ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ปฏิบัติไม่ถูก ยิ่งห่างสุข ทุกข์ทับถม

พระพุทธเจ้าตรัสประมวลหลักวิธีปฏิบัตในเรื่องความสุขและความทุกข์ไว้ ในที่แห่งหนึ่ง มีเป็นชุด ๓ ข้อ ซึ่งยืดออกเป็นตามคำอธิบาย เป็น ๔ ข้อ น่าสนใจมาก พระองค์สรุปไว้ง่ายๆ

วิธีปฏิบัติต่อทุกขืและสุข ที่พระองค์ตรัสไว้มีดังนี้
๑. ไม่เอาทุกข์มาทับถมตนที่ไม่มีทุกข์
๒. ไม่ละทิ้งสุขที่ชอบธรรม
๓. แม้ในสุขที่ชอบธรรมนั้นก็ไม่ลุ่มหลงมัวเมา
๔. เพียรปฏิบัติเพื่อเข้าถึงสุขที่ประณีตยิ่งขึ้นไป
เป็นหลักสำคัญ ถ้าเราปฏิบัติได้ตามนี้ ก็ชื่อปฏิบัติถูกต้องในเรื่องความสุขความทุกข์

ข้อที่ ๑ พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ไม่เอาทุกข์มาทับถมตนที่ไม่มีทุกข์" หมายความว่า เราอยู่ในโลก เราก็มีชีวิตอยู่ตามธรรมดา สังขาร สังขารมันก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา ตามธรรมดาของมัน เราดำเนินชีวิตให้ดีงามถูกต้อง แล้วทุกข์ตามธรรมชาติก็มีของมันไป อันนั้นเราไม่เถงมัน แต่เราไม่เพิ่ม เราไม่เอาทุกข์มาทับถมตัวเรา เราก็สบายไปชั้นหนึ่งแล้ว

ในทางตรงข้ามถ้าเราปฏิบัติไม่ถูกต้อง ทุกข์ที่มันมีอยู่ในธรรมชาตินั้น มันก็เกิดเป็นทุกข์ในใจของเรา เราก็เอาทุกข์มาทับถมตัวเอง ดังจะเห็นว่าบางคนปฏิบัติไม่ถูกต้อง เที่ยวหาทุกข์มาใส่ตนมากมาย

เรื่องนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในการที่ทรงได้ตอบกับลัทธินิครนถ์ คือเรื่องมันเกิดจากลัทธินิครนถ์ ก็เลยจะขอยกมาเป็นตัวอย่ง แต่เป็นตัวอย่างที่หยาบๆ ของการเอาทุกข์มาทับถมตนคือ

ลัทธินครนถ์นี้เขาถือการบำเพ็ญตบะ ตบะก็คือการทำความเพียรทรมานตนเอง ซึ่งมีวิธีการต่างๆมากมาย เรียกง่ายๆ ว่า เป้นการหาทุกข์มาใส่ตน เช่น เวลาจะโกนศีรษะ เขาไม่ใช้มีดโกนแต่นักบวชนิครนถ์เขาใช้วิถีถอนผมทีละเส้นจนกระทั่งหมดศีรษะอย่างนี้เป็นต้น

ตบะในสมัยโบราณนั้นมีมากหลายแบบ เช่น ถึงหน้าร้อนไปนอนกลางแดด แต่ถึงหน้าหนาวกลับไปแช่ตัวอยู่ในน้ำเวลานอน แทนที่จะนอนบนพื้นสบายๆ ก็นอนบนเตียงหนาม อะไรอย่างนี้เป็นต้น หมายความว่าทรมานร่างกาย ทำตัวให้ทุกข์

ทำไมเขาจึงทำอย่างนั้น เขาบอกว่า เพราะว่าเราตามใจมัน คือตามใจกิเลสนี่แหละ มันจึงทำให้เกิดทุกข์ขึ้น เพราะฉนั้นเราจะไม่ตามใจมันละ เราทรมานมัน มันจะได้หมดกิเลส กิเลสจะได้แห้งไป
นี่เป็นวิธีปฏิบัติของพวกนิครนถ์ พระพุทุธเจ้าตรัสว่าวิธีนี้เป็นการเอาทุกข์มาทับถมตนที่ไม่มีทุกข์ นี่เป็นตัวอย่าง....

 

แหล่มเลย เหรียญเลื่อนหลวงปู่ทวดงดงามมากแบบวิ้งๆ
ผมหาตั้งนานยังไม่ได้เลยอย่าว่าแต่วิ้งไม่วิ้ง
แถมได้โชคจากหลวงปู่ด้วย
ยินดีครับท่านนอร์ด้วยคร๊าบบ.........

กราบหลวงปู่ทวด หลวงปู่ช่างเมตตาแท้
นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา

 

โชคมา ก็ใช้ทำความดี
เคราะห์มี ก็เป็นเครื่องมือพัฒนา

คนเราอยู่ในโลก แต่มักปฏิบัติไม่ถูกต้องต่อสิ่งทั้งหลายในโลก จึงดำเนินชีวิตไม่ถูกต้อง สิ่งที่เราเกี่ยวข้องต่างๆ นี่มันก็อยู่ของมันไปตามปกติ ตามธรรมชาติ แต่เราปฏิบัติต่อมันไม่ถูก วางใจไม่ถูก แม้แต่มองก็ไม่ถูก เราจึงเกิดทุกข์

สิ่งทั้งหลายที่มีอยู่ตามธรรมดามันก็เป็นไป ถ้าเรารู้ทัน ก็เห็นมันเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าเราไม่รู้เท่าทัน เรามองไม่เป็น ก็เกิดทุกข์ทันที

แม้แต่เหตุการณ์ความผันผวนปรวนแปรต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคนเรา ที่เรียกกันว่า โชคบ้าง เคราะห์บ้าง ศัพท์พระเรียกว่า โลกธรรม ซึ่งเป็นตัวการสำคัย ที่ทำให้คนดีใจเสียใจ เป็นสุขเป็นทุกข์

เวลามันเกิดขึ้น ถ้าเราปฏิบัติไม่ถูกต้อง ที่สุขเราก็แปลงให้เป็นทุกข์ ที่มันเป็นทุกข์อยู่แล้ว เราก็เพิ่มทุกข์แก่ตัวเราให้มากขึ้น แต่ถ้าเราปฏิบัติถูกต้อง ที่ทุกข์เราก็ผันแปลงให้เป็นสุข ที่มันสุขอยู่แล้วเราก็เพิ่มให้เป็นสุขมากยิ่งขึ้น

โลกธรรม คืออะไร โลกธรรมแปลว่า ธรรมประจำโลก ได้แก่ สิ่งที่เกิดแก่มนุษย์ทั้งหลายตามธรรมดาของความเป็นอนิจจัง ก็คือ เรื่อง ลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์
สิ่งหล่านี้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า มันมีอยู่เป็นธรรมดา เมื่อเราอยู่ในโลก เราไม่พ้นมันหรอก เราต้องเจอมัน ทีนี้ถ้าเราเจอมันแล้ว เราวางใจไม่ถูก และปฏิบัติไม่ถูก เราจะเอาทุกข์มาใส่ตัวทันที

พอเรามีลาภ เราก็ดีใจ อันนี้เป็นธรรมดา เพราะเป็นสิ่งที่น่าปราถนา แต่พอเสื่อมลาภเราก็เศร้าโศก เพราะเราสูญเสีย

ที่นี้ ถ้าเราวางใจไม่ถูก ไประทมตรมใจ แล้วไปทำอะไรประชดประชันตัวเอง หรือประท้วงชีวิต เป็นต้น เราก็ซ้ำเติมตัวเองทำให้เกิดทุกข์มากขึ้น

อย่างง่ายๆ กว่านั้น เช่น เสียงนินทา และสรรเสริญ คำสรรเสริญนั้นเป็นสิ่งที่เราชอบใจ พอได้ยินเราก็มีความสุข ใจก็ฟูขึ้นมา แต่พอได้ยินคำนินทาเราก็เกิดความทุกข์ ทุกข์นี้เกิด เพราะอะไร เพราะเรารับเอาเข้ามา คือรับกระทบมันนั่นเอง คือเอาเข้ามาบีบใจของเรา ที่นี้ ถ้าเราวางใจถูกต้อง อย่างน้อยเราก็รู้ว่า อ้อ นี่คือธรรมดาของโลก เราได้เห็นแล้วไง

พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วว่า เราอยู่ในโลก เราต้องเจอโลกธรรมนะ เราก็เจอจริงๆ แล้ว
เราก็รู้ว่า อ้อนี่ความจริงมันเป็นอย่างนี้เอง เราได้เห็นได้รู้แล้ว เราจะได้เรียนรู้ไว้

พอได้เรียนรู้ ก็จะได้เป็นประสบการณ์สำหรับศึกษา เราก็เริ่มวางใจได้ถูกต้อง ต่อจากนั้น ก็นึกสนุกกับมันว่า อ้อ ก็อย่างนี้แหละโลกก็ได้เห็นความจริงแล้วว่ามันเป็นอย่างไร ทีนี้ก็ลองกับสิ่งนั้นดู แล้วเราก็ตั้งหลักได้ สบายใจ อย่างนี้ก็เรียกว่าไม่เอาทุกข์มาทับถมใจตัวเอง บางทีก็ต้องทำใจให้ถูกต้องกว่านั้น ก็คือ คิดจะฝึกตนเอง พอทำใจว่าจะฝึกตนเอง ก็จะมองทุกอย่างในแง่มุมใหม่ แม้แต่สิ่งที่ไม่ดีไม่น่าชอบใจ ก็จะมองเป็นบททดสอบ พอมองเป็นบททดสอบทีไร เรากได้ทุกที ไม่ว่าดีหรือร้ายเข้ามา ก็เป็นบททดสอบใจและทดสอบสติปัญญาความสามารถทั้งนั้น ก็ทำให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพราะเราได้ฝึกฝน เราได้พัฒนาตัวเอง เลยกลายเป็นดีไปหมด

ถ้าโชค หรือโลกธรมที่ดีมีมา เราก็สบาย เป็นสุข แล้วเราก็ได้โชคนั้น เช่น ลาภ ยศ เป็นเครื่องมือเพิ่มความสุขให้แผ่ขยายออกไป คือใช้ทำความดี ช่วยเหลือเกื้อกูล ทำให้ความสุขขยายจากตัวเรา แผ่กว้างออกไป สู้ผู้คนมากมาย

ถ้าเคราะห์ หรือ โลกธรรมที่ร้ายผ่ายเข้ามา ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ตัวเราจะได้ฝึกฝนพัฒนา ที่กลายเป็นบททดสอบ เป็นบทเรียน และเป็นเครื่องมือฝึกสติ ฝึกปัญญา ฝึกการแก้ปัญหาเป็นต้น ซึ่งจะทำให้พัฒนายิ่งขึ้นไป
เพราะฉะนั้น จึงถือคติว่า ให้มนสิการให้ถูกต้อง ถ้ามองสิ่งทั้งหลายให้เป็นแล้ว ก็จะเกิดเป็นประโยชน์แก่เราหมด ไม่ว่าดีหรือร้าย

นี่เป็นตัวอย่างวิธีการเบื้องต้น แค่รวมความง่ายๆ ก็คือ เราไม่เอาทุกข์มาทับถมตนเอง..

ข้อมูลส่วนหนึ่งในหนังสือความสุขที่สมบูรณ์

ขอบคุณและอนุโมทนาบุญ

คุณเขมจิรา ปลงไสว ค่ะ

ที่มอบหนังสือ มาให้อ่าน....

 

กราบพระองค์ที่ ๑ พระเถวโรวาส หรือหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด กราบพระองค์ที่ ๕ หรือ สมเด็จพระมารฎีร์ ศรีอาริยะ พระศรีอาริยะเมตตรัย กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม

 

อ่านหนังสือเรื่องความสุขที่สมบูรณ์แล้ว

นึกถึง ธรรมของหลวงปู่ทวดค่ะ

ละได้ย่อมสงบ
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแต่เคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไปสู่การสลายตัวทั้งสิ้น ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบ

ชีวิตทุกข์
การเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง จะว่าประเสริฐก็ประเสริฐ จะว่าไม่ประเสริฐก็ไม่ประเสริฐ จะเห็นได้ว่า ตื่นเช้าก็มีความทุกข์เข้าครอบงำ จะต้องล้างหน้า ล้างปาก ล้างฟัน ล้างมือ
เสร็จแล้วจะต้องกินต้องถ่าย นี่คือความทุกข์แห่งกายเนื้อ เมื่อเราจะออกจากบ้าน
ก็จะประสบความทุกข์ในหมู่คณะ ในการงาน ในสัมมาอาชีวะ การเลี้ยงตนชอบ
นี่คือ ความทุกข์ในการแสวงหาปัจจัย

บรรเทาทุกข์
การที่เราจะไม่ต้องทุกข์มากนั้น เราจะต้องรู้ว่า เรานี้จะต้องไม่เอาชีวิตไปฝากสังคม
เราต้องเป็นตัวของเราเองและเราจะต้องวินิจฉัย ในเหตุการณ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง
กับตัวเราว่าสิ่งใดเราควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ
รู้ซึ้ง
ทุกอย่างจะต้องมีเหตุ เมื่อมีเหตุจึงจะมีผล ผลนั้นเกิดจากเหตุ
เราได้วินิจฉัยข้อนี้แล้ว เราจึงรู้ซึ้งถึงพุทธศาสนา
ฯลฯ

 

มรดกจากคุณอา

 

นู๋ยังเลือกพระไปเลี่ยมไม่ได้เลย T^T

 

ทำไมนู๋เลือกไม่ได้ล่ะ...ช่วยเลือกนำไปเลี่ยมให้ไหมคะน้องภัทร:d
(ไม่ส่งกลับนะคะ)

 

กระซิบหน่อยได้ไหมครับ ว่าประมาณ คนไหน

ผมไปทีไรช้ำกลับมาทุกครั้งเลย T^T

 

ดีใจด้วยเด้ออ้ายนอร์ หลวงปู่มาโปรดแต่เช้าเลย

 

สวยงามมากๆจ้า.

 

กราบหลวงพ่อทวดครับ. สวยงามมากครับ.

 

สวัสดีครับทุกท่าน. (คิดถึง อ จงอางจริงๆ)

ขออนุโมทนากับคุณเสี่ยนอร์ด้วยครับ. และแสดงความยินดีด้วยครับ โชคดีจริงๆ

 

สวยงามมากครับ. ชอบๆ

 

เนื้อ97เลยนะนี่. เนื้อหาสุดยอดดดดด องค์ครู

 

พี่ล้างใจและพี่ๆทุกท่านติชมให้ด้วยครับ

 

​

เห็นด้วยและยืนยันข้อความของคุณ hs9jol ผมเคยเจอกับตัวเองมาหลายครั้งอยู่ แต่จำเป็นเทาไรได้เท่านั้นนะ (หมายถึงหวยครับไม่เกี่ยวกะการพนันอย่างอื่น)

และบางครั้งผมมีเรื่องต้องทำและต้องใช้เงินแต่ขณะนั้นเงินไม่มีหรือมีไม่พอแต่ก็ตัดสินใจทำแบบเสี่ยงมากๆ เพราะเชื่อลึกๆว่าอย่างไรหลวงปู่ต้องช่วยแน่ๆ สุดท้ายก็มีเงินเข้ามาทำให้งานสำเร็จ แบบนี้ก็หลายครั้ง

สุดท้ายแบบขำๆนะครับ ด้วยความเคารพคุณ hs9jol เคยลืม Username บ้างเปล่าครับ อิอิ....

 

ย้อนยุคครับ..ไม่ใช่ของวัดช้างให้ จริงมั้ยท่านสารวัตร ^^

 

กราบพระองค์ที่ ๑ พระเถวโรวาส หรือหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม

 

สวัสดีค่ะ....
วันนี้ปักครอสติส ได้อีกนิดหน่อยค่ะ เสร็จคำว่า "หลวงปู่ทวดและเดินเส้นด้วยไหมสีดำอีก 1 แถว

แวะมาเล่าเรื่องนิดหน่อยค่ะ ปักครอสติสภาพหลวงพ่อทวดเป็นภาพที่ 2 ซึ่งอยากปักภาพหลวงพ่อทวดให้สวยและต้องปักให้เสร็จ ก่อนหน้านี้ปักภาพพระแม่กวนอิม ตั้งแต่ปี 47 ปักได้เพียงวงรัศมี แต่ก็ต้องมีอันหยุดปัก (ไม่มีเวลา รวมแล้วเกือบ 9 ปี ) แต่ก็อยากปักภาพพระแม่กวนอิมให้เสร็จ เพราะภาพท่านงดงามมากค่ะ มีน้องเขารับอาสาปักภาพพระแม่กวนอิมให้แล้ว เขาปักไม่ถึงเดือนเกือบจะเสร็จแล้ว

ก่อนปักก็เข้าไปห้องพระค่ะ กราบหลวงพ่อทวด บอกท่านก่อนว่า ขอให้ปักให้ภาพท่านให้เสร็จก่อนขึ้นเชียงใหม่ (ตอนนี้สายตาก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน เริ่มมองไม่ชัดค่ะ ยาว 200 )
ระหว่างปักก็ สวดคาถาของหลวงปู่ทวดไปด้วยค่ะ รู้สึกว่าปักได้ดีขึ้นกว่าก่อน ปักไปก็บอกหลวงพ่อทวดไปค่ะว่า ปักภาพปู่ขอให้เสร็จ จะนำขึ้นไปเชียงใหม่......
ปักไปก็แอบขอโชคหลวงปู่ไปด้วย

วันนี้สงสัยปู่ให้โชคค่ะ เพราะแวะไปบ้านแม่ พี่สาวถามว่า วันนี้มีมาเลเซีย สนไหม...
ก็เลยลองซื้อเล่นๆค่ะ สนุกๆ ซื้อไม่เป็นด้วย ให้พี่เขาซื้อให้ ก็เลยเลือกซื้อเบอร์ทะเบียนรถ 955 251 8676 จะ ABC หรือN ก็แล้วแต่เขาจะซื้อให้
ซื้อไม่เป็นหรอกค่ะ ลืมถามพี่ล้างใจ ขานั้นซื้อบ่อย :d

แต่เมื่อก่อนหนึ่งทุ่มพี่สาวโทรมาบอกค่ะว่าถูกรางวัลที่ 3 ออก 9676ค่ะ ถูก 676
ได้มา 3 พันบาท....หากเปลี่ยนเป็นจาก9 เป็น 8 ก็จะได้หนึ่งหมื่นบาท
รถคันนี้ไม่ค่อยได้ขับค่ะ เพราะเสียงดัง และเก่าแล้วไว้ใช้เวลาหน้าฝน ส่วนคันสีม่วงก็จอดทิ้งไว้ที่รพ. มีคนถามเหมือนกันว่าไม่ขับหรือ (สงสัยจะมีคนถูกเลยท้ายหลายคน)เมื่อวันที่ 16 มิย. เพราะทะเบียน 251

(ไม่สนับสนุนให้ซื้อเบอร์ค่ะ แต่นี่ก็ซื้อสนุกๆค่ะ...)



ลิงค์ที่ได้โชคค่ะ
http://www.live4d.com/live4d/4dlive1.htm