SSSSS สรุป พุทธทาสภิกขุ นี่ ท่าน ประพฤติผิดหรือเปล่าคะ SSSS

https://www.facebook.com/FakGhost

ในนี้ค่ะเขาบอกว่า พุทธทาสภิกขุ สอนมาชัดเจนว่า

บอกว่า
ความงมงายเรื่อง วิญาณและการกลับชาติมาเกิดใหม่ บาปบุญคุณโทษ นรกสวรรค์ ๆลๆ ต้องเก็บไว้ในสมองคนไม่ฉลาดเพราะคนที่ไม่ฉลาด
เลิกไม่ได้ที่จะเชื่อนะ เอาไว้ให้คนปัญญาอ่อนเชื่อ หลอกไปวันๆนึง
เขาจะได้อุ่นอกอุ่นใจ
แล้วก็ไม่เป็นโรคประสาท ไม่เป็นบ้า
ผี เทวดา สิงศักดิ์มิทธ มันช่วยคุ้มครองคนปัญญาอ่อน มันไม่มีจริงทุกคนตายแล้วดับสูญเท่านั้นไม่ว่าจะทำเลวแค่ไหนก็ตายแล้วดับไปไม่มีมาเกิดอีกแล้ว

คำสอน พุทธเจ้า เรื่อง ตายแล้วเกิดก็คงจะ หลอกลวง นะคะ
พุทธเจ้า ไม่มีัวตนจริงเป้นแค่สิ่งที่ นักบวชสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการเอามาหากินเท่านั้น แท้จริงไม่มีตริงมีแต่ กลุมบักบวชเท่านั้นที่สมคบคิดกันสร้างความงมงาย
และ สร้าง พุทธเจ้า ขึ้นมาใช้หลอกคน https://www.facebook.com/FakGhost ที่นี่ค่ะเขาบอกว่า พุทธทาสภิกขุ สอนมาอย่างนี้มันจริงหรือคะ
สรุปว่าถ้าอย่างนี้ จริง พุทธทาสภิกขุ ท่านเป็นพระศาสนาอะไรกันแน่คะ

 

อย่าไปตกใจกับข้อความที่ผู้อื่นว่ามา ต้องถามตนเองก่อนว่า นับถือพระพุทธศาสนาเพราะอะไร คำสอนของพระพุทธเจ้ามีความเป็นเอกลักษณ์ต่างกับศาสนาอื่นที่ว่า เมื่อไรขึ้นด้วยศรัทธาต้องลงท้ายด้วยปัญญาควบคู่กัน การสร้างปัญญานั้นพระองค์ก็ทรงสอนวิธีการตามที่อยู่ในพระไตรปิฎก ให้พวกเราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว ถ้าคิดว่ายังไม่ถึงระดับนั้นก็ต้องเลือกเอาหลักรองลงมาคือหาพระสุปฏิปันโน (ไม่ใช่สมมติสงฆ์ทั่วไป) เพื่อเรียนรู้จากท่าน ผมขอแนะนำให้เลือกเฟ้นเอาจากเถรวาทที่รักษาพระธรรมวินัยให้ใกล้เคียงกับยุคพุทธกาลที่สุด

เรื่องตายแล้วเกิดนั้น หลักคำสอนเรื่องปฏิจจสมุปบาทบอกไว้ชัดเจนแล้วว่า เป็นเรื่องสมมติทั้งสิ้น เพราะอวิชชาทำให้เกิดสังขาร (ความคิด) สังขารทำให้เกิดวิญญาณ (ความรับรู้) วิญญาณทำให้เกิดนามรูป นามรูปทำให้เกิดอายตนะ (ทั้งภายในและภายนอก) อายตนะทำให้เกิดผัสสะ (การสัมผัส) ผัสสะทำให้เกิดเวทนา (ความรู้สึก) เวทนาทำให้เกิดตัณหา (ความอยาก-ไม่อยาก) ตัณหาทำให้เกิดอุปาทาน (ความยึดมั่น) อุปาทานทำให้เกิดภพ (ที่อยู่ของสัตว์ตามระดับบุญบาป) ภพทำให้เกิดชาติ (การเกิด) ชาติทำให้เกิดชรา-มรณะ-... จะเห็นได้ว่าภพต่าง ๆ แม้แต่การเกิดเองก็สืบเนื่องมาจากอวิชชา พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอริยสงฆ์จึงขวนขวายสั่งสอนให้พวกเราได้รับรู้และปฏิบัติให้เห็นความจริงข้อนี้เพื่อกำจัดอวิชชา ซึ่งจะทำให้ไม่มีการเกิดอีก ขณะเดียวกันยังมีชนหมู่มากซึ่งไม่สามารถรับรู้ความจริงนี้พระองค์จึงสอนในระดับต่ำกว่าด้วย เพื่อให้อย่างน้อยพวกที่ไม่รู้จะได้ไม่ไปสู่อบายภูมิ

 

ฉันว่าผีมีจริงและเกิดได้จริงค่ะ เพียงแต่ว่ากระบวนการมันซับซ้อนมากเลยค่ะ
จึงยังต้องทำใจอีกสักระยะค่ะ

 

เอ่อ...ไม่ได้ปรามาสหรอกครับ แค่ท่านก็พูดของท่านไปเรื่อยเปื่อยครับ

คนเราฝึกจิต ฝึกสมาธิ มันก็จะมีอยู่ขึ้นนึงครับ....เรีบกว่า ขั้นทิ้งทุกอย่าง..ในความคิดครับ
แต่ท่านพุทธทาสคิดแรงไปหน่อย เลยคิดออกมาเป็นตัวหนังสือน่ะครับ

เสียดายที่ ยุคสมัย ไม่ตรงกันกับพระเกษม....อิอิ

 

เหมือนกันกะ ฟักโกด..นั่นแหล่ะครับ ที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง อิอิ

ประเด็น มันไม่ได้อยู่ที่คนพูดครับ...คนพูด พูดยังไงก็ได้ พูดแล้วเดินหนี มีเยอะแยะไปครับ

ประเด็นคือ คนเขาเคยเชื่อมาแบบนี้ว่า มีผี มีนรก สวรรค์...แล้ว ถ้าคนที่มาพูด พูดว่าไม่มีผี

ก็ควรจะพูดแล้วให้คนเชื่อตามให้ได้ ให้คนเปลี่ยนความเชื่อได้สิครับ ว่า ไม่มีผี

จึงจะเจ๋งกว่า...แค่พูดแล้ว ก็ปัดตูด...เดินหนีไป...อิอิ

 

มีท่านอภิญญาท่านหนึ่ง ได้บอกว่าท่าน พุทธทาสภิกขุ ไม่ได้อยู่ในนิพพาน แต่ไปเป็นต้นไม้ครับ เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่วิจารณญาน หรือไม่ไปถามพวกพระที่มีอภิญญาดูญานให้ครับว่าเป็นจริงไหม อิอิ

 

ไปเป็นต้นไม้เหรอครับ...งั้นแสดงว่าท่านพุทธทาส..ท่านชำระจิตอวิชชาได้หรือไม่ได้ล่ะครับ...เพราะเท่ารู้ๆกัน ต้นไม้มีชีวิตแต่ไม่มีจิตวิญญาณ..เป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์...ไช่ป๊ะ...อิอิ

 

แต่ถ้า การเกิดเป็นต้นไม้...ถือว่าเป็นการเกิดแบบธรรมชาติ...มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ
เพราะคนที่ชำระจิตวิญญาณ ชำระจิตอวิชชาได้แล้วจริงๆ ก็ไม่น่าจะไปเกิดเป็นอะไรได้อีก เพราะ ดินน้ำลมไฟก็คืนกลับโลกแล้ว..อ่ะนะ

 

สรุปท่านพุทธทาส ไม่ได้ประพฤติผิด...แต่ท่านพูดไม่ถูกใจคน

แค่พูดว่าไม่เชื่อเรื่องนั้น ไม่เชื่อเรื่องนี้...ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า...แค่นั้นเอง..

ก็แล้วแต่กรรมจะบันดาล...ต่อไป...ใครจะเชื่อท่านพุทธทาสก็เชื่อไป..ใครจะเชื่อพระพุทธเจ้า..ก็เชื่อไป

ส่วนผม..เชื่อว่าสิ่งไหน มันทำให้คน ตาสว่าง เกิดปัญญารู้ความจริง..ผมเชื่อดะ เรย..อิอิ

 

ผมเชื่อพระพุทธเจ้า...ที่ซู๊ดดดดดดด อิอิ...แต่สุดท้าย ก็มาเชื่อตนเอง จากที่เคยเชื่อพระพุทธเจ้า ก็เปลี่ยนไปเป็น รักท่าน เคารพท่าน ..แทนเชื่อท่าน..อิอิ

 

พระธรรมคำสอน....มีคนเชื่อ กับคนไม่เชื่อ...และพวกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนี่..ปล่อยไป พวกนี้พวกไม่รู้ตัว...อิอิ

ทีนี้..พวกเชื่อพระธรรม...เชื่อแบบไหน กันล่ะ..เชื่อแบบศรัทธาแบบไม่ลืมหูลืมตาไปเลย ..จนลืมตัวเอง...แล้วพระธรรมที่คนเหล่านี้เชื่อ ก็เอาไปใช้ประโยชน์กับผู้อื่นได้มั้ย

ทีนี้..พวกไม่เชื่อพระธรรม ก็คือคัดค้าน ไม่เอานั่นเอง..เพราะมองว่าพระธรรมไม่ได้มีประโยชน์ต่อพวกเขา..คนอื่นคิดยังไงไม่สน

ทีนี้พวกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก็คือพวกที่ชอบอ้างว่า...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่..นะ พระเครื่องรุ่นนี้ เขาเล่นกันราคาเป็นแสนเป็นล้าน..แบบว่าไม่เชื่อพระธรรมแต่ทำมาหากินกับวัดกับพระ...อิอิ

 

คนเชื่อ คือคนที่รู้ตัว ว่าตนเองเชื่อ..เช่นเกิดเป็นชายก็เชื่อว่าตนเองเป็นชาย เกิดเป็นหญิงก็เชื่อว่าตนเองเป็นหญิง

คนไม่เชื่อ คือคนที่รู้ตัวว่าไม่เชื่อ เช่นเกิดเป็นหญิงก็เชื่อว่าตนเองไม่น่าจะเกิดเป็นหญิงน่าจะเกิดเป็นผู้ชาย บางคนเกิดเป็นชายก็ไม่เชื่อว่าตนเองเป็นผู้ชายน่าจะเกิดเป็นหญิง

คนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งคือเกิดเป็นชายแต่จะเป็นทั้งชายและหญิง เกิดเป็นหญิงก็จะเป็นทั่งหญิงและชาย

อะไรล่ะคือ ความจริง

 

ท่านยันตระบอกผมไม่ผิด..ไม่ให้ห่มเหลืองห่มเขียวก็ได้
ท่านเกษมบอกผมลืมจำไม่ได้ ผมไม่ผิด ไม่ให้ห่มเหลืองห่มขาวก็ได้..แมนกว่า
ท่านเนนครำ บอกผมไม่ผิด แค่การมีลูกมีเมียคือการเรียนรู้ทางโลกเท่านั้นเอง ห่มเหลืองต่อ ไปอยู่ที่อื่นก็ได้....

ท่านพุทธทาสบอก ก็อาตมาพูดเอาใจคนทั้งโลก เอาใจฝรั่งที่เขาไม่เชื่อเรื่องผีนรกสวรรค์...ผิดด้วยเหรอ...อิอิ

 

เขียน ๙.๕๐

ไม่ใช่เป็นเรื่องของการทำตลาดนะครับ
แม้ตลาดโลก ไม่เหมือนกับตลาดในประเทศ

การจับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป เป็นแมสโปรดักส์ ปริมาณมากมาย
ก็ต้องมีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสม กับกลุ่มเป้าหมาย

ข้างบนนั่นไม่จริงนะครับ เป็นแค่การพูดส่งเดชเฉยๆ อ่ะนะ เนอะ
ที่จริงก็คือ ท่านเชื่อของท่านเช่นนั้น ความจริงที่ท่านพบ แปลได้เช่นนั้น

ซึ่งที่จริงแล้ว เป้าหมายแห่งพุทธะ คือการหาวิธีดับทุกข์ เท่านั้น
หาวิธีให้เจอ เพื่อช่วยให้ชาวโลก มีชีวิตอยู่ได้ อย่างสุขสบายมากขึ้น

สองพันกว่าปี โดนยำมาเละตุ้มเป๊ะหมดแล้ว พระไตรเอ๋ย

ใครไม่เชื่อ ลองเปรียบเทียบกับทางคริสต์ดูดิ
จากคนธรรมดา โดนพวกบ้าอำนาจ ยำจนเป็นผู้วิเศษ
นั่นแค่สามร้อยปีให้หลังเองนะนั่นน่ะ ยังเละขนาดนั้นแล้ว หึหึหึ

ตบแต่งต่อเติมพระคัมภีร์ ตามใจชอบ เพื่อประโยชน์ของพวกบ้าอำนาจ
บ้าลาภ ยศ สรรเสริญ และบ้าสุข

ยอมทำทุกอย่าง เพื่อจะยึดประเทศคนอื่น
เอาพระเยซูมาเป็นอุปกรณ์ทำลายล้างก็ยังได้ หึหึหึ

เออ..โวยแทนกูทีดิ๊ ๕๕๕


กระต่ายป่า แห่งหมู่บ้านในนิทาน / เพลง : ธรรพ์ณธร - ทางแสนไกล
.

ปล. เขียนไปเขียนมา ไหลไปถึงไหนวะเนี่ย หึหึหึ

ปล.สอง กะลังคิดว่าอีกชื่อนึงจะเอาใครดีกว่า เพลงนี้ขึ้นเข้าหัวเลยอ่ะ
เลยไปเปิดหน้าเค้าดู ว่าเป็นอะไร เห็นชื่อคล้ายๆ คนธรรพ์อ่ะ
และความหมายใกล้เคียงคนฝากบ่นซะด้วย เอาชื่อนี้แหละวะ นะ เนอะ
ฟังเพลงสตริงเก่าออนไลน์ ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

 

ความจริง ธรรมะ ที่ทำให้พ้นทุกข์จริงๆ มันไม่มีอะไรเยอะแยะมากมายหรอก...แค่..ดูกร..กระต่ายป่า..ดูกรเราสิ

แต่ที่ พากันขนเอง 84000พระธรรมขันธ์มาน่ะ...มันแค่การชำระทำลายล้าง ความเชื่อผิดๆ ที่เคยเชื่อมาต่างหาก...ทางพ้นทุกข์น่ะ ยังไม่สอนหรอก...เพราะ กว่าจะเอาของเก่าออกได้..มันเยอะแยะไปหมด..

ที่พระองค์แสดงธรรมในที่ต่างๆก็เพื่อ ทำลายความเชื่อเดิมๆที่ในผิด ให้เขาเห็นว่ามันผิด ก่อน
เห็นว่าผิด ให้ได้ก่อน..นี่เองคือ...84000พระธรรมขันธ์

 

ไปเกิดเป็นต้นไม้....ก็กระดูก ขี้เถ้า เอาไปทำปุ๋ยหมักไงครับ

ส่วนคนทั่วๆไป ก็คงไปรวมกับประการัง....แค่นี้เอง

เรื่องทางกายภาพ...ง่ายๆ....

 

แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ เพราะวาระการสอนที่ต่างกัน

ต่างบุคคล ต่างอัธยาศัย

 

ว่าแต่ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นี่ มัน ๘๔,๐๐๐ จริงเหรอ

มีใครไปนับ แล้วเขานับกันยังไงเป็น ๑ ธรรมขันธ์

 

โห:boo:....ทำไมไม่พูดแบบนี้ซะตั้งแต่แรกว่าไปเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้

พูดทำไมว่าไปเกิดเป็นต้นไม้..ลีลานัก นะเราน่ะ..ระวังกรรมนะ อิอิ.

 

ก็เขาพากันพูดมาแบบนั้น น่ะ....อ้าวหรือจะพากัน ถกเรื่องนี้ ว่าที่ถูกต้องจริงๆ เป็นยังไง อิอิ...ที่จริง มันมีแค่ 5ขันธ์ ขันธ์ห้า...เท่านั้นแหล่ะ...ก็แค่แตกขยาย ออกให้ดูชัดขึ้น เท่านั้นเอง