ลายมือพี่ชายค่ะ รบกวนดูให้หน่อย ขอบคุณค่ะ

การงาน การเงิน ความรัก

 

ลืมรูป

 

พออายุใกล้ ๆ 50 เจอคู่แล้วจะสบาย
ถ้าแต่งไปแล้วก็อด

 

ลูก 3 แล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

การงาน -ชอบเดินทางเคลื่อนไหว งานติดต่อประสานงาน เดินรถ ท่องเที่ยว
งานที่เกี่ยวกับการเดินทาง หรืองานเลี้ยงสัตว์นำ้ จะถูกโฉลก
การเงิน - ทำตัวสบายๆ ถ้าไม่ขยันจะเหนื่อยเรื่องการเงิน อาสาคนเก่ง รับ
ช่วยเหลือคนเก่ง ถ้ามีแหล่งทำเงอนเกี่ยวกับที่ดิน สวน ไร่นา จะดี
ความรัก - ถ้าสามีภรรยาหยุดขัดแย้งกันบ้าง จะดี จะรวย อยู่ใกล้กันมักจะขัดแย้งกันเรื่อยเลย แต่ได้ภรรยาดี

 

คุณ visa แม่นมาก เหมือนตาเห็น รบกวนดูมือนี้ให้ด้วย การเงิน การงาน ความรัก (ยังโสดค่ะ) ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มีสิ่งใดอยากแนะนำ ขอความกรุณาด้วยค่ะ

 

เจ้าของลายมือนี้ มีวาสนาจากการเดินทางไกล หรือต้องอยู่ไกลบ้าน ไกลญาติพี่น้อง เมื่อใดที่เจ้าชะตากลับมาอยู่บ้าน บ่งถึงเจ้าชะตากำลังเจอเรื่องคับแค้นใจ อึดอัดใจเป็นระยะๆ ชีวิตเริ่มขลุกขลักทุกเรื่องราว เหมือนรถขับเดินหน้าแต่ต้องวิ่งถอยหลังย้อนสู่อดีตดังนี้แล

 

คงต้องยอมรับวาสนาค่ะ ทิ้งบุพการีไปใหนไม่ได้จริงๆ ท่านช่วยเหลือตัวเองไม่ได่ค่ะ ร้องให้ประจำค่ะ ยิ่งทำยิ่งท้อ
ชีวิตเหมือนถอยลงทุกวัน ทิ้งไม่ได้ ถ้าไม่มีเราเค้าจะอยู่กันยังไง
พ่อแม่พูดตลอด อย่าทิ้งพ่อกับแม่นะ...
แม้ชีวิตไม่มีไรดีขึ้น..ยิ่งอยู่ยิ่งแย่..ก็อยู่บ้านค่ะ...ขอบพระคุณมากนะค่ะ

 

คุณ visa พอจะแนะนำอะไรได้บ้างมั้ยค่ะ

 

เอ้ แต่ผมเห็นต่างน่ะ ถึงแม้ชาตินี้จะซวยตลอด ชีวิตมืดบอด ขอย้ำน่ะครับ ต่อให้ชาตินี้ท่านไม่เจริญเลยก็ตาม ก็ขอให้ท่านคิดว่าเป็นเวรเป็นกรรมก็แล้วกัน ซึ่งต้องยอมรับผลกรรมนั้นไป พุทธศาสนานี่ดีอย่างน่ะครับ อะไรก็อ้างว่าเป็นกรรมเก่า อ้างว่าเมื่อชาติที่แล้วทำอย่างนั้นอย่างนี้มา ทำให้เราสบายใจ แต่ถ้าโลกหน้ามีจริงสิ่งที่ท่านทำไว้ มันจะไม่สูญหาย เมื่อท่านเกิดในภพหน้า ท่านอาจย้อนกลับมาคิดถึงชาตินี้ ว่าเรานี้โง่จังร้องไห้ทำไมตั้งนานสองนาน เราน่าจะสร้างความดีได้มากกว่านี้

ในชีวิตบ่อยครั้งที่ผมจะเจอคนแก่ๆ แล้วก็เล่าความหลังว่า ถ้าเป็นเด็กได้ตั้งใจเรียนแล้ว ตอนนี้ก็คงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ (-*- เซ็งโคตร) ผมว่าตอนนี้ท่านได้ทำบุญกับพระอรหันต์ ซึ่งตามคติความเชื่อของศาสนาพุทธถือว่าท่านกำลังทำบุญใหญ่ เป็นสิ่งที่กระทำได้ยาก ให้ผลมาก ในกรณีที่ worst case ที่สุดก็คือโลกหน้าไม่มีจริง ท่านก็สบายใจได้ ว่าท่านไม่ได้ขาดทุนอันใด ก็คือตายแล้วสูญไป จบกันไป หมดสิ้นเวรกรรม แต่ถ้าโลกหน้ามีจริงละก็ ท่านเตรียมเฮเลยครับ เพราะบุญบารมีที่ท่านสั่งสมมาก็จะสมนาคุณท่านอย่างสาสมเช่นกัน


วันที่ จันทร์ เมษายน 2552

พิมพ์หน้านี้ | ดูบล๊อกอื่นๆ ที่ OKnation

การให้ทานในเขตและนอกเขตพระพุทธศาสนา

สมัยเมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมาร เสด็จไปบนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์เทวโลก ( เพื่อโปรดพระพุทธมารดา ) องค์สมเด็จพระชินสีห์ ประทับที่ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ เวลานั้นมีเทวดา 2 ท่าน มาเฝ้าองค์สมเด็จพระบรมโลกนาถก่อนคนอื่นทั้งหมดเว้นไว้

แต่พระอินทร์ พระอินทร์ท่านเป็นเจ้าภาพ ท่านรับอยู่ก่อน มีเทวดาองค์หนึ่งมา คือ ท่านอินทกเทพบุตร มานั่งอยู่ข้างๆขา เบื้องขวา ท่านอังกรุเทพบุตร มานั่งข้างขาเบื้องซ้ายเทวดามากันมากมายหมดดาวดึงส์ท่านอินทกเทพบุตรนั่งตรงที่เดิม แต่ท่านอังกรุเทพบุตร ต้องถอยไปอยู่ท้ายบริษัทอยู่ริมนอก เพราะเป็นเทวดาที่มีบุญน้อยที่สุดในดาวดึงส์

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงถาม ท่านอังกุรเทพบุตร ( ท่านบันดาลให้เสียงท่านและเสียงเทวดาที่พูดกันได้ยิน ถึงคนที่คอยท่าน อยู่ที่เมืองพาราณสี ที่เมืองมนุษย์ คนทุกคนฟังชัด ) องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิ์ ถามว่า "อังกุระ เมื่อสมัย เมื่อตถาคต ขึ้นมาใหม่ๆ มาถึงใหม่ เธอนั่งใกล้ ข้างขาข้างซ้าย เวลานี้เทวดาทั้งหลาย มากันคบถ้วน แต่ว่าเธอกลับมานั่งท้ายบริษัท ตถาคตอยากจะทราบว่า ในสมัยที่เธอเป็นมนุษย์ เธอทำบุญอะไรไว้ จึงเป็นเทวดาที่มีบุญน้อยที่สุดในสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์เทวโลก"

ท่านอังกุระ จึงได้กราบทูล สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "ภันเตภควา ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เจริญพระพุทธเจ้าข้า ในสมัยที่ข้าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ เป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์มากแล้วในสมัยนั้น เป็นต้นกัปป์คนมีอายุยืนมากอายุถึง 80,000 ปีจึงตาย ต่อมาสมัยที่ข้าพระพุทธเจ้าเป็นคนแก่เหลืออีก 20,000 ปี จะสิ้นอายุ จึงได้ให้ตั้งโรงทาน 80 แห่ง คือ 1 โยชน์ 1 แห่ง โรงทานนี้ ให้แก่คนกำพร้าคนเดินทาง ทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งอาหารการบริโภค ผ้าผ่อนท่อนสไบ ของใช้ตามสมควร แต่ว่าเวลานั้นว่างจากพระพุทธศาสนา คนไม่มีศีลไม่มีธรรมคนไร้ศีลไร้ธรรม ไม่มีพระพุทธเจ้าทรงสอน บุญญาธิการที่ได้ จึงน้อยเกินไป ( ลงทุนมาก 20,000 ปี ตั้งโรงทาน 80 แห่ง เลี้ยงไม่จำกัด ขอบรรดาท่านพุทธบริษัท คิดเอาว่าเขาต้องใช้เงินวันละเท่าไร แต่ว่าอาศัยว่า คนผู้รับเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ ท่านผู้ให้ก็ไม่ค่อยจะบริสุทธิ์นักเวลานั้น ศีลธรรมน้อยเกินไป เป็นของธรรมดาของชาวโลก วัตถุทานที่ได้มาก็เข้าใจว่าไม่ค่อยจะบริสุทธิ์ ฉะนั้นเวลาตายจาก ความเป็นมนุษย์ จึงมาเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเทวดาที่มีบุญน้อยที่สุด) เมื่อข้าพระพุทธเจ้ามาถึงใหม่ๆ นั่งใกล้พระ องค์แต่ในที่สุด ก็ต้องมานั่งท้าย เพราะบุญญาธิการ ไม่เท่าเทวดาทั้งหลาย "

หลังจากนั้นองค์สมเด็จพระจอมไตร จึงถาม ท่านอินทกเทพบุตร ว่า " อินทกะ เมื่อตถาคต มาถึงใหม่ๆ เธอมาถึงแล้ว ก็นั่งตรงนี้เวลานี้ เทวดามาหมดสวรรค์ ชั้นดาวดึงสเทวโลก เธอก็นั่งตรงนี้ ตถาคตอยากจะทราบว่า ในสมัยที่เป็นมนุษย์ เธอสร้างความดี คือ บุญกุศลอะไรไว้ เธอจึงเป็นเทวดาที่มีศักดาใหญ่นอกจากพระอินทร์ "

ท่านอินทกเทพบุตรจึงกราบทูลสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า

"ภันเตภควา ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ พระพุทธเจ้าข้า การที่ข้าพระพุทธเจ้าสมัยเป็นมนุษย์นั้นเป็นคนที่จนที่สุด หมายความว่าเป็นคนจนอยู่ในป่า ต่อมาท่านพ่อตายเหลือแต่ท่านแม่ ก็มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ เลี้ยงแม่ด้วยการตัดฟืน เหนื่อยยากลำบากขนาดไหนก็ไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่าทำอย่างไรแม่จึงจะมีความสุขตามกำลังที่จะให้ท่านได้ "

ฟังตอนนี้ ก็คิดด้วยนะ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายว่า คนที่มีความรู้คุณ ยอมรับนับถือความดี ของบุคคลผู้มีคุณแล้วสนองคุณท่านนี่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า เป็นคนดี ตามพระบาลีท่านว่า

" นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา "

ซึ่งแปลว่า " บุคคลใดรู้อุปการคุณ ที่ท่านทำแล้ว แล้วก็ทำดี สนองตอบแทนคุณท่าน เราขอสรรเสริญบุคคลนั้น ว่าเป็นคนดี "

เป็นอันว่า เมื่อองค์สมเด็จพระชินสีห์สดับแล้ว ท่านก็เล่าต่อไป ท่านอินทกะถวายคำตอบต่อไปว่า "มาวันหนึ่งมีพระสงฆ์ใน พระพุทธศาสนาเดินทางมา ก็เป็นเวลาที่พอดีมีอาหารอยู่บ้าง ตามฐานะของคนจนคนป่า ยามปกติไม่มีของ สำหรับทำบุญคนจนนี่ก็ไม่มีพระ บางครั้งพระมาก็ไม่มีของถวาย ก็เลยจำใจนิ่ง เพราะอยากจะถวาย วันนั้นพอดีของในครัว พอมีอยู่บ้าง พระก็มาพอดี มีโอกาส ได้อาราธนาพระ ถวายเป็นสังฆทาน ครั้งเดียวในชีวิต ในชีวิต ของข้าพระพุทธเจ้า เป็นคนจน ถวายสังฆทานครั้งเดียว แต่ก็มีความกตัญญูรู้คุณกับแม่ด้วย ตายจากความเป็นคน จึงมาเกิดเป็นเทวดาบน สวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก เป็นเทวดาที่มีอานุภาพมากกว่าเทวดา อื่นนอกจากพระอินทร์

นี่บรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ฟังแล้วต้องคิดว่า ท่านอังกรุเทพบุตร ทำบุญมากแต่ว่ามีอานิสงส์น้อย ท่านอินทกเทพบุตร ทำบุญน้อยแต่มีอานิสงส์มาก เรื่องนี้มีมากในพระพุทธศาสนา

ฉะนั้นการบำเพ็ญกุศลนี่ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้าต้องเลือกเขต เลือกนา การหว่านพืชในที่ดอนเกินไป ไม่มีน้ำเลี้ยงพืช ก็แห้งตาย การหว่านพืช ในที่ลุ่มเกินไป น้ำท่วมพืชก็ตาย จะต้องดูถึงพื้นนาที่ดีๆ ข้าวหรือพืชจึงจะงาม ผลจึงจะดกมีผลคุ้มค่าและเกินค่าที่เราทำ อย่างท่านอินทกเทพบุตร ท่านเป็นคนจนแสนจน แต่ว่าท่านถวายสังฆทานตาม เขตในพระพุทธศาสนา แล้วก็มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดาอันนี้เป็นปัจจัยสูงสุด

แต่ก็เป็นที่น่าปลื้มใจ ที่คณะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทและภิกษุสามเณร ทั้งในวัดก็ดี นอกวัดก็ดี นิยมการบำเพ็ญทานอันดับสูงนั่นคือ

1. พอใจในการถวายสังฆทาน ถวายสังฆทาน มีของมาถวายจัดเป็นชุด โดยเฉพาะก็มี ของน้อยก็มี ของมากก็มี นี่เป็นสังฆทานและ

2. ก็มีมากท่านนิยมมาเลี้ยงพระ การเลี้ยงพระสงฆ์ตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปไม่ต้องบอก ก็เป็นสังฆทาน 100 เปอร์เซ็นต์ ทีนี้การใส่บาตรหน้าบ้าน โดยไม่จำกัดพระ อันนี้ก็เป็นสังฆทาน อานิสงส์ใหญ่มาก ที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ายกย่องว่า การบำเพ็ญทาน ถวายแด่พระองค์เอง 100 ครั้ง มีผลไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว

3. บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท พระก็ดี เณรก็ดีที่นิยมการช่วยส่งเสริมในการสร้างวิหารทาน ถึงกับมาสร้างห้องเป็นห้องๆ เป็นชื่อของตัวเอง เป็นชื่อน่ะไม่ใช่โชว์ ที่เขาติดชื่อน่ะ จะได้ทราบว่า ใครทำไว้ ลูกหลาน จะได้โมทนา ได้เป็นส่วนบุญด้วย สร้างพระพุทธรูปสวยสดงดงาม

คัดมาจาก หนังสือบารมี 10 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

 

.....................
สิ่งที่คุณทำอยู่ดีที่สุดแล้ว จงทำต่อไป
การทำเพื่อผู้อื่นดีกว่าทำเพื่อตนเอง โดยเฉพาะกระทำต่อบุพพการีของเรา
อยากจะแนะนำนิดหนึ่ง ในขณะที่ทำภารกิจนี้ ขอให้ลืมเรื่องของตนเองทั้งหมดไปก่อน อดทน อดทน
เราอายุยังน้อย เรื่องของเราเองเริ่มต้นเมื่อใดก็ได้ ต่อไปชีวิตคุณจะรุ่่งนะ จะเจอคนดีๆเข้ามาในชีวิตเองไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องรอ ถึงเวลาจะมาเอง ขอเป็นกำลังใจให้คนเก่ง...

 

ดูแลท่านให้ดี ท่านคือพระอรหันต์ของคุณ ไม่นานคุณจะมีโชคดีแน่นนอน ครับ

 

ขอบพระคุณทุกท่านมากค่ะ ตอนนี้บนบ้านมีเจ็บเพิ่มอีกคน น้าที่เลี้ยงเรามาเหมือนแม่ รวมเป็น 3 คนค่ะ ล้มสะโพกหัก แกท้อมากเพราะลูกมีความจำเป็นอยู่ที่อื่น ต้องศรัทธาในความดี เราถึงมีแรงฮึดสู้ไปด้วยกัน

 

สู้ๆครับ แม่หญิงทอง chearr

 

คนเรา อายุมากขึ้น ร่างกายทดถอยกำลังวังชา ขอให้หา สมุนไพรที่ทานแล้ว ร่างกายแข็งแรง อย่าง ผู้ชาย เห็นเพื่อนๆชอบทาน เถาเอ็นอ่อน และ มะขามป้อม แต่มีบางคน ทาน ตรีผลา คือ มะขามป้อม..สมอไทย...สมอพิเภก 3อย่างเอามาปั่นน้ำแยกกาก แล้วแช่ตู้เย็น พอจะทานก็ใส่น้ำผึ้งลงไป1ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ใส่น้ำแข็งอีกหน่อย โหย อร่อยอย่าบอกใครเลย แต่่ถ้าอายุมากๆๆไม่ต้องใส่น้ำแข็งเลย ให้ใส่น้ำอุณภูมิห้อง คือน้ำไม่ร้อนไม่เย็น เพราะถ้าใส่น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน จะทำให้ วิตามินซีในมะขามป้อม น้อยลง พยายามทานบ่อยๆๆ สุขภาพจะแข็งแรงน่ะค่ะ

 

อยากขอบคุณ คุณ visa 2005 มากค่ะ ตอนนี้พี่ชายกับภรรยาเริ่มปรับตัวเข้าหากัน หลังจากอ่านคำแนะนำของอาจารย์ ขอบคุณมากๆค่ะ
ปล.เปลี่ยนชื่อใหม่อันเก่าเข้าไม่ได้

 

มีโอกาสได้ชาวต่างชาติเป็นแฟน