลา 11.03 วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 1.7 ตามมาตราวัดริกเตอร์ ความลึก 10 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

สงขลาคลื่นแรงหนุนน้ำเข้าท่วมชุมชนชาวเลเก้าเส้ง


คลื่นลมทะเลอ่าวไทย ใน จ.สงขลา มีกำลังแรง หนุนทะเลเข้าท่วมชุมชนชาวเลเก้าเส้ง ทำชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

จากอิทธิพลของมรสุมระลอกใหม่ ทำให้คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น เริ่มส่งผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งของ จ.สงขลา โดยเฉพาะที่ชุมชนชาวเลเก้าเส้ง เขตเทศบาลเมืองสงขลา คลื่นได้ซัดน้ำทะเลทะลักเข้าคลองสำโรง และหนุนเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนเก้าเส้งที่อยู่ติดคลองสำโรง รวมทั้งถนนตามตรอกซอกซอย ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าออกภายในชุมชน ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำ และสถานการณ์น้ำท่วมอาจยืดเยื้อต่อไปอีก 2 - 3 วัน เนื่องจากสภาพคลื่นลมในทะเลยังคงมีกำลังแรงและคลื่นซัดเข้าคลองสำโรงตลอดเวลา ขณะที่ชาวประมงในชุมชนเก้าเส้งยังคงหยุดทำการประมงชั่วคราว พร้อมนำเรือเข้ามาหลบคลื่นในคลองสำโรงจากภาวะคลื่นลมที่ยังคงมีกำลังแรง

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

อุทกภัยพัทลุงทำเจ้าของวัวควายยังเดือดร้อน


จ.พัทลุง เจ้าของวัวควายยังเดือดร้อน จังหวัดทุ่มงบ 12 ล้านบาท จัดซื้อหญ้าหมัก แต่ไม่สามารถแก้ได้ เนื่องจากวัวควายไม่กิน

เกษตรกรเจ้าของสัตว์เลี้ยงวัวควาย ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ท้องที่ อ.เมือง และ อ.ควนขนุน ยังคงได้รับความเดือดร้อน หญ้าสำหรับเลี้ยงวัว ควายในพื้นที่ขาดอย่างหนัก บวกกับน้ำจมแปลงหญ้าจนไม่สามารถนำมาให้ วัวควายกินได้ จนเจ้าของวัวในพื้นที่ ม.7 ต.ชัยบุรี อ.เมือง ต้องนำเรือออกไปตัดหญ้าที่จมน้ำเพื่อนำมาให้วัวที่เลี้ยงไว้ได้กินประทังชีวิต แม้ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง จะทุ่มงบจำนวน 12 ล้านบาท เพื่อซื้อหญ้าหมักแจกจ่ายให้กับเกษตรกร แต่เมื่อซื้อมาให้เจ้าของวัว ควายกลับพบว่าหญ้าหมักที่มีส่วนผสมของเศษพืชเศษผักที่ผสมกากน้ำตาล มีรสเปรี้ยวจัด และมีกลิ่นเหม็นหืน ทำให้เมื่อนำไปให้วัวและควายกิน กลับไม่ยอมกินหญ้าหมักที่ทางจังหวัดจัดซื้อและนำมามอบให้เกษตรกร

โดยเจ้าของวัวบางราย ระบุว่า เสียดายงบประมาณที่ซื้อหญ้าหมักของจังหวัด แทนที่จะซื้อหญ้าแห้งหรือฟางอัดฟ่อน แจกจ่ายเกษตรกรเจ้าของวัวเพื่อพอประทังช่วงน้ำท่วม หญ้าหมักที่จัดซื้อมาแจก ขณะนี้ทำได้แค่เอาไปทิ้งตามต้นไม้เพื่อบำรุงดินเท่านั้น

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

ศิษย์เก่า ซ.ค.จัดหน่วยแพทย์อาสา-โครงการชั่งหัวมัน


สมาคมศิษย์เก่าคณะเซนต์คาเบรียล - จังหวัดเพชรบุรี จัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ฯ ณ โครงการชั่งหัวมัน

ณ โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี สมาคมศิษย์เก่าคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย จัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ให้บริการรักษา พระภิกษุ นักเรียน ประชาชน ใน 3 อำเภอ คือ อ.ท่ายาง แก่งกระจาน และ ชะอำ รวมทั้งมอบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้กับโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ

นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายกกฤษฎา แก้วสองเมือง ปลัดจังหวัดเพชรบุรี นายชนินท์ ทิพย์โภชนา ผู้จัดการโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ให้การต้อนรับ นายดุละดิลก ดุละลัมพะ นายกสมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียลและนายกสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย นายพนัส อัสสรัตนกุล เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ตลอดจนคณะที่ปรึกษา กรรมการสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนและนักเรียน เข้าร่วมทุกปี

นายดุละดิลก กล่าวว่าในทุก ๆ ปี เราจะจัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ ให้บริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ประชาชนมีความเป็นอยู่ยากไร้ การคมนาคมไม่สะดวกต่อการเข้าถึงระบบสาธารณสุข โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคมาทำการตรวจรักษาให้กับประชาชนโดยไม่คิดว่าใช้จ่าย ครั้งนี้เป็นปีที่ 2 ที่มาดำเนินการในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยในครั้งแรกได้มาให้บริการในเขตอำเภอหนองหญ้าปล้อง ส่วนในครั้งนี้ให้บริการในพื้นที่ 3 อำเภอ ของจังหวัดเพชรบุรี ได้แก่ อ.ท่ายาง อ.ชะอำ และ อ.แก่งกระจาน สามารถให้บริการได้ถึง 1,200 คน โดยแบ่งการบริการเป็น 4 รอบ เช้าและบ่ายให้บริการตรวจรักษาโรค จ่ายยา เอ็กซเรย์ วัดสายตาประกอบแว่นจากร้านหอแว่น และบริการแพทย์ทางเลือก

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

สุราษฎร์ยังจม 3 อำเภอ พื้นที่ลุ่มต่ำ อ.เคียนซา น้ำยังสูง


จ.สุราษฎร์ธานี ยังจม 3 อำเภอ พื้นที่ลุ่มต่ำ อ.เคียนซา น้ำยังสูง กรมชลประทาน คาดต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 26 ม.ค. นี้

ศูนย์ประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์น้ำท่วมวันนี้ (23 ม.ค.2560) ว่า จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.เคียนซา อ.พุนพิน และ อ.บ้านนาเดิม โดย อ.พระแสง ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.57 เมตร มีแนวโน้มลดลง, อ.เคียนซา ระดับน้ำลดลงแต่ยังสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.13 เมตร แนวโน้มลดลง คาดต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 26 ม.ค. 60, อ.พุนพินระดับน้ำลดลงต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.11 เมตร (เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนในบางช่วงเวลา) แต่ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม, อ.เมือง ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าระดับไม่มีผลกระทบ

ทาง ชลประทานสุราษฎรธานี เร่งผลักดันน้ำ ตัดยอดน้ำออกสู่ทะเลทางคลองพุนพิน เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขตอําเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และได้ติดตั้ง เครื่องผลักดันน้ำ จํานวน 27 เครื่อง ที่ ปตร.คลองท่าโพธิ์ 2 เครื่อง ปตร. ไชยา 2 เครื่องและคลองบางกล้วยใหญ่ 6 เครื่อง และสะพานศรีวิชัยข้ามคลองพุนพิน 15 เครื่อง และได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือ สนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จำนวน 26 ลำ ดำเนินการติดตั้งบริเวณสะพานพระจุลฯ จำนวน 16 เครื่อง และบริเวณสะพานพุนพิน จำนวน 10 เครื่อง และเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำตาปี (บริเวณร้านอาหารอาเตี่ย) จำนวน 10 เครื่อง

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

นราฯยังท่วม 9 อำเภอ-คาดโกลก น้ำต่ำกว่าตลิ่ง 25 ม.ค.


นราธิวาสยังท่วม 9 อำเภอ ขณะกรมชลประทานคาด อําเภอสุไหงโก-ลก น้ำจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 25 ม.ค. นี้

ศูนย์ประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์น้ำท่วมวันนี้ (23 ม.ค.2560) ว่า จ.นราธิวาส ยังมีพื้นที่น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมลุ่มน้ำโก-ลก - ลุ่มน้ำบางนรา - ลุ่มน้ำสายบุรี รวม 9 อำเภอ ได้แก่อ.เมือง อ.ระแงะ อ.จะแนะ อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.แว้ง ทางกรมชลประทาน คาดการณ์ ว่า อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ระดับน้ำวัดได้ 9.77 ม. สูงกว่า ระดับตลิ่ง 1.57 เมตร และวันนี้มีแนวโน้มลดลงคาดว่าระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 25 ม.ค. 60

ทั้งนี้ โครงการชลประทานนราธิวาส สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และขนาด 12 นิ้ว 4 เครื่อง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเขตโครงการขนาด 8 นิ้ว จำนวน 5 เครื่องและขนาด 10 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ร่วมกับสูบน้ำด้วยสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า จำนวน 6 สถานี เพื่อช่วยระบายน้ำในพื้นที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางนรา สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง และขนาด 8 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

ลุ่มน้ำปากพนังยังอ่วม เร่งดันน้ำ 588 ล้านลูกบาศก์เมตร


ลุ่มน้ำปากพนัง ยังทรงเหลือน้ำ 588 ล้านลูกบาศก์เมตร 4 อำเภอหลัก ยังจมกว่าครึ่งเมตร ระดม 112 เครื่อง สูบน้ำ - 70 เครื่องดันน้ำสู้

ศูนย์ประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนครศรีธรรมราชวันนี้ (23 ม.ค.2560) ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตรอบนอกเทศบาลนครศรีธรรมราช เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง (อ.ปากพนัง อ.เชียรใหญ่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ชะอวด) ยังคงมีน้ำท่วมขัง 0.40 - 0.50 เมตร ในที่ลุ่มต่ำก่อนออกสู่ทะเล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 588 ล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำจำนวน 112 เครื่อง ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 69 เครื่อง

เครื่องจักรเปิดทางน้ำ จำนวน 1 คัน รถขุดแบคโฮ จำนวน 2 คัน เครื่องปั่นไฟ จำนวน 1 เครื่อง รถบรรทุกขนเครื่องจักร จำนวน 1 คัน รถบด จำนวน 1 คัน ช่วยเหลือที่โครงการอ่างเก็บน้ำคลองดินแดงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.พิปูน และได้รับการสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแก้ไขปัญหาอุทกภัย จำนวน 70 เครื่อง จากกองทัพเรือติดตั้งบริเวณ ปตร.ชะอวด - แพรกเมือง จำนวน 30 เครื่อง และ ปตร.ฉุกเฉิน จำนวน 20 เครื่อง เพื่อเป็นการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร คลองระบายน้ำของกรมชลประทาน และคลองธรรมชาติ

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

อ.สะบ้าย้อย น้ำท่วมยังไม่พ้นวิกฤติ น้ำสูงเกือบ 1 เมตร


น้ำท่วมในพื้นที่บ้านแลแบง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งถูกน้ำท่วมรอบที่ 4 ยังไม่พ้นวิกฤติบางจุดระดับน้ำยังสูงเกือบ 1 เมตร

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หมู่ 1 บ้านแลแบง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งถูกน้ำท่วมรอบที่ 4 มาตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่พ้นวิกฤติน้ำยังท่วมขังบ้านเรือนของชาวบ้าน โดยเฉพาะจุดที่อยู่ใกล้กับคลองเทพาน้ำยังท่วมสูงเกือบ 1 เมตร และมีชาวบ้านประมาณ 20 ครัวเรือน ซึ่งต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 ส่วนอีก 32 ครัวเรือนกว่า 200 คน ยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวภายในศาลาประชาคมอำเภอสะบ้าย้อยมา 3 วัน

ล่าสุดทาง พ.ต อ.กองทัพ เสนาทิพย์ ผกก.สภ.สะบ้าย้อย พ.ต.ท.วิจิตร ยกทรัพย์ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.วีระชาติ ศีรี สวป ร่วมกับ นายมณฑล ไทยสมบูรณ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย พนักงานเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ลงพื้นที่โดยใช้เรือนำเครื่องยังชีพและน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ยังถูกน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำที่ท่วมในพื้นที่บ้านแลแบงเริ่มลดลงเรื่อย ๆ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์น่าจะดีขึ้น

ส่วนน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อยขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปรกติแล้วและมีการจัดกิจกรรมบิ๊กคลินนิ่งทำความสะอาดเมืองทั้งถนนและบ้านเรือนของชาวบ้านที่เสียหายจากน้ำท่วม

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

พัทลุงน้ำยังท่วมขังหมู่บ้านริมทะเลสาบสงขลา


จ.พัทลุง น้ำยังคงน้ำท่วมขังพื้นที่หมู่บ้านริมทะเลสาบสงขลา ขณะที่เจ้าหน้าที่ลงสำรวจฟื้นฟูบ้านผู้ประสบภัย

จากสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จังหวัดพัทลุงติดต่อยาวนานและเป็นระลอกที่ 4 นั้น ขณะนี้น้ำยังคงท่วมขังพื้นที่หมู่บ้านริมทะเลสาบสงขลา 5 อำเภอ คือ อ.ควนขนุน อ.เมือง อ.บางแก้ว อ.ปากพะยูน และ อ.เขาชัยสน จำนวน 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน 4,691 ครัวเรือน และมีผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้รับความเดือนร้อนจำนวน 13,541 ราย ซึ่งหมู่บ้านติดทะเลสาบดังกล่าวระดับน้ำยังสูงประมาณ 50 เซนติเมตร บางพื้นที่หมู่บ้านระดับท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ซึ่งน้ำจากด้านบนได้ไหลลงสู่พื้นที่หมู่บ้านริมทะเลสาบเพิ่มเติม และน้ำที่ท่วมขังได้ไหลลงสู่ทะเลสาบอย่างช้า ๆ เนื่องจากมีสภาพน้ำทะเลหนุน และเมื่อวานที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีคลื่นซัดเข้าฝั่งหนักกว่าทุกวันที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนผู้ประสบภัยติดริมทะเล ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะชาวบ้านจำนวน 30 ครอบครัว ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.ชัยบุรี อ.เมือง ที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิมระลอกที่ 3 วันนี้ต้องขนย้ายสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงมากว่าเดิม เนื่องจากน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ไหลลงมาเติมเมในพื้นที่เป็นระลอกที่ 4

ขณะที่จังหวัดพัทลุงเร่งฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่ง นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพัทลุง เร่งสำรวจความเสียหายที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัยบริเวณริมทะเลสาบ โดยเฉพาะหมู่ที่ 3 บ้างจงเก ต.จองถนน อ.เขาชัยสน ซึ่งมีสภาพบ้านได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมมากที่สุดจำนวนหลายครัวเรือน เนื่องจากถูกน้ำซัดพัง และจากการสำรวจเสียหายทั้งหมดพบว่ามีจำนวน 98 หลัง ในจำนวนดังกล่าวบ้านพังเสียหายทั้งหลังจำนวน 5 หลัง ซึ่งจะได้รับช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านหลังละไม่เกิน 60,000 บาท สำหรับวันนี้สภาพท้องฟ้ายังมืดครึ้ม และมีสภาพฝนตกประปราย เกือบทุกพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

องคมนตรีลงพื้นที่สุราษฎร์ฯ มอบถุงยังชีพ


องคมนตรีลงพื้นที่สุราษฎร์ฯ เยี่ยมเยียนและมอบถุงยังชีพ แก่ประชาชนและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เดินทางไปยังศูนย์บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ส่วนหน้า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้คำแนะนำในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยและให้กำลังแก่ผู้ปฏิบัติงาน จากนั้น นายพลากร เดินทางไปเยี่ยมเยียนสร้างขวัญกำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย จำนวน 2 ครอบครัว ประกอบด้วย ครอบครัว ด.ญ.รุ่งรัศมี แก้วเรียง อายุ 11 ปี บ้านเลขที่7/2 หมู่ที่ 5 ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเสียชีวิตจมน้ำระหว่างทางกลับบ้าน ห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2560 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และเสียชีวิตในวันที่ 9 มกราคม 2560 และครอบครัว นางนงค์เยาว์ ฆาร อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 12. ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเสียชีวิตจมน้ำ น้ำป่าไหลหลากพัดพารถตกน้ำ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่ประสบอุทกภัย จึงได้พระราชทานความห่วงใย กำลังใจ และความช่วยเหลือต่าง ๆ มายังพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีนำความห่วงใยของพระองค์ท่าน มาให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนให้สู้กับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น เยี่ยมปลอบขวัญครอบครัวผู้สูญเสีย เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือระยะยาว พระองค์ท่านจะไม่ทอดทิ้งประชาชนเป็นอันขาด

ทั้งนี้ ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งจากเหล่ากาชาด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีการมอบเงินช่วยเหลือเพื่อเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นแล้ว

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

อุตุฯเตือนใต้ตอนล่าง เฝ้าระวังฝนตกหนักถึง 25 ม.ค.นี้


อธิบดีกรมอุตุฯ เตือน ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนตกหนัก เฝ้าระวังถึง 25 มกราคมนี้ ขณะที่ภาคเหนือ อีสาน อุณภูมิลดลง

นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สภาพอากาศช่วงสัปดาห์นี้ภาคใต้ ยังคงมีฝนตก โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง จากจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจังหวัดที่ยังคงเป็นห่วง อาทิ จ.นครศรีธรรมราช จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.ยะลา ที่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ แต่ปริมาณฝนเริ่มลดลงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้เฝ้าระวังฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 23 - 25 มกราคม 2560 นี้

ส่วนภาคเหนืออากาศเย็น 24 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิลดลง2 - 3 องศา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นลดลงจากเดิม 3 - 4 องศาเซลเซียส ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนเล็กน้อยในบางพื้นที่ ในช่วงเช้าอากาศเย็นเล็กน้อย

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

จับตาเตือนภัย "ใต้ตอนล่างฝนหนัก-ตอนบนหนาวจัด"​

เผยแพร่เมื่อ 22 ม.ค. 2017​

สภาพอากาศในระยะนี้น่าจับตามองเลยทีเดียว เพราะหลายจุดมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น พื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะทางตอนล่างยังต้องเผชิญกับฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงอีกครั้ง รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามได้ในจับตาเตือนภัย