ประสบการณ์การนั่งสมาธิจากการเริ่มแยกขันธ์ ๕

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พลังขาว, 4 มีนาคม 2013.

  1. พลังขาว

    พลังขาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +61
    สวัสดีค่ะ ชาวสมาชิกพลังจิตทุกท่าน
    ดิฉันอ่านเว็บไซต์นี้มาไม่นานมากนักประมาณ 2 ปีกว่า ร่วมบริจาคและเข้ามาสบทบอนุโมทนาบุญจากการบอกบุญด้วยกันหลายครั้ง จนกลายเป็นเว็บไซต์ทีเข้ามาอ่านเป็นประจำทุกครั้งที่มีเวลา

    ก่อนอื่นตอนนี้ดิฉันอายุ 17 ปี แล้ว:] ได้มีประสบการณ์นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอมาเป็นเวลา 1 ปีเต็มวันนี้เป็นวันที่สมัครเป็นสมาชิกวันแรกเพราะอยากมาเเลกเปลี่ยนประสบการณ์กับทุกคนค่ะ
    ดิฉันเป็นลูกศิษหม่อมน้อยค่ะ ดิฉันทำงานในวงการบันเทิงค่ะ
    ทุกสัปดาห์ก็จะต้องเข้าไปเรียนอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลา 2 วันทุกๆอาทิตย์ บทเรียนแรกคือเริ่มจากการขยับกระดูกทีละข้อเพื่อตามดูจิตอย่างละเอียดกับ
    ร่างกายจนจับได้ทุกข้อทุกเส้นเอ็นและเลือดที่ไหลไปตามร่างกาย รู้สึกถึงทุกขณะจิตในระหว่างที่ทำและควบคู่ไปกับการนั่งสมาธิ 1 ปีที่นั่งสมาธิมาจนถึงวันนี้ ดิฉันเริ่มจากการเเยกขันธ์ ๕ จับให้ถูกว่าสิ่งไหนคือ เวทนา สังขาร สัญญา วิญญาน และ รูปกาย
    เมื่อนั่งแรกๆ บางคนอาจจะพบกับเวทนาทางกายที่ว่า ปวดขาบ้างขาชาบ้างคันบ้าง แต่สิ่งที่ดิฉันเจอคือ ปวดฉี่มากๆค่ะทุกๆครั้งที่นั่งจนนั่งไป ถึงประมาณ 6 เดือน อาการนี้ไม่เคยหายไป แต่ดิฉันก็ภาวนาและไม่ได้เสวยเวทนานี้ จนถึงวันหนึ่งที่ดิฉันรู้สึกเหมือนกับว่าปัสสาวะราดเต็มกางเกงและมีอาการปวดท้องปัสสาวะมากๆนผิดปกติแต่ก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดู เพราะทุกๆครั้งที่ปวดพอนั่งเสร็จก็จะลองไปเข้าห้องน้ำแต่ทุกครั้งก็จะพบว่า ไม่มีอาการปวดฉี่เลยหลังจากนั่งเสร็จ พอถึงเหตุการณ์ที่รู้สึกปัสสาวะราดนั้นจึงตามดูจิตไปเรื่อยๆ และพอเกิดเหตุการณ์นั้นอาการปวดท้องก็หายไปเลย พอนั่งเสร็จลืมตาขึ้นมา พบว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่เหมือนกับสิ่งที่เวทนานั้นหลอกเราให้เราแตกสมาธิ หลังจากนั้นอาการนั้นหายไปเลยค่ะ
    อยากฝากทุกท่านไว้ว่าถ้าเกิดเวทนาทางกายใดๆ ให้ภาวนาไว้ว่า เวทนาหนอ
    อย่าเผลอไปเสวย และ ทำเป็นไม่สนใจ ให้รู้เอาไว้ว่ามันกำลังเกิดขึ้นอยู่เเค่นั้นบางคนอาจจะเจอที่ทรมารกว่านี้ แต่วันนึงถ้าเรารู้ทันเวทนานั้นบ่อยๆ เค้าก็จะหายไปเอง ตามระยะเวลาที่เหมาะสม สิ่งทั้งหมดนี้ที่เค้ามาปรากฏให้เรารู้เห็นและจับ เพราะจะค่อยๆขัดเกลาเราให้เข้าใจและเเยกได้มากขึ้น

    การเเยกขันธ์ ๕ มีผลอย่างไรชีวิต
    ในมนุษย์ธรรมดาคงไม่มีเเน่ที่จะดับขันธ์ได้ 100 เปอร์เซ็น แต่สิ่งนี้จะทำให้เราตามจิตเราได้ทุกๆขณะ และจะทำให้เรามีสติและเข้าใจธรรมชาติมนุษย์มากขึ้นไม่ทำอะไรวู่วาม ยามใดสังขารเกิดก็จะจับได้บางครั้งอาจเสวยไปโดยไม่รู้ตัวก็ไม่เป็นไร ตามทันบ่อยๆ ก็จะไม่เสวยไปโดนไม่รู้ตัวเอง เวทนาก็ด้วย หากเกิดก็จะจับทัน อย่างเช่นเวลาโกรธก็จะจับทันรู้ว่าเวทนาหนอ แต่ห้ามทำเป็นไม่สนใจเพราะจะทำให้ฝังไปในจิตใต้สำนึกจนระเบิดออกมาในวันนึง ถ้าโกรธก็ให้สังเกตลมหายใจว่า หยาบหรือละเอียด อุณหภูมิใดเกิดในร่างกายขณะนั้น อวัยวะในร่างกายสิ่งใดที่ผิดปกติไป แล้วเราจะมีสติมากขึ้น :] และไม่ทำอะไรโดยไม่คิด


    ขันธ์๕ จะเกิดขึ้นอย่างไร
    เวทนา = จะมาเป็นความรู้สึก อย่างเช่น ง่วง หวิว เบา ชา ปวด เจ็บ คัน
    ทั้งหมดนี้เป็นเวนา
    สัญญา =ความทรงจำในอดีต บางครั้งเราลืมไปเเล้วก็จะมาเกิดขึ้นให้เห็นจนเราเเอบเสวยไป ก็คือฟุ้งซ่าน แตกสมาธิ
    สัญญา ก็เช่น เพลง ความทรงจำ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา อาจจะนานแล้วหรือแค่เมื่อสักครู่ นั้นคือสัญญา
    สังขาร = ความคิดที่เกิดขึ้นที่ปรุงเเต่งต่างๆ อย่างเช่น คัน นี้คือเวนา โดนกระทบว่าคันส่งความรู้สึกถึงสมอง วิญญาน เคยคันมาเเล้ว นี้เป็นสัญญา ทำไมถึงคัน นี้เป็น สังขาร ขันธ์จะทำงานเร็วมาก แต่ จะไม่ทำงานพร้อมกัน เช่น ถ้าเกิด สังขาร ก็จะไม่เกิด สัญญา เวทนา เป็นต้น :]]
    วิญญาน =ก็คือการเวลาเกิดเวทนาใด ก็จะส่งไปถึงระบบส่วนความจำนั้นคือ สัญญา จำได้หมายรู้ นั่นเอง

    ขอบคุณมากๆนะคะนี้คงเป็นประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาก ตอนเเรกที่อ่าน เรื่องขันธ์ ๕ ดิฉันไม่เข้าใจเลยค่ะ แต่พอได้ ปฏิบัติก็ได้รู้ และสามารถอธิบายได้ในแบบที่ตนเข้าใจ
    (ไม่รู้ว่าพวกท่านจะเข้าใจเช่นกันไหม หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ)
    ด้วยประสบการณ์ที่น้อยของอายุเพียงเท่านี้ อาจจะไม่ได้ได้ละเอียดมากนัก :]] ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมอ่านประสบการณ์ของดิฉันนะคะ :]]
     
  2. พลังขาว

    พลังขาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +61
    หากมีอะไร ช่วยบอกได้เลยนะคะ
    บางอย่างอาจเข้าใจผิด :]] แย้งได้เสมอนะคะ
    จะได้รู้และเข้าใจมากกว่านี้
    ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ
     
  3. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    ดีๆอายุยังน้อย สนใจทางนี้ ทำบ่อยๆความละเอียดของจิตก้จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การเฝ้าดูทำให้ผู้ปฏิบัติเห็นความเป็นไปของธรรม เกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป มันเป็นเรื่องของนาม จากหย่าบสู่ละเอียด เร่าจะสามารถแยกออกเป็นส่วนๆตามกำลังของสมาธิหรือฌาณนั่นหละ การเฝ้าดูสำคัญมากเราจะเห็นธรรมต่างๆได้เพราะการเฝ้าดู ถูกทางแล้วมันทำให้สติปัฏฐาน๔ดียิ่งๆขึ้นไปพอมันละเอียดเต็มที่มันก้จะแยกออกได้เต็มที่ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปจะเร็วขึ้นเพราะการรู้เท่าทัน สุดท้ายมันก้จะพิจารณาไปลงตรงอนัตตา นี่คือสุดท้ายของแต่ละข้อธรรมที่พิจารณา ใครเพียรเฝ้าดูอยู่ตลอดโดยใช้ปัญญาพิจาณาผู้นั้นก้จะแตกฉานในอรรถธรรมนั้นๆยิ่งกว่าวิธีอื่นๆ โดยเฉพาะ อริยะสัจ๔ อริยะมรรคมีองค์๘ สติปัฏฐาน๔นี่จะเข้าใจแจ่มชัดมากว่าทำไม๓อย่างนี้จึงเป็นหัวใจของศาสนาพุทธ สิ่งที่จะตามมาคือของแถมเมื่อเราพบญาณจงใช้สิ่งที่ได้มาให้เป็นประโยชน์และอย่าไปยึดติดกับมันเพราะอย่างมากเราก้แค่รู้เห็นไม่สามารถไปทำอะไรกับมันได้หรอก สิ่งที่มันควรจะเป็นมันก้จะเป็นของมันไปอย่างนั้น
    ทำต่อไปนะขออนุโมทนาด้วย ขอให้ประสบความสำเร็จ
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    วิธีการปฏิบัติน่าสนใจนะครับ....

    ว่าแต่อาารย์คุณ หม่อมน้อย นี่ท่านใหนเหรอครับ สถานที่ปฏิบัติธรรมของท่านอยู่ที่ใหนเอ่ย.....
     
  5. พลังขาว

    พลังขาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +61
    หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล
    ท่านคือ ครูของนักเเสดงค่ะ ท่านเป็นผู้สร้างภาพยนตร์หลายเรื่องมากค่ะ ทุกเรื่องที่ท่านสร้าง ซ่อนหลายอย่างไว้มากมาย
    คนที่จะได้เข้าไปต้องเป็นดารานักเเสดงที่มีทัศนคติตรงกับท่านค่ะ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จะได้
    เเสดงออกมาได้เป็นธรรมชาติจากความเป็นมนุษย์จริงๆไม่ได้เเสร้งทำแต่เรียนได้ตลอดชีวิตเพราะ นี้คือการปฏิบัติธรรมค่ะ ด้วยการจับขันธ์ ๕ เวลาเเสดง และ ปลงขันธ์๕ในชีวิตจริง
    ลูกศิษย์ของท่าน เห็นตามทีวีมีชื่อดังเป็นนักเเสดงเเถวต้นมากมายค่ะ ชัดๆเลย ก็
    คุณนกสินจัย อนันอันดา และอีกมากมายค่ะบรรยายไม่หมด
    ซึ่งเป็นนักเเสดงคุณภาพทั้งสิน

    หลายคนมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อท่าน ท่านคือผู้สร้างหนัง จันดารา

    ในหนังเรื่องนี้ ถ้ามองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ได้จะได้อะไรมากมาย เห็นถึงธรรมในหลายๆอย่างที่ท่านเเทรกไว้ในหนัง จากชีวิตๆจริงๆของมนุษย์

    ในชีวิตจริงที่ได้เป็นลูกศิษย์ของท่าน ท่านจิตใจงดงามมากค่ะ

    ลองดูหนังเรื่อง อุโมงผาเมือง สิคะ เป็นหนังที่ดีมากๆๆ สิ่งที่เกิดในหนังคือเรื่องจริง ที่หลายๆคนอาจจะรับไม่ได้ ลองไปดูนะคะ :]] ขอบคุณมากเลยค่ะที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ :]]
     
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ดิฉันเป็นลูกศิษหม่อมน้อยค่ะ ดิฉันทำงานในวงการบันเทิงค่ะ
     
  7. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ..ที่คุณเล่ามาทั้งหมดนี้..มันแค่การกำหนดรู้เวทนาเท่านั้น ไม่ใช่การแยกขันธ์5 คนมีสติก็สามารถทำได้ทัน แต่มันคือการหนีสภาวะทุกข์..เพราะขาดปัญญาการรู้ถึง ที่เกิด-ดับ ยังไง อย่าหวังว่าเวทนาจะหายไป ให้ดูรู้ว่าเกิดยังไงที่ไหน
    การแยกขันธ์5..คุณจะต้องรู้แหล่งที่เกิด ของแต่ละขันธ์ แล้วต้องรู้เกิด-ดับ
    ของขันธ์ต่างๆ เช่น..เวทนาเกิดได้2ทาง กาย-ใจ เวทนานอกเวทนาใน เป็นต้น
    ..หากจะแยกขันธ์5..ต้องพร้อมหลายด้าน ทาน ศิล สมาธิ ปัญญา
    เมื่อก่อนผมก็เข้าใจว่า การเพิกเฉต่อเวทนาที่เกิดคือการแยกขันธ์..แต่น่าจะไม่ใช่ หากคุณไม่ยอมรับรู้ต้นตอของเวทนาที่เกิดแล้ว..จะดับเขายังไง
    :mad:แค่การเพิกเฉย..นั่นเป็นการหนีเวทนา ไม่ใช่แยกเพราะขาดตัวรู้..หากเวทนาแรงๆเกิดที่กาย หรือที่ใจของคุณ เจ็บจะตาย คุณจะพยายามหนีสภาวะ หนีเวทนาไปไหนทัน รับได้ไหมที่จะเพิกเฉย..
    ..ธรรมมะใดเกิดแต่เหตุใด ให้รู้ที่ต้นเหตุนั้นแล้วจึงดับเขาเสียแก้เขาเสียตรงนั้น..อนุโมทนาที่สนใจแต่ยังเยาว์:'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  8. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    การเพิกเฉยต่อเวทนา..คุณจะเอาจิตไปจับที่ใด ไม่ยอมรับรู้เฉยๆใช่ไหมครับ..?
    หากเพิกเฉยต่อเวทนาได้นั่นหมายถึง จิตคุณต้องทรงสมาธิอย่างสูง เพราะจะทนต่อเวทนาที่เกิดทั้ง2ทางได้ ด้วยการเพิกเฉย หาจิตไม่มีกำลังสมาธิ ..จิตคุณจะหนีเวทนาไม่พ้นหนีไม่ได้เลยครับ เพราะเวทนาจะเกิดรวมที่กายทั้งหมด..!
     
  9. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    ถ้าเข้าใจผิดก้เข้าใจใหม่นะไม่มีใครดับเวทนาได้ มันเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปเองนะไม่ใช่เฉพาะเวทนานะทุกอย่างมันเป็นของมันอย่างนั้น ไม่มีใคสามารถไปทำอะไรกับมันได้ รู้อย่างเดียวที่สามรถทำได้นะ
     
  10. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ดูจิตยังไงครับ ผัสสะทำให้เกิดอะไรครับ..เวทนาเกิดจากอะไรครับ..ผมว่าผมเข้าใจถูกนะครับหากผิดก็ขออภัย:'(
     
  11. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    ตถาคตย่อมเเสดงธรรมโดยสายกลางไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้ง2นั่น

    เพราะมีผัสสะ เป็นปัจจัยถึงมีเวทนา อันเป็นสุขบ้าง ทุกข์บ้าง มิใช่ทุกข์มิใช่สุขบ้าง บุคคลนั้นเมื่อสุข หรือ ทุกข์ หรือ อทุกขมสุข ถูกต้องอยู่ ย่อมเพลิดเพลินพร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ความเพลินใดเกิดขึ้น ความเพลินนั่นคืออุปทาน เวทนาอย่างนี้เรียกว่าอิงอามิส ควรกลัวไม่ควรเสพ สำหรับอุเบกขาเป็นอารมณ์สุดท้ายที่ต้องเหลือ ถึงมีความไม่เบียดเบียนเป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องไม่เพลิน เดียวจะกลาย เป็นบวงของมาร หรือ ตะก้อดักปลา เเละเป็นทางมาเเห่งอนุสัย3. ต้องรู้เหตุเกิด ความดับ เเละนิสรณะ ของเวทนาทั้งหลายเหล่านั้นตามที่เป็นจริง ย่อมละราคาอนุสัยได้ ย่อมบรรเทาปฏิฆะได้ ย่อมถอนอวิชชานุสัยได้เมื่อลัอวิชชาได้วิชชาย่อมเกิดขึ้น ย่อมทำที่สุดเเห่งทุกข์ในทิฏฐธรรมได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  12. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ผมยังจำคำของหลวงปู่ดู่ได้ดีครับ
    ถ้าปฏิบัติแล้ว โลภ โกรธ หลง ลดลง ถือว่าใช้ได้

    ผมเองก็ปฏิบัติตระกูลหนอ อยู่หลายเพลา
    จนกระทั่งวันหนึ่งมาสำรวจจิตแบบที่หลวงปู่ดู่ว่าไว้(โดยบังเอิญ)
    ก็เลยสังคายนาการปฏิบัติใหม่อีกรอบหนึ่ง
     
  13. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    คนแขนขาด แขนที่ขาดไปแล้ว ยังมียังรุ้สึก เวทนา หรือไม่
     
  14. พลังขาว

    พลังขาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +61
    คุณได้ปฏิบัติใช่ไหมค่ะ
    ดูจิต = พิจราณาอารมณ์ ดูร่างกายว่าตอนนี้อะไรเกิดอะไรดับในทุกขณะจิต อาจจะตามทันบ้างตามไม่ทันบ้าง ก็ไม่เป็นไร ตามทันบ่อยๆก็จะรู้เอง
    ผัสสะ = คือการประจวบเหมาะของ อายตนะใน นอก และวิญญาน จนกลายเป็นเวทนาคะ. ซึ่งธรรมชาติมากๆ
    เวทนาเกิดจากอะไร กลับไปอ่านใหม่ข้างบน

    ดิฉันไม่ได้จะดับเวทนา
    ธรรมะคือธรรมชาติ ถ้าปฏิบัติ. จะรู้เอง รู้ไปเรื่อยๆ

    และ สุดท้าย. จริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน
     
  15. พลังขาว

    พลังขาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +61
    ขันธ์ 5 จะดับก็ต่อเมื่อคนนั่้นตายไปแล้ว. เหลือแต่ดวงจิต ดวงจิตจะดับได้ก็ต่อเมื่อไปนิพพาน
    แขนขาด.ก็แล้วแต่จิตเค้า ถ้าจิตคิดว่าอยู่ ก็เกิดเวทนา. แต่สุดท้ายตายเท่านั้นที่ดับได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  16. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    คุณ..เคยเห็นหรืออ่านประวัติครูอาจารย์ท่านบ้างไหม บางท่านนั่งสมาธิได้ ตลอดวัน ตลอดคืน..
    :mad:หากดับเวทนาไม่ได้ก็ต้องทนรึ..หรือเพิกเฉยเวทนาแบบคุณทำ..ทำไมท่านดับเวทนาได้ เวทนาไม่เกิดกับท่านเลย หากเกิดจะทนนั่งได้ไหม รึหากเพิกเฉยจะเฉยได้นานเท่าใด เวทนาอื่นๆก็จะมาใหม่ใช่ไหม
    ท่านลุกขึ้นยืนเดินได้เลย เมื่อออกจากสมาธิ นี่ไม่เรียกการดับเวทนารึครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  17. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    คุณกำลังชวนสนทนาธรรม..เรื่องแยกขันธ์5 ไม่ใช่ดับขันธ์5..แยกหมายถึงต่างขันธ์ต่างอยู่..ไม่ใช่ดับครับ:mad:
     
  18. พลังขาว

    พลังขาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +61
    ขอโทษค่ะ จะเข้าใจใหม่
    ยินได้ที่ได้สนธนาธรรมนะคะ
     
  19. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    ไม่ใช่ครับ หลังจากการเเตกทำลายเเห่งกาย ไม่ใช่ว่าจะเหลือเเค่จิต ไร้ขันธ์5 เพราะ ทุกวินาทีมันกำลังสร้างภพเเละจะมีการเกิดของภพใหม่ของมันอยู่ตลอดเวลา รอเพียงเเค่กายเเตกทำลายเมื่อไหร่เท่านั่นเอง ที่มีภิกษุถามพระพุทธเจ้าว่า ใครเล่าย่อมกลืนกิน วิญญาณอาหาร พระองค์ก็เปลี่ยนคำถามใหม่ให้ว่า วิญญารอาหารมีเพื่ออะไร คำตอบพึงมีว่าเพื่อความเกิดขึ้นเเห่งภพใหม่ต่อไป ฉนั่นเมื่อทำกาละ อรรถภาพมันจะปรากฏขึ้นทันที สำหรับสัตว์หรือสัมภเวสีผู้เเสวงหาที่เกิด เพราะ ฉันทะ ราคะ นันทิ หรือจะเรียกรวมๆว่าตัณหา มีอยู่ในวิญญาน นั้นเอง เรียกว่าพอใจในวิญญาร ความเกิดขึ้นเเห่งภพใหม่ต่อไปย่อมมี งั้นเเล้วอะไรทำให้เกิดวิญญานบ้าง คือ บุคคลคิดถึงสิ่งใด ดำริถึงสิ่งใด หรือมีจิตปักลงไปในสิ่งใด (สังขาร) สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมเพื่อการตั้งขึ้นของวิญญาน เมื่ออารมณ์มีขึ้น ความเกิดขึ้นเเห่งภพใหม่ต่อไปย่อมมี
     
  20. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    คุณสับสนคุณกำลังพูดจากความคาดคะเนของคุณว่าครูบาอาจารย์ท่านนั่งทั้งคืนเพราะดับเวทนาได้ ขอให้คุณไปศึกษาเรื่องกายสังขารรำงับนะ ถ้าอยากรู้ว่าอะไรเกิดเพราะอะไรให้ศึกษาปฏิจจสมุปบาทกระนั้นคุณก็ต้องปฏิบัติจนจิตคุณละเอียดเข้าใจเรื่องรูปนาม คุณก็จะหายสงสัย ความคิดไม่เหมือนกับความจริงหรอกนะเมื่อไม่ไดเอาเท้าแตะพื้นจะรูได้ไงว่าเวทนาเกิดจากการการกระทบ!การกระทบนั่นแหละผัสสะมีผัสสะจึงมีเวทนา หรือถ้าคุณไปถามอาจารย์ที่ท่านั่งได้แบบนั้นคุณก้จะได้คำตอบว่ามันก้เกิดๆดับๆของมันอย่างนั้น!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...