อยากบรรลุธรรมเข้ามา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย newamazing, 13 ธันวาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    อ่านแล้วก็ดูจะสนุกดีแต่ไม่รู้เรื่องเลยว่ากำลังทำอะไรเพื่อให้ใครเข้าใจ เอหรือว่า เพื่อตนเอง อืออ.. ออ อาจจะเพื่อผู้อื่นกระมัง
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ฮึย

    เคยได้ยินชื่อ " จาคานุสติกรรมฐาน " ไหม

    คือ ตามระลึก การจาคะ

    งง ไหม

    คือ ทำจาคะไปครั้งหนึ่งใช่ไหม จิตมันจะเกิด ปิติ สุข เรียกว่า จิตมัน
    สัมปยุตธรรมกับ ฌาณจิต เกิดเป็น กุศล ข้าง กรรมหนักฝ่ายดี

    ที่เขาให้ระลึก ตามระลึก ไม่ใช่ เที่ยววิ่งไปสะกิดคน แล้ว เอาเงิน
    ให้เขาบาทหนึ่ง แล้ววิ่งไปสะกิดอีกคน แล้วให้เขาอีกบาทหนึ่ง

    เขาแค่ เอาเงินบาทเดียวหย่อนลงไปในภาชนะรองรับที่เหมาะสม

    เท่านั้นแหละ ทำครั้งเดียว หากจิตมันแสดงตัวมีปิติ มีสุข ก็ระลึก
    ถึง พฤติจิตแบบนั้น มันถูกตบแต่งด้วยอะไร หากมี สติ ระลึกได้
    ก็ไม่ต้องทำ จาคะ แล้ว สามารถ ลัดฌาณ 1 2 3 4 ยังจิตให้
    แช่นชื่นเป็นกุศลมหาศาลได้เลย

    เว้นแต่ ใจมันมีบัญญัติมาก กรรมอื่นมันมาดึงรั้งไว้ ก็จะ ละทิ้ง
    คิดว่า ไม่พอ ไม่พอ .........โดนมันหลอกไปปู้ยี่ปู้ยำ

    แทนที่จะเพียรเพ่งฌาณต่อ ก็นู้นออกไปวิ่งสะกิดคนนั้นที ให้เงิน
    เขาบาทนึง วิ่งไปสะกิดอีกคนให้เงินเขาบาทนึง มันเรื่อยไป แล้ว
    มานั่ง ตีอกดัง ตับ ตับ ตับ !! แล้วเรียกคนมาดู มาดู กูแน่กูหนึงกูใช่
    กูประเสริฐ กูมีเครื่องหมาย.........................

    ถ้าจำไม่ผิดนะ เรื่องเครื่องหมาย พระพุทธองค์ตรัสว่า หากจะมี ก็ให้เป็น
    "ศีล" เถอะ อย่าเอาอย่างอื่นมาเป็นนิมิตเลย..........พระโสดาบันจึง
    มีนิตหมายคือ "................" ฮะเอ่อ
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านอินทรบุตร ขอบคุณที่แนะให้อ่านหลายรอบ ก็เลยอ่านซะหลายรอบ
     
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อันนี้ ลองเอาไป พิจารณา เป็นเรื่องของ ทานของพระโสดาบัน นะ

    มีอุบาสิกาท่านหนึ่ง ท่านสำเร็จโสดาบันแล้ว ท่านก็กลับบ้านไปหุงหาอาหาร
    ต้มยำทำแกง เพราะ มีสามีเป็น นายพราณ ลูกก็เป็นนายพราณ ทุกวัน สามี
    และลูกก็ต้องออกไปยิงธนูล่าสัตว์

    แต่ด้วยเดชบุญอะไร จำไม่ได้ แต่ตามท้องเรื่องเนี่ยะ ครอบครัวนี้ล่าสัตว์
    ไม่ได้อีกเลย ยิงอะไรก็ไม่โดน ลูกธนูก็หมดลงๆ

    พระโสดาบัน อุบาสิกา ฝ่ายภรรยา ก็เป็นผู้เหลาธนู เตรียมศาสตรา เพื่อ
    ให้สามี และ ลูก มีไว้ใช้ ยิงสัตว์ !!

    เนี่ยะ ทาน นะ เป็นการทำทาน คือ ทำงานหลังคดหลังแข็ง เหล่าไม้ไผ่
    ทำลูกธนู อาบน้ำยาฉุบศร ถ้าต้องสัตว์ละก้อ ป้อแป้ๆ จับได้โดยง่าย

    เอ.....................

    หรือคุณ จขกทว่า พระโสดาบันท่านนี้ ไม่ได้ กระทำทาน เป็นนิมิต

    ไหนลองย้อนแยงมา ........อย่าลืมนะ มรรค มีหนึ่งเดียว
     
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    555++ ท่านอย่าเป็นตำรวจนะยัดข้อหาเก่งจัง เดี๋ยวก็ว่าผมว่า เดี๋ยวก็ว่าผมอวด เราเตือนสติด้วยการสละ
     
  6. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    มันจะต่างอะไรที่ท่านกล่าวหาผมล่ะ ทุกอย่างมันอยู่เจตนาผมมีเจตนาอย่างหนึ่งคุณคิดไปอย่างหนึ่ง
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ต่ออีกหน่อย เว้นไม่ได้ เพราะ เรื่องนี่ ฟังแล้วรื่นเริงมาก

    กาลต่อมา สามี และ บุตร ก็หัวเสียสิ มันเสียเชิงชาย ออกไปล่าสัตว์ กลับ
    มาบ้านมือเปล่าทุกวัน เป็นอยู่อย่างนั้นร่วมเดือน หรือ ปี จำไม่ได้ แต่ร้อน
    ใจกันหละ หาเลียงครอบครัวไม่ได้ ก็เลยตั้งข้อสังเกตว่า จะมีเหตุอะไรหนอ
    ให้สัตว์มันหายไปหมด ล่าไม่ได้

    บังเอิญว่า วันนั้นเป็นวันดี ของครอบครัว ที่จะได้ พบพ่อตา ( บางตำราเขา
    เขียนแบบนั้น ) ก็ออกไปล่าสัตว์ เห็น ภิกษุโล้นนั่งอยู่ในแหล่งล่าสัตว์ ก็
    ไม่ฟังเลย มั่นใจ หมอนี่แน่ๆ ไม่ถงไม่ถมเลยนะ วิ่งปราดเข้าไป เงื้อธนู
    จะยิง แจงแวงงงงงงงงงงงง ....คือ ยิงไม่ออก แถมวางธนูไม่ลง ยืนแข็ง
    อยู่อย่างนั้น .................จนพลบค่ำ บุตรก็ออกมาตามหา ............

    เรื่องราวจะเป็นอย่างไร อันนี้ สงสัยต้องไปห้องวิทยา ถามหา ปาวา ดู หละคราบ
     
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ครับ ไม่เป็นไรครับ ยินดีครับ

    แล้วเรื่องเงินหละครับ ผมเอาจริงนะครับ

    สนทนากันแล้ว ท่านก็คงพอจะมั่นใจได้หละว่า อย่างน้อยผมก็ไม่ใช่คนทุศีล ก็คงพอจะมีความดีอยู่บ้างหละ

    ทำทานกับผม ดีกว่าทำทานกับคนทุศีลเยอะนะ ได้อานิสงส์นะ
     
  9. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สิ่งไหนเป็นเจตนาดีท่านจงทำเถอะ จะเกิดประโยชน์แกตนเอง
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เชย ระเบิดเลยคุณ

    เขาภาวนาแทบตายเพื่อให้เข้าถึง " สภาพจิตที่พ้นเจตนา "

    แต่ คุณนี่ซื้อบื้อเหลือเกิน ไปคว้าเอา "เจตนา" มาเป็นตัวชี้วัด

    ถ้าคุณจะบอกว่า พระโสดาบันเจตนาแค่ทำลูกศรให้สามี เลย
    ทำให้พ้นอยู่ด้วยดี อันนี้ เชยมากๆ เขาเรียกว่า ฉ้อฉล หัวหมอ

    และถ้าคุณจะบอกว่า พระโสดาบันไม่มีเจตนาจะฆ่าสัตว์ด้วยลูกษร
    ด้วยตนเอง อันนี้ก็ เชยอยู่ดี เขาเรียกว่า ฆ่า โดยการไตร่ตรองไว้ก่อน

    ฮะเอ่อ

    ไหน ลองอธิบายใหม่สิ ว่าทำไม พระโสดาบันท่านนั้นถึงยังทำ ทาน อยู่
     
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมจะเล่าอะไรให้ฟังผมไม่มีจริตเรื่องทำทานเลย และผมไม่สนใจในอานิสงค์มากหรือน้อย
     
  12. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    คนเราเกิดมาก็ทำหน้าที่แตกต่างกัน จะคิดอะไรมาก คุณมีความหมายอย่าง ผมก็มีความหมายอย่าง ผมไม่เห็นมีสาระอะไรมากก็ตามเหตุปัจจัย
     
  13. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    อย่างนี้หรือเเก่นธรรมที่ศึกษาอยู่
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เนาะ หมดทางเลือก มีอะไรในมือเขาก็ปัดตกหมด

    สุดท้าย ก็ต้อง ปรับลงมาในจุด ที่เขาขุดไว้

    ***************

    ทีนี้ กล่าวออกมาแล้วมีความเข้าใจหรือเปล่า หละ !?

    คนแต่ละคนมีหน้าที่ต่างกัน มีฉันทะต่างกัน มีศีลต่างกัน มีการแสวงหาต่างกัน

    แล้ว การที่ไปยื่นโต้งๆว่า อานาปา อานาปา แต่อย่างเดียว บอกว่า ใช่เลย
    รวดเร็ว แน่นอน อันนี้ มันแย้งกับความเข้าใจ

    คนแต่ละคนมีหน้าที่ต่างกัน มีฉันทะต่างกัน มีศีลต่างกัน มีการแสวงหาต่างกัน

    หรือเปล่า

    *******************************************

    แล้วถ้าคนแต่ละคนมีหน้าที่ต่างกัน มีฉันทะต่างกัน มีศีลต่างกัน มีการ
    แสวงหาต่างกัน

    เขาเหล่านั้น ควรได้รับอะไร จึงจะเหมาะกับ เขาหละคร้าบ ท่าน !!
     
  15. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อือ นั่นแหละ ผมก็ไม่สนใจเรื่องของคุณเหมือนกัน ว่าคุณเคยเป็นใคร ยังไง อะไรมาก่อน และปัจจุบันเป็นอะไร ได้อะไรยังไงแล้วบ้าง

    ผมสนใจแค่ว่า ผมกำลังขอเงินคุณอยู่ เพราะคุณบอกว่า คุณสละออกได้บางส่วนแล้ว โดยหมดความเสียดายโดยสิ้นเชิง ผมก็ขอคุณตรงนี้เลยเนี่ย เมื่อไหร่คุณจะให้ผมสักทีหละ
     
  16. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ดูเหมือนท่านจะเข้าใจธรรมะดีนะ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอีก ก็เพราะเหตุปัจจัยต่างกันนี่ไงที่แต่ล่ะคนมีอะไรต่างกัน ผมก็อย่างหนึ่งที่ผมเข้าใจผมก็บอกแต่ทางที่ผมมี ผมจะไปบอกทางที่ไม่เคยไปได้อย่างไร นอกเสียจากพวกงูๆปลาๆที่บอกว่าไปได้ทุกทาง มันก็แปลกดี น่าจะเข้าใจนะ อรหันต์แต่ละคนก็สำเร็จเก่งกันคนล่ะทาง ก็สอนลูกศิษย์กันคนล่ะทางอย่างที่ตนบรรลุในทางไหน เราไม่ใช่สัพพัญญูจะได้รู้ว่าจริตใครตรงกับกรรมฐานแบบไหน
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    การจะเข้าใจธรรมะที่ท่านเล่าปังยกมาข้อนั้นได้ จะต้องเห็นถึงสภาวะที่แท้จริงของจิต เจตสิก และ ขันธ์ โดยแยกเป็นส่วนได้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะมองไม่เห็นธรรมะในข้อความนั้นครับ
     
  18. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมมีไม่พอที่จะให้คุณ อยากรู้มั้ยว่าทำไมไม่พอ เดี๋ยวบอกก่อนก็จะว่าอวดอีก
     
  19. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อย่าไปคว้า อุปทาน มากล่าวธรรมเอง สิคร้าบ

    เรื่อง พระอรหันต์ จะไม่ทราบ ฐานะ อฐานะ นั้นไม่มี

    คำสอนของพระอรหันต์จึงเป็น มรรค หนึ่งเดียวทั้งหมด
    เพียง แต่บัญญัติหาก ท่านไม่ได้มีวาสนา หรือมีมหาศีล
    จะเป็นผู้ ทรงไว้ซึ่ง สัทธรรม(พุทธวัจนะ ) ท่านก็จะ
    กล่าวโดยใช้คำของท่านแบบนั้น แต่ ทุกคำ พระพุทธองค์
    ตรัสเป็นฏีกาไว้เลยว่า เป็น มรรค ทั้งหมด และให้ถือ
    เป็นคำ ตถาคตอยู่ดี เพราะ บัญญัตในการเรียกได้ถูก
    นั้นต้องอาศัย "พุทธะ" เท่านั้น ไม่มีผู้อื่นในการหมุน ธรรมจักร

    พระอรหันต์ยกไว้

    เอาแค่ ความเป็น พหูสูต เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ที่จะใช้
    คำอะไรก็ได้ เพื่อ เป็นปัจจัยให้จิตผู้ฟังโน้มน้อมไปในทาง
    อันเดียว ลงมรรคเดียว

    คนที่ยังไม่พ้นขันธ์5 ยอกตกเป็นทาสขันธ์5 ธรรมดาอยู่เอง
    ที่จะ ป้อแป้ๆ สำคัญไปว่า ตัวหนังสือ มีชัยชนะเหนือธรรม !!!

    จนปรารภอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ค่อยรู้น้อยๆ

    พ้นขันธ์5เป็น สมุทเฉท ไม่ป้อแป้ๆ หรอกครับ ปัญญาท่าน
    แม้ในธรรมนิยามมีน้อย แต่ มันมากกว่า ปุถุชนแน่นอน

    แต่ทำไม คุณ ป้อแป้ๆ แพ้แม้กระทั่ง ก ไก่ ข ไข่ หละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2012
  20. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    ถ้าหมายถึงเเก่นธรรมในข้อนี้ก็เตรียมพากันไปได้เลย. ท
    อริยะจริงๆนั้นมีหลายเเบบ. ปัญญาวิมุตติ หรือ สัทธาวุิมมติ ส่วนจาคะวิมุุตตินั้นไม่มีนะใช้ในการหลุดพ้นไม่ได้ เพราะการนึกคิดนั้น มัน เป็นการเกิด ดับทั่งสิ้น การปรารถขันธ์ในอดีต เพราะถ้าคิดอะไรนั้นมันสังขารทั่งนั้น เมื่อมีสังขารย่อมท่องเที่ยว เมื่อท่องเที่ยว เเล้วจะพ้นจากทุกข์ได้ยังไง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...