ผลกรรมของคนที่ชอบจาบจ้วงสถาบัน

ผมไม่มีสี ผมรักในหลวง ผมรักหลวงตาหลวงตาช่วยชาติ ช่วยพ่อหลวง ผมคนอุดรธานี ใครทำอะไรช่างมัน...สำคัญที่เราดียัง

 

ชาติไทยของเรามีการวิวัฒนาการมาตั้งแต่เริ่มรวมชาติรวมแผ่นเดิน ก่อร่างสร้างเมืองตั้งแต่ อดีต จนมาเป็นประเทศชาติทุกวันนี้ก็เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันพระมหากษัตริย์ยังเป็นสถาบันที่อยู่ในหัวใจของประชาชน เป็นสถาบันที่เคารพ สักการะเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของปวงชนชาวไทยทุก ๆ คน ผู้ใดหรือใครจะมาล่วงเกินพระราชอำนาจไม่ได้ ในสมัยสุโขทัยสถาบันพระมหากษัตริย์เปรียบเสมือนพ่อของประชาชน ฐานะของพระองค์ เป็นพ่อขุน มีความใกล้ชิดประชาชน พอเข้าสมัยกรุงศรีอยุธยา ฐานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นสมมุติเทพหรือเป็นเทวดาโดยสมมุติ และทรงมีพระราชอำนาจในการปกครองทรง เป็นองค์อธิปัตย์สูงสุดในการปกครองบ้านเมือง ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักธรรมะโดยมีทศพิธราชธรรม และธรรมะหลักสำคัญต่าง ๆ ในการปกครองจนทำให้ไพร่ฟ้าประชาราษฏร์อยู่เย็นเป็นสุข ทรงครองราชย์ป้องเมือง ทำนุบำรุงบ้านเมือง ศาสนา และสังคมมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย พระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ก็มิทรงเสื่อมถอย แต่สถาบันพระมหากษัตริย์กลับเป็นที่เคารพสักการะจากประชาชนมากเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
ขอกราบในบารมีของล้นเกล้าเผ่าไทยด้วยใจเคารพบูชาอย่างยิ่ง

 

ผมมองเป็นกลางนะ อย่างตอนนี้ สถาบันดีในหลวงของเราท่านทำเพื่อประเทศชาติมามากมาย กับ รัฐบาลโกงกินทุกอย่างเงินชาวนายังโกงเลย ถาม ณ ตอนนี้ผมก็ต้องเข้าข้างสถาบันอยู่เเล้ว เเต่ในภาคหน้า ถ้ามีอะไรเปลี่ยน ผมก็พร้อมจะเปลี่ยนเเนวคิด เเต่ปัจจุบันอะไรดีเราก็ต้องว่าดีอะไรไม่ดีก็ต้องว่าไม่ดี

 

คนสมัยนี้ไม่ค่อยเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม หรือ ไม่ก็เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

 

.
ผู้ติเตียน พระอริยเจ้า ย่อมเข้าถึงนรก ซึ่งมีประมาณแห่งอายุถึงแสน- สามสิบหกนิรัพพุท กับห้าอัพพุท

..บุคคลใดทำใจให้ประทุษร้ายในท่านผู้ปฏิบัติดีทั้งหลาย
ความประทุษร้ายแห่งใจของบุคคลนั้นเป็นโทษใหญ่กว่า
บุคคลตั้งวาจาและใจอันลามกไว้ เป็นผู้มักติเตียนพระอริยเจ้า ย่อมเข้าถึงนรก ซึ่งมีปริมาณ
แห่งอายุถึงแสนสามสิบหกนิรัพพุท กับห้า
อัพพุท.*

(ตุทุพรหมสูตร) 25/164/5

ท่านย่อมเกลี่ยธุลี คือ กิเลสลงในตน​

เพื่อธรรมมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล ท่านผู้ทำ​

กรรมหยาบ ยังติเตียนสัตบุรุษ ท่านประพฤติ​

ทุจริตเป็นอันมากแล้วย่อมไปสู่มหานรกสิ้น​

กาลนาน.​

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 604​

[๓๘๖] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งได้ทูล​

ถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ประมาณอายุในปทุมนรก​

นานเพียงใด พระเจ้าข้า.​

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ประมาณอายุในปทุมนรก​

นานนัก การนับประมาณอายุในปทุมนรกนั้นว่า เท่านี้ปี เท่านี้ร้อยปี เท่านี้​

พันปี หรือว่าเท่านี้แสนปี ไม่ใช่ทำได้ง่าย.​

ภ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระองค์สามารถจะทรงกระทำการเปรียบ​

เทียบได้หรือไม่ พระเจ้าข้า.​

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับว่า สามารถ ภิกษุ ดังนี้แล้ว ตรัสว่า​

ดูก่อนภิกษุ เปรียบเหมือนเกวียนที่บรรทุกงาหนัก ๒๐ หาบของชาวโกศล​

เมื่อล่วงไปได้ร้อยปี พันปี แสนปี บุรุษพึงหยิบเมล็ดงาขึ้นจากเกวียนนั้นออก​

ทิ้งเมล็ดหนึ่ง ๆ ดูก่อนภิกษุ เกวียนที่บรรทุกงาหนัก ๒๐ หาบของชาวโกศล​

นั้น จะพึงถึงความสิ้นไปโดยลำดับนี้เร็วเสียกว่า แต่อัพพุทนรกหนึ่งจะไม่พึง​

ถึงความสิ้นไปได้เลย ดูก่อนภิกษุ ๒๐ อัพพุทนรกเป็นหนึ่งนิรัพพุทนรก ๒๐​

นิรัพพุทนรกเป็นหนึ่งอัพพนรก ๒๐ อัพพนรกเป็นหนึ่งอหหนรก ๒๐ อหห-​

นรกเป็นหนึ่งอฎฏนรก ๒๐ อฏฏนรกเป็นหนึ่งกุมุทนรก ๒๐ กุมุทนรกเป็น​

หนึ่งโสคันธิกนรก ๒๐ โสคันธิกนรกเป็นหนึ่งอุปลกนรก ๒๐ อุปลกนรก​

เป็นหนึ่งปุณฑรีกนรก ๒๐ ปุณฑรีกนรกเป็นหนึ่งปทุมนรก อย่างนี้ ก็โกกาลิก-​

ภิกษุอุบัติในปทุมนรกเพราะจิตคิดอาฆาตในสารีบุตรและโมคคัลลานะ.​

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 602​

.

 

ผมขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนะ มันก็อยู่ที่ว่าพระองค์ท่านสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศไทยถือศีลกี่ข้อ และที่เขาพูดกันเป็นความจริงหรือไม่จริง ก็อีกเคส

นึกจะด่าด้วยคำหยาบๆคายๆ กุเรื่องขึ้นมาด่า ก็กรณีหนัก

แต่ถ้าการพูดของเขาเป็นเรื่องจริงเพราะเขาอาจรู้มาแต่ไม่มีคนรู้ อาจเพราะเขาตามเสด็จ อันนี้ก็อีกเคสหนึ่งนะครับ

ส่วนผู้ปฏิบัติกรรมฐานต้องเข้าข้างพวกแดงหรือเหลืองอะไรผมว่ามันไม่เห็นเกี่ยวเลยนะ เสื้อแดงทุกคนก็ไม่ได้คือจะล้มเจ้า ผมอ่านๆก็ งง นะ ทำไมพวกคุณเหมารวมจังครับ

อนุโมทนาบุญครับ

 

ศาสนามีมากว่า 2000 ปี ประเทศไทยแต่ก่อนก็เป็นแว่นแคว้น ไม่ได้เป็นประเทศแบบนี้ สถาบันกษัตริย์โดยเฉพาะราชวงศ์นี้มีอายุ 200 กว่าปี ก่อนหน้านั้นเป็นราชวงศ์อื่นๆ การเปลี่ยนผ่านจากราชวงศ์นึงสู่อีกราชวงศ์นึงก็คงต้องมีการทำลายล้างกัน ราชวงศ์อู่ทองก็ถูกทำลายโดยกลุ่มคนอีกกลุ่มและตั้งราชวงศ์ใหม่ขึ้นมา (เอาตามหนังศรีสุริโยทัยนะ)

ฉะนั้นมันเป็นสิ่งสมมติทั้งนั้น วัดกันที่ความดีดีกว่า ถ้าดีก็ไม่เสื่อม ถ้าเสื่อมก็คงไม่ดี (ถ้าบอกว่าเกิดประเทศไหน ก็ต้องเคารพรักสถาบันที่ปกครองประเทศนั้น แล้วถ้าไปเกิดในเกาหลีเหนือ เรามิต้องเทิดทูล คิม จอง อิล เหมือนพระเจ้าหรือ)

 

สมัยสุโขทัย กับอยุธยา เรายังไม่เป็นชาตินะครับ แต่ละแคว้นก็มีผู้ปกครองของตน แคว้นไหนใหญ่หน่อย ก็มีแคว้นเล็กแคว้นน้อยเป็นเมืองขึัน สถาบันกษัตริย์เขาก็แก่งแย่งชิงดีกันระหว่างแคว้น ระหว่างราชวงศ์ เกิดยุคนั้นจริงอาจสับสนก็ได้ ว่าเราจะนับถือเอาแคว้นไหนเมืองไหนเป็นเจ้าของเรา

 

ด้วยความเคารพทุกๆท่าน ผมไม่ได้มีเจตนาว่ากล่าวติเตียนใครแต่อยากให้ทุกๆท่านมองเห็นความจริงที่เป็นไปตามธรรมชาติ ผู้ปฏิบัติธรรมในทางพุทธในปัจุบันนี้จะปฏิบัติอยู่สองแบบซึ่งมองในมุมนึงอาจแยกออกจากกันได้และมองในอีกมุมจะเป็นอันเดียวกันนั่นคือ สมถะกรรมฐาน และวิปัสนากรรมฐาน ซึ่งสมถะกรรมฐานนั้นมีอยู่ก่อนแล้วเป็นของพราห์มที่ปฏิบัติกันอยู่ และวิปัสนากรรมฐาน ที่พระพุทะเจ้าใช้ในภายหลังจนเข้าสู่นิพาน
แต่ต่างก็มีจุดมุ่งหมายให้จิตสงบเช่นเดียวกัน ในส่วนของสมถะกรรมฐานนั้นเมื่อจิตสงบจะทำให้เกิดปรากฏการต่าางๆ ไม่จะเห็น นรกสวรรค์ ระลึกชาติได้หรืออะไรก็ตาม หากสติควบคุมจิตไม่ได้จิตก็จะล่องลอยไปกับปรากฏารนั้นๆ และนั่นคือความเชี่ิอเพราะตัวเองได้สัมผัสมาแล้ว เป็นปัจจัตตังเหมือนกัน ส่วนในทางวิปัสนากรรมฐาน ท่านให้เราพิจารณากายและจิตของเรา สติเป็นผู้เฝ้าดูและรุ้จิตเท่านั้น รู้การ เกิด การดับ รู้ปฏิกริยาของจิต รู้ว่าความเป็นจริงของสรรพสิ่งเป็นเช่นไร ผู้ปฏิบัติ วิปัสนากรรมฐานจึงไม่ได้สนใจเรื่องนรกสวรรค์ บาป บุญอะไรทั้งสิ้น จะเป็นเพียงแค่ผู้เฝ้าดูและรู้ปฏิกริยาของจิตเท่านั้น จะรู้อริยะสัจสี่ จะไม่มีเทวดา สวรรค์ นรก เพราะเหล่านี้มันเกิดจากจิตที่หลงที่ไม่รู้เท่านั้น ทำไมผุ้ฝึกสมถะบางคนถึงได้วิปลาสเพราะจิิตมันหลงไปกับสภาวะเหล่านี้โดยไร้สติควบคุมนั่นเอง นั่นคือ ภพ ที่จิตไปเกิด มันจึงได้มี นรก สวรรค์ ขึ้นมา ที่พระพุทะเจ้าได้ไปเรียนรู้กับพราห์จนถึงที่สุดแต่ก็ยังดับทุกข์ไม่ได้ เพราะการปฏิบัตแบบพราห์มนั้นยังมีอัตตาอยู่ เพราะคิดว่าจิตนั่นแหละคืออัตตา จึงไม่ได้เห็นการเกิดดับของจิต
ธรรมะ หรือ ธรรมชาติ ไม่ได้สร้างให้ใครสูงต่ำ ดำ ขาว เลือดเราก็ยังสีเดียวกัน การมีสูงต่ำ มาจากจิต ที่ยังหลงใน ญาณของสัตว์ นั่นคือ สัญชตญาณ เช่นเดียวกับสัตว์เดรัชฉาน เหมือน ฝูงลิง ฝูงสิงโต ที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยสัญชาตญาณ หาความเป็น อริยชน ไม่ได้
ปล.พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า โลกนี้มีทั้งสรรเสิญและนินทา ซึ่งผุ้เข้าถึงธรรมะที่แท้จริงจะไม่ยินดียินร้ายกับคำเหล่านั้น อุเบกขาย่อมเกิดขึ้น
ปล2 ในทางโลก อย่างที่ท่าน thitiwatyu พูดถกต้องแล้วครับ มองงจากหลักฐาน วัฒธรรม ตามความเป็นจริงรอบๆตัว หากเรายอมรับความจริง ไม่ใช่ใช้มิจฉาทิฐิหรือความชอบใจของตัวเอง
ปล3 ในตำราพระไตรปิฎก มีการสังคยนาหลายรอบ มีการแต่งเติมตีไข่ใส่สี ไม่ต่างจาก หนังสือประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศย่อมแต่งเข้าข้างตัวเอง ผมใช้กลามสุตร 10 ข้อในการปฏิบัติเพื่อให้เห็นความจริงครับ พระไตรปิฎกจึงไม่สามารถอ้างอิงได้ทั้งหมด หากอ้างอิงก็ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ที่แต่ลูบคลำและท่องจำตามตำรา

 

ผมเห็นด้วยนะครับ ถ้าอะไรดีก็ไม่เสื่อม อะไรไม่ดีก็เสื่อม ขึ้นอยู่กับสิ่งๆนั้น

ต้องรู้จักแยกแยะด้วย พระอริยะ กับ พระเจ้าแผ่นดิน คือคนละคนกัน บาปกรรมที่ทำแก่พระอริยะยอมหนักกว่ามาก แต่ถ้าพระเจ้าแผ่นดินประเทศไหนทำเลว เช่น ประเทศจีนในสมัยโบราณหรือฝรั่งเศสก่อนมีการกิโยติน ฆ่าคนเป็นว่าเล่น เรากล่าวติเตียนบาปกรรมย่อมเล็กน้อย

ผมไม่ได้กล่าวจาบจ้วงนะ ผมแค่อยากให้มองดูกว้างๆครับ

ปล.ผมรักประเทศไทย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และชอบทำบุญ ฉะนั้นอย่ามาว่าผมเป็นฝ่ายไหนล่ะ

 

เคยฟังเพลงของ ปู พงสิสิทธิ์ เพลง นครลิง ช่างเปรียบเทียบความจริงได้ดีมาก
- ถูกบังคับให้เลือกสี เลือกไม่ดีอาจถึงตาย ช่างน่าอับอายแท้หนอ นครลิง
ทุกวันนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นต่าง เพียงแต่ไม่คล้อยตามเขา ก็จะถูกกล่าวว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามทันที ผมถึงได้เน้นเรื่องใช้ ความจริงเป็น หลัก ไม่ใช่มโน และสร้างเรื่องให้จิตเข้าไปวุ่นอยู่แต่ในความคิด

 

อ่านข้อความแล้วเหมือนคนปฎิบัติธรรม แต่ดูลึกๆแล้วไม่น่าใช่นะ เอาหลักมาอ้างอิงใจต้องมาด้วยนะ ถ้าใจไม่ดีมันก็ไม่ดีนะ

 

ยิ่งปฏิบัติ น่าจะยิ่งมองทุกสิ่งเป็นสิ่งสมมติมากกว่า ไม่ใช่เพราะความต่างชาติ ต่างศาสนา หรือที่ทำให้มนุษย์ฆ่าแกงกันตาย ทั่วโลก นี่ยังจะเอาสถาบันกษัตริย์มาข้องเกี่ยวอีก การว่ากล่าว จาบจ้วงต่อคนธรรมดา ก็เป็นผลกรรมแล้ว เดี๋ยวก็ได้รับกรรมกันไปเอง
แหละ ไม่ต้องไปเอาใจช่วยให้เค้าโดน 112 หรือไปสะใจที่เค้าเป็นมะเร็งโน่นนี่กันหรอก ไม่อยากเห็นภาพที่คนไทยต้องฆ่ากันเองใต้ต้นมะขาม แล้วคิดสะใจกันเหมือน ตุลา 19 เพียงเพราะฝ่ายนึงคิดว่าอีกฝ่ายไม่เคารพสถาบัน

 

คนเราทุกวันนี้ไม่กลัวกฎแห่งกรรม แต่พอกรรมตามสนองใกล้จะตายก็สำนึก

 

ตบพระกระทืบพระเค้ายังไม่กลัวเลย นับประสาอะไรกับเรื่องอื่น

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านคือพระโพธิสัตว์ปรารถนาพุทธภูมิอีก5ชาติพระองค์จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป อดีตชาติพระองค์คือพระนเรศวรมหาราช พระองค์ทรงรักษาบ้านเมืองไว้สู้รบกับศัตรู แต่ในชาติปัจจุบันท่านต้องรบกับเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของปชช.ให้อยู่ดีกินดีพระองค์ทรงรักปชช.ของพระองค์
ขอทรงพระเจริญ

 

ผู้ใดจาบจ้วงย่อมไปที่ไม่ดีแน่นอน(นรกภูมิ)แต่ผู้ใดแอบอ้างเอาพระองค์ทำร้ายบุคคลอื่นก็เช่นกัน ย่อมไปที่เดียวกัน

 

เห็นๆเป็นมะเร็งทุกราย พวกที่ชอบจาบจ้วงล่วงเกินสถาบัน ไม่ตายดีกันซักราย

 

การจวบจ้วงสถาบันผมว่ากรรมนั้นคงมากเท่าๆกับการนรคุณผู้พระคุณ

 

ถ้าจะจาบจ้วงแล้วมันเปนเรื่องจริงก็คงพอรับได้ แต่ถ้าสิ่งที่ผู้ไม่หวังดีต่อพระองค์สร้างเรื่องสกปรกขึ้นมาเพียงเพื ่อให้ผู้คนโกรธและเกลียดพระองค์ทั้งที่ความเปนจริงเปนอย่างไรต่างก็ไม่มีใครรู้ แต่ก็ยังดึงดันจะต่อต้านสถาบัน เอาเบื้องสูงลงมาแปดเปื้อนกับแผนการณ์ชั่วๆที่คนบางกลุ่มสร้างขึ้น มันไม่ยุติธรรมกับพระองค์เลย ถ้าใครเข้ามาอ่านแล้วไม่พอใจเพร าะความคิดไม่ตรงกัน ดิฉันต้องขออภัยด้วย เพียงแค่อยากให้มองความเปนจริงว่า เราอย่าไปฟันธงหรือแน่ใจในเรื่องบางเรื่องที่ ฟังมา หากเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง อย่าตัดสินใครเพียงเพราะ "เขาเล่าว่า..." เท่านั้น