พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เปล่าครับ

เพียงแต่ควรเริ่มชื่อท่านอาจารย์ประถม และพี่จิ๋วก่อนเท่านั้นเอง

ถ้าเรียงตามอาวุโสก็ คุณเพชรอาวุโสลำดับ 3 เลยนะเนี่ย คิคิคิ

.

 

ขอบคุณมากครับคุณ เพชร แนะนำได้ ถึงแก่นแท้เลย
ขอบคุณครับ
nongnooo...(verygood) (verygood) (verygood) (verygood) (verygood)

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
55555+++++ บังเอิญอะไรขนาดนั้นใช่ไม๊ครับ ผมคิดว่าคุณnongnooo ครบ "ห้า" แล้วนะ เพียงไม่สังเกตเท่านั้นเอง บางทีความธรรมดาของวันธรรมดา อาจธรรมดาจริงๆ แต่หากความธรรมดาในวันไม่ธรรมดาอาจจะไม่ธรรมดาก็เป็นได้ คุณnongnooo บอกว่าขับรถไปส่งลูก มือที่จับพวงมาลัยข้างขวาก็ครบ "ห้า" นิ้วในตำแหน่งสายตาไม่ใช่หรือ แต่ "ห้า" นิ้ว ของวันนี้ อาจจะหมายถึง มือคือการทำงานในหน้าที่ต่างกันของนิ้วทั้งห้า จะขาดนิ้วใดนิ้วหนึ่งไป คงจะลำบากน่าดู และการกระทำทางกาย จะพาไปพบเรื่องราวดีๆไง....สาธุ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

สงสัยเป็นบุพกรรมร่วมกันมาสมัยรัชกาลที่ 5 หรือเปล่าเนี่ย ? ! ? ! ? ! ? ! ? ! ? ! ? ! ? ! ? !

 

สำหรับทริปไปบ้านปู่ประถม ในครั้งหน้า ท่านที่เคยร่วมทำบุญสร้างผ้ายันต์เพื่อแจกทหารภาคใต้ และทุกๆท่านที่ไป ผมมีวัตถุมงคลแจกอีก ส่วนวันที่จะไปนั้น ผมจะแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งครับ

ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

(verygood)

 

4 2 1 3 5

รูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตร)​

1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า
2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า
3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร)
4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า (หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี)
5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า (หลวงปู่หน้าปาน หรือหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด วัดโอภาสี กรุงเทพฯ)​

หมายเหตุ จากรูปนั้น ชื่อองค์แรกคือพระภูริยะเถระเจ้า แต่ที่ถูกต้องคือพระฌาณียะเถระเจ้า ส่วนองค์สุดท้ายคือพระฌาณียะเถระเจ้า ที่ถูกต้องคือพระภูริยะเถระเจ้า​

โดยปกติที่เห็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรกันทั่วๆไปนั้น จะเป็นรูปของหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)ครับ

<Oหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)</O
<!-- / message --><!-- / message --><!-- sig -->​

วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร<O</O​

จะเป็นภาพถ่ายหรือรูปหล่อของหลวงปู่ท่าน หรือพระพิมพ์ที่หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานจิตไว้ย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น หลวงปู่ท่านโปรดผู้ประพฤติอยู่ในศีลธรรม ชอบอาหารมังสะวิรัติ ชอบฟังคำสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ชอบบูชาด้วยดอกมะลิสด น้ำฝน 1 แก้ว เทียนหนักหนึ่งบาท 1 คู่ ธูปหอม 5 ดอก (คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้าหรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปานหรือหลวงพ่อโอภาสี วัดโอภาสี บางมด) ) การปฏิบัติธรรมสังวรณ์ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ประกอบด้วยศีล 5 เป็นอย่างน้อย ย่อมเป็นสิ่งพึงพอใจของหลวงปู่และทั้งยังให้ความสุชความเจริญทั้งคดีโลกและคดีธรรมแก่ผู้ปฏิบัติ

สำหรับพิมพ์อรหันต์ พิมพ์ปิดตา และพิมพ์มหากัจจายนะซึ่งเป็นองค์เดียวกันแต่ปางต่างกันหากจะอาราธนาอย่างพิศดารก็ย่อมกระทำได้ กล่าวคือพิมพ์อรหันต์ใหญ่ พิมพ์อรหันต์กลางและพิมพ์อรหันต์น้อย อยู่ในหมวดพระมหากัจจายนะรูปงามซึ่งเป็นรูปเดิมก่อนการอธิษฐานวรกายให้ต่อท้ายด้วยคาถาดังนี้

พิมพ์อรหันต์
อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม
(เชยยะ อ่านว่า ไชยะ ; รูปะวะระ แปลว่า รูปงาม)
*** โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม ***

สำหรับสำหรับพิมพ์พระปิดตาซึ่งเป็นปางอธิษฐานวรกายให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วยพระคาถาต่อไปนี้
พิมพ์พระภควัมปติ(ปิดตา)
ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
*** โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***

สำหรับพิมพ์พุงพลุ้ยที่นิยมเรียกกันว่า พระสังกัจจายน์ คำนี้ไม่มีศัพท์นี้ในภาษาบาลี ที่ถูกต้องคือ พระมหากัจจายนะ เถระเจ้าอัน
เป็นปางหลังจากที่นิมิตวรกายแล้ว ให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วย พระคาถาต่อไปนี้
อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
***โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***
จะเห็นว่าตัดเอาคำว่า รูปะวะระออกไปเพราะสิ้นความงดงามแล้ว

พระพิมพ์ของคณะพระเทพโลกอุดรนั้นทุกรูปแบบทุกพิมพ์ทรงมีอานุภาพครอบจักรวาล อาราธนาทำน้ำมนต์ประสิทธิ์ยิ่งนัก โดยให้นำเอาพระแช่ในภาชนะที่บรรจุน้ำเรียบร้อยแล้ว บูชาด้วยดอกไม้ จุดธูปเทียน แล้วอธิษฐานตามความมุ่งหมาย เสร็จแล้วให้รีบนำพระขึ้นเช็ดน้ำด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด ผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปบรรจุตลับ องค์พระจะไม่ละลายลบเลือนและไม่ควรแช่ในน้ำนานเกินควร จงทะนุถนอมให้จงดี เพราะหาไม่ได้อีกแล้ว

สำหรับท่านที่มีพระอันเป็นทิพยสมบัติอันทรงคุณค่า โดยได้รับสืบทอดมาจากบรรพชนหรือได้รับจากทางใดทางหนึ่งก็ตาม เสมือนมีแก้วสารพัดนึกอยู่กับตัว ไม่จำเป็นต้องขวนขวายในอิทธิวัตถุอื่นอีก<O</O

วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร

คำบูชาบรมครูพระโลกอุดร
นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯลฯ ( 3 จบ )<O</O
โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อะภิญญาธะโร ปฎิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรา นุสาสะโก โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต อิฐะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ ปะระมะสาริกะธาตุ วะชิรัญจา ปิวานิตัง โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง เวเรนะ สุภาสิตัง โลกุตตะโร จะ มหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา มะหาเถรา นุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

บทสวด แบบย่อหรืออาราธนาพระพิมพ์ (ได้ทุกทรงพิมพ์)<O</O
โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
หรือภาวนา ๓ จบ , ๗ จบ , ๙ จบ (เช้า-เย็น ตื่นนอนและก่อนนอน)<O</O
โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ

หมายเหตุ : บทความที่นำมาเสนอนี้ได้รับการอนุญาตในการคัดลอกและเรียบเรียงเพื่อเผยแพรเป็นวิทยาทานจากท่าน อาจารย์ ประถม อาจสาครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นพระคุณและความกรุณาอย่างยิ่ง<O</O

ผมขอเสริมนะครับ ท่านสามารถอาราธนาเป็นภาษาไทย ได้นะครับ ถ้ายังจำบทสวดของท่านไม่ได้ครับ

ท่านที่ห้อยพระหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่ท่านเมตตาเสกให้นั้น หากมีความจำเป็นที่ต้องไปในสถานที่อโคจรทั้งหลาย ผมมีบทสวดที่ใช้ในการนี้มาฝากทุกท่านครับ

ก่อนที่จะเข้าไปในสถานที่อโคจรให้สวด อิติภะคะโว
กลับออกมาจากสถานที่อโคจรให้สวด โสภะคะวา

หรือก่อนที่จะเข้าไปในสถานที่อโคจรให้สวด อะระหัง
กลับออกมาจากสถานที่อโคจรให้สวด หังระอะ

บทแผ่เมตตาโบราณ<O</O
นะเมตตา โมเมตตา ปะวาเสนตัง อะหังโหมิ สุจิตตาปะมาทาตุ สุจิตโตปะโมทาตุ<O</O
<O</O
บทแผ่เมตตาอันยิ่งใหญ่<O</O
มหาโคตะโมปาทะเกอิ จะอะปาทะเกอิ เมเมตตังเมตตัง<O</O
<O</O
สำหรับท่านที่ได้บูชาพระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร อธิษฐานจิตไว้ให้นั้น ผมขอเรียนชี้แจงให้ทราบกันนะครับว่า การวางพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลต่างๆ ต้องวางไว้ในที่เหมาะสม ควรใช้พวงมาลัยไว้พระพิมพ์ (เป็นการไหว้หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร และเทวดาผู้ที่รักษาพระพิมพ์) พวงมาลัยที่ใช้ไหว้นั้น ต้องเป็นพวงมาลัยที่มีดอกรัก ,ดอกมะลิ ,ดอกกุหลาบ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ห้ามใช้พวงมาลัยที่เป็นดอกดาวเรืองโดยเด็ดขาด ส่วนการวางพวงมาลัย ควรหาพานมาเพื่อใช้ในการวางพวงมาลัยครับ<O</O
<O</O

หากท่านใดที่ได้ทำบุญไม่ว่าจะเป็นการทำบุญเรื่องอะไรก็ตาม ควรที่จะกรวดน้ำให้กับผู้เสก,ผู้สร้าง และเทวดาประจำองค์พระพิมพ์ด้วยทุกๆครั้งนะครับ<O</O
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->
**************************************************

 

ผมจะนำน้ำมันจันทร์ไปด้วยอีกครั้งนึง เพื่อว่าจะขอต่อน้ำมันจันทร์กันครับ

.

 

เห็นแล้วสุขใจครับ ว่านี่เองพระเจดีย์ที่เราได้มีโอกาสร่วมสร้าง
โมทนาสาธุ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
สำหรับทริปไปบ้านปู่ประถม ในครั้งหน้า ท่านที่เคยร่วมทำบุญสร้างผ้ายันต์เพื่อแจกทหารภาคใต้ และทุกๆท่านที่ไป ผมมีวัตถุมงคลแจกอีก ส่วนวันที่จะไปนั้น ผมจะแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งครับ

ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

(verygood)
</TD></TR></TBODY></TABLE>

คุณตั้งจิตและคุณlittlelucky รอรับวัตถุมงคลนะครับ ผมจะจัดส่งไปให้ แต่ยังไม่บอกว่าเป็นอะไร รอชมนะครับ

.

 

วันนี้นำเรื่องราวของพระธาตุเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบินฑ์ที่ได้เดินทางไปกราบนมัสการที่จ.สุโขทัย มาให้ชมกันครับ พยายามจะนำมาให้ชมกันให้ครบทุกมุมเสมือนได้ไปเห็นกับตาตัวเอง ผมรู้สึกมีความผูกพันกับสถานที่บางแห่ง แบบจิตอยากไปมาก เมื่อมีเวลาพักร้อนช่วงยาวๆมักจะชอบไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นพระธาตุเจดีย์ รอยพระบาท เพราะเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพสูงสุด ซึ่งใช้ในการประกิบพิธีกรรมทางศาสนา และพระธาตุเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งที่ได้ร่วมกันสร้างมาตั้งแต่ต้นนี้จะเป็นสถานทีที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนาในอนาคตอีกหลายพันปี ดังคำที่ว่าหากจะทราบปัจจุบันต้องดูประวัติศาสตร์ หากจะทราบอนาคตต้องดูปัจจุบัน


พระธาตุเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบินฑ์ วัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย
พระเจดีย์ประธานในวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย เป็นพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบินฑ์ หรือดอกบัวตูม เป็นเอกลักษณ์ของของสมัยสุโขทัย ประดิษฐานติดต่อกับวิหารหลวง ซึ่งมีฐานพระศรีศากยมุนีอยู่เบื้องหน้า องค์พระมหาธาตุก่อด้วยศิลาแลง และอิฐ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านละ ๒๐ เมตร มีรูปพระสาวกปูนปั้นเดินประนมมือประดับโดยรอบ มีบันไดขึ้นจากฐานถึงบัลลังก์ เหนือบัลลังก์เป็นบัวคว่ำบัวหงายทำด้วยศิลาแลง ถัดไปจากบัวคว่ำบัวหงายเป็นท้องไม้ย่อมุม มุมละ ๕ เหลี่ยม สูงตลอดไปถึงยอด เป็นพุ่มข้าวบินฑ์ หรือทรงดอกบัวตูม ฐานบัวตูมเป็นซุ้มพระ ๔ ทิศ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปยืน ๓ ด้าน

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sira
ผมมา Update รูปความคืบหน้าของการก่อสร้างพระเจดีย์ครับผม
</TD></TR></TBODY></TABLE>

จำให้ติดตาตรึงใจ ที่สำคัญที่สุดคือจดจำความปิติยินดีในการทำบุญไว้ครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

ขอบคุณคุณหนุ่มมากๆครับ ให้อีกแล้ว
ผมก็รอรับด้วยความตื่นเต้นตามเคย มีความสุขจริงๆครับ
นี่ถ้าเป็นทริปช่วงปิดเทอมที่ผมอยู่ กทม.ไม่พลาดแน่ คราวที่แล้วไป คิดถึงลูกจริงๆ ผมไม่ค่อยไปไหนโดยไม่มีลูกไปด้วยครับ

โมทนาสาธุครับ
(b-smile)

 

การไปบ้านท่านอาจารย์ประถม ในแต่ละครั้งนั้น ผมมีความคิดเห็นและสิ่งที่ผมทำมาตลอดก็คือ การได้ไปทำบุญร่วมกัน ,การไปขอความรู้จากท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ซึ่งองค์ความรู้ที่ได้นั้น จะไปหาจากตำราอื่นๆก็คงยาก เนื่องจากเป็นประสบการณ์ตรงที่ผ่านๆมานับเป็นระยะเวลามากกว่า 60 ปี และการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน

และคงจะทำกันตลอดไป หากว่ายังไม่ทิ้งกันไปก่อนครับ
โมทนาสาธุครับ
.

 

วัดมหาธาตุเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของกรุงสุโขทัยสร้างขึ้นตั้งแต่แผ่นดินพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ภายในวัดมหาธาตุมีซากเจดีย์หลายสมัย ลักษณะเจดีย์ต่างๆจำนวนมากถึง ๒๐๐ องค์ โดยเจดีย์พระมหาธาตุเป็นประธาน ในวิหารศิลาแลงขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยเจดีย์เล็ก ๘ องค์ และซุ้มพระประดิษฐาน"พระอัฏฐารส" พระพุทธรูปยืนที่ชาวสุโขทัยนับถือมาก นอกจากนี้ แท่งหินที่เรียกว่า"ขอมดำดิน" วัดมหาธาตุ ได้รับการบูรณะตลอดสมัยที่กรุงสุโขทัยมีความเจริญรุ่งเรือง ในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ได้กล่าวถึงวัดมหาธาตุว่า"กลางเมืองสุโขทัยนี้มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูปใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม"


พระพุทธรูปทองนั้นหมายถึง พระศรีศากยมุนีที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯได้อัญเชิญลงมาประดิษฐานที่พระวิหาร ณ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ ในปัจจุบันการเดินทางไปวัด เริ่มต้นที่ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย ใช้เส้นทางหลวงหมายเลขที่ ๑๒ ระยะทางประมาณ ๑๓ กิโลเมตร อยู่ทางซ้ายมือภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

 

และนี่ก็คือเหตุผลส่วนหนึ่งที่ผมอยากไปกราบท่านอาจารย์ตั้งแต่ครั้งแรก และเมื่อมีโอกาสต่อไปครับ ในครั้งแรกนั้นประการหนึ่งก็อยากไปกราบขอบคุณท่านอาจารย์ประถมที่ทำให้ผมได้รู้จักศิลปการใช้พระเครื่องรวมถึงเรื่องอื่นๆ ในเรื่องนี้นั้นก็ต้องขอบคุณคุณหนุ่มเป็นอย่างมากด้วยครับ สำหรับคุณหนุ่มนั้นเป็นเพื่อนที่สำคัญมากเพราะได้นำพาผมมาสู่ทางธรรมอันยิ่งใหญ่ เรื่องทิ้งนั้นไม่มีแน่ มีแต่จักได้จำเริญธรรมกันต่อไปครับ ผมเองนั้นได้ประจักษ์แล้วในความมุ่งมั่นของคุณหนุ่มโดยไม่เห็นแก่[b-wai] เหน็ดเหนื่อย กำลังใจมากจริงๆครับ

 

วันนั้นเป็นวันอาสาฬหบูชา จึงได้นั่งสมาธิ และสวดมนต์ประมาณ 1 ช.ม. จึงได้เวียนเทียนกันรอบโบสถ์ ระหว่างเดินเวียนเทียนนั้นมองภาพพระอรหันต์สาวกที่อยู่ทางขวาของพวกเรา รู้สึกประทับใจ และมีความสุขมาก เรียกว่าบรรยากาศยามเย็นนั้นทั้งสงบ และสวยงามมากครับ และนี่เองคือภาพลีลาก้าวเขย่งของพระอรหันต์สาวก ทำให้รูสึกทึ่งในฝีมือ และจินตนาการของช่างปั้นในสมัยสุโขทัยซึ่งทำออกได้อย่างวิจิตรบรรจง และลงตัวในความความยาวด้านละ ๒๐ เมตรจริงๆ..

พอจะเห็นอานิสงค์การสร้างพระธาตุเจดีย์กันบ้างแล้วใช่ไม๊ครับว่าอานิสงค์ยิ่งใหญ่ขนาดไหน พุทธศาสนิกชนพร้อมใจกันมาปฏิบัติกรรมฐาน นั่งสมาธิ เวียนเทียน และอธิษฐานจิตบูชาพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ พระธาตุอรหันต์ อีกทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระธาตุเจดีย์ พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งที่ได้ร่วมกันสร้างตั้งแต่ต้นจวบจนอนาคตก็เป็นเช่นดั่งกัน.....โมทนาสาธุ..

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 17 คน ( เป็นสมาชิก 10 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ]​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, aries2947+, boy9798, chaipat+, choke_mu-7, narongwate+, nongnooo+, ตั้งจิต+, พิมพาภรณ์+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

สมาชิกเยอะอีกแล้วครับท่าน

.

 

มีโอกาสแล้ว ก็จะสร้างบุญ บารมี ทั้งตนร่วมพี่น้อง
ตราบเท่าที่ยัง ไปเรื่อยๆ ตามใจที่ไปนี้

และแผ่กุศลผลบุญทั้งหลาย ให้มีสุขทั่วหน้ากัน

อย่างพอเพียง

สาธุครับ

 

บางครั้ง ปราถนา ตั้งใจ ไว้มาก

แต่พละกำลัง ไม่ถึง ท่านว่า เอาเท่าที่มีพละกำลัง

แต่ให้กำลังใจ เต็มเปี่ยม แล้วทำ กุศลเยี่ยมจริงๆ


นึกแล้วว่า คราใด จะสร้างกุศล และผลบุญนี้
ขอให้มีพละ กำลัง พรั่งพร้อมพูล สร้างบุญ สร้างกุศลนี้เทอญ

สาธุทุกๆ ท่านพี่น้องเทอญ

 

หากยังมีต่อ ก็จะขอทำต่อนี้เรื่อยไป

ส่งไปเป็นบุญใหญ่ ตามเท่าที่ใจ และกายยัง

ตามกำลังที่มีมา ด้วยใจศรัทธา ปัญญา มามั่นคง ดำรงด้วยสติมั่น



เมื่อพระเจดีย์เสร็จ ขอพี่ๆ นำน้องไปเยี่ยมชม และก้มลงกราบด้วยใจนี้

สาธุครับ

 

หึหึหึ ชอบๆๆ พรรณาได้ดี น้อง chaipat เป็นช่างภาพที่ถ่ายภาพได้เฉียบขาดคนหนึ่ง งานอดิเรกคงโทนเดียวกัน..


หากมีโอกาสไปชมวัดภูค่าวที่ จ.กาฬสินธ์จะตะลึงเอา หลวงพ่อเจ้าอาวาสนำพระสมเด็จเก่ามาปูทั้งหลังคากุฏิ ทั้งผนังโบสถ์ สุดยอดจะบรรยาย พระสมเด็จวังหน้า และวังหลวง ทั้งของวัดระฆังที่หาชมได้ยากจำนวนเป็นล้านๆองค์ คนมีกิเลสไปเห็นแล้ว ความนึกอยากได้พระสมเด็จอาจจะหดหายไปเลย อีกทั้งกลิ่นหอมก็อบอวลไปทั้งกุฎิ และหลวงพ่อท่านจะรับรองญาติโยมด้วยน้ำสมุนไพรแฮ่ม ที่มีรสชาดชุ่มคอมากครับ มีโอกาสแวะไปทางกาฬสินธ์อย่าได้พลาดกัน ...