อยากบรรลุธรรมเข้ามา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย newamazing, 13 ธันวาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สำหรับผมแล้วประสบการณ์ผมนั้นอานาปานเป็นทั้งได้ทั้งสมถะวิปัสนา อาการของลมจะเป็นอย่างไรละเอียดอ่อนเบาสบายอย่างไรนั้นผมเองอุเบกขาอย่างเดียวอย่างไรซะเราก็ต้อเจอ พิจารณาอย่างไรก็ไม่หนีกกฎไตรลักษณ์แม้ฌาน1-9 เมื่อฌานเสื่อมหมดกำลังลงเหลือแต่ความเจ็บปวดเราเคยอุเบกขาหรือเปล่าเคยเข้าไปดูที่สุดของมันมั้ย ว่าที่สุดมันอยู่ตรงไหน ตรงนี้แหละผมว่าสำคัญมาก
     
  2. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ^อานาปานสติ มีการเข้าไปวางอุเบกขาด้วยเหรอครับ
    เข้าใจว่าการเห็นตามจริง จนคลายกำหนัดในอำนาจความเพลิน(เห็นทุกข์)หากเข้าไปวางอุเบกขาก่อนจะเห็นทุกข์ไม่เท่ากับไปก่อทิฎฐิว่าเที่ยงหรือไม่ครับ
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ทำไมต้องคิดว่าเราอวดตัว ประโยชน์อะไรที่เราได้หรือ เรากำลังจะบอกทางทางหนึ่งที่เราเดินมาด้วยความยากลำบาก แก่เพื่อนร่วมเิดินทางเดียวกัน เราเอาตัวเข้าแรกจนพบความจริงแล้วเอามาบอกว่าทำอย่างไร อดทนแค่ไหนทำไมเราถึงหายสงสัย จะไม่ให้เราบอกได้อย่างไร ว่าสภาวะนั้นมีจริง และไม่ยากเกินที่จะประจักษ์ได้ แต่เราเข้าใจทุกคนสะสมมาไม่เท่ากัน เราเองสะสมมาที่จะพบด้วยวิธีนี้อาจจะต้องแรกมาซึ่งชีวิต แต่มันก็คุ้ม แต่ละท่านอาจจะเจอด้วยวิธีอื่นเราไม่อาจรู้ได้ แต่เราเจอด้วยวิธีของเราตามพระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ทั้งอานาปานสติ และบทอธิฐานความเพียรที่เราน้อมนำมาปฎิบัติ อาจจะแตกต่างบ้างก้ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์
     
  4. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    อย่างไรซะเราก็ต้องเจอ น่าจะเจอกับอันตรายแล้วล่ะครับ
    แล่นออกไปจับอนาคตเกินสติ แล้วจะยังอยู่ในลมเข้าออกได้อย่างไร
    จริงๆยิ่งเขียนก็ยิ่งเห็นว่าออกจากสมาธิแล้ว ฟุ้งซ่าน
    ผมเองคงบอกเล่าได้เท่านี้ครับ ขอบคุณที่ร่วมเสวนาครับ
     
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    การที่เราประจักษ์ปิติ สุข เราไม่ยินดีนั้นแหล่ะครับคืออุเบกขา แค่เฝ้าดูด้วยใจเป็นกลางเห็นสภาพธรรมตามจริงทุกสิ่งล้วนมีแต่เกิดดับเท่ากับเราไม่ยึดความสุขหรือละความสุขไปในตัวไงครับ เมื่อฌานหมดกำลังท่านก็เจอความทุกข์อีกแม้ท่าจจะมีสติอยู่กับลมอย่างไรก้ต้องทำใจเป็นกลางๆไม่ไปยินร้ายกับทุกขเวทนาทั้งทางกายทางใจเท่ากับเราได้ละความไม่พอใจไปในตัวครับนี่เป็นอุเบกขาที่เราจะต้องประกอบกับการปฎิบัติวิปัสนาด้วยครับ
     
  6. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    สไตล์ผมนิยมความปรองดองมากกว่าการเอาชนะ ถือว่าผมคิดไปเองแล้วกัน

    ผมอ่านธรรมที่คุณแสดงแบบผ่านๆ ผมก็ยอมรับว่าแสดงได้ดีมาก และเห็นด้วยในหลายส่วน

    ผมจะหาโอกาสไปทดลองแนวทางปฏิบัติตามที่คุณแนะนำดู ว่าที่สุดจะเป็นเช่นไร ดูแล้วน่าจะง่าย ไม่ต้องปรุงอะไร เห็นเข้าไปที่ลมเข้าออกแบบตรงๆ ที่ยากน่าจะเป็นการประคองให้สติต่อเนื่อง คงต้องดึงกลับไปกลับมากันหลายยก กว่าจะเห็นเกิดดับ จนถึงจุดที่ไม่เกิดไม่ดับอย่างที่คุณว่า

    ผมจะนำไปพิจารณาให้มาก อนุโมทนาด้วยแล้วกัน ถึงแม้ว่าในกระทู้นี้ดูเหมือนคนเห็นด้วยน้อย แต่ผมก็ว่าคุณไม่ธรรมดาเลย นับถือ...
     
  7. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    นี่ไงครับท่านที่เอาแต่สมาธิ สมาธิใช่แค่เป็นบาทฐานเท่านั้นแต่ล่ะท่านถึงได้แต่ความสงบกันเข้าไม่ถึงวิปัสนาแท้จริง วิปัสนาแท้จริงที่มีกำลังจริงๆที่จะทำลายความสงสงสัยได้นั้นรูปกับนามจะต้องแยกจากกัน ซึ่งสมาธิิทำไม่ได้หรอกครับ
     
  8. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ก่อนพระพุทธองค์จะตรัสรู้นั้นท่านอธิฐานแม้กายจะแตกเลือดเนื้อจะแห้งหาย ถ้าไม่ครัสรู้จะไม่ลุกจากที่ประทับ เราเคยคิดอธิฐานแบบนี้กันบ้างมั้ย
     
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอ่อ แล้วที่กล่าวนี้

    หมายเอา ความรู้ในตอน รวมครั้งที่ 1 เป็นโสดาบัน

    รวมครั้งที่สอง เป็น สกิทาคามี

    แต่ว่า รวมครั้งที่สาม ไม่รู้ว่า ครั้งที่หนึ่ง และ สอง ทำมาอย่างไร จึงรวมได้
    รอ ฝลุ๊ค อีกที

    หรือว่า

    ที่กล่าวมานี้ คือ ฟลุ๊ครวมครั้งที่ 3 และ 4 ได้แล้ว หรือครับ

    ถึงจะได้ เน้น แถลงเรื่องนี้ เพื่อจะอธิบายว่า ทำอย่างไรจึงรวม ได้
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    เล่าปัง*, newamazing, jittinon, วิมุตติ, Ziscrosss


    ให้เวลา อ้ำอึ้ง สัก 30 นาที โดยเฉลี่ย จากประวัติ พฤติกรรม การเห็น คำถาม
    แล้ว อำอึ้ง ก่อนจะกลับมาตอบ แบบแก้เก้อ ไปวันๆ
     
  11. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    โอ้ โห ธรรมมะ ด้นเด้า เดาไปเรื่อย แกะ กับ แพะ ร้องระงมม

    ใครเขาต้อง ดึงจิตกลับมา จิตบ้านคุณเป็นอัตตาเหรอ ถึงได้ สั่งมันได้

    สติ ระลึกได้ในสิกขา แค่นี้ ก็ จบแล้ว ไม่ต้องอธิบาย ว่า ดึงกลับมาหรือไม่ ไม่
    เกี่ยวกันเลย ภาวนาเป็นหรือเปล่าเนี่ยะ

    กั๊กๆ ไปคลักกะปิ เรื่องเห็นไตรลักษณ์คือเจริญปัญญา ชะมะ แต่มันตลก
    ตรงบอกว่า " จะเห็นการเกิดดับอีกอย่างหนึ่งคือลมหายใจ " แต่ งง ใช่ไหม
    หละว่า ลมหายใจ เนี่ยะ มันอะไรว๊า โดยความโง่ ก็เลยกล่าวเอา แบบก๊อปปี้
    ไปทั้งดุ้นว่า เห็นลมหายใจเกิดดับ เว้ยเฮ้ย ...... โง่ชัดๆ สติปัฏฐานใคร
    เขาดูลมหายใจ จะไปดูลมหายใจพงาบๆ ทำแป๊ะอะไร เขาดูลมหายใจหนะ
    ใช่ แต่ ใจที่แยบคายเขาเห็น "........" หวะ ไม่ใช่เห็น ลมหายใจเกิดดับๆ
    นั่น โดนพระหลอกให้ก๊อปปี้ไง พระท่านเวลาสอน ท่านจะ ซ่อนไว้นิดๆหน่อยๆ
    เวลาไอ้พวก เดียรถีย์มาก๊อปปี้ มันจะ กล่าวไม่ถูก เผยไต๋ ให้เห็นได้ไม่ยาก

    อันนี้ ตลกดี ให้คะแนน ความตลก ความพยายาม ด้นเด้า ฮาได้ใจมาก

    เอา ฌาณ มาพ่วง แบบว่า กลัวไม่ได้กล่าว และความที่ มะงุมมะงาหรา
    หายใจพงาบๆ มา เลยไม่เข้าใจว่า จิตพัฒนาอย่างไร จึงเป็น ฌาณ เลย
    บอกเอาแต่ซื่อๆ โง่ๆ ว่า " หายใจไว้ๆ " มีอาการตึงแปลกๆ ก็ไม่รู้จะ
    เรียกว่าอะไร ก็เลยพูดไปแบบโง่ๆ อีกว่า มีบ้างไม่เป็นไร อุปทานสวาปาม
    ไง เลยไม่รู้ว่า ตกลงต้อง ตึง หรือ หย่อน หรือ จะต้องอย่างไร อุปทานกิน
    ก็เลยเอ สงสัยจะใช่ เอาหน่า กล่าวไว้ คนจะได้เห็นว่า ทำมาเหมือนกัน

    แต่ คนทำเนี่ยะ เขาจะรู้ว่า ตึง หย่อน อะไรนี่ ต้องกล่าวออกมาไหม จำเป็น
    ต้อง แลบลิ้นปลิ้นปล้อนตอแหล ออกมาไหม จำเป็นไหม ที่จะต้องกล่าว

    คนภาวนาเป็น ส่วนใหญ่ เขาไม่พูด ต่างหากหละ

    อันนี้ก็นะ คือ หมดหนทางจะบรรยายละ เลย อิง โพธิญาณบารมี ที่เป็น
    " อุปปารมี " เอาดื้อๆ โดยไม่ดู ธาตุ ดู ความเป็นจริง

    ทั้งๆที่ ตนเองหนะ กล่าวอยู่ตอนต้นโน้นเลย เรื่อง "สุญญตา"

    คุณ ภาวนาสุญญตามาแต่ออกสตาร์ท แล้ว ทำไมต้องมากล่าวเรื่อง การหักดิบ
    อะไรนี่อีก ................. เนี่ยะ ตรงเนี่ยะ เป็นความอัศจรรย์ในการ จับพิรุธ
    เดียรถีย์เลยหละ

    ธรรมะ ก๊อปปี้ มันจะเผยตัว มันจะก๊อปปี้ ทุกอย่าง

    แต่ ถ้า ปฏิบัติจริง เริ่มกันด้วย สุญญตาแต่เริ่มต้น .... เขาไม่ต้องกล่าวก๊อปปี้
    ให้เมือ่ยตุ้มหรอกคร้าบท่าน
     
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    คุณ จขกท อาจจะบอกว่า แหม หลวงปู่ หลวงตา ท่านไหนๆ เขาก็ กล่าวเรื่อง

    โสเป็น โสตาย ปฏิบัติเอาชีวิตเข้าแลก กันทั้งนั้น

    ก็ใช่ ท่านกล่าว

    แต่ท่าน ไม่ได้ กล่าวลอยๆ ท่านกล่าวมา เพราะตอนนั้น มันมี เหตุ ควรกล่าว

    แต่นี่ คุณ จขกท ยังไม่มีใครปรารภเรื่อง "....................." เลย สักแอะ

    แล้ว จะกล่าวออกมาทำ แป๊ะ อะไร ................


    งง ใช่ไหมหละ ว่า เอ ธรรมะนี่ เขากล่าวยังไงกันแน่ น๊อ กล่าวเจื้อยๆ เรื่อยเปื่อย
    เอา เทห์ เอาสวย เอามาประดับตนไปวันๆ หรือ กล่าวแบบมีเหตุให้กล่าว

    " ทาน " ยังทำไม่เป็นเลย เชื่อไหม

    หาก ทำทาน เป็นนะ จะรู้เลยว่า ทำไมต้องกล่าวตามเหตุ เท่านั้น

    แต่ถ้าทำทานไม่เป็น ธรรมะควักกะปิ กล่าวเรื่อยเจื้อย เทห์ เรือหายเลย
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อันนี้ ก็ ฮา ได้ใจ

    กะว่า ใช่สุดๆ แล้ว อะจิ

    แต่ ไปอ่านใหม่นะ ไอ้ที่ ก๊อปปี้มาท่อนนี้เนี่ยะ มันเป็นการ
    ฝึกขั้นให้เกิด "จิตตั้งมั่น"

    กาย จิต เวทนา แยกกันเนี่ยะ เป็นแค่เรื่อง จิตตั้งมั่น

    และ ศาสนาไหน ก็สอนตรงนี้ได้ พระพุทธองค์บอกเลยว่า
    อะไรแบบนี้ สักกานทิฏฐิแบบนี้ ศาสนาไหนก็สอนได้ ไม่
    ต้องมีศาสนาเลย อาศัยคนมัน อึด หรือ รับยา ไปก็ เห็นสภาวะ
    เหล่านี้ได้ ............ เป็น ของชาวบ้าน !!

    ชาวบ้านเขาเอาจิตตรงนี้ น้อมไปสู่ โลกียะ

    ปุถุชนที่เคยสดับ จะน้อมไปสู่การพิจารณา "............." เพื่อ
    รู้เห็นตามความเป็นจริง ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเอ๊ะ แล้ว สวนกระแส
    บางอย่าง จึงจะเรียกว่า จิตมี"........." ซึ่ง จะเอา จิตรงนี้ไป
    ภาวนาอีกที ยังไม่จบ ยังต้องแยบคายอีกสองสามทอดได้ กว่า
    จะ " สุญญตา "

    ( อย่า งง น๊า ว่า ทำไมต้องพูดเป็นปริศนาไปหมด ก็ ให้คุณ
    แจงเข้ามาไง ถ้าไม่แจงมาว่า สองสามถอด มีอะไรบ้าง ทำไม
    มันต้องเป็นแบบนั้น ก็แปลว่า ภาวนาไม่จริง ก๊อปปี้ ด้นเด้า เดา
    เอาดื้อๆ ตาไม่ได้เห็น "..." ดั่งเห็นรูป มากะเขาเลย )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2013
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เออ นี่ ขอบอก จขกท ก่อนนะว่า

    แทนที่จะมานั่ง แก้ต่าง เรื่อง เป็นสกิทาคามีอ้ำอึ้ง เป็น พยานให้ธรรมะ เป็นทหารให้
    กับ พระพุทธองค์ไม่ได้ แล้ว ต้องเอาเวลาไปนั่ง รวบรวม คำศัพท์เทห์ๆ มาร้อย
    เรียงเป็นเรื่องเพื่อกล่าวแก้

    ไอ้แบบนี้ ผมจะชอบทัก และ จี้เป็นจุด

    จี้ไม่จี้ธรรมดานะ จะแกล้ง กล่าวให้ งง

    ทำไมนะเหรอ ก็เพราะว่า ธรรมะอ้ำอึ้ง ไม่มีธรรมจริง เหงือจะแตก

    พอจะกล่าวอะไรออกมาอีก หากสัมปชัญญมีไม่มากพอ มันจะ กล่าว กลบคำตัวเอง

    พอกล่าว กลบคำตัวเองปั๊ป เสร็จอีก ตกหลุมพรางผมไง

    พอกล่าวอะไร ขัดแย้งกันเอง จับต้น ชนปลายไม่ถูก จำไม่ได้ว่า ตะกี้กล่าวอะไรไป

    พอกล่าวใหม่ ก็ผลิก กล่าวไม่เหมือนเดิม ....พอตรงนี้เกิดปั๊ป ผมจะแกล้งเงียบ

    ทำไมเงียบ

    ก็เพื่อให้ เข้าใจผิดคิดว่ากล่าวถูก พอกล่าวออกมาเรื่อยๆ มันก็จะเข้าตำรา

    เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า

    คือ ตอนแรกกล่าวอย่างหนึ่ง พอโดนหลอกให้กล่าว ก็เลยกล่าวอีกอย่างหนึ่ง

    ไร้สาระโดยไม่รู้ตัวเลยว่า โดนหลอกให้กล่าว

    ****************

    แต่ถ้าใคร พอจะเป็น ทหาร ได้นะ คนๆ นั้น เขาไม่จำเป็นต้อง กล่าวอะไร
    ที่เป็น คำพูดตนร้อยเรียงเอาเรื่อยเจื้อย

    เขายกพระสูตรที่เกี่ยวข้องมา เนี่ยะ อันเนี่ยะ ทหาร แท้ๆ เพียงพอต่อการ บันเทิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2013
  15. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เล่าปัง เคยเห็นนิพานมั้ย
     
  16. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เนี่ยะ เชื่อไหมว่า ตกหลุมพราง ผม จังเบ้อเร้อเลย

    ใคร เขาอาศัย การถามตอบ แบบนี้กันหละคร้าบ

    อุปทานกิน เท่านั้นแหละ คนๆ นั้น ถึงจะ นึกคำถามแบบนี้ มาถาม

    กิ๊ววๆ !!

    ****************

    คราวหน้า หากจะปรารภ อะไรแบบนี้ แนะนำให้ ก๊อปปี้ พี่สี5
    ที่แกว่า แกเป็น พระศรีอริยาเมตไรพุทธเจ้า ตรัสรู้แล้วกลาง
    ศาสนาพระสมณะโคดม นั่น เอาแบบนั้น คือ กล่าวมาเลย
    ว่า " เราเห็นแล้ว " ไม่ต้องไปถามชาวบ้าน หรือ ยุ่งกับชาว
    บ้านเห็นหรือไม่เห็น มันไม่เกี่ยว และ ไม่จำเป็น

    เข้าใจไหมเนี่ยะ !
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2013
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อันนี้แถม

    เป็นเรื่องเล่าของพระท่านหนึ่ง ที่ท่านธดงค์ผ่านเนปาล

    ท่านผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เห็นกริยามารยาท คนทั้งหมู่บ้านดี ท่านก็เลย
    ถามว่า "พวกสูท่านได้ลิ้มรสนิพพานให้ชื่นใจสมเป็นชนต้นกำเหนิดศาสนาหรือยัง"

    พอถามชาวบ้านไปแบบนั้น ชาวบ้านก็รีบมาจับเอาถ้วยอาหารของพระท่านไป
    เป่า เป่าแล้วเป่าอีก แล้วส่งกลับมา พร้อมกับพูดเสียงดังฟังชัด ปราศจากการโกหก
    เพราะ พูดคำจริงล้วนๆว่า

    "นี่ไงนิพพาน ฉันเสียสิ"

    ฮะเอ่อ นิพพาน คืออะไร น๊อ ตอบได้ว่า ชิมแล้ว รับรู้แล้ว เห็นแล้ว แบบเสียงดัง
    ฟังชัดได้เลยนะ ไม่มีต้องอาย อะไร

    พระท่านกล่าวตอนจบว่า ไอ้คำถามแบบนี้ ทีหลังอย่าไปถามใครเขา
    เขาให้พินาอย่างอื่นเอา
     
  18. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ท่าน newamazing เห็นสภาวะธรรมแท้ๆ บางตัว ที่คนอื่นไม่เคยเห็นแล้ว
    ท่าน newamazing พูดถึงเรื่องการละ แต่ท่าน newamazing ลืมอะไรบางอย่างไปในเส้นทางสายการละ... นั่นก็คือ ท่าน newamazing ลืมละ "ตัวเอง" ครับ
     
  19. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมถามสั้นๆนะ ทำไมตอบไปยังงั้นล่ะ เคยเห็น ประจักษ์หรือยัง เพราะนิพพานไม่ใช่ตัวหนังสือแจ้วๆและแสดงเป็นนางเอกหนังเกาหลีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แสดงถึงการปรุงแต่งอย่างท่านแน่นอน นิพพานเป็นสภาวะที่เข้าไปประจักษ์แจ้ง จนอริยบุคคลเก็บมาเป็นอารมณ์ได้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2013
  20. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ใครจะละได้หมดนอกจากอรหันต์ ข้าพเจ้าก้ไม่ใช่อรหันต์ซะด้วย"ท่านที่มีจิตปรุงแต่งว่า อินทรบุตร"
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...