กสิณอะไรฝึกง่ายสุดหนอ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย lovepyou, 8 กรกฎาคม 2014.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,436
    ค่าพลัง:
    +35,021
    ชำเรืองหรือลดสายตาปกติลงมาเหมือนๆเรากำลังมองลิ้นปี่ตัวเอง.
    ส่วนตรงเหนือคิ้วมันจะเปนไปตามธรรมชาติของมันเองคับ.
    ส่วนที่หน่วงๆเรื่องปกติครับ อย่าเรื่องลมกะทบปลายจมูก
    ลองหลับตาแล้วชำเรืองดูลิ้นปี่ดูเล่นๆคับ.
    จะรู้สึกตรงเหนือคิ้วดีขึ้นเปนปกติคับ
    แต่ต้องพร้อมความรู้สึกลมกะทบปลายจมูกนะคับ
    และลมหายใจยาวแบบไม่ต้องตามลม
    ไม่งั้นมันจะหน่วงๆแบบหนักๆตึงๆหนื้อระหว่างคิ้วคับ

    ประมาน. ๒ สับดาห์คับ เด่วก็ชิน ร่างกายจะปรับโดย
    ธรรมชาติได้เองคับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,436
    ค่าพลัง:
    +35,021
    นึกออกเนาะถ้าเพ่งหรือไปดูจิตตลอดจนตามลมหายใจจะแน่นหน้าอก
    ถ้าเผลอกำหนดจิตไว้ตรงเหนื้อคิ้วพอเราใช้ตาปกติมันจะดึงกะแสความ
    คิดจากสมอง เราจะตึงระหว่างเหนือคิ้ว และปวดศรีษะคับ ที่แนะนำไปเพื่อ
    ตัดวงจรกะแสพวกนี้ให้จิตมันเคลียกะแสที่มาเกาะ มันจะได้ไปสร้าง
    ทิพย์จักขุได้ของมันเองในลำดับต่อมาไงคับ
     
  3. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ถ้านับเวลาทางโลก แต่ไม่อยากเล่าคับ. เพราะมันเว่อร์จริงๆคับ
    แต่ผลปรากฎว่าส่วนตัวแพ้นะครับ. ๕๕๕๕๕๕
    เพราะกลุ่มนั้นเค้าจะเร็วกว่าเราคับ. พวกกสิณไฟ
    ที่เคยใช้กับพวกภูตอสูรกาย กลุ่มนี้เค้ากดซะกลายเป็นน้ำเลยคับ ๕๕๕
    นึกแล้วขำๆ. สุดท้ายสู้ไม่ได้ยอมตายดีกว่าสู้ไปก็เสียเวลา ๕๕๕
    หนึ่งในนั้นหน้าออกจีนๆผิวเหมือนรูปปั้นทาสีแต่งเหมือนเทพทางจีน
    ท่านมามาทักผม. ว่าไงเพื่อน เป็นที่มาของพันธ์มิตรทางภพภูมิ
    สายบู้ ที่เป็นเพื่อนกันมาจนทุกวันนี้นั่นหละครับ. นึกแล้วก็ขำดี
    ส่วนตัวเลยเลิกเปรี้ยวในบัดดล. ๕๕๕. ดีนะคับ
    ที่ไม่ตายก่อน ไม่งั้นคงไม่ได้โม้ในนี้แน่นอน
    นึกแล้วยังเสียวหลังไม่หาย
    ปล.ทั่วๆไปประมานนี้หละคับ



    ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ .....
    คุณนพ .... เขาเรียก เหนือขนตา ยังมีคิ้ว หรือเปล่าเนี่ย
    :cool::cool::cool:

    ว่าแต่เปลี่ยนจากคุ่ต่อสู้มาเป็นเพื่อน หรือจากศรัตรูมาเป็นเพื่อนได้นี่ ดีแท้ๆ
     
  4. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    คุณนพคะ ถ้า สมมติว่า ดิฉันไปยืนบนสนามหญ้าแล้วดิฉันเดินจูงมือ หรือจับมือ หรือแตะตัวใครอีกคนหนึ่ง แล้วดิฉันอธิฐานขอพลังงานที่ไม่ดีในตัวของอีกคนหนึ่งให้ไหลมาที่ตัวดิฉัน จากนั้นแล้วดิฉันค่อยปล่อยพลังงานออกอีกที ... แบบนี้ดิฉันพอจะทำได้ไหมคะ

    คือ .. คุณพ่อของดิฉันท่านป่วยเพิ่งออกจาก รพ. มา แล้วดิฉันคิดว่าดิฉันอยากช่วยคุณพ่อบ้าง แม้จะไม่เต็มร้อย อาจจะช่วยได้แม้แค่เปอร์เซ็นต์เดียว ดิฉันก็อยากทำค่ะ แต่ถ้ามันทำไม้ได้ ดิฉันจะพาท่านเดินเล่นบนดินหรือหญ้าแทนค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  5. pagapong

    pagapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +531
    ขอบคุณครับ จะลองนำไปปฏิบัตินะครับ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,436
    ค่าพลัง:
    +35,021
    เดินเท้าเปล่าเลยครับ ยิ่งดี แต่เราก็จับมือท่านไว้ และก็อฐิษฐานตามที่เคยบอกเอาไว้ในใจ..
    แต่ให้กำหนดให้กระแสนี้ออกตรงหน้าฝากเราด้วยนะครับ..
    เด่วมือเราก็จะดึงกระแสจากตัวท่านมาลงที่เท้าเราได้เองครับ.
    พร้อมกระแสจากตัวท่านอีกสายจะออกที่หน้าตีนผมตรงเหนือ
    หน้าฝากเราได้ร่วมกัน....ถ้าเราออกที่หน้าฝากได้บ่อยๆ
    ต่อไปพอท่านมาเดินที่หญ้าเอง ตัวจิตท่านก็จะทำงานเกี่ยวกับ
    การคลายกระแสตรงนี้ได้อัตโนมัติ เนื่องจากตัวจิตมันจะชิน
    เนื่องจากมีกระแสช่วยจากข้างบนครับ..

    ให้สังเกตุว่าถ้าเราเริ่มดึงได้ผล
    จะมีความรู้สึกว่า มีลมหมุนบริเวณหน่องของเรา และมีกระแสออก
    ตรงตีนผมที่หน้าฝากเรา...เราก็ยืนเฉยๆจนกระแสแถวหน่องเรามันหาย
    อาจจะใช้เวลาเล็กน้อยครับ..และ
    เด่วมันจะดึงกระแสตรงช่วงต่ำกว่าท้องของท่านที่มันดันมาตรง
    ก้นกบ.และตรงช่วงหน้าอกด้านซ้ายตลอดจนใต้
    กระโหลกศรีษะของท่านผ่านตัวเรา
    ออกมาได้เองอัตโนมัติครับ..
    และต่อไปพอท่านไปเดินเด่วกระแสก็จะผ่านตัวท่านได้เอง
    ถ้าท่านรู้สึกว่า มีลมหมุนๆตรงหน่องได้เมื่อไรนั่นหละคือ
    จิตเริ่มทำงานเกี่ยวกับตรงนี้ได้แล้วเช่นกันครับ..

    ปล.ลองดูไม่ได้ยากครับ..แต่ถ้าได้นอนบนหญ้าเลยจะดีที่สุดครับ..
    ส่วนตอนเช้าๆ ระวังเรื่องฉี่หนูก็พอครับ ใส่ถุงเท้าเดินไม่มีปัญหาครับ
    ได้ผลเช่นกัน.เราไม่ต้องอธิบายอะไรกับท่านก็ได้ครับ แค่คอยถามว่า รู้สึก
    มีลมหมุนรอบหน่องท่านไหมเวลายืนบนหญ้า ถ้ามี ก็ให้กางแขนร่วมด้วย
    ก็จะถ่ายเทพลังงานได้ดีขึ้นอีกลำดับได้เองอัตโนมัติครับ.
     
  7. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เออท่านนพ ผมขอปรึกษา เฉพาะชายนะ

    คือว่าถ้าผมอยากกลับมาโด่ อีกครั้ง มี การ หมุนวนพลัง แบบ ใดบ้าง วานตอบ

    ถ้าท่านรู้ท่านก็ตอบมาตามจริง ถ้าไม่รู้ ก็ไม่ว่ากันครับ..อิอิ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,436
    ค่าพลัง:
    +35,021
    รู้แต่ไม่คิดที่จะแนะนำมนุษย์คนใดบนโลกใบนี้ครับ..
    จริงๆทริคมันง่ายมากๆครับ..และ
    เพราะว่ามันเป็นเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้เราจะขาด
    การได้รับความเคารพและเกรงใจจากทางส่วนภพภูมิ
    แม้ว่าเราจะบอกว่าใช้กับคนสนิทของเราเพียงคนเดียว
    .แต่มันจะดึงให้จิตให้ออกไปภายนอกได้แน่นอน
    อย่างที่เราไม่รู้ตัวล้านเปอร์เซนต์ครับ

    ปล. ส่วนตัวมองว่ามันเป็นเชิงอกุศลครับ.
    ...ต้องถามท่านอื่นๆลองดูเนาะคุณ.
    หรือไม่ก็ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางดูครับ.
     
  9. สุโขสุขี

    สุโขสุขี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +1,469
    สวัสดีครับพี่นพ
    รบกวนสอบสอบถามหน่อยครับ ไม่รู้จะเกี่ยวกับกระทู้รึเปล่านะครับ
    ถ้าผมอยากให้สิ่งที่ปรารถนาสำเร็จผลโดยเร็วเช่น เรื่องงาน เรื่องเงิน หรือเรื่องอื่นๆ จะใช้ผลจากการนั่งสมาธิช่วยให้เป็นไปตามที่ปรารถนาได้มั๊ยครับ

    ขอบคุณครับพี่
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,436
    ค่าพลัง:
    +35,021
    ผลจากสมาธิในระดับที่จิตสงบเป็นอย่างน้อย
    รวมทั้งสงบได้นานหน่อยในระหว่างวันนะ
    ปกติของสุโขสุขี กระแสของจิตมันเอื้ออยู่สำหรับเรื่อง
    อธิษฐานอยู่แล้วนะเพราะมันดูขึ้นบนแบบนิ่งๆดี
    จะมีแค่หน่วงๆนิดเดียวแถวหน้าอก
    ในความหมายคือขอแล้วก็แล้วไปไม่อะไรกับอะไร
    เพื่อตัดกระแสความอยากเล็กๆน้อยๆ ที่จะกลายเป็น
    ตัวตัณหามาซ้อนตัวจิต ที่มันทำให้หน่วงๆ
    ตรงหน้าอกออกเท่านั้นเองคับ

    ปล.พอเข้าใจหลักการตรงนี้เนาะ
     
  11. สุโขสุขี

    สุโขสุขี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +1,469

    โห อ่านแล้วขนลุกเลยครับ
    ขอบคุณมากๆครับพี่
    ความหมายของพี่คือ สมาธิของผมก็ถือว่าใช้ได้ใช่มั๊ยครับ
    แต่ต้องประคองความสงบให้ได้นานๆ
    เวลาอธิษฐานขอแล้ว ก็ไม่ต้องสนใจ ขอแล้วก็ปล่อยไป ประมาณนี้รึเปล่าครับ

    ปล.พี่รับศิษย์เพิ่มมั๊ยครับ ผมอยากสมัครเป็นลูกศิษย์พี่ครับ :cool:
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,436
    ค่าพลัง:
    +35,021
    ประคองแบบไม่ตั้งใจ ไม่ต้องหวังผลด้วยนะคับ..ที่เหลือก็ตามนั้น..
    :cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2015
  13. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    เพิ่งลองเข้ามาอ่านในห้องนี้บ้าง เมื่อก่อนไม่ได้สนใจเลย เพราะคิดว่าตัวเอง ไม่มีปัญญ าจะฝึกเรื่องเหล่านี้แน่ มาอ่านดู อ่านๆไปสามหน้าได้ สนุกดีค่ะ ความรู้มากมาย ขอบคุณทุกท่านค่ะ เด้วอ่านต่อก่อนค่ะ

     
  14. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,697
    ผมพึ่งเข้ามาอ่านกระทู้นี้เมื่อวานเองครับ วันนี้ก็เริ่มอ่านถึงหน้าที่ ๓ แต่ใจร้อนอยากถามขอคำแนะนำก่อน ถ้าเคยอธิบายแล้ว ก็ขออภัยด้วยครับ
    ปกติ ที่ทำอยู่คือภาวนาวางจิตที่หน้าผากภาวนาบทคาถา และนึกภาพพระสงฆ์ครูอาจารย์
    มาอ่านเมื่อวานจึง ลองนั่งดูลมหายใจ พุทโธเข้าออก หลับตาวางจิตดูที่ลิ้นปี่ ...วันนี้เลยรู้สึกเหมือนปวดหัวเล็กน้อยบริเวณหัวคิ้ว
    ...ขอรบกวนถาม...ถ้าผมจะใช้มองภาพพระ และภาวนา ที่ลิ้นปี่ จะเป็นการดึงให้จิต ไปกำหนดอยู่ที่หน้าผาก หรือ จักระที่๖ ด้วยหรือเปล่าครับ
    ...และ ถ้านั่งดูลมหายใจ ภาวนาเข้าพุธ ออก โธ พร้อมหลับตามอง ที่ลิ้นปี่ รู้สึกว่าหน้าผากตึงๆ ...แบบนี้จะเป็นการเปิดจักระที่ ๖ ด้วยไม้ครับ
    ขอบคุณครับ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,436
    ค่าพลัง:
    +35,021
    กำหนดจิตไว้ที่หน้าฝากก็จะตึงหน้าฝากและปวดศรีษะ
    ตามลมหายใจเข้าออกก็จะแน่นหน้าอก กำหนดจิตไว้กลางลิ้นปี่
    ก็จะแน่นๆตรงลิ้นปี่ กำหนดไว้กลางหน้าอกก็จะแน่นหน้าอก
    พูดง่ายๆเผลอมีความคิดไปกำหนดจิตไว้ตรงไหนก็จะแน่นตรงนั้นครับ


    กำหนดจิตไว้ตรงเหนือระวังคิ้ว จักระ ๖ ก็จะตึงๆระหว่างคิ้ว แม้เปิดจักระ
    ได้แต่ก็จะปิดและไม่เปิดตลอด..เพราะเป็นการบังคับให้เปิด ไม่ใช่เป็น
    การเปิดแบบธรรมชาติที่เปิดประตูเชื่อม พลังงานจากข้างบนครับ..
    แม้ได้ทิพย์จักขุก็จะเป็นแบบที่สร้างจากความคิดตัวเอง สร้างจากสัญญา
    เดิมในจิตตัวเองรวมทั้งปรุงแต่งจากขันธ์ ๕ นามธรรมของตัวเองครับ....


    วิธีแก้.. ๑.หายใจเข้าให้ลึกถึงท้องพูดง่ายๆท้องพอง
    และหายใจออกให้ท้องแบน แต่ไม่ต้องตามลมหายใจ
    เพราะจิตจะเผลอไม่ตามตรงนี้ ไม่อยู่ที่ฐานของมันตรงกลางลิ้นปี่....

    ๒.ถ้าหลับตาเพื่อจะสร้างทิยพจักขุหรือจักระ ๖ เปิดแบบตลอดไม่ปิดๆ
    เปิดๆ และปลอดภัย ใช้เฉพาะที่จำเป็นนั้น...เวลาหลับตาไม่ต้องไปกำหนด
    จิตที่กลางลิ้นปี่ แต่ให้โน้มสายตามองลงมาที่กลางลิ้นปี่ เพราะจิตมันอยู่ตรงนั้น
    และเป็นการตัดระบบความคิดจากสมองออกไป..ระบบความคิดจากสมอง
    มันจะเป็นตัวขวางการลดคลื่นความถี่ หรือการไต่ระดับฌานนั้นเอง...
    ๓.ขณะที่ทำความรู้สึกรับรู้ว่ามีลมกระทบที่ปลายจมูกขณะหายใจเข้าและออกนั้น
    และสายตาโน้มลงมาที่กลางลิ้นปี่แล้วนั้น มันจะมีความรู้สึกเองว่าเราเสมือน
    ีมีตาเดียวที่มันกำลังมองผ่านจุดระหว่างเหนือคิ้วได้เอง อัตโนมัติครับ
    โดยไม่ได้กำหนด...

    เราจะรู้สึกว่า มีลมกระทบที่ปลายจมูก เหนือระหว่างคิ้วจะโล่งๆ ไม่หน่วงตึงๆมาก
    อาจรู้สึกขยับนิดหน่อยพอคันๆเล็กน้อย ไม่ปวดศรีษะ และจะเหมือนจะมีกระแส
    อีกสายวิ่งขึ้นไปข้างบนบริเวณตีนผมที่ติดหน้าฝาก หรือบริเวณกระโหลกส่วนหน้า


    แสดงได้ว่า เราตัดระบบความคิดได้ เนื่องจากอยู่มีความรู้สึกรับรู้
    ที่ปลายจมูกและปลายจมูกเป็นตำแหน่งที่สร้างสติทางธรรมได้ดีที่
    สุดของร่างกาย..และตัดระบบการเผลอไปกำหนดจิตให้อยู่ตรงนั้น
    ตรงนี้ได้แบบที่คาดไม่ถึงหรือไม่ตั้งใจมาก่อน เนื่องด้วยมีความคิดในเรื่องของการ
    หวังผลที่ได้เข้ามาแบบเราจะไม่ทัน..

    ปล. แต่ว่าต้องให้เวลาร่างกายมันปรับระบบการหายใจ ปรับระบบ
    การตัดความคิดเวลาฝึก.อย่างน้อย ๒ สัปดาห์นะครับ
    เพราะที่ผ่านๆมา มันกระแสมันตกผลึก แม้ว่าไม่หนาแน่น
    แต่มันเยอะ..เนื่องด้วยส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความเคยชินเราด้วยครับ...
    เด่วถ้าทำได้ สัมผัสแบบภายในต่างๆจะดีขึ้นอย่างที่คาดไม่ถึงครับ..
    จะมองภาพอะไรก็ตาม ปรับตรงนี้ให้ได้ก่อนครับ
    ถ้าเผลอใช้ตาปกติมองก็ตัดซะ ถ้าเผลอกำหนดก็ทำความรู้สึก
    รับรู้ว่ามีลมกระทบที่ปลายจมูกซะ พร้อมกับดันลมให้ลึกๆแบบไม่ต้อง
    ตามลม...อีกนิดเดียวเองครับ
    .
     
  16. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,697
    สาธุ ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2015
  17. TEE_L

    TEE_L สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +23
    ปรับระบบหายใจเข้าและออกให้ลึกถึง
    ท้องให้เป็นปกติ แต่ไม่ต้องตามลมหายใจนะครับ เพียงแค่ทำความรู้สึก
    รับรู้ว่ามีลมกระทบเข้าและออกที่ปลายจมูก เพื่อสร้างตัวสติทางธรรมขึ้นมา
    เพื่อที่จะตัด ความกังวล ความอยากเล็กๆน้อยๆในเรื่องของผลสำเร็จ

    ขอโทษนะครับคุณ นพ พอจะอธิบายให้ละเอียดอีกนิดได้มั้ยครับยังไม่ค่อยเข้าใจครับ คือดันลมเข้าท้องไปก่อนแล้วลมหายใจตามไปใช่มั้ยครับ เพราะบางครั้งหายใจเข้าออกมันอึดอัด ท้องผมจะพองตามลมหายใจที่เข้า
    รบกวนสอบถามอีกอย่างนะครับ เวลานั่ง ได้ซักพักรู้สึกเหมือนแบบ มันจะสะดุ้ง หวิว ๆ เป็นช่วงๆ แต่ไม่ได้หลับนะครับรู้สึกตัวตลอด เป็นเพราะอะไรครับ ไม่ได้ ง่วงนอนด้วยนะครับ
     
  18. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,436
    ค่าพลัง:
    +35,021
    ลมหายใจที่เข้าออกถึงท้องให้เป็นไปตามธรรมชาติแบบไม่ต้องบังคับ
    ไม่ต้องไปตามลม ไม่ต้องไปดูลมนั่นเองครับ..
    เพียงแต่เราทำความรู้สึกรับรู้ว่ามีลมกระทบเข้าออกที่ปลายจมูกความหมายก็คือ..
    หายใจเข้าสิ้นสุดที่ปลายจมูก หายใจออกสิ้นสุดที่ปลายจมูกนั่นเอง..
    ส่วนการที่ท้องพองและยุบเป็นตัวบอกว่าลมหายใจเรามันลงไปลึกพอ..
    ที่มันอึดอัดเพราะเราเผลอไปตามดูลมหายใจโดยที่เราไม่ตั้งใจนั่นเองครับ..
    ส่วนคำภาวนาไม่ใช่ประเด็นหลัก.เพราะถ้าติดที่คำภาวนา ตัวจิตเราจะไต่
    ระดับข้ามปฐมฌานไม่ได้..แต่ในสภาวะลืมตาปกติที่เราเจริญสติ
    ระหว่างวันก็ยังมีความจำเป็นอยู่.
    ภาวนาอะไรก็ได้แล้วแต่ชอบ ขอให้เป็นคำภาวนาที่ส่งเสริมคุณพระรัตน์ตรัย
    ต่างๆได้หมด.เพราะจะโน้มให้ตัวจิตสร้างกระแสไปเชื่อมข้างบนได้นั่นเองครับ..
    เพียงแต่มันต้องอาศัยเวลาให้ร่างกายปรับตรงนี้ด้วยเล็กน้อยเพราะธรรมชาติ
    ของมนุษย์ปกติจะหายใจสิ้นสุดที่บริเวณหน้าอกครับ..

    ส่วนกิริยาที่เราเป็น.เพราะตัวจิตมันเริ่มมีความสงบขึ้นมา. ตัวจิตมันจะมีความไว
    เป็นธรรมชาติและมันจะไวมาก.ซึ่งตัวจิตมันจะมีลักษณะนิสัยอย่างนี้
    กันทุกๆคน พูดง่ายคือมันชอบท่องเที่ยว หรือชอบส่งออกไปภายนอก
    พอจิตเริ่มสงบ .มันก็เลยจะไปจับสัญญาต่างๆภายนอกได้เร็วกว่าปกติ
    ที่นี้..พอมีอะไรรอบๆแม้ว่าเราจะรุ้สึกไม่ทัน แต่จิตมันจะไปก่อน การที่มันไปเชื่อม
    แบบรวดเร็วนี้ ตัวจิตมันจะข้ามเรื่องร่างกายของเรา ทำให้กายเราเปลี่ยนเข้าสู่
    โหมดเรื่องสัมผัสในเรื่องคลื่นทันทีซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้ากำลังสติเรายังไม่ทันที่จะจับ
    ตัวจิตตรงนี้ได้หรือยังมีกำลังไม่พอ ที่จะควบคุมตัวจิตให้อยู่นิ่งๆได้
    เราจะรู้สึกตกใจ หวิวๆ ตัวเบา บางคนก็กลัวๆ
    สั่นๆ หายใจเร็ว ตลอดจนได้ยินเสียงต่างๆ รู้สึกต่างๆ ได้กลิ่นอะไรต่างๆ ฯลฯ
    ซึ่งเป็นอาการปกติจากการที่จิตเปลี่ยนโหมดตรงนี้อย่างรวด
    เร็วนั้นเองครับ และตัวจิตมันส่งคลื่นไปเชื่อมกับภายนอกเรียบร้อยแล้ว
    และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเป็นกันทุกๆคนครับ...

    วิธีแก้ก็คือ ถ้าเราเป็นอีก ไม่ว่าร่างกายจะเกิดความรู้สึก หรือ กิริยาอะไรก็ตาม
    ให้เราฝืนๆตรงนี้ไว้แรกๆจะไม่ทันกันครับเรื่องธรรมดา
    และก็มาทำความรู้สึกรับรู้เพื่อสร้างกำลังสติทางธรรม ตรงต่ำ
    แหน่งที่ปลายจมูกของเราต่อไปครับ..
    ต่อไปถ้ากำลังสติเรามากพอ เราจะมีเครื่อง
    รู้เกิดขึ้นมาได้เอง เครื่องรู้ตัวนี้มันจะควบคุมพฤติกรรมของจิตต่างๆ
    ไม่ว่าเรื่องอะไร รวมทั้งเรื่องการส่งออกไปรับรู้ภายนอกครับ.
    ในความหมายก็คือ มันจะมีตัวรู้ว่า กำลังจะเกิดกิริยาภายนอก
    อะไรขึ้นมา หรือไม่ก็รู้พร้อมๆกันในสภาวะทั่วๆไป
    และการฝืนๆต่อไปจะได้กำลัง
    จิตขึ้นมาเล็กน้อย
    จะทำไม่ให้เรารู้สึกกลัวและไม่ส่งผลต่อร่างกายครับ...
    มันจะเป็นการรับรู้แต่ว่า ไม่ส่งออกไปยึดกับภายนอก..
    เราก็จะนั่งสมาธิต่อไปได้ของเราปกติ โดยที่ไม่ส่ง
    ผลทางกิริยาใดๆกับร่างกายครับ..


    ปล.ผ่านตรงนี้ได้ เราถึงจะมีพัฒนาการในการเข้าระดับสมาธิ
    ที่สูงกว่านี้ได้ตามลำดับของมันเอง โดยไม่ค้างๆอยู่อย่างที่เป็นครับ
     
  19. TEE_L

    TEE_L สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอบคุณครับผม ^_^
     
  20. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    คุณนพการเนี่ย กระแสเมตตามีเยอะเหมือนกันนะครับ

    เอ แบบนี้ เป็นสายพระโพธิสัตว์ หรือเปล่าน๊า อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...