เพื่อการกุศล เปิดจองรุ่นของขวัญปีใหม่ ลพ.หนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกข์อธิฐานจิตสร้างโดยวัดป่าศรีสำราญน.ท้าย

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย rs83, 18 มิถุนายน 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380
    [​IMG]
     
  2. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380
    [​IMG]
     
  3. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  4. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460

    ตอบ มีครับ ถ้าเราไม่ผิดจริง(แต่ก็ต้องตามกฏแห่งกรรมด้วยนะครับ):cool::cool::cool:ลองอธิฐานดูสิครับ ว่าจะเห็นผลเร็วหรือช้า:':)':)'(
     
  5. krit9999

    krit9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    853
    ค่าพลัง:
    +1,153
    ตอนหลวงพ่อหนุน แจกพระปิดตา ในรูป เห็นมีหนังสือวางอยู่บนโต๊ะ ไม่ทราบหนังสือนั้นเกี่ยวกับอะไร ครับ.
     
  6. udomchai

    udomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2008
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +334
    แจ้งโอนเงิน จำนวน ๓๖๐.๐๐ บาท วันที่ ๑๐ กค.๕๗ เวลา ๑๘.๓๗ น.

    จัดส่ง
    นายอุดมชัย ปานจับ [08-7704-2815]
    บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
    888/15-17 ข้างอาคารมหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต ,ลุมพินี,ปทุมวัน ,กรุงเทพ 10330


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460

    ตอบ ไม่ใช่ครับเป็นรูปหลวงพ่อครับแจกพร้อมกับพระปิดตาครับ:cool:
     
  8. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460


    พิเศษสุด ท่านที่จอง

    พระอุปคุต(ไม่ตะกรุด)และพระปิดตาเนื้อผงฯ
    รวมกัน ๑๐ องค์ ขึ้นไปหรืออย่างใดอย่างหนี่ง
    ตั้งแต่ ๑กค.๕๗-๑๕กค.๕๗
    ท่านอาจารย์จะติดเพชรจักรพรรดิ์ให้ ๑ เม็ด

    รวมกัน ๑๐ องค์ ขึ้นไปหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
    ตั้งแต่ ๑ กค. ๕๗ - ๑๕ กค. ๕๗

    รวมมวลสารมากมายบวกผงแร่รวมมวลสารทั้งของหลวงพ่อหนุนที่ท่านให้มาหลายชนิด รวมทั้งผงมวลสารต่างๆที่ได้จากหลวงพ่อหนุน ท่านได้ให้ไว้อีกมากครับ

    มาเล่าการสร้างวัตถุมงคลชุดที่ 2 คงเล่าพอเป็นสังเขปไม่มากสร้างพร้อมกันกับชุดแรกเข้าพิธีเดี่ยวกัน มวลสารก็มีมากมาย(ของดีราคาถูกมากครับ)
    1.พระปิดตาเพชรกลับ มหาสะท้อน(ลอยองค์)เนื้อผงรวมมวลสารผสมแร่กายสิทธิ์ ที่จริงจะทำเป็น 2 เนื้อคือเนื้อผงพุทธคุณรวมมวลสารและเนื้อผงแร่กายสิทธิ์ ทางช่างไม่รู้ฟังอีกท่าไหน เอามาผสมรวมกันทั้งหมดเลย ก็เลยเป็นโชคดีไปได้ทั้ง 2 เนื้อ ในองค์เดี่ยวกัน
    กว้าง 1.8 สูง 2.1 เซนครับน่าจะเป็นสุดยอดของรุ่น ในอัตราทำบุญที่ทุกท่านเอิ้อมถึง
    ต้องขอบคุณช่าง นะค่ะ ทำให้ได้ของดี(มวลสารมากมาย)ราคาถูก น่าเก็บคะ

    ความหมายสำคัญของคำว่าเพชรกลับพุทธคุณจะสะท้อน สิ่งร้ายๆให้กลับกลายเป็นดีจากดีจะเพิ่มทวีคูณยิ่งๆขึ้น เพชรกลับเชื่อกันว่า มีอานุภาพ กลับร้ายให้กลายเป็นสิ่งดีสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชีวิต อานุภาพป้องกันขจัดปัดเป่า ภัยพิบัติต่างๆไม่ให้มาย่ำกรายหนุนดวงชะตาให้ดียิ่งขึ้น
    มหาสะท้อนมหาอำนาจสะท้อนกลับ เหมาะสำรับคนที่โดนคิดร้าย โดนจ้องจะทำร้าย โดนกระทำทางด้านไสยศาสตร์ก็ดีคุณผีคุณคน หรือมีศัตรู คนที่คิดหรือกระทำ จะสะท้อนย้อนกลับไปหาผู้คิดร้ายหรือจะทำร้ายให้แพ้ภัยตัวเอง
    เหมาะกับคนที่ปกครองคน เจ้าของกิจการ ข้าราชการ

    :cool::cool::cool:
     
  9. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460

    ผมขอคัดลอกเรื่องเกี่ยวกับพระอุปคุต ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเล่าเอาไว้มาให้อ่านนะครับ

    พระยามาราธิราช (VS พระอุปคุต)

    วันที่ไปเยี่ยมจาตุมหาราชที่เล่ามาแล้วนั้น ก็เลยไปดาวดึงส์ ไปยามาแล้วก็ดุสิต ที่ชั้นดุสิตหลวงพ่อปานมารับ ก็กราบๆ ท่าน ท่านถามว่า เออ อยากพบพระศรีอาริย์ไหมล่ะ ตอบว่า อยากจะ เจอะ จะเจอะ ยังไงได้ล่ะ ท่านบอกว่า ไม่ต้องไปหรอก ท่านมาแล้ว สวย ดุสิตนี่สวยจริงๆ ยามาน่ะ เขาขาวพรึ่ดหมด ต้นไม้น่ะมีแค่ ดาวดึงส์แห่งเดียวนะ เทวดานักฟ้อนก็มีแต่ดาวดึงส์แห่งเดียวเพราะว่า เป็นเมืองหลวง ชั้นยามาสวดมนต์ ตะพึด ดุสิตสวยสดงดงาม ไปถึงชั้นนิมมานรดี เทวดาที่ทำหน้าที่นิรมิตต่างๆ เป็นชั้นที่ 5 ที่ว่า "ชั้น" น่ะไม่ใช่เป็นชั้นซ้อนๆ กันนะ เป็นพื้นเดียวอย่างโลกเรานี่แหละ แบ่งเป็นเขตเท่านั้นเองแต่เป็นทิพย์ ไปถึงแวะเยี่ยมท่านแก้วจินดาก่อน ท่านแก้วจินดา ท่านก็มาด๊งเด๊งๆ ตามมสภาพของท่าน องค์นี้เคยทะเลาะกันมาเรื่อย

    ท่านถามว่ามาไงล่ะ ตอบว่า มาเที่ยวซี

    ถามท่านว่า เออ วิมาน พระยามาราธิราช อยู่ไหน หัวเราะก้ากเลย บอกว่า พระโง่ยังงี้ก็มีด้วย

    ถามว่าทำไมล่ะ ตอบว่า ที่นี่เขาเรียก ท้าวมาลัย ครับ ที่นี่ไม่มีพระยามาราธิราชหรอก มีแต่สมัยพระพุทธเจ้า

    ชื่อแกจริงๆ ชื่อ ท้าวมาลัย เป็นหัวหน้าเทวดาชั้น ที่ 6 เป็นผู้ว่าการ ก็เลยไปหากัน ท่านก็ออกมารับแหม สวยแฉ่งเลย รัศมีกายผ่องใส มารับที่เขตวิมานเชียวนะ ที่ไปกันตอนนี้สมทบกันไปหลายชั้น จำนวนมันก็ หลายหมื่นซี ท่านเชิญเข้าไป ไอ้หน้ามุขมันนิดเดียวแหละถามท่านว่า ขึ้นหมดรึนี่ ท่านตอบว่า ไม่เป็นไร หรอก วิมานเทวดายืดได้ แน่ะ เก่งเสียด้วย ไม่เหมือนเมืองมนุษย์หรอก ตั้งแค่ไหนก็แค่นั้น มองดูกะว่า จุสัก 200 ก็แย่แล้ว แต่เราเข้าไป เป็นหมื่นยังเต็มไม่ถึงครึ่ง คุยไปคุยมา

    ถามท่านว่า ทำไมถึงไปลิดรอนพระพุทธเจ้า ตอบว่า ปัดโธ่ ท่านไม่รู้จักความโง่ของผม
    ถามว่า ทำไมล่ะ ตอบว่า ผมกลัวพระพุทธเจ้าจะเทศน์สอนเอาคนไปนิพพานเสียหมด พอเวลาผมเป็นพระพุทธเจ้าบ้างแล้ว ผมจะสอนใครล่ะ

    เราก็นึกในใจว่า โธ่ ไม่น่าโง่เลย จะขนไปยังไงหมด ถามท่านว่า เวลานี้ยังเป็น พระยามาร ไหม ท่านตอบ ไม่ๆๆๆ พวกท่านมีหลายคน แหม เขากลัวพระยามารกันจริงๆ ก็ไอ้มารอยู่ในตัวเองน่ะไม่ยักกลัว พระยามารนี้เวลานี้ช่วยชาวบ้าน พวกพุทธมามกะทุกคน พระยามารต้องบังคับให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ ที่ประคับประคอง พวกเรานี่แหละ จะเรียกว่า พระยามาร ไม่ได้แล้วนะ ต้องเรียกว่า ท้าวมาลัย

    ทีนี้ย้อนมาตอนต้น ตามตำนานที่พระพุทธเจ้าตรัส มีคนถามว่า ทำไม่ท่านไม่ทรมานพระยามาราธิราชล่ะ ท่านตอบว่า ไม่ใช่คู่ปรับกัน พระยามารนี่จองขัดคอ ให้ปั่นป่วนนิดหน่อย ไม่จองเวรแรงขนาดเทวทัต เมื่อสมัยนั้น ท่านเป็นคนเลี้ยงม้าด้วยกันทั้งคู่ จะม้าแข่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ซี ท่านไปเกี่ยวหญ้าม้ากัน เกี่ยวไปก็แยก งกันไปที ทีนี้ก็มีพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เสด็จจาก ภูเขาคันธมาส กุฏิของท่าน มันไม่ค่อยดี ท่านต้องการ ต้นหญ้านี่ ไปผสมกับดินทาฝา เพราะพระจะเกี่ยวหญ้าเองก็ไม่ควร เมื่อเห็นสองคนนี้เกี่ยวหญ้า ท่านก็เหาะลงมายืนเฉย พระพุทธเจ้าของเรา ก็นึกในใจว่า เราเอาของเราถวายท่าน ก็เป็นการสมควร อยากจะเอาของเพื่อนถวายบ้างสักก้อนหนึ่ง แต่ถ้าเพื่อนกลับมาแล้วแสดงความไม่พอใจ ก็จะมีโทษมาก เพราะพระพุทธเจ้า เป็นพระที่มีบุญหนัก ก็เลยไม่ได้ถวายไป พอตอนเย็นกลับมารวมกัน ขนหญ้าขึ้นเกวียน ท่านก็เล่าเรื่องให้ฟัง เท่านั้นแหละแกโกรธหาว่า กลัวจะดีเท่าเทียม เอาละ ท่านไปไหนก็ตาม เราจะตามไปขัดคอ แต่ทุกชาติไม่ได้ขัด มาขัดเอาชาติสุดท้าย เมื่อ ระพุทธเจ้าตัดสินพระทัยออกมหาภิเนษกรมณ์ เห็นท่าไม่เป็นเรื่องแล้ว สิทธัตถะนี้ไปแน่ กูไม่ทันนี่หว่า แล้วก็มาขัดคอ ต่างๆ อย่างที่ทราบ กันดีอยู่แล้ว

    มาในระยะหลังๆที่พระเจ้าอโศกมหาราช จะฉลองพระศาสนา อีตอนนั้นซี พระอุปคุต ท่านไปคุดอยู่กลาง มหาสมุทร บรรดาพระทั้งหลายนั่งประชุมกันว่า พระเจ้าอโศกมหาราช จะฉลองพระศาสนา เจ็ดปี เจ็ดเดือน เจ็ดวัน คราวนี้ ยังไงๆ พระยามารต้องเล่นงานแน่ แล้วเราจะมีใครป้องกันได้บ้าง พระอรหันต์ตั้งสองแสนองค์ ปฏิสัมภิทาญาณก็มีอภิญญาก็มี ไม่มีใครสู้พระยามารได้หรือ ? สู้ได้ ไม่ใช่สู้ไม่ได้ แต่ทุกองค์บอกว่า ไม่ใช่หน้าที่ของเรา

    ทีนี้ในการประชุมคราวนั้น พญานาค ขึ้นมาฟังด้วย พอดี พญาครุฑ บินมาในอากาศเห็นเข้าก็จะ ฉะพญานาคละซี ปฏิปักษ์กันนี่ โฉบลงมา พญานาควิ่งพรวดเข้าไปกลางวงพระ พระทั้งหลายตกตะลึง บอกว่าเณร ช่วยพญานาคเดี๋ยวนี้ เณรแกอายุ 7 ปีเท่านั้น เป็นพระอนาคามีได้อภิญญา พอท่านสั่ง เณรก็ยิ้ม เข้ามา วาโยกสิณ เอาลมหอบพยาครุฑไปเสียไกล พระได้ท่า บอกว่า เณรฉันบอกให้แกช่วยพญานาค แกยิ้มนั่นยิ้มเยาะพระ นี่ต้องลงทัณฑกรรม นั่น แน่ ไม่ใช่เล่น หาเรื่องคน เป็นที่หนึ่ง เณรก็ยอม แล้วแต่พระคุณเจ้าจะ ลงทัณฑ์ ท่านก็สั่งว่า ถ้าอย่างนั้นเธอจงลงไปตาม อุปคุต มานั่น ตอนแรกปรึกษากันว่า ใครจะเป็นคน ไปนิมนต์พระอุปคุต ที่จำพรรษาอยู่กลางทะเล พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า มีอุปคุตคนเดียวเท่านั้น ที่เป็นคู่ ปรับพระยามาธิราช ปราบให้แพ้น่ะได้ แต่คู่ปรับนี้ ต้องปราบ ให้แพ้ด้วย แล้วทำให้ เลื่อมใส กลับเป็นคนดีด้วย ความประสงค์เป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้า ท่านจะปราบก็ปราบได้ แต่ท่านไม่สามารถทำให้ พระยามาร เป็นคนดีได้ ตอนก่อนจะนิพพาน ท่านจึงบอกไว้ว่า พระยามาราธิราชนี้มีคู่ทรมานเป็นพระอรหันต์ เบื้องหลัง เมื่อเรานิพพานไปแล้ว 200 ปี มีนามว่า อุปคุต

    (มีต่อ)
    พอพระอุปคุตมาถึง พระทั้งหลายก็ว่า นี่อุปคุตเป็นอรหันต์แล้ว หาความสุขแต่ผู้เดียว ไม่ช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ไปเข้านิโรธสมาบัติ อยู่กลางทะเลอย่างนี้ ต้องถูกลงทัณฑกรรม เอาอีกแล้ว ทัณฑกรรมเฟ้อจริงๆ พระอุปคุตก็ยอมรับว่า ไม่เป็นไรครับ เอาไงก็ว่ามาเถอะ เลยได้รับมอบหมายให้ต่อต้าน พระยามาราธิราช ในอีก 7 วันข้างหน้า พระอุปคุตก็ยอม แต่ขอกินข้าวให้อ้วนเสียก่อน ไม่อ้วนนี่ ท่าจะไม่เป็นเรื่อง เอา 7 วันก็พอ ตอนเช้าท่านก็เดินย่องแย่งเป็นขี้ยาเข้ามาในเมือง มีคนเขาบอกว่า นี่องค์นี้แหละที่เขาไป ตามมาต่อต้านพระยามาร พระเจ้าอโศกมหาราช ว่า โถ ! พระขี้ยาผอม เหลือแต่กระดูกยังงี้หรือ จะไปต่อต้านพระยามาราธิราช ไม่ได้ต้องลอง เลยเอาช้างพระที่นั่ง ตัวดุที่ตกมัน มายืนดักข้างทาง พอพระอุปคุต คล้อยหลังก็ไสช้างไล่แทงเลย พระอุปคุตได้ยินเสียงข้างหลัง เอ๊ะ อะไรกันแน่ เห็นช้างวิ่งเข้ามาใกล้ท่านก็ เอานิ้วจิ้มปั๊บ บอกว่า "หยุด" ช้างกันจ้ำเบ้าเลย นั่งเหมือนกะ หินอยู่ตรงนั้น จะขี้แตก ด้วยหรือเปล่าจำไม่ได้ พระเจ้าอโศกมหาราชเลยบอกว่า ไม่ต้องไปบิณฑบาตหรอก แล้วท่านก็เอามาเลี้ยงเสียอ้วนปี๋เลย

    ทีนี้พอวันเริ่มต้นงาน พระยามารก็แสดงเดช ทำมืดครึ้ม ไม่ให้เห็นแสงอาทิตย์เลย พระทั้งหลายก็เตือนว่า นั่นไง ท่านอุปคุต พระยามารแสดงแล้ว ท่านบอกว่า ไม่เป็นไรเรื่องเล็กพอแต่งตัวรัดประคดเรียบร้อย ก็ไปหาพระยามาร บอกว่า คลายฤทธิ์เดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่คลายเป็นพัง เราอุปคุต พระยามารได้ยินก็ชักขนลุกซู่ๆ รู้ฤทธิ์ รู้เดช ฉะกันมาหลายชาติแล้ว ตาเขาก็หนึ่ง ในตองอูเหมือนกัน เอ้า เก่งจริง ก็เชิญเลย นี่พระยามาราธิราชไม่เคยกลัวใคร แม้แต่ พระสมณโคดม ก็ยังไม่กลัว เลยสู้กัน ความจริง เอาเสียที่เดียว ก็ได้เหนือ ชั้นกว่ามาก ล่อกันไปล่อกันมา ท่านอุปคุต ท่านขี้เกียจขึ้นมา ก็จับเอามือไพล่หลัง อธิษฐาน ให้แก้ไม่ออก ไม่ใช่แต่เท่านั้น อธิษฐานเอาหมาเน่ามาผูกคอเสียอีกด้วย พระยามาราธิราชแกก็เทวดาองค์หนึ่งเทวดา นี่แต่กลิ่นคนเขาก็เหม็นเสียแล้ว โดนหมาเน่าเข้าวิ่งโร่ไปหาพระอินทร์เจ้านายใหญ่ พระอินทร์บอกว่า อ้าว ทำไมไปเล่นกับพระอุปคุตเล่า เขาจะทำบุญพระศาสนากันดันไปแกล้งเขา ใครจะไปมีฤทธิ์เท่าพระอรหันต์ ได้ไม่มี มีทางเดียวท่านไปขอขมาท่านอุปคุตเสีย แล้วสัญญาว่า จะไม่ทำพยศอีก พระอุปคุตก็จะอภัยแก่ เธอ ท่านก็จำเป็นจำยอมไปขอโทษขอโพย พระอุปคุตถามว่า ยังไง สิ้นฤทธิ์แล้วรึ ? แกบอกว่า ยอมๆ ยอม ทุกอย่าง ต่อไปไม่แกล้งอีกแล้ว พระอุปคุต ก็แก้หมาเน่า แก้มัดมือออก แต่ยังเอารัดประคต ผูกเข้าไว้ กับ เขาพระสุเมรุเสียอีกหลายเปลาะ ปล่อยพระยามารดิ้นด็อกแด็กอยู่ 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ดิ้นเสียเขาพระสุเมรุ หวั่นไหว ดาวดึงส์ สะเทือนไปหมด

    พอพระเจ้าอโศกมหาราช ฉลองศาสนาเสร็จ ไปถึง พระยามาร ก็บ่นว่า โธ่เอ๋ย พระสมณโคดม ท่านก็ใจดี นะ แต่สาวกนี่แหมใจร้ายเต็มที ท่านอุปคุตไปถึงก็ต่อว่า สาวกสมัยก่อน อย่างพระโมคคัลนา พระสารีบุตร พระบิณโฑลภารทวาชะ ใครๆ ก็มีฤทธิ์ มากกว่าท่านเสียอีก แต่ไม่ใจร้าย มีท่านคนเดียว ใจร้ายกับเรา ท่านอุปคุตก็โต้ว่า รู้แล้วไม่ใช่หรือ พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า ท่านกับเราเท่านั้น ที่เป็นคู่ปรับกัน ความจริงแล้ว ท่านผู้มีฤทธิ์ ทั้งหมดน่ะ ตัวท่านสู้ไม่ได้หรอก ไม่มีทางสู้ เวลานี้ แม้แต่เณร 7 ขวบ ที่ไปตามเรา ท่านก็สู้ไม่ได้ แต่ที่ท่านทั้งหลายไม่ทำ ก็เพราะไม่ใช่หน้าที่ของท่าน แต่เป็นหน้าที่ของเราผลที่สุดพระอุปคุตท่านก็ปล่อย แต่บอกว่า ก่อนปล่อย ต้องสัญญากับเราก่อนว่า จะไม่รบกวน บรรดาภิกษุ ภิกษุณี อุบาสิกา ผู้ปรารถนาในธรรม ถ้ารบกวนเมื่อไรโทษจะหนักกว่านี้หลายพันเท่า พระยามารก็บอกว่าไม่เอาแล้ว ไอ้ 7 ปี 7 เดือน 7 วัน นี่ก็พอแล้ว

    พระอุปคุตท่าน ก็ขอร้องให้พระยามาร แสดงเป็นรูปพระพุทธเจ้า สมัยยังทรงพระชนม์อยู่ให้ดู พระยามาร ตอบว่า ได้ๆๆ เรื่องเล็ก แต่สัญญากันก่อนนะ จะไหว้ผมไม่ได้ นะห้ามไหว้ โดยเฉพาะ พวกท่าน เป็นอรหันต์ เป็นพระอริยะ มาไหว้ผมละ ไม่เป็นเรื่องหรอก พระอุปคุต ก็ตกลง พระยามาราธิราช บอกว่า ผมจะ เดินไปทางหลังเขา ถ้าออกมา ห้ามไหว้เด็ดขาดนะ เพราะ บาปจะตกอยู่กับผม พอพระยามาร ไปหลังเขา พระอุปคุต ก็ให้สัญญาณ เรียกพระอรหันต์มาทั้ง 2 แสนรูป สักครู่หนึ่ง พระยามารก็ออก เป็นพระพุทธเจ้า มีฉัพพรรณรังสี รัศมี สว่างไสว สวยสดงดงามมาก มี พระโมคคัลลา พระสารีบุตร อยู่เบื้องซ้ายขวาครบเครื่องมาเลย พระทั้งหมด ลืมสัญญา ลุกขึ้นกราบพร้อมกัน กราบพระพุทธเจ้า พระยามารรีบคลายตัวทันที บอกว่า ท่านทำไมทำยังงี้ เป็นโทษกับผม ท่านอุปคุตก็บอกว่า ท่านไม่ต้องวิตก เพราะว่าการกราบนี้เขา ไม่ได้กราบท่าน เขากราบพระพุทธเจ้า โทษของท่านไม่มี พระยามาราธิราชก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น ขอพระคุณเจ้าทั้งหมดงดโทษให้ผมด้วย พร้อมด้วยพระรัตนตรัย เพราะว่าผมเองก็ปรารถนาพุทธภูมิ แล้วท่านก็กลับไป เรื่องก็จบลงแต่เพียงนี้
    :cool:
     
  10. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460


    ของดีราคาถูกผงจะเป็นแบบเดี่ยวกับหลวงปู่ทวดเนื้อพิเศษ ต่างกันตรงที่โรยด้วยตะกลันแก้วแร่กายสิทธิ์มวลสารรวมผสมว่าทางเมตตาร้อยแปดและผงมวลสารหลวงปู่จันทร์วัดโฉลกหลำ(ฉายาขุนแผนแห่งเมืองใต้)ผสมสีผึ้งรวมมวลสารฝังตะกรุด มีแบบเงิน ทอง นาก ทั้งสามดอก

    ปัจจุบันในบางกลุ่มชนยังมีความเชื่อว่าพระอุปคุตยังมีชีวิตอยุ่ และทุกวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ที่ตรงกับวันพุธ ชาวล้านนาจะเรียกว่า"วันเป็งปุ๊ด" พระอุปคุตจะออกมาบิณฑบาตรในร่างของสามเณรน้อย โดยจะออกมารับบาตรในเวลาเที่ยงคืน ทำให้เกิดเป็นประเพณีตักบาตรเวลากลางคืน ด้วยข้าวสารอาหารแห้ง ดอกไม้ธูปเทียน เชื่อว่าผู้ใดได้ใส่บาตรพระอุปคุตจะพ้นจาก ความยากจนเข็ญใจ หายเจ็บ หายไข้ มีโชคลาภเจริญรุ่งเรือง มีสติปัญญาเฉียบแหลม
    ............. ในงานพิธีกรรมต่างๆจะมีการตั้งบุชาพระอุปคุตไว้ เพื่อให้งานสำคัญราบรื่น ไม่มีอุปสรรคปัญหาใดๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
    โบราณจารย์มักจะสร้างพระอุปคุตในปางแตกต่างกันไปหลายรูปแบบ เช่นนั่งอยู่ในกุ้ง หอย ปู ปลา หรือเป็นพระบัวเข็ม อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญ เชื่อกันว่าพระอุปคุตมีอานุภาพในทางมหาอำนาจปราบศัตรูหมุ่มารทั้งหลาย ป้องกันภัยอันตราย โดยเฉพาะภัยทางน้ำ

    ตำนาน..
    เชื่อกันมาว่า พระอุปคุตมีอิทธิฤทธิ์ปราบท้าววสวัตตีมาร มีเรื่องเล่ามาว่าประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 2 หลังพุทธปรินิพพาน ณ นครปาตลีบุตราชธานี (ปัจจุบันคือเมืองปัตนะ ภาคใต้ของประเทศอินเดีย) พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ครองราชสมบัติในขณะนั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ได้ฉลองสมโภชพระสถูปเจดีย์ทั้งหมดที่พระองค์สร้างอย่างยิ่งใหญ่ ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน แต่ถูกพญามารมาผจญ พระองค์จึงนิมนต์พระอุปคุตไปปราบพญามารจนยอมแพ้ จากนั้นพระอุปคุตก็มีชื่อเสียงในทางปราบมาร ท่านมีอีกชื่อว่า " พระปราบมาร "
    ปัจจุบันยังมีความเชื่อในหมู่ชาวไทยล้านนาว่า พระบัวเข็มหรือพระอุปคุตยังมีชีวิตอยู่ ในทุกวันขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธ ชาวไทยล้านนาจะเรียกว่าเป็น "วันเป็งปุ๊ด" พระอุปคุตจะออกบิณฑบาตในร่างเณรน้อย และจะออกมาเวลาหลังเที่ยงคืน ด้วยเหตุนี้จึงเกิดประเพณีตักบาตรกลางคืนขึ้น
    พระเครื่อง..
    พระอุปคุต หรือ พระบัวเข็ม ในทางพระเครื่องมีประวัติว่า "พระบัวเข็ม" เดิมเป็นพระพุทธรูปมอญ เข้ามาแพร่หลายในไทยช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 โดยพระรามัญได้นำมาถวายพระวชิรญาณภิกขุ (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4) โดยเชื่อในพุทธคุณว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ก่อให้เกิดลาภผล ความมั่งมี ขจัดภยันตราย และมีอิทธิฤทธิ์ในทางขอฝนอีกด้วย

    คาถาพระมหาอุปคุตผูกมาร
    (นะโม... 3 จบ)
    มหาอุปคุตโต มหาอุปคุตตัง กายะพันทะนัง อมยิสะ พุทธังทะเถโร ธัมมังทะเถโร สังฆังทะเถโร ปะอัยยะสุตัง อุปัจสะอิ อิมังกายะพันทะนัง อะทิถามิ ฯ
    คาถาพระมหาอุปคุตผูกมาร มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์มาก ใช้สวดอาราธนาคู่กับพระเครื่องในรูปของพระอุปคุต (โดยเฉพาะพระอุปคุตปางปราบมาร) สำหรับคุ้มครองให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ หรือเสกด้ายสายสิญจน์ทำเป็นมงคลสวมคอ หากปลุกเสกครบ 108 ครั้งสามารถป้องกันภูตผีปีศาจทั้งปวง และป้องกันอุปัทวอันตรายต่างๆ ถ้าเสก 3 - 7 คาบ ผูกคอหรือคล้องคอคนถูกผีเจ้าเข้าสิง จะเจ็บปวดร้องครวญครางโหยหวยอย่างน่าเวทนา ถ้าจะให้ผีที่สิงอยู่ออกไป ให้ถอดหรือแก้ด้ายผูกคอออก แล้วเอาด้ายนี้ตีปัดตามตัวคนที่ถูกผีสิงอยู่ ผีจะอยู่ไม่ได้จะรีบเผ่นออก และไม่กล้ากลับมารบกวนอีก และยังมีการปลุกเสกในทางพิชิตโรคาพาธได้วิเศษยิ่งนัก


    คำบูชาขอลาภพระอุปคุต
    มหาอุปคุตโต จะมหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโมโจรา เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มะนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม ฯ
    เอหิจิตติ จิตตังพันธะนัง อุปะคุตะ จะมหาเถโร พุทธะสาวะกะ อานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุญณะตา จะเทวะตานัมปิ มะนุสสานันปิ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมังกายะ พันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ ฯ

    วิธีสวดขอลาภ
    ให้จุดธูปเทียนบูชา พร้อมกับดอกไม้หอม เครื่องหอมน้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระในร้านค้าขาย หรืออาคารสำนักงาน แล้วอธิษฐานขอให้กลิ่นควันธูปเทียน ลมพัดไปทางไหน ของให้ดลใจผู้คนเข้ามาอุดหนุนตลอด ขอให้ดำเนินกิจการด้วยความราบรื่น มีความสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ เมื่ออธิษฐานจุดธูปเทียนบูชาแล้ว ให้สวด นะโม... 3 จบ และสวดคำบูชาขอลาภพระอุปคุต 1 จบ แล้วทำน้ำมนต์สวดด้วย คำบูชาขอลาภพระมหาอุปคุต อีก 1 จบ เสร็จแล้ว เอาน้ำมนต์ประพรมร้านค้า และสินค้าในร้านค้า หรือทำธุรกิจ ก็ให้เอาน้ำมนต์ประพรมภายในสำนักงานและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำธุรกิจนั้นทั้งหมด ก็จะเป็นศิริมงคล และสัมฤทธิ์ผลในกิจการงานนั้นๆ

    การตั้งบูชา
    นิยมการตั้งบูชาบนฐานรองรับ อยู่กลางภาชนะใส่น้ำ เป็นการจำลองคล้ายกับท่านจำพรรษาอยู่ในมหาสมุทรสะดือทะเล แล้วใช้ดอกมะลิหรือดอกบัว ลอยในน้ำบูชาสักการะ ถวายน้ำผึ้งและน้ำเปล่า วันละ ๑ แก้ว ถวายข้าว กล้วย ผลไม้ ขนมทุกเช้าหรือทุกวันพระ ห้ามถวายประเภทสิ่งมีชีวิต ใช้ธูปหอมบูชา ๓ ดอก หากมีการจัดงานพิธีใดๆ ให้จัดโต๊ะพิเศษ อัญเชิญพระอุปคุตมหาเถระมาตั้งไว้ พร้อมบูชาเครื่องสักการะตลอดงาน อย่าให้ไฟดับ

    อานิสงส์การบูชาพระอุปคุตมหาเถระ
    ผู้ที่บูชาสักการะ จะมีความเป็นสิริมงคลชุ่มเย็น ป้องกันภัยพิบัติและแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆและอุบัติเหตุทั้งหลาย เป็นผู้ชนะมารและศัตรูที่จะมาปองร้ายเราทั้ง ๑๐ ทิศ เป็นผู้มีอำนาจวาสนาดี ไม่มีใครข่มเหงรังแก เป็นที่เคารพนับถือและเกรงกลัวของคนทั้งหลาย เป็นผู้กินไม่หมด มีโชคลาภอยู่ตลอดเหมือนพระอุปคุตมหาเถระปางจกบาตร

    คาถาขอลาภพระกีสนาคอุปคุตมหาเถระ พระอรหันต์ผู้สถิตย์ยังสะดือทะเล พระผู้อุดมด้วยเมตตาบารมี โชคลาภ คุ้มกันภัยพิบัติ ขจัดอุปสรรคภยันตรายทั้งปวง

    ชาวพม่ารามัญนับถือพระอุปคุตมหาเถระกันเป็นจำนวนมาก จึงมีการสร้างรูปบูชาของท่านขึ้นมา เห็นได้จากพระบูชาพระอุปคุตมหาเถระที่มีศิลปะแบบพม่าอยู่มากมาย ทั้งแบบปางบัวเข็ม และแบบปางจกบาตร คติความเชื่อเกี่ยวกับพุทธคุณของผู้ที่บูชา พระอุปคุตมหาเถระ เชื่อว่ามีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตาบารมี โชคลาภ คุ้มกันภัยพิบัติขจัดอุปสรรคภยันตรายทั้งปวง

    การบูชาพระอุปคุตมหาเถระนี้มีความหมายเป็น ๒ นัย คือ ๑.พระอุปคุตมหาเถระท่านเป็นพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์ปราบมาร จึงช่วยปกป้องคุ้มครองให้ผู้ที่บูชาห่างไกลจากภัยอันตรายต่างๆ ส่วนนัยที่ ๒ คือ ท่านจำศีลอยู่ในน้ำ จึงช่วยให้ผู้บูชาอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ บรรดาผู้ที่นับถือศรัทธาหลวงพ่ออุตตมะที่ทราบในข้อนี้ จึงนิยมที่จะหาพระอุปคุตมหาเถระปางต่างๆ มาไว้บูชาติดบ้านเพื่อความสงบร่มเย็น
    :cool:
     
  11. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    :cool:
     
  12. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  13. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380
    เรียนญาติธรรมทุกท่าน
    ท่านที่ต้องการใบโมทนาบัตร
    กรุณาแจ้ง
    ในวันที่ ๒๕-๓๑ สค. ๕๗
    สำหรับท่านที่ชำระเงินเรียบร้อยแล้วเท่านั้น

    กรุณาแจ้งในช่วงเวลาที่กำหนด
    รายชื่อท่านจะได้ไม่ตกหล่นค่ะ

    *** ถ้าเลยเวลาที่กำหนด
    ขออนุญาตไม่ รับเรื่องนะค่ะ***

    ขอบคุณค่ะ​
     
  14. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380
    สำหรับท่านที่สำรอง
    พระปิดตาเหล็กไหลปรอทชมพูนุชไว้

    sak999
    ป้าเล็ก
    วิระทะโย
    chalo invest
    Chinnamanat Boontumsong


    ดิฉันขอเก็บสำรองไว้ก่อน และ
    ดิฉันจะติดต่อกลับไป ในวันที่ ๗-๙ กย. ๕๗
    หลังจากส่งของเรียบร้อยแล้ว

    กรุณายืนยันรับสิทธิ์ ภายใน ๗ วัน ด้วยค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  15. ป้าเล็ก

    ป้าเล็ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +2,447
    ยืนยันรับสิทธิ์ค่ะ
     
  16. sak999

    sak999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +240
    ยืนยันรับสิทธิ์ครับ
     
  17. พ่อน้องหนุน

    พ่อน้องหนุน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +5,562
    ขอจองบูชา
    ๑.ตะกรุด พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ จำนวน ๑ ดอก
    ๒.พระผงพระอุปคุต มีตะกรุด ๓ ดอก จำนวน ๑ องค์
    ๓.พระผงพระอุปคุต จำนวน ๒ องค์
    ๔.พระปิดตาพระปิดตาเพชรกลับ เนื้อผงรวมมวลสาร จำนวน ๘ องค์ครับ./:cool:
     
  18. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    ขอบคุณค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  19. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    ขอบคุณค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  20. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ รวมครบ๑๐องค์ค่ะ
    สาธุๆๆ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...