ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. รักษ์สยาม

    รักษ์สยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,129
    วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช มีทำการบูรณะยอดพระธาตุครั้งใหญ่ ในปี2536 - 2537 ได้เก็บรวบรวมเอาตะปูสังขวานรที่ใช้ตอกยึดแผ่นทองคำ ที่หุ้มอยู่บนยอดพระธาตุแล้วเอามาหลอม จัดทำเป็นพระพิมพ์ต่าง ๆ เช่น หลวงพ่อทวด พิมพ์พระท่าเรือ นางตรา ศรีธรรมโศก และพิมพ์อื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ตะปูสังขวานรเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่สูงร่วมปกปักษ์รักษาเมืองคอนมานาน ผู้คนกราบไหว้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เป็นสุดยอดเครื่องรางกันภูตผีปีศาจเสนียดจัญไรและสิ่งอัปมงคลต่างๆ ในอดีตเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคาแก่กล้า เมื่อต้องการจะสร้างมีดหมอ หรืออาวุธใดๆที่ใช้ในการป้องกันภูตผีปีศาจ หรือคุณไสยต่างๆ สิ่งที่จะขาดมิได้เลยก็คือตะปูสังขวานร เพราะมีอานุภาพในการป้องกันภูตผี คุณไสยต่างๆ เป็นเลิศเนื่องจากว่าเป็นตะปูที่ใช้ยึดตัวโบสถ์ในสมัยอยุธยาหรือยุครัตนะตอนต้นๆ ต้องผ่านการทำพิธีทางศาสนา และพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่างๆนานานานนับร้อยๆปีจึงเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณสูงสุด สามารถกันภูตผี คุณไสยต่างๆได้ดี ในตัวเองโดยไม่ต้องเข้าพิธีซ้ำอีก ความเป็นมาของ "สังขวานร" หรือ "สังฆวานร" เกิดจากพญาวานรตนหนึ่งซึ่งลงมาจุติเกิดในภพภูมิของมนุษย์ แล้วเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังมิวายที่จะติดใจหลงไหลในฤทธิ์อำนาจของตนเองที่ติดตัวมาตั้งแต่อดีตชาติ เมื่อเข้ามาบวชเรียนแล้ว พญาวานรก็ยังชอบที่จะใช้ฤทธิ์ใช้อำนาจที่มีอยู่เดิม ในการเหาะเหิรเดินอากาศเพื่อที่จะไปเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุ(สีขาวนวล) ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศธาตุซึ่งมิได้ถูกเทพ-เทวาอัญเชิญไปเป็นฐานพระเกตุแก้วจุฬามณี(ฐานของพระเกตุแก้วจุฬามณีเป็นวัชรธาตุ) เมื่อเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุได้ตามต้องการแล้ว พญาวานรก็นำไปหลอมละลายเข้ากับเงินยวง หรือเงินบริสุทธิ์ แล้วทำการประจุพลังปลุกเสกอริยธาตุขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีฤทธิ์มีอำนาจตามที่พญาวานรต้องการ จากนั้นจึงนำไปเก็บไว้ในถ้ำลึกที่ตนอาศัยอยู่เพื่อใช้ในการทดสอบฌานสมาบัติและฤทธิ์อำนาจของตัวเอง ความติดในฤทธิ์อำนาจจึงทำให้พญาวานรไม่เจริญก้าวหน้าในทางธรรม เพราะมัวแต่หลงไหลยึดมั่นถือมั่นในฤทธิ์อำนาจ เมื่อถึงเวลาธาตุ 4 ขันธ์ 5 ของพญาวานรแตกดับไป แต่ด้วยจิตที่ผูกพันหวงแหนในธาตุกายสิทธิ์ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ทำให้จิตวิญญาณของพญาวานรติดตามไปดูแล ธาตุกายสิทธิ์นั้นไม่ให้ได้ตกไปอยู่ในมือของหมู่มารที่มีอคติต่อระพุทธศาสนา ดังนั้นแร่สังฆวานรจึงเกิดจากเหล็กไหลขาวที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ถูกนำมาหุงใหม่บวกกับฤทธิ์ฌานสมาบัติของพญาวานรเข้าไปรวมด้วย เราจึงเรียกธาตุกายสิทธิ์นี้ว่า "สังฆวานร" หรือบางคนก็เรียก "สังขวานร" โลหะชนิดนี้มีสีเงินยวง ขาวนวลกว่าเหล็กไหลขาวทั่วไป เพราะสังฆวานรมีฤทธิ์อำนาจในการป้องกันศัตรูหมู่มารและภัยพิบัตินานาประการ มิให้เข้ามากร้ำกรายลุกร้ำสถานที่นั้น ๆ ได้ โดยมีคาถากำกับเอาไว้ว่า "นะมะหะนุ วะลุสังหะ" จึงมีฤทธานุภาพเหมือนกับหนุมาน แต่ที่แตกต่างกันก็คือธาตุกายสิทธิ์นี้มีบารมีธรรมขั้นสูงกำกับอยู่ นั่นคือมีบารมีธรรมของเหล่าอริยสงฆ์ที่ตั้งใจลงมาช่วยเหลือเกื้อกูลต่อพระพุทธศาสนา ให้หลุดรอดจากเหล่าหมู่มารทั้งหลาย บวกกับฤทธานุภาพของพญาวานร จึงทำให้แร่สังฆวานรนี้มีอานุภาพอย่างยิ่ง พระชุดนี้ขุนพันธ์ฯ เป็นเจ้าพิธี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P5111650.JPG
      P5111650.JPG
      ขนาดไฟล์:
      394.4 KB
      เปิดดู:
      168
    • P5111651.JPG
      P5111651.JPG
      ขนาดไฟล์:
      385.1 KB
      เปิดดู:
      105
  2. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    เสียดายปุ่มอนุโมทนาหายไปอีกแล้ว ถ้าอยู่จะกดอนุโมทนาให้คุณนวลสักล้านครั้ง..
     
  3. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735

    อนุโมทนาด้วยครับคุณนวล..... (^^)
     
  4. watchdog

    watchdog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +35,870

    ****************************************

    [​IMG]


    [​IMG]



    ****************เอาไปใช้ได้ครับ*****************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2012
  5. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    [​IMG]


    [​IMG][​IMG]
     
  6. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    กราบหลวงปู่ทวด......
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา...
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา...
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา...

    สวัสดีเช้าวันศุกร์ครับอ.จงอาง,พี่นวล,เสี่ยล้างใจและทุกๆท่าน(^_^)
     
  7. นิวรรฒก์

    นิวรรฒก์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +575
    [​IMG]


    จากคำบอกเล่าของ พระครูประสาทอโนมคุณ วัดประสาทบุญญาวาส
    เขตสามเสน แขวงวชิรพยาบาล กรุงเทพมหานคร

    "อีกเรื่องหนึ่งสำคัญมาก หลวงปู่ทวดมาเข้าฝันบอกว่า พระเครื่องหรือเหรียญที่สร้างขึ้น
    เป็นองค์หลวงปู่ทวด จะเป็นของเก๊หรือของแท้ ล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ให้ความคุ้มครอง
    แก่ผู้มีไว้บูชาทั้งนั้น เพราะเหตุว่าหลวงปู่ทวดเป็นพระมหาโพธิสัตว์ผู้สร้างบารมีมานับอสงไขยๆ
    บารมีเต็มรอบบริบูรณ์แล้ว มีเทพเจ้าเหล่าพรหมผู้ทรงฤทธิ์นับล้านๆองค์ เป็นบริษัทบริวาร
    รวมถึงผีสางเทวดาทุกระดับ เป็นศิษยานุศิษย์นับแสนโกฏิ
    บรรดาเทพเจ้าเหล่าพรหมและผีสางเทวดาจำนวนนับล้านๆเหล่านั้น ได้แยกย้ายเข้าสิงสถิตย์
    อยู่ในองค์พระเครื่องและเหรียญหลวงปู่ทวดทุกรูปแบบ เพื่อสำแดงคุณอภินิหาร
    อันมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นแก่ผู้มีไว้ครอบครองบูชา ส่วนในด้านให้บาปโทษนั้นมีสถานเดียว
    คือบันดาลให้บุคคลผู้บังอาจสร้างพระเก๊เหรียญเก๊นั้น ประสบภัยวิบัติไม่ช้าก็เร็ว"

    บันทึกโดย พระสิทธา เชตวัน
    จากหนังสือ ตามรอยพระโพธิสัตว์เจ้าผู้ประเสริฐ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2012
  8. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดียามเย็นค่ะ

    นำมาให้อ่าน

    บันทึกแห่งสัจจธรรม พิสูจน์…เรื่องเล่าจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความลี้ลับมหัศจรรย์ของลูกแก้วกายสิทธิ์ของหลวงปู่ทวด ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี
    จากบทความบันทึกแห่งสัจจธรรม ที่หนังสือโลกทิพย์ลงฉบับที่ 308 ปีที่ 14 พฤศจิกายน 2538 ได้ลงบทความเกี่ยวกับการพิสูจน์… เรื่องเล่าจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความลี้ลับมหัศจรรย์ของลูกแก้วกายสิทธิ์ ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี

    โดยมีคณะกลุ่มหนึ่งได้ขึ้นไปบนยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี เพื่อสร้างบารมีให้เจตสิกของเราหรือดวงแก้วที่อยู่ในกายเราสว่างมีความบริสุทธิ์ เจตสิกที่สว่างนั้นคือดวงแก้วที่ทุกคนกำลังปรารถนานั้นเอง เจตสิกเหล่านี้แหละที่จะเข้าสู่ในขั้นอธิษฐานบารมีคือ สามารถนำบารมีที่เราเคยปฏิบัติมาแล้วนั้นมาอธิษฐานจิตอย่างไรก็ตามความปรารถนา แต่ถ้าไม่มีบารมีเลย แล้วจะเอาอะไรไปใช้ในการอธิษฐานจิตเหมือนคนอื่นล่ะ

    ณ พระเกตุแก้ว ฯ นั้นเป็นสถานที่สัปปายะเหมาะแก่การปฏิบัติแบบอุกฤษฎ์มาก เพราะไม่มีอะไรมารบกวนเราได้เลย มีแต่พวกนก ลิง ค่าง และชะนีเท่านั้นเองที่จะอาศัยอยู่บนยอดเขาสูงๆ ได้ เพราะไม่มีแหล่งน้ำ ดังนั้นสัตว์ใหญ่ๆ จะอาศัยอยู่แถบเชิงเขาและกลางเขาได้ และ ณ ที่ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรีแห่งนี้ หลังจากที่หลวงปู่ทวดได้ขึ้นไปแสวงหาสถานที่สัปปายะและเหมาะสมในการปฎิบัติอุกฤษฎ์บนยอดเขาสันการาคีรีแล้ว หลวงปู่ทวดท่านได้ขออธิษฐานจิต ให้ญานของแก้วพระไตรรัตน์ลงมาจุติ เพื่อสร้างบารมีในรูปของมหาโพธิสัตว์ เมื่อหลวงปู่ทวดได้อธิษฐานจิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้นกัลปพฤกษ์ (ต้นกากะทิง) จึงเกิดขึ้นเองโดยอิทธิปาฏิหาริย์ เพราะหลวงปู่ทวดท่านได้สู่ยอดเขาสันการาคีรีด้วยธาตุ 4 ขันธ์ 5 จึงสามารถที่จะอัญเชิญลูกแก้วพระไตรรัตน์ให้ลงมาจุติเกิดได้ อีกทั้งการขึ้นยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดนั้น เพื่อแสวงหาโมกข์ธรรมมาเก็บสะสมเอาไว้ในเจตสิกของท่านด้วย

    ภาระหน้าที่ของกลุ่มคณะเราก็คือ การขึ้นไปบนยอดเขาแก้ว พร้อมกันนั้นยังได้สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ จุดธูปจุดเทียนจำนวน 10,000 ดอก เพื่อแผ่เมตตาให้กับสรรพวิญญาณทั้งหลายได้ไปสู่ภพภูมิอื่นที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ตลอดทั้งเทพพรหมที่อยู่ในยอดเขาแก้ว


    เหตุการณ์ระหว่างเดินป่า ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี

    หลังจากที่กลุ่มคณะเดินทาง โดยการนำของพรานป่า ระหว่างทางได้หลงป่าอยู่นาน 2 ชั่วโมง เพราะมีแต่ต้นไม้กับป่าเท่านั้นเอง ระหว่างทางเจอหนามและฝากอันแหลมคมต่างๆ ความเจ็บปวด ความเหน็ดเหนื่อย น้ำในกระติกก็หมด จะต้องดื่มน้ำจากเถาวัลย์ทีละหยด และในการที่จะต้องปีนหน้าผาลงไปหาน้ำข้างล่าง มันเหมือนกับเราจะไปตาย เหวแต่ละเหวลึกมาก ทั้งหิว ทั้งอดและหนาวด้วย แต่เมื่อเดินผ่านต้นไม้ขนาดใหญ่ กลุ่มคณะจึงอธิษฐาน เพื่อขอให้รุกขเทวดาที่สิงสถิตอยู่ตามต้นไม้ช่วยลูกช้างด้วยเถิด นำทางให้เราด้วยเถิด ให้เราได้พบกับทางที่ถูกต้องเถิด

    เมื่อได้ยินเสียงคุณวีระศักดิ์หนึ่งในสมาชิกกลุ่มคณะสั่งให้หยุด แล้วให้กลับสู่ยอดเขาใหม่ ใจจึงค่อยชื่นขึ้น เมื่อขึ้นจากหุบเขาเหวได้ จิตใจของเราก็เริ่มดีขึ้น มีกำลังใจขึ้น เพื่อที่จะต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ให้จงได้ เมื่อกลุ่มคณะได้เดินทางถึงยอดเขาแล้ว ท่ามกลางเมฆหมอกที่ขาวนวล และเสียงของน้ำค้างตกลงมาตลอดคืนนั้น มันเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกำลังให้ความอุ่นใจกับเรามากเหมือนกับพวกเขากำลังยินดีที่มีต่อพวกเรามากๆ เลย มันช่างเหมือนกับมีใครๆ ที่กำลังมาแสดงความรู้สึกที่ดีต่อเรามากมายเหลือเกิน

    ในขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะเพลินอยู่นั้นเอง เสียงเล็กแหลมเหมือนเสียงเด็กๆ ดังขึ้นมากลางปล้อง ป้าบุญเรือนของเรากลายเป็นกุมารไปแล้ว กุมารตรีเพชรหรือหนุมาน ที่เราเรียกกันว่า ลูกตรี เพื่อลงมาทำหน้าที่แทนปู่อินทร์ ตอบข้อสงสัยของพวกเราให้หายข้องใจ

    องค์ตรีเพชรได้ลงมาบรรยายให้เราฟังว่า การขึ้นเขาแก้วนั้นไม่ใช่การเดินป่าแบบธรรมดา ใครก็ตามที่สามารถขึ้นไปได้ถึงยอดเขาย่อมเกิดจากแรงอธิษฐาน และความตั้งใจมั่นจริงๆ เหมือนกับที่ปู่อินทร์ได้บอกเอาไว้ไง….ว่าใครอยากได้อะไรก็ให้อธิษฐานจิตขอกันเอาเอง เพราะภูเขาแก้วทั้งลูกคือ แก้วสารพัดนึก ใครอยากจะได้อะไรก็ให้นึกเอา

    ลูกตรีพูดต่อไปว่า ถ้าคณะของเราสามารถที่จะอดทนอยู่บนยอดเขาแก้วเกิน 7 วันไปแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในรูปของลับแลต่างๆ ก็จะต้องออกมาทำบุญกับพวกเราด้วย…ในเมื่อพวกเรายังคงมีความอดทนไม่พอ เพียงแค่ 3 วัน จะไปเห็นอะไรดีของเหล่าเทวดาเขาได้ย่างไรเล่า มันง่ายเกินไป พอพูดถึงจุดนี้ ลูกตรีก็ชี้ให้เแหงนขึ้นไปดูท้องฟ้า ในขณะนั้นกำลังเกิดเป็นภาพนิมิตเป็นลำแสงพุ่งไปมาในบริเวณนั้น เหมือนกับเป็นการยืนยันในคำพูดของลูกตรี และที่ได้เห็นอริยพรหมทรงเครื่องเหมือนพระศรีอริยเมตไตรนั้น จริงๆ แล้วนี้คือ พระอิศวรภาคสมบูรณ์ของเบื้องบน…ที่จะต้องมาตรวจตราดูแลรักษาธาตุขันธ์ของแก้วพระไตรรัตน์ด้วยเหมือนกัน

    ถึงแม้ว่าจิตวิญญาณหรือเจตสิกของหลวงปู่ทวดได้ไปจุติเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสะสมบารมีของมหาโพธิสัตว์ที่จะรับรวมอริยธรรมทั้งหลายของวัฏสงสารนี้ มาสะสมเอาไว้ในเจตสิก เพื่อนำมาสั่งสอนเวไนยสัตว์ที่ปรารถนาจะหลุดพ้นในยุคที่ท่านสำเร็จเป็นพุทธะ แสงปาฏิหาริย์ต่างๆ ของลูกแก้วจึงหายไป คงมีแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น จะต้องดูแลรักษาเอาไว้สืบต่อไปในภายหน้า ณ ภูเขาสันการาคีรีนี้ไว้ เพราะยังเป็นพันธะของพระโพธิสัตว์กับพระศรีสรรเพชรสืบต่อไปอีก

    เราลองมาพิจารณาดูซิว่า…เรามาอยู่แค่เชิงเขาเท่านั้นเราก็สบายกันแล้ว ถ้าขึ้นไปอยู่บนยอดเขาแก้วไปนานๆ มันสบายเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน ขนาดตรงนี้ยังไม่มีสิ่งรบกวนจากภายนอก มีสายลมโชย แสนจะสบายมีดาวเต็มท้องฟ้า มีเสียงน้ำตก แล้วเราจะไปหาความสงบแบบนี้จากที่ไหนอีก ถ้าไม่ใช่ป่ารกชัฏ นี้แหละเป็นที่ฝึกหัดสมาธิได้ยอดเยี่ยมที่สุดเลย แต่ต้องเขานิโรธได้นะ อยู่ปฏิบัติสักเดือน สองเดือนก็เห็นผลแล้ว

    ลูกตรียังคงพูดต่อไปอีกว่า การขึ้นเขาแก้วนั้น เขาต้องการให้รู้จักทุกข์ และหาหนทางให้พ้นทุกข์ หิวก็เป็นทุกข์ อิ่มก็เป็นทุกข์ ขึ้นเขาเหนื่อยๆ ก็เป็นทุกข์ เขาให้เราพิจารณาว่าทุกๆ อย่างนั้นเป็นทุกข์ เพื่อมิให้พวกเราไปหลงยึดมั่นถือมั่นในร่างกายสังขาร เพราะจะทำให้จิตของเราไปจับอยู่กับกองทุกข์ทั้งหลายได้อีก ให้เอาจิตยกขึ้น ไม่ไปสนใจร่างกายสังขารเพราะมันไม่ใช่ของเรา

    ถ้าเราเอาจิตไปจับอยู่กับตัวทุกข์ ถ้าเราเอาจิตไปจับเอาไว้ตรงนั้น มันก็เจ็บ มันก็ปวด มันก็เมื่อย มันก็ทุกข์ เราจึงต้องเอาจิตยกขึ้นมา แต่เรามันเกาะติดอยู่กับธาตุ 4 ขันธ์ 5 ของเรา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำให้พวกเราได้รู้จักทุกข์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าเรารู้แล้วว่านั้นแหละคือตัวทุกข์ ที่จะต้องเกิดมาเป็นธาตุขันธ์ มันทุกข์ทั้งนั้น เราก็ไม่เอาจิตของเราไปจับอยู่กับทุกข์ (ธาตุขันธ์) เราก็ปล่อยไป กลายเป็น ละ วาง หยุด นี่ตรงนี้แหละ ที่พระสงฆ์องค์เจ้าต้องออกไปจาริกธุดงค์ ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้มีโอกาสที่จะได้รู้จักกับตัวทุกข์ พอรู้ทุกข์แล้ว ถ้าเราปฏิบัติไปเรื่อยๆ มันก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว เราจะรู้ว่า อ๋อ…ทุกข์มันเป็นอย่างนี้นะ

    แต่กว่าจะผ่านความทุกข์ไปได้ เราจะต้องเจอด้วยตัวเราเองเสียก่อน ถ้าไม่เจอก็ไม่รู้ เพราะถ้าทุกคนไม่เคยผ่านทุกข์ เมื่อเรารู้จักทุกข์แล้ว เราจึงจะหาทางให้ไปจากกองทุกข์ได้ เพราะเรารู้ว่ามันเกาะติดอยู่ในธาตุขันธ์ เกาะติดอยู่ในปัญญา เกาะติดอยู่ในเวทนา เกาะติดอยู่ในวิญญาณ ทั่วทุกส่วนของร่างกายสังขารเลย วิญญาณไม่ใช่ปัญญานี่ แต่ปัญญาคือจิตของเรา ลูกตรีจึงสรุปว่า การขึ้นเขาสันการาคีรีของเราในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดปัญญา ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ กำจัดความเคยชินและความสะดวกสบายออกไปจากเรา เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ จนมองไม่เห็นทุกข์ไปเสีย ต่อ ๆไปเราจะเกิดความสำรวม ระวัง ต่อสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า มันจะทำให้เราเกิดความอดทนและอดกลั้นจริงไหมล่ะ เพราะเคยลำบากยากเข็ญจากขึ้นเขามาแล้ว เราพอรู้แล้วว่าทุกข์มันคืออะไร…เราก็กลายเป็นผู้ที่มักน้อย ปรมัตถ์นี้แหละที่เขาเรียกว่า ปรมัตถธรรมหรืออริยธรรมที่เราได้รับมา มีเหตุที่จะต้องขึ้นเขาหลังจากขึ้นเขาลงมาแล้ว ผลจะเกิดขึ้นในทันที คือได้ผลกันทุกคน ผลอะไร ก็ผลแห่งกองทุกข์ แล้วยังต้องหาทางออกจากทุกข์

    เพราะในสัญชาตญาณของความเป็นคนนั้น ไม่มีใครเลยที่เขาอยากจะทุกข์ เพราะเขากำลังผจญอยู่กับกองทุกข์ โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย เพราะทุกคนกำลังหากินกัน ย่อมเป็นธรรมดาของคนที่อยากร่ำอยากรวย อยากได้อยากดี อยากมี อยากเด่น และอยากดัง นี่แหละคือความพยายามที่จะหาทุกข์มาใส่ตัว หากองทุกข์กองใหญ่เลยมาใส่ตัว…แต่ไม่มีใครที่อยากจะพ้นไปจากกองทุกข์จริงๆ

    ผลของการปฎิบัติอุกฏษฏ์ของเราในคราวนี้ นอกจากเทพเทวาทั้งหลายที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ จะมาร่วมโมทนาบุญกับเราแล้ว เรายังสามารถที่จะนำประสบการณ์ของความทุกข์ต่างๆ ที่เราได้ไปเจอมานั้น มาชี้แนะให้แก่ผู้คนโดยทั่วไป เพื่อให้พวกเขารู้จักทุกข์ได้เหมือนกัน เพราะเราได้ประสบการณ์แห่งทุกข์ออกมาแยกแยะ แจกแจงให้ผู้คนโดยทั่วไปได้เกิดปัญญาร่วมได้มากมาย ส่วนผลของบารมีในการปฏิบัติอุกฤษฎ์นั้น เราไม่ต้องไปพูดถึงหรอก เพราะที่เขาเรียกกันว่าอุกฤษฏ์คือ ต่อๆ ไปเราก็จะสามารถที่จะปฏิบัติด้วยตนเองได้แล้ว…เพราะเราเคยปฏิบัติผ่านมาแล้ว ผ่านความทุกข์สุดๆ มาแล้ว จากการปฏิบัติอุกฤษฏ์ในคราวนี้

    แต่ถ้าเราไปปฏิบัติตามสถานที่ต่างๆ ก็คงจะไม่ต้องทุกข์มากนัก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็มีคนเขาต้องการจะมาทำบุญด้วย มีชาวบ้านเขาเอามาให้กิน ก็สบายไปเลย ถ้าเราได้พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว เราสามารถเห็นได้ตั้งแต่แรกเกิดเลย เอาเราเริ่มเกิดออกมาจากท้องพ่อท้องแม่ เรายังไม่รู้จักตนเลย ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีอาสวะกิเลสได้แปดเปื้อนได้เลย ปีแรกๆ นั้นความบริสุทธิ์และไร้เดียงสาของเด็กนั้น ถ้าเราจะเปรียบไปแล้วเหมือนกับดวงแก้ว ที่กำลังใสและบริสุทธิ์มาก เสมือนกับพระอรหันต์องค์หนึ่งเลยทีเดียว

    เมื่อเราค่อยๆ โตขึ้นมา ก็ได้รับความอบอุ่นจากพ่อจากแม่ จากญาติพี่น้อง และสังคม ได้เรียนรู้ เพื่อให้เกิดปัญญาเพื่อความอยู่รอดในสังคมได้……แต่ในบางครั้ง ปัญญาที่เราได้รับจากพ่อแม่ พี่น้อง ครูบาอาจารย์ และสังคมนั้น ไม่มีใครบอกเราเลยว่า ให้เราใช้ปัญญาอย่างไรถึงจะถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรม เพราะฉะนั้นสภาวะแวดล้อมนี้สำคัญมากเช่น ลูกพ่อเดียวกัน…แม่เดียวกัน แต่ตกไปอยู่ในที่ดีก็ต้องดีเป็นธรรมดา ….ถ้าตกไปอยู่ในสถานที่ชั่ว…..ก็ต้องชั่วเป็นธรรมดา แต่ในขณะพวกเรากำลังตกอยู่ในสถานที่ที่ดีๆ อยู่แล้วเราก็เลยต้องมาฝึกหาความดีกันเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้ดีที่สุด แต่การกระทำความดีนั้น ยังกระทำได้ยากขึ้น มันจึงจะรู้ได้ว่าดีหรือชั่ว ความดีจึงทำยากกว่าทำชั่ว

    ถ้าเขาติดสนุก ติดสบายเขาคงไม่หาความลำบากหรอก ทุกข์ก็ทุกข์ แถมยังต้องมาเสียเงินเสียทองอีกตั้งมากมาย เพราะบางคนเขาคิดว่าไร้สาระ ไม่มีค่าพอ….แต่ความจริงมันมีค่า มันล้ำค่ามากๆ เลย นี่แหละคือบารมีที่ได้ เราทำมาได้มากๆ เลย จนเราไม่สามารถที่จะนำบารมีที่เราได้รับมา…..เปรียบเทียบกับอะไรได้เลย

    บารมีนั้นยังลึกซึ้งและละเอียดอ่อนกว่าบุญมาก เพราะบารมีนั้นจับต้องไม่ได้…มันเป็นเพียงอานิสงส์ของการสร้างคุณงามความดี…ไม่ว่าคุณจะสร้างบุญ สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร หรือทานบารมีใดๆ ก็คือการสร้างบุญและบารมี เพื่อให้เกิดสิ่งดีๆ กับตัวเรา ที่แน่ๆ เราได้รู้จักทุกข์ เราได้เห็นของจริงๆ เลย ดีกว่าการกระทำใดๆไม่ว่าศีล หรือสมาธิ เพื่อหาอุบายมาให้จิตของเราได้เกิดปัญญาเท่านั้น จะได้รู้ว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก แต่ถ้าเราได้เห็นทุกข์จริงๆ ความรอบรู้นี้เองที่ทำให้เราเกิดปัญญา

    และที่เรากำลังนั่งคุยอยู่นี้ มิใช่ว่าจะเฉพาะพวกเราเท่านั้นที่ร่วมรับฟัง แต่ยังมีเหล่าเทพเทวาอีกไม่รู้กี่ 100,000 กี่ 1,000,000 ล้านดวงจิต เขาก็อยากจะรู้อริยธรรมชั้นสูงเหมือนกัน เขาจึงมาร่วมรับฟังธรรมด้วย เพราะเขาได้ช่วยผู้ปฏิบัติอยู่เนืองๆ เมื่อเราได้ธรรมสัจจะ เขาก็ได้รับธรรมสัจจะนั้นด้วย ตามบารมีของแต่ละรูปแต่ละนาม ว่าจะรับกันได้มากน้อยแค่ไหน สรุปง่ายเข้า เทพ-เทวาทั้งหลายเขาก็ต้องมาร่วมโมทนากับเราด้วย

    จะว่าไปแล้วมันก็เป็นสัจจธรรมอย่างหนึ่งของต้นกากะทิงหรือต้นกัลปพฤกษ์นั้น ที่เทพเทวาทั้งหลายถือว่าคือ ต้นพฤกษาชาติประจำชาติไทยของเรา ที่มีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติและเป็นศาสนาเดียวที่อบรมสั่งสอนจิต ด้วยอุบายอันยอดเยี่ยมของศีล สมาธิ จนเกิดปัญญาและรู้แจ้งเห็นจริงในความไม่เที่ยงที่จะต้องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปในที่สุด เมื่อมองเห็นความไม่เที่ยงแล้ว จิตก็จะละ วาง หยุด ไปโดยปริยาย

    ส่วนผู้ที่มีบารมีน้อย ก็ปรารถนาความสำเร็จเหมือนกัน จึงปรารถนาที่จะเกิดให้ทันในยุคของพระศรีอริยเมตไตร เพื่ออาศัยพระบารมีของท่านให้ช่วยนำพาเจตสิกของเราเข้าสู่กระแสพระนิพพานตามพุทธทำนายไว้ แต่จะมีสักกี่คนละที่รู้และเข้าใจว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถไปเกิดในยุคของพระศรีอาริยเมตไตรได้….ยุคนั้นๆ ไม่ใช่ใครๆ จะไปเกิดกันได้ง่ายๆ หรอกนะ

    เพราะจะต้องผ่านการปฏิบัติเพื่อสะสมบารมีกันตั้งแต่ตอนนี้ อย่างน้อยก็จะต้องมีศีล 5 ที่บริสุทธิ์จริงๆ ต้องมีศีล 5 ที่บริสุทธิ์เสียก่อน ต่อจากนั้นจึงค่อยเริ่มเข้าสู่การปฏิบัติสวดมนต์ไหว้พระและหัดสมาธิบ้าง เพื่อชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ ตั้งมั่นอยู่ในการสำรวมกาย วาจา ใจและที่สำคัญที่สุดเลยคือ สติ

    การธุดงค์มี 2 แบบ คือ
    แบบที่ 1 สบายๆ แต่ไม่รู้จักทุกข์
    แบบที่ 2 รู้ทุกข์ แต่ไม่สะดวกสบาย

    แม้การขึ้นยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรีครั้งนี้จะเต็มไปด้วยอันตราย ความหิวทั้งอด ทั้งโหด ทั้งเหนื่อย แล้วก็หมดแรง แม้กระทั่งความกลัว การหลงป่า มันมีอยู่พร้อมทุกๆ อารมณ์ และทุกๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นยากเย็น ไม่มีใครเขาสนใจไม่มีใครเขาอยากทำ….แต่เราก็ภาคภูมิใจที่เราสามารถค้นหาต้นโพธิ์พระศรีอาริยเมตไตร หรือต้นกากะทิงต้นที่ 5 จนพบ นี่ก็เพราะความปรารถนากันจริงๆ ถ้าใครอยากอุกฤษฏ์ก็ต้องทดลองขึ้นไปพิสูจน์ ณ ยอดเขาสันการาคีรีสักครั้งหนึ่ง เพื่อให้ถึงซึ่งอริยธรรมของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ สาธุ สาธุ สาธุ……

    คนใด ไม่ว่าหนาว หรือร้อน มีลม แดด เหลือบยุง
    ก็ไม่พรั่นทนหิวทนกระหายได้ทั้งนั้นสิ่งที่เป็นประโยชน์มาถึงตามกาลก็ไม่ปล่อยให้สูญเสียไป คนนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ชอบใจของสิริโชค สิริโชคสิริโชคขอพักพิงอยู่กับเขา



    ธรรมกลางดง…..ใน ทุก ป่า มี ธรรม


    ในดอนดงยังคงเดินเพลินไพรพฤกษ์
    ในป่าลึกยังฝึกฝนทนสังขาร
    ในเส้นทางระหว่างวันแสนกันดาร
    ในสายธารสนานธรรมฉ่ำใจกาย

    ทุกก้าวย่างที่ย่างย่ำเปี่ยมสำนึก
    ทุกความตรึกอันลึกเปี่ยมความหมาย
    ทุกลมปราณยังหาญกล้าสู้ท้าทาย
    ทุกความตายคือคำเตือนเหมือนตำรา

    ป่าดงดานย่านไพรใช้แทนวัด
    ป่าปฏิบัติขจัดภัยในสังสาร
    ป่าดอยดงพงพฤกษ์ลึกสุดตา
    ป่าเชิงผาสารพัดชัฏเชิงไพร

    มีนกน้อยคอยขับขานกังวานเสียง
    มีสำเนียงแห่งสิงห์สาพนาสัย
    มีความเงียบเปรียบดนตรีกวีใจ
    มีหริ่งไรในแดนเถื่อนเป็นเพื่อนนอน

    ธรรมชาติประกาศธรรมอันล้ำค่า
    ธรรมดาท้าให้เห็นเป็นคำสอน
    ธรรมทัศน์ขจัดเขลาเกล่านิวรณ์
    ธรรมธรบวรสงฆ์ผู้ทรง


    :d ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
    • โลกทิพย์ 308 ปีที่ 14 พฤศจิกายน 2538 “บันทึกแห่งสัจธรรม พิสูจน์...เรื่องเล่าจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความลี้ลับมหัศจรรย์ของลูกแก้วกายสิทธิ์ ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี”: อริยะ เรียบเรียง: กรุงเทพมหานคร, 2538. หน้า 90-98.
    • หลวงพ่อพระคุณปัญญาโสภิต (สำรวย ฐิตยโส). “เหตุมหัศจรรย์บนเส้นทางธุดงค์
    ค้นหาโมกขธรรมของหลวงพ่อสำรวย”: ภาพชุดสุดยอดวัตถุมงคลของท่านเจ้าพระคุณพระสุนทรธรรมากร. หน้า 54.


    อ้างอิง
    บันทึกแห่งสัจจธรรมลูกแก้วกายสิทธิ์ของหลวงปู่ทวด ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี - บทความพระอริยะ - แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" - Powered by Discuz!
     
  9. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    นี่คือ...คาถามหาวิเศษ

    [​IMG]

    " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว " จาก หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

    โลกทุกวันนี้ยุ่งยาก ก็เพราะมนุษย์ที่อวดตนหรือยกตนเป็นผู้ใหญ่ยังติดเสียง
    มนุษย์ที่อวดตนว่าเป็นผู้ดีเรียนรู้มากยังไม่มีจรรยาในการ " พิจารณาตน "
    ถ้าสัตว์โลกอยู่กันอย่างไม่ยึดตน ไม่ยึดเสียง ไม่ยึดอุปาทาน ถ้าละทิ้งได้ ไม่ยึดสิ่งใดเลย โลกนี้ย่อมสงบ
    ท่านต้องเข้าใจว่า " การให้ทุกข์เขานั้น ทุกข์นั้นถึงตัวท่านเองแน่นอน " นี่เป็นหลักความจริง

    สมัยเมื่ออาตมามีสังขารอยู่ปัตตานี ในระยะเริ่มแรกสร้างวัดช้างให้
    มีแขกมาลายูคนหนึ่งมาบวชอยู่ในวัดของอาตมา แขกมาลายูคนนี้ไม่รู้จักภาษาสยาม รู้แต่ภาษามาลายู
    ทีนี้เมื่อรู้แต่ภาษามาลายู จะสอนให้สวดมนต์ก็ดีจะสอนการอ่านก็ดี ย่อมทำไม่ได้
    อาตมาจึงบอกเขาว่า ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องสวดมนต์ละ ท่องเพียงสองคำก็พอคือ " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว "

    แขกคนนั้นอยู่ในปกครองของอาตมา ตื่นเช้าขึ้นมาก็ออกบิณฑบาตตามปรกติ กลับมาก็นั่งท่องแต่คำว่า
    " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว " " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว "

    มีแขกมาลายูด้วยกันเป็นพวกเลี้ยงแพะ เลี้ยงแกะ มาเที่ยววัด บอกว่าพระองค์นี้มันพูดอะไรของมันไม่ทราบ
    ท่องแต่ " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว " " ให้ทุกข์เขาทุกข์นั้นถึงตัว "
    แขกคนนี้ไม่นับถือศาสนาพุทธ แต่รู้ภาษาไทยดี ก็บอกว่าไม่จริง" ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นไม่ถึงตัวหรอก "
    จึงตั้งใจจะพิสูจน์คำว่า " ให้ทุกข์เขาทุกข์นั้นถึงตัว " จริงหรือไม่

    วันหนึ่งได้ไปทำโรตีแบบที่ทางปักษ์ใต้เขาชอบกินกันสมัยนั้น
    คือโรตีแบบแขก แล้วก็ใส่ยาพิษลงไปด้วยนำไปใส่บาตร

    พระมาลายูที่ท่อง " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว " บังเอิญเจ้ากรรมวันนั้นพระมาลายูองค์นี้
    บิณฑบาตรได้อาหารมามาก แล้วก็ฉันอิ่มจึงนำโรตีสองชิ้นที่แขกนั้นใส่บาตรไปเก็บเอาไว้
    ส่วนคนที่ต้องการพิสูจน์คำว่า " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว " มีลูกอยู่สองคน พอเที่ยงก็หิ้วข้าวมาให้พ่อ
    ซึ่งเลี้ยงวัวอยู่ในแถบวัดนั้นกิน แถวนั้นมันเป็นโคกโพธิ์ ด้านขวามีกุฏิน้อย ๆ
    เด็กทั้งสองเที่ยวไปถึงกุฏิของพระที่ท่อง " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว "

    พระองค์นี้เห็นว่าเด็กทั้งสองคนนี้น่ารัก บัดนี้มันเลยเพลแล้ว โรตีที่เก็บไว้ก็จะเสียเปล่า
    จึงนำเอาโรตี ๒ แผ่น ที่พ่อเด็กเขาใส่ยาพิษที่จะให้พระนี้ฉัน ให้เด็กสองคนนั้นกิน
    เด็กสองคนนั้นกินแล้วกลับไปถึงบ้านก็ป่วยทันที ครั้นใกล้จะตายพ่อถามว่า
    " เมื่อเจ้าเอาข้าวไปส่งให้พ่อน่ะ เจ้าไปกินอะไรหรือเปล่า "
    ลูกทั้งสองบอกว่า ไปที่กุฏิพระองค์หนึ่งที่เป็นชาวมาลายูด้วยกันเห็นท่องแต่ " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว "
    เห็นว่าแปลกไม่รู้ว่าเป็นอะไรท่องแต่คำคำนี้คำเดียว พระนั้นสงสารลูกได้ให้โรตีสองอันกิน

    ในที่สุดผลแห่งการพิสูจน์ว่า " ให้ทุกข์เขา ทุกข์นั้นถึงตัว " ก็ปรากฏขึ้น
    เขาต้องการฆ่าพระองค์นั้น แต่กลับกลายเป็นฆ่าลูกสุดที่รักของเขาเอง

    เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องกลัว เรามีความบริสุทธิ์ เรามีความเที่ยงธรรม เรามีหลักขันติสัจจะ บริสุทธิ์ เมตตา
    คุณธรรมเหล่านี้จะรักษาเราให้ปลอดภัยทุกอย่าง

    ทีนี้การเป็นคน ท่านยึดเสียงหรือไม่ ท่านยึดคำพูดดีหรือไม่ ท่านยึดคำพูดเลวหรือไม่
    ถ้าท่านยึดสิ่งเหล่านี้แล้ว ท่านจะเป็นนักพรตที่ดีไม่ได้ ท่านจะเป็นนักบุญที่ดีไม่ได้
    ท่านจะเป็นนักปกครองคนที่ดีไม่ได้ มนุษย์เราถ้ายังติดเสียง ติดคำชมและด่า

    มนุษย์นั้นยังมีใจไม่ถึงธรรม " สัจธรรมเป็นธรรมอันประเสริฐ " เป็นสิ่งที่แน่แท้ ทำไมสำนักปู่สวรรค์จึงยึดจุดนี้
    ก็เพราะว่าความจริงย่อมเป็นความจริง สิ่งที่เลวก็เป็นความจริงแห่งความเลว สิ่งดีก็เป็นความจริงของความดี
    ที่จะกล่าวต่อไปในยุคต่าง ๆ ของมันเอง โดยไม่มีอะไรแปรเปลี่ยนไปได้
    มันเป็นธรรมชาติโลกียะและโลกุตระมันเดินของมันเอง

    เราจะชนะความเลวด้วยความดี เราต้องมีอุเบกขา หมายถึงคิดว่าสิ่งนี้เราต้องทำ ไม่ใช่ทำเพื่อชื่อ ความมีอำนาจ
    เมื่อท่านทำใจได้เช่นนี้ท่านก็จะเป็นคนที่ดีได้ และจะเป็นนักเสียสละที่ดีได้ด้วย

    ทีนี้การที่เราจะให้คนอื่นเหมือนเราหมดย่อมไม่ได้
    มนุษย์ต่างคนต่างเกิดมาในโลกนี้มีกรรมวิบากของตนไม่เหมือนกัน
    เมื่อมีกรรมวิบากของตนไม่เหมือนกัน มนุษย์ผู้นั้นอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน มีคุณธรรมไม่เท่ากัน
    เราจะเอาใจของเราเป็นสรณะว่าที่เราทำนี้ถูก ทุกคนจะต้องว่าถูกเหมือนเราไม่ได้

    ท่านเข้าใจคำว่า " นานาจิตตัง " หรือ " นานา มโน " หรือไม่ คือแต่ละคนมีความคิดของตนเป็นหลัก
    เราจะทำอะไรควรต้องมีความสุขุมรอบคอบ เราต้องคิดถึงคนอื่นว่าทุกคนไม่เก่งเหมือนเราทุกคนไม่เหมือนเรา
    ดังนั้นจำเป็นต้องมีอภัยทานเป็นสรณะ
    ถ้ามนุษย์เราไม่มีการให้อภัยเป็นหลัก เมื่อมนุษย์ผู้นั้นตายไปก็จะมีแต่กิเลสตัณหาแห่งความยึดมั่นในตน
    จะมีแต่ความพยาบาทอาฆาตจองเวร เมื่อจิตใจไม่บริสุทธิ์ย่อมเป็นทางนำไปสู่อบายภูมิ
    นี่คือหลักความจริงของโลกวิณญาณ

    เพราะฉะนั้น อาตมาจึงไม่อยากจะเทศน์อะไรมาก
    เพียงแต่ขอให้เข้าใจว่า จงมีขันติ สัจจะ บริสุทธิ์ เมตตา จงมั่นอยู่ในคุณธรรมทุก ๆ ประการ
    อย่าติดเสียงไม่ว่าเสียงดีหรือเสียงไม่ดี อันตรายใด ๆ จะทำอะไรท่านไม่ได้เลย


    ธรรมะจาก หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

    <!-- m -->ธรรมสถานวิจันท์โล: นี่คือ...คาถามหาวิเศษ<!-- m -->
     
  10. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    หลวงพ่อทวด พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ
    สร้างวิหาร ให้รวย รวย (พิมพ์ของวัด)

    วัตถุมงคลหลวงปู่ทวด รุ่น สร้างวิหาร หรือ รุ่น ให้ รวย รวย" ประกอบด้วยมวลสาร ดังนี้ ว่าน108,เส้นเกศาพ่อท่านพรหม,ผงตะไบทองที่ได้จากการหลอมเทพระประธานของวัดพลานุภาพ,ข้าวสารหิน,ข้าวสารดำ,แร่เหล็กไหล,และ มวลสารเก่าอื่นๆอีกมาก
    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1090719.gif
      P1090719.gif
      ขนาดไฟล์:
      168 KB
      เปิดดู:
      1,183
    • P1090722.gif
      P1090722.gif
      ขนาดไฟล์:
      163 KB
      เปิดดู:
      938
    • P1090724.gif
      P1090724.gif
      ขนาดไฟล์:
      130.3 KB
      เปิดดู:
      97
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 พฤษภาคม 2012
  11. motana2008

    motana2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4,929
    ค่าพลัง:
    +10,336
    งดงามโดนใจมากครับ ชอบ
    แจกห้าดาวเลย
     
  12. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [quotexxxxxxxxxxxxx]พอดีเห็นพี่เขียนเล่าพุทธคุณของหลวงปู่ทวด วัดโคกแก้ว ลพบุรี่
    ผมเองก็ศัทธาหลวงปู่ทวด ห้วยคอมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เรียนอยู่และเริ่มสะสมพระคับ
    เลยอยากสอบถามว่าผมจะหาบูชาได้ที่ไหนได้บ้างคับ
    ที่วัดมีเหลืออีกป่าวคับ อยากบูชาเก็บไว้คับผม
    ยังไงรบกวนสอบถามพี่ด้วยคับผม
    ขอบคุณคับ[/quote]


    [​IMG]
    หลวงปู่ทวด วัดโคกแก้ว ท่าวุ้ง ลพบุรี ของพระอาจารย์ สวย เนื้อผงมีอยู่ ๒ แบบ แบบแรกพิมพ์หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ แบบสองเป็น หลวงปู่ทวด ปิดตามหาลาภ สร้างมานานประมาณ ๑๕-๒๐ ปี ไม่มีอีกแล้ว แต่อาจจะหลงเหลืออยู่ในครอบครองอยู่บ้าง ในสมาชิกบ้านเหรียญบิน ถ้าอยากได้จริง ให้ลองสอบถามสมาชิกบ้านหรียญบิน ข้าพเจ้าขออนุญาต นำข้อความไปโพสต์ สอบถามดูนะครับ แต่จะปิดชื่อท่านไว้ เพื่อมารยาท เผื่อว่าใครมีหลายองค์ จะนำออกประมูลสร้างวิหารทาน สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ที่เห็นในรูปพิมพ์สมเด็จ และพิมพ์หลวงปู่ทวด สร้างคราวเดียวกัน เนื้อผงวิเศษของหลวงปู่ทวด เหมือนกัน แต่คนละพิมพ์เท่านั้น ทั้งสองพิมพ์หลวงพ่อสวย บอกว่า หลวงปู่ทวด สั่งให้แจกอย่างเดียว เพื่อหาเงินซื้อที่ดินบูรณะวัดร้าง แจกอย่างเดียว เพื่อหาเงิน ก็คิดดูเอาก็แล้วกัน แล้วหาเงินได้ด้วย ปาฎิหารย์หลวงปู่ทวดจริง ๆ ครับ
     
  13. ksongrit

    ksongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +7,402

    องค์นี้งามมากครับ คุ้นเหมือนมีเหมือนกันครับ พิมพ์สวย เจตนาสร้างดีครับ
     
  14. ksongrit

    ksongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +7,402


    [​IMG]
    หลวงปู่ทวด วัดโคกแก้ว ท่าวุ้ง ลพบุรี ของพระอาจารย์ สวย เนื้อผงมีอยู่ ๒ แบบ แบบแรกพิมพ์หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ แบบสองเป็น หลวงปู่ทวด ปิดตามหาลาภ สร้างมานานประมาณ ๑๕-๒๐ ปี ไม่มีอีกแล้ว แต่อาจจะหลงเหลืออยู่ในครอบครองอยู่บ้าง ในสมาชิกบ้านเหรียญบิน ถ้าอยากได้จริง ให้ลองสอบถามสมาชิกบ้านหรียญบิน ข้าพเจ้าขออนุญาต นำข้อความไปโพสต์ สอบถามดูนะครับ แต่จะปิดชื่อท่านไว้ เพื่อมารยาท เผื่อว่าใครมีหลายองค์ จะนำออกประมูลสร้างวิหารทาน สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ที่เห็นในรูปพิมพ์สมเด็จ และพิมพ์หลวงปู่ทวด สร้างคราวเดียวกัน เนื้อผงวิเศษของหลวงปู่ทวด เหมือนกัน แต่คนละพิมพ์เท่านั้น ทั้งสองพิมพ์หลวงพ่อสวย บอกว่า หลวงปู่ทวด สั่งให้แจกอย่างเดียว เพื่อหาเงินซื้อที่ดินบูรณะวัดร้าง แจกอย่างเดียว เพื่อหาเงิน ก็คิดดูเอาก็แล้วกัน แล้วหาเงินได้ด้วย ปาฎิหารย์หลวงปู่ทวดจริง ๆ ครับ
    [/QUOTE]

    เห็นพระปิดทองแล้วนึกถึงคนเก่าแก่ที่ไปวัด
    สมัยอาม่าเค้าว่าให้ปิดทองก่อนมาบูชาขึ้นคอครับ
    องค์ที่ผมมีเลยยังมีทองปิดอยู่บางส่วนครับ
     
  15. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดีค่ะคุณหมอ องค์นี้เลขาหมอศัลยนำมาให้ถึงห้องทำงานค่ะ

    ขอบคุณคุณหมอค่ะ:d
     
  16. ksongrit

    ksongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +7,402

    คุ้นๆว่าคุณ motana เคยบ่นอยากได้หลวงปู่ทวด พิมพ์สี่เหลี่ยมใช่มั๊ยครับ
    ผมกลับไปหาดใหญ่เลยติดมาด้วยองค์นึง เป็นของหลวงพ่อพรหม วัดพลานุภาพ พิมพ์คล้ายของพี่นวลแต่เป็นเศียรโตครับ

    ถ้าจำผิดท่านก็ขออภัยครับ
    ถ้าหากจำไม่ผิดก็ pm ที่อยู่มาด้วยครับ
     
  17. ksongrit

    ksongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +7,402

    จำได้ว่าครั้งนั้น ฝากให้เลขาน้องเอี้ยงไปช่วยบอกบุญ ผมรับมาสามสี่สิบองค์
    เผลอแป๊บเดียวเกลี้ยงหมดเลยครับ ได้บุญกันถ้วนหน้าทั้งโรงพยาบาล
    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  18. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kpp1.jpg
      kpp1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162.4 KB
      เปิดดู:
      728
    • kpp2.jpg
      kpp2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      143.8 KB
      เปิดดู:
      739
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2012
  19. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    กำลังจะสอบถาม พอดีค่ะว่ารุ่น ให้รวย รวย มีพิมพ์เศียรโต
    แล้วพิมพ์ที่พี่โชว์ เห็นที่ซองติด ว่าให้รวย รวย

    เคยอ่านเจอประสบการณ์ มีคนไปประสบอุบัติเหตุรถคว่ำค่ะ แขวนพระหลวงพ่อทวด
    หลวงพ่อพรหมวัดพลานุภาพ แต่ไม่ทราบรุ่นไหน รถพังยับเยิน แต่คนปลอดภัยค่ะ
     
  20. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    วันนี้พี่นวลเจอน้องเอี้ยงค่ะ ถามถึงพระหลวงพ่อทวดรุ่นนี้เหมือนกันค่ะ น้องเอี้ยงบอกหมดแล้ว หนูเองก็ไม่ได้ไว้เลย มอบให้ญาติหมด
    แต่พระหลวงพ่อทวดงดงามค่ะ

    อนุโมทนาบุญคุณหมอด้วยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...