ไปนิพพานไปยังไง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Giew, 2 เมษายน 2013.

  1. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    แล้วนิพพาน เกี่ยวอะไรกับ ความดี เกี่ยวก็คือ ก็ เมื่อรู้ ไม่เกิดนี่ นี่ คือ ดีที่สุดแล้ว และ ถึงจะมีภพภูมิโลก พร้อม แต่ก็เกิดไม่ได้ เพราะ นี่ดีแล้ว ที่ไม่เกิดนี่ดีแล้ว ไม่มีสิ่งใดใด ในสังสารวัฎ มาทำให้มันเกิด ได้อีกแล้ว นี่คือนิพพาน หรือ ถึงมันจะอยากเกิด(คิดเล่นๆ) ก็เกิดไม่ได้ แล้ว เพราะ มันรู้แล้วว่า ที่ดีที่สุดก็คือ ไม่เกิด
     
  2. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถ้านิพพาน จริงๆ จะเป็นเช่นไร คำตอบคือ
    สิ่งที่มีค่าที่สุดในโลก มาแลก ก็ ไม่เปลี่ยนจากนิพพาน
    สิ่งที่ค่าที่สุดทั้งจักรวาลมาแลก ก็ไม่เปลี่ยนจากนิพพาน
    แม้เอาพระพุทธเจ้า มาแลก ก็ ไม่เปลี่ยน จากนิพพาน

    นี่แหล่ะ ที่พูดว่า นิพพานคือของเที่ยง คือ ไม่หลงออกจากนิพพานได้อีกเลย แม้เอาพระพุทธเจ้ามาแลก ล้านๆ พระพุทธเจ้า ก็ ไม่หลง ออกจากนิพพาน ได้อีกเลย

    เขาถึงเรียกว่า นิพพาน เที่ยง
     
  3. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถ้าใครที่เข้าถึงนิพพาน แล้วยังหลงออกจากนิพพาน ก็เพราะ ตนเอง ยังไม่รู้ว่า ตนเองดี จริงๆ บริบูรณ์ หลงได้ เพราะ ดีในตน พร่อง พร่องก็คือ เกิดสงสัยในตนเอง จนได้
    เมื่อตนเองพร่อง นิพพานไม่ได้ ออกจากตนเอง แต่ตนเองต่างหากที่ หลงออกมาจากนิพพาน เพราะ ความไม่รู้ (หลงหรือสงสัยกับ สิ่งอื่น หรือสังสารวัฎ)
    ดังที่ผมกล่าวมาว่า นิพพานมีอยู่ แต่ เมื่อหลง เมื่อใด ก็คือ ทิ้งมันไปเองว ไม่รู้คุณค่าของมันเอง ก็คือ มันไม่เที่ยงเพราะ ตนเอง นิพพาน มันเที่ยงของมันอยู่แล้ว

    แค่สงสัย ก็คือหลง คือทิ้ง คือ ออกจากความเที่ยง เข้าสู่ความไม่เที่ยง เข้าสู่ความไม่แน่นอน นิพพานคือ ความแน่นอน

    นิพพานไม่ยาก เลย แค่ รู้จริงหรือว่า เข้าไปอยู่กับนิพพาน ที่เที่ยง เราต้องเที่ยง เหมือนนิพพาน เมื่อเที่ยงเหมือนกัน ก็จะไม่สงสัยในนิพพาน ไม่สงสัยในตนเอง
    ไม่สงสัยในสิ่งใดใด อีกเลย
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    นิพพานไปได้ ถึงได้ ก็อาศัย ปัญญา และความดี เป็นของคู่กัน อันเดียวกัน
    ปัญญามาจากดี ถ้าไม่ดี ก็จะไม่มีปัญญาดี

    คนดี ไม่ได้โง่นะครับ แต่ เขามีปัญญาแต่เรื่องดีดี
    คนที่กล่าวว่า คนดีคือคนโง่ ก็เพราะคนที่พูดมันมีปัญญาครับ มีแต่ปัญญาในเรื่องที่ไม่ดี ไงครับ ไม่สามารถเข้าใจปัญญาของคนดีได้

    นิพพานถึงได้ด้วย ดี เมื่อดีแล้ว ก็จะมีปัญญาดี ปัญญาดีนี่หล่ะ ถึงนิพพานเร็วนักแล
    ส่วนใครที่คิดว่าตนเองมีปัญญา แต่ทำไม ไม่ถึงนิพพานสักที นั่นเพราะ ปัญญาที่มี ไม่ไช่ปัญญาที่ดี ปัญญาที่ไม่ดี ก็มาจากคนที่ยังไม่ดี นั่นเอง อย่าโกหก ตนเอง อยู่เลย
    โกหกตนเองว่า ตนเองดียังไง โกหกคนอื่นว่าตนเองดียังไง ก็โกหก นิพพาน ไม่ได้หรอกครับ
     
  5. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    แล้วไม่ต้องมาสงสัยในตัวผม(อุลต้ราแมนเซกะองค์ปฐมจักรวาล) ว่า ผมดีแล้วหรือ ผมดีจริงหรือ ถ้าผมไม่ดีจริง ถ้าผม ยังสงสัยว่าผมดีจริงหรือ ผมจะ มาโกหก ทั้งโลก ทั้งจักรวาล ทั้งโลกทางจิตวิญญาณ ทำไม
    นิพพาน ผมรู้ดี ผมพาไปได้ และ พาไปได้แน่นอน ทุกคน และทุกคนก็รู้ว่า ถึงพระพุทธเจ้า ท่านก็พูดแบบนี้ แต่ คนที่ จะ สงสัยนั้น คือ ตัวผู้ฟังเอง ไม่ไช่ ผู้พูด คนที่ไปได้หรือไม่ได้ คือตัวผู้ฟังเอง ไม่ไช่ตัวผู้พูด ไม่เชื่อ ก็ แล้วแต่ ผู้ฟัง ที่ไปไม่ได้ ล้วนขึ้นอยู่กับตัวพวกคุณผู้ฟังเอง ซึ่งทุกคุนล้วนเข้าใจตรงนี้กันทุกคน ดีอยู่แล้ว

    ว่าถ้าตนเอง ไม่ดีจริง ก็ เข้าไม่ถึงนิพพานเอง มาโทษผู้พูดว่า ทำไม พาไปไม่ได้
    ซึ่งผู้พูด ก็พูดว่า สามารถ พาทุกคนเข้านิพพานได้ แต่จะเข้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ผู้ฟัง เอง
     
  6. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เมื่อคุณเป็นคนดี ผมพาคุณ เข้าถึงนิพพาน ได้แน่นอน ล้านเปอร์เซน ในชาตินี้นี่แหล่ะ
    ไม่เชื่อผม ก็ ไม่เป็นไร เพราะผม จะเชื่อแต่คนที่จะเป็นคนดีได้จริงๆ เหมือนกัน
    คุณโกหก นิพพาน ในตัวผม ไม่ได้หรอกครับ
    ผมอาจจะสามารถ ยอมรับการโกหกของคุณได้
    แต่นิพพาน นี่ แม้แต่ผม จะโกหกช่วยคุณ เพื่อให้เข้าถึงนิพพาน เป็นไปไม่ได้เลย
     
  7. phataravudh

    phataravudh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +2,440
    [​IMG]

    วิธีปฏิบัติเพื่อพระนิพพานที่ง่ายและสั้นที่สุด
    หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน กราบทูลถามองค์สมเด็จ
    พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระจุฬามณีชั้นดาวดึงส์ว่า
    คนที่ปฏิบัติเพื่อพระนิพพานจะใคร่ครวญอย่างไรจึงจะง่ายที่สุด สั้นที่สุดพระพุทธเจ้าข้า ?

    องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงตรัสว่า
    เจ้าจงใคร่ครวญอย่างนี้ จงคิดว่าเราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย
    ทรัพย์สินก็ไม่มี ญาติ เพื่อน ลูกหลาน เหลนก็ไม่มี
    เพราะทุกอย่างที่กล่าวมามีสภาพพังหมด
    เราจะทำกิจที่ต้องทำตามหน้าที่
    เมื่อสิ้นภาระ คือ ร่างกายพังแล้ว เราจะไปนิพพาน
    เมื่อความป่วยไข้ปรากฎ จงดีใจว่า
    ภาวะที่เราจะมีโอกาสเข้าสู่พระนิพพานมาถึงแล้ว
    เราสิ้นทุกข์แล้ว ร่างกายเป็นเพียงเศษธุลีที่เหม็นเน่า
    มีความสกปรกโสโครก ทรุดโทรม เดินไปหาความเสื่อม
    แตกสลายทุกขณะ คิดไว้อย่างนี้ทุกวัน จิตจะชิน
    จะเห็นเหตุผล เมื่อตาย อารมณ์จะสบาย
    แล้วจะเข้าสู่พระนิพพานได้ทันที
     
  8. แหวน5องค์

    แหวน5องค์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +24
    เยี่ยมครับ
    สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมมี ดับไปเป็นธรรมดา
    สิ่งที่ไม่เกิดย่อมมี แต่ความสุขยิ่งขึ้น
    สิ่งที่เห็นย่อมมี แต่ความทุก
    สิ่งลวงหลอกย่อมมี แต่ตันหา
    สิ่งที่ใด้มาย่อมมี แต่ความโลภ

    นิพพานัง ความสุขยิ่งนัก ขออนุโมทนา ครับ
     
  9. แหวน5องค์

    แหวน5องค์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +24
    นิพพาน เป็นของเที่ยง แต่ถ้ายังมีความสงสัย ก็จะมี โมหะ โทสะ
    ที่คอยถามตัวเองว่า มันคืออะไร นี้เราเป็นอะไร แล้วก็เกิด ตันหา
    จนหลงออกจากนิพพาน อันเป็นของเที่ยง เพราะความสงสัย
    จึงเกิดความไม่เที่ยงแท้ ของแก่นนิพพาน ขออนุโมทนาครับ
     
  10. แหวน5องค์

    แหวน5องค์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +24
    ถูกต้องครับ
    นิพพานเป็นของที่ดี ปัญญาดี แต่มีกิเลส คือความสงสัย ก็ย่อมมีตันหามาผัวพัน
    นิพพานเป็นของที่ดี แต่ถ้ามี ความอยากก็ต้องมีความ คิดที่เป็นกิเลส ลัดตัว
    ให้ต้องตกจากนิพพาน อันเป็นของคู่กัน จึงต้องหล่ะให้ใด้ ถึงเป็นนิพพานอย่าง
    แท้จริง ขออนุโมทนาครับ
     
  11. แหวน5องค์

    แหวน5องค์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนา อย่างยิ่งครับ
    จิตนิพพาน กายพาเสื่อม
     
  12. แหวน5องค์

    แหวน5องค์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +24
    จริง คำตอบอยู่ที่ตัวเองมากกว่าครับ มากที่จะถาม แต่อ่านจึงเป็นความดี
    เผื่อมีใครมาถาม จะใด้มีคำตอบ
     
  13. แหวน5องค์

    แหวน5องค์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +24
    นิพพาน คืออารมที่เป็นสุข ไม่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา หรือเลี้ยวหลัง
    ไม่เอนข้างหรือ กับหลังให้ทุกใจ ปล่อยกายตาม สบายอย่างเป็นสุข
    แล้วคิดตันหาที่เกิดขึ้น แล้วดับไป ปล่อยตามกายตามโลกที่มีอยู่
    ปล่อยให้นิ่ง ห้ามเลี้ยวไปทางไหน เหมือนกับใจ ที่อยู่ตรงกลางกาย
    ขออนุโมทนาครับ
     
  14. แหวน5องค์

    แหวน5องค์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +24
    ลองร้องไห้ ปล่อยอารม ไปกับน้ำตาที่ไหลริน แล้วจะรู้ว่านั้นแหละ
    คือ นิพพาน ที่เป็นสุข
     
  15. แหวน5องค์

    แหวน5องค์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +24
    เยี่ยม
    นิพพาน อยู่่ที่ตน ไม่ไปปรน อยู่กลับใคร
    เพราะจะทำ ให้กายเป็นตันหา ไม่ควรพรำรำไพร มาบอกใคร
    ควรรู้ใด้ ด้วยตน ด้ายนิพพาน แต่ทำไมต้องกลัยกาย
    มาเป็นทุก ให้ไปปุกนิพพาน ออกจากกาย อนุโมทนาครับ สาธุ
     
  16. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    พระตถาคตได้ทรงตรัสสอนหนทางแห่งความดับทุกข์ไว้มาก
    มีมรรควิธิหนึ่งที่พระตถาคตทรงสรรเสริญไว้มาก และเป็นหนทางลัด สั้น ง่าย
    ให้เข้าถึงซึ่งความดับไม่เหลืองแห่งทุกข์
    มรรควิธีนั้นคือ อานาปานสติ

    ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่ออานาปานสติ อันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว...
    ผลอานิสงส์อย่างใดอย่างหนึ่ง ในบรรดาผล ๒ ประการ เป็นสิ่งที่หวังได้
    คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน หรือว่าถ้ายังมีอุปาทิเหลืออยู่ ก็จักเป็น อนาคามี.
    มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๙๗/๑๓๑๓.

    พระองค์ยังสอนวิธีเจริญอานาปานสติ ไว้โดยลำดับอย่างละเอียด
    ดังเช่นว่า

    ภิกษุทั้งหลาย ! อานาปานสติอันบุคคลเจริญ
    กระทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
    ก็อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำให้มากแล้ว
    อย่างไร จึงมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ?
    ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้ ภิกษุไปแล้วสู่ป่า
    หรือโคนไม้ หรือเรือนว่างก็ตาม นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ
    ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า เธอนั้น มีสติหายใจเข้า
    มีสติหายใจออก :
    เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว,
    เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกยาว;
    เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น,
    เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกสั้น;
    เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อม
    เฉพาะซึ่งกายทั้งปวง (สพฺพกายปฏิสํเวที) หายใจเข้า”,
    ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจออก”;
    (พระสูตรโดยประมาณ ไม่เต็มพระสูตรครับ)

    พระตถาคตยังแจกแจงลึกลงไปอีก ถึงการทำอานาปานสติ
    ว่าเป็นผลให้
    สติปัฏฐาน ๔
    โพชฌงค์ ๗
    วิชชาและวิมุตติบริบูรณ์

    ดังพระสูตรนี้ครับ

    ภิกษุทั้งหลาย ! ธรรมอันเอกนั้นมีอยู่ ซึ่งเมื่อ
    บุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำธรรมทั้ง ๔ ให้
    บริบูรณ์; ครั้นธรรมทั้ง ๔ นั้น อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มาก
    แล้ว ย่อมทำธรรมทั้ง ๗ ให้บริบูรณ์; ครั้นธรรมทั้ง ๗ นั้น
    อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำธรรมทั้ง ๒
    ให้บริบูรณ์ได้.
    ภิกษุทั้งหลาย ! อานาปานสติสมาธินี้แล เป็น
    ธรรมอันเอก ซึ่งเมื่อบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว
    ย่อมทำสติปัฏฐานทั้ง ๔ ให้บริบูรณ์; สติปัฏฐานทั้ง ๔
    อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำโพชฌงค์ทั้ง ๗
    ให้บริบูรณ์; โพชฌงค์ทั้ง ๗ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้
    มากแล้ว ย่อมทำวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ได้.

    จากนั้นพระองค์ก็จะแจกแจงลงในรายละเอียด
    ว่าอานาปานสติทำอย่างนี่ๆ สติปัฏฐานทั้ง ๔ บริบูรณ์
    ไล่ไปเลื่อยๆ จนถึงวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์.

    นี่แหละครับมรรวิธีที่จะทำให้เราได้มรรคผลนิพพาน
    อย่าแท้จริง...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. อิ๋วจ้า

    อิ๋วจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2009
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +215
    มองหาถนนสักเส้นสิ..แล้วก็เดินไปเอง.ไปให้ถึงนะ..ไม่มีใครเขารู้หรอก.คุณต้องไปสัมพัสเอง
     
  18. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ผมไม่เห็นด้วย ตรงคำที่ว่า ไม่มีใครเขารู้หรอก นี่แหล่ะครับ

    ถ้าไม่มีใครรู้ กับคุณ มันก็ไม่ไช่นิพพาน แล้วครับ(เรื่องจริง)
    มันจะต้อง มีคนรู้เห็น ด้วย อย่างน้อย 1 คนครับ
    ไม่งั้น คุณจะ มาสงสัย ตนเอง จนได้ ถ้าไม่มีใครรู้กับคุณ
     
  19. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    คนทั่วไป ที่ไม่ไช่พระพุทธเจ้า ไปนิพพานเอง ไม่ได้ครับ
    ดังนั้น พวกเราเหล่า พุทธะ แต่ไม่ไช่พระพุทธเจ้า ต้องมี ผู้รู้ที่รู้ทางและถึงนิพพานแล้ว มาเป็นผู้ชี้ ดังที่ พระพุทธเจ้า ท่านก็ชี้เอาไว้ แล้ว แต่
    ที่ผมพูดว่า ทั้งโลก ต้องมีคนที่ชี้คุณนั่นแหล่ะ เขารู้ว่าคุณ ถึงหรือไม่ถึง
    เมื่อถึง จะเข้าใจ อันเดียวกัน เป็นหนึ่งเดียว ไม่มีอะไรขัดแย้ง สงสัยเลยครับ
     
  20. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถ้าใคร ที่พูดว่า นิพพาน รู้เอง เห็นเอง ถึงเอง เข้าใจเองคนเดียว ไม่มีคนอื่นรู้เห็น ด้วยกับคุณ คนที่พูดนี้ มดเท็จ ลวงโลก ครับ
    ไม่งั้นจะเอา อะไรมา ยืนยัน ให้มันเที่ยง ล่ะครับ ความเที่ยงคือ รู้อันเดียวกัน เข้าใจอันเดียวกัน ไม่แบ่งแยก ไม่แตกต่าง หมดสงสัย ในกันและกัน หมดสงสัยในนิพพานเดียวกัน หมดสงสัยในความรู้ ความคิด และ รูปนาม ของกันและกัน

    นี่คือ ผลของนิพพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...