ความเชื่อเรื่อง พระสมเด็จสองคลอง พระสมเด็จฝากกรุ

สวัสดีครับวันจันทร์ ได้เวลามาโชว์ของอิกแล้ว ครับ...................(kiss)(kiss)(kiss)

 

เมื่อวานอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์คอลัมน์สนามพระวิภาวดีของสีกาอ่าง อ่านแล้วตื่นเต้นตกใจงวยงงอย่างแรงครับ สีกาอ่างเอาพระพิมพ์เนื้อผงแบบเจ็ดชั้นฯวัดเกตุไชโยฯมาลงเขียนอธิบายว่า จากประวัติการสร้างพระใหญ่ที่วัดเกศไชโยฯ ทำให้ความเชื่อที่ว่า พระสมเด็จวัดเกศฯอาจจะสร้างก่อนพระสมเด็จวัดระฆังฯและวัดบางขุนพรหม ลดความเป็นไปได้ลง..???? เพราะมีบันทึกว่าตอนท่านไปสร้างพระโตที่วัดเกศฯในสมัยรัชกาลที่๔ ท่านได้เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์แล้ว ๕๕๕ และได้รับพระราชทานที่ดินสร้างพระใหญ่เรียกพระโตหน้าตัก ๘ วา ใช้เวลาสร้าง ๓ ปีจึงแล้วเสร็จ ซึ่งขรัวตาทองวัดเกตุไชโยฯเล่าว่าทันเห็นสมเด็จฯท่านฝังตุ่มใหญ่ไว้ที่พระโตเอาเงินใส่ไว้๑ บาท เอากระเบื้องปิดคลุมไว้ ตอนสมเด็จโตไปตรวจคุมงานก่อสร้างก็ป่าวร้องชวนชาวบ้านมาทำบุญเลี้ยงพระแล้วแจกทานคนล่ะเหรียญฬศ๑ฯ ตอนที่ท่านไปสร้างวัดเกศฯและสร้างพระบรรจุจึงเป็นช่วงปลายของท่าน อ้าวแล้วๆๆกัน๕๕๕๕......ซึ่งได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังฯและบางขุนพรหม ขึ้นแล้วซึ่งมีบันทึกเชื่อได้ว่าสร้างตั้งแต่ยังเป็นที่ พระเทพกระวี!!!!.???? ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕....สีกาอ่างกะลังบอกว่ามีบันทึกที่เชื่อได้ว่าพระสมเด็จพิมพ์เจ็ดชั้นฯวัดเกศไชโยฯสร้างทีหลังพระสมเด็จวัดระฆังฯและบางขุนพรหม พระสมเด็จวัดเกศไชโยฯสร้างขึ้นในช่วงปลายชีวิตของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ........สีกาอ่างกะลังบอกว่ามีบันทึกเชื่อได้ว่า(อิกแร้ว)ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังฯและบางขุนพรหม ตั้งแต่ยังเป็นที่ พระเทพกระวี!!!!??? ผมนั่งอ่านกลับไปกลับมาเพราะผมไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ท่านผู้อ่านรู้สึกงงเหมือนผมหรือไม่ครับ ข้อมูลประวัติการสร้างพระสมเด็จวัดเกศไชโยฯก่อนหน้านี้ ทั่นเสี้ยนใหญ่น้อยทั้งหลายพูดกรอกหูและเขียนไว้ว่าสร้างก่อนพระสมเด็จวัดระฆังฯบางขุนพรหม ระบุสร้างประมาณปี ๒๓๙๐-๙๕ พระวัดระฆังฯสร้างปี ๒๔๐๗-๐๙ พระวัดบางขุนพรหมสร้างปี ๒๔๑๑-๑๓ แต่วันนี้มาบอกว่าข้อมูลนี้ไม่ใช่ล่ะ เฮ้ยมันๆเปลี่ยนกันง่ายๆได้อย่างนี้เลยหรือครับ นึกอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนเลย๕๕๕๕......พระสมเด็จวัดระฆังฯและวัดบางขุนพรหม สร้างตั้งแต่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯยังเป็นที่ พระเทพกระวี.....ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเปลี่ยนชื่อเรียกพระสมเด็จทั้งสองวัดใหม่แล้วล่ะครับ เปลี่ยนไปเรียกเป็นอะไรดีล่ะครับ๕๕๕๕๕......คือที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าพวกเสี้ยนใหญ่น้อยทั้งหลายมันไปเขียนนิยายโป้ปดมดเท็จโกหกบิดเบือนหลอกลวงมาตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มากน่ะครับ............(deejai)

 

สวัสดีวันอังคารครับ ตามตำราเสี้ยนใหญ่น้อยเขาเขียนประวัติวัดเกศไชโยฯไว้ว่า ๑.ท่านเจ้าประคุณได้ปัจจัยไทยธรรมมาจากเจ้าเมืองเขมรมาสร้างวัดเกศไชโยฯ ๒.ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯแบ่งทรัพย์สินกับญาติพี่น้องแล้ว เอาทรัพย์สินส่วนหนึ่งมาสร้างวัดเกศไชโยฯ ๓.ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯสร้างวัดเกศไชโยฯในที่ดินของโยมตาผลเพื่ออุทิศกุศลให้โยมมารดาชื่อนางเกศ จึงเรียกว่าวัดเกศไชโยฯ สร้างพระพิมพ์มีลักษณะอกเป็นร่องเปรียบประหนึ่งน้ำนมของมารดาใหลรินออกจากอกให้บุตรได้ดื่มกิน๕๕๕....และ ๔.ได้รับพระราชทานที่ดินให้สร้างพระโต??? และท่านชอบสร้างอะไรที่มันใหญ่ๆโตๆสมชื่อของท่าน๕๕๕๕......ตกลงจะให้เชื่อข้อมูลอันใหนครับท่าน ผมนี่งงไปหมดแล้ว.... (f)

 

ที่เด็ดสุดๆคือพระสมเด็จวัดระฆังฯและบางขุนพรหม สร้างตั้งแต่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯยังเป็นที่ พระเทพกวี อันนี้เป็นข้อมูลใหม่ล่าสุดที่อ้างว่ามีบันทึกที่เชื่อได้ ถ้าอย่างนั้นประวัติการสร้างพระสมเด็จทั้งสามวัดต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดแล้วล่ะครับท่าน บันทึกที่อ้างว่าเชื่อถือได้อยู่ที่ใหนหรือครับ ทำไมเพิ่งจะมาค้นพบเอาตอนนี้ แล้วชุดความเชื่อก่อนหน้านี้จะอธิบายกันอยางไรครับ หรือข้าเป็นเสี้ยนใหญ่จะทำอะไรก็ได้งั้นหรือครับท่าน......

 

เอาอย่างงี้มั้ยล่ะครับใหนๆก็หลับหูหลับตามั่วโกหกบิดเบือนมาตลอดแล้วก็แบ่งพระสมเด็จวัดระฆังฯสร้างตอนที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นที่ พระเทพกวี พระสมเด็จฯวัดบางขุนพรหม สร้างตอนที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นที่ พระธรรมกิตติ และพระสมเด็จฯวัดเกศไชโยฯสร้างตอนที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ลงตัวเป๊ะๆเอาแบบนี้มั้ยครับท่าน.........

 

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้รับสถาปนาโปรดเกล้ายกขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฎที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ในพระราชพิธีเฉลิมพระนามาภิไธยขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานาถ ปี พ.ศ ๒๔๐๙--๑๐ ในวาระนี้วัดไชโยฯได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานาถ และในการนี้วัดไชโยฯได้สร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนองค์ใหญ่ โดยมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ รับเป็นผู้อุปถัมภ์ในการบูรณะปฎิสังขรณ์และสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนองค์ใหญ่ในวัดไชโยฯ ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อโต........ต่อมาในปี พ.ศ ๒๔๓๐ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้โปรดเกล้าให้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดไชโยฯทั่วทั้งพระอาราม สร้างอาคารคลุมกันแดดฝนองค์หลวงพ่อโต จนทำให้องค์หลวงพ่อโตเกิดรอยแตกร้าวชำรุดพังทลายลงมาเสียหายทั้งองค์ ล้นเกล้ารัชกาลที่๕ จึงโปรดเกล้ารับสั่งให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ นายช่างปั้นฝีมือดี ขึ้นมาสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนขึ้นมาใหม่บนฐานเก่าหลวงพ่อโต ต่อมาได้พระราชทานนามว่า พระมหาพุทธพิมพ์ งานบูรณะปฏิสังขรณ์วัดไชโยฯแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๔๓๘ ได้มีงานเฉลิมฉลองวัดใหม่สามวันสามคืน มีความเชื่อว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯสร้างพระพิมพ์แบบเจ็ดชั้นฯและแบบอื่นบรรจุไว้ในช่วงอกขององค์พระโต หรือบรรจุในตุ่มใบใหญ่ฝังไว้ในองค์พระโตเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้นครับ........

 

ผมเขียนในกระทู้ก่อนหน้านี้ว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้รับโปรดเกล้าเป็นที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ในพิธีสถาปนาเจ้าฟ้าต่างกรมที่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กลมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ ปี พ.ศ ๒๔๐๔ ขอแก้เป็นปี พ.ศ ๒๔๐๙ น่ะครับ......

 

ถ้าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯสร้างพระวัดเกศฯในช่วงบั้นปลายชีวิตของท่าน อย่างที่อ้างบันทึกใหม่ คำถามคือท่านอายุมากแปดสิบกว่าแล้ว จะขึ้นไปสร้างวัดและสร้างพระโตไหวได้อย่างไร เป็นคำถามเก่าๆที่เคยถามกันมานั่นแหล่ะครับ ระยะเวลาสร้างตั้งสามปี สร้างจากปีใหนถึงปีใหน แล้วข้อมูลที่บอกว่าช่วงบั้นปลายชีวิตท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯปลดวางกิจนิมนต์มอบหมายให้หม่อมเจ้าทัดรับไปดูแลแบ่งเบาภาระในวัดระฆังฯ ท่านได้มาพักวัดอินทร์คุมการก่อสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลย์ไล และมาดูช่างเขียนอัตชีวประวัติท่านบนผนังโบสถ์วัดอนทร์ สร้างฐานพระพุทธรูปปางป่าเลย์ไลได้เพียงแค่ฐานถึงเอวท่านเจ้าประคะณสมเด็จฯก็ละสังขารบนศาลาใหญ่วัดอินทร์ด้วยวัยแปดสิบห้าปี ข้อมูลส่วนนี้จะทำอย่างไรดีล่ะครับ......:boo:

 

วัดที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมานั่งดูแลการบูรณะคือวัดอินทร์ ท่านได้สร้างขยายต่อเติมทางด้านทิศเหนือคือที่บริเวณสร้างโบสถ์และสร้างหลวงพ่อโตอุ้มบาตรนั่นแหล่ะลองไปดูแผนที่ทางอากาศวัดอินทร์ดูจะเห็นส่วนต่อเติมออกมาจากอาณาเขตวัดอินทร์เดิม ท่านสร้างท่านบูรณะวัดอินทร์ตั้งแต่ปีใหนไม่มีหลักฐาน และเมื่อ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ สวรรคตในวันพฤหัสบดีที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ ๒๔๑๑ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯร่วมกับชาวลาว ชาวสยาม ชาวมอญ ชาวเขมร ชาวจีน ที่อาศัยในตำบลบางขุนพรหมสร้างวัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ลงมือสร้างประมาณปี พ.ศ ๒๔๑๒ สร้างตามแบบวัดหลวงมีองค์เจดีย์ทรงแบบลังกา ใช้เวลาก่อสร้างวัดประมาณสองปีจึงแล้วเสร็จ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯจึงสร้างพระพิมพ์เนื้อผงแบบต่างๆจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์บรรจุไว้ในองค์เจดีย์ ตามคตินิมความเชื่อที่สืบทอดมาแต่โบราณในการสร้างวัด เรียกชื่อวัดสร้างขึ้นใหม่นี้ว่า วัดบางขุนพรหม ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นชื่อว่า วัดใหม่อมตรส เพื่อให้ผู้คนรุ่นหลังได้รู้จักว่า วัดบางขุนพรหม หรือวัดใหม่อมตรส ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นผู้พาชาวบ้านมาสร้างวัดนี้. หลักฐานยืนยันมีให้เห็นเยอะแยะแต่เราไปหลงเชื่อนิยายโกหกหลอกหลวงบิดเบือนของคนบางกลุ่ม ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯสร้างวัดใหม่อมตรสบางขุนพรหม วัดนี้วัดเดียวเท่านั้นในชีวิตของท่าน ส่วนวัดอื่นๆท่านเพียงแต่ไปบูรณะซ่อมแซมเท่านั้นครับ หลังจากท่านได้ทุ่มเทสร้างวัดบางขุนพรหมจนแล้วเสร็จท่านเจ้าประคุณก็ป่วยด้วยชราภาพมากแล้ว จนที่สุดท่านก็ละสังขารบนศาลาใหญ่วัดอินทร์ ในปี พ.ศ ๒๔๑๕ พอสิ้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯแล้วงานก่อสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลย์ไลก็ไม่มีผู้ใดมารับช่วงการก่อสร้างต่อจึงร้างมานาน จนถึงยุคหลวงปู่ภูเป็นเจ้าอาวาสวัดอินทร์จึงได้เริ่มก่อสร้างพระพุทธรูปต่อจากฐานเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงแบบก่อสร้างจากปางป่าเลย์ไลเป็นปางอุ้มบาตรแทนอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้แหล่ะครับท่าน........

 

สวัสดีวันพุธครับ วัดบางขุนพรหม ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯสร้างกับมือ แต่กลับให้เป็นคนอื่นที่ไม่มีตัวตนอยู่มาสร้างมาบูรณะแทน วัดไชโยฯท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯไม่ได้สร้าง แค่มาบูรณะฯเท่านั้นแต่จับยัดเยียดให้ท่านฯเป็นผู้สร้างให้ได้ ลงทุนแต่งนิยายสร้างเรื่องโกหกสามสี่เวอร์ชั้นมาหลอกลวงสังคม วันนี้ไปไม่เป็นแล้วครับ แค่อธิบายว่าพระสร้างก่อนบรรจุกรุทำไมจึงไม่มีร่องรอยคราบกรุจับผิวพระเลยซักนิด ทำไมจึงไม่มีร่องรอยเหี่ยวย่นยุบแยกแตกรานบนผิวพระเลย มาแถจนสีข้างเลือดอาบบอกว่าพระเก็บไว้ที่สูงแห้งน้ำท่วมไม่ถึง ชาวบ้านเก็บรักษาพระไว้ดีเลิศ ชาวบ้านเก็บไว้ในตู้เซฟสูญญกาศ หรือเก็บไว้ในกล่องทองคำบริสุทธิ์หรือครับ ถึงไม่มีคราบกรุจับผิวพระเลย พระวัดระฆังฯบางขุนพรหมอยู่ในกรุอย่างไรเก็บรักษาแบบใหนทำไมถึงมีคราบกรุคราบตะกอนน้ำปูนตะกอนตังอิ๊วรอยยุบย่นแยกแตกรานบนผิวพระเต็มไปหมด ผู้ครอบครองพระวัดระฆังฯบางขุนพรหมมีแต่คนบุญหนักศักดิ์สูงเชื้อสายขุนนางชนชั้นสูงของประเทศ ร่ำรวยเงินทองมากมายมหาศาล เขาไม่เก็บรักษาพระสมเด็จวัดระฆังฯบางขุนพรหมไว้ในตู้เซฟสูญญากาศหรือกล่องทองคำแบบชาวบ้านรอบๆวัดไชโยฯบ้างหรือครับ......

 

ที่มาเปลี่ยนข้อมูลพระวัดไชโยฯใหม่เป็นสร้างทีหลังพระวัดระฆังฯบางขุนพรหมก็เพราะเนื้อหามวลสารธรรมชาติความเก่าขององค์พระ เอาไปเทียบกับพระวัดระฆังฯที่เชื่อว่าสร้างทีหลังห่างกันหลายปี พระวัดไชโยฯดูเนื้อหามวลสารใหม่สดกว่าพระวัดระฆังฯหลายสิบหลายร้อยเท่า มองดูด้วยตาเปล่าก็ดูออกบอกถูกว่าพระวัดใหนเก่าไม่เก่า ความเก่าไม่ต้องใช้ความเชื่อน่ะครับ มันใช้ตาดูเท่านั้นครับ......:boo:

 

พระเณรวัดไชโยฯรู้จักและมีความเคารพศรัทธาท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมาตั้งแต่ท่านยังไม่สิ้น อาจเพราะว่าเจ้าอาวาสวัดไชโยฯรูปใดรูปหนึ่งเคยเข้ามาเรียนหนังสือที่วัดมหาธาตุและวัดระฆังฯอาจจะเป็นลูกศิษย์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯรุ่นแรกๆก็ได้ครับ ตอนท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯอยู่วัดมหาธาตุท่านเป็นครูสอนพระเณรในวัดมหาธาตุและวัดระฆังฯน่ะครับ หน้าที่นี้ไม่มีใครพูดถึงกันเลยน่าเสียดายจิงๆ ใครพูดถึงท่านก็มีแต่จับยัดเยียดให้ท่านสร้างพระพิมพ์พระผงอย่างเดียวตลอดปีตลอดชาติ ถ้าจะพูดกันจิงๆท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมีส่วนร่วมในการวางรากฐานการศึกษาของพระสงฆ์ในประเทศไทยด้วยแต่ก็ไม่มีใครพูดถึงเลย น่าเสียใจจิงๆครับ ด้วยท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นครูบาอาจารย์สอนหนังสือย่อมมีลูกศิษย์ลูกหามากมายกระจายอยู่ตามวัดหัวเมืองรอบๆกรุงเทพฯ ลูกศิษย์ลูกหาจะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอารามก็คงจะมานิมนต์ให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯรับอุปถัมภ์การบูรณะวัดต่างๆ เพราะท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นพระที่มีชื่อเสียงมีคนรู้จักมากมายทั้งในวังนอกวัง เราจึงเห็นว่าวัดวาอารามตามหัวเมืองรอบๆกรุงเทพฯจะมีเรื่องเล่ากล่าวขานว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นผู้มาบูรณะปฏิสังขรณ์เต็มไปหมด เพราะการบูรณะวัดมันต้องใช้ทุนไม่มากก็น้อย จึงต้องหาผู้อุปถัมภ์ที่มีความสามารถหาทุนมาสนับสนุนการบูรณะได้ อย่าไปคิดแต่เรื่องให้ท่านสร้างพระพิมพ์พระผงชิ้นฝักอย่างเดียวครับ ยังมีเรื่องสำคัญๆหน้าสนใจให้เราค้นคว้าศึกษาอีกเยอะแยะ ถ้าเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดหรือบางส่วนก็จะเข้าใจได้เบื้องต้นว่าสิ่งที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯทำหรือไม่ได้ทำมีอะไรที่ใหนบ้าง เขียนขาดตกข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยไว้ด้วยน่ะครับ.........:boo:

 

ได้เวลาออกโชว์แล้ว ครับ.....................(kiss)(kiss)(kiss)

 

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จรับเอาวัดอินทร์ไว้อุปถัมภ์ตั้งแต่ปีใหนไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้ๆวัดอินทร์มีความสำคัญมากกว่าทุกๆวัดเลย วัดอินทร์น่าจะเป็นวัดเดียวในพระนครที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯรับอุปถัมภ์และปกครองโดยตั้งพระลูกศิษย์ใกล้ชิดมาเป็นเจ้าอาวาสครองวัด ท่านมาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดอินทร์ใหม่จนเจริญรุ่งเรืองเป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวลาวชาวสยามในตำบลบางขุนพรหม ช่วงที่ท่านฯมาอุปถัมภ์วัดอินทร์ท่านฯได้สร้างพระพิมพ์เนื้อผงพิมพ์แบบต่างๆขึ้นไว้ที่วัดอินทร์หรือไม่ มีมั้ยใครรู้ใครทราบบ้างครับ เท่าที่ผมคิดๆดูไม่เห็นมีพระพิมพ์เนื้อผงที่สร้างขึ้นที่วัดอินทร์เลยแม้แต่องค์เดียว แต่ทุกวันนี้สร้างกันจนไม่มีที่จะเก็บ ที่ท่านไม่ได้สร้างพระพิมพ์เนื้อผงไว้ที่วัดอินทร์ก็เพราะว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯไม่ชอบสร้างพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลเครื่องลางของขลังเลยแม้แต่น้อย ท่านบูรณะวัดอิทร์และสร้างโบสถ์เตรียมจะสร้างพระพุทธรูปปูนปั้นนั่งตอตะเคียนให้มีพญามาร หรือยักษ์มานั่งคุกเข่าฟังธรรม แต่สร้างขึ้นมาได้แค่เอวก็ต้องหยุดไว้ก่อน เพราะต้องเตรียมหาที่ๆจะสร้างวัดใหม่เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ ที่สวรรคตในปี พ.ศ ๒๔๑๑ ตอนนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯอายุ ๘๐ ปีเต็มชราภาพมากๆแล้ว แต่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อให้สมพระเกียรติพระเจ้าแผ่นดินจึงต้องหาที่สร้างวัดใหม่ถวาย และต้องเป็นที่ๆไม่ไกลจากวัดอินทร์มากนัก เพราะจะให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเดินไปมาดูแลการก่อสร้างวัดใหม่ได้สะดวก ชาวบ้านบางขุนพรหมเอาที่ดินมาถวายให้ท่านสร้างวัด ห่างจากวัดอินทร์ประมาณเส้นกว่าๆ เข้ามาด้านในชุมชนบางขุนพรหมและอยู่ด้านทิศใต้ของวัดอินทร์ ใช้เวลาสร้างประมาณสองหรือสามปี( ๒๔๑๒-๑๔) มีเจดีย์ใหญ่เป็นประธาน แล้วสร้างพระพิมพ์เนื้อผงพิมพ์ทรงแบบต่างๆบรรจุในองค์เจดีย์ใหญ่ จัดให้มางานฉลองขึ้นวัดใหม่ ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า วัดใหม่บางขุนพรหม หรือวัดใหม่บางขุนพรหมใน คู่กับวัดอินทรวิหาร บางขุนพรหมนอก ซึ่งน่าจะมาเรียกชื่อนี้ขึ้นทีหลังๆครับ............(deejai)

 

แล้วจะให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯอายุแปดสิบนั่งเรือทวนน้ำขึ้นไปสร้างวัดไชโยฯสร้างพระโตสร้างพระพิมพ์เนื้อผงแบบต่างๆเกือบแสนองค์บรรจุไว้ในอกพระโตตอนใหนปีใหนครับ เพราะตารางงานรับกิจนิมนต์ในพระนครก็เต็มเอี๊ยดยาวเป็นหาวว่าวอยู่แล้ว ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯคุมการสร้างวัดบางขุนพรหมเสร็จ ท่านฯอายุขึ้นแปดสิบสองกว่าๆแล้ว เริ่มมีอาการอาพาธออดแอดๆแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะถ่อสังขารขึ้นไปสร้างวัดไชโยฯสร้างพระพิมพ์เนื้อผงอย่างที่เชื่อๆกันอยู่ทุกวันนี้....(deejai)

 

ดูโชว์ต่อ ครับ............................(f)(f)(f)

 

วัดไชโยฯเป็นวัดเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ชาวบ้านชาวเรือล่องสวนทวนน้ำขึ้นลงใช้เป็นที่จอดแวะพักเรือมาแต่โบราณ ไม่ใช่วัดสร้างขึ้นใหม่แบบนิยายเขาเขียน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้มามีส่วนร่วมบูรณะปฏิสังขรณ์และสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ก่ออิฐถือปูนอันนี้คือข้อเท็จจิงมีหลักฐานยืนยัน แต่มีการสร้างพระพิมพ์เนื้อผงแบบต่างๆบรรจุในองค์พระโตฝังตุ่มในองค์พระโตมั๊ย มันไม่มีหลักฐานยืนยันพอจะเชื่อถือได้ในขณะนี้ ยิ่งดูพิจารณาธรรมชาติเนื้อหามวลสารพระวัดไชโยฯแบบต่างๆแล้ว เนื้อหามวลสารมันยังไม่เก่าลึกเก่าถึงยุคครับ ชื่อวัดเกศหรือวัดเกตุไชโยฯมีมาพร้อมกับพระพิมพ์แบบต่างๆและแถมมีนิยายสามสี่เวอร์ชั่นมาเล่าประกอบการขายให้ด้วย ชื่อจิงๆมาเดิมๆชาวบ้านเรียกวัดไชโยฯเท่านั้นไม่มีคำว่าเกศ เกตุ นำหน้า เคยมีเซียนใหญ่ชั้นสามพันทิปบอกว่าแต่ก่อนเจ้าอาวาสชื่อหลวงตาเกตุ ชาวบ้านเรียกหลวงตาเกตุอยู่วัดไชโยฯ เรียกไปเรียกมาเป็นวัดเกตุไชโยฯ นี่นับเป็นเวอร์ชั่นที่ห้าเลยน่ะครับ๕๕๕๕๕............ราตรีสวัสดิ์ครับ...........(deejai)(deejai)

 

สวัสดีวันพฤหัสบดีครับ ผมไม่ได้มีเจตนาเขียนโจมตีพระวัดเกศไชโยฯให้เสียหายน่ะครับ อย่างที่ทุกคนเห็นสภาพพระวัดเกศไชโยฯไม่เก่าไม่มีคราบแบบพระเนื้อผงบรรจุกรุเลย เทียบกับพระกรุวัดบางขุนพรหมปี ๐๙ ดูสิครับ สร้างมาแค่สี่สิบกว่าปียังมีคราบตะกอนคราบตังอิ๊งแห้ง บางองค์มีคราบกรุแห้งจับผิวให้เห็นด้วย แล้วพระวัดเกศไชโยฯสร้างมาตั้งร้อยกว่าปีแต่ไม่มีคราบกรุความเก่าจับเกาะผิวพระเลย พระวัดเกศไชโยฯเป็นพระแท้แต่สร้างขึ้นหลังท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯสิ้นไปหลายสิบปี ครับ...........

 

ในช่วงปลายชีวิตท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมาดูแลบูรณะวัดอินทร์ สร้างโบสถ์สร้างบ่อน้ำพระพุทธมนต์ไว้ประพรมและแจกจ่ายให้ชาวบ้านใกล้ไกล น้ำพระพุทธมนต์ท่านฯได้มาจากในวัง เวลามีงานพระราชพิธีสำคัญๆ แบ่งเอามาเทผสมลงในบ่อ แล้วทำไมท่านจึงมาสร้างบ่อน้ำพระพุทธมนต์ไว้ที่วัดอินทร์ เพราะสร้างที่วัดระฆังฯไม่ได้ วัดระฆังฯเป็นพระอารามหลวงเป็นสถานที่เรียนหนังสือของพระเณร จึงดูไม่เหมาะสมจะสร้างบ่อน้ำพระพุทธมนต์ไว้ที่วัดระฆังฯมั้ง คนสมัยโบราณเขานิยมไปบูชาขอน้ำพระพุทธมนต์มาประพรมดื่มกินเป็นยารักษาโรคได้สาระพัด วัดวาอารามต่างๆจึงนิยมสร้างพระกริ่งพระชัยวัฒน์ขึ้นเพื่อแช่ทำน้ำพระพุทธมนต์แจกจ่ายให้ชาวบ้านไม่ต้องไปขอจากในวัง วัดที่สร้างพระกริ่งพระชัยวัฒน์เป็นวัดแรกๆคือวัดบวร สร้างโดยสมเด็จพระสมณเจ้า กลมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ที่เราเรียกว่าพระกริ่งปวเรศ โดยถอดแบบมาจากพระกริ่งจีน ในวังเอาพระชัยหลังช้างพระชัยวัฒน์ประจำราชกาลหรือพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มาแช่ทำน้ำพระพุทธมนต์ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯไม่ได้สร้างพระกริ่งไม่มีพระชัยวัฒน์ไว้แช่ทำน้ำพระพุทธมนต์ แต่มีคนยัดเยียดให้ท่านฯเป็นผู้สร้างพระกริ่งปวเรศรุ่นแรกๆซึ่งมันตลกมากๆ พระกริ่งปวเรศสร้างหลังจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯสิ้นหลายสิบปี ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าใครเป็นผู้สร้าง พูดถึงบ่อน้ำพระพุทธมนต์วัดอินทร์แต่ทำไมลงท้ายด้วยพระกริ่งไปได้น่ะจบดีกว่าครับ55555555......

 

สวัสดีครับท่านจัวน้อย วันนี้ผมเอาพระสมเด็จมาอีกหนึ่งองค์เพื่อสอบถามครับ ส่วนมากถามท่านอื่นๆเขาจะดูเฉพาะพิมพ์นิยมเนื้อนิยมครับ ไม่ค่อยดูเรื่องของแท้ของจริง ครับ รบกวนหน่อยครับ องค์นี้เป็นยังไงบ้างครับ