ศักดิ์ ธรรมลิขิต ศิษย์สำนักปฏิบัติธรรมสูญญตา อาจารย์ ก๋ง พรหมบุตร

อดทนให้ถึงสิ้นปีนะครับ มันจะดิ่งไปจนสุด ที่สุด แล้ว จะเร่มคลีคลาย มีโอกาส

ดีเข้ามาในชีวิต

ระหว่างนี้ ทำในสิ่งที่ทำได้ อย่าตีกรอบว่า งานคือ งานที่ต้องมีเจ้านาย ต้องมี

เงินเดือน

งานคือ สิ่งที่ทำแล้ว เรามีข้าวกิน คิดง่าย ๆ แล้วทำครับ

 

คุณไม่ใช่คนที่สร้างปัญหา หรือ เป็นต้นเหตุของปัญหา

แต่เป็นผู้รับผลที่เกิดขึ้น

แต่ทุกปัญหา มักจะมีช่องว่างอยู่ และ ช่องว่างนั้น คือ ที่ ๆ ปัญหาจะถูกปรับ

เปลี่ยน แก้ไข จนหมดไป

ต่างคนต่างนั่งมองปัญหา มีแต่คนเก่ง ๆ เก่งกันทุกคน แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่จะพูดว่า เรามาช่วยกันแก้ไขเถอะ
มัวแต่เกี่ยงกัน มองตากัน แล้วก็ก้มหน้าทำแต่งานประจำของตัวเอง

มันแยกกันไม่ได้หรอกนะครับ องค์กรเดียวกัน

ปลาในเข่ง เน่า 1 ตัว มันก็เหม็นไปหมด ไม่มีใครซื้อ เช่งนี้แน่นอน

คิดใหม่ ตั้งสติ หาแนวร่วมทีละคน

คุณมีสติก่อนพวกเขา คุณก็ต้องเริ่มก่อนพวกเขา

ส่วนจะได้ผลแค่ไหน มันไม่สำคัญหรอกครับ

มันสำคัญตรงที่ เราได้เริ่มต้นที่จะพยายามแก้ไขแล้ว ต่างหากที่สำคัญ

เพราะเมื่อมีจุดเริ่มต้น มีก้าวที่หนึ่ง ก้าวที่สองก็ยอมตามมาแน่นอน

 

สวัสดีครับอาจารย์ คือว่าผมอยากหาอาชีพเสริม รายได้เสริมน่ะครับ
ก็เลยอยากจะเล่นดนตรี แต่ว่าปัญหาก็คือทำวงทีไรเป็นล่มทุกทีอ่ะครับ ต่างคนต่างไป วงแตก
รึจะไปเล่นคนเดียวก็ไม่ไหว ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเอา ^_^"
รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ รึว่าต้องเลิกเล่นไปเลย...

 

ธรรมชาติของตัวตนภายในของคุณ

เหมาะกับการอยู่เหนือความเป็นนักร้อง

คุณคือ คนที่สามารถแต่งเนื้อหา และทำนอง ที่จะประทับใจคนฟังได้ตลอดกาล

มีอิสระ และ ได้ทำงานที่ถนัด แบบตัวคนเดียว

ฝากข้อมูลนี้ไว้พิจารณาด้วยนะครับ

 

อ.ครับ ภายใน 5 ปีข้างหน้า การงานเป็นอย่างไรครับ มีเปลี่ยนแปลงไหมครับ ขอบคุณครับ

 

ขอบพระคุณมากคับผม

เฮ่อๆๆ แต่งเอง เล่นเอง ร้องเอง ฟังเอง

 

เป็นช่วงชีวิตขาลงครับ เป็นช่วงที่หมดแรงขับเคลื่อน ทุกอย่างจะชะลอตัวลง

ทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างมีเวลาพักตัว

เดินเครื่องตลอด เครื่องที่ไหน ๆ ก็คงจะพัง

ชีวิตก็เหมือนกัน มันขึ้นมาให้นานแล้ว ถึงเวลาที่ต้องถูกสั่งให้ไปพักข้างสนามบ้าง

ยอมรับในความเป็นจริง แต่ก็อย่าท้อแท้จนเกินเหตุนะครับ

 

อยากรู้ว่าการฝึกงานจะเป็นอย่างไรบ้างจะได้มิตรที่ดีไหม และทำงานจะมีอุปสรรค์ไหมค่ะ

 

อยากทราบว่า ที่ตัวเราคิดว่าภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้าตั้งใจจะซื้อบ้านเปนของตัวเองให้ได้ตามที่แม่หวังไว้ พอจะมีโอกาสเป็นไปได้มั้ยคะ แล้วควรจะซื้อบ้านลักษณะแบบไหน และอยู่แถวไหนดี เพราะอนาคตอยากจะเปิดกิจการเป็นของตัวเองค่ะ ช่วยแนะนำธุรกิจที่ควรจะทำหน่อยนะคะ
อีกเรื่องคือปัญหาเกี่ยวกับคนรักที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พอจะมีทางแก้ไขให้ดีขึ้นได้มั้ยคะ

 

ทุกอย่างราบรื่น ทั้งตัวองค์กรก็เป็นที่น่ายินดี เพราะคุณจะได้ประสบการณ์มากมายจากการไปอยู่ที่นั่นในช่วงเวลาหนึ่ง
เพื่อนร่วมงานอาจจะเรื่อย ๆ สักหน่อย อย่าปล่อยให้เขาชักชวน ไปให้เสียเวลา เสียประวัติ บางอย่างก็ต้องรู้จักปฏิเสธ แต่เป็นการปฏิเสธที่นุ่มนวล มีลีลา เพราะคุณก็ไม่ต่างกับการเป็นน้องใหม่อีกครั้งหนึ่ง ที่จะต้องถูกรุ่นพี่รับน้อง อย่าหลงระเริงในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะนี่เป็นเพียงการฝึกงาน ไม่ใช่การได้ทำงาน

อุปสรรคอย่างเดียวของคุณที่จะเกิดก็คือ เกิดจากการที่คุณไม่ขยันเท่าที่ควร
เพราะ ที่ทำงาน เขามีเป้าหมาย มีเวลากำหนด หากคุณปล่อยเวลาเล่น ๆ หลายสิ่งที่ไม่รู้ ต้องรีบหาคำตอบ การฝึกงาน ก็ไม่ต่างกับการวอร์มอัพก่อนทำงานจริง มีปัญหาเกิด ต้องคิดหาทางแก้ ถ้าเกินกว่าจะแก้ได้ ต้องรีบรายงานตามขั้นตอน และก็ต้องติดตามด้วย ไม่ใช่รายงานแล้วก็จบแค่นั้น ไม่สนใจ รายงานแล้ว ธุระของพวกคุณ ฉันไม่เกี่ยว นิสัยแบบนี้ อย่าให้เกิดขึ้นเด็ดขาดนะครับ มันจะเสียประวัติคุุณในอนาคต

 

ความจริงเรื่องของตัวเลข มันอยู่ในมือคุณทั้งหมดแล้ว

กางแผนผังของเวลาออกมาเลย นับ 1 เมื่อไหร่ มีทุนเดิมเท่าไหร่ กี่ปี เงินเดือนจะขึ้นไปอีกเท่าไหร่ มันไม่ใช่การลงทุนนะครับ แต่มันเป็นภาระการจ่ายเงิน สิ่งเหล่านี้ คุณต้องคำนวณได้แล้ว และเชื่อมั่นในผลกาคำนวณของตัวคุณด้วย
ขณะนี้ ภาวะหนี้ยังไม่เกิด แต่สุดท้าย ก็คิดว่า ภาระการผ่อนชำระบางอย่าง ก็๋คงจะหนีไม่พ้นมือคุณแม่ของคุณนะครับ

บ้านที่จะซื้อ ต้องแยกตัวออกมาจากย่านธุรกิจ ให้เป็นบ้าน เพราะบ้านหลังนี้ กับธุรกิจ ต้องเป็นคนละที่กัน

ส่วนเรื่องของตำแหน่ง ควรอยู่ทิศตะวันออก ของที่คุณอยู่ในปัจจุบันนี้

คุณไม่มีความถนัดในธุรกิจเฉพาะด้าน ดังนั้น ต้องพึ่งการผลิตจากคนอื่น ก้ทำในลักษณะหลายๆสินค้า หลายๆยี่ห้อ นี่คือดวงของคุณ

คนรักของคุณ เขาไม่พร้อมสำหรับทุกอย่างกับคุณในเวลานี้

ปล่อยให้เขาสร้างเนื้อสร้างตัวตามเส้นทางชีวิตของเขาเถิด อย่าไปเร่งรัด การได้แต่งเร็ว หรือแต่งช้า มันก็แล้วแต่ความพอดีของฐานะทางเศรษฐกิจ
การคบกัน การเป็นเพื่อนกัน ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว เพียงแต่ อย่าให้ครอบครัวคุณเร่งเรื่องนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น ความทุกข์ที่สุดก็จะเกิดกับคนที่คุณรัก

 

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำแนะนำดีๆ ^^

 

รบกวนอีกเรื่องนะคะ งานที่กำลังจะย้ายไปทำใหม่ เป็นงานลักษณะยังไงคะ เจ้านาย สังคมและเพื่อนร่วมงานดีมั้ย งานนี้เหมาะสมกับตัวหนูรึป่าวคะ
เข้าใจว่าเราต้องปรับตัวให้ได้ แต่เป็นการเปลี่ยนงานครั้งแรกน่ะค่ะ เลยกังวลกับการเปลี่ยนแปลงที่จะต้องเจอค่ะ

 

อาจารย์คะ คืออยากทราบเกี่ยวกับเรื่องการงานค่ะ แล้วก็เรื่องที่กำลังกังวลใจนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ เกิดจากกรรมอะไร อยากให้อาจารย์แนะนำการใช้ชีวิต การทำสมาธิที่ทำให้ใจไม่ฟุ้งซ่านหนักแน่นให้หน่อยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

สวัสดีค่ะ
ขอถามเรื่องที่ดิน ที่จะได้ เมื่อไรจะได้ แล้วได้แน่นอนไหมค่ะ แล้วจะได้ปลูกบ้านด้วยหรือป่าวค่ะ
ตอนนี้ ทำงานบริษัท แต่ส่วนตัวชอบขายของ ถ้าออกงานแล้วไแขายแบบเป็นอาชีพหลักจะไหมค่ะ
แล้วขอถามอีกข้อค่ะ ตอนนี้เอาทองไปจำร้านทอง เมื่อจะได้เอาออกค่ะ คิดเรื่องทองทีไร ปวดหัวทุกที เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

คนที่เคยทำงานมาแล้ว และมีโอกาสไปทำที่ใหม่

คำถามแรกที่มักจะเจอ คือ ออกมาทำไม บริษัทก็ไม่ได้เจ็ง

สายตาหลายคู่ แปลได้ตรงกัน เวลามองคุณ คือ จะคอยดูว่า ที่ว่าเคยทำงานมาแล้ว พอมาอยู่ที่นี่ จะเก่งสักแค่ไหน

เหล่านี้คือเรื่องปกติ

ดังนั้น เมื่อเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่

รีบศึกษาโครงสร้างของงานให้แม่นและเร็วที่สุด

รู้ให้ได้ว่า ใครเป็นใคร ใครทำอะไร มีขอบเขตการทำงานของแต่ละคนแค่ไหน

จากนั้น ก็มาหาความสัมพันธ์ของงานแต่ละงาน แล้วค่อยไปดูที่ตัวคน

สุดท้าย งานที่เราได้รับมอบหมายให้ทำ มีขอบเขตการทำมากน้อยแค่ไหน ใช้เวลาอย่างไร รับงานมาอย่างไร เสนองานอย่างไร รายงานปัญหาตามลำดับชั้น มีวิธีการอย่างไรสำหรับที่นี่

เหล่านี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนใน 1 สัปดาห์แรก

ในขณะเดียวกัน การผูกมิตร การไม่เก็บตัว แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่พอดี เพราะต้องมีคนมาลองของใหม่แน่นอน ใกล้ชิตได้แต่มีขอบเขต มีน้ำหนัก
อย่า คิดหาแฟนเด็ดขาด คุณจะเจอคนมีเจ้าของ
ผู้ชาย ที่ไหน ๆ ก็ไม่เลือกผู้หญิงหรอกครับ ยิ่งเป็นของใหม่ ก็อยากชิม พอให้เข้าใกล้ในระยะที่แน่ใจ ก็จะฮุบเลย ระวัง พวกนี้ มีเจ้าของแล้วทั้งนั้น เจ้าของที่ยังไม่ได้ทาน แต่ก็หวงก้างไม่ให้ใครทาน

รอบข้างคุณมีแต่คนที่ทำงาน มีแต่คนมีความสามารถ

ศัตรู คือ คนที่อายุน้อยกว่า แต่มีความสามารถสูง และ ไม่ยอมรับคนที่มีอายุมากแต่ทำงานไม่เข้าตา มักคอยจับผิด กระแนะกระแหน
อันนี้ ต้องทำงานให้รอบคอบและ ใจคอต้องหนักแน่น อย่าปะทะ อย่าโต้ตอบ ยิ้มไว้ก่อน พ่อสอนไว้

หัวหน้างาน คิดอะไรก็มีแต่ผลประโยชน์ของโครงการ ของบริษัท ผลงานต้องมาก่อน ต้องเข้าเป้า ใครทำงานไม่เข้าตา ระวังไว้ให้ดี

เพื่อนร่วมงาน มีหลายคน เป็นอัจฉริยะ ความคิดกว้างไกล ทำงานเข้าขากับเจ้านายประเภทบ้างานที่ว่ามาแล้วได้เป้นอย่างดี
เรียนรู้จากพวกเขา แต่ระวัง การกีดกัน ไม่อยากให้ใครมาดีเกิน การกุมอำนาจไว้

ดุ ๆ ไป ทุกอย่างดี แต่คุณคงต้องเหนือยหน่อย ถ้าเหนื่อยมาก ก้ จะได้ลงตัวเร็วขึ้นนะครับ

 

ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่คนที่ีคุณเข้าไปเกี่ยวข้องนี่ เป็นประเภท เขี้ยวลากดิน มีเหลี่ยม มีมุม ที่มากมายเหลือเกิน ถ้าเป็นเรื่องอื่น ๆ จะแนะนำให้เลิกคบหาสมาคมกับคนประเภทนี้ เพราะมีแต่ความเห็นแก่ตัวจัดเกินไป จิตใจคับแคบ เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว

แต่สถานการณืของคุณ ก็คงจะต้องยอมเจ็บปวดหัวใจนะครับ หากจะยืนยันที่จะให้ได้มา เจ็บ และ เจ็บมาก แต่ก็ไม่มีทางตอบโต้ เพราะเขามีภาษีเหนือกว่าคุณทุกประตู

อะไรยอมได้ก็ต้องยอม อะไรที่ยอมไม่ได้ก็ต้องยืนหยัด ยังไง เขาก็เป็นคนที่เห็นแก่ได้ ลองเอาเหยื่อล่อดูนะครับ เขาอาจจะติดกับคุณก็ได้

อันนี้แนะได้แค่นี้ เพราะดุแล้วคุณม่แต่เสียกับเสีย

ดวงคุณ อยู่งานประจำได้ไม่นาน ต้องออกไปขายของแน่ เพราะมันเฮงทางนี้

แต่ ถ้าจะหาประสบการณ์ อยากให้ขายของในขณะที่มีงานประจำอยู่ เพราะคุณจะได้ไม่ห่วงเรื่องรายได้หลัก เอาไว้ให้ปีกกล้าขาแข็ง รู้เส้นทางการค้าดี ๆ และมีทุนที่เกิดจากการขายบ้างพอสมควร ค่อยลาออกนะครับ

มีเงินเมื่อไหร่ก็ไปเอาออกได้ครับ ยังไงเขาก็เก็บไว้อย่างดี
ถ้ารีบไปเอามา ต้องหาเงินก้อนไปให้เขา ต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่ได้ครอบครองสมบัติสุดรักมาอยู่ในอ้อมกอด มันคงไม่คุ้มนะครับ

ให้เขาเก็บรักษาไว้นั่นแหละดี เสียดอกไปก่อน ไม่มากมายหรอกครับ อีก 10 เดือน คงมีเงินไปไถ่คืน

 

ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ จะนำไปเปนแนวทางในการทำงานค่ะ ^^

 

ขอบคุณค่ะ มากๆค่ะ สำหรับคแนะนำค่ะ

 

ขออีกคำถามคะ พอได้เริ่มปฏิบัติธรรมเอาธรรมมะลงสู่ใจแล้ว แล้วก็พึ่งที่จะเริ่มปฏิบัติโชคดีที่มีองพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเมตตาดึงสู่ธรรมมะเพื่อทางหลุดพ้นลดตัดกิเลส จนบางครั้งสับสนเบื่อหน่ายที่จะใช้ชีวิตแบบทางโลกเป็นแบบครึ่งๆๆกลางๆๆๆคะ อายุ 33 ปีคงจะง่ายกว่านี้มากใช่ไหมคะ