วัตถุมงคลหลากหลายเพื่องานบุญสร้างแหวนถวายหลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม

ได้รับ เหรียญองค์บรมครูเสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาศิต กับ รูปหล่อท่านย่าเฒ่านันทมาตา เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

ได้รับเหรียญ ลพ.จรัญหลังพรหมแล้ว และได้ได้ทำการส่งชนาวนมวลสารไปร่วมหล่อบรรจุแหวนแล้ว อนุโมทนา

 

รายการที่ 42 เสือเขี้ยวเสือแกะ พร้อมกระเช้าเงิน
อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ ชลบุรี

นอกเว็บบูชาแล้ว





เมื่อประมาณปี 2550 ลูกศิษย์อาจารย์ไปได้หนังเสือพร้อมเขี้ยวและเล็บมา 2 ผืน (เสือ 2 ตัว) ซึ่งต่อมาได้นำมาทำเป็นตะกรุดหนังเสือ
ส่วนเขี้ยวเสือได้นำมาแกะเป็นเสือได้ประมาณ 8 ตัว เป็นเขี้ยวเสือโปร่งฟ้าตามตำรา
โดยได้มหาสมยศเป็นผู้แกะให้ ซึ่งท่านได้ใช้ผงเขี้ยวเสือที่แกะอุดปิดรูของเขี้ยวเอาไว้เพื่อความสวยงาม
นอกจากนี้ยังมีเสือที่แกะจากเขี้ยวหมีอีกประมาณ 10 ตัว

ตัวนี้เป็นเสือแกะจากเขี้ยวเสือแท้ๆ ที่มีลักษณะโปร่งฟ้าตามตำรา
แต่ได้อุดรูหัวท้ายเอาไว้เพื่อความสวยงาม แต่ก็ยังสามารถมองเห็นรูที่อุดไว้ได้ว่าเป็นเขี้ยวเสือโปร่งจริงๆ)
อาจารย์จารทั้งที่เขี้ยวเสือ และที่กระเช้าเงินที่เลี่ยม ขนาดฐานกว้าง 2 ซม. สูงประมาณ 2.5 ซม.

ลำพังแค่เสือไม้แกะของอาจารย์ก็ว่าดุมากแล้ว
แต่นี่ยิ่งแกะด้วยเขี้ยวเสือซึ่งเป็นธาตุของตัวมันเองด้วยแล้วก็ยิ่งทวีความขลังเข้าไปอีก
เสือแกะจากเขี้ยวเสือแกะนี่ส่วนใหญ่จะตกอยู่กับศิษย์ใกล้ชิดเสียเป็นส่วนใหญ่

 

รายการที่ 43 พระปิดตาไม้ไผ่ตันมหาอุด ปี 2549 (1 ใน 16 องค์)
อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ ชลบุรี

บูชา 3,000-




ไม้ไผ่ตัน จัดเป็นของทนสิทธิ์ตามธรรมชาติอย่างหนึ่งเช่นเดียวกับเขี้ยวเสือกลวง เขี้ยวหมูตัน
เพราะปกติต้นไผ่โดยทั่วไปจะมีลำต้นกลวง แต่ถ้าหากต้นไหนเกิดตันขึ้นมาตั้งแต่โคนไปถึงปลายยอด จัดได้ว่าเป็นของทนสิทธิ์ มีดีในตัวเอง
แม้แต่ไฟป่าก็ไม่อาจไหม้เข้ามาในระยะสี่วาได้ ครูบาอาจารย์สมัยก่อนจึงมักนำมาลงด้วย วัฏฏกะปริตสูตร ไว้กันอัคคีภัยในบ้าน

นอกจากนี้ไม้ไผ่ตันยังเชื่อกันว่ามีอานุภาพทางมหาอุดเป็นยิ่ง
ครูบาอาจารย์จึงนำมาทำตะกรุดไผ่ตันมหาอุดให้ลูกศิษย์ไว้คุ้มครองป้องกันตัว โดยมากมักจะลงด้วยพระคาถามหาอุด

พระปิดตาไม้ไผ่ตันนี้ แกะจากไม้ไผ่ที่ตันตั้งแต่โคนยันปลายยอด
ฝีมือแกะท่านมหาสมยศ แกะเพียง 16 องค์เท่าจำนวนโสฬสพอดี
ใต้ฐานปิดด้วยแผ่นดีบุกจารอักขระ " พุทโธ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ " และตอกโค๊ตประจำสำนัก
พระปิดตาไผ่ตันนี้มีประสบการณ์ทางมหาอุดยิงไม่ออกมาแล้ว

 

จองทำบุญด้วยครับ....

 

ก่อนเดินทางพี่เขาสั่งให้จอง
รายการที่ 31 ตะกรุดเกราะเพชรพระอาทิตย์ เนื้อดีบุก 5 นิ้ว
รายการที่ 32 ตะกรุดเกราะเพชรพระจันทร์ เนื้อดีบุก 5 นิ้ว

จึงขอจองรายการละ 1 ดอกค่ะ

 

โอนค่า
รายการที่ 16 พระสมเด็จผงพรายกุมาร ปี 2539 ลป.โทน กันตสีโล วัดเขาน้อยคีรีวัน ชลบุรี
รายการที่ 24 โพธิ์บังภัย รุ่นแรก หลังเรียบ (จารเต็ม) กะไหล่เงิน ปี 2553
รายการที่ 31 ตะกรุดเกราะเพชรพระอาทิตย์ เนื้อดีบุก 5 นิ้ว
รายการที่ 32 ตะกรุดเกราะเพชรพระจันทร์ เนื้อดีบุก 5 นิ้ว

แล้วนะคะตามใบโอนนี้ ที่อยู่ตามPMค่ะ

รบกวนเขียนระบุให้ด้วยนะคะว่าดอกไหนเป็นตะกรุดเกราะเพชรพระอาทิตย์ ดอกไหนเป็นตะกรุดเกราะเพชรพระจันทร์

ขอบพระคุณค่ะ

 

รายการที่ 48 ปลักขิกไม้แกะ
ลพ.เชย อมโร อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จันทบุรี

jimmyuro บูชาแล้ว EK 136783038 TH




ปลัดขิก จัดเป็นวิชาเอกวิชาหนึ่งของท่านพอๆ กับพระปิดตา
เวลาท่านว่างๆ ท่านก็จะนั่งเหลาเอง เหลาไปภาวนาไป ส่วนใหญ่ทำจากไม้รักแดง ไม้กาฝากมะรุม ฯลฯ
ต่อมาภายหลังมีคนที่ศรัทธาเหลามาถวายและฝากให้ลง มีทั้งไม้ไผ่ตัน ไม้มะขาม ไม้รักขาว และไม้เบญจพรรณต่างๆ
รูปลักษณ์ก็ต่างๆ กันไป ต้องอาศัยดูลายมือของหลวงพ่อเป็นหลัก
เพราะปลัดทุกตัวท่านจะจารเอง โดยท่านจะเลือกวันที่ดีที่เป็นมงคลจารและปลุกเสก
เวลาปลุกเสกท่านจะเอาปลัดใส่ไว้ในบาตรและเสกจนปลัดเคลื่อนไหวเองได้จึงจะถือว่าสำเร็จ

ประสบการณ์มีมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นไปทางเมตตา โชคลาภ ค้าขาย แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพัน
พวกชาวบ้านที่ขายอาหารทะเลตามชายหาด และพวกชาวประมงชอบใช้กันมาก แถมหวงเสียด้วย
ไปถามขอบูชาต่อไม่ค่อยมีใครจะออกต่อเลย

มีเรื่องเล่าประสบการณ์ของปลัดขิกที่ชวนน่าพิศวงอยู่เรื่องหนึ่งหนึ่ง คือ
มีคนที่ชลบุรีมากราบหลวงพ่อเชยตามที่เคยได้ยินกิตติศัพท์ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน
พอทำบุญเสร็จเขาก็ขอของดีจากท่าน ท่านก็บอกว่า...ของดีของท่านก็ พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี่แหละดีที่สุด
เขาก็บอกว่า อ๋อ..ที่ผมหมายถึงคือวัตถุมงคลครับหลวงปู่ จะเอาไปค้าขายครับ
ท่านก็พิจารณาแล้วก็บอกว่า....ของดี ของมงคลน่ะอยู่ที่ใจนะ ถ้าใจเราดี อะไรมันก็ดีหมด เป็นมงคลหมด
แล้วหลวงพ่อท่านก็เดินเข้าไปในห้องเหมือนไปค้นหาอะไรสักพักนึง แล้วก็หยิบวัตถุมงคลออกมาเป็นปลัดขิกที่ท่านลงไว้ มอบให้เขา 1 ตัว
แล้วบอกว่า...ตอนนี้มีแต่ไอ้นี่แหละ อย่างอื่นยังไม่เสร็จ เออ...ได้ไปก็เก็บเอาไว้ดีๆ นะ อย่าเอาไปโยนทิ้งนะ..เสียดาย...

พอได้ของดีแล้วก็กราบลาหลวงพ่อท่านลงมาจากอาศรม แล้วก็ขับรถออกไปหาอะไรกินที่หาดเจ้าหลาว
เดินเล่นสักพักนึงแล้วก็นึกถึงปลัดขิกที่หลวงพ่อเชยท่านให้มา
คิดรำพึงในใจว่าไม่เห็นอยากได้ (ปลัดขิก) เลยของใหม่ ปลัดขิกที่ไหนจะขลังเหมือนหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
คิดได้ดังนั้นก็เลยอยากจะลองของขึ้นมา ก็เลยควักปลัดขิกออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
แล้วก็ท้าว่า...ถ้าขลังจริงๆ ก็ขอให้วิ่งทวนน้ำได้เหมือนของหลวงพ่ออี๋สิ...

พูดเสร็จเขาก็เอาปลัดขิกตัวที่ว่าโยนลงในน้ำ ปรากฏว่าปลัดขิกตัวนั้นก็นอนสงบนิ่งปกติไม่มีอาการอะไร
เขาก็เลยไปหยิบไม้มาเขี่ยเพื่อจะเก็บขึ้นมาแบบว่ารู้สึกผิดหวังนิดๆ
แต่พอเอาไม้จะไปเขี่ย ปลัดขิกกลับว่ายหนีได้เหมือนปลาที่มีชีวิต
เขาก็เลยไล่ตามโดยวิ่งเลาะริมฝั่งไปเรื่อยๆ แต่ตามไม่ทัน
ก็เลยตัดสินใจลงไปในน้ำ แต่ปลัดขิกตัวนั้นก็วิ่งทวนน้ำแล้วหายไปเลย
ก็เลยนึกเสียดาย ในใจก็เกิดศรัทธาในหลวงพ่อเชยมากๆ นึกขอขมาต่อท่าน
ในเมื่อไม่ได้ปลัดขิกตัวนั้นแล้ว ก็คิดจะไปขอหลวงพ่อท่านใหม่ ก็เลยรีบขับรถกลับไปยังอาศรมของหลวงพ่อท่าน
พอขึ้นไปถึงยังไม่ทันได้กราบหลวงพ่อเลย พอหลวงพ่อเห็นหน้าเท่านั้น ท่านก็ทักทันทีว่า
....บอกแล้วไงว่า ให้เก็บไว้ดีๆ อย่าเอาไปโยนทิ้ง มันจะเสียดาย
เท่านั้นเองเขาก็รู้สึกสำนึกผิด ผสมกับความศรัทธาอย่างแรงกล้าที่พบของจริงเข้าแล้ว
ก็เลยอ้อนวอนขอปลัดขิกตัวใหม่จากหลวงพ่อแล้วก็เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งหมดให้ฟัง
แต่หลวงปู่ท่านก็ไม่ยอมให้ปลัดขิกกับเขาอีก ทำให้เขาต้องกลับบ้านมือเปล่า....

ปลัดขิกตัวนี้ทำจากไม้กาฝากมะรุม เป็นปลัดที่ท่านเหลาเองกับมือ (มีเสากระโดง/ครีบ)
ท่านจารหมึกไว้แล้วเอาชแล็คเคลือบ เสร็จแล้วท่านลงเหล็กจารอีกทีหนึ่ง ที่หัวปลัดตอกโค๊ต "ช" เอาไว้
ตัวใหญ่ขนาดนิ้วหัวแม่โป้งมือ ยาวประมาณ 4 นิ้ว

 

รายการที่ 49 สมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงยา แช่น้ำมนต์ รุ่นแรก ปี 2515
หลวงปู่เชย อมโร อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

คุณ อนันตภพ บูชาแล้ว EK 136629714 TH



สมเด็จปรกโพธิ์ รุ่นแรก ปี พ.ศ. 2515 เป็นพระที่หลวงปู่เชยตั้งใจทำขึ้น สร้างสมัยที่หลวงปู่เชย เป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดหนองหงษ์
พระรุ่นนี้เป็นพระที่หลวงปู่ทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่ทำแม่พิมพ์เอง ทำมวลสารเอง
อาทิ ว่านมงคลต่างๆ หลายชนิดที่ปลูกเอง และที่ไปขอปันจากลูกศิษย์ที่เล่นว่าน หลวงปู่จะเอามาปลูกที่วัดแล้วรดด้วยน้ำมนต์ทุกวัน
ผงอิทธิเจที่เขียนแล้วลบเอง ผงยา 7 ชนิด ดินมงคลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มากมาย น้ำพระพุทธมนต์จากที่ต่างๆ ผงพระเก่าๆ ที่ชำรุด ฯลฯ

จำนวนสร้าง ประมาณ 500 องค์ (แบ่งถวาย ลพ.สำรวย วัดเขาบายศรีไป 200 องค์)

การอธิษฐานจิต หลวงปู่เชย ปลุกเสกเดี่ยวอยู่ประมาณ 1-2 ปี ก่อนจะเอามาแจก หายากและมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันสูงมาก

ประสบการณ์วัตถุมงคล

เหตุเกิดขึ้นที่ตลาดน้ำพุ จ.จันทบุรี เมื่อสามปีก่อน ลูกศิษย์ของหลวงปู่สองคน ขับรถมาจอดซื้อของกิน แต่ยังไม่ได้ลงจากรถ คนร้ายกราดยิงไม่ยั้ง
แต่แปลก...กระสุนไม่ได้เข้ามาในรถเลยแม้แต่นัดเดียว ไปโดนขอบประตู บ้างตัวถังรถบ้าง ก็เลยรอดแบบปาฏิหาริย์
ทั้งสองคนมีตะกรุด พระสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นแรก และเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่เชย

อีกรายหนึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่ถึงปีที่ อ.ท่าใหม่ มีคนโดนยิงในระยะหวังผลด้วยอาวุธปืนลูกโม่จนหมดโม่ แต่ไม่ออกเลยแม้แต่นัดเดียว
ในคอมีพระปิดตากับปรกโพธิ์รุ่นแรก ของหลวงปู่เชยเท่านั้น

 

ขอจองนะครับ

 

รายการที่ 51 พระปิดตาเนื้อผงกาฝากมะรุม ทาทอง หลังจาร ปี 2543
หลวงปู่เชย อมโร อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี

jimmyuro บูชาแล้ว EK 136783038 TH



พระปิดตาของ ลป.เชย เป็นพระที่น่าใช้มาก เพราะท่านสร้างตามตำราการสร้างพระควัมปติที่เก่าแก่โบราณสืบทอดมาจาก หลวงปู่ผุด วัดวังเวียน
ซึ่งมีวิธีการทำที่สลับซับซ้อน ตั้งแต่ขั้นตอนการทำผง ซึ่งต้องหาตัวยาที่ตำราระบุเอาไว้ทั้งหมด 7 ชนิดเป็นมวลสารหลัก
เอามาเข้าวิธีหุงและอบ ซึ่งหลวงปู่ท่านจะใช้ปี๊บเหล็กใส่ตัวยาทั้งหมดรวมกัน จากนั้นก็จุดไฟรอบๆ ปี๊บเพื่ออบหรือหุงให้ตัวยากรอบจะได้บดง่าย

แล้วนำมาเสกก่อนผสมกับมวลสารสำคัญต่างๆ เช้น ดินขุยปิดปากรูปู กาฝากมะรุม ผงอิทธิเจที่ท่านเขียนลบเอง ว่านต่างๆ
เมื่อพิมพ์เป็นองค์พระเสร็จก็เอามาเสกตามตำราอีก ซึ่งตำราจะระบุเอาไว้หมดทุกขั้นตอน

พระปิดตาของท่านจะกดพิมพ์ทำกันเองในอาศรมท่านแทบทุกรุ่น
แรกๆ หลวงปู่จะทำแม่พิมพ์และกดเองเลย พระเลยออกมาไม่ค่อยสวย
ต่อมาลูกศิษย์ที่ศรัทธาได้แกะพิมพ์ถวายให้ ใครว่างก็มาช่วยกันทำ
โดยหลวงปู่จะสั่งให้ทำกันตรงบริเวณที่จัดเอาไว้ ไม่ให้ออกจากอาศรมจนกว่าจะเสร็จ
วันหนึ่งกดกันได้ไม่กี่องค์ พอได้จำนวนเพียงพอแล้วจะทำลายบล็อคทิ้งทั้งหมดต่อหน้าสักขีพยาน

พระปิดตาองค์นี้ล้อพิมพ์พระปิดตาของ ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
ด้านหลังหลวงปู่ท่านลงเหล็กจารด้วยพระคาถา “จุ จู จัน จู” (เป็นคาถาที่ท่านได้จากในนิมิต)

คาถาอาราธนาพระปิดตา
ท่านบอกว่าจะใช้บทไหนก็ได้หรือไม่มีก็ได้
เพียงแค่ตั้งจิตระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วก็หลวงปู่เชย อมโร ก็พอ ตามแต่จะอธิษฐานเอา

ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณทุเรียนทอด มา ณ ทึ่นี้ด้วย

 

จองด้วยนะครับ

 

จองด้วยนะครับ

 

ขอจองค่ะ......................

 

โอนเสือไม้แกะอ.ธรรมนูญแล้วครับ ยอด1200.17.....ที่อยู่ทางpmนะครับ

 

จององค์นี้นะครับ

 

รายการที่ 56 เหรียญพรหม รุ่น "ตลาดเจ้าพรหม" เนื้อทองแดงรมดำ ปี 2525
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชา 1,500-



จัดสร้างเป็นที่ระลึกในการสร้างศาลพระพรหม ณ ตลาดเจ้าพรหม พระนครศรีอยุธยา
โดยคณะกรรมการสร้างศาลฯ ได้นำเหรียญมาขอความเมตตาจาก ลป.ดู่ อธิษฐานจิตให้ที่วัดสะแก

 

รายการที่ 57 พระพรหมเนื้อผง รุ่น "ตลาดเจ้าพรหม" ปี 2525
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชาองค์ละ 600- (มี 8 องค์)



จัดสร้างพร้อมกับเหรียญพระพรหม รุ่น "ตลาดเจ้าพรหม"

 

รายการที่ 58 พระเหนือพรหม พิมพ์กลาง ปี 2519 ขึ้นธรรมธาตุ
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชา 5,000-




พระเหนือพรหมนี้จัดเป็นพระเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
และเป็นหนึ่งในพระเครื่องที่ท่านค่อนข้างหวงไม่ค่อยแจกใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่ปฏิบัติได้ถึงขั้น
พระมานิตย์ วัดสะแก ได้เล่าให้ฟังว่า...ในสมัยที่ท่านยังไม่ได้บวชนั้น ท่านได้มาปฏิบัติกับหลวงปู่ดู่เป็นประจำ
จนวันหนึ่งหลวงปู่ดู่ก็ได้มอบพระเหนือพรหม พิมพ์ใหญ่ ให้องค์หนึ่ง ยังความดีใจให้กับท่านมาก
และก็เป็นที่อิจฉาของเหล่าศิษย์คนอื่นที่อยากได้ ก็เฝ้ามาแวะเวียนขอให้ท่านช่วยไปขอหลวงปู่ให้สักองค์
ท่านก็เลยไปลองขอหลวงปู่ท่านดู หลวงปู่ก็ให้ท่านมา 200 องค์ได้ แต่ก่อนให้ๆ ต้องให้สัจจะกับท่านว่า
ตราบใดที่ท่านยังอยู่ ห้ามแจกให้ใคร สำหรับพระพิมพ์นี้ท่านขอแจกเอง
ซึ่งก็มีคนได้ไปส่วนหนึ่ง หลังหลวงปู่มรณภาพพระเหนือพรหม พิมพ์ใหญ่นี้เหลืออยู่ประมาณครึ่งปี๊บ
ทางวัดจึงได้นำมาปั๊มตรายางและออกให้บูชาเพื่อหาเงินเข้าวัด

เนื่องจากหลวงปู่ให้ความสำคัญกับพระพิมพ์นี้มาก ก็ยิ่งทำให้ลูกศิษย์ยิ่งอยากได้
แต่เมื่อปฏิบัติกันยังไม่ถึงขั้น ก็เลยขอหลวงปู่หล่อพระเหนือพรหม เนื้อโลหะ ขึ่นในปี 2522 เพื่อใช้กัน

การสร้างพระพรหมของหลวงปู่ดู่ ท่านได้คตินิยมมาจากบทพาหุง (ชัยมงคลคาถา บทที่ 8)
เป็นปางที่พระพุทธเจ้าไปปราบทิฐิของท้าวพกาพรหม เพราะท้าวพกาพรหมถือตนเองว่าเป็นใหญ่ที่สุดในสามโลก ไม่กลัวผู้ใด
พระพุทธองค์ต้องการจะโปรดท้าวพกาพรหม ซึ่งเป็นโยมพ่อของท่าน จึงทำให้เกิดการประลองฤทธิ์กันขึ้น
โดยตกลงกันว่าจะซ่อนหากัน โดยให้ท้าวพกาพรหมไปซ่อนก่อน ท้าวพกาพรหมก็ตกลงและไปซ่อนทั้งสามโลก
ไม่ว่าจะเป็นพรหมโลก ยมโลก โลกมนุษย์ พระพุทธองค์ก็ทรงหาท้าวพกาพรหมพบ
แม้ท้าวพกาพรหมจะแปลงตนให้เล็กที่สุดแล้วไปซ่อนในเม็ดทรายในมหาสมุทรเม็ดที่เล็กที่สุด พระพุทธองค์ก็ทรงหาพบ
ท้าวพกาพรหมจึงยอมแพ้ต่อพระพุทธองค์แต่ยังไม่ยอมเสียทีเดียว โดยกล่าวว่าท่านหาเราแล้วแต่เรายังไมได้หาท่านเลย จึงให้พระพุทธองค์ไปซ่อนบ้าง
พระพุทธองค์ทรงแปลงพระวรกายให้เล็กลงและไปประทับบนมวยผมของพระพรหม พรหมนั้นหาไปทั่วทั้ง 3 โลกแต่ก็ไม่สามารถหาพระพุทธองค์พบ จึงอ่อนใจและยอมแพ้ในที่สุด
ดังนั้นพระพุทธองค์จึงเสด็จลงมาจากมวยผมของพระพรหม เมื่อพระพุทธองค์ทรงเห็นว่าพรหมเริ่มลดทิฐิมานะบ้างแล้ว ก็ได้ทรงแสดงธรรมให้ฟัง
ท้าวพกาพรหมนั้นก็สำเร็จโสดาปัตติผลกลายเป็น “พระพรหม” ในปัจจุบัน (แต่ขณะนี้เป็นพระอนาคามีแล้ว จะเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในยุคพระศรีอาริยเมตไตรย)
หลวงปู่ดู่บอกว่า การสร้างพระพุทธองค์ไว้บนเศียรของท่าน ผู้ที่นำไปใช้เมื่อปฏิบัติดีสามารถชนะได้ทั้งสามโลก เหมาะแก่การนำไปบูชาเพื่อให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง

ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายมากแล้ว ลูกศิษย์นั่งฟังธรรมกับหลวงปู่ประมาณ 10 กว่าคน มีลูกศิษย์ 2 คนได้ยกพรหมใส่กะละมังมาให้ท่านปลุกเสก
หลวงปู่เลยบอกว่า พวกแกจงร่วมปลุกเสกและอนุโมทนากับข้า
ที่ท่านพูดเช่นนั้นไม่ใช่กำลังบุญของท่านจะไม่พอ แต่ท่านอยากให้ลูกศิษย์นี้ได้บุญกับท่าน
เมื่อมีคนนำพรหมไปใช้กราบไหว้แล้วแคล้วคลาดปลอดภัยและนำไปปฏิบัติ ลูกศิษย์เหล่านั้นก็จะได้บุญกับท่านด้วย
พอท่านบอกว่าทุกคนอธิษฐาน ทุกคนก็หลับตาลง มีเสียงดังแกรกๆ ลูกศิษย์ที่หลับตาคิดว่าหลวงปู่เอามือลงไปกวนในกะละมังจึงเกิดเสียงดังขึ้น
แต่ที่จริงแล้วหลวงปู่เพียงเอามือแตะที่ขอบกะละมังเบาๆ พรหมก็ลอยขึ้นมาเหมือนดั่งพายุหมุนไปรอบๆ
ซึ่งมีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่งไม่ได้หลับตาจึงเห็นเหตุการณ์นั้น (คุณแม่ของอ.ศุภรัตน์ แสงจันทร์)
แต่หลวงปู่ก็เห็นศิษย์คนนั้นลืมตาอยู่ท่านจึงยกมือห้าม เป็นการบอกใบ้ว่าไม่ให้พูดไป

ในวันที่หลวงปู่ปลุกเสกพรหมนั้นไม่มีใครได้ขอหลวงปู่ไปบูชาสักคนเดียว
แต่พอหลวงปู่ละสังขารไปแล้วศิษย์คนที่เห็นเหตุการณ์คนนั้นจึงบอกกับศิษย์คนอื่นว่า
วันที่หลวงปู่ปลุกเสกพรหม ท่านเอามือแตะขอบกะละมังเบาๆ พรหมลอยขึ้นมาแล้วหมุนไปรอบๆ สูงท่วมหัวเลยแหละ
ทุกคนเมื่อรู้ดังนั้นบางคนหลวงปู่เคยให้พรหมไว้องค์หนึ่งบ้าง บางคนก็ยังไม่ได้จึงเกิดความเสียดาย
และเมื่อพบพระพรหมหลวงปู่เมื่อใดมักจะขอเช่าหรือขอบูชาจากผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะลูกศิษย์รู้ดีว่าพระของหลวงปู่ทุกรุ่น
หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า ข้าเสกไว้ดีแล้ว อธิษฐานตามความชอบ จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย
กันผีปีศาจ กันคุณไสยต่างๆ กันกระทำย่ำยี แม้ติดตัวไปที่ใดเทวดาเทพพรหมเห็นผู้ที่นำพระไปใช้ปฏิบัติและภาวนาอยู่เป็นเนืองนิจว่า

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

เขาเหล่านั้นอยู่ในที่ใด ผีปีศาจวิญญาณ เทพพรหมทั้งปวง ก็จะอนุโมทนาบุญด้วยและคอยปกปักรักษาเขาเหล่านั้นตลอดไป
พระเครื่องของหลวงปู่ไม่เหมือนพระเครื่องของที่อื่นๆ เขาว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ก็รู้ไปตามเขาว่า เพราะไม่สามารถเป็นพยานให้กับตนเองได้
แต่ของหลวงปู่ท่านปลุกเสกเพื่อให้นำไปปฏิบัติและติดตัว ผู้ที่นำไปปฏิบัติและติดตัวก็จะสามารถเห็นและรู้ในสิ่งที่ลี้ลับ
ในที่สุดก็เป็นพยานแก่ตนเองได้ไม่ต้องมีคนมาบอกมาเล่าว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้
เปรียบเสมือนว่ามีคนกินมะม่วงสุก แล้วมาบอกเราว่าหวานชื่นใจเหลือเกิน
จะบอกและอธิบายเพียงไร เราก็ไม่สามารถจะเข้าใจได้เพราะเกิดมาเราไม่เคยกินมะม่วงผลนั้น
แต่ถ้าเราได้กินเราก็จะรู้ว่ารสชาติของมันเป็นอย่างไร ไม่ต้องมีคนมาบอก เขาเรียกว่าเป็นพยานแก่ตนเองได้

 

รายการที่ 60 พระปิดตาพิมพ์มีหู เนื้อปูนผสมผงจักรพรรดิ ปี 2520
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชา 500-