เรื่องเด่น พระเจ้าจักรพรรดินั้นก็คือรัชกาลที่ ๑๒ ของยุคของรัตนโกสินทร์เรานี้ในอนาคตนั่นเอง

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Proud&Prime, 23 ธันวาคม 2016.

  1. Proud&Prime

    Proud&Prime Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    38
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +74
    ในรัชกาลสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีผู้เฒ่าเล่ากันต่อๆ มาว่า ในรัชกาลที่ ๑ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก วันหนึ่งเวลาเย็น ขณะที่ท่านประทับอยู่ ณ ตำหนัก ท่านได้ตรัสต่อพระโหราว่า

    3985.png

    “ฉันจะให้ท่านพยากรณ์โชคชะตาของกรุงรัตนโกสินทร์ว่า ต่อไปเบื้องหน้าจะเป็นอย่างไร”

    พระโหราจึงกราบทูลว่า

    “พระอาญาไม่พ้นเกล้า การถวายคำพยากรณ์โชคชะตาของกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นเรื่องสำคัญจำจะต้องตรวจการพยากรณ์ด้วยความระมัดระวัง ต้องใช้เวลาถึง ๓ วันจึงจะกราบทูลถวายคำพยากรณ์ได้”

    รัชกาลที่ ๑ ชื่อว่า มหากาฬ
    รัชกาลของพระองค์นี้มืดมาก พระองค์ไม่รู้ที่จะดำเนินรัฐประศาสนโยบายของประเทศไปในทางไหนดี เพราะเป็นระยะเริ่มก่อสร้างกรุง

    รัชกาลที่ ๒ ชื่อว่า พาลยัคฆ์
    ผู้ที่รับมอบสืบราชสมบัติต่อจากพระองค์ จะเป็นพระเต้าแผ่นดินที่อ่อนแอ ไม่มีความสามารถในการปกครอง

    รัชกาลที่ ๓ ชื่อว่า รักมิตร
    จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงโปรดที่จะทำสัญญาผูกสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศอย่างมาก

    รัชกาลที่ ๔ ชื่อว่า สถิตย์ธรรม
    จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงพอพระทัยฝักใฝ่ในทางธรรม และพระพุทธศาสนาอย่างมาก

    รัชกาลที่ ๕ ชื่อว่า จำแขนขาด
    จะมีการเสียดินแดนให้แก่ต่างประเทศด้วยความจำใจ

    รัชกาลที่ ๖ ชื่อว่า ราชโจรัญ
    จะมีพระราชาที่เปรียบเสมือนโจร คือพระเจ้าแผ่นดินที่จับจ่ายใช้สอยทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาก

    รัชกาลที่ ๗ ชื่อว่า ทันฑ์ทุกข์
    จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่มารับเคราะห์หนักตลอดรัชสมัย ผู้คนพลเมืองต้องประสบกับภาวะ “ข้าวยากหมากแพง” ผู้คนอดอยาก แร้นแค้นด้วยสภาวะเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑ และผลสืบเนื่องมาจากการฟุ้งเฟ้อในรัชกาลก่อน มีการปลดข้าราชการออกเพราะไม่มีเงินเบี้ยหวัด เงินปีให้ เป็นสมัยที่เริ่มให้ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงร้องทุกข์ แสดงความคิดเห็นจนกระทั่งมีการกระทำที่รุนแรงถึงขั้น ปฏิวัติยึดอำนาจ ให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์ มาเป็นประชาธิปไตย จนในที่สุดพระองค์ต้องทรงสละราชสมบัติ และเสด็จไปสวรรคต ณ ต่างประเทศ

    รัชกาลที่ ๘ ชื่อว่า ยุคทมิฬ
    ยุคที่มีเรื่องเลวร้ายหลายประการ เช่น สงครามโลก การเสียชีวิตของ ร.8 และการครองอำนาจโดยเผด็จการทหาร ที่ต่อเนื่องไปถึงต้นยุครัชกาลที่ 9 จนเกิดกรณี 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 ประชาชาติจะต้องเสียสละทรัพย์สมบัติและเลือดเนื้อ เพื่อรักษาไว้ของส่วนใหญ่อันเป็นที่รัก

    รัชกาลที่ ๙ ชื่อว่า ถิ่นสกาว
    ผู้ที่สืบสันตติวงค์ราชสมบัติต่อมา จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่มีบุญญาธิการ ประเทศเจริญรุ่งเรือง คือยุครัชกาลปัจจุบันที่ได้รับอารยธรรมตะวันตกมามาก วิทยาการตะวันตกเฟื่องฟูในประเทศไทย รวมทั้งมีการติดต่อกับชาวต่างชาติอย่างกว้างขวาง

    รัชกาลที่ ๑๐ ชื่อว่า ชาวศรีวิไล
    ประชาชนพลเมืองจะถึงซึ่งอารยธรรมอันแท้จริงในยุคนี้ ประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรื่องยิ่ง ทั้งทางวิยาการ เศรษฐกิจ และ จริยธรรม

    พวกมิจฉาทิษฐิและอธรรมจะเสื่อมสิ้นไป หากไม่ตายด้วยคมหอกคมดาบ ก็จะต้องตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ เพราะเป็นยุคของอารยชนที่มีจิตใจเป็นธรรมเท่านั้น

    ยุคที่ ๑๑ ชื่อว่า ไทยมหารัฐ
    ประเทศจะเป็นมหาอำนาจในยุคนี ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของนานาชาติทางด้านสันติภาพ นานาชาติต่างมาเจรจาสันติภาพสงบศึกการรบที่เมืองไทย จะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก มีเทคโนโลยีทางการแพทย์เจริญที่สุดในโลก และเป็นศูนย์การท่องเที่ยวของโลก โดยจะบังเกิดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เกิดขึ้น ผู้คนจะหลั่งไหลมาที่นี่เพื่อชื่นชมสิ่งนี้ ไทยจะเป็นศูนย์กลางศาสนาพุทธของโลก

    ยุคที่ ๑๒ ชื่อว่า จักรพรรดิราช
    พระเจ้าแผ่นดินจะเป็นถึงสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ในยุคนี้ พระราชาองค์นี้ จะมีบารมีพิเศษ เสด็จจุติมาจากสวรรคาลัยชั้นดุสิต เขตบรมพระโพธิสัตว์ ทรงมีบารมีมากกว่าผู้นำประเทศคนใดในโลก ในตอนนั้นประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจทางวัฒนธรรม นานาชาติจักให้ความเคารพยำเกรงยิ่งกว่าประเทศที่มีอาวุธทรงพลานุภาพ ภาษาไทยจะเป็นภาษากลางของโลก


    ขอบคุณที่มาจาก btsstation.com, รวมพลคนไม่มีสี..ปกป้องพ่อของแผ่นดิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2017
  2. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +2,177
    ขอบคุณ:)
     
  3. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คือ ไอ้ข้อ ๗ เนี่ยะ โหรในยุคนั้น รู้ว่า โลกจะมีสงครามโลกครั้งที่ ๑ เลยเหรอ
    ผมว่าน่าจะเป็นโหรแถวนี้ละมั้ง (ยุคสมัยรัชกาลที่ ๑ ไม่น่าจะมีใครรู้จักคำว่า สงครามโลก)
     
  4. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ข้อ ๘ นี่ก็อีก ทำไมโหรในยุคนั้นถึงได้รู้เรื่อ ๑๔ ตุลาด้วย รู้ขนาดนั้นเลยเหรอ
    ยังงั้น ก็คงรู้เรื่อง พฤษภาทมิฬ ด้วยกระมัง อะไรจะแม่นขนาดนั้น แม่นกว่านอสตราดามุสซะอีก
     
  5. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    วิเคราะห์ว่า เรื่อง สงครามโลกครั้งที่ ๑ กับ เรื่อง ๑๔ ตุลานี้ ไม่ใช่คำพูดของโหรในยุคนั้น แต่เป็นคำพูดของคนเขียนที่เป็นคนในยุคหลังใส่เข้าไปเอง
     
  6. มาพบพระ

    มาพบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    643
    ค่าพลัง:
    +1,973
  7. Chadil Chulinrak

    Chadil Chulinrak บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เราคงอยู่ไม่ถึง และคงไม่อยากมาเกิดอีก โลกน่าเบื่อจะตาย
     
  8. Swang Saisueb

    Swang Saisueb บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    สาธุ. ขอพระพุทธศาสนาอยู่คู่ประเทศไทยตลอดกาลนานเถิด
     
  9. BawDear Seethong

    BawDear Seethong บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    โมทนาสาธุกับท่านด้วย
     
  10. คิมเล้ง ลิ้ม

    คิมเล้ง ลิ้ม บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    แค่สงสัยนะครับ

    ก่อนนั้นเห็นแค่ถึง ร.10 บ้างก็ว่าจากโหร บ้างก็ว่า จากสมเด็จโต ปัจจุบันทำไมมีเพิ่มมาเฉยเลย
     
  11. Ittikorn Ole

    Ittikorn Ole บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณครับ...ผมรักเมืองไทยและสรรเสริญพระพุทธศาสนา..
     
  12. Paiboon Kaew

    Paiboon Kaew บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    นี่คือข้อความและสำนวนของโหรในแผ่นดินรัชกาลที่1 หรือครับ เหมือนนักเขียนสมัยปัจจุบันเลยทีเดียว
     
  13. Pukky Monthika

    Pukky Monthika บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เคยได้ยินครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือ ท่านกล่าวไว้ ทำนองคล้ายๆ แบบนี้ แต่ท่านไม่เจาะลึกถึงยุคไหน
     
  14. Porrapat Petchdamrongskul

    Porrapat Petchdamrongskul บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่ใช่ไม่อยากให้เกิดนะ

    แต่ ร.11 ร.12 นี่อยู่ดีๆ โผล่มาจากไหน ข้อมูลโคตรมั่วเลย
     
  15. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เคยอ่านลพ.ฤาษีลิงดำท่านกล่าวว่า สมเด็จรัชกาลที่5คือพระโพสัตว์ที่บารมีมากที่สุดในเหล่าพระโพธิสัตว์

    รบกวนท่านผู้รู้ชี้แจงด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

     
  16. เทพ ปราชญ์เลข

    เทพ ปราชญ์เลข บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    บารมีระดับท่าพระเจ้าจักรพรรดิต่างหาก จำไว้ยุคที่มีพระพุทธเจ้าเกิดก่อนพระเจ้าจักรพรรดิจะไม่ค่อยเกิดซ้อนเทียบรัสมีครับ เพราะเกรงใจพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นเอกในโลกครับ
     
  17. รณวีร์ ตันยา

    รณวีร์ ตันยา บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ดีครับจะได้สยบข่าวลือเรื่องพระเจ้าจักรพรรดิปลอมเสียทีครับ
     
  18. Tayukorn Booniem

    Tayukorn Booniem บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เคยได้ยินแค่10 รัชกาล 11,12มาไง ผมว่าแปลกๆนะ
     
  19. จตุรงค์ ล่วงสูงเนิน

    จตุรงค์ ล่วงสูงเนิน บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่ใช่จบที่รัชกาลที่10คับไปหาอ่านให้มันลึกซึ้งกว่านี้น่ะครับรัชกาลที่10ขึ้นไปสยามจะเป็นเมืองศรีวิไลครับรัชกาลที่10ครับขึ้นไป
     
  20. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ให้สังเกตที่ข้อความของเขา คือเขาบอกว่า
    "ทรงมีบารมีมากกว่าผู้นำประเทศคนใดในโลก"
    เขาไม่ได้บอกว่า มีบารมีมากกว่าพระโพธิสัตว์ด้วยกัน
    หรือไม่ได้บอกว่า"ทรงมีบารมีมากกว่าพระโพธิสัตว์องค์ใดในโลก"
    เพราะฉะนั้น ข้อความก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน จึงไม่จำเป็นต้องอธิบาย
    อันนี้เราต้องพยายามฝึกสังเกต ความต่างของภาษา
    ที่แม้จะฟังอย่างผิวเผินแล้วจะคล้ายกัน แต่อันที่จริงต่างกัน
    พวกที่แพ้คดีความกันในศาล ก็เพราะไม่ฟังและไม่อ่านข้อความโดยรอบคอบ
    ก็หลงกลภาษากฏหมาย ที่พูดผิดไปแค่คำเดียวก็ทำให้แพ้หรือชนะคดีได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...