หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..สมเด็จเกษไชโย พระเครื่องอ่างทอง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ วัดเงินบางพรหม

ตอบให้ทุกท่านแล้วครับ​

......................​

ล็อคเก๊ตอุดผงสร้างพระ อุดตระกรุดต่อลาภ ผสมเกษา จีวร มีจาร มะ อะ อุ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน รุ่นนี้ทำไว้น้อยมากครับ หาชมยาก


มีคนถามมาเยอะ เปิดให้ถามราคาระยะสั้นๆ


เบาๆ 3,700 บาท

 

เหรียญรุ่นแรก ปี 2506 มากประสบการณ์


หลวงพ่อกุ่ม วัดฝาง


พุทธคุณทางสะกด คงกระพัน งงงวย




สุดยอด อาคมขลัง แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ อีกหนึ่งท่าน หลวงพ่อกุ่ม วัดฝาง 2506 ที่เก็บไว้บางส่วนครับ...เน้นโชว์ และศึกษาครับ วิชา มหานิยม มหาเสน่ห์ คงกระพัน มหาอุต์เลื่องลือมากสมัยนั้นครับ เสกก้อนเนื้อเป็นต่อแตน บังฟัน ข้าวสารเสกมัดหุ่นพยนต์ ถ่ายรูปไม่ติด ปล่อยวิชาด้วยลูกไฟ ลงทอง 300 แผ่น เสกกะโหลกสุนัขเฝ้าบ้าน ตระกรุดมนุษย์ ยักษ์เลื่องลือ ลงสาริกาที่ฟันฟันไม่ผุ ลงแผ่นทองติดกะโหลก เสกควายธนูฝุ่นตลบ ฯลฯ แล้วตามอ่านนะครับ ประวัติจริง ไม่อิงนิยาย มีพยานยืนยัน ไม่นั่งเทียนเขียน ครับ.....คนรอกันเพียบ พระมากอภินิหารระดับท่าน รวบรวมได้ไกล้เต้มที อีกไม่กี่อึดใจเรียบร้อย ในพระคณาจารย์เมืองวิเศษฯชัยชาญ ผู้คนสอบถามมามากๆเกี่ยวกับประวัติจริงๆของหลวงพ่อกลุ่ม วัดฝาง เพราะหลายๆท่านคิดว่าท่านเป้นพระคณาจารย์ลึกลับ ที่โด่งดัง และที่แปลกหู คือ ตระกรุด มนุษย์ ยักษ์ ชื่อแปลกดี ไม่เคยได้ยินที่ไหน และ ลักษณะหลวงพ่อท่านมีลักษณะเด่น น่าเลื่อมใส พอผมบอกว่าจะเขียน เรื่องท่านก็มีคนถามมามากมายครับ เพราะยังไม่เคยมีใครเขียนแบบเจาะลึกเป็นเรื่องราวและลงเผยแพร่เลย ได้ยินแต่คำเล่าลือ ครั้งนี้ด้วยความศรัทธาของผม ที่พอยิ่งทำประวัติท่านก้ยิ่งทึ่ง และอยากทำต่อไปจนจบให้สมบูรณ์ที่สุดครับ ผมจึงดั้นด้นไปหลายที่ต่างจังหวัด ต่างอำเภอ ใช้เวลาและหาเวลาเท่าที่จะอำนวยรวบรวมไว้ เพื่อปฏิปทาของท่านได้ไม่เสื่อมสลาย สูญหายไปกับการเวลา ต่อไปถ้าไม่ทำไว้คนอาจจะทราบแค่ว่า ท่านมีวัตถุมงคลอะไรบ้าง ดีอย่างไร มีประสบการณ์มากมายขนาดไหน แต่ไม่ทราบต้นตอที่มาที่ไป ของหลวงพ่อซึ่งสร้างวัตถุมงคลฝากไว้ ให้ลูกหลานได้บูชากัน ..... จึงเป็นที่มาของ... ประวัติหลวงพ่อกลุ่ม พุทธิญาโณ วัดฝาง หลวงพ่อกลุ่ม พุทธิญาโณ พระคณาจารผู้วิเศษ แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญที่เหล่าศิษย์ยานุศิษย์ เคารพยำเกรงในตบะบารมีเป็นอย่างยิ่งครับ ท่านเป็นผู้เรืองด้วยเวทย์วิทยาคม ที่หาคนเสมอเหมือนไม่ง่ายนักในสมัยนั้น เปรียบได้ดังพญาราชสีในป่าลึก เรื่องสรรพวิชาไสยเวทแล้วเรียกได้ว่าเป็นผู้ขมังเวทย์ หรือเจนจบในเวทวิทยาคมอย่างยิ่ง ถ้าผู้คนทราบถึงกิตติศักดิ์ท่านแล้ว คำกล่าวที่ผมกล่าวมานั้นมิได้เกินจริงแต่อย่างใด ท่านจะทราบได้ถึงความเลื่อมใส ว่าชาวบ้านศรัทธาท่านมากมายขนาดไหน แต่น่าเสียดาย ที่หลวงพ่อค่อนข้างเก็บตัวครับ ไม่ค่อยยุ่งกับใครมากนัก แต่ท่านก็กระทำกิจของสงตามสมณสารูป ที่ควรกระทำ หลวงพ่อถึงจะมีอุปนิสัย เป็นคนจริงเป้นนักเกรงแบบเต้มตัว แต่ทว่าจริยาวัตรกิริยาท่านในเพศบรรพชิต เท่าที่สอบถามมาจากพระผู้ใหญ่หลายท่านที่ทันหลวงพ่อก้ทราบว่า หลวงพ่อท่านเป๋นพระเรียบร้อย พูดจาอ่อนหวานกับผู้คนทั่วไป ในช่วงหลังๆนี้ท่านคงละวางเรื่องทาง ตบะหรือบารมีแบบอำนาจลงไปครับ ตามความคิดเห็นของผมเอง ประสบการณ์ในพระเครื่องและสรรพวิชาของท่านนั้นมากมาย ลูกศิษย์ลูกหา เห็นกับตาจนขนหัวลุกมาก็เยอะ.. หลวงพ่อกุ่มท่านทำอะไรก้ขลัง เสกอะไรได้ดั่งใจนึก ผมเสาะแสวงหาสอบถามจากลุกศิษย์หลายท่านที่ทันหลวงพ่อ และได้ข้อมูลจากพี่โน้ต วิเศษฯ ที่สอบถามเรื่องราวต่างๆมาด้วย ส่วนเรื่องที่นำมาลงเผยแผ่เกียติรคุณขององค์หลวงพ่อนั้น ทุกเรื่องมาจากคำบอกเล่าจากศิษย์ไกล้ชิดหลวงพ่อที่มีตัวตนอยู่หลายท่านและเป้นเรื่องจริงที่แต่ละท่านประสบมาเองเสียส่วนมาก ได้กรุณาเล่าให้ฟัง และสละเวลาทำมาหากินของท่านเหล่านั้นอย่างมาก ผมต้องกราบขอบพระคุณท่านเหล่านั้นมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ เรื่องราวต่างพอผมฟังแล้ว น่าขนลุกและเกิดความศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อมากมายเป็นทวีคูณทีเดียว ทั้งคงกระพัน มหาอุตม์ และเรื่องวิชาเสน่ห์ของท่านนั้น ช่วยคนไว้ไม่น้อยครับ ถึงขนาดว่าท่านลงวิชามหานิยมให้ สุดท้ายทนไม่ไหว ต้องไปถอนออกเลยทีเดียว เดี๋ยวจะเล่าต่อไปครับ........ หลวงพ่อกลุ่ม พุทธิญาโณ นามเดิมขณะที่ยังเป็นฆราวาสคือ กลุ่ม ตาดแจ่ม แต่ต่อมาได้เปลี่ยนนามสกุลเป็นเนตรทรงผล ชื่อบิดามารดาประวัติ เลือนลางสืบไม่แน่ชัด ชาตะเมื่อวันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2440 ตรงกับวันขึ้น3ค่ำเดือน7 ปีระกา เป็นคนพื้นเพอยู่ระแวกวัดฝาง อ. วิเศษชัยชาญ เหตุที่ได้ชื่อว่ากลุ่มนั้นมาจากนิ้วชี้,กลาง,นางข้างซ้ายและนิ้วนางข้างขวาได้ปุกคล้ายลูกกลุ่มมาตั้งแต่กำเนิด รูปพรรณสันทัด ผิวดำขลับอุปนิสัย เป็นคนใจกล้า ไม่ยอมคน หลวงพ่อกลุ่มเพียรศึกษาวิทยาคมตั้งแต่เป็นฆราวาสโดยเฉพาะทางไสยดำและขาว ทั้งตำราผูกและตำราแก้กับหลายคณาจารย์อาทิเช่น หลวงพ่อวัดประจำรัง ผู้ถ่ายทอดวิชาตะกรุดมนุษย์-ยักษ์ ที่เลื่องลือ พระเทพมุณี วัดบางเหี้ย,พระครูขำ วัดไร่แตงโม,ในโองการไหว้ครูประจำปี ของหลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ท่านนับร้อย รวมถึงหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และฆราวาสอีกหลายท่าน หลวงพ่อได้อุปสมบทที่วัดฝาง เนื่องด้วยเป็นผู้เรืองด้วยเวทย์วิทยาคม ท่านจึงมีศิษยานุศิษย์มากมาย จนทำให้วัดฝางสมัยนั้นเจริญรุ่งเรืองด้วยบารมีท่านตามไปด้วย (สมัยนั้นถนนไปวัดไม่มี หนทางไปวัดฝางได้โดยทางเรือกับเดินลัดเลาะคันนา) แต่หากพูดถึงวัดฝางสมัยนั้นก็เปรียบได้เสมือนที่บำบัดทุกข์ของประชาชนเลยทีเดียว ผู้คนที่เดือดร้อนไม่ว่าสารพัดโรค ทั้งโรคทางไสยศาสตร์ แพทย์แผนโบราณ ท่านสงเคราะห์โดยถ้วนทั่ว.. หลวงพ่อกลุ่มได้ล้มป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ทำให้ไอบ่อยมาก ตลอดจนเวลาในการจำวัดแทบไม่มี เพราะมีผู้คนเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ทำให้สุขภาพหลวงพ่อแย่ลงจนผ่ายผอม ท่านได้ละสังขารในวันเสาร์ที่ 5 พ.ศ.2510 ปีมะเมีย คล้อยจากวันฉลองอายุครบ70ปีไม่กี่วัน ท่านมรณะในเรือหางยาวพุทธิญาโณ ของท่านด้วยอาการสงบท่ามกลางความโศกเศร้าของศิษยานุศิษย์ที่ตามปรนนิบัติไม่ห่าง ..........เดี๋ยวมาต่อ.............ครับ มีอีกเยอะ อิอิ.... ผมได้เคยกล่าวไปแล้วว่าหลวงพ่อท่านเป้นเสือเก่าเป้นนักเลงมาก่อนที่จะบวช....ท่านเรียนวิชามาตั้งแต่เป็นฆารวาส เรื่องนี้เป้นเรื่องที่ลุกศิษย์ไกล้ชิตหลวงพ่อได้ถ่ายทอดเรื่องราวไว้ครับ .....รอดจากคุกเพราะวิชา....(เรื่องราวนี้เกิดขึ้นสมัยวัยหนุ่ม ก่อนท่านบวช) เมื่อก่อนตอนสมัยหลวงพ่อกลุ่มท่านยังไม่ได้บวช ซึ่งอุปนิสัยของท่านเป็นคนจริง ไม่ยอมคน ใจกล้า เที่ยวปล้นคนรวยที่โกงชาวบ้าน เอาไปช่วยคนยากไร้ จนถูกล้อมจับหลายครั้ง แต่ทุกครั้งท่านก้รอดคมกระสุนมาได้ แต่พอปล้นไป นานเข้า เกิดล้อมจับบ่อยๆท่านเกิดความเบื่อหน่ายไปเอง ครั้งล่าสุดก่อนที่ท่านจะถูกจับ ท่านก้ถูกตำรวจล้อมอีก แต่ครั้งนี้ท่านไม่หนี ยอมให้จับแต่โดยดี เพราะไม่อยากหนีอีกแล้ว ถ้าหนีก้หนีกันไม่จบสิ้น หลวงพ่อท่านจึงยอมติดคุกที่จังหวัดนครปฐม แต่ท่านติดอยู่ได้ไม่นานครับ วันที่ท่านถุกปล่อยตัวก็มาถึง ในวันนั้นเมียของผู้คุมท่านหนึ่ง เกิดเจ็บท้องไกล้คลอดแต่เด้กไม่ยอมออก ผู้คุมเลยประกาศว่า ถ้าใครช่วยเมียของเขาได้ เขาจะหาทางปล่อยตัวให้ได้ หลวงพ่อกุ่มท่านจึงรับอาสา โดยทำน้ำมนต์แล้วเอามงคลคล้องคอใส่ลงไปในขันน้ำมนต์ และให้เมียผู้คุมดืมลงไป ไม่นานเด้กก้ออกมาอย่างง่ายดาย โดยมีมงคลคล้องคอเด็กออกมาด้วยหลวงพ่อกุ่มท่านจึงเป็นอิสระตั้งแต่นั้นมา.... ลองวิชา (เหตุการเกิดขึ้นก่อนท่านบวช) หลังจากหลวงพ่อกลุ่ม ได้รับการอภัยโทษออกมาแล้ว ด้วยวัยหนุ่มท่านจึงเกิดอยากลองของ และทบทวนวิชาที่ได้เล่าเรียนมา ท่านลองวิชาโดยการยืนพนมมือบริกรรมคาถาอยู่บนคันนา หันหน้าไปทางทิศตะวันออก พักหนึ่งก็มีหญิงสาวหน้าตาดี ตามท่านมา และมาอยู่ที่วิเศษชัยชาญกับท่านด้วย ต้องบอกก่อนว่าก่อนท่านเข้าสู่เพศบรรพชิตนั้น ท่านใช้ชิวิตส่วนมากช่วยคน และภรรยาท่านเยอะครับ ตามแบบฉบับคนโบราณในเพศฆารวาส(แต่อาจจะไม่ทุกคนน่ะครับ) เรื่องวิชาเสน่ห์นี้ เป็นวิชาที่มีมาแต่โบราณครับ สมัยเก่าก่อน ทั้งพระและฆารวาสล้วนเป้นวิชา พอตัว ถ้าเป็นฆารวาสก้หนักไปในทาง คงกระพัน มหาเสน่ห์ แล้วแต่ว่าไปเรียนกับใคร และจะได้อะไรมา ยิ่งเสือปล้น หรือ คนที่ต้องเสี่ยงภัย มักมีวิชาพอตัวทีเดียว ทั้งกำบังกาย จังงัง มหาอุตม์ และที่สำคัญคนสมัยก่อนนั้นเขาหนังดี และดีจริงๆน่ะครับ คือเหนียวจริง ไม่ใช่แบบสมัยนี้ ถ้าใครถือได้ ใจมั่นคง มีสัจจะ แบบคนโบราณรับรองว่าขลัง หลวงพ่อก้เช่นกัน ได้ร่ำเรียนมาด้วยอย่างแตกฉานทีเดียว เดี่ยวยังมีต่อ...จะเล่าไปเรื่อยๆครับ หลังจากหลวงพ่อกลุ่มท่านมาอยู่วิเศษฯ ท่านได้ประกอบอาชีพทำสวน ทำนา เหมือนๆชาวบ้านในละแวกนั้นทั่วไป และใช้วิทยาคมที่ร่ำเรียนมาช่วยชาวบ้านไปด้วย วันหนึ่งๆจะมีคนมาให้หลวงพ่อรักษา ช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก และอีกอย่างหนึ่งคือหลวงพ่อท่านเรียนวิชาแพทย์แผนปัจจุบันไว้ด้วย เพื่อคอยฉีดยารักษาชาวบ้าน โดยไม่คิดเงินทองครับ ..........ต่ออีกหน่อยครับ........ ขอ้มูที่ได้มานี้มาจากคำบอกเล่าของศิษย์ที่ทันและได้เคยรับใช้หลวงพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ในขณะนี้บางท่านที่ให้ข้อมูลก็เสียชีวิตไปแล้ว จึงขอบันทึกไว้ และอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เขียน ผมว่าไปตามเนื้อผ้า เล่ามาอย่างไรใจความอย่างไรไปแบบนั้นไม่มีการใส่ สี ตีไข่ เขย่าข้อมูลให้เพีี้ยนไป มาแบบไหนไปแบบนั้นครับ......ต่อๆ................................ถอนคุณไสย.................. สำหรับหลวงพ่อกุ่ม เรื่องเหนือธรรมชาติ เกินวิสัยที่คนทั่วไปจะทำได้นั้นหลวงพ่อมีความชำนาญมาก เรียกได้ว่าขลังจริง สมัยก่อนมีทั้งพระและฆารวาสที่ขมังเวทย์จริงๆนั้นเยอะ เก่งจริงก็มาก ถ้าหลวงพ่อไม่แน่จริง จะแก้ของเขายาก ยกตัวอย่างเบี้ยแก้เป็นต้น คนที่ทำได้ต้องอาคมแก่กล้ามากทีเดียว ไม่อย่างนั้นแก้ และคัดของเขาไม่ได้น่ะครับ พระคณาจารย์สมัยก่อน ที่ทำเบี้ยออกมา ต้องเจ๋งจริง ดังนั้นพระเกจิสมัยก่อนที่ทำเบี้ยแก้จึงถูกลองของเป้นประจำ เอาเป้นว่าโดนบ่อย จนชิน เพราะถ้าทำเบี้ยได้แสดงว่าแน่ หลวงพ่อกลุ่มเองท่านก้มีเบี้ยแก้นะครับ เป็นเบี้ยอุดเทียน และดินเจ้ดป่าช้า เดี๋ยวจะไปต่อในเรื่อง วัตถุมงคลของท่าน มีพี่ๆในนี้ได้ไปนับคนได้.....เรื่อถอนคุรไสยของหลวงพ่อนี้มีหลายเรื่องวันนี้เช้าๆว่างพิมพ์ เอาไปหนึ่งเรื่องก่อนครับผมจะยุ่งมากช่วงนี้..... เรื่องนี้เหตุเกิดกับคนตลาดไหม่ ซึ่งเป้นลูกสิษย์หลวงพ่อ เขาพาลูกสาวซึ่งมีอาการท้องโตผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ ดิ้นทุรนทุราย มาให้หลวงพ่อช่วย หลวงพ่อเห็นดังนั้น จึงเรียกให้ลูกศิษย์ไปตักน้ำ มาทำน้ำมนต์แล้วช่วยกันขึงสายสิญจ์ จากนั้นก็ช่วยกันจับหญิงสาวรายนี้ไว้ให้เข้าไปนั่งในวงสายสิญจ์ แล้วหลวงพ่อเริ่มทำพิธี โดยเสกมงคลคล้องคอ แล้วอาบน้ำมนต์ให้ ปรากฏว่าท้องที่โตนั้น ยุบลงหายเป้นปลิดทิ้งทันตา หลวงพ่อ็ให้กลับบ้าน และสั่งไว้ว่า เมื่อไปถึงบ้านแล้วอย่าเพิ่งถอดมงคลที่คล้องคอ ออก เพราะคนทำมันยังไม่ลามือง่ายๆ และก้เป็นดังที่หลวงพ่อท่านกล่าว หลังจากกลับไปที่บ้านสองสามวัน หญิงสาวดันถอดมงคลคล้องคอออก ปรากฏว่าท้องดันป่องขึ้นมาอีก พวกญาติๆก็รีบพามาหาหลวงพ่อกุ่มอีก หลวงพ่อพอเห้นแบบนั้น ท่านก็พุดขึ้นมาว่า "สงสัยจะมีคนลองดีข้าเข้าแล้ว" ท่านเลยสั่งให้ลูกศิษย์ ไปเอาดินเหนียวมาให้ท่าน พอได้ดินมาเรียบร้อย หลวงพ่อก้นั่งปั้นเป็นรูปควายพร้อมบริกรรมคาถากำกับ แล้วหลวงพ่อก็เอามีดหมอจิ้มไปที่รูปปั้นควาย และบริกรรมคาถากำกับไปเรื่อยๆ จนรูปปั้นควายที่ท่านปั้นนั้น หดเล็กลงจนเท่าเม็ดถั่วเขียว พอหลวงพ่อท่านละมีดหมอออก ควายตนนั้นก็หายไปกับตา จากนั้นท้องของผู้หญิงคนนั้นก้แฟบลงดังเดิม และก้ไม่กลับมาป่องอีกเลย .........เรื่องนี้มีคนอยู่ในเหตุการหลายคนครับ ก้อย่าเพิ่งเชื่อผม ........อ่านโดยไตร่ตรองครับ.....แต่เหตุการนี้เกิดขึ้นจริงกับคนตลาดไหม่และอีกหลายคน ดังที่ผมบอกว่า ยิ่งสืบประวัติ ผมยิ่งนับถือท่านมากเป็นทวีคูณ เรือ่งวัวธนูกับหลวงพ่อกลุ่มนี้ หลวงพ่อเสียนวัดมะนาวหวานท่านเคยเล่าให้ผมฟังเอง ว่าหลวงพ่อกลุ่มท่านปั้นวัวธนู พอปล่อยมือนี่ฝุ่นตลบเลย คือท่านเสกเป้นตัวได้จริงดังใจนึก .........เฝ้าบ้านไม่ต้องกลัวของหาย ไปไหนมาไหนเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ได้เลย.........คนโบราณท่านขลังจริง.....

ตามสภาพ ครับ


ราคาสอบถามมมมมมมมมมมมมมมม

 

เบี้ยแก้ มหาอุตม์ เบี้ยชั้นครู

หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เลี่ยมเงินโบราณ


พระคณาจารย์ชั้นครูสายเบี้ยแก้ จังหวัดอ่างทองอันโด่งดังครับ พระคณาจารย์ยุคหลังที่โด่งดังในอ่างทองล้วนแต่ เป็นศิษย์ท่านเกือบทั้งนั้นครับหลงพ่อทรง วัดสาลาดิน การสร้างเบี้ยแก้ก็เดินตามตำราท่านครับ พุทธคุณเป็นเลิศด้าน มหาอุตม์ กันคุณไสย และสารพัดกัน เป็นคงกระพันด้วยครับ ที่บอกว่าเยี้ยท่านมีมหาอุตม์ด้วยก้เนื่องจากเหตุเกิดที่บ้านแถววัดหลวงไกล้ๆวัดโพธิ์ปล้ำนี่หละครับ มี่ผู้หญิงจะฆ่าตัวตาย ด้วยปืนลูกซอง แต่ปืนลูกซองน่ะมันยาว แกเลยเอาปากอมปากกระบอกและเอาเท้าเหนี่ยวไกปืน ปรากฏว่ายิงไม่ออก ในเอวแกมีเบี้ยหลวงพ่อคำเลี่ยมเงินเก่าอยู่ตัวเดียวครับ

ปรอทเต็มแน่นปึ๊กครับ

แท้ทั่วโลกกก..เก๊คืนเต็ม แถมพระให้อีกต่างหาก

........เบี้ยแก้แท้ๆตัวจริงๆแล้วไม่มีใครขายถูกน่ะครับ เพราะแท้ดูง่ายๆเดี๋ยวนี้หายาก เบี้ยแก้ถ้าไม่ชำนาญ....โดนนนนนน แน่......นอน ไม่รีบขายครับ 55 ยินดีเก็บยาวๆ เดี๋ยวนี้เจอเก๊ห้าสิบตัว อาจจะเจอแท้จริงๆแค่ตัวหรือสองตัวครับ

 

เหรียญบาตรน้ำมนต์ ปี 48

หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน


หลังยันต์สุกิตติมาทำน้ำมนต์ เหรียญรุ่นนี้ถ้ามีจารจะได้รับความนิยมและถามหากันมาพอสมควรครับ เพราะยันต์นี้ ลูกศิษย์หลวงพ่อหลายๆท่านคงทราบดีครับว่าทำน้ำมนต์ขลังจริงๆ



เหรียญนี้มีจารด้วย 7 ตัว นะ ชา ลี ติ มะ อะ อุ


ประกันแท้และลายมือหลวงพ่อตลอดชีพครับ



ราคา....3,500.....หายากน่ะครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

อยากทราบราคาครับเสี่ย

 

​

พระสมเด็จ ว่านร้อยแปด


หลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูธาราม

สวยๆพร้อมรูปถ่ายรุ่นเก่า

เลี่ยมเก่าครับ


...........องค์ที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ท่านเป็นพระคณาจารย์ยุคเก่าอีกท่านหนึ่ง ที่ผม และคนในตำบลให้ความศรัทธาและเคารพท่านมาก ท่านเป็นพระที่มีวาจาศักสิทธ์ยิ่งนัก ทั้งอาคมท่านเด็ดขาดและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของคนในท้องที่ และคนวิเศษฯ จนเป็นที่เล่นหากันโดยทั่วไป กล่าวถึงหลวงพ่อแพวัดกลางราชครูธารามตามประวัติที่ผมได้สอบถามมาท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.2436 ไม่ทราบว่าท่านบวชกับใคร รู้แต่ว่าท่านเพื่อนท่านอีกองค์หนึ่งคือ หลวงพ่อเปลื่อง ไปเรียนวิชาด้านเสือ แต่ไม่ทราบอาจารย์ เหตุที่ไม่ทราบอาจารย์เพราะไม่มีใครกล้าไปซักท่าน เพราะท่านเป็นพระพูดน้อย และมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก ความเคร่งของท่านนั้น ขนาดท่านอยู่บนวัดท่านยังห่มจีวรมิได้ขาด ถึงแม้จะเดินมาคุยกับพระลูกวัดท่านก็จะห่มจีวรโดยตลอดจึงทำให้คนเกรงท่านไปเองหลวงพ่อ ท่านเป็นพระคณาจารย์ที่ติดอันดับความเคร่งครัดองค์ต้นๆของจังหวัดอ่างทองในสมัยนั้นด้วยเหตุนี้เองประวัติท่านจึงไม่ค่อยมีคนทราบมากมายนักแต่คนส่วนใหญ่จะมารู้เรื่องขอวัตถุมงคลของท่านมากกว่าเพราะมีประสบการณ์มากและนิยมในท้องที่ จะหวงกันมากครับ เรื่องประสบการณ์จะเล่าต่อไป หลวงพ่อแพท่านมีชื่อเสียงมากพอสมควรในสมัยนั้น คนสามหน่อนาคู คนทางบ้านไผ่วง และผู้คนต่างๆที่ก็ให้ความเคารพท่านอย่างมาก ท่านสร้างทั้งมงคลสวมคอ ตระกรุดหังวัวตายท้องกลม (ต้องนำวัวที่ตายทั้งแม่ลูกโดยธรรมชาติและผ่าเอาลูกวัวออกและเอาหนังมาทำ) และตระกรุดหนังหน้าผากเสือ (ตอนนั้นหน้าผากหายากท่านจึงอนุโลมให้ใช้หนังเสือทั้งหัวเสือเลยมีน้อยครับหนังเสือจะเป็นดอกสั้นๆประมาณนิ้วครึ่ง) ว่านร้อยแปดปั้นเป็นเม็ดเท่ายาลูกกลอน ผ้าขอดมหาอุตม์ รูปถ่าย ทั้งขนาดห้อยคอและภาพบูชา ทุกอย่างล้วนมีประสบการณ์เด่นชัดมากด้านมหาอุตม์คงกระพัน จากที่กล่าวมาแล้วว่าท่านไปเรียนวิชาเสือโดยท่านไปเรียน สองคนกับหลวงพ่อเปลื่อง เรียนคู่กันไว้แก้ทางกันเวลาคับขัน ท่านทั้งสองนี้ทำวิชานี้ได้ขลังยิ่งนักจนเป็นที่กล่าวขานกันว่า ท่านสำเร็จวิชานี้และสามารถแปลงเป้นเสือได้ โดยให้หลวงพ่อเปลื่องทำน้ำมนต์แก้ แต่ว่าตอนที่ท่านมรณะภาพทางกรรมการวัดนำโดย หลวงพ่อหรุ่ม วัดบางจักร หลวงพ่อเล็กวัดทำนบ และกรรมการวัดหลายท่าน ได้ตรวจสอบกุฏิท่าน พบพระเครื่องมากมายอยู่ในไห และพบว่าในย่ามท่านนั้น มีพระเครื่องของพระคณาจารย์ ที่เป้นสหธรรมมิกกับท่านและอาจเกี่ยวเนื่องกับวิชาท่านด้วยที่พบในย่ามท่านมี เหรียญหลวงพ่อเข็มวัดข่อย ปี 2477 เหรียญหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ปี 2466 เหรียญหลวงพ่อจันทร์ วัดบางจักร ปี 2483 เหรียญหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ท่านกลัดติดย่ามท่านไว้ รวมกับพระเครื่องของท่านเองอีกจำนวนหนึ่ง พระสมเด็จเนื้อว่านร้อยแปดแก่ว่านเรียกว่าว่านลองพิมพ์ หลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูธาราม อ.วิเศษชัยชาญ พระเถราจารย์ผู้มีวาจาสิทธิ์ เจ้าของตระกรุดหนังหน้าเสือและ หนังวัวตายท้องกลม หนึ่งเดียวในวิเศษชัยชาญครับ เนื้อเข้มจะแก่ว่าน เนื้อนวลๆจะแก่กล้วยหอม หลวงพ่อท่านมรณะภาพไป 40 กว่าปีแล้ว สมเด็จนี้คนท้องที่หวงกันมากครับ เจอกันมาทุกรูปแบบ แต่เหนียวนั้นเป็นหลักเชื่อขนมกินได้แน่นอน ผมเองได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะวัดหลวงพ่อกับบ้านผมนั้นห่างกันไม่กี่สิบก้าวและทั้งบ้านผมและคนหัวตะพานก้นับถือกับแบบสุดๆ ว่านที่ทำพระนี้หลวงพ่อท่านปลูกเองและเสกน้ำมนต์รดทุกวัน ท่านจะมีวันตัดของท่านและท่านจะเป็นคนกำหนดเอง นอกจากสมเด็จแล้วท่านยังมีเม็ดว่านเสก เนื้อเดียวกับสมเด็จท่านนี่หละครับ คนสมัยนั้นเขาเอาไปให้ไก่กินและออกตีให้คู่ต่อสู้เดือยยาวขนาดใหนไม่ได้กินเลือดแน่นนอน เจอกันมามากแล้ว แต่อีกเรื่องหนึ่งที่น่าแปลก คุณปู่สำรวย กลับทวี ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อท่านยังอยู่ ก็มีนักเกรงเยอะและลูกศิษท่านที่เจ๋งๆก็เยอะ ศิษย์หลวงพ่อแพได้ไปเที่ยวงานรำวงที่บ้านม่วงเตี้ย เลยวัดหลวงพ่อทรงไปหน่อย เกิดมีปากเสียงกันขึ้นในงานแถวนั้น ลุกศิษย์หลวงพ่อชื่อ ตาธรรม เกิดเดินขึ้นไปประกาศไมค์บนคณะรำวง คงจะไปกวนเจ้าถิ่นเขาเข้าฝ่ายเจ้าที่ก้เดินดุ่มๆมาไกล้ๆแบบไม่ทันตั้งตัว ได้ชักมีดหมอด้ามงา.... ออกมาจ้วงแทงประมาณสามครั้ง ตาธรรมตกใจ แต่แปลกที่มีดหมอไม่สามารถแทงทะลุหนังของตาธรรม ได้ทั้งๆที่มีดหมอ..ใครว่าเหนียวๆถ้าได้เจอเข้าไปล่ะก็เลือดสาดทุกรายไป แต่กับศิษหลวงพ่อแพไม่เข้าครับแต่นอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวัน ผมถามปู่สำรวยท่านว่าทำไมไม่เข้าท่านบอกว่า ,อาคมท่านค้ำกันได้, อันนี้ผมเล่าให้ฟังจากคำบอกเล่าของปู่สำรวยที่อยู่ในเหตุการวันนั้น เรื่องนี้เกิดเมื่อปี 2490โปรดใช้วิจารณญาณก็แล้วกันครับ ยังมีลุงอีกท่านหนึ่งชื่อลุงอ๊อด ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง กลิ้งไปกลิ้งมาหน้าวัดแปดแก้ว แต่ผิวหนังไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ทั้งโดนขวดแป๊ปซี่ลิตรขวดแก้วตีไม่แตก ...........เล่าแล้วจะยาวเอาคร่าวๆแค่นี้ก่อนครับ คนบ้านผมรักเคารพหลวงพ่อท่านมากๆ ถ้านึกไม่ออกว่ารักเคารพท่านมากขนาดไหน ให้พี่ๆลงนึกถึงครูบาอาจารย์ที่พี่ๆเองเคารพมากที่สุด.....นั่นหละครับความรู้สึกเดียวกัน


ปิดให้พี่ j999 ครับ

 

ขอจองตามpmครับ---------------------------

 

​

พระสมเด็จ ว่านร้อยแปด


หลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูธาราม

สวยๆพร้อมรูปถ่ายรุ่นเก่า

เลี่ยมเก่าครับ


...........องค์ที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ท่านเป็นพระคณาจารย์ยุคเก่าอีกท่านหนึ่ง ที่ผม และคนในตำบลให้ความศรัทธาและเคารพท่านมาก ท่านเป็นพระที่มีวาจาศักสิทธ์ยิ่งนัก ทั้งอาคมท่านเด็ดขาดและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของคนในท้องที่ และคนวิเศษฯ จนเป็นที่เล่นหากันโดยทั่วไป กล่าวถึงหลวงพ่อแพวัดกลางราชครูธารามตามประวัติที่ผมได้สอบถามมาท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.2436 ไม่ทราบว่าท่านบวชกับใคร รู้แต่ว่าท่านเพื่อนท่านอีกองค์หนึ่งคือ หลวงพ่อเปลื่อง ไปเรียนวิชาด้านเสือ แต่ไม่ทราบอาจารย์ เหตุที่ไม่ทราบอาจารย์เพราะไม่มีใครกล้าไปซักท่าน เพราะท่านเป็นพระพูดน้อย และมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก ความเคร่งของท่านนั้น ขนาดท่านอยู่บนวัดท่านยังห่มจีวรมิได้ขาด ถึงแม้จะเดินมาคุยกับพระลูกวัดท่านก็จะห่มจีวรโดยตลอดจึงทำให้คนเกรงท่านไปเองหลวงพ่อ ท่านเป็นพระคณาจารย์ที่ติดอันดับความเคร่งครัดองค์ต้นๆของจังหวัดอ่างทองในสมัยนั้นด้วยเหตุนี้เองประวัติท่านจึงไม่ค่อยมีคนทราบมากมายนักแต่คนส่วนใหญ่จะมารู้เรื่องขอวัตถุมงคลของท่านมากกว่าเพราะมีประสบการณ์มากและนิยมในท้องที่ จะหวงกันมากครับ เรื่องประสบการณ์จะเล่าต่อไป หลวงพ่อแพท่านมีชื่อเสียงมากพอสมควรในสมัยนั้น คนสามหน่อนาคู คนทางบ้านไผ่วง และผู้คนต่างๆที่ก็ให้ความเคารพท่านอย่างมาก ท่านสร้างทั้งมงคลสวมคอ ตระกรุดหังวัวตายท้องกลม (ต้องนำวัวที่ตายทั้งแม่ลูกโดยธรรมชาติและผ่าเอาลูกวัวออกและเอาหนังมาทำ) และตระกรุดหนังหน้าผากเสือ (ตอนนั้นหน้าผากหายากท่านจึงอนุโลมให้ใช้หนังเสือทั้งหัวเสือเลยมีน้อยครับหนังเสือจะเป็นดอกสั้นๆประมาณนิ้วครึ่ง) ว่านร้อยแปดปั้นเป็นเม็ดเท่ายาลูกกลอน ผ้าขอดมหาอุตม์ รูปถ่าย ทั้งขนาดห้อยคอและภาพบูชา ทุกอย่างล้วนมีประสบการณ์เด่นชัดมากด้านมหาอุตม์คงกระพัน จากที่กล่าวมาแล้วว่าท่านไปเรียนวิชาเสือโดยท่านไปเรียน สองคนกับหลวงพ่อเปลื่อง เรียนคู่กันไว้แก้ทางกันเวลาคับขัน ท่านทั้งสองนี้ทำวิชานี้ได้ขลังยิ่งนักจนเป็นที่กล่าวขานกันว่า ท่านสำเร็จวิชานี้และสามารถแปลงเป้นเสือได้ โดยให้หลวงพ่อเปลื่องทำน้ำมนต์แก้ แต่ว่าตอนที่ท่านมรณะภาพทางกรรมการวัดนำโดย หลวงพ่อหรุ่ม วัดบางจักร หลวงพ่อเล็กวัดทำนบ และกรรมการวัดหลายท่าน ได้ตรวจสอบกุฏิท่าน พบพระเครื่องมากมายอยู่ในไห และพบว่าในย่ามท่านนั้น มีพระเครื่องของพระคณาจารย์ ที่เป้นสหธรรมมิกกับท่านและอาจเกี่ยวเนื่องกับวิชาท่านด้วยที่พบในย่ามท่านมี เหรียญหลวงพ่อเข็มวัดข่อย ปี 2477 เหรียญหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ปี 2466 เหรียญหลวงพ่อจันทร์ วัดบางจักร ปี 2483 เหรียญหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ท่านกลัดติดย่ามท่านไว้ รวมกับพระเครื่องของท่านเองอีกจำนวนหนึ่ง พระสมเด็จเนื้อว่านร้อยแปดแก่ว่านเรียกว่าว่านลองพิมพ์ หลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูธาราม อ.วิเศษชัยชาญ พระเถราจารย์ผู้มีวาจาสิทธิ์ เจ้าของตระกรุดหนังหน้าเสือและ หนังวัวตายท้องกลม หนึ่งเดียวในวิเศษชัยชาญครับ เนื้อเข้มจะแก่ว่าน เนื้อนวลๆจะแก่กล้วยหอม หลวงพ่อท่านมรณะภาพไป 40 กว่าปีแล้ว สมเด็จนี้คนท้องที่หวงกันมากครับ เจอกันมาทุกรูปแบบ แต่เหนียวนั้นเป็นหลักเชื่อขนมกินได้แน่นอน ผมเองได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะวัดหลวงพ่อกับบ้านผมนั้นห่างกันไม่กี่สิบก้าวและทั้งบ้านผมและคนหัวตะพานก้นับถือกับแบบสุดๆ ว่านที่ทำพระนี้หลวงพ่อท่านปลูกเองและเสกน้ำมนต์รดทุกวัน ท่านจะมีวันตัดของท่านและท่านจะเป็นคนกำหนดเอง นอกจากสมเด็จแล้วท่านยังมีเม็ดว่านเสก เนื้อเดียวกับสมเด็จท่านนี่หละครับ คนสมัยนั้นเขาเอาไปให้ไก่กินและออกตีให้คู่ต่อสู้เดือยยาวขนาดใหนไม่ได้กินเลือดแน่นนอน เจอกันมามากแล้ว แต่อีกเรื่องหนึ่งที่น่าแปลก คุณปู่สำรวย กลับทวี ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อท่านยังอยู่ ก็มีนักเกรงเยอะและลูกศิษท่านที่เจ๋งๆก็เยอะ ศิษย์หลวงพ่อแพได้ไปเที่ยวงานรำวงที่บ้านม่วงเตี้ย เลยวัดหลวงพ่อทรงไปหน่อย เกิดมีปากเสียงกันขึ้นในงานแถวนั้น ลุกศิษย์หลวงพ่อชื่อ ตาธรรม เกิดเดินขึ้นไปประกาศไมค์บนคณะรำวง คงจะไปกวนเจ้าถิ่นเขาเข้าฝ่ายเจ้าที่ก้เดินดุ่มๆมาไกล้ๆแบบไม่ทันตั้งตัว ได้ชักมีดหมอด้ามงา.... ออกมาจ้วงแทงประมาณสามครั้ง ตาธรรมตกใจ แต่แปลกที่มีดหมอไม่สามารถแทงทะลุหนังของตาธรรม ได้ทั้งๆที่มีดหมอ..ใครว่าเหนียวๆถ้าได้เจอเข้าไปล่ะก็เลือดสาดทุกรายไป แต่กับศิษหลวงพ่อแพไม่เข้าครับแต่นอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวัน ผมถามปู่สำรวยท่านว่าทำไมไม่เข้าท่านบอกว่า ,อาคมท่านค้ำกันได้, อันนี้ผมเล่าให้ฟังจากคำบอกเล่าของปู่สำรวยที่อยู่ในเหตุการวันนั้น เรื่องนี้เกิดเมื่อปี 2490โปรดใช้วิจารณญาณก็แล้วกันครับ ยังมีลุงอีกท่านหนึ่งชื่อลุงอ๊อด ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง กลิ้งไปกลิ้งมาหน้าวัดแปดแก้ว แต่ผิวหนังไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ทั้งโดนขวดแป๊ปซี่ลิตรขวดแก้วตีไม่แตก ...........เล่าแล้วจะยาวเอาคร่าวๆแค่นี้ก่อนครับ คนบ้านผมรักเคารพหลวงพ่อท่านมากๆ ถ้านึกไม่ออกว่ารักเคารพท่านมากขนาดไหน ให้พี่ๆลงนึกถึงครูบาอาจารย์ที่พี่ๆเองเคารพมากที่สุด.....นั่นหละครับความรู้สึกเดียวกัน

องค์สุดท้าย

 

ได้โอนเงิน (ธ.กรุงเทพ) เมี่อ ๒๘ เมย. เวลาประมาณ๑๐.๓๗ น. เป็นค่าพระ ๑.พระสมเด็จว่าน๑๐๘ลพ.แพ ที่อยู่ ดูในpmครับ

 

ขอราคาสมเด็จหลวงพ่อแพหน่อยครับ

 

ตอบแล้วครับ

 

สมเด็จหู(พิมพ์เหลี่ยม)นิยม หล่อโบราณ



หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ อ่างทอง




สร้างปี 2482



รุ่นนี้มีเก๊มานานครับ แต่เป็นทองเหลือง ของแท้เป็นโลหะผสมครับ ดูง่ายๆครับ


องค์นี้ผมรับประกันความแท้ให้ตลอดชีพเช่นเดิมครับ


ถ้าให้ผมพูดถึงพระหล่อโบราณของเมืองวิเศษชัยชาญ ที่มีประวัติพิธีที่ชัดเจนที่สุดและมีพระคณาจารย์ระดับแนวหน้าของเมืองไทยและระดับครูบาอาจารย์ของเมืองวิเศษฯที่อัดแน่นที่สุดก็เห็นจะเป็นสมเด็จหูหล่อรุ่นนี้หละครับ เพราะประวัติการสร้างนั้น สร้างเมื่อปี 2482 โดยมีหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอกเป็นประธานปลุกเสก หลวงพ่อภัก วัดโบส หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก(องค์นี้มาแน่นอนครับหลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวานเคยได้รับสมเด็จหูหลวงพ่อคำ จากหลวงพ่อจงมาแล้ว นี่ท่านบอกผมเอง ท่านบอกว่าท่านไปกับหลวงพ่อเล็ก อาจารย์ท่าน) หลวงพ่อซำ วัดลาดไหม่(อาจารย์หลวงพ่อคำ) และพระคณาจารย์เมืองวิเศษฯที่ไม่ได้เอ่ยนามในสมัยนั้นอีกคับคั่ง เหรียญหล่อรุ่นนี้ได้รับความนิยมมานานมาก มีประสบการณ์โชกโชนฉกาจฉกรรภ์ ช่วยคนมามากต่อมากแล้วครับ เพราะเมืองวิเศษชัยชาญสมัยนั้น ถ้าจะให้กล่าว โดยที่ไม่เกินความจริงนักจะเรียกว่าดงโจร หรือดงนักเลงก็ไม่ผิดไปได้ เมื่อก่อนพระแต่ละท่านที่จะออกของนั้นถ้าไม่แน่จริงแล้วเขาไม่ออกกันนะครับ เพราะเมื่อก่อนผู้เรืองอาคมมากมาย ถ้าออกของมาช่วยเขาไม่ได้ก็เท่ากับว่าเป็นการประจานตัวเองไปในตัว ดังนั้นพระคณาจารย์สมัยก่อนจึงได้รับความนิยมเป็นอมตะในหลายๆพระคณาจารย์

ถ้าเอ่ยถึงสมเด้จหูแล้ว สมัยก่อนต้องร้องอ่อเพราะชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะเรื่องประสบการณ์และความนิยมบอกได้คำเดียวว่า แน่น ไม่ต้องอะไรครับ ลองคิดเล่นๆ ว่าการจัดการพิธีหล่อพระสมัยก่อนนั้น ไม่มีการทำออกมาแบบเล่นๆหรือโปรโมท ขายของ ของที่ทำทำจริง เสกจริงครูบาอาจารย์ที่มาเสกก้ระดับ ถ้าพุดกันแบบจริงๆคำว่าระดับเทพ คงไม่เกินไปนัด ของที่ทำทำแจก หรือ อาจมีการออกทำบุญก็เพื่อการพระศาสนาโดยตรง ไม่มีนายทุน ไม่มีกำไรทำด้วยใจและศรทธาล้วนๆครับ ในการหล่อนั้นพิธีโบราณมีความยั่งยากมากนะครับ ไม่ใช่นึกจะหล่อก้หล่อกันได้ง่ายๆ พระอาจารย์ทีมาจับสายสูตรเททองต้องคุมพิธี คุมธาตุ ถ้าไม่แน่นด้วยกสินไฟแล้วขลังยาก และวิทยาคมระดับไม่ธรรมดา พระจึงจะออกมาได้บริสุทธิ์ และเข้มขลังจริง คิดง่ายๆก็ลองดูรายนามพระคณาจารย์ที่หลวงพ่อท่าสนนิมนต์มาเสกสิครับ ...การหล่อในครั้งนั้น มีชาวบ้านและประชาชนมากันเนืองแน่น ก่อนการเททอง ได้ให้ประชาชนที่มีจิตศรัทธา บริจาค สร้อยแหวน เงิน ขันเงิน ทองเหลือง ทองคำ ช้อนแสตนเลสหรืออะไรต่างๆตามกำลังศรัทธาของประชาชน พิธีครั้งนั้นจัดได้ยิ่งใหญ่และเข้มขลังอย่างยิ่งครับ ขอเสริมนิดนึงครับ ในการหล่อที่มีการนำโลหะผสมจำนวนมากต่างชนิดกัน มาผสมกันนั้น ทำให้เนื้อหาของพระมีความไม่เข้ากัน มีหลายสีในบางองค์และส่วนมากจะมีพลายเงิน ที่เกิดจากการผสมปรอท......สมเด็จหูนั้นอย่างที่บอกสมัยก่อนโด่งดังมากด้วยพืธีดี และมีประสบการณ์แบบไม่ต้องเชียร์ หลวงพ่อท่านก็ได้ทำการแจกไปเรื่อยๆจนหมด มีอยุ่ครั้งหนึ่ง มีคนไปขอพระจากหลวงพ่อ โดยเข้าไปที่วัด เมียงๆมองๆ เห็นหลวงพ่ออยู่ก้คลานเข้าไปกราบหลวงพ่อและกล่าวกับหลวงพ่อว่า หลวงพ่อครับ ผมมาขอพระหลวงพ่อครับจะเอาไปใช้...หลวงพ่อท่านมองหน้า แล้วมือหลวงพ่อพลันไปคว้ากระโถนด้านหลังท่าน ขว้างใส่ลุงท่านนั้นพร้อมไล่ตะเพิด พร้อมกับหลวงพ่อได้กล่าวว่า มึงนี่ไม่รู้กาละเทสะ มึงเป็นใครจะมาใช้พระ ถ้ามึงเอาไปใช้ไม่ต้องเอาไป แต่ถ้าเอาไปบูชาค่อยมาเอา..ลุงแกหน้าจืดออกมาแทบไม่ทัน จะเห้นได้ว่าหลวงพ่อท่านเคร่งครัดและยึดถือในองค์พระรัตนไตรอย่างยิ่ง .....เล่าเรื่องสมเด็จหูแล้วไม่เล่าเรื่องประสบการณ์ก้จะเป้นการขาดอรรถรสไป สมเด็จหุของหลวงพ่อนั้นสมัยก่อนคนที่ได้ไปเข้าจะห้อยคอกันทันที เพราะนับถือในองคืหลวงพ่อ สมัยก่อนนั้นหลวงพ่อท่านเป้นพระอุปัชฌาย์ บวชลุกศิษย์ลูกหาทั่วอำเภอเหรียญรุปท่านรุ่นแรกก็เช่นกัน ส่วนมากพบเจอแต่แบบสึกเลี่ยน เตียนโล่งทั้งนั้น หาสวยๆยากมากครับ... สมเด็จหูนันหล่อหูในตัว จึงเหมาะอย่างยิ่งในการพกพาติดตัว หรือห้อยคอได้ทันทีไม่ต้องไปเสียเงินเลี่ยม สมัยก่อนโจรผู้ร้ายชุกชุม มีอยู่ครั้งหนึ่งมีการตามจับโจร ไปท้ายตลาดวิเศษ เมื่อก่อนท้ายตลาดจะมีบ่อน้ำอยู่ ไล่จับตามไปจนถึงที่นั่น ก็ประโคมปืน ยิงกันกระหน่ำซำเม่อ แบบให้เละคาปากกระบอก แต่อัศจรรย์ครับ โจรมิได้ระคายผิวหนัง ได้แต่นอนกลิ้งด้วยความจุก ได้จังหวะก็เข้าชาจประชิดตัวก็กะจะยิงทิ้งเลยว่างั้นครับ แต่ยิงไม่ออกตีจนน่วมก็ไม่ตาย จึงค้นตัวไปเจอสมเด็จหูหลวงพ่อคำเพียงองค์เดียว พอเจอพระโจนชรถึงกับหน้าถอดสี สุดท้ายเรียบร้อย ถ้าวันนั้นเขากลืนสมเด็จหูลงคอได้นี่ ผมว่าคงไม่รู้จะทำไงครับ เหอๆๆ.....มีอีกเรื่องครับเอาคร่าวๆเพื่อประกาศ ให้คนรู้ว่าท่านเก่งจริง รุ่นนี้คนนิยมมากนิยมมายันหัวตะพานบ้านผม เพราะสมัยก่อนหลวงพ่อท่านจะเดินลัดทุ่งมาบวชพระถึงหัวตะพาน วัดกลาง วัดหัวตะพาน....คนที่บ้านผมเจอด้วยตนเอง คนเล่าก็ยังไม่ตาย..เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว จ.ส.อ วันชัย กลิ่นบุหงา ได้ถูกเรียกตัวไปลาดตระเวนชายแดน เมื่อทางบ้านรู้ข่าว พ่อของจ่าวันชัย ด้วยความเป้นห่วงลูกที่จะต้องไปชายแดนสิ่งที่ให้ได้และเพื่อความสบายใจและหวังว่าจะช่วยให้จ่าวันชัย กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย คือ สมเด็จหูพิมพ์มน ที่พ่อของจ่าวันชัยรับมากับมือหลวงพ่อคำ พ่อของจ่าแกหวงพระองคืนี้มาก เพราะอะไรถึงหวงทราบไหมครับ สมัยนั้นก็มีประสบการณ์เรื่องมีดๆปืนๆมาไม่ใช้น้อยแล้ว พ่อจ่าจึงหวงมาก แต่ก็ให้ลูกไป และกำชับว่ากลับมาจากราชการให้เอามาคืน...จ่าออกเดินทางไปได้ไม่นาน ก็มีข่าวแจ้งจากราชการว่า ชุดลาดตระเวนที่จ่าวันชัยประจำการอยู่นั้น ถูกกับระเบิด เสียชีวิตเกอบทั้งหมด ที่ผมว่าเกือบทังหมดนั้น เหลือจ่าแกรอดตายมาคนเดียว นอกนั้นอีก 6 คนเสียชีวิตทั้งหมด ในตัวจ่าแกก็มีสมเด็จหูเพียงองค์เดียวที่พ่อจ่าให้ไว้ พอจ่าแกรอดมาคนเดียวก็ทำให้จ่าแกดังมาก 55 มีคนมารุมล้อมถามแกว่ามีอะไรดีจึงรอดมาได้คนเดียว จ่าแกก้เอาพระให้ดู เป็นเรื่องธรรมดาที่มีของดีใครๆก้อยากได้ครับ ผู้บังคับบัญชาจ่าแกเลยเรียบเคียงขอพระองค์นั้นจ่าวันชัย สุดท้่ายจ่าแกให้ไป พอกลับมาบ้านเมื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว พอจ่าก็ถามถึงพระสมเด็จหูที่ให้ไป พอจ่าบอกว่าให้หัวหน้าไปแล้วเท่านั้นหละครับ พอแกเคืองมาก ถึงกับให้จ่าพาเข้ากรุงเทพ ไปเอาพระคืน นี่พอจ่าแกนับถือจริงๆแบคนย้านนอกสมัยก่อนนั้นของที่ช่วยเหลือเขาได้ หรือช่วยผ่อนหนักเป้นเบาได้คือของศักดื์สิทธิ์ ชาวบ้านเขานับถือกันขนาดนั้น สรุปว่าพอจ่าแกเข้ากรุงเทพไปรอ และขอพระองค์นั้นคืน ไปรอถึงเจ้ดวันเชียวครับ เพราะหัวหน้าติดราชการ ถ้าไม่ได้พระ พ่อจ่าแกไม่กลับ.................เพิ่มเติมนิดครับ สมเด็จหูนั้นที่เรียกสมเด็จหูก็เพราะว่า ในเหรียญที่หล่อนั้นเป็นรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีหน้าหนึ่ง และ หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโย อีกหน้าหนึ่ง การห้อยคอหลวงพ่อท่านให้ห้อยเอาหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ออกหน้าครับ


วันนี้ลงเพื่อเผยแพร่พระคณาจารย์ แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญครับ


ประวัติการสร้างชัดเจนมากครับพระคณาจารย์ระดับประเทศสมัยนั้นมากันแน่ครับ...



พระไหม่ๆ เดี๋ยวนี้ยังแพงกว่า น่าเสียดายครับ


ราคา 6,500บาท หล่อแบบโบราณดินไทยครับ

 

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
วัดศาลาดิน ดูที่เวปตลาดพระครับ .......



ดูที่เวปตลาดพระครับ ร้านเบ็น วิเศษฯ.....



http://www.taradpra.com/Store.aspx?storeNo=8381



พระเครื่องนิยมทั่วไปเชิญที่ร้านท่าพระจันทร์....




http://www.thaprachan.com/เบ็น%20วิเศษฯ



...

.............มาตรฐานทางร้าน.............



.......ทางร้านให้บูชาแต่พระแท้เท่านั้น....และต้องแท้สากลนิยม ทั้งพระท้องถิ่น และพระหลักสากลทั่วไป...เน้นพระมีประสบการณ์จริง จากพื้นที่ จากคนพื้นที่สืบต่อกันมา และ บางองค์ ยังมีคนยืนยันถึงประสบการณ์ได้ เน้นพระเหรียญเก่าก่อนปี 2500 และเหรียญนิยมพื้นที่อ่างทอง อยุธยา .....พระในสายหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน เล่นเฉพาะที่มีข้อยุติจุดจบ ไม่เล่นมั่วในส่วนที่หาขัอยุติไม่ได้ เล่นหาด้วยโค้ดมาตรฐานของทางวัด คือโค้ด ท ไม่มีหัวโค้ด วศด ลายมือหลวงพ่อ และของโรงเรียนวัดศาลาดินสร้างถวาย และหน่วยงานที่เล่นแล้วยุติ จบ ได้จริง ตามหลักฐานเหตุผลที่ยืนยันได้จริงว่าเล่นแล้วปลอดภัย ไร้ของเสริม พระทุกองค์ของทางร้านรับประกัน แท้ ตลอดชีวิต ทุกหลวงพ่อ ด้วยมาตรฐานที่ยอมรับตามสากลนิยม ลายมือหลวงพ่อทรงทุกองค์ รับประกันให้ด้วยตลอดชีพ.................................




การจองพระ

จองได้ไม่ต้องมัดจำ ถ้าไม่เกิน 7 วัน ถ้าจองเกิน ขอมัดจำ 10 เปอร์เซน(ราคาเกิน 2000 บาทขึ้นไป) และรบกวนขอแจ้งวันโอนให้ชัดเจนครับผม

 

ขอจองพระนักธรรม 3 องค์นี้

 

​

เหรียญหลวงพ่อวัดกุฏิรุ่นแรก

(หลวงปู่เล็ก วัดทำนบเสก)


ปี 2521 พิธีใหญ่


มีจารหลวงปู่เล็ก หายากมาก


เหตุเพราะท่านไม่จารพระหลายสิบปีแล้วครับ


เสกที่วัดระฆัง และตระเวณเสกอีกหลายที่ สันนิษฐานว่าหลวงปู่โต๊ะเป็นผู้ปลุกเสกด้วยเหตุที่สันนิษฐานเพราะไม่มีใครกล้าไปสอบถามท่านน่ะครับ ท่านเป็นพระพูดน้อยดุและสร้างวัตถุมงคลยากครับ แต่คนทำนบก็หวงแหนกันมาก



กล่าวถึงหลวงพ่อวัดกุฏิท่านเป็นพระพุทธรูปในวิหารเก่า สมัยกรุงศรีอยุยา ท่านมีความศักสิทธิ์เป็นที่เคารพของคนทำนบเป็นอย่างมาก และที่สำคัญ ผีนี่ดุสุดๆในสมัยก่อน ตอนนี้เบาๆลงไปบ้างแล้วครับ ด้านหลังพระประธานในโบสถ์ มีการสะกดเอาไว้โดยเอาตะปูตอกไว้ เห็นคนแถววัดเล่าให้ฟัง ส่วนหลวงปู่เล้กวัดทำนบนั้น ท่านเป้นพระที่ดุเอาการครับ ขนาดหลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวาน ยังเกรงท่าน ท่านเป้นพระคณาจารย์องค์สำคัญตอนนี้ที่วิเศษชัยชาญมีอยุ่ (องค์ที่หลวงพ่อเสียน นิมนต์ท่านมาเสกเบี้ย ท่านเป็นประธานจุดเทียนชัย หลวงพ่อเสียนเรียกหลวงพ่อเล็กว่าลูกพี่ครับ แฮ่ๆ ) ท่านล่วงรู้เหตุการล่วงหน้า ใครทำอะไรในวัดท่านรู้หมด คนทำนบทราบกันดีครับ ท่านเรียนมาเยอะ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านเป็นพระเกจิอาจารยืที่ผมได้ยินถึงความสักดิ์สิทธิ์มานาน ท่านได้วิชาจากพระคณาจารยสายวิเศษชัยชาญไว้มาก และองค์สำคัญคือหลวงพ่อเต่าวัดน้ำพุครับท่านได้ตำรายาแผนโบราณไว้ด้วย เพราะท่านดุนี่หละครับและไม่ค่อยยุ่งกับวัตถุมงคลท่านจึงไม่ดังสู่ส่วนกลาง แต่ลึกๆแล้วท่านเมตามากครับ แฮ่ๆ หลวงพ่อเสียนบอกผมหลายครั้งว่าไปวัดทำนบต้องหามุมไปให้ดีๆ หลวงปู่เล็กเองสร้างแต่รูปพระพุทธเพียงสองรุ่น คือรุ่น ปี 2521(เสกนานมากครับ) กับ งานใหญ่ปี 37 รวมเกจิวิเศษเพียบ ประสบการณ์ของเหรียญท่าน เมตตามหานิยม เรื่องรถลา และแคล้วคลาดครับ ตอนนี้ท่านอายุ เก้าสิบกว่าแล้ว ที่วัดท่านไม่มีตู้จำหน่ายวัตถุมงคล ท่านอยากให้ก็จะให้ ไม่อยากให้ก็ไม่ให้ครับ

เกร็ดเล็กๆน้อยๆเรื่องเหรียญรุ่นปี 21 ได้รับคำบอกเล่าจากดาบตำรวจท่านหนึ่งซึ่งบวชเรียนที่วัดทำนบ ท่านเล่าให้ฟังว่า เหรียญรุ่นปี 21 นี้เสกเยอะมาก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่สำคัญและจำได้ติดตา คือดาบตำรวจท่านนี้อยู่ในเหตุการด้วย คือ หลวงพ่อททองใบ ท่านมาที่วัดทำนบ ดาบก้จำไม่ได้ว่ามาเรื่องอะไร แต่ระหว่างที่หลวงปู่เล้ก และหลวงพ่อทองใบท่านนั่งสนทนากัน หลวงปู่เล้กท่านก็พุดขึ้นมาว่า ทำเหรียญหลวงพ่อวัดกุฎิไว้รุ่นหนึ่ง อยู่ในโบสถ์ นิมนต์หลวงพ่อ เป่าให้หน่อย สักพักหนึ่งหลวงพ่อทองใบท่านลุกก็เดินไปที่โบสถ์ โดยดาบแกเดินตามไปด้วย พอหลวงพ่อเข้าไปในโบสถ์ ดาบแกก็เข้าไปวนสายสิญ หลวงพ่อทองใบท่านก้นั่งลงจับสายสิญเสก พักเดียว ดาบแกบอกว่า ตกใจมากเพราะไม่เคยเห็น หลวงพ่อทองใบเสกไปพักเดียวเสียงเหรียญในกล่อง เกรียวกราวเหมือนมีอะไรกระทบกันในกล่อง เป็นที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง.......แต่สำหรับหลวงพ่อทองใบแล้ว เรื่องแบบนี้ลูกศิษย์ท่านเจอกันบ่อย ผมก็ได้ยินมาเยอะ เลยไม่ตกใจเท่าไร แฮ่ๆ... หลังจากนั้นดาบก้ตามเก็บเหรียญรุ่นนี้ไว้นับร้อยเหรียญ โดยไม่ขายเลยเก้บอย่างเดียวครับ.....ฟังแล้วใช่วิจารณญาณนะครับ เขาเล่ามาผมก้เล่าต่อ.......


ราคาตามสภาพครับ จารเพียบ 2,500 บาทพร้อมส่ง

ปิดให้พี่j999<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_8991690", true); </SCRIPT>ครับ

 

ตะโพนกลึง มีจาร โค้ด วัด

หลวงปู่เสียน วัดมะนาวหวาน


ช่วงนี้ของหลวงปู่มีคนบุกกันเยอะนะครับ เนื่องจากมีคนทราบประวัติท่านมากขึ้น ผมก็บุกด้วย อิอิ .....ประสบการณ์ไม่ยิ่งหย่อนกว่าของหลวงพ่อทรงเลยนะครับ คนหันมาเก้บกันเยอะ หลวงปู่ท่านไม่ธรรมดาแบบคมในฝัก ลูกศิษย์ลูกหาท่านมาก แต่ท่านไม่ค่อยชอบออกสื่อ


ของดีไม่ต้องเชียร์มาก ประสบการณ์ จะบอกคนครับ


สวยเดิมๆมีจาร 3,500 บาท พร้อมส่ง มาไวไปไวนะครับช่วงนี้
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Attached Thumbnails</LEGEND>

</FIELDSET>

 

ขอจองครับ.................

 

รับทราบครับ

 

เหรียญดี ศรีอำเภอไชโย อ่างทอง

เนื้ออัลปาก้า

ไม่เคยลงกระทู้เลย เพราะหายากมากครับ ประสบการณ์ แน่นหนักทางคงกระพัน แคล้วคลาด พื้นที่เล่นหากันมาก แต่ก็เป็นพระท้องถิ่นครับ ราคาไม่รุนแรง แต่หาของชมยากมากครับ

สภาพพอสวย แค่นี้ก็หาชมยากแล้วครับ


ราคา 2,500 บาท พร้อมส่ง

 

วันนี้ เวลา 9 โมงกว่าๆ โอนแล้ว 1050 บาท สำหรับพระนักธรรมที่จองไว้ (ส่งตามชื่อ/ที่อยู่เดิมตามที่เคยจัดส่งนะคุณโยมเบ็น)