ประวัติน่ารู้เกี่ยวกับอ.อุบลและบ้านสวนอย่างคร่าวๆ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย AYAWADEE, 8 กรกฎาคม 2014.

  1. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2014
  6. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    ศาสนาพุทธแท้ๆ นั้นไม่มีอะไรให้ยึดมั่นเลย สมเด็จพ่อท่านสอนให้ปล่อยวาง
    ให้หมด คือวางลงที่ใจ โดยการละชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์ร่าเริงผ่องใส เห็น
    ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมดาเกิดดับอยู่เช่นนั้นเอง จิตไม่ข้องด้วยสิ่งใด
    ความดีทำแล้วก็ไม่ให้ยึด ความชั่วเคยทำมาแล้วก็ไม่ให้ยึด ให้ปล่อยละวางเสีย
    แต่ว่ากำลังใจของเรายังไม่เท่ากัน ทำไม่ได้กัน ครูบาอาจารย์ท่านก็แนะนำเรา
    ให้เรายึดอยู่กับอนุสติในด้านของบุญกุศลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างวัด
    ซึ่งถือว่าเป็นวิหารทาน สังฆทาน รูปเหรียญ วัตถุมงคลต่างๆ ขึ้นมาก็เพื่อเป็น
    เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้อยู่ในด้านบุญกุศล ซึ่งแต่ละสายครูบาอาจารย์และ
    ลูกศิษย์ ต่างก็บำเพ็ญบารมีตามกันมาในด้านที่แตกต่างกันไป ตามกำลังใจ
    ตั้งแต่ขั้นทาน ศีล และภาวนา ซึ่งสุดท้ายแล้วต้องปล่อยทิ้งคือวางลงไปหมด

    สิ่งเหล่านี้พระพุทธองค์ไม่เคยตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ไหนแขนงไหน
    สุดท้ายต้องปล่อยต้องวางหมด ไม่ว่าจะ ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น
    ไม่ว่าจะ ละวางอัตตาตัวตน ไม่ว่าจะนิพพาน ไม่ว่าจะจิตจักวาล ไม่ว่าจะ
    ขึ้นสู่สวรรค์นิรันดร สุดท้ายก็หยุดการเวียนว่ายตายเกิดกันทั้งนั้น
    เช่นตัวเรากว่าจะเรียนจบวิชาทางโลก จะต้องศึกษาหาวิชาความรู้กันกี่วิชา
    มีครูอาจารย์สอนกันมากึ่คนแล้ว สุดท้ายคือก็ต้องเรียนทุกวิชาเพื่อให้จบหลัก
    สูตร แต่ว่าในชีวิตกิจการงานที่แต่ละคนทำอยู่นั้น มันได้ใช้ทุกวิชามั้ย

    ถ้าเรารู้แต่ธรรมะ แต่ไม่ปฎิบัติธรรม ก็คอยแต่จะสงสัย คอยแต่จะจับผิดคนอื่น
    แต่ถ้าเราปฎิบัติธรรมตามคำสั่งสอนอย่างแท้จริงแล้ว เข้าใจจริงแล้วเราจะไม่
    สงสัยอะไรเลยในสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านพาเราทำ ทางไปนรกหรือสวรรค์นั้น
    ก็อยู่ที่เราทำเองนั่นแหละ ใจนี้แหละสั่งให้กายทำ และทำทุกอย่างให้กายนี้
    แต่สุดท้ายกายนี้ก็ถูกนำไปฝังหรือเอาไปเผาไฟ มันไม่รู้อะไรกับเรา แต่ตัวจิต
    นี้แหละที่จะต้องไปเสวยบุญ หรือเสวยผลบาปตกนรก จนกว่าจะหมดกรรม
    ระวังใจให้ดี อย่าให้มันชั่ว ให้มันแสดงออกมาทางวาจา ออกมาทางกาย
    ทาน ศีล ภาวนา เป็นบรรไดไต่ขึ้นไป ใครจะอยู่ขั้นไหน สุดท้ายก็ต้องขึ้นไป
    ให้ถึงที่สุดกันทุกคน

    อย่าติดรูปแบบ อย่าติดตำรา สิ่งที่ไม่รู้ไม่เห็นสัมผัสไม่ได้อย่าคิดว่ามันไม่มี
    เชื่อในกฎธรรมชาติ กฎแห่งการสะท้อนกลับ กฎแห่งจักรวาล กฎแห่งกรรม
     
  7. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
  8. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
  9. grandki

    grandki เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +794
    ส่วนมากคนที่ไม่กล้าไปหาอาจารย์อุบลเพราะไม่กล้าสารภาพกรรมชั่วที่เคยทำมา ต่อหน้าผู้คน และออกทีวีด้วย
     
  10. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    เรื่องของโลก โลกียวิสัย มักมีสิ่งคู่กันกันเสมอๆ

    มีขาวย่อมมีดำ มีงมงายย่อมมีต่อต้าน มีลาภย่อมเสื่อมลาภ มีสรรเสริญย่อมมีนินทา

    หาความจริงตรงกลางให้เจอล่ะกัน

    Hmmm...!!!
     
  11. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    เห็นข่าวนี้ แต่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นมาอย่างไร มีที่ไปที่มาอย่างไร

    แต่เห็นภาพขึ้นบัลลังค์แล้ว สุดจะฟิน!! สังคมไทยบางกลุ่มคนยังขาดวัคซีน

    ต่อศรัทธาที่แท้จริง ที่จะศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า เรื่องราวในชาดก และพระอริยสงฆ์

    ว่าท่านชี้ทางเดินอย่างไร ที่จะออกจากบ่วง3

    บ่วงอันเป็นเหตุทำให้ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เพื่อโชคลาภสักการะ เพื่อความเชื่อที่ตนมีที่คิดว่าใช่

    "ตัณหาฮักลูก เป็นดังเชือกผูกคอ
    ตัณหาฮักผัว-เมีย เป็นดังปอผูกศอก
    ตัณหาฮักข้าวของ เป็นดังปอกสุบตีน"

    ข่าว!!

     
  12. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ใบไม้ในกำมือ

    สีสปาสูตร
    เปรียบสิ่งที่ตรัสรู้มีมากเหมือนใบไม้บนต้น


    เล่มที่ ๑๙
    [๑๗๑๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สีสปาวัน ใกล้เมืองโกสัมพี ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคทรงถือใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบด้วยฝ่าพระหัตถ์ แล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่เราถือด้วยฝ่ามือกับใบที่บนต้น ไหนจะมากกว่ากัน?
    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบ ที่พระผู้มีพระภาคทรงถือด้วยฝ่าพระหัตถ์มีประมาณน้อย ที่บนต้นมากกว่า พระเจ้าข้า.
    พ. อย่างนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมาก ก็เพราะเหตุไรเราจึงไม่บอก
    เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ นิพพาน เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่บอก.

    [๑๗๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งอะไรเราได้บอกแล้ว
    เราได้บอกแล้วว่า นี้ทุกข์ ... นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
    ก็เพราะเหตุไรเราจึงบอก เพราะสิ่งนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ... นิพพาน เพราะฉะนั้น เราจึงบอก
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า
    นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
    จบสูตรที่ ๑


    -----------------

    แต่คนเราพอศึกษาคำสอนมากเข้าๆ ก็มักเปิดโอกาสให้มารดลใจ

    เรียกได้ว่า มารสบช่องได้เหมือนกัน มโนปฏิบัติไปในใบไม้นอกกำมือ เอามาเป็นข้ออ้าง

    ในสิ่งที่ไม่ทรงสอน โดยคิดว่าใช่ ทั้งที่ไม่ตรัสรู้อย่างพระพุทธองค์อะไรเลยซักอย่าง

    จนกลายเป็นลัทธินอกคำสอน ที่มีให้เห็นกันดาดเดื่อน ในยุคสังคมปัจจุบัน

    ไม่แน่สิ่งนอกกำมือจึงเป็นข้ออ้างของบุคคลบางจำพวก ที่ถูกมานหลอก
     
  13. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,671
  14. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ชัดเลยเขมร ภาพซุ้มฉัตร บายศรี ฐานปัทม์ ลวดลาย ไม่ได้บ่งบอกถึงความเป็นไทย

    แต่สมมุติสงฆ์ที่บวชในพระพุทธศาสนานี่สิ (ภาพเมื่อกี้)

    แต่สิ่งที่บอกถึงความเป็นไทยบางกลุ่ม ต้องแบบนี้ คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะทาง

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2014
  15. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,671
    ท่านสุรินทร์เห็นอะไรไม คนพวกนี้เขามีอะไรดีอยู่ในตัว ความนอบน้อม ต่อสิ่งที่เขาคิดว่า ดี วิเศษ เพียงแต่ว่าพวกเขายังไม่เข้าถึงความเป็นจริง ยังต้องแสวงหาผู้รู้ ผู้มาปลดเปลื่อง จิตใจของพวกเขา และเมื่อมีคนจำพวกนั้น คนพวกนี้นีแหละจะเป็นพวกแรก ที่คอยอุ้มชู

    คุณคิดว่า พวกที่อยู่ ในป่าคอนกรีต จะทนุถนอมอะไรได้ นอกจากเสพ แล้วก็ทำลาย เพราะพวกนี้กิเลสมากว่า พวกคนที่คุณ เอามาลงเป็นไหน
     
  16. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    เอ้...แต่กิเลสมันไม่ได้อยู่ในป่าคอนกรึต หรือป่าไม้ซะเมื่อไหร่

    สำหรับบางคนยังไม่สามารถเอามาตรฐานผู้อยู่ป่าคอนกรีตหรืออยู่ป่าไม้ไปชี้วัดว่าคนนั้นคนนี้มีกิเลสมากน้อยกว่ากัน

    กิเลส ตัณหา อวิชชา มันอยู่ที่ไหนล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2014
  17. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,671
    เอ้ ตัณหาและ อุปทาน มันเกิดที่ไหนนะ และที่ไหนมันมีสิ่งเร้ามากว่ากันนะ
     
  18. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ปุถุชนคนอยู่ป่าผู้หาเลี้ยงชีพ ก้อหนีไม่พ้นเรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อนำมาเป้นอาหาร

    คนอยู่เมืองบางคน แม้จะไม่ต้องทำแบบนั้น แต่มีทางเลือกอื่นที่จะผิดศีลธรรม

    อยู่ที่ไหนมันไม่ต่างกันหรอก เพราะกิเลส ตัณหา อวิชชา มันอยู่ที่ใด

    สมัยนี้ กรรมมันติด 4G จะทุกทิศทั่วไปแล้วว ไม้จะหมดป่าก้อแม่เร้าพ่อเร้าลูกเร้านั่นแหละครับ

    ปัญหายาเสพติด ข่มขืนมีให้เกร่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2014
  19. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,671
    คุณสุรินทร์เคยเล่นกับของร้อนไม่ ละครับ ตาก็ร้อน หูก็ร้อน ปากก็ร้อน ใจก็ร้อนตาม

    มันเริ่ม จากผัสสะ พวกนี้แหละ แหลงกามคุณ ทั้งหลาย มันจะมีมากที่ไหน มี๑๐G พวกนี้มันก็มากตามนั้นแหละ ที่ว่าร้อนๆ ไม่แน่นะ ตอนมี๒G มันอาจไม่ร้อนเท่าตอนมี๔G เพราะมันเเรงส์เหลือเกิน

    ที่ว่าไม่ต่างนะ จริงเปล่า หรือว่า พูดเล่นๆ
     
  20. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    ร่างทรงนั่งซะสูงเลยเห็นแล้วเสียวแทน ตกลงมาคงเจ็บหนักนะครับนั่น
     

แชร์หน้านี้

Loading...