เรียนถามท่านผู้มีประสบการณ์ เกี่ยวกับการปฏิบัติ และศีลข้อ 3

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jikkiijang, 10 พฤษภาคม 2015.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    การเจริญสมาธิด้วยการกำหนดรู้และละอารมณ์
    พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
    วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
    จากหนังสือ การเจริญสมาธิด้วยการกำหนดรู้และละอารมณ์
    จัดพิมพ์โดยธรรมสภา
    โพสท์ในลานธรรมเสวนาโดยคุณทรายแก้ว [ 9 ก.ย. 2542]
    คัดลอกมาจาก http://www.luangpee.net/forum/?topic=3915.0
    [​IMG]
    บทที่ ๑๐ เรื่องจิตเรื่องอิทธิฤทธิ์
    เรื่องต่อไปนี้ท่านเจ้าคุณพระโพธินันทมุนี ได้เล่าให้ฟังเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม๒๕๓๘ เป็นการถอดคำพูดจากการบันทึกเทป ดังนี้
    ถ้าพูดไปแล้วนะอาจารย์ (หมายถึง อ.ปฐม - อ.ภัทรา นิคมานนท์) เรื่องของจิตหรืออิทธิฤทธิ์นี้ อาตมาก็ไม่อยากจะใช้คำว่าอิทธิฤทธิ์ เพราะหลวงปู่ท่านไม่นิยม และก็ไม่ทำ ไม่แสร้งทำ ไม่อะไรด้วยทั้งนั้น ก็เลยไม่อยากใช้คำว่าเรื่องจิตเรื่องอิทธิฤทธิ์ แต่ จิต นี้ หลวงปู่ท่านก็พูดว่า “จิต”
    แต่ถ้าพูดเกี่ยวกับหลวงปู่ ก็มีเรื่องแปลกๆ หรือเรื่องที่น่าอัศจรรย์เหมือนกันในขณะที่เราอยู่กับท่าน ท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธ ท่านก็ไม่ได้ยกย่อง ท่านก็ไม่ได้พูดเพื่ออะไรมากมายในเรื่องเหล่านี้ แม้แต่เรื่องไสยศาสตร์ ก็พูดกันว่า ชาวสุรินทร์เห็นมีไสยศาสตร์กันมาก สามารถใช้คาถาอาคมอะไรต่างๆ เหล่านี้ แม้มีคนถามท่าน ท่านก็ไม่ค่อยอธิบาย ท่านก็บอกเพียงว่า ท่านเองก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันอะไรทำนองนั้น
    สำหรับเรื่อง “จิต” นั้นท่านพูด คือท่านพูดเรื่อง จิต ท่านไม่ค่อยใช้คำว่าอิทธิฤทธิ์ อะไรหรอก จะใช้ว่า “พลัง” โดยมากท่านจะพูดว่า “พลังจิต” นั้นมีอยู่ พลังจิตจะมีได้ ก็เกิดจากข้อเดียว คือ พลังสมาธิ
    ถ้าผู้ใดสร้างสมาธิจิตไม่ได้ ท่านว่าพลังจิตนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ ถึงเกิดขึ้นก็เป็นพลังจิตที่เป็น มิจฉา หรือไม่มั่นคง เช่นว่าคนบางคนเขาใช้พลังจิตในทางที่ผิด หรือนำไปใช้ในทางรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วย ก็อาจจะมีส่วนของพลังจิตเหมือนกัน
    พลังจิตที่เกิดจากสมาธิที่ถูกต้องนั้นคือ เมื่อมีสมาธิเกิดขึ้นแล้วก็อาศัยพลังแห่งจิตเพราะสมาธินั้นเกิดจาก จิตรวม คือ จิตมันละอารมณ์ต่างๆ เมื่อมันไปแบกเอาอารมณ์ต่างๆ ไว้มาก จิตมันก็ไม่มีกำลัง ไม่มีพลังอะไร ต่อเมื่อจิตสามารถตัดอารมณ์ต่างๆ ได้ ก็เกิดสมาธิ ก็ใช้คำว่า “จิตเดียว” ที่ปราศจากอารมณ์มากเกินไปจิตก็จะเกิดมีพลังขึ้นมา
    ถ้ามีพลังแล้ว (ตามที่หลวงปู่เคยอธิบาย) ระหว่างที่จิตเราเกิดมีพลังสมาธินี่แหละบุคคลจะเอาไปใช้ทางไหน ก็ได้ผลในทางนั้น แต่เมื่อใช้ในทางที่เสียหายมันก็ทำให้เสียหายได้ หรือใช้ไปในทางที่ให้ประโยชน์ให้เกิดพลังปัญญาก็ได้
    หมายความว่า อย่างที่ถูกในหลักวิชาการเรียนทางศาสนาว่า ศีล สมาธิ ปัญญาที่ว่าศีลทำให้เกิดการอบรมสมาธิ สมาธิอบรมปัญญา ฉะนั้น พลังจิตที่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงหลังจากเกิดสมาธินั้น หมายถึงว่า จิตนั้นจะยกสภาวธรรมขึ้นมาไตร่ตรองให้เกิดวิปัสสนาญาณเกิดปัญญา แล้วปัญญานั้นก็จะแจ่มแจ้ง ดีกว่าจิตที่ไม่เกิดสมาธิหรือจิตที่ไม่มีสมาธิ
    ฉะนั้น หลวงปู่จะใช้ว่า พลังจิตนั้นสามารถยกระดับภาวะหรือป้องกันความทุกข์ยากอันเนื่องจากการที่จิตส่งออกไปเพื่อรับอารมณ์ต่างๆ ได้
    มีคนชอบถามหลวงปู่เกี่ยวกับเรื่องอิทธิฤทธิ์บ้าง หรือจิตที่มีฤทธิ์มีพลังอย่างหนึ่งอย่างใดบ้างนั้นก็เคยมี แต่เนื่องจากว่าหลวงปู่ท่านไม่สนใจในเรื่องสิ่งมหัศจรรย์หรือสิ่งอัศจรรย์ในอิทธิฤทธิ์ต่างๆ เหล่านี้ ท่านจึงไม่นิยมพูดให้ใครฟัง
    แต่หลวงปู่ก็ยอมรับว่าจิตนั้นย่อมเป็นจิตที่มีพลัง เมื่อจิตมีพลังแล้วมันก็จะเป็นคุณประโยชน์ได้หลายอย่าง แต่ท่านก็จะขึ้นต้นว่า จิตจะมีพลังได้นั้นก็ต้องเมื่อได้สมาธิ เมื่อทำสมาธิได้หรือเกิดสมาธิ จิตมีอารมณ์เดียว จิตจึงจะมีพลังเมื่อจิตมีพลังแล้วจะหันไปใช้ทางไหนก็ย่อมได้ แม้หันไปทางที่ผิดทางพระพุทธศาสนาก็ย่อมจะได้ อย่างเช่นฤๅษีชีไพร หรืออะไรๆ นั้น ล้วนแต่เป็นสมาธิซึ่งนับว่าเป็นมิจฉาสมาธิได้
    ส่วน สัมมาสมาธิ นั้น หมายถึงจิตที่เป็นสมาธิตามลำดับ ตั้งแต่ขั้นต้นคือขณิกะสมาธิ จนกระทั่งเข้าสู่ อัปปนาสมาธิ อะไรในกระแสนี้ แล้วจิตนั้นก็จะเป็นพลังส่องทางไปให้เกิดปัญญา
    ในทางตรงข้าม ถ้าอาศัยพลังจิตไปในเรื่องอื่น เรื่องอิทธิฤทธิ์อะไรนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกพุทธประสงค์ทั้งหมด
    แต่ถ้าใช้พลังจิตนั้นเพื่อเป็นเหตุให้ปัญญาผุดขึ้น เพื่อจะตัดกิเลสตัณหาและความชั่วร้ายต่างๆ เพื่อยกระดับจิตของเราให้พ้นทุกข์ จึงจะเป็นพลังจิตที่เป็นสัมมาทิฏฐิ และเป็นทางที่ถูกต้อง หลวงปู่มักจะอธิบายในแนวทางนี้
    ส่วนในทางที่ว่าเอาพลังจิตไปแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างนั้นอย่างนี้แล้ว รู้สึกว่าหลวงปู่จะไม่ค่อยกล่าวถึง หลวงปู่จะระมัดระวังที่สุดในเรื่องการปฏิบัติให้เป็นไปในทางที่ดีที่ถูกต้อง



     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เรื่องจิตเรื่องอิทธิฤทธิ์

    ถ้าผู้ใดสร้างสมาธิจิตไม่ได้ ท่านว่าพลังจิตนั้นเกิดขึ้นไม่ได้

    จิตจะมีพลังได้นั้นก็ต้องเมื่อได้สมาธิมื่อทำสมาธิได้หรือเกิดสมาธิ

    การเจริญสมาธิด้วยการกำหนดรู้และละอารมณ์ พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
     
  3. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ยกตัวอย่างมาให้ดู ว่าคนฝึกดาบ เขาเอาการฟันดาบซ้ำๆ มาเป็นการฝึกสมาธิฝึกฌาณ ก็ได้....พวกฝึกฌาณสร้างไฟ กสิณไฟ...ในพวกฤาษี พราหม สมัยก่อน....เขาไม่ได้ฝึกเพื่อเอามาชำระกิเลส อวิชชา....พวกเขาก็ฝึกได้

    เรื่องแค่นี้ ยัง ไม่เข้าใจ....นี้แค่ยกตัวอย่างว่ามันทำสมาธิ ทำฌาณได้...แต่จะเกิดญาณ เกิดปัญญาด้าน ทำร้ายเบีนดเบียนพอกพูนกิเลส หรือลดละเลิกกิเลส....อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงมัน

    ถ้ามีสมอง ก็อ่านให้มันเข้าใจได้ก่อนค่อย คิด เป็นไร....ถ้าเพียงแค่อ่านแล้วยังไม่มีปัญญาเข้าใจ (คุยกันแล้วยังไม่เข้าใจในสิ่งที่คุยกัน) อย่าพึ่ง เอาไปคิดต่อ เลยครับ...ไม่อายมั่งหรือครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 พฤษภาคม 2015
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    สรุป คุณก็ๆไม่เข้าใจสินะว่าต้องปฏิบัติอย่างไรให้เป็น ฌาน สมาธิ

    ว่างๆไปศึกษาก่อนเถอะว่า พวกฤาษี พราหม สมัยก่อน เค้าปฏิบัติตัวอย่างไร ถึงได้ ฌาน สมาธิ

    .
    แล้ว ตอบไม่ได้สินะ ตำราใคร ครูบาอาจารย์ที่ไหนสอน สำนักไหนสอน ?

    บางคนเอาการเสพกามมาทำเป็นฌาณเป็นสมาธิก็ได้.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2015
  5. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ที่ไม่เข้าใจ คือคุณต่างหาก....ฝึกดาบฝึกสมาธิฝึกพลัง นั่นคือฝึกฌาณ

    แต่ญาณหรือปัญญาที่ได้....เขาฝึกเพื่อเอาไปทำอะไรต่างหาก คือ สิ่งที่แยกแยะ ว่า ดี หรือไม่ดี

    ก็แย้งคุณที่ว่า การเสพกาม เป็นสมาธิเป็นฌาณได้ เหมือนกัน...อยู่นี่ไง

    คุณบอกเมื่อเสพกาม อยู่ มีเมียอยู่ ฝึกสมาธิฝึกฌาณไม่ได้..ผมก็กำลัง แย้งอยู่นี่ไง

    ...
    เข้าใจภาษาไทย ที่แปลว่า แย้ง มั้ยครับ

    ถ้าคุณไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ...ในสิ่งที่ผมพูด ..คุณจะไม่แถไปถามหาสำนักไหนสอนหรอก

    นี้แสดงว่าเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด..แต่เถียงไม่ได้ ก็เลยแถ ถามหาสำนัก เพื่อจะเอาชนะเรื่องสำนัก แทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 พฤษภาคม 2015
  6. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อ่านจากหนังสือที้เขาบันทึก เรียนมา ก็รู้ว่า ฤาษี ชีพราหม หมอผี นักรบ ในป่า เขาฝึกฌาณ ฝึกตบะ เพื่อสะสมพลังสมาธิ สะสมพลังฌาณ....มาถามหาสำนัก...ทำ....เฮีย อะไรล่ะครับ

    อดีต เขาฝึกเพลงดาบ เพลงมวย ก็ฝึกสมาธิฝึกฌาณ คาถาอาคม...เพื่อ ป้องกัน เพื่อทำร้ายทำลาย เบียดเบียนกัน....นี่ก็เสพกาม เหมือนกัน

    ถ้ารู้ว่าโง่ขนาดนี้ รู้ตัวได้ ก็จะดีนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 พฤษภาคม 2015
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ไปถามคนฝึกดาบนะ ฝึกดาบ เป้นการเสพกามป่าว สมองคิดหน่อยนะ


    ถามจริงๆ ได้ฌานแล้วจะฝึกดาบไปทำไม สมองคิดหน่อยนะ

    และถ้า ฝึกดาบได้ฌาน ใครที่ไหนครับ ช่วยเอามาลงให้ดูหน่อยนะ

    .
     
  8. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แล้วเป็นการเสพกามตรงไหน คิด แยกแยะให้ออกนะ ไม่ไหวเพลียจริงๆ

    .
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ฝึกดาบได้ ฌาน 5555555+

    ว่างๆไปดูหนังจีน ยังมีก็ดีนะ

    เจ้าสำนัก กระบี่ ต้องเข้าถ้ำ ไปนั่งสมาธิ สำเร็จ สมาธิ ฌาน กันทั้งนั้น 55555555+

    สำเร็จวิชา ก็เพราะไป ทำสมาธิ นั่งสมาธิกันทุกเรื่อง 555555+.

    ฮาจริงๆ

    .
     
  10. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    โลกนี้คือ กามภพ...ทั้งหมด...ถ้าไม่เสพกาม จะฝึกดาบไปทำเฮียอะไรครับ

    ทำงานเพื่ออะไร.....เสพกามไม่ไช่ นับเรื่อง ปี้กัน อย่างเดียว ซะที่ไหนกัน

    ฆ่ากัน เกลียดกัน นี่ก็เสพกาม...ถ้าแค่นี้ยังไม่เข้าใจ

    ยังมีหน้า มาเถียงอีก:cool:
     
  11. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อิอิ..มันฉลาดกว่าที่คิด ไว้เยอะเลย:coo

    แค่ตั้งใจอ่านหนังสือ ยังได้ฌาณเลย...ฉลาดอย่างแก คงไม่เข้าใจ หรอกมั้ง
     
  12. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    กลับไปพิจารณาคำถาม จขกท ก่อนดีกว่า เพื่อจะหาย

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr valign="bottom"><td width="100%">
    หรือแค่ ศีลข้อ 3 ยังแยกแยะไม่ออก ว่าหมายถึงอะไร เรื่องไหน เกี่ยวกับการเสพกาม อะไร

    ก็ปล่อยไปตามกรรม :cool:
    </td> </tr> <tr> <td class="navbar" style="font-size:10pt; padding-top:1px" colspan="3">
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2015
  13. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แล้วตกลง ฝึกดาบ ได้ ฌาน


    ใครครับ ยังไม่เห็นตอบ หรือ ยกมาให้ดู ว่า จาก สำนักไหน

    อยากรู้จริงๆ บางคนเอาการเสพกามมาทำเป็นฌาณเป็นสมาธิก็ ได้ นี่ ครูบาอาจารย์ สำนักไหนสอน อยากรู้

    หรือแค่ มโน คิดเองเออเอง
     
  14. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ครับท่านผู้ฉลาดเหลือเกิน...เบื่อจะอธิบาย...เชิญฉลาด ต่อไปเถอะนะ อิอิ
     
  15. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ก็ไหนว่า ฉลาด...อ่านแล้วตอบไปแล้ว ทำไม ไม่เข้าใจล่ะครับ
    คนอื่นเขาอ่าน เขายังเข้าใจ...แล้วทำไมแก ไม่เข้าใจล่ะครับ..ท่านผู้ฉลาดครับ:cool:
     
  16. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถ้าอยากเข้าใจ....ว่าผมตอบอะไร คุณลองตอบ ที่ผมถามคุณบ้างนะ ว่า

    กามคุณ 5.... มันคือ กามที่เกิดจากอะไร ครับ และ มันเรียกว่ากามที่เป็นคุณ(ไม่ไห้โทษ)..ได้เพราะอะไรครับ

    ถ่าตอบไม่ได้ ก็ อย่ามาคุยเรื่องกาม ต่อเลยะครับ..ตอบมาครับ
     
  17. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    แล้ว กามภพ มันรวมภพอะไรบ้างครับ....แล้วทำไมเรียก กามภพ ครับ

    ตอบไม่ได้อ ย่ามาถามหาสำนักนะครับ....อิอิ

    แล้วคุณเกิด จาก กามมั้ยครับ
    แล้วคุณเกิดใน กามภพ มั้ยครับ
    แล้ว กายใจคุณ มันเสพกามมั้ยครับ
    ตาหูจมูกลิ้นกายใจ ของคุณ..มันอยู่ในกามภพมั้ยครับ มันเลิกเสพกามหรือยังครับ
     
  18. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ยังจะแถ จะเถียง อะไร ต่อ มั้ยครับ....ไม่เข้าใจก็ ไม่ต้องเถียง นะครับ

    เบื่อคนฉลาดครับ ผมมันโง่ ขอตัวไปก่อนนะครับ..อายครับ
     
  19. pukub

    pukub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2014
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +219
    ในความเห็นผมนะครับ
    ผมพอเข้าใจกามในความหมายของคุณ sianns
    ซึ่งกามมีหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่กามเสพเซ็ก แต่หมายถึงการติดสุข จากพฤติกรรมหลาย ๆ อย่าง
    แม้แต่นั่งสมาธิแล้วมีความสุข ก็คือเสพกามเหมือนกัน นี้คือความหมายของกามของคุณ sianns
    ใช่ไหมครับ?

    แต่ผมก็เห็นด้วยกับคุณ Saber ที่ว่า ถ้าไม่ประพฤติพรหมจรรย์ ก็ไม่อาจทำให้เกิดญาณได้
    คือผมก็ไม่ค่อยรู้ศัพท์ลึก ๆ อะไรหรอก
    แต่ถ้าเสพกามอยู่ โดยเฉพาะเสพเซ็กส์ เนี่ย จะทำให้เกิดอภิญญาที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป เช่น
    หายตัวได้ อ่านจิตได้ จนกระทั่งถึง เหาะเหินเดินอากาศได้ อะไรแบบนี้
    ผมคิดว่าคงไม่ได้ เพราะว่าจิตมันไม่มีกำลังสมาธิ มันติดกับนิวรณ์อะไรที่ว่านั้น
    ถึงแม้จะใช้กามเป็นตัวเพ่งสมาธิ แต่มันไม่ใช่สัมมาสมาธิ
    เพราะจิตคลุกอยู่กับกาม จิตก็จะมีความอยากในกาม และก็เป็นไปตามอำนาจของกาม
    ไม่ใช่มีอำนาจเหนือกาม เพราะฉะนั้น จิตข้องอยู่กับกามจะเรียกว่าเป็นสมาธิแบบที่พระพุทธเจ้า
    ต้องการให้พระภิกษุไปถึงได้นั้น จึงไม่ใช่

    เพราะฉะนั้นถ้าจะเรียกว่ามีพลังได้ ก็อาจมีพลังได้แค่เล็กน้อย
    แต่ไม่สามารถมีพลังไปกว่า จิตที่ออกจากนิวรณ์ได้แน่นอน

    แต่ว่าแม้กระนั้น ถ้าเราพอจะรู้จักคนเฒ่า คนแก่ คนโบราณ
    โดยเฉพาะคนมีวิชชา เขาจะมีข้อปฏิบัติเยอะมาก
    เช่นห้ามลอดใต้บันได หรือห้าม โน้น นั้น นี้
    เพราะผิดปุ๊บ วิชาที่มีก็จะเสื่อมได้
    ก็เหมือนกัน ถ้ายังเสพกามอยู่ อภิญญาที่มีต้องเสื่อมแน่ ๆ
    ถ้าเลิกเสพกามเมื่อไร อภิญญาที่มี ก็จะกลับมา
    ที่นี้ ก็ไม่ใข่ว่าทุกคนจะมีได้ใช่ไหมครับ?

    เหมือนเกิดมาทุกคนก็ไม่ได้ร้องเพลงเพราะ
    คนที่ร้องเพราะ มันไม่ต้องฝึกอะไรมาก มันก็ร้องเพราะ
    คนที่ร้องไม่เพราะ ฝึกไปสิบเท่า มันก็ยังวิ่งตามอยู่ดี
    อะไรแบบนี้หรือเปล่า

    ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ


     
  20. pukub

    pukub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2014
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +219
    ที่นี้ผมขอออกความเห็น กขกท บ้างนะครับ
    ที่ จขกท ว่า ละศีลข้อ 3 ไม่ได้ หมายถึง ยังมีเซ็กอยู่ใช่ไหมครับ?

    ถ้ายังมีเซ็กอยู่ ก็สามารถถึงขั้นโสดาบันได้ครับ

    แต่ถ้าหมายถึงการคบชู้ ผิดประเวณี ไปคบคนมีเจ้าของ
    ในข้อนี้ ไม่สามารถถึงขั้นโสดาบันได้ครับ

    ส่วนอภิญญาต่าง ๆ ต้องฝึกเข้มข้นครับ
    ถึงจะสามารถเรียกใช้ได้ ตามอำเภอใจ
    ถ้าฝึกบ้างไม่ฝึกบ้าง ก็จะมาแบบแว่บ ๆ โผล่ ๆ
    ให้งง ๆ ว่า เหมือนเราจะมี เอ๊ะ หรือไม่มี?


     

แชร์หน้านี้

Loading...