อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปุณฑ์, 28 มีนาคม 2013.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    สาระการปฏิบัติเริ่มที่ตรงนี้นะ

    หากรู้สึกได้ที่ใจตัวเอง ว่าไม่สงบแล้วแลดูที่ใจอยู่ได้เนืองๆ

    สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้

    หากฝึกได้บ่อยๆเนืองๆ แน่นอนครับแบบนี้
     
  2. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    วิธีปฎิบัติตนในพระพุทธศาสนานั้น จะต้องเป็นไปตามลำดับๆดั่งที่พระองค์กล่าวไว้
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าวการตั้งอยู่ในอรหัตตผล ด้วยการไปครั้งแรก
    เท่านั้นหามิได้ แต่การตั้งอยู่ในอรหัตตผลนั้น ย่อมมีได้ ด้วยการศึกษาโดยลำดับ ด้วยการทำ
    โดยลำดับ ด้วยความปฏิบัติโดยลำดับ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็การตั้งอยู่ ในอรหัตตผล ย่อมมีได้
    ด้วยการศึกษาโดยลำดับ ด้วยการทำโดยลำดับ ด้วยความปฏิบัติโดยลำดับอย่างไร? ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย กุลบุตรในธรรมวินัยนี้ เกิดศรัทธาแล้วย่อมเข้าไปใกล้ เมื่อเข้าไปใกล้ย่อมนั่งใกล้
    เมื่อนั่งใกล้ย่อมเงี่ยโสตลง เมื่อเงี่ยโสตลงแล้วย่อมฟังธรรม ครั้นฟังธรรมย่อมทรงธรรมไว้ย่อมพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงไว้แล้ว เมื่อพิจารณาเนื้อความอยู่ ธรรมทั้งหลายย่อมทน
    ได้ซึ่งความพินิจ เมื่อธรรมทนความพินิจได้อยู่ ฉันทะย่อมเกิด เมื่อเกิดฉันทะแล้ว ย่อมอุตสาหะ
    ครั้นอุตสาหะแล้ว ย่อมไตร่ตรอง ครั้นไตร่ตรองแล้ว ย่อมตั้งความเพียร เมื่อมีตนส่งไปแล้ว
    ย่อมทำให้แจ้งชัดซึ่งบรมสัจจะด้วยกาย และย่อมแทงตลอดเห็นแจ้งบรมสัจจะนั้นด้วยปัญญา.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศรัทธาก็ดี การเข้าไปใกล้ก็ดี การนั่งใกล้ก็ดี การเงี่ยโสตลงก็ดี การฟังธรรม
    ก็ดี ความพิจารณาเนื้อความก็ดี ธรรมอันทนได้ซึ่งความพินิจก็ดี ฉันทะก็ดี อุตสาหะก็ดี
    การไตร่ตรองก็ดี การตั้งความเพียรก็ดี นั้นๆ ไม่ได้มีแล้ว เธอทั้งหลายย่อมเป็นผู้ปฏิบัติพลาด
    ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติผิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษเหล่านี้ ได้หลีกไปจากธรรมวินัยนี้ ไกลเพียงไร.

    นี่คือการปฎิบัติ และเราจะต้อลทำอะไรบ้าง มีอยู่5อย่างที่ท่านจะต้อง ดั่งที่พระองค์กล่าวคือ ศรัทธา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา
    สิ่งทั้งห้านี้ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ เพราะ5อย่างนี้จะทำให้ท่านสำเร็จทุกอย่างที่ท่านปราถนา ไม่ใช่กานั่งสมาธิโดยเราไม่รูเรื่องอะไรเลย พระองค์กล่าวว่าการสะสมสุตตะนั้นเปลี่ยบเหมือนการสะสมเสบียงสะสมอาวุธ หมายความว่าสะสมการอ่านการฟังให้มาก ไว้เมื่อออกรบ ก็จะมีอาวุธไว้กำจัดกิเลสได้ง่ายครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  3. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984

    แน่นอนครับ..มีเรื่องวิ่งเหรอ..รึหลับ ..ครับพี่ปราบ ..อิอิ(k)
     
  4. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    เอาพระวจนะ มาอ้างอิงด้วยนะ..
    ที่บอกว่า สามารถจำคำพระวจนะมากล่าวได้ ถ้าเทียบเคียงแล้วลงได้ หน่ะ


    อย่ายกเอามหาปเทสสี่ มา
    เพราะนั่นเอาไว้ใช้กับพวกที่ชอบอ้างคำพูดตนว่าเป็นพระวจนะ
    ซึ่งใครๆก็รู้ว่าเป็นใคร ??
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ทรงห้ามบัญญัติเพิ่มหรือตัดทอนสิ่งที่บัญญัติไว้
    ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุทั้งหลาย จักไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่เคยบัญญัติ จักไม่เพิกถอน
    สิ่งที่บัญญัติไว้แล้ว, จักสมาทานศึกษาในสิกขาบทที่บัญญัติไว้แล้วอย่างเคร่งครัด
    อยู่เพียงใด
    , ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้งหลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น.
    มหา. ที. ๑๐/๙๐/๗๐.
    สำานึกเสมอว่าตนเองเป็นเพียงผู้เดินตามพระองค์เท่านั้น
    ถึงแม้จะเป็นอรหันต์ผู้เลิศทางปัญญาก็ตาม
    ภิกษุทั้งหลาย ! ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ ได้ทำามรรคที่ยังไม่เกิดให้
    เกิดขึ้น ได้ทำามรรคที่ยังไม่มีใครรู้ให้มีคนรู้ ได้ทำามรรคที่ยังไม่มีใครกล่าวให้เป็นมรรค
    ที่กล่าวกันแล้ว ตถาคตเป็นผู้รู้มรรค (มคฺคญฺญู) เป็นผู้รู้แจ้งมรรค (มคฺควิทู) เป็น
    ผู้ฉลาดในมรรค (มคฺคโกวิโท). ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนสาวกทั้งหลายในกาลนี้ เป็น
    ผู้เดินตามมรรค (มคฺคานุคา) เป็นผู้ตามมาในภายหลัง.
    ภิกษุทั้งหลาย ! นี้แล เป็นความผิดแผกแตกต่างกัน เป็นความมุ่งหมายที่แตกต่างกัน
    เป็นเครื่องกระทำาให้แตกต่างกัน ระหว่างตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ กับภิกษุ
    ผู้ปัญญาวิมุตติ.
    ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๒/๑๒๖.

    ก็มหาปเทสนั้นแหล่ะที่สั่งไว้ จะให้เอาอะไรหรอครับ ชัดเจนสุดๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  6. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    มาถึงตรงนี้แล้วยังไม่เข้าใจหรอว่าพระองค์ทรงปราถนาใหฟังแต่คำของพระองค์ เพราะตรงและถูกที่สุด ส่วนคำสรรเสริญที่พระองค์สรรเสริญกับสาวกนั้นก็เป็นสิ่งที่เหมาะที่ควรยามใดที่สาวกพูดกล่าวได้ตรงธรรม แต่สาวกก็ยังเป็นผูที่ปฎิบัติตามมรรคของพระองค์ซึ่งตำพูดก็มีผิดบ้้้้้าง พระองค์จึงให้เราควรศึกษาธรรมะจากพระองค์เพราะตลอดที่พระองค์ทรงตรัสรู้จนถึงดับขันธปรินิพพานไม่มีคำใดเลยที่ไม่สอดคลองกันลงตัวด้วยอรรถและพยัญชนะ เป้นอกาลิโก เคยไดยินคำสาวกที่แต่งใหม่เป็นอกาลิโกมั้ยครับ
     
  7. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ไม่ต้องยกพระวินัยมา..
    บทนี้ เป็นบทว่าพระอรหันต์เป็นผู้เดินตามมรรค
    พระพุทธองค์ ได้ทำามรรคที่ยังไม่มีใครกล่าวให้เป็นมรรคที่กล่าวกันแล้ว
    ตถาคตเป็นผู้รู้มรรค (มคฺคญฺญู) เป็นผู้รู้แจ้งมรรค (มคฺควิทู)
    เป็นผู้ฉลาดในมรรค (มคฺคโกวิโท). ภิกษุทั้งหลาย !
    ส่วนสาวกทั้งหลายในกาลนี้ เป็น ผู้เดินตามมรรค (มคฺคานุคา)

    ขออย่างเดิมนะ..ขอเป็นพระวจนะ
    ที่ว่า ห้ามฟังคำสาวกแต่งใหม่นะครับ
    ที่บอกว่า สามารถจำคำพระวจนะมากล่าวได้ ถ้าเทียบเคียงแล้วลงได้ หน่ะ
    เอาพระวจนะ มาอ้างอิงด้วยนะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  8. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    พระพุทธองค์ ได้ทำมรรคที่ยังไม่มีใครกล่าวให้เป็นมรรคที่กล่าวกันแล้ว
    ตถาคตเป็นผู้รู้มรรค (มคฺคญฺญู) เป็นผู้รู้แจ้งมรรค (มคฺควิทู)
    เป็นผู้ฉลาดในมรรค (มคฺคโกวิโท). ภิกษุทั้งหลาย !
    ส่วนสาวกทั้งหลายในกาลนี้ เป็น ผู้เดินตามมรรค (มคฺคานุคา)

    ไม่มีใครกล่าวคำสอนได้ดังพระศาสดา
    ขนาดมีบทสวดแล้วก็ตาม ก็อยากที่จะพูดได้ตามพระองค์
    แต่จะอ้างว่าคำพูดตนเป็นพระวจนะ(ความหมายก็ตาม) ก็ต้องเทีบยเคียงกับพระวจนะ
    หากอยากจะรักษาพระวจนะ ควรศึกษาคำพระองค์ท่านที่ยังคงอยู่
    (ยังคงบาลีในชั้นเดิม ซึ่งผู้ถ่ายทอดสืบมาๆล้วนเป็นระดับครูบาอาจารย์)
    ส่วนสาวกภาษิต ไม่มีทางเลย ที่จะกล่าวได้อย่างพระศาสดา
    คำพูดของสาวกนั้น เมื่อปฏิบัติตามคำสอน ย่อมพบอริสัสส์สี่ อริยมรรคตาม
    ซึ่งถ้าพูดเป็นความเข้าใจตัวเอง นั้นย่อมได้ เพราะค้นพบในสิ่งที่พระองค์ชี้ทาง
    ดังนั้นสาวกที่เข้าถึงธรรม ย่อมกล่าวถึงความจริงตามพระศาสดา
    เพราะเจริญรอยตามคำสอน..
    แต่จะกระจ่างแจ้ง ครบถ้วนดังพระสัพพัญญุตา ไม่ได้
    ถึงมีบทสรรเสริญพระอรหันต์ในส่วนการสอนบัญญัติ..
    ที่ทรงพหูสูตร มีปฏิสัมภิทา และทรงปัญญา
    เรายังมีครูบาอาจารย์เก่งๆ ที่ถ่ายทอดพระศาสนาอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  9. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้พระนครราชคฤห์
    ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดง
    อปริหานิยธรรม ๗ ประการแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงตั้งใจฟัง จงใส่ใจไว้ให้ดีเราจักกล่าว
    ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็
    อปริหานิยธรรม ๗ ประการเป็นไฉน ภิกษุทั้งหลายหมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ เพียงใด พึงหวัง
    ความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น ภิกษุทั้งหลายเมื่อประชุมก็พร้อม
    เพรียงกันประชุม เมื่อเลิกประชุมก็พร้อมเพรียงกันเลิก จักพร้อมเพรียงช่วยกันทำกิจที่สงฆ์พึงทำ
    เพียงใด พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลยเพียงนั้น ภิกษุทั้งหลายจัก
    ไม่บัญญัติสิ่งที่ยังไม่ได้บัญญัติ จักไม่เพิกถอนสิ่งที่บัญญัติแล้ว จักประพฤติมั่นในสิกขาบทตามที่
    บัญญัติไว้แล้ว
    เพียงใด พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น
    ภิกษุทั้งหลายยังสักการะ เคารพนับถือ บูชา ท่านผู้เป็นเถระ เป็นรัตตัญญู บวชมานาน
    เป็นสังฆบิดรเป็นสังฆปริณายก และจักสำคัญถ้อยคำแห่งท่านเหล่านั้นว่า เป็นถ้อยคำอันตน
    พึงเชื่อฟัง เพียงใด พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น

    ท่านตีความหมายนี้ว่าอย่างไรครับ ชัดอยู่แล้วห้ามแต่งใหม่
     
  10. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    มหาปเทสสี่ เอาไว้เทียบเคียงผู้ที่อ้างคำพูดตนว่าเป็นพุทธพจน์
    ผู้สังคายนาครั้งปฐม เป็นพระอรหันต์ระดับปฏิสัมภิทาทรงอภิญญา
    ยังให้ความสำคัญของพระอรหันต์พระเถระ บัญญัติภาษิตของท่าน

    ตกลง คุณตรวจคำสาวกภาษิตได้ไหม ว่าท่านระดับไหน?
    พุทธพจน์บาลีสยามรัฐขอคุณ เป็นพุทธพจน์ไหม?
    แล้วบาลีสยามรัฐ เขาแปลมาแค่ส่วนพระวจนะหรือ?

    ภิกษุรู้จักทำ
    ...ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเข้าไปหาแล้วไต่ถาม สอบถาม กะภิกษุทั้งหลายที่เป็นเถระ เป็นพหูสูต เป็นผู้รู้หลัก ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ตามกาลอันควรว่าภาษิตนี้เป็นอย่างไร ภิกษุทั้งหลายผู้มีอายุนั้น จึงเปิดเผยข้อความที่ยังลี้ลับ ทำข้อความที่ลึกให้ตื้น บรรเทาความสงสัยในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย อันมีอย่างเป็นอเนกแก่ภิกษุนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ก็เพราะสาวกกล่าวถึงความจริงให้กระจ่างแจ้งตามพระศาสดาไม่ได้ เพราะฉะนั้นสาวกไม่ควรแต่งใหม่ และควรทำตามคำสั่งพระศาสดาห้ามแต่งใหม่ ชัดเจนอยู่แล้ว
     
  12. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    เกี่ยวกับบัญญัติพระวินัย
    ไม่บัญญัติใหม่
    ไม่เพิกถอนบัญญัติ
    มันเกี่ยวอะไร กับการแต่งคำสอนใหม่ของสาวก


    คำแต่งใหม่ของคุณ หมายถึงอะไร
    สัจจธรรม ที่ไม่มีในคำสอนพระศาสดาหรือ
    อย่างนั้นไปตั้งเป็นเจ้าลัทธิใหม่เถอะ

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ newamazing
    ชัดเจนอยู่แล้วนี่หามแต่งใหม่ ลืมไปแต่งได้นะครับถ้าขนพบอริยสัจ5 แต่ถ้าอริยสัจ4ล่ะก็ของพระพุทธเจ้านะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    คำสั้นๆคุณยังไม่เข้าใจคำว่าห้ามแต่งใหม่ ส่วนเรื่องจะถ่ายทอดมามันก็ต้องถ่ายทอดตามเดิมห้ามแต่งใหม่ ส่วนใครไม่เข้าใจจะไปถามครูอาจารย์ที่ทรงจำคำตถาคตได้แปลได้ก็ควรไปแต่ครูอาจารย์ก็ต้องทำตาม หามแต่งใหม่ตถาคตว่าไว้อย่างไรก็อธิบายไปตามคำอธิบาย เพียงขอให้ตรงต่อความหมายเทียบเคียงได้ ห้ามแต่งใหม่
     
  14. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ต้องแบบนี้หรือเปล่า ที่ว่าไม่แต่งใหม่

     
  15. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ลืมไปแต่งได้นะครับถ้าขนพบอริยสัจ5 อันนี้ล้อเล่นเฉยๆ ว่าถ้าท่านค้นพบอริยสัจ5ค่อยแต่งเพิ่มเองได้อิอิ
     
  16. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ก็นั่นสิ ถ่ายทอดตามเดิมห้ามแต่งใหม่

    พระอรหันต์ที่เข้าถึงธรรมที่ไหน จะพูดได้ดังพระพุทธองค์
    แต่ถ้าเป็นภาษาท่านเอง ก็ต้องดูความหมาย
    ว่าหมายถึง เข้าถึงธรรมตามพระพุทธองค์สอนไหม
    ไม่ใช่ว่า ท่านอ้างว่าคำพูดท่านเป็นพระวจนะ
    แต่ผลปฏบัติของท่านที่ท่านกล่าว นั่นล่ะ
    พิสูจน์ว่า ปฏิบัติถึงธรรมตามพระพุทธองค์สอนไหม

    และการนำคำสอนของพระพุทธองค์มาถ่ายทอด โดยพระสงฆ์ที่ถึงธรรม
    ถึงสำคัญมาก แม้นแต่การยกพระวจนะเพื่ออธิบายความก็ตาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  17. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    มันคือบทสรุป
    ของพวกที่ชอบอ้างว่าคำพูดตนเป็นพระวจนะ กระมัง
     
  18. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ห้ามแต่งใหม่ ห้ามแต่งใหม่ ห้ามแต่งใหม่ เข้าใจป่าว
     
  19. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ทำอะไรก็ทำได้ห้ามแต่งใหม่ ห้ามตัด
     
  20. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ใครที่ชอบตัด หรือยกมาไม่ครบ กันนะ

    ดีไม่ดี ตั้งชื่อกระทู้ไม่ตรงกับพระวจนะที่ยกมาอีก
    ทำเอาคนสับสนเปล่า

    บางคน ก็แปลความพระวจนะที่ยกมาไปถึงไหนถึงไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...