^__^เหรียญหล่อประภามลฑล หนึ่งในวิชาที่หลวงปู่ศุขถ่ายทอดให้หลวงปุ่สุภา

สวัสดีครับ เพื่อนๆ นักอนุรักษ์ธาตุกายสิทธิ์ และ นักปฏบัติทุกคน .............

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 21 คน ( เป็นสมาชิก 13 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน )

 

เดือยงูเหลือมเครื่องรางแห่ง'โภคทรัพย์และเสี่ยงโชค'
เดือยงูเหลือมเครื่องรางแห่ง'โภคทรัพย์และเสี่ยงโชค' : พระองค์ครูเรืองและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

เครื่องรางของขลัง คือของที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ มีพลังหรืออำนาจที่อาจบันดาลให้เป็นไป หรืออาจบันดาลสิ่งที่ต้องประสงค์สำเร็จได้ นักไสยศาสตร์เชื่อว่าเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ในตัว ไม่ต้องปลุกเสก ด้วยคาถาอาคมอะไร ก็นำมาใช้ำด้ แต่ก็มีเหมือนกัน ที่มักจะนำมาลงคาถาอาคม กำกับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้เป็นทวีคูณ

ทั้งนี้ คติความเชื่อว่า เครื่องรางของขลังต่างๆ สามารถป้องกันอันตราย ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า เช่น ตระกรุด ผ้ายันต์ เหล็กไหล ได้รับการจัดสร้างด้วยพิธกรรมทางไสยศาสตร์ แต่มีของขลังบางอย่างที่ถือว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งที่อยู่ในสัตว์และพืช

เครื่องรางที่เกิดขึ้นในสัตว์ เช่น ช้องหมูป่า เขี้ยวหมูตัน ฟันเสือกลวง หนังหน้าผากเสือโคร่ง งากำจัด ส่วนที่อยู่ในพืช หรือเกิดจากพืช นิยมเรียกว่าคด เช่น คดขนุน คดมะพร้าว บางครั้งเรียกเฉพาะเจาะจงลงไป เรียกว่า กะลาตาเดียว กะลามหาอุด (ไม่มีตา) ไม้พญางิ้วดำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุ อัญมณี ที่รู้จักกันดีก็คือ เหล็กไหล เหล็กน้ำพี้ ปรอท คดหิน คดดินต่างๆ

"เดือยงูเหลือม" เป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งที่มีคติความเชื่อว่า สรรพคุณดี โภคทรัพย์ เสี่ยงโชค เสี่ยงทาย สามารถสะกดฝ่ายตรงข้ามได้ ดีในด้านการทำมาค้าขายคือมักจะมีลูกค้าเข้ามาหาเอง ดีด้านเมตตามหาเสน่ห์

ตำนานแห่งการใช้เดือยงูเหลือมเป็นเครื่องรางนั้น เกิดจากการสังเกตของคนโบราณที่เข้าไปหาของป่า ซึ่งได้เห็นงูเหลือมบ่อยๆ เพราะว่ากันว่าเดือยงูเหลือมนี้จะมีเฉพาะงูที่แก่มากแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ เดือยจะโผล่ยาวออกมาทั้งสองข้างบริเวณสะดือ (ช่องขับถ่าย) เมื่องูเลื้อยไปเรื่อยๆ หากเดือดไปเกี่ยวกับหญ้า หรือรากไม้เข้า ณ ที่ใด มันจะหยุดเพราะไม่ช้าบริเวณนั้นจะมีสัตว์มาให้กิน เรียกว่า "ติดตรงไหนรอตรงนั้น"

เมื่อคนโบราณสังเกตเห็นบ่อยๆ เข้า เมื่องูตายก็มาผ่าท้องดูก็คิดว่าน่าจะเป็นเดือยก็เอามาใช้พกติดตัวไม่ต้องปลุกเสกกำกับคาถา คนที่ออกหาปูหาปลาสมัยก่อนก็จะพกติดตัวไปด้วยก็จะได้ปลามากกว่าคนอื่น ในขณะแม่ค้าหาบของขายก็จะผูกเดือยงูเหลือมไว้ที่ปลายไม้คานก็จะขายของดี จากเรื่องเล่าดังกล่าวจึงเป็นความนิยมกันมาถึงทุกวันนี้

เดือยงูเหลือมนี้จะมีลักษณะคล้ายๆ กับอุ้งตีนไก่มาก จะมีความแตกต่างกันอยู่เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ถ้าเป็นอุ้งตีนไก่เมื่อทุกส่วนมันแห้งสนิทหนังที่อุ้งตีนมันจะเหี่ยวแห้งยุบติดกัน จะเห็นกระดูกไก่เป็นข้อๆ ส่วนเดือยงูเหลือม จะเป็นเอ็นยาวต่อติดกันไม่มีข้อต่อ บริเวณที่เป็นเดือยจะมีเกล็ดเล็กๆ ที่สำคัญจะมีกลิ่นสาบมาก

อย่างไรก็ตามในอดีดนั้น เดือยงูเหลือมถือว่าเป็นของดีอยู่ในตัวและไม่ต้องปลุกเสก เมื่อได้มาก็จะนำไปตากให้แห้งแล้วใช้ผ้าพันเพื่อสะดวกในการพกพา แต่ปัจจุบันนี้เพื่อเพิ่มความเข้มขลังจึงมีการเขียนอักขระเลขยันต์ด้วยผ้า และโลหะ ลงกำกับไว้ด้วย แล้วนำไปเลี่ยมใส่กรอบพลาสติก


ส่วนตัวที่ท่านจะเห็นนี้ เป็นพญางูเหลือเลยคือมีสองทาง หายากฝุดๆ ๆครับ และปลุกเสกโดย พระคุณเจ้า หลวงพ่อเขมร ดังมากๆๆในเขมร ครับชิ้นนี้ หลวงพ่อ ท่านให้ลูกศิษย์ใกล้ชิด ...........เพื่อใช้เสี่ยงโชคแต่ลูกศิษย์เป็นคน ไม่เล่นการพนันเลยนำมาพกไว้ ทำมาหากิน ผลคือ รวยมีทรัพย์มากลูกค้ามาซื้อของถึงหน้าบ้านเอง เพราะเจ้าเดือยนี้มีคุณสมบัติ เรียกเหยื่อให้มาถึงปากงูนั่นเอง ของแท้ๆ หายากครับ ยิ่งยาวยิ่งแพงครับ อันนี้ลงครบสูตร เหตุผลที่เจ้าของขาย เปล่า เขาไม่ให้เข้าเมือง ครับเลยฝากพรรคพวกกลับมาเมืองไทย พรรคพวกเลยหักคอมา ครับ............มีสองช้ิน สองทางพญางู ครับ และอีกอัน ก็ ทางเดียว ไกรงูครับ เลือกเอาครับ .............

 

สองทาง สุดยอดพญางูเหลือม หายากมากๆ ไม่มีให้เห็นครับตัวจริงเสียงจริง ลูกค้า เหยื่อมาถึงที่ ไม่ต้องออกแรงไปหาครับ .............




นาม พญางู มะเรียงยอ เป็นงูที่อยู่หุบ แห่งภูตะปัน อายุกว่าร้อยปี จนมีญาณจำศีลมักไป ถือศีล ที่ถ้ำข้าวสารหิน ขอนแก่นกับ พญางูด้วยกันครับ มีอรูปเป็นคน หน้าตาหล่อเหลาเอาการ มีนิวาสสถาน เป็นเทวบุตรณ จอมปราสาท จตุ เพราะว่าสร้างความดี มากมาย ในการให้โชคลาภ จัดวัดหนึ่งในภุตะปัน ทำวัดจนสำเร็จมาแล้ว แต่ด้วย เป็นลาภหวย จึงถูกจำกัด ให้อยู่เสวย ในชั้นเทวดา แต่ยังคง มี วรกายวรรณะเป็นงู เลย ตายพราย ให้หลวงพ่อ มาทำเครื่องรางบันดาลโชคลาภ ให้คน ร่ำรวย กัน ให้คนค้าขายดี มีลูกค้ามาติดต่อถึง หัวกะไดบ้าน วันแรก จงนำตับไก่ ของโปรดไหว้ ให้กิน แค่มื้อเดียว หลังจากนั้นพกพาได้เลย พลังงานจากท่านแรงมากๆ และ พลังจาก หลวงพ่อเขมร บรรจุไว้ คือ มีตัวเตือนว่ามีโชค เดือยจะสั่น เป็นวิชาสุดยอดของท่าน และกันของเขมรได้ ทุกยี่ห้อครับ ....................5500 ครับ พญางู มีอันเดียวสองทาง มีกิน สองทาง ลูกค้ามาสองทาง ครับ..................หายาก มากๆ ครับเคยขายคนที่อเมริกา ไป สองหมื่นกว่าๆ ๆ ครับ เรื่องจริง ..............

 

จองค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

2ไกรงู เหลนๆ พญานาค นามไกรวิเชียร (อองแซน้อย ) ภูตะแบง เป็นงูที่ กินแต่ สัตว์ถึงฆาตร ทั้งนั้น เป็นงูเหลือม ที่มีพิษเขียว พิษเขียวฟังดูแล้ว มีพิษแต่จริงๆ เอาไว้ รักษาคนถูกงูกัด อีกทีครับ .....หมองู จับมา เพื่อรักษา บุตรสาวที่โดน พญาจงอางกัด เลยเอาพิษเขียวมารักษา ครั้นตายได้ความดี เป็นพญางู แห่งกงไกรลาส ทิ้งเดือยไว้ให้ ผู้ ที่ชอบช่วยเหลือคน ทำความดี ทำบุญคนไม่ขึ้นให้ มีเงินมีทอง รวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และ ฝันแม่น ครับ มีโชค แน่นอน 4900 ครับ .............. หมด แล้วไม่ต้องถามว่ามีไหม ของมันไม่ได้หากันง่ายๆ นะครับเจ้านาย ............................

 

พลังงานของงู รัด ใครแล้วหลุดยาก...................ก

............นาคเกี้ยว (แท้ ๆ )) นาคเกี้ยวสาว .............. งากกำจาย แกะ หายาก มากๆ


เราเคยได้ยินแต่ นาคเกี้ยว เป็นนาค เกี้ยวนาคแต่เราไม่เคยเห็นนาคเกี้ยว คน ..............นครินทร์ นาคา มีวรกายหล่อมากๆ สาวๆ ชอบกันตรึมทั้งบาดาล แต่พอขึ้นมาโลก พ่อหว่านเสน่ห์ไปทั่ว จนนาง สิขาณี เมียนาคไม่พอใจ ตามมาอาละวาด บนโลก พบ สุกิติมา บุตรของ ฤาษีหน้าครุฑ แล้วรบกัน ผลคือ นางนาค แพ้ ต้องลงไป แต่นางกลับพูดว่า แน่จริง ลงไปรักกันใต้บาดาลสิ เล่นกับใครไม่เล่น ๆ กับคน นาง สุกิติมา เลยไปขอของดี กับพ่อฤาษี ๆ ให้ มุขเงือก อมแล้วลงไปอยู่ ในบาดาล เล่นเอานางตกใจเลยต้องยก นครินทร์ให้แต่ นครินไม่ยอม เพราะว่า แอบชอบ สาวงาม บนโลก วารีพรรณ เลยหอบนางหนี แต่ ว่า สุกิติมาเลยฟ้อง ปู่นาคา ผลคือ โดน ต้องโทษให้ไปจำพรรษา ณ หิมพานต์ ห้าพันปี แต่ก็ยังไม่วาย สาวๆ ในหิมพานต์ หลงรักกัน หนีๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปจนสุด ถึงชั้น โสดบันแล้ว แต่ทางโสดาบันบอกว่า คนจะมาได้ต้องรักเดียวใจเดียว เป็นโสดาบันของเมีย .....นครินทร์ ซึ้งในธรรมเลย ต้องกับมาแต่งงานกับ สุกิติมา ..............ผู้คนเลย สร้างเครื่องราง ชิ้นนี้ขึ้นมาว่า เสน่ห์ร้ายเหลือ และมีพลังงานที่ดี แห่งดวงจิตเห็นธรรม กลับมารักเดียวใจเดียว ชิ้นนี้ ....................บอกเลยว่า แรงโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กว่า ทุกชิ้นที่เห็นมาในตะกูล มหาเสน่ห์ เพราะ เป็นเสน่ห์ ระดับ ขั้นเทพนั่นเอง ...............6500 หายากไม่มีให้เห็นชิ้นที่สองครับ เพราะคนทำต้องเป็น ลูกหลานพญานาคเท่านั้นถึงทำได้ ..........................

 

จองค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

เปิดบ้าน .................... สวัสดีวันศุกร์ พรุ่งนี้ หลายๆ ท่านคนงได้พักผ่อนกันนะครับ กะผมก็ทำหน้าที่ หาของดีมาฝาก แฟนๆ และ เอาเงินจัดทริป กรรมฐานทริปหน้า เดือน กันยายน ใครว่างๆๆ ไป สังเกตุการ การเรียนการสอนได้ว่าดี หรือเปล่า ครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้น แต่ ค่าผ่าน และ บ้านของ วนอุทยาน เท่านั้น ข้าวปลาอาหาร เลี้ยงฟรีสามมื้อ ไม่คิดค่าสอนใดๆๆ ทั้งสิ้น .......................

 

ขอจองครับอาจารย์

 

สืบกรรม จากเหล็กไหล คู่บารมี น้องนีล พระนาม พระเจ้าเด่นฟ้า - มาตุลี เรื่องราว ของ สงคราม เทพอสูร ห้ามพลาดครับ ......กับเหล็กไหล คุ่ชีวิต .....

 

จานโอนแล้วนะค่ะอยู่ในPMค่ะ อิอิ:z16:z16:z16

 

อาจได้ไปร่วมทริปครั้งนี้ด้วยค่ะจารย์

 

ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีๆๆ อยากเจอ จให้ตีขิม เพลง รักข้ามขอบฟ้าให้หน่อย เดี๋ยวผม ฝึก ตีกลับ แล้ว เปิดท้าย หาเงินกัน ดีมะ.......................

 

สืบกรรมจากเหล็กไหล ตอนที่หนึ่ง เหล็กไหลพระนาม พระเจ้าเด่นฟ้า มาตุลี ............. ในกาลนั้น เมื่อพระนารายบรรทมสินแล้ว หาเลยไม่จะมีคนปลุกได้ เหล่าอสูร เห็นอย่างนั้นเลย ไล่ตี ต่อย ทั้งสวรรค์ จนหาสุดประมาณ ไม่มี ใครหยุด อสูรร้าย นาม มาตุลีได้ ..............เก่งแสนเก่งกล้าแสนกล้าทุกคนแพ้ ไมมีเทพ องค์ใด ต่อกรแล้ว แย่แล้วเรา หมดสวรรค์แล้ว ใครก็สู้มันไม่ได้ ทำงัยดี เหลือใครบ้างพรุ่งนี้มันท้า บนดาวดึงค์ แย่ๆๆๆๆ ไปกวนสมุทรกันไหม ให้พระนารายมาปราบมัน ก็ดีๆ แต่ เหล่าเทวัญกวรมาสามเพลา แล้วยังไมตื่น บรรทม นี่ให้ พระอินทร์ หา เทพองค์ใด มาปราบ หมดแล้วกะหม่อม ท้ายอุณหิต พูดกับ องค์อัมรินทร์ ........... อะไรนะ หมดแล้วกะหม่อม เฮ้ยๆยๆๆ หมายความว่าสู้แล้วทุกคน ...........ใช่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตายๆ อายเค้าตายห่า เพทแพ้ อสูร ก็อายสิเจ้าค่ะ ทำไงดี นึกดีๆๆ ถาม นายทะเบียนสวรรค์สิ ครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด เหลือ องค์นึง ใคร?............. พระเจ้าเด่นฟ้า เด่นฟ้า คือใคร ทำไมเราไม่เคยได้ยินเลย ..............คือเทพที่รักสงบ จำพรรษา กรรมฐาน ไม่ยุ่งใคร มีหน้าที่ ทำให้ฟ้า สว่างและมีช้อนทองเป็นอาวุธ โหๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำอไรได้บ้างช้อนมัน ..........ตักอากาศแล้วเป็นทองคำ บ้าๆๆๆ เอาไรไปสู้กับมัน จักรเพชร พระพรหมยังฆ่ามันไม่ได้ เลยแล้วช้อน จะตักทองคำ ไปให้มันใช้หรือ หรือว่า จะตักไปคนกินชา โออิชิ หา !!! 55555555 พระองค์ อย่าทรงกิ้ว แต่ไม่มีใครแล้ว จะลองดูไหม เห็นว่า เป็นต้นวิชา นะ จังงัง อาจมีประโยชน์บ้าง ลองดีกว่าไม่ลอง เจ้าค่ะ ไหนๆๆๆๆๆๆๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เอ้าๆๆ อายอีกทีจะเป็นไร เอาสานน์ เราไป ตามมา เจ้าคร๊า....................สารถีทูตสวรรค์ ต่างยกโขยงกันไป หา พระเจ้าเด่นฟ้าแล้วเล่าเรื่องให้ฟัง..............55555555555555 บ้ากันแล้ว ระดับบิ๊กๆ ยังแพ้ เราเทวดาแห่งโชคลาภ จะไปให้โชคมันหรือไร 555555555 พวกท่าน บ้าแล้ว แต่เราต้องยันให้ได้ ถึง สามสิบวันนะเจ้าค่ะ ท่านแค่ยันไว้ ตามที่ท่านเล่ามา ข้ว่า ราตรีเดียวข้าก็ตายเพราะไฟบรรลัยกัลป มันแล้ว55555555 อะไรท่าน ๆๆ ไม่มีใจเลยหรือ เรากรรมฐานมา เก้าอสงไขย เรากำลังบรรลุธรรมข้ามไป อานาคาแล้ว เรือ่งนี้ เราคงช่วยไม่ได้ ท่าน ......... แต่ ถ้าพวกมัน ชนะ อานาคา ก็พัง นะท่าน ............... พระเจ้าเด่นฟ้า ถึงอึ้ง ๆๆ เออ เราลืมไปเลย แล้วควรทำงัยดี หล่ะ เทวทูต ไปสู้กับมัน............. เอาไรไปสู้ ....................... ช้อนทองของท่าน ...........พระเจ้าเด่นฟ้า มองช้อนแล้ว ก็ 5555555555555 ช้อนไปสู้กะบองเพชรมัน ......... ท่าน เอาอะไรคิด ............... ข้าเอา สมองคิด ยังงัยแล้วก็มั่นใจ ว่าท่านเอาอยู่ ...................... ไม่ลองไม่รู้นะท่าน ........ พระเจ้าเด่นฟ้า ออกจากบรรลังค์ทองแล้วเดินมา ตักอากาศ เป็นทองแล้วก็โปรย ลงพื้นโลก ............ทำอะไร หล่ะท่าน ..............โปรยทอง ให้ มนุษย์มาช่วย 5555555555 เหล่าทูตสวรรค์ขำกลิ้ง กว่า สวรรค์ทั้งหมดยังแพ้ มนุษย์ แค่มันเป่า ก็ตายแล้ว 55555555555555 ท่านอย่าดูถูกมนุษย์ หลายเรือ่งแล้ว มิใช่หรือ ที่มนุษย์ มันขึ้นมา ถล่มสวรรค์เละ เป็นหน้ากอง .......อืมๆๆ จริง ๆ แล้วท่าน จะเลือกใคร มาสู้ ............. ไม่รุ้ โปรย ทองไปเรื่อยๆ จนกว่า คนจะ บรวงสรวง ................... ความคิด ของข้ามีแค่นี้ พรุ่งนี้ เจอกันที่สนามประลอง ไป ได้แล้ว ศพข้า .........เอาไปฝังถ้ำเหล็กไหล เมืองแม ด้วยนะ ...........พระเจ้า เด่นฟ้า พูดแบบปลงสังขาระ ทันที เหล่าทูต พากันกลับ แล้ว พระเจ้าเด่นฟ้า ก็ อธิฐานว่า ใครเดือดร้อนอยากได้ทอง จงติดต่อขึ้นมา......แล้วเททองลงโลก มนุษย์ทันที..................... ตามต่ออันหน้าห้ามพลาด ....ด้วยกาลทั้งปวง..............

 

ระหว่างตีขิมต้องใส่หมวกกันน๊อกด้วย เผื่อโดนของขว้างใส่หัว เพราะถ้าตีผิด ๆ ถูก ๆ โดนแน่ ที่เมืองฝรั่ง เวลาตีผิดเขาไม่รู้เรื่องอะ แต่ที่เมืองไทย ตัวใครตัวมันเด้อจารย์ ๕๕๕๕๕ ข้อยบ่มีของดีไว้ป้องกันตัวเหมือนจารย์หรอกนะ มีแต่แหวนเพชรพระอุมาช่วยได้ป่าว อิอิ

 

...พญาเขาคำงาแกะเก่า (ขุนแผนเมืองเหนือ) ประวัติ พญาเขาคำ เป็นทหารเอกของพระเจ้าไทยใหญ่ เป็นผู้มากเมีย มีเมียอยู่แล้วสี่คน แต่ไปรบที่ไหนก็ได้เมียที่นั่น เป็นคนมีเสน่ห์ เก่งทั้งรักเก่งทั้งรบ เรียกได้ว่าเป็น"ขุนแผนแห่งเมืองเหนือ"เลยครับ
"พญาเขาคำ"... เด่นในด้านเมตตา เดินทางไป ณ ที่แห่งหนตำบลใดมีแต่คนรักใคร่เมตตา... ด้านเสน่ห์ แม้นว่าไม่หล่อไม่สวยแต่ก็จะมีพลังแห่งเสน่ห์แอบแฝงไว้ดึงดูดใจต่อเพศตรง ข้ามให้อ่อนไหว... ด้านมหานิยม คนเห็นนิยมชมชอบ ...ด้านมัดจิต ผูกจิตพิชิตใจให้เขารักใคร่คิดถึงแต่เราผู้เดียว...ด้านมัดใจ ไม่ให้เขามีใจให้ใครให้มีเพียงแต่เรา...ด้านคิดถึง แม้นไม่เห็นหน้าก็ขอได้ยินเสียงและเห็นชายคาบ้าน...ด้านนะจังงังตลึงงงงัน ดังต้องมนต์สะกดให้คิดนึกรัก...ด้านแม้นโกรธดังไฟก็เกลียดไม่ลง...ด้าน เอ็นดู ผู้หลักผู้ใหญ่เอ็นดูชมชอบจะต้องจิตต้องใจ .
......พญาเขาคำชิ้นนี้ แกะเป็นพญาเขาคำกับเมียทั้งสี่ สภาพเก่ามากๆครับ อิทธิคุณ กำลังสองครับ ขนาดกำลังสวยครับ กว้าง2ซม. สูง2ซม.หนา1ซม.ครับ

ชิ้นนี้เก่าโคตร ดูจากศิลป การแกะ แล้วรู้เลยว่า ชาวบ้านแน่ๆๆ นอนๆ ครับ และที่สำคัญ เป็นงา ปราบพยศ งาปราบพยศคือ งาของช้างที่ เคยฆ่าคน เจ้าของช้างจะ ต้องตัดปลายงา ทิ้ง แล้วทำพิธี ปราบพยศ ดังนั้น งาชิ้นนี้ จึงมนต์ สกดทัพ สกดนางในตัวเอง แล้วยิ่งเป็นปลายงาปราบพยศ แบบนี้ ราคาต้องขยับอีกนิดครับ3900 หายากจริงๆๆ พลังเมตตา มหาเสน่ห์นั้นเชื่อขนมยายกินได้ครับ และยิ่ง เป็นไปตามตำราโบราณ เกือบๆ ร้อยปี แบบนี้ บ่อตงว่า ....สาวๆๆ ไม่มีหลุดให้ช้ำใจ ใช้ ทางการค้า ลุกค้า ซื้อง่ายไม่งี่เง่าต่อน่ารำคาญครับ .........................

 

ขอจองครับอาจารย์

 

อุติ่ง" เป็นเครื่องรางของชาวไทยใหญ่ แกะจากงาอาธรรพ์ประเภทงากำจัดงากำจาย เครื่องรางมรดกตำนานแห่งแดนล้านนาที่ชนชาวไทใหญ่หวงแหนมากที่สุด ถึงขนาดที่ว่า ถ้าตายให้เอาไปฝังกับศพเจ้าของด้วย เป็นมรดกตำนานจากปู่ย่าตายายที่สืบทอดกันมาแต่เก่าก่อนอีกทั้งเป็นงานชิ้นเอกที่บ่งบอกถึงความละเอียด อ่อนช้อยของงานช่างศิลปไทยใหญ่ได้เป็นอย่างดี

"อุติ่ง" มีด้วยกันหลายแบบ เช่น พระนั่งบนหลังช้าง หรือ พระชัยหลังช้าง อิ่นบนหลังช้าง คนขี่ช้าง และ คนนั่งดีดพิณบนหลังช้าง แต่ละชิ้นมีประวัติและการสร้างที่แตกต่างกัน การใช้ก็ใช้ไปคนละทาง อย่างอิ่นนั่งบนหลังช้างก็ใช้ไปในทางเรื่องมหาเสน่ห์มหานิยม สำหรับคนนั่งดีดพิณบนหลังช้างนี้ เป็นเครื่องรางเหมาะสำหรับพ่อค้า ใช้ในการติดต่อค้าขายสินค้า จึงมีให้พบเห็นกันน้อย มีรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญหนึ่งเดียวคือจะแกะเป็นรูปคนนั่งบนหลังช้างและจำแนกออกเป็นรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันตามจุดประสงค์เจตนารมย์ของปู่ครูผู้สร้าง เช่นคนดีดพินที่มีความหมายถึง Happy life อยู่ดีมีสุข เมตตา โชคลาภ,คนนั่งซ้อนท้ายกัน หมายถึง ไปหนึ่งได้กลับมาสอง ดีทางค้าขาย มหานิยม ,หรือแกะเป็นคนหันหน้าเข้าขากัน (อิ่น) นั่งบนหลังช้างหมายถึง เรื่องของปิยะหรือมหาเสน่ห์ เป็นต้น

"อุติ่ง" งาแกะจึงเป็นทั้งเครื่องรางและงานศิลป์ที่สะท้อนแนวคิด ขนบประเพณีแห่งล้านนา ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่งและที่สำคัญ"อุติ่ง"งาแกะนี้เป็นของที่มีคุณค่ามากสำหรับชนชาวไทใหญ่เรียกว่า เป็นเครื่องรางที่หวงแหนกันเป็นที่สุด หากมิใช่ญาติหรือคนที่รักกันจริงๆการที่จะได้มาก็ยากนักที่จะได้เป็นผุ้ครอบครอง


ชิ้นสอง เป็นงา ผมว่า ร้อยปี ไม่หนีครับ งาฉ่ำ เก่าโคตรและ มีอิ้นด้านหลังเจ้าของเก่า เป็นพ่อค้าเร่ เล่าว่า ไปไหนก็เมีย ไปไหนก็ขายดี บัดนี้กลายเป็น พ่อเฒ่าแล้ว ไม่ได้ใช้ ชิ้นนี้ มีอิ้น ด้ัวย ทวินแคม สิบหกวาว บอกตรงๆ ว่า แรง ขายของดี ด้วย และยังเป็น ปิยะ มหาเสน่ห์ด้วย ถ้าสาวๆ ใช้ ผัวไม่กล้านอกใจและ ครอบครัวมีความสุข ไปหนึ่ง กลับมาสอง บางอัน อุ้มเด็ด กลับสามเลย แต่อันนี้ ............โคตร เสน่ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชิ้นนี้เล็กมากๆ แกะยากงา ฉ่ำ เป็นเทียนแล้ว ตอ้งมีร้อยปี ครับ การแกะ บ่งบอกเลยว่า ปราณีตมากๆ ครับ หายากฝุดๆ 3800......................จิ๋วแต่แจ๋ว เหมาะกับสุภาพสตรี ครับ