อยากบรรลุธรรมเข้ามา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย newamazing, 13 ธันวาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เราบอกท่านไปหมดแล้วนะ ความรู้ที่เรามีมา
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เฮ้อ กลุ้มใจกับ ผู้เปี่ยมด้วยอรรถ ด้วยธรรม คนนี้จริงๆ

    แปลก

    เอางี้คุณ

    คุณนึกคำให้มั่นๆ " หลักประโยชน์ "

    ก่อนจะ สรุปความอะไรสักอย่างให้เทห์ๆ หนักแน่น ยืนยัน ความรู้เฉพาะ
    คุณต้องไม่ลืม " หลักประโยชน์ "

    เช่น " คุณบอกผมว่า ทุกอย่างบอกผมหมดแล้ว " เฮ้ย แล้วเกิด
    ประโยชน์อะไรหละ !?

    ไหนหละ ประโยชน์ที่เกิดขึ้น หาก จำแนก ชี้ไม่ได้ว่า เกิดประโยชน์
    อะไร คุณอย่า เมา รีบ ร้อน กล่าวสรุปว่า ได้กล่าวสิ่งที่เป็นประโยชน์
    ต่อผมหมดแล้ว

    **********

    ทีนี้ หากจะให้เกิดประโยชน์ คุณควรทำอย่างไร

    คุณก็ต้อง อดทน ดู คนที่เขาเข้ามาถาม ว่ามีคนไหน มีใจให้กับ อานาปานสติ
    แทรกอยู่ใน การปฏิบัติของเขาอยู่บ้าง

    พอเห็นว่า เอ้ยๆ มีเหยื่อละ เราก็ต้อง ลองเกี่ยว ดูหน่อย โดยเข้าไปพูด
    อะไรก็ได้ให้เขา ใส่ใจลงมาที่ อานาปานสติ

    พอเขาชักมีใจร่าเริง ในการได้สดับ คุณก็ค่อยบอก เคล็ดลับ อะไรของคุณ
    นั่น เนี่ยะ รับรองเลยว่า ไม่เกิดปัญหา ไม่มีใครไปว่าคุณด้วย

    แต่ถ้า เขาฝึกอะไรอยู่คุณก็เดินเอาเท้าหน้าเข้าไปสะกิดๆ

    เธอว์ เธอว์ เรามี เคล็ดลับอานาปานสติ มาบอกให้เธอว์ เธอว์รับฟังหน่อยนะ

    นะ นะ นะ นะ

    แบบอย่างหลัง นี้นะ ลองพิจารณาเอาเองว่า ใช่เหรอ
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เมื่อปัญญาพอเริ่มเข้าใจ ในความจริงบ้าง การเกิดดับขอลมหายใจออก หายใจเข้าจากหน่วยจุลภาคเล็กๆ ก็สามารถบ่งบอกถึงมหาภาคได้เหมือนกันทั้งจักวาล ปัญญานี้เรียกว่าจินตามยปัญญา ยังไม่ถือว่าเป็นภาวนามยปัญญา ยังไถ่ถอนตัวตนไม่ได้ ได้แต่พูดคุยเล่นเป็นเชาว์ปัญญาพอรื่นรมย์ การที่จะเข้าถึงสภาวะที่แท้ขั้นปรมัถต์ธรรมนั้น จะ้ต้องอาศัย ศรัทธาเป็นตัวนำ ศรัทธาที่แรงกล้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ฮั่นแน่ อาเจนด้า มาอีกและ

    งัด ศรัทธา เป็นสิ่งสูงสุดเข้ามาและ

    เนียน

    ************************

    ปัดโถ่คุณ คนปฏิบัติเนี่ยะ ศรัทธาอินทรีย์ ศรัธทาพละเนี่ยะ มันไม่ใช่
    อะไรที่จะมาส่งแรงในจังหวะสุดท้าย ปรมัตถ์ ไม่มีหรอก

    แล้ว ก็ไม่ใช่ ศรัทธาจังหวะแรก ด้วย

    ของมันเกิด เป็นหนึ่งอยู่ มันรวมเป็นหนึ่งอยู่ มันสหรคตกันอยู่ อันนี้
    หากไม่ได้ลงมือมาจริงๆ มากล่าวไม่ได้หรอก กล่าวยังไงก็ปลิ้นเป็น
    ศาสนาอื่นทันที

    อย่ามาปล่อยไก่หน่า เชยยยย
     
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เมื่อจิตถูกเหนี่ยวนำ ความรู้สึกตัวมีสติอยู่กับลมหายใจตลอด จิตที่ไม่เคยอยู่นิ่งตลอดในสังสารวัฎเริ่มอาการดิ้นรน เมื่อสัมปชัญญะสติเริ่มทำงานแข็งขึ้น กลายเป็นปัญหาแก่มารชั่ว กุศลเริ่มมีกำลัง อาการปีติ สุขก็เกิดขึ้นตามลำดับ สิ่งใดมีเกิดก็มีดับเป็นธรรมดา ปีติสุขก็ดับ ปัญญาเริ่มมีกำลังมากขึ้นตามลำดับทุกที นี่แหล่ะที่บอกว่าทำใจเป้นกลางๆไม่เข้าไปยินดียิ้นร้ายในสุขและทุกข์ ซึ่งเป็นธรรมชาติในโลกที่มีทั้งสุขและทุกข์
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    กั๊กๆ อันนี้ ปรับอีกละ เอาองค์ฌาณมาแทรก เพื่อให้กล่าวถึงสมาธิใช่ไหม

    มีออปชั่วครบด้วยนะ มี สติ มี ปัญญา

    แต่ อริยสัจจ4 หายจ้อย

    แต่ไป..........เห็นโลกเป็นเรือนอยู่ของสุขทุกข์ ........เอ้ยไอ้แบบนี้แหละ
    ที่ผมเรียกว่า " จิตหลงไหลการทำกาละ "

    *************

    ถ้าจะดริฟธรรมะ เวลากล่าว ปิติสุขดับ อย่าไปกล่าวแบบ ตรรกศาตร์
    เพราะ ชาวพุทธหนะ สุขที่สุดในโลก เว้ยเฮ้ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  7. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เมื่อเดินทางมาถึงการตัดสิ้นใจระหว่างไม่รู้ว่าความตายอยู่ข้างหน้าหรือเป้าหมายอยู่ข้างหน้า ถ้าศรัทธาไม่ถึงก็จะคิดถอยเพราะกลัวตาย แท้จริงแล้ว มันเป็นเครืองวัดเท่านั้นว่าพอเพียงมั้ย(ศรัทธานะ)ผู้ที่ศรัธาอ่อนก็ถอยหลังกลับ ทำให้มาก เจริญให้มาก เมื่อจิตหลุดพ้นก็รู้ว่าจิตหลุดพ้น
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ฮั่นแน่ เริ่มหยิบ อริยสัจจ เข้ามากล่าวร่วม ( ใช้คำเหมือนนะ แต่ การเห็น การแจ้ง ไม่เหมือน
    มันขาด อะไรเกิดก่อนอะไรเกิดหลัง แล้ว ยังต้องมีการดับไปของ "....." นั้นอีก ถ้าไม่มี นี่คิดเอาโต้งๆเลย )

    แต่ก็อย่างเคย ศรัทธา เนี่ยะ หากไม่ได้ปฏิบัติมาจริง กล่าวออกมา
    ปลิ้นเป็นคนละศาสนาทันทีเลย

    ไม่มีหรอกครับ ศรัทธาไม่ถงไม่ถึง ศรัทธามีก็คือมี มีเท่าไหร่ ก็สหรคต
    และเกิดการ "หมุน...." แล้ว

    เนี่ยะ แยกไม่ออกใช่ไหมหล้า ว่า เขากล่าวเป็น อุบาย ไว้หลอกคน
    นอกศาสนายังไง

    คนนอกศาสนาเอา ศรัทธาไปกล่าว ยังไง ก็มึน มันคนหละอย่างกันไง

    คนละทิฏฐิ ชื่อเหมือนกัน แต่ การสัมปยุต นั้น ไม่ได้ภาวนามา กล่าว
    ไม่ได้หรอก

    กล่าวออกมาเมื่อไหร่ เห็นทันทีว่า แอบแฝงมาอีกและ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  9. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    การแทงตลอดอริยสัจ อาจจะต้องใช้สมาธิบ้างเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงฌานหรอก แต่สุขและทุกข์นั้นเป็นโลกธรรม ที่ต้องทำความเข้าใจ มันมีการเปลี่ยนแปลงเป็นปัญญาที่เริ่มมีกำลังมากขึ้นทุกที เมื่อเข้าใจแล้วเดินต่ออะไรก็ไม่เที่ยง เมื่อจิตเริ่มถูกหนี่ยวนำอย่างไม่หยุดยั้ง จิตที่ถูกบับคั้นให้อยู่นิ่งก็เริ่มจะแสดงความจริงของตัวตนเองออกมา ไม่ว่าจะมาในรูปเวทนาทางกาย ทางใจ ด้วยความรู้ที่สะสมมากขึ้นจากสังขารขัตน์ฝ่ายดีก็ทำหน้าที่อุเบกกับสิ่งที่ปรากฎ สภาวะไตรลักษณ์ก็เริ่มแสดงตัวชัดขึ้นทุกที่ๆ สติก็ระลึกได้ตรงความจริงปัญญาก็เริ่มมีกำลังมากขึ้น
     
  10. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สำเร็จง่ายๆกับอานาปานสติ ของเพียงมีศรัทธา(ที่แข็งกล้า)
     
  11. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อันนี้ เกือบตบตาได้เหมือนกัน เพราะ เรียบเรียงได้แทบเหมือนชาวบ้านเขาพูดกัน

    แต่พอ รีบจบปั๊ป ก็นั่นแหละ ขาดอริยสัจจ ไปอย่างไม่น่าเชื่อ หากจิตดำเนิน
    มาได้แบบนี้ เว้นการกล่าวอริยสัจจไปดื้อๆ อันนี้ แปลกมาก

    มันเหมือน คนเดินในทะเลทรายมาจวนจะตายอยู่แล้ว แล้ว มาเห็นน้ำใส ตรงหน้า

    ทว่า กลับเดินเลยผ่านไปเสียดื้อๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  12. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เราก็บอกแล้วว่าเคล็ดลับ จะให้เรากล่าวอริยสัจโดยละเอียดก็ไม่ใช่เค็ลดลับ แล้วจะบรรลุแบบง่ายๆได้อย่างไร
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    กั๊กๆ เนี่ยะ ปล่อยไก่อีกแล้ว

    บอกตรงๆเลยนะ คุณนี่ เหมือนพวกมาหลอกลวงจริงๆ

    มาทำเนียนๆ แต่ไขว้ขา หลอก

    คุณคร้าบ คุณช่วยทำความเข้าใจไว้ด้วย อริยสัจจ เนี่ยะ ไม่ใช่ ที่สุด

    มันไม่ใช่ บทสรุปนะคุณ

    อริยสัจจเนี่ยะ มันเป็น ควมเพียร ที่ต้องหมั่นประกอบ อีก เน้นนะว่า อีก!

    เคยอ่าน ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐานไหม หากเคยอ่าน จะไม่ปล่อย
    ไก่แบบนี้ แต่ถึงได้อ่าน หากไม่เคยลงมือทำ ก็ แบ๊ะแบ๊ะ อีกแหละ
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เมื่อเริ่มเห็นความจริงมากขึ้น เริ่มพบธรรมะที่ไม่เคยเจอ ความสุขที่ปราณีตขึ้น ความเอิบอิ่มยินดีในธรรมก็มากขึ้น สังขารขันต์ก็ทำงานศรัทธาก็มากขึ้น วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญาก็มากขึ้นตามลำดับ เมื่อเดินทางมาถึงจุดที่ข้ามความสงสัย มันไม่ง่ายเหมือนที่คิด ตอนนี้จะต้องรวบรวบความกล้าให้มาก ด้วยปัญญาที่เข้าใจเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา อาการของความทุกข์ที่ถูกบีบคั้นตลอด สภาวะทุกสภาวะไม่สามารถคงความเป็นอย่างนั้นได้ตลอด เมื่อตัดสิ้นใจเดินต่อ ความจริงขั้นปรมัตถ์ก็ปรากฎในจิตให้ปรจักษ์ความไม่คงทนของสภาพตัวตน ความว่างเปล่าไม่มีแก่นสารสาระก็ปรากฎในจิต เมื่อจิตประจักษ์ความจริงความสงสัยทั้งหลายก็ถูกทำลายลงหมดสิ้นเป็นอริยบุคลขั้นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  15. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    กั๊กๆ อันนี้เหมือนเคย ศรัทธา ตรงนี้ไม่ตรง ศาสนาแล้วหละ คนละเรื่องเลย
    ดูหนังฟรั่งมากไป หรือไม่ก็ ฟังเพลงพี่โป่งมากไป

    ท่อนนี้ ขออนุญาติบอกว่า "อย่างฮา !!"

    ไก่เป็นเล้าเลยคุณ ขันธ์5 ของพระโสดาบันเนี่ยะ ไม่มีใครเขาเผลอ
    พูดว่ามันไม่ขาดจากจิตพระโสดาบันกันหลอก

    จะก๊อปปี้ธรรมให้เหมือน เขาต้องพูดว่า ขันธ์5มันสมุทเฉทประหาน


    ********

    แล้ว ตรงที่ทำสีแดงนั่น อันนั้นก็ " ฮาดี " เห็นชัดเลยว่า เอาอุปทาน
    ตั้งธงไว้บางอย่าง แสวงหาให้ตายก็ไม่เจอ
     
  16. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ธรรมะของพระพุทธองค์ลึกซึ้งละเอียดมากอยากที่จะเข้าใจได้ทั้งหมด พระองค์ทรงแสดงไว้หลากหลายที่แต่งกรรมต่างวาระ ท่านแสดงธรรมตามสมควรแก่ผู้นั้นๆ ข้าพเจ้าไม่ใช่สัพพัญญูที่จะแสดงธรรมให้ตรงจริตของแต่ละท่าน ข้าพเจ้าหายสงสัยจากการกระทำอย่างนี้ ส่วนเรื่องอริยสัจสี่นั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาเพราะพระองค์ทรงแสดงผลเหตุของความทุกข์ และการดับทุกข์ แต่จะก่อนหรือหลังไม่ใช่ปัญหาหรือจะพร้อมๆกัน เพราะอานาปานก็เป็นกิจในอริยสัจในข้อของมรรคคือทำให้เจริญขึ้น เคล็ดลับ ทำให้มาก ทำให้มาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านจะกล่าวอย่างไรนั้นข้าพเจ้าไม่ติดใจสิ่งใดๆ ข้าพเจ้าประจักษ์ในสิ่งที่ท่านอาจจะไม่เคยประจักษ์หรือเคยประจักษ์ข้าพเจ้าไม่อาจรู้ได้ แต่ถ้าท่านใดเคยประจักษ์อย่างที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมานั้นจะต้องไม่มีมีข้อสงสัยใดๆกับคำว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อีกต่อไป ข้าพเจ้ากล่าวได้แค่นี้จริงๆ ข้าพเจ้ามิได้กล่าวว่าการประจักษ์นั้นจะมีกี่วิธีข้าพเจ้าไม่รู้จริงๆแต่ข้าพเจ้ารู้แต่เพียงว่าทั่วทั้งเอกภพไม่มีอะไรเลยเป็นแก่นสารสิ่งนี้ประจักษ์ในจิตข้าพเจ้าแล้ว ไม่ใช่ไตรลักษณะที่ประจักษ์ทวารทั้ง5ที่ประจักษ์อยู่ตลอดเวลาแล้วน้อมไปนึกคิด นี้เป็นทวารที่6ที่เรียกว่ามโนทวารที่ไม่ใช่การนึกคิดปรากฎชัดขึ้นเอง ยากที่จะเข้าใจนอกจากจะประจักษ์เองเท่านั้น
     
  18. โกมีนัม

    โกมีนัม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    มีนัมอยากถามเรื่องอานาปานสติ กับคำว่า นิพพานังปรมังสุขขัง !!
     
  19. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อานาปานสติเป็นเครื่องมือที่ทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์ จนเข้าถึงที่สุดแห่งทุกข์วิธีหนึ่ง เหมาะแก่ทุกคน ส่วนนิพานคือการสิ้นไปแห่งการปรุงแต่ง เมื่อไม่มีการปรุงแต่งทุกข์จะมาจากไหน ก็เป็นอมตะ ความเป็นอมตะนั้นแหล่ะคือความสุขโดยความหมาย
     
  20. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อานาปานสตินั้นคนที่ปฎิบัติ อย่าคาดคะเนกับตัวเองว่าจะเกิดอะไร อาการที่เกิดนั้นแตกต่างกันแน่นอน แต่ถึงจุดหมายเดียวกันคือการหลุดพ้น จะเกิดอะไรขึ้นขอให้มีความมั่นใจในพระพุทธเจ้า มันจะสุขบ้าง ทุกข์บ้างทำใจยอมรับเป็นกลางไม่เข้าไปแทรกแซง ทุกอย่างมันไม่คงทนมันมีเกิดดับ ขอให้เข้าใจอย่างนี้ อดทน อดทน ทำให้มาก ศรัทธาเชื่อในพระองค์เมื่อมีความเชื่อเราจะก้าวข้ามบางอย่างที่ตัดสิ้นใจได้อยาก ถ้าศรัทธาเราน้อยการตัดสิ้นใจในจังหวะนั้นเราจะไม่กล้า
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...