ท่าน wasabi ท่าน Nirvana และทุกท่าน สมเด็จนอกตำราครับ

ขออกตัวเลย นะครับ

สมเด็จจิตรลดาไม่ได้ศึกษาเลย
อีกอย่าง ของปลอมเหมือนมากปาดคอเซียนมาเยอะปล้ว ครับ

 

อย่างที่บอกนะครับ จะนำวิธีการศึกษาพระพิมพ์สมเด็จวัดระฆังมาให้ท่านได้ชมกัน ข้อมูลทั้งหมดนำมาบางส่วนจากหนังสือของท่าน อ.พน นิลผึ้ง ผู้ซึ่งศึกษาเรื่องนี้มาชั่วชีวิต ตอนนี้ท่านเป็นข้าราชการบำนาญ จบปริญญาตรี เรียนต่อด้านโบราณคดีที่ม.ศิลปากร เรื่องพุทธศิลป์ของพระพิมพ์สมเด็จท่านจะอธิบายอย่างละเอียดในหนังสือเล่ม7ของท่าน นี่คือประวัติคร่าวๆของท่านครับ หากจะให้เขียนทั้งหมดคนเขียนจะเบื่อซะก่อนครับ

ขอฝากทุกท่านด้วยครับ ข้อมูลนี้คืออีกหนึ่งทางเลือกในการศึกษาพระพิมพ์สมเด็จวัดระฆัง จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละบุคคล ไม่ได้มาบอกให้ท่านเชื่อ ไม่ได้ให้ท่านไปเช่าหา (ต่อให้ท่านไปหาก็ไม่รู้จะได้หรือเปล่า) และผมก็ไม่มีให้เช่า เพราะผมก็หาอยู่เหมือนกัน อิๆ

จะลงเป็นตอนๆไปครับ ไม่กี่วันก็คงจบ แต่คิดว่าพวกท่านคงไม่อยากให้จบแน่ๆ5555

อ้อ....ลืมบอกไปว่าไม่ต้องชมเรื่องรูปถ่ายที่คมชัดเกินไปครับ ทั้งหมดฝีมือผมเองครับ แฮะๆๆ

 

ฮ่าๆๆ.....ร้ายกาจมากท่าน ชด ได้ทั้งนิยายไทย นิยายจีน เลยนะท่าน

 

อ้าว....ท่านอาจารย์ ออกตัวไปก่อนได้ไงครับ กรรมการยังไม่ทันได้ยิงปืนสตาร์ตเลย เอาเปรียบกันนะครับ อิๆๆๆๆๆๆrabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_away

 

ก็ขอต่อยอดจากท่าน 24hrs. หน่อย นะครับ

ท่าน อจ.พน ปีนี้อายุย่าง 72 ขวบ ท่านดูพระ/เล่นพระมาตั้งแต่ปี 2506 เชื่อว่าก่อนเสี้ยนหลายคนในสมาคมฯเกิดซะอีก
ท่านเป็นคนบ้านลาด เพชรบุรี และถือได้ว่าเป็นก้นกุฏิของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ดังนั้นท่านจึงรู้เรื่องเหรียญดังอีกเหรียญหนึ่งของเมื่องไทยคือ รุ่นปี 03 อันเลื่องลือ แต่จะรู้มายังงัยไปฟังจากปากท่านดีกว่า ครับ

และด้วยอานิสงค์หนังสือทั้งสี่เล่มของอจ.พน ทำให้ Nirvana ไปได้พระสมเด็จนอกพิมพ์ที่เซียนไม่เล่นได้พอสมควร เพราะท่านอาจารย์ได้บอกไว้แล้วว่า เนื้อหามาก่อนพิมพ์ อจ.เองก็ยังจำไม่หมด แต่อาศัยจุดนี้แหละ ครับ ดังนั้นถ้ารักจะเล่นสายนี้ก็ไม่ต้องไปเดินตามเสี้ยนให้เสียเวลา ไปหาเอาเองก็ได้ ที่ได้มานี่ก็ตามแผงตามตลาดทั้งนั้น สุดแต่สายตาวาสนาใครจะดีกว่ากัน ของแบบนี้ไม่มีกฏตายตัว ครับ

แล้วถ้าใครซื้อหนังสือ ทีเด็ดพระสมเด็จ มาอ่านดู จะเห็นมีชื่อชาวต่างชาติคนนึงปรากฏอยู่หลายหน้าคือ Richard Wong ซึ่งเป็นลูกศิษย์สายนี้เช่นกัน
เท่าที่เคยนั่งคุยกันอยู่กว่า 4 ช.ม. แลกเปลี่ยนพระกันดูพบว่า หมอนี่เป็นคนสิงคโปร์ที่มีความรู้เรื่องพระสมเด็จดีคนนึงทีเดียว แล้วยังสามารถบอกถึงเหตุผลว่าจุดไหน ใช่/ไม่ใช่เพราะเหตุใดในแง่วิทยาศาตร์

ถึงขนาดที่หมอไปซื้อกล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 100/200 เท่า มาส่องดูเนื้อพระสมเด็จด้วยตนเอง ใครไปเจอเจ๊กพูดไทยไม่ชัดส่องดูพระสมเด็จตามแผง อย่าไปดูแคลนเป็นอันขาดครับ.....อิอิอิอิอิอิ

 

นายหว่องคนนี้เคยโดนเซียนหลอกหมดไปหลายครับ ตอนหลังเลยมายึดแนวอาจารย์พนและอาจารย์อัครเดชและไปเข้าประกวดของบุญพระเครื่องแทบทุกครั้ง จนเจออะไรบางอย่างตอนหลังเลยมาแนวตัวเอง เข้าพี่เกิ้ลดูเบ็บเขาก็สวยดีครับ

 

ขอบพระคุณยิ่งครับท่านอ.nirvana รู้ลึกรู้ละเอียดจริงๆครับ ท่านว่ามีชาวต่างชาติมาขอเรียนรู้เกี่ยวกับพุทธศิลป์ของไทยกันหลายคนเลยครับ เรื่องกล้องจุลทรรศน์ ผมก็เล็งๆกล้องที่ว่านี่เหมือนกันครับ (kiss)(kiss)(kiss)

 

เสริมอีกนิดสิ่งที่เซียนเกลียดคือวิทยาศาสตร์ครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือหรือวิธีการตัวอย่างเช่นกล้องจุลทัศน์ เอ็กเรย์ ออร่า หรือการย่อยสลายของมวลสาร การยุบ การงอกฯลฯ พระหลักล้านส่วนใหญ่ตรวจแล้วไม่ผ่าน ท่านคิดเองแล้วกันว่าพระเหล่านี้เก่าจริงหรือเปล่า

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับท่านทรงกลด พวกนี้กลัววิทยาศาสตร์ แต่เวลาขายพระอ้างพุทธคุณ เมตตามหานิยม ยิงฟันไม่เข้า ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นจริง สร้างเรื่องปั่นราคา ตอนนี้ก็ขุนแผน กรุวัดอัมพวัน อาทิตย์ก่อนเพิ่งมีหญิงสาวที่เป็นลูกค้าผม เห็นผมชอบดูพระ ถามผมว่าสนใจกรุนี้ไหม พร้อมโชว์รูปในโทรศัพท์มือถือให้ผมดู ส่งlineมาให้ บอกว่าพี่ชายเช่ามาจากวัดตอนแตกกรุสามองค์องค์ละ50,000 ปล่อยไปสององค์แล้วองค์ละ120,000 เหลือองค์เดียวลดให้ผมพิเศษ90,000 ผมบอกคิดดูก่อน รูปเหมือนที่นสพ.เดลินิวส์ลงข่าวเลย ผมกะจะนำมาลงให้ทุกท่านชม ปรากฎภาพที่เซฟไม่รู้หายไปไหน จนกระทั่งท่านลีฟนำมาพูดในกระทู้ท่านนั่นแหละครับ

 

ขนลุกเลยครับ อ.Nirvana ตอนนี้ผมอาศัยอยู่ เขตบ้านลาด
วิ่งรถผ่านวัดเขาบันไดอิฐทุกวันเลยครับ
ขอรูปหน้าปกหนังสือได้ไหมครับ จะลองไปหาดูครับ
และขอบพระคุณอาจารย์และพี่ฯทุกท่านไว้ ณ.ที่นีัเลยนะครับ
ที่เผยแพร่ วิชา ความรู้ เป็นวิทยานทานจริงฯ ขอบคุณครับ

 

ผมมีอยู่องค์ครับ "ท่านถ้ำฮวย" องค์นี้สวยถูกใจความเก่าของทองคำเปลว และรักสีอมแดงเลือดนก เลยเช่าไว้ 500 บาท เอาไว้ศึกษาต้องออกตัวเลยครับว่าปลอมแน่ๆๆ

 

ได้ความรู้ดีจริงๆ

ผมตามอ่านมาหลายวัน ได้ความรู้มากเลยครับท่านพี่ เป็นกระทู้ที่เดิน สายกลาง ในการสะสมพระ ให้คนที่รักพระชอบสะสมพระ อยากสะสมมากขึ้น หรือมีพระของปู่ย่าตายาย ที่เก็บไว้ สามารถมาเช็คได้ โดยไม่ยึดติดว่า จะต้องเป็นแบบที่ วงการเล่นหากัน การบูชาพระเครื่องในลักษณะนี้ เป็นสิ่งที่ดีงามครับท่านพี่ แถมมีอาจารย์เก่งๆหลายท่านมาให้ความรู้ ยังคงติดตามเหมือนเดิมครับท่านพี่ เป็นกำลังใจให้ครับ

 

ครับ เป็นปกติ เพราะคนเราโง่มาก่อนฉลาดเสมอ

ตามที่เคยบอกไว้ว่า Nirvana จับพระใหม่ๆโดนไป 50/50 เลย ครับ
ดีที่ไม่ได้เล่นพระแพง ไม่งั้นล้มละลายไปนานแล้ว
สุดท้ายต้องเอาไปใส่โอ่งดินบรรจุกรุอย่างที่เคยบอกไป

ชาวต่างชาติมาเจอวิชามารประเทศไทย ขนหัวลุกทุกคนนั่นแหละ ครับ
เพราะบ้านเราเมืองพุทธนี่สุดยอดวิชามารเช่นกัน

แล้ว Wong คนนี้แหละ ครับ ที่เริ่มและกล้าขูดเนื้อพระสมเด็จไปตรวจคาร์บอน 14 ในแลป โดยไม่นึกเสียดายแต่ประการใด เค้าเอาจริงจนรู้จริงนั่นแหละ ครับ

 

เรียนท่านอาจารย์ ท่านได้เปิดทางสว่างการข้าน้อยและชาวยุทธอีกจำนวนมากที่ยังเข้าใจว่าสมเด็จแท้ในโลกกานี้มีเพียงไม่กี่พิมพ์ตามที่ชาวเสี้ยนกำหนดซึ่งข้าน้อยก็ไม่ทราบว่าเหล่าเสี้ยนไปนั่งดูหลวงพ่อโตกดพิมพ์อยู่หรือไม่ แถมกำหนดช่วงเวลาที่ท่านกดพระแค่ 4-5 ปี เท่านั้น แต่ต้องขอบคุณเหล่าเสี้ยนที่ทำให้พระสมเด็จที่มีคุณค่าทั้งเนื้อหามวลสารหลากหลายมิติส่องเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ (ห้ามส่องแล้วใจลอยว่าจะปล่อยเช่าเท่าไหร่นะครับมันจะหลงทาง)
พิมพ์ขององค์พระที่มีเอกลักษณ์ที่ถูกกำหนดอัตลักษณ์ ก่อนที่จะแกะพิมพ์ยิ่งศึกษาก็ยิ่งเห็นถึงความสามารถของช่างไทยและอัจริยภาพของลวงพ่อโต ที่มากมายเกินกว่าชนชาวเสี้ยนกำหนด ขอบคุณอาจาร์ยทุกท่านในนี้ที่สละเวลาให้คำตอบกลับทุกคำถามครับ ข้าน้อยคงต้องเดินทางไปหอคำภีร์ ให้จัดเก็บ คำภีร์ยุทธทั้ง 6+1 ก่อน

 

ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ ครับ

ทุกท่านที่เล่นพระกล้ารับรองในหลักการนี้หรือเปล่า ล่ะครับ

ถ้ายอมรับได้จะไปกลัวอะไรกับการทดสอบไม่ว่าวิธีไหน
รักจะเล่นกันจริงๆ เล่นให้ถึงขั้น ก็ต้องสุดๆไปเลย
อย่าไปโง่เชื่อแต่เสี้ยน เป่่าวิชาครอบกะลาเด็กรุ่นหลัง

ยิ่งเสี่ยใหญ่/น้อยโง่ๆที่วิ่งไปให้เค้าหลอกนี่ยิ่งน่าสมเพช นะครับ

พระสมเด็จหลักล้านที่กลัวการทดสอบน่าจะมีเยอะ
เอาแค่พูดกันว่าองค์ครูเอื้อ ยังเห็นโชว์กันมากกว่า 1 องค์ แล้วจะให้คิดยังงัย ตกลงอันไหนเก๊/แท้กันล่ะ ครับ

อจ.ใหญ่ ยังเคยเล่าให้ฟังว่า มีเสี่ยใหญ่ฮ่องกงมาเช่าบูชาพระสมเด็จกับเสี้ยนใหญ่แถวเมืองนนท์ไปร่วมร้อยล้าน ไปทำ Carbon 14 Test ไม่ผ่านมาขอคืน แต่ไม่ให้เค้า ตกลงเสี่ยเลยต้องไปลากตำรวจชั้นนายพลไปขอคืนถึงได้ เรื่องนี้เค้าปิดให้แซ่ดกันทั้งวงการ กลัวจะทำมาหากินด้วยกันไม่ได้

ตราบใดที่วงการพระเครื่องเมืองไทยยังเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีทางเจริญหรือพัฒนาไปได้เพราะคนส่วนใหญ่ยังเชื่อเสี้ยนอยู่ แต่ไม่เคยมองว่าเสี้ยนเป็นใคร มาจากไหน เบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่่างไร แต่ดันไปเชื่อสนิท....เขลาจริงๆ :'(

 

จริงๆว่าจะเล่นกล้องจุลทรรศน์อยู่เหมือนกัน ครับ

แต่รอว่าสร้างบ้านเสร็จก่อนจะได้ไม่ต้องเก็บย้ายไปมาให้สูญหาย

ถ้าทุกท่านมีเวลาทำแลปแบบนี้และหมั่นสังเกต เอาของจริงมาลงกล้องเปรียบเทียบกันดูแล้ว คงจะถูกหลอกกันยากล่ะครับ

เพื่อนฝูงที่เล่นของเก่าแบบ ซื้อ/ขาย ระดับประเทศก็ซื้อมาใช้เหมือนกัน
เพราะต้องตราจสอบก่อนจะส่งให้ลูกค้ากันการหน้าแตกกลับมา

ชาวต่างชาติที่สะสมวัตถุโบราณมีมากมาย นะครับ
ราคาสากลโลกก็แพงอย่างที่คาดไม่ถึง เพราะเค้ามีสถาบันการประมูลใหญ่ๆที่มีอายุเป็นร้อยๆปีอย่าง ซอลธบี้หรือคริสตี้ มาเป็นตัวกลาง

สถาบันเหล่านี้ใช้ผู้ชำนาญการที่ทั่วโลกยอมรับและการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ของวัตถุโบราณที่เข้าประมูลแต่ละชิ้น มีการอ้างที่มาที่ไปอย่างชัดเจน

ถึงแม้ว่าจะไม่เปิดเผยผู้ชนะการประมูล (เพราะอาจจะเป็นมหาราชา มหาเศรษฐี ประธานาธิบดี นักแสดงนักร้องคนดัง ฯลฯ) ที่ไม่ต้องการให้ใครทราบ แต่ทุกคนต้องหักภาษี ณ.ที่จ่าย เป็นรายได้เข้ารัฐ นะครับ

 

วันหลังคงต้องออกตัวว่า ขณะนี้ไม่รับดูพระสมเด็จ

เพราะกำลัง "ตากลับ" ดูแล้วเบลอ
เนื่องจากมีผู้ส่งมาให้ดูทาง pm กันอย่างชุกชุม การจราจรติดขัดไปหมด

พูดเรื่องนี้แล้ว อจ.ใหญ่ยังเคยบอกว่า ตอนเขียนหนังสือใหม่ๆ ประกาศไปว่าจะดูพระสมเด็จให้ฟรี ปรากฏว่ามากันมืดฟ้ามั่วดิน รถติดตั้งแต่ในหมู่บ้านทุ่งครุไปยันพระประแดง.......อิอิอิอิอิ (เดาเอา นะครับ)

เพื่อนบ้านเลยชยันโตอจ.ใหญ่กันถ้วนหน้าเพราะออกไปไหนไม่ได้ ครับ
นี่กะจะหาทางออกให้เนียนๆแบบ อจ.ใหญ่ น่ะครับ...5555555

 

นิทานกรุแตกนี่มีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์พร้อมกับมีการปั่นราคาพระนั่นแหละ ครับ

ถ้าฟังว่าที่โน่นที่นี่กรุแตก ก็ฟังหูไว้หูพิจารณาดูกันให้ดีก่อน
ไม่งั้นก็จะโดนต้มลงกรุไปด้วยกันนั่นแหละ ครับ

คนที่ถูกต้มมาก่อน ก็ไปหลอกเอาเหยื่อรายอื่นมาต้มอีกเช่นกัน
เป็นอย่างนี้มานานหนักหนาแล้ว ครับ

 

ไม่ต้องดูรูปหน้าปก หรอกครับ

ไปเดินหาซื้อได้เลยเพราะมียี่ห้อเดียว คนเขียนคนเดียว

แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่า
ถ้าไปเจอเล่ม 1 ที่ยังวางขายอยู่ อันนั้นของปลอมครับ
เพราะเล่มของจริงหมดไป 10 ปี แล้ว

แต่ที่ว่าปลอมน่ะ ปลอมเฉพาะรูปพระสมเด็จตรงปกหน้าและบางรูปในนั้น
ส่วนเนื้อหาภายในทั้งหมดยังเป็นของท่าน อจ.ใหญ่

ฟังแล้วงงไหม ครับ.....แม้กระทั่งหนังสือยังปลอม...555555555555

แต่จะปลอมตรงใหน ตรงไหนแท้ตรงไหนปลอม ไว้ไปคุยกับอจ.เองดีกว่า นะครับ (kiss)

 

พี่ผมบอกสมเด็จเล่นยากเห็นท่าจะจริง หนังสือยังปลอม เลย