อยากบรรลุธรรมเข้ามา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย newamazing, 13 ธันวาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ทำไมต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ? ในเมื่อทุกอย่างมันไม่เป็นเรา แล้วจะมีอะไรเอาไว้ยึดทำไม กลัวเคว้งหรืออย่างไร?

    ยึดสิ่งใด หลุดจากสิ่งนั้น ย่อมเป็นทุกข์
    นักปฏิบัติท่านใดเข้าถึงอนัตตา ย่อมเข้าใจข้อนี้ดี
     
  2. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    อรหันต์..ท่านไม่พึ่งศรัทธา ท่านมีแต่ความจริงในปัจจุบัน
    ศรัทธาจะมีใน อินทรีย์5..ทุกอย่างสมดุลย์กัน ในการเริ่มต้นฝึกให้เห็น สภาวะปรมัติสัจจะและปัจจุบันธรรม
    ..ขกท.ค่อยๆตอบ บางอย่างบางความเห็นก็ใช้ได้นี่ครับ..เอาปฏิเวธมาคุยดีกว่าไม่งั้น น้ำท่วมทุ่งครับ .:cool:
     
  3. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ในหลักศาสนาพุทธ..อินทรีย์ทั้ง5 ต้องสมดุลย์ อานนาปานสติ จึงจะสำเร็จคุณเข้าใจผิดแล้ว..ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา..:cool:
    ศรัทธาอย่างเดียว..หลงงมงายนั่นมันนิมิตรคิดไปเองแล้วครับ จขกท.
     
  4. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านกำลังจะกล่าวปรมัตถ์ธรรม อะ!ยังก่อน อาจจะกล่าวได้โดยสุดตะหรือจินตามปัญญาก็อาจจะกล่าวได้อย่างนั้น ในช่วงการปฎิบัติเพื่อเข้าถึงขั้นปรมัตถ็ธรรมนั้นจำเป็นต้องใช้บัญญัติเข้ามาเพื่อ ให้รู้ว่ามนุษย์เป็นผู้ฝึกได้ และอะไรล่ะเป็นผู้ฝึกได้ การที่เรามีความรู้สึกตัวมีสติระลึกรู้ลมหายใจตลอดนั้นเอง คือการบังคับจิตให้อยู่กับสิ่งๆดียวนั้นเอง หรือพูดง่ายๆว่ากำหนดลมหายใจ ธรรมชาติของจิตจะถูกแทรกแซงเพราะการหยุดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น จะทำให้จิตมีกำลังมากขึ้นยิ่งหยุดได้มากเท่าไรจิตยิ่งมีกำลังขึ้นมากทุกที เมื่อสติระลึกตรงสภาพธรรมที่เป้นจริงในแต่ละขณะนั้นตามสภาพของจิตที่มีกำลังในขณะนั้น คือการเกิดดับ ปัญญาก็ยิ่งมีกำลังมากขึ้นตามเหตุปัจจัย เมื่อจิตมีกำลังถึงที่สุดสติระลึกตรงสภาพความเป็นจริงได้ในขณะนั้นปัญญาก็จะรู้จักสภาพธรรมสูงงสุดขั้นปรมัตถ์ธรรม คือจิตเข้าไปเห็นไตรลักษณะขั้นสูงสุดที่ประจักษ์แก่จิต(หรือในมโมทวาร) ตรงนี้จะอธิบายให้เห็นเป็นรูปธรรม ปรกติลักษณะไตรลักษณ์จะแสดงอาการทางทวารทั้ง5อยู่ตลอด เช่น เย็น ร้อน อ่อน แข็ง เผ็ด หวาน ขม เขียว ขาว เสียง หอม เหม็น เมื่ออาการเหล่านี้ปรากฎ เกิดการพิจารณาหรือจะเรียกอะไรก็ได้ ก็จะเกิดแก่จิตเข้าไปรับรู้อาการไตรลักษณ์อย่างนี้เรียกว่า ประจักษ์ไตรลักษณ์ทางทวารทั้งห้า ยังไม่ข้ามภูมิปุถุชน ไตรลักษณ์จะต้องประจักษณ์ทั้ง6ทวาร ไตรลักษณ์ที่ประจักทวารที่หกคือมโนทวารนั้น จิตต้องหลุดพ้นถึงจะประจักษ์ไตรลักษณ์อย่างชัดเจน(จะอธิบายยกตัวอย่าง เหมือนเราห็นด้วยตาเราเห็นทุกอย่างกายแยกจากจิต โลกธาตุไม่มีเป็นสูญญตาว่างเปล่า ไม่ใช่ปัญญาที่เกิดจากการอ่านการฟังสร้างความเข้าใจแบบการนึกคิดซึ่งจะกายเป็นการละเล่นทางปัญญาเท่านั้น)เมื่อถึงจุดนี้แล้ว การยึดก็ยังมีอยู่ ตราบอรหัตถ์มรรคจิตยังไม่ปรากฎ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2012
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เราจะอธิบายอย่างนี้ เมื่อมีศรัทธามาก จะทำให้เรามีความเพียรมาก เมื่อมีความเพียรมาก จะทำให้เรามีสติ เมื่อสติมากก็ทำให้เกิดสมาธิ เมื่อมีสมาธิมากก็ทำให้เกิดปัญญา เมื่อปัญญามากก็จบ
     
  6. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านผู้มีจิตปรุงแต่งพยาอินทรีย์ เราอธิบายอารมณ์อรหันต์ไม่ได้เพราะเรายังไปไม่ถึง เราอธิบายได้แค่อารมร์อริยขั้นต้นเท่านั้น
     
  7. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เว็บพลังจิตนี่คนเก่งเยอะดี
     
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ท่านมีครูบาอาจารย์ที่เป็นพระอริยเจ้าไหมครับ?

    ครูบาอาจารย์ที่เป็นพระอริยเจ้า ท่านไม่ได้บอกหรือครับ ว่า ถ้าอินทรีย์ไม่เสมอกัน ศรัทธาที่แรงกล้าไป จะปิดบังสภาวะปรมัตถ์หนะ?

    ศรัทธาที่แรงกล้า เอาไว้ใช้ตอนต้นๆ ก่อนที่จะเห็นจุดสำคัญที่เป็นหลักฐานของการวิปัสสนาครับ พอเข้าตรงนั้นแล้ว เริ่มเสมอแล้ว มันจะให้ศรัทธาล้ำหน้าไม่ได้ครับ
     
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ยังเห็นว่าจิตเป็นตัวเป็นตนอยู่สินะ...
     
  10. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ศรัทธาที่แรงกล้านั้นเป็นก้าวแรกของการปฎิบัติสำคัญสุด จะชักนำขบวนการทุกอย่างข้าสู่จุดหมายสูงสุด
     
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สัมมาทิฎฐิของอริยบุคคล จะเห้นสิ่งใดเป็นตัวตนเล่า
     
  12. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ไม่เสมอไป... ให้คิดด้วยว่า ทุกคนสะสมมาไม่เท่ากัน

    ในผู้ที่มีปัญญาอินทรีย์มาก แต่บุญถึงพร้อม เขาก็จะมีเส้นทางการเดินอีกแบบนึง จะเป็นการสงสัยไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำความเพียรแบบไม่ลืมหูลืมหา แต่เป็นการทำความเพียร แล้วเช็คเทียบกับความสงสัยที่อยู่ในตนไปเรื่อยๆ เมื่อบุญถึงพร้อม จะต้องอยู่ในทางเดินเส้นนี้ จะค่อยๆ พบสัจธรรมที่พระพุทธองค์สอน ทีละขั้นๆ ทำให้อินทรีย์ที่มันล้ำเกินกันไป ค่อยๆ ปรับจนเสมอกัน ความยึดถือมั่นในความเห็น ความสงสัยตนเองต่างๆ คลายลงไปด้วย

    จะไปเหมาเอาว่าทุกคนต้องเริ่มจากศรัทธาอินทรีย์เต็มเปี่ยมเป็นอย่างแรก ไม่ใช่เลย

    คุณไม่ใช่พระสัพพัญญู แถมบอกเองด้วยว่า ไม่ใช่ครูคน อย่าได้ฟันธง จะทำคนหลงทางเอาได้ อย่างน้อยผู้ที่มีความรู้พอจะเป็นครูคน มากกว่าคุณ ยังมีใน board นี้อยู่
     
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ใช่เราไม่ใช่ครู แต่เราเชื่อความศรัทธาที่แรงกล้านั้นจะนำพาไปให้ถึงจุดหมายแน่นอน ส่วนใครจะมีความคิดอย่างไรก็ขึ้นอยู่เหตุปัจจัยสะสมมา เราบรรลุตามแนวทางที่เราเจอ เราเชื่อในศรัทธา และความศรัทธาเราเชื่อนั้นก็นำทางจนเราพ้นความสงสัย เราเพียงผู้บอกทางของศรัทธา
     
  14. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ....................ท่าน จขกท ท่านเป็นพระอริยะบุคคล แล้วหรือ?:cool:
     
  15. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เห็นประโยชน์ในการแสดงธรรมตามที่ตนได้รู้มา มากกว่าประโยชน์ของการนำพาสัตว์โลกพ้นทุกข์ อย่างนั้นหรือ?
     
  16. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ชอบครับ โค๊กพี่บิ๊ก วลีนี้ ^^

    แท้ดูง่าย :cool:
     
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เราต่างเข้าใจว่าสัพเพธรรมา อนัตตา ธรรมทั้งหลายไม่ควรยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวเป็นตน ทรัพย์สมบัติทั้งหลายของนอกกาย ทำไมเราถึงตัดไม่ได้สละไม่ได้ อะไรหรือถึงเป็นเช่นนั้น ทั้งที่สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเราก็รู้ว่าไม่สามารถเอามาเป้นของตนเองได้ ต้องจากเราไปอยู่ดีทำไมเราถึงสละไปไม่ได้ สิ่งเหล่านี้พิสูจน์อะไรเราได้บ้างมั้ย (หรือเราจะพูดเป็นแต่เพียงว่า สัพเพธรรมาอนัตตาเป็นเท่านั้น)
     
  18. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ใครจะแสดงธรรมได้เหนือกว่าความรู้ตนเล่า
     
  19. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ศรัทธาที่แรงกล้านั้น ไม่ใช่ว่าศรัทธาเพียงอย่างเดียว แล้วจะไม่ทำอะไร ศรัทธาที่แรงกล้านั้นจะนำพาความเพียรที่แรงกล้า ความเพียรที่แรงกล้าก็จะนำพาสติที่แรงกล้า สติที่แรงกล้าก็จะนำพาสมาธิที่แรงกล้า สมาธิที่แรงกล้าก็จะทำให้เกิดปัญญาที่แรงกล้า เพราะบนเส้นทางเดินจะต้องเจออุปสรรคต่างๆมากมาย บางครั้งถึงต้องใช้ศรัทธาที่แรงกล้าถึงจะข้ามได้ และศรัทธานั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางนี้
     
  20. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ......คุณกล่าวถูกส่วนหนึ่ง...แต่มันก็ธรรมดาอยู่แล้ว ถ้าเราไม่มีศรัทธา เรา ย่อมไม่ปฎิบัติภาวนา...จะตีความว่า คนที่ปฎิบัติภาวนาย่อมมีศรัทธาทุกคนก็กล่าวได้...และการบอกว่า จง มีศรัทธาเถิด..ศรัทธาของคนคนนั้นเกิดได้อย่างไร?..:cool:
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...