อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ช่วงนี้ผมกลับมาชื่นชอบพระกริ่ง หรือรูปหล่ออุดกริ่งอีกแล้ว

องค์ไหนไม่หล่อ หรือไม่อุดกริ่ง คุณปู ก็รู้ใช่ไหม...ว่าต้องส่งไปให้ผมเป็นวิทยาทาน
หวังว่าคงเห็นชอบตามน้้นนะครับ....

 

แบบนี้ก็ได้หราา


​

 

ประคำหลวงพ่ออุตตมะ หนึ่งในสุดยอดวิชา หนึ่งในวัตถุมงคลที่สร้างชื่อให้แก่หลวงพ่อเป็นอย่างมาก เกิดประสบการณ์มากมายในหลายๆด้าน กล่าวชานกันว่า ค้าขายดีมีกำไร กันไฟกันฟ้า ผีบ้าหนีหาย ป้องกันสรรพอันตรายทั้งปวง หลายท่านแม้ไม่ได้คล้องคอไว้ ก็มักคล้องไว้ที่หน้ารถเพื่อคุ้มครองให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ

ประคำของหลวงพ่อมีหลายแบบอาทิ ผงปั้น ไม้มงคล งาช้าง กระดูกช้าง หยก และที่ถือเป็นสุดยอดประคำของหลวงพ่ออุตตมะคือ ประคำถัก ทำมาจากกระดาษสาตัดเป็นชิ้นเล็กๆลงอักขระ แล้วถักเชือกหุ้มไว้ บางเส้นก็จะลงรักเคลือบไว้ก็มี ประคำถักนี้นานๆหลวงพ่อจะนำมาออกให้บูชาเสียทีหนึ่ง ว่ากันว่าประคำถักนี้หลวงพ่อนำมานับด้วยบทอิติปิโสรัตนมาลาทุกวันทุกเส้น จนกว่าจะนำมาออกให้บูชา

เมื่อครั้งที่ผมได้มาพบกับคุณอา วรพร ในใจคิดว่าคุณอา ท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดติดตามหลวงพ่อมานาน คงจะใช้ประคำแบบพิเศษในการนับในการสวดบูชาพระ แต่คุณอากลับบอกผมว่า ท่านใช้ประคำแบบธรรมดานี่แหละ สมัยนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก

เมื่อกาลเวลาผ่านไป พรรษาเริ่มแก่กล้าจึงเริ่งเข้าใจในสิ่งที่คุณอาบอก การที่เรานับถือครูบาอาจารย์ หากเป็นครูบาอาจารย์ที่เราเลื่อมใสศรัทธาอย่างถึงที่สุดแล้ว ของสิ่งใดที่ผ่านมือผ่านการอธิษฐานจิตมาแล้วย่อมดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะรุ่นแรกหรือรุ่นหลัง หรือต่อให้เป็นรุ่นที่ไม่ทัน ขอให้ทำพิธีกันอย่างถูกต้องโปร่งใสบริสุทธิ์ใจ ก็สามารถบูชากันได้อย่างมั่นใจ อย่างคุณอาวรพร ท่านคงได้เห็นเรื่องอจินไตยจากหลวงพ่อมานับไม่ถ้วน ศรัทธาในหลวงพ่อคงไม่ต้องพูดถึง เรียกว่าทุกลมหายใจเข้าออกคงนึกถึงแต่หลวงพ่อท่าน แบบนี้ไม่ต้องคล้องวัตถุมงคลก็ยังได้​

 

ประสบการณ์ประคำหลวงพ่ออุตตมะ

ประคำหลวงพ่ออุตตมะท่านสร้างเอาไว้มามายทั้งที่วัดเองและที่อื่นมาขอบารมีท่านสร้าง แต่ประคำเป็นของดูได้ยากหน้าตาเหมือนๆกัน ปัจจุบันยากที่จะบอกว่าทันท่านหรือใช่ของท่านหรือเปล่า หากใครอยากได้บูชาก็ไปกราบสังขารหลวงพ่อท่านที่วัดมีแจกให้แก่ทุกคน วันนั้นที่ไปที่วัดเย็นมากแล้วและคนเยอะมาก ทัวร์มาลงพอดี เลยไม่ทันได้ถามพระท่านว่าทันหลวงพ่อท่านหรือเปล่า แต่อย่างที่เล่าไปแล้วอยู่ที่จิตของเรา ได้มาแล้วหมั่นนับหมั่นบูชา "นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ มะอะอุ อุอะมะ" จิตย่อมสื่อตรงถึงองค์หลวงพ่อท่าน ทำได้แบบนี้ทันหรือไม่เป็นเรื่องเล็ก ความสุขสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลย่อมบังเกิดแก่ตัวท่านอย่างแน่นอน









จากศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 339​

 

tee_tores

ที่ลงภาพมานี่ ให้ผมเลือกเอาใช่ไหมครับ......

 

เลือกเซฟไปได้เลยครับผม

 

เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผมได้ไปสอบถามผู้ที่ทันหลวงพ่อรุ่ง ทันมากบ้างน้อยบ้าง เป็นเรื่องเล่าที่ผู้อาวุโสเล่าให้ผู้เยาว์อย่างผมฟัง

ผมได้รวบรวมและคัดกรอง และนำมาบันทึกไว้หวังว่าจะเป็นอนุสรณ์ และเผยแผ่เรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หากข้อความบันทึกเรื่องใด

ผิดพลาดไปกระผมขออภัยและได้โปรดแนะนำด้วยเทอญ

ในปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ที่สร้างภายหลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะเริ่มแรกที่วัตถุมงคลปี2533 ได้รับความนิยมมานานแล้ว เพราะมีประสบการณ์กล่าวถึงกันมากหลาย โดยเฉพาะตั้งแต่การปลุกเสก

ผมเองจะได้เห็นได้ฟังผู้ที่มาสะสมวัตถุมงคลของหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลายๆท่าน มักจะถามกันว่า พิธีปลุกเสกเหรียญหลวงพ่อรุ่ง ปี2533

มีฟ้าผ่าจริงไหม ฟ้าลงโบสถ์ ผ่าลงในพิธี ฯลฯ ตามแต่จะสงสัยกันไป และคำตอบที่ผมได้ฟังก็ไม่ค่อยจะตรงกัน บ้างก็ว่ามี บ้างก็ว่าไม่มี

บ้างก็ว่าแค่ฟ้าแล่บ ฯลฯ

วันนี้เรามาอ่านเรื่องเล่า จากผู้ที่มีส่วนสร้าง ผู้ที่ร่วมพิธีในตอนนั้นกันครับ

เรื่องนี้ผม หนึ่ง สมุทรสาคร ได้รับความกรุณาจากคุณลุงสมาน ผู้ที่เป็นกรรมการวัดในตอนนั้นเล่าให้ฟังครับ.....

ภายหลังจากที่หลวงพ่อรุ่ง มรณภาพในปี2500 หลวงพ่อหยัด กตปุญฺโญ ก้ได้เป็นเจ้าอาวาสต่อมา จนถึงปี2531 หลวงพ่อหยัดมรณภาพลง

หลวงพ่อมหาจำนงค์ ก็ได้เป็นเจ้าอาวาสต่อมา ในปี2532 ขณะนั้น วัดท่ากระบือ มีสภาพทรุดโทรมมาก กุฏิ ศาลา ที่ทำด้วยไม้ ชำรุด

ผุ หลังคารั่ว ฯลฯ ทางคณะกรรมการวัดในขณะนั้น (มีท่าน อ.ทองสุข ครูใหญ่ ร.ร.วัดท่ากระบือเป็นหัวหน้า คุณลุงสมานเป็นเหรัญญิก และมีท่านอื่นๆอีก)

ได้ปรึกษากันว่า ต้องซ่อมแวมวัด แต่ว่าวัดไม่มีเงินเลย จะทำอย่างไรกันดี จึงปรึกษากันว่าจะทำวัตถุมงคล ขึ้นมา เพื่อนำรายได้มาซ่อมแซม

และตกลงกันว่าให้ทำวัตถุมงคลขึ้นมา โดยจะต้องไปจุดธูปบอกหลวงพ่อรุ่ง ในวิหาร กันเสียก่อนที่จะทำ

เมื่อแรกทำ ทางวัดไม่มีเงินแม้แต่จะไปสั่งทำวัตถุมงคล จึงแก้ปัญหาโดยการ เปิดให้จองเหรียญทองคำ และขอเก็บเงินเต็มราคาเลย

เพื่อจะนำมาเป็นทุนก่อน และจะออกใบรับไว้ให้ แต่เมื่อเปิดให้จองแล้วเงินที่ได้ก็ยังไม่พอ

ทางเจ้าของโรงหล่อ (ขออนุญาติสงวนนามเพราะไม่ได้ขออนุญาติท่านโดยตรง) จึงบอกว่าเงินที่ขาดจะออกให้ก่อน เมื่อวัดให้เช่าวัตถุมงคล

มีเงินได้แล้วค่อยนำมาให้

ซึ่งในการนี้ทางกรรมการวัดเอง ค่อนข้างหนักใจเหมือนกัน เพราะหลวงพ่อรุ่ง มรณภาพไปแล้วถึง 30กว่าปี ไม่รู้ว่าเมื่อทำวัตถุมงคลออกมาแล้ว

คนจะสนใจหรือไม่ แต่ก็ได้ลงมือทำต่อไป

หลังจากนั้นจึงได้จัดเตรียมพิธีปลุกเสกโดย นิมนต์พระคณาจารย์ดังนี้

1.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม

2.หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า กาญจนบุรี

3.หลวงพ่อดี วัดสุวรรณาราม นครปฐม

4.หลวงพ่อเกลี้ยง วัดวิสุทธิโสภณ ศรีสะเกษ

5.หลวงพ่อ วัดดอนยายหอม นครปฐม

โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดสุทัศน์

โดยคุณลุงสมานได้รับหน้าที่ไปนิมนต์ หลวงพ่อเปิ่น มาปลุกเสก และเป็นองค์จุดเทียนชัย

จัดพิธีในวันศุกร์ที่21 กันยายน 2533 (ตรงกับงานปีของหลวงพ่อ)

เมื่อถึงเวลาที่กำหนด หลวงพ่อเปิ่นจุดเทียนชัย พระคณาจารย์เริ่มเข้าสมาธิเพื่อปรกปลุกเสกวัตถุมงคล

บรรยากาศเริ่มมืดครึ้ม มีลมแรงพัดเป็นระยะ เริ่มมีสายผนโปรยปราย หนักสลับเบา คุณลุงสมาน ซึ่งอยู่ในพิธี

ได้เอาสัปทนมากางบังสายฝนให้หลวงพ่อเปิ่น เพราะพิธีปลุกเสกนี้ทำในวิหารหน้ารูปหล่อหลวงพ่อรุ่ง วิหารหลังนี้มี(หลังที่2)ขนาดไม่ใหญ่นัก

นอกจากกางสัปทนแล้วคุณลุงยังต้องระแวดระวัง เหรียญทองคำหลวงพ่อรุ่ง ปี33 ที่อยู่ก้นขันหัวสิงห์ด้วย เพราะทางกรรมการวัดได้นำเหรียญ

หลวงพ่อรุ่งปี33 เนื้อต่างๆ ใส่ในขันหัวสิงห์ขนาดใหญ่ พันรอบด้วยสายสิญจน์ โยงไปยังรูปหล่อหลวงพ่อรุ่ง โดย มีเหรียญทองคำจำนวนร้อยกว่าเหรียญ

ใส่อยู่ก้นขัน มีคนรู้ไม่กี่คนเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย

ในระหว่างที่พระคณาจารย์ทั้งห้า ได้บริกรรมปลุกเสกนั้น ทั้งลมทั้งฝนก็โปรยปราย สลับกับเสียงฟ้าคำราม ครืนครันไปทั่ว

แล้วในจังหวะหนึ่งมีสายฟ้าแล่บแปลบปลาบ พร้อมเสียงฟ้าผ่าดังกึกก้อง ฟ้าได้ผ่าต้นไม้ บริเวณปากคลองวัดท่ากระบือ ไฟดับลงทันที



คุณลุงสมานได้เล่าถึงนาทีฟ้าผ่าว่า...

ในขณะที่กางสัปทนให้หลวงพ่อเปิ่น สายตาก็จับจ้องอยู่ที่ ขันหัวสิงห์ ที่ใส่เหรียญทองคำไว้ เพราะได้รับมอบหมายให้ระแวดระวัง

เกรงเหรียญทองคำจะสูญหาย

ในวินาทีที่ฟ้าผ่าลงนั้น มีแสงแล่บแปลบปลาบ ตามด้วยเสียงฟ้าผ่าดังกึกก้อง แสงฟ้าผ่านั้นจับไปที่ขันหัวสิงห์ แว่บ ตูม ไฟดับทันที

คุณลุงเล่าว่า "ฟ้าลงแรงมันเหมือนลงขันหัวสิงห์ แสงแว่บแล้วไฟดับทันที ในใจก็คิดว่าฟ้าคงผ่าลงที่ขันหัวสิงห์กระมัง

เหรียญทองคำมิละลายหมดหรือนี่"

ไฟดับไม่นานก็ติดขึ้น หลวงพ่อเปิ่นได้พูดกับคุณลุงว่า

"ลงไปแล้ว"

คุณลุงได้ถามหลวงพ่อเปิ่นด้วยความสงสัยว่า "อะไรหลวงพ่อ"

หลวงพ่อเปิ่นได้ตอบคุณลุงว่า

"อภินิหารไง เห็นไหม ลงไปแล้ว "

เมื่อเห็นคุณลุงทำท่างง หลวงพ่อเปิ่นจึงได้กล่าอีกว่า "ท่านแสดงอภินิหาร"

แล้วหลวงพ่อเปิ่นก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก และนังปรกต่อไปจนใกล้ห้าทุ่ม จึงเลิก ทำการโปรยข้าวตอกดอกไม้ พรมน้ำมนต์ เป็นอันเสร็จพิธี

ภายหลังพิธีหลวงพ่อเปิ่นได้กล่าวกับคุณลุงว่า

"ทำน้อยไป แค่นี้ไม่พอหรอก"

คุณลุงได้ตอบว่า "ได้แค่นี้ก็ดีแล้วครับ วัดไม่มีเงินเลย หลวงพ่อรุ่งมรณภาพไป33ปีแล้ว จะจำหน่ายออกหรือเปล่าก้ไม่รู้"

หลวงพ่อเปิ่นจึงได้บอกกับคุณลุงว่า

"ท่านอยู่ที่วัดนี่แหละ.......ญาณท่านไม่ธรรมดา"



หลังพิธีเสร็จ ก็มีการเคลื่อนย้ายวัตถุมงคลต่างๆไปเก็บ คุณลุงได้อยู่ช่วยจนดึก กลับบ้านไม่ได้ เพราะเรือข้ามฟาก ท่าส.จ. หมด

คุณลุงจึงอาศัยนอนในวัดนั้นเองแต่ก้นอนไม่ค่อยหลับ เช้าจึงกลับบ้านตั้งใจว่าจะนอนพัก เพราะเพลียมาก

เมื่อนั่งเรือข้ามฟากกลับบ้าน อาบน้ำจะนอน แต่กลับกลายเป็นว่า ทางวัดให้คนมาตาม เพราะมีคนทยอยกันมาเอาเหรียญที่ได้จองไว้บ้าง

จะมาเช่าบ้าง คุณลุงจึงต้องกลับไปวัดทั้งที่เพลียๆ

คุณลุงบอกว่า นึกว่าเหรียญรุ่นนี้จะจำหน่ายไม่ได้เท่าไร แต่กลับปรากฎว่า คนทยอยมารับเหรียญทองคำ จนหมดในเวลาไม่นาน

แถมยังแย่งซื้อใบจองกันเสียด้วย ส่วนเหรียญเงินและทองแดงก็ได้ทยอยหมดจากวัดไป

และกลายเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้งที่เป็นเหรียญที่สร้างภายหลังหลวงพ่อ มรณภาพถึง33ปี

อาจเป็นเพราะหลวงพ่อเป็นที่เคารพนับถืออยู่แล้ว หรือด้วยประสบการณ์ต่างๆก็ตาม

แต่สำหรับหัวใจของคนที่ศรัทธานั้นวัตถุมงคลของหลวงพ่อฯ ดีทัดเทียมกันทุกรุ่น อยู่ที่ใจนับถือศรัทธา แม้เหรียญทำเลียนแบบ

ก็ยังมีประสบการณ์

และที่มิอาจลืมคือวัตถุมงคลของหลวงพ่อรุ่ง นั้นไม่คุ้มครองคนไม่ดี เหมือนที่หลวงพ่อบอกกับศิษย์

ที่ได้รับตะกรุดจากมือท่านว่า

"ตะกรุดนี้ ถ้ามึงไปปล้นเขา โป้งเดียวจอด!!! "



ขอขอบพระคุณคุณลุงสมาน คุณอาสุเทพ คุณพิก อ่างทอง ที่ให้ข้อมูลครับ

 

เหรียญหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ออกที่วัดป่าอุดมสมพร พระอาจารย์ฝั้นปลุก
เหรียญพระอาจารย์ฝั้นรุ่น 17 พิมพ์พระอาจารย์มั่น บล็อคสายบาตรยาว พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร

คณะศิษย์จังหวัดอุดร เป็นผู้สร้างถวายเมื่อปี 2514 มีสองพิมพ์ พิมพ์รูปเหมือนพระอาจารย์ฝั้นและพิมพ์รูปเหมือนพระอาจารย์มั่น

 

เห็นเหรียญหลวงปู่สิมแล้วก็อดนึกถึงหลวงปู่ไม่ได้ หนึ่งในครูบาอาจารย์ที่สุดเคารพ ชื่อของหลวงปู่ได้ยินมาตั้งแต่เด็กพร้อมๆกับที่เริ่มอ่านหนังสือโลกทิพย์ ภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ก็คือการนั่งขัดสมาธิเพชร บวกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่นที่ว่า "เณรสิมนี้เป็นดอกบัวที่ยังตูมอยู่ เบ่งบานเมื่อใดจะหอมกว่าหมู่" เป็นสิ่งที่ทำให้จำหลวงปู่ได้ไม่เคยลืม

คำทำนายของหลวงปู่มั่นเป็นจริงชื่อเสียงของหลวงปู่เป็นที่รู้จักไปทั่ว ทำให้หลวงปู่ต้องรับเป็นเจ้าอาวาสปกครองคณะสงฆ์อยู่หลายวัด ด้วยเชื่อในบารมีของหลวงปู่ แตาเมื่อท่านเห็นว่าพอสมควรแก่กาลเวลาแล้วท่านก็แบ่งเบาภาระนี้ให้ผู้อื่นไป เมื่อท่านลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้วก็ปลีกวิเวกไปอยู่ที่ถ้ำผาปล่อง อันห่างไกลจากตัวเมือง เป็นที่สัปปายะ เหมาะแก่การเจริญจิตภาวนา








เมื่อครั้งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีจะจัดงานทำบุญครบ ๑๐๐ปี ชาตกาล หลวงปู่ปาน ในปี ๒๕๑๘ ได้มีการเตรียมงานโดยหลวงพ่อฤาษีพาคณะลูกหลานขึ้นเหนือเพื่อมากราบสักการะครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อนับถือและที่เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อ เพื่อแนะนำให้ลูกหลานได้รู้จักและนิมนต์มาร่วมงานหลวงปู่ปานที่วัดท่าซุงด้วย หนึ่งในครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อฤาษีพามากราบไหว้ก็คือหลวงปู่สิมแห่ง สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่องนั่นเอง หลวงพ่อฤาษียังบอกแก่ลูกศิษย์ด้วยว่า "ไม่ช้าหลวงปู่สิมก็เป็นหลวงปู่ตื้อองค์ที่สอง" (เป็นที่ทราบกันดีว่าหลวงปู่ตื้อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขั้นปฎิสัมภิทาญาณ เท่ากับหลวงพ่อฤาษีชี้เป็นนัยๆว่า...)








ที่ก้อนหินริมลำธารที่สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง หลวงปู่เคยสลักคำว่า ฤาษีผาปล่อง เอาไว้
นามนี้ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา คือหนึ่งในหกพระมหาฤาษี ที่มีหน้าที่คุ้มครองพระพุทธศาสนาไปจนครบห้าพันปี ปัจจุบันคณะศิษย์ครูบาวงศ์ได้สร้างรูปหล่อมหาฤาษีทั้ง ๖ ไว้บูชาที่ พระมหาเจดีย์โลกวิทู(โฆ๊ะผะโด๊ะ) อ.อมก๋อย เชียงใหม่ สถานที่นี้เป็นสถานที่สำคัญที่ครูบาวงศ์ชี้ลายแทงให้คณะศิษย์ไปค้นหา ต่อมาครูบาท่านละสังขาร คณะศิษย์ก็ได้สืบสานเจตนาบูรณะสถานที่นี้ขึ้นมาสร้างพระธาตุขึ้นมาใหม่แทนองค์เดิมที่สลายไปตามกาลเวลา เคยถามเจ้าหน้าที่ที่วัดพระบาทห้วยต้มว่าถ้าจะไปคงต้องเอารถโฟว์วิลขึ้นไปหนทางคงเอาเรื่องอยู่ครับ








ช่วงนี้คงใกล้ถึงโค้งสุดท้ายของหน้าฝน เดือนหน้าก็จะเป็นปลายฝน พฤศจิกาก็จะเป็นต้นหนาว ฤดูท่องเที่ยวก็จะเริ่มคึกคักกันอีกครั้งโดยเฉพาะอากาศเย็นๆทางเหนือ ยิ่งหากมีละอองฝนโปรยมาก็จะมีหมอก เป็นภาพที่น่างดงามยิ่งนัก เป็นเหตุให้ผมชอบบรรยากาศทางเหนือที่สุด และที่ถ้ำผาปล่องแห่งนี้ก็เป็นที่ใฝ่ฝันแต่เด็กว่าอยากจะมาและในที่สุดก็เดินตามฝันมาจนได้ และไม่ผิดหวังกับบรรยากาศจริงๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มาแล้วก็อยากมาอีก สถานที่เงียบสงบดี คนไม่พลุกพล่านมากนัก อีกทั้งท่านอาจารย์สมศักดิ์(เจ้าสำนัก) และพระในวัด ท่านก็มีอัธยาศัยดี ทำให้ถูกจริตและสบายใจทุกครั้งที่มา สักวันคงจะได้กลับไปกราบหลวงปู่อีกครับ​

 

เหรียญบาตรน้ำมนต์เล็ก รุ่นพระพิจิตร

น้อมรำลึกถึงหลวงพ่อเงิน พระเกจิมงคลนาม

เชื่อกันว่าหลวงพ่อเงินเกิดวันที่ ๑๖ กันยายน ปีฉลู และละสังขาร วันวันที่ ๒๐ กันยายน ในอีก ๑๑๑ ปีต่อมา


หากจะเอ่ยถึงสุดยอดรูปหล่อพระเกจิแล้ว เซียนน้อยเซียนใหญ่ต่างก็ต้องนึกถึงรูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ไม่ว่าจะรูปหล่อพิมพ์นิยม หรือพิมพ์ขี้ตา หากได้มาบูชาก็จะเพิ่มขวัญเพิ่มกำลังใจในการประกอบหน้าที่การงาน เรียกเงินเรียกโชคเรียกลาภ ตามชื่อของหลวงพ่อท่าน หากแต่ปัจจุบันนี้ของแท้ๆหาได้ยาก มีของปลอมออกมาพิสูจน์สายตาเซียนกันมากมาย ควรจะระมัดระวังจากที่จะเรียกเงิน จะกลายเป็นเสียเงินแทน






หลวงพ่อเงินท่านมีบารมีมากมาย และแผ่มายังวัตถุมงคลของท่านไม่ว่ารุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ขอเพียงทำให้ถูกต้องทำเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ย่อมได้รับความคุ้มครองจากหลวงพ่อท่าน ขนาดว่าเพียงรูปถ่ายหลวงพ่อที่ติดอยู่บนแผ่นป้ายหาเสียงของนักการเมือง ถูกหัวคะแนนจากฝั่งตรงข้ามเขม่นใส่ หยิบปืนมาลั่นไก ก็ยิงไม่ออกมาแล้ว





หลวงพ่อเงินท่านได้บวชที่วัดชนะสงคราม ซึ่งในสมัยนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ท่านมีชื่อเสียงมาก เชื่อว่าหลวงพ่อเงินท่านคงจะได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาหาความรู้จากสมเด็จท่าน ตามประสาผู้ใฝ่เรียน

เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร หลังจากที่ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจากหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่าจนเจนจบแล้ว ได้ขอคำแนะนำจากหลวงปู่ศุข ว่าควรจะไปศึกษาจากที่ใดต่อ หลวงปู่ศุขแนะนำให้ไปศึกษาจาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ซึ่งเป็นศิษย์ผู้พี่ของท่าน
​

 

เหรียญ ๙๐ ปี ร.พ.สมเด็จ ณ ศรีราชา





เหรียญหลวงปู่เอี่ยม ออกที่วัดโคนอน



น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ


๒๐ กันยายน วันคล้ายวันเสด็จพระบรมราชสมภพ


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕​

 

เสด็จพ่อ ร.๕.....กับเหตุแห่งพลังศรัทธา


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริยาธิราช รัชกาลที่ ๕ ในบรมราชจักรีวงศ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เสด็จอยู่ในราชบัลลังก์เป็นเวลา ๔๒ ปี ตลอดเวลาอันยาวนานนี้ได้ทรงปรับปรุงทำนุบำรุงและเทิดเกียรติ ประเทศไทยให้มีฐานะสูงเทียบอารยประเทศอันเป็นที่ยกย่อง พระราชกรณียกิจมีมากมายหลายด้านหลายประการ สิ่งสำคัญซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญในรัชกาลของพระองค์ คือ การเลิกทาสให้พลเมืองมีเสรีภาพและสิทธิเสมอกัน โดยทรงเริ่ม ดำเนินตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๑๗ จนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๔๒ จึงสำเร็จทั้งหมด คือ ทรงประกาศ ใช้พระราชบัญญัติทาส ร.ศ ๑๒๔ ให้ลูกทาสได้เป็นไททั้งหมด

ในส่วนการพระศาสนา ได้ทรงสร้างและสถาปนาพระอารามหลายแห่ง เช่น ทรงสร้างวัดราชบพิตร วัดเทพศิรินทร์ และวัดเบญจมบพิตร เป็นต้น นอกจากนี้ยังทรงสร้างพระบาลีไตรปิฎก เป็นภาษาไทย เมื่อ พ. ศ. ๒๔๓๖ เป็นครั้งแรก ขณะเดียวกันได้จัดให้มีการสอบไล่พระปริยัติธรรมประจำ ปี รวมทั้งจัดการปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นระเบียบดีขึ้น นอกจากนี้แล้วยังให้มีการจัดตั้งโรงเรียนแบบใหม่ขึ้นแทนการศึกษา อย่างเดิม ที่ใช้วัดเป็นโรงเรียน และพระสงฆ์เป็นครู ทั้งนี้ได้จัดตั้ง โรงเรียนหลวงแห่งแรกที่วัดมหรรณพาราม เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นที่รักใคร่ของชาวสยามยิ่งนักจนภายหลังได้พากันถวายพระนามว่า สมเด็จพระปิยมหาราช แปลว่า พระราชาอันเป็นที่รักยิ่งแห่งราษฎร เกือบ๑๐๐ ปี ของการเสด็จสวรรคต (วันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓) แต่บารมีของพระองค์ท่านมิได้ลดลงแม้แต่น้อย

"ก่อนหน้าที่จะแขวนพระพุทธชินราช จะต้องแขวน เสด็จพ่อ ร.๕ ก่อน โดยเริ่มแขวนมาตั้งแต่เข้าสู่วงการแสดง แล้วก็มีการบูชาเคารพสักการะพระองค์ท่าน พร้อมทั้งจะมีการไหว้ครูที่บ้านเป็นประจำทุกปี โดยที่ผ่านมาจะมี เพื่อนๆ นักแสดงมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากเพราะอย่างน้อยเป็นการระลึกนึกถึง พระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน" นี่คือพลังศรัทธาต่อ เสด็จพ่อ ร.๕ ของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงชื่อดัง

พ.อ.ดร.อภิวันท์วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า สิ่งสำคัญที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของนักเรียนนายร้อยทุกคน คือ เสด็จพ่อร.๕ เพราะทุกวันต้องปฏิญาณต่อหน้าพระบรมรูปของท่าน ส่วนหนึ่งของคำปฏิญาณคือ ข้าพเจ้าจะรักษามรดกของท่านด้วยชีวิต นอกจากนี้แล้วเพื่อนนักเรียนนายร้อยบางคน ยังบนบานขอให้ สอบผ่าน เมื่อสอบผ่านแล้วก็จะวิ่งแก้บนรอบพระบรมรูป ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่อง แปลก สำหรับนายทหารที่จบจากโรงเรียนนายร้อยทุกคน อย่างน้อยต้องห้อย เหรียญเสด็จพ่อร.๕ ส่วนจะเป็นรุ่นใดนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการแสวงหาของแต่ละคน

ในขณะที่เหตุผลในการแขวนเหรียญเสด็จพ่อร.๕ ของ อ.สุรวงศ์ วัฒนกูล นัก พูดชื่อดังคือ "เหตุที่ให้แขวนเหรียญ ร.๕ ก็เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้เลิกทาสทางกาย ส่วนพระพุทธเจ้านั้นได้เลิกทาสทางใจแขวนพระเพื่อจุดประสงค์ ทั้ง ๒ อย่าง คือ เพื่อเตือนตนให้มีสติอยู่ตลอดเวลา ส่วนอำนาจพุทธคุณหรือ ปาฏิหาริย์นั้น เป็นผลพลอยได้ แขวนพระแล้วไม่ได้หมายความว่าจะรอดตาย แคล้วคลาดจาดอุบัติเหตุทุกครั้งไป"

ด้าน ม.ล.ชัยวัฒน์ ชยางกูร ประธานบริหาร บริษัท C.E. Enterprise Consulting Co.,Ltd บอกว่าตลอดระยะที่ผ่านมาจะแขวน เหรียญเสด็จพ่อ ร.๕ ติดตัวเป็นประจำ เรียกได้ว่าพระองค์ท่านทรงมีอิทธิพลต่อ ตนเองอย่างมาก ชีวิตหลายครั้งที่มีประสบการณ์กับเสด็จพ่อ ร.๕ มาก็หลาย ครั้ง เสมือนเป็นที่สร้างความบันดาลใจหลายอย่างให้ประสบความสำเร็จใน หน้าที่การงาน รวมไปถึงเรื่องอภินิหารอีกหลายอย่าง ที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับ องค์ท่าน ระหว่างที่ตนเองยังเชื่อหรือไม่เชื่ออยู่นั้น ได้มีการเอ่ยถึงท่าน ว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจริง ขอให้ท่านแสดงออกมา แล้วท่านก็แสดงให้ เห็น แต่ไม่สามารถเปิดเผยให้ทุกคนรับรู้ได้ รวมทั้งเคยขอพรจากองค์เสด็จ พ่อ ร.๕ อยู่เหมือนกัน แต่การขอพรนั้นเราจะต้องทำความดี ท่านถึงจะให้อะไร เราในการตอบแทนความดีที่เราทำ เช่น เราขยัน มีความมุ่งมั่นเราจะต้องประสบ ความสำเร็จเป็นสูตรของมันอยู่แล้ว ถ้าเราทำดีก็ต้องได้ความดีตอบแทนขอยืนยัน ว่า ปาฏิหาริย์ของเสด็จพ่อ ร.๕ นั้นมีจริง

ส่วนผู้ที่ประสบเหตุที่เรียกว่าปาฏิหาริย์จากเสด็จพ่อร.๕ คือ นายนที สุทินไชยยะ ส.ส.สมุทรปราการหรือที่รู้จักกันดีในนาม กรุง ศรีวิไล ซึ่งครั้งหนึ่งต้องเดินสายแสดงดนตรี ที่ จ.หนองคาย ระหว่างเดินทางกลับเข้า กรุงเทพฯ รถยนต์เกิดพลิกคว่ำม้วนหลายตลบ บริเวณ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา

กรุงยืนยันว่า "ก่อนรถจะพลิกคว่ำ ก็ไม่คิดถึงอะไรแล้ว นอกจากนึกถึง เหรียญ ร.๕ กับเหรียญพระพุทธโสธร เท่านั้นเองก็ได้ยินเสียงรถเหมือนหมุน ติ้ว แล้วทุกอย่างก็นิ่งสงบลงทันที แม้แต่หมอเองก็บอกว่า อุบัติเหตุแบบ นี้ ๕ ล้านคน จะรอดตายได้เพียงคนเดียวจริงๆ"

ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อของนางปิยะมาศ โมนยะกุล อดีตนางเอกภาพยนตร์ชื่อดังที่ว่าก่อนออกจากบ้านจะไหว้พระขอพร พร้อมกับอธิษฐานขอ อัญเชิญหน่วยกล้า หน่วยเกศ ลูกช่วยปกปักรักษาคุ้มครองขอให้ลูกพบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม พบแต่คนที่ดีและขอให้แคล้วคลาดจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง แม้จะเป็นคนหนึ่งที่แขวนพระเครื่องติดตัวไปทำงานด้วยทุกวันแล้ว ภายในรถยนต์ที่ใช้ทุก วันนี้ก็จะมีการบูชาเสด็จพ่อ ร.๕ โดยนำภาพของท่านมาติดไว้บนบานพับที่กันแดด ด้านหน้าของรถยนต์ของตัวเอง ก็เพื่อต้องการสร้างความมั่นใจในการขับรถให้ตัวเอง และตลอดเวลาที่ขับรถยนต์มายังไม่เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงใดๆ เลยแม้ แต่ครั้งเดียว

นอกจากนี้แล้วนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่แขวนเหรียญเสด็จพ่อ ร.๕ เช่น กัน ซึ่งเป็นเหรียญ ร.๕ ด้านหลังเป็นพระสมเด็จวัดไชโยวรวิหาร โดยให้เหตุผล ว่า "การแขวนพระเครื่องติดตัว อย่างน้อยที่สุดทุกครั้งที่ได้เคยพูดกับ ผู้คนตลอดมาว่า อย่าแขวนพระเพราะความเชื่อว่า นี่เป็นเครื่องรางของขลัง แต่จงแขวนพระเครื่องเพื่อระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ เนื่องจากทั้งสามสิ่งนี้จะช่วยให้เรามีสติ บางครั้งเราจะทำอะไรผิดในทางที่ไม่ดี พระเครื่องก็จะคอยเตือนสติให้รู้ผิดชอบชั่วดี หรือยามทำงานมีปัญหาความสงบนิ่งเท่านั้นจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้"


Cr. คมชัดลึก // เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู ​

 

รูปเหมือนปั้มหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ปี ๒๕๓๒

หลวงพ่อเปรื่อง อุปถัมภ์ สมาคมศิษย์เก่า "ภุมิวิทยาคม"


หากจะเอ่ยถึงรูปเหมือนปั้มหลวงพ่อเงินแล้ว รูปเหมือนปี ๑๕ ที่หลวงพ่อเปรื่อง ได้สร้างขึ้น ย่อมเป็นที่ต้องการของผู้ศรัทธาในองค์หลวงพ่อเงิน ด้วยประสบการณ์ที่บอกเล่ากันมามากมายว่า โชคลาภค้าขายดี สรรพไพรี ภยันตรายมลายหายสิ้น จึงมีของปลอมระบาดออกมามากมาย จนผู้รู้ได้ออกมาเตือนว่า หากดูไม่เป็น ไม่เจ๋งจริง ไม่เก๋าจริง ก็อย่าได้เสี่ยง ใช่ว่ามีเงินก็จะได้มาบูชา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปหล่อพิมพ์ขี้ตา รูปหล่อพิมพ์นิยม ที่กลายเป็นตำนานไปแล้ว





ผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงจึงต้องมองหาทางเลือก บ้างก็ไปหาเอาจากวัดอื่นที่ออกในเวลาใกล้เคียงกัน หรือเป็นพระที่นำมาฝากในพิธืปี ๑๕ ซึ่งปัจจุบันพระเหล่านี้ก็ได้รับความนิยมตามๆกันไป บางท่านก็ไปหาเอาพระยุคหลังเอา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ชื่อหลวงพ่อเงินไม่เคยทำให้ผิดหวัง หากเคารพบูชาท่านด้วยความศรัทธา หลวงพ่อท่านย่อมคุ้มครองทุกท่านแน่นอน เลือกเช่าบูชากันตามกำลังอย่าให้ตนเองต้องเดือดร้อนครับ

ประสบการณ์พระรุ่นหลังๆของหลวงพ่อเงินนั้นคงมีมากมายเช่นกัน ได้ข่าวมาว่าทางหลวงพ่อนงค์ วัดทุ่งน้อย สร้างรูปหล่อหลวงพ่อเงิน มาตั้งแต่ปีสามกว่าๆ จนถึงปัจจุบัน ยี่สิบกว่าปีแล้ว เป็นจำนวนที่ว่ากันว่าถึงล้านองค์ ต้องมีประสบการณ์มากมายจึงเป็นที่ต้องการถึงเพียงนี้





สำหรับรูปเหมือนปั้ม รุ่นหลวงพ่อเปรื่องอุปถัมภ์ นี้ก็สร้างกันในปี ๒๕๓๒ อายุก็เกือบสามสิบปีแล้ว สมัยนั้นยังมีพระเกจิที่ขึ้นชื่ออยู่มากมาย คงจะได้รับนิมนต์มาร่วมพิธีกันตามสมควร ลองค้นๆดูตามกล่องพระที่บ้านท่านดูครับ จะเป็นรุ่นไหนก็ดีทั้งนั้น หากเคารพในหลวงพ่อท่านจริงก็ไม่ต้องตามกระแส เอาที่เรามีอยู่นั่นแหละดีแล้ว


พอดีช่วงนี้เห็นเพื่อนๆในเฟซบุ๊คบ่นกันโอดกันมากกับพิษเศรษฐกิจที่เล่นงาน ทุกวงการซบเซาไปหมด พวกที่ขายพระก็บ่นว่าลงพระไปก็เงียบกริบเลย ก็มีหลายๆคนออกมาเตือนด้วยแง่คิดดีๆ ผมเห็นว่ามีประโยชน์ก็เลยเอามาแชร์กันนะครับ

๑. อย่าทำตัวแข่งกับกระแสสังคม ความล่มจมจะตามมา

๒. เก็บพระตามเซียนได้ แต่อย่าหลงกลเซียน

ลองนำไปพิจาณาดูครับ เก็บพระอย่างมีสติ​

 

ประสบการณ์ พระหลวง พ่อเงินวัดบางคลาน

พระหลวงเงิน ไม่ว่ารุ่นเก่าหรือใหม่ แม้เพียงภาพถ่ายของท่านจากหนังสือหรือปฏิทิน ยังมีอภินิหาร คุ้มครองชีวิต อำนวยอวยชัย ให้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน มาอย่างมากมาย หลวงพ่อเงิน พระเกจิ มงคลนาม จึงครองใจ ครองศรัทธาสาธุชนมาทุกยุคทุกสมัย ลองมาติดตามประสบการณ์จากผู้บูชาหลวงพ่อท่านกันครับ


บทความพระเครื่อง

จันทิพย์ คาดประกบ
เรื่อง ประสบการณ์ อภินิหาร หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร

สวัสดีครับทุกท่าน พบกันอีกแล้วเป็นประจำเช่นเคยกับผมที่จะคอยนำบทความพระเครื่องดีๆของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังมาฝากให้ทุกท่านได้ติดตามรับชม กันเป็นประจำผ่านทางเว็บไซต์พระยอดนิยม บทความพระเครื่อง, เหรียญหลวงพ่อ, พระเหรียญ, หลวงพ่อ, ร้านพระยอดนิยม Online ตลอด 24 ชั่วโมง แห่งนี้นะครับ สำหรับในช่วงนี้ผมก็ยังจะนำเสนอบทความพระเครื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ อภินิหาร หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร กันบ้างนะครับ เอาละครับทุกๆท่าน ผมว่าเริ่มต้นบทความพระเครื่องดีๆสำหรับวันนี้กันเลยดีกว่าครับ

ประสบการณ์ อภินิหาร แรกเหตุเกิดขึ้นเมื่อประมาณ เดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2534 มานี้เองครับ ที่บริเวณ หน้าโรงงาน รองเท้าบาจา ถนนสายกิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ตัด ถนนอ่อนนุช กับบางนาตราด ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ สี่ทุ่มเศษ
หลังจากปิดร้านขายอาหาร หน้าโกดังกันตารัติ 2 ริมถนนเส้นเดียวกันนี้เรียบร้อยแล้ว คุณพิชัย ทับทิมทอง ก็ได้ขับรถพาภรรยาพร้อมลูกสาว รวมทั้งตัวเขาเองรวมเป็นสามคน ออกจากหน้าร้าน เพื่อมุ่ง หน้ากลับหมู่บ้าน เคหะนคร 2 ซึ่งอยู่เลยทางแยกมีนบุรี ไปเล็กน้อย
ขณะที่ขับรถผ่านมาถึงหน้าโรงงานรองเท้าดังกล่าว ก็เร่งเครื่องแซงรถบรรทุกออกไปทางเลนขวา ก็ปรากฎว่ามีรถสองแถวสวนมาอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณพิชัย บอกตนเองว่าไม่พ้นแน่ๆ จึงรีบหักเข้าซ้าย ทันที ทำให้รถเสียหลักส่ายไปมาอยู่กลางถนน
ก็ปรากฎว่า มีรถสองแถวอีกคันหนึ่งวิ่งตามกันมาห่างพอควร เป็นจังหวะที่คุณพิชัยรถพุ่งออกกลางถนน จึงกระทบกับล้อด้านหน้าของสองแถวคันนั้น และก็เลยเสียบเข้าล้อหลัง เสียงดังสนั่น ปรากฎ ว่ารถคุณพิชัยพุ่งลงข้างทาง แล้วกระเด็นลงไปหยุดนิ่งแช่น้ำอยู่ในคูข้างทาง
ส่วนรถสองแถวก็หงายท้องพลิกลงข้างทางฝั่งตรงกันข้าม ปรากฎว่า ล้อคู่ที่ถูกชนใช้การไม่ได้เนื่องจากกระทะล้อคดเสื้อเหลาท้ายงอ และยังเสียหายจากการพลิกคว่ำอีกมาก แต่ผู้ขับไม่เป็นอะไร ส่วนผู้โดยสารไม่มี เนื่องจากจะนำรถกลับบ้านแล้วเพราะดึกมาก ส่วนรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ด ของคุณพิชัยพังยับทั้งคันใช้การไม่ได้เลย ต้องขายเป็นเศษเหล็ก เนื่องจากเหตุที่ชนกันอย่างแรงนั้นเองครับ
แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดและน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งครับ เพราะทั้งสามคนที่มากับรถคันนี้ มีคุณพิชัย บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะไม่เคยเห็นที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรุนแรงขนาดนี้ กลับไม่มีผู้ใดเป็นอะไรเลย
คุณพิชัยบอกว่าเขาไม่มีอะไรติดตัวมาเลยในวันนั้น จะมีก็แต่รูปจากปกหนังสือที่ดูแล้วสวยงามมาก เป็นภาพหลวงพ่อเงินรูปหล่อพิมพ์นิยม คุณพิชัย ภรรยาและลูกสาววัย สิบสองขวบของคุณพิชัยเอง ได้มองเห็นพระภิกษุชรามากแล้วยืนเอาฝ่ามือทั้งสองข้างดันรถไว้ไม่ให้กระแทกรุนแรงพอออกมาจากรถแล้วพระภิกษุรูปนั้นเหมือนกับรูปที่ติดอยู่ก็หายไปครับ
เขาเล่าเหมือนกันทั้งสามคนว่า เห็นจริงๆท่านอายุมากแล้ว ทำไมถึงแข็งแรงอย่างนั้น คุณพิชัยยังพูดติดตลกอีกว่า ใจตนเองนั้นคิดว่าโชคสองต่อ คือชนกันเองแล้ว ยังจะชนพระที่เดินอยู่ข้างทางอีก งานนี้คงไปยาวกันแน่ๆ
แต่พอออกมามองหาก็ไม่เจอจึงคิดว่าต้องเป็นพระจากภาพนั้นแน่ๆที่ท่านช่วยไว้ และยังพูดอีกว่า ถ้างานนี้เรียบร้อยแล้ว จะไปเช่า "รูปหล่อพิมพ์นิยม" หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร มาแขวนคอคนละองค์
โดยสรุปจากเหตุการณ์นี้ ขนาดเพียงภาพจะปกหนังสือนะครับ หลวงพ่อเงินท่านยังมีอภินิหารถึงเพียงนั้น ช่วยแม้กระทั่งผู้ที่ไม่เคยใช้พระไม่เคยรู้เรื่องวงการพระ และยังไม่รู้ด้วยว่า หลวงพ่อเงิน คือพระอะไร อยู่ที่ไหน และท่านเก่งอย่างไร ขนาดรถคันนั้นชนแล้ว ต้องเอาไฟแก๊สตัดชั่งขายเป็นเศษเหล็กเลยแหละครับทุกๆท่าน

ประสบการณ์ อภินิหาร ต่อมาเป็นเรื่องอภินิหารของเหรียญหลวงพ่อเงิน โดยวัตถุมงคลต่างๆ ของหลวงพ่อเงินมีเสียงร่ำลือในด้านอภินิหารเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปหลายเรื่อง ซึ่งเก่งทั้งทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี ดังข้อความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับประจำ วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2516 ว่า
คดีฆาตกรรมอุกอาจรายนี้ อุบัติขึ้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2516 จ.ส.ต.จำเนียร นิลนาค หัวหน้าสายตรวจประจำตำบลบางไผ่ อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร ได้แจ้งว่า
นายสุวรรณ ขุนทาสดี อายุ 31 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 ต.บางไผ่ ถูกคนร้ายยิงตาย ขณะขี่รถจักรยานยนต์มากับ น.ส.พรทิพย์ อินทร์บึง วัย 16 ปี น.ส.วันเพ็ญ มณีชม วัย 17 ปี และน.ส.อุบล อินทร์บึง วัย 17 ปี หลานสาวกลับจากดูดนตรีที่วัดคลองข่อย โดยขี่จักรยานยนต์มาตามถนนสายพิจิตร - บางมูลนาค
ระหว่าง ก.ม.ที่ 22 - 23 ได้ถูกคนร้ายยิงจากสองข้างถนน กระสุนปืนถูกบริเวณทรวงอกของนายสุวรรณล้มลงตายคาที่ ทั้งนี้เป็นเหตุให้ น.ส.พรทิพย์ และ น.ส.อุบล ต่างล้มกลิ้งไปคนละทาง เพราะถูกลูกหลงบาดเจ็บ
สำหรับ น.ส.วันเพ็ญ ถูกยิงอย่างจังที่บริเวณท้องด้วยปืนขนาด .38 แต่ไม่เข้า น.ส.วันเพ็ญ เผยว่า เพราะตนมีเหรียญหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร แขวนอยู่ที่คอนั้นเองครับ


*********


เสี่ยปลาเผา 'สมบัติ พยอมสวย' ศรัทธา 'หลวงพ่อเงิน-หลวงปู่แผ้ว'

ความเชื่อและศรัทธาในวัตถุมงคล พระเครื่อง มิใช่เรื่องแปลกหรืองมงาย ทุกวันนี้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คนทุกชนชั้นในสังคม ไม่ว่ายากดีมีจน นักธุรกิจ พ่อค้า ข้าราชการ ล้วนเสาะแสวงหา “ของดีในดวงใจ” มาไว้ในครอบครองทั้งสิ้น

เฉกเช่น สมบัติ พยอมสวย เสี่ยหนุ่มเจ้าของร้านอาหาร “มหาราชาเมี่ยงปลาเผา” ต้นตำรับปลาเผาน้ำจิ้มรสแซบหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จ.ชลบุรี เยื้องศาลแขวงชลบุรี ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ศรัทธาและเชื่อมั่นใน “พุทธคุณ” ของพระเครื่อง-ของขลัง จนฝังใจ เพราะผ่านประสบการณ์ช่วยรอดตายอย่างเหลือเชื่อมาแล้ว

สมบัติ ภูมิลำเนาอยู่ จ.ราชบุรี จบการศึกษาระดับ ปวส.จากวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี เริ่มต้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รังวัดโครงการหลวงอยู่ ๕ ปี ก็ลาออกมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดใกล้กับร้านปลาเผาตลาดสี่มุมเมืองแหลมฉบัง กิจการไม่น่าประทับใจ จึงเปิดร้านขายปลาเผาดูบ้าง ปรากฏว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทุกวันนี้ขยายถึง ๕ สาขา ยอดขายมากกว่า ๑,๔๐๐ ตัวต่อวัน จนฐานะมั่นคงเข้าขั้นเสี่ยคนหนึ่ง

“ต้นเดือนมี.ค. ๔๕ ผมเคยโดนยิงระยะเผาขน กระสุนปืนแฉลบจากหน้าอกไปเจาะแขนขวาบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรมาก ตอนนั้นห้อยแค่รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน องค์เดียว เป็นพระใหม่ แต่ก็ทำให้เชื่อว่าพุทธคุณมีจริง หลังจากนั้นโชคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ งวดประจำวันที่ ๑๖ ก.ย. ๒๕๕๓ ผมจึงทำบุญสะเดาะเคราะห์ แจกปลาเผาฟรีให้คนละ ๑ ตัว แจกไปกว่า ๘๐๐ ตัว ยังไม่พอ ต้องเอาเงินใส่ซองให้แทน ซึ่งเคยเป็นข่าวฮือฮาลงตีพิมพ์เดลินิวส์มาแล้วด้วย”

“วันนี้ผมมีพระเครื่องคล้องคออยู่ ๓ องค์ คือ รูปหล่อหลวงพ่อเงิน ไม่รู้ว่ารุ่นไหน เป็นพระรุ่นใหม่ แต่เคยมีประสบการณ์ช่วยชีวิตให้รอดตาย เหรียญกลมเล็กหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ปี ๒๕๐๖ และเหรียญหลวงปู่แผ้ว ปวโร รุ่นเจริญพร เนื้อเงิน” สมบัติกล่าวพร้อมรอยยิ้มก่อนอำลากัน สมบัติ ฝากข้อคิดดี ๆ ไว้ว่า พุทธคุณมีจริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขึ้นอยู่ที่ความศรัทธาของเรา คล้องพระไม่จำเป็นต้องราคาแพง พระใหม่พระเก่าล้วนมีคุณค่า หากคิดดีทำดี ย่อมได้สิ่งดี ๆ ตอบแทนในเร็ววัน.

หมู มหาเวทย์

ที่มา เดลินิวส์
​

 

ลองนำมาเลี่ยม บูชาอาราธนาบอกกล่าวท่านดูครับ​