ถึงคุณ สับสน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 27 เมษายน 2012.

  1. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ขอบคุณกั๊บ พี่หลงดีแล้ว :cool:
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ก็นั่นแหละ ยิ่งผมรู้ว่า คุณไม่เสียเวลาอ่าน

    ก็ยิ่ง เสวนากันง่าย คือ ยิ่งซ่อนคำกล่าวเอาไว้ ไอ้คนที่ เลินเล่อ
    ภาวนาไม่เป็นอยู่แล้ว ยังไม่รอบครอบอ่านให้มันครบถ้วนเนี่ยะ

    ไม่ต้องไปเสียเวลาตีกินอะไรมาก เพราะ เดี๋ยวก็ "แสดงความไม่รอบครอบ"
    ออกมาเอง

    แล้ว ยังสำคัญว่า การไม่รอบครอบ ไม่ถี่ถ้วน เป็นเรื่อง มรรคที่ง่ายสำหรับตนอีก

    ก็ยิ่งทำให้คนเขาไม่ต้องเสียเวลา พิจารณาอีก

    พอได้ที ก็เอาละ

    วันนี้ป๋ม นายหลงอารมณ์ดี ว่าง ก็เลย มาขอแทกอัตตา คนเล่น บ้าง

    ไม่ได้จริงจังอะไรกับเรื่อง การก่อประโยชน์ให้เกิด ไปมากกว่า ฆ่าเวลาว่าง
     
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

    เขาเป็นคนอาภัพมิตรครับ ต้องสำเร็จอารมณ์ทางปาก

    ไม่ยกคน ก็ กดคน ทั้งวันมีอยู่แค่นี้ และต้องรับสิ่งนี้เช่นกัน ^^
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    รู้ไปโม๊ด ตัวอยู่ที่นึง แต่ใจแส่ไปเรื่องเหมือนคนภาวนาไม่มีหลัก

    สมาธิไม่ใช่เรื่องลืมตาเป็น ปล่อย กูจะทำอะไร จะล่วง จะละเมิด จะเบียดเบียน จะไม่เหตุผล จะทำอะไรก็ทำ

    พอหลับตาค่อยมานับหนึ่งใหม่ มันก็ออกมาแบบที่เห็น ภาวนาเสียชาติ

    ไม่จำเป็นเลยต้องไปรู้ชาวบ้าน ไปเดืดอร้อนจับผิด ผู้นี้เป็นใคร อวตารทำไม โคตรเหง้าคือใคร
    พวกนี้รักษาไม่ถูกโรค พูดธรรมเป็นต่อยหอย แต่ประพฤติสวนทาง
    ของง่ายๆ เห็นง่ายๆ ^^
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ต่อให้คนเลวขนาดไหน เขาก็ต้องมีโอกาส

    ต่อให้ทำผิดขนาดไหน เขาก็ต้องมีจังหวะที่ผลิกได้

    การเข้าใจร่องรอย ความตั้งใจ ที่ไป ที่มา มันย่อมเป็นประโยชน์
    สำหรับคนที่รู้จังหวะและ คุณค่า

    ไม่ใช่แสดงธรรมแบบเพ้อเจอ มาม่าห่อซองนี่ แกะให้อ่านตามนั้น
    ทำตามนั้น จิตเป็นกุศลไหมค่ะ แล้วมันจะรอด เป็นไปไม่ได้หรอก
    เมามาม่าเกินไป

    คนที่เขาไม่สิ้นศรัทธาในมะนุด เขาไม่เหนื่อยง่ายหรอก แล้วไม่มีวันอิ่มด้วย

    งง หละซี่ มีด้วยเหรอ ไม่มีวันอิ่ม!!

    อย่าลืมนะ คำมันซ่อนนัยไว้อีกแหละ หากจับเรื่องนี้มากล่าวย้อนแย้ง โง่ เลยนะ

    ระวังไว้หน่อยแล้วกัน

    ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

    ไม่มีวันอิ่ม เว้ยเห้ย!!!
     
  6. โกมีนัม

    โกมีนัม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    พี่เล่าปังจ๋า ^_^ มีเรื่องถาม ปํญญามีนัมไม่ถึง
    คงอยู่นะ
     
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ผมว่าน้าเอกไปยกธรรม หลวงปู่ หลวงพ่อมาโพส หรือพระไตรปิฏกมาให้อ่านจะมีประโยชน์กว่านะครับ

    หากอยากจะสอดไส้ความคิดตน ก็วงเล็บซะหน่อยว่าความเห็น

    เวลาสอนอะไรใครที่มันเกินตัว จะได้หมดๆไปจากใจซะที มันอันตรายตนเอง
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    มันไม่เกินหรอก ลองกลับไปอ่านสิ ผมก็ระบุอยู่นะว่า ธรรมะของ ปุถุชนธรรมดา

    สิ่งที่ผมบรรยาย ปุถุชนธรรมดาที่หมั่นสดับ พึงเห็นได้ มันไม่เกินตัว

    ที่คุณเห็นว่าเกิน เพราะคำว่า ปล่อยวางจิต สลัดคืนจิต ใช่ไหม เลยคิดว่า ชะรอย
    จะเป็นคำสอนของ อรหันต์ ฤาหนอ

    โง่ไง หาก ปฏิบัติมาจริงนะ ปล่อยวางจิตได้เนี่ยะ คนธรรมดาทำได้ คนที่เกิน
    ธรรมดาก็ทำได้ คนที่สุดๆแล้วก็ทำได้ เพราะอะไรถึง พูดว่าทำได้

    เพราะ เวลาพูด เป็นภาษาปริยัติหนะ มันใช้คำเดียวกันได้

    แต่ใน รสของอรรถ ของธรรม เขาจะรู้กันว่า มันแตกต่างกัน

    ไอ้คนเมามาม่า ติดบัญญัติ เจอเข้า โอยยย เป็นไปไม่ได้ๆ

    นั่นภูมิอรหันต์

    ปัดโถ่ ไปปฏิบัติมาให้มากๆก่อนซี่ แล้วค่อยมาเสวนา แล้วมันจะเข้าใจ

    ในการพูดซ้ำๆ คำพูดซ้ำๆเนี่ยะ รายละเอียดภายใน ต่างกันราวฟ้ากับเหว
    แต่ก็ยังอาศัย คำพูดเดิมได้ เพราะ มันเป็น อุบายการสอน ไม่ใช่ การนิยาม
    จริงเท็จ มันคนละเรื่อง
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ทั้งหมดเลยแหละที่เกินตัว

    เพราะ เมื่อลงรายละเอียดก็คลาดเคลื่อนแล้ว

    วันนี้ผมว่างทั้งวัน สะดวกที่จะตอบคำถามผมไหมล่ะ

    จะเอาสิ่งที่น้าเอกตอบเรื่องจิตนุปัสนามาถาม ไม่เกินนี้น่ะ ^^

    หวังว่า คงไม่คิดว่ามาลองภูมิ แต่ขอทราบเพื่อความกระจ่างมากกว่า

    ส่วนเรื่องมาม่าอะไรนั้น เดี๋ยวจะกดน้ำร้อน ชงให้ทานสวยๆเลย ^^
     
  10. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    พี่หลงครับ อ่านว่า พี่หลงว่าง วันนี้
    ผมก็พอจะว่างบ้าง ไม่ว่างบ้าง จะพอถามพี่หลง
    ช่วงนี้ ผมระลึกถึงกรรม หรือการกระทำอยู่บ่อยๆ มากด้วย
    ไม่ว่าจะกรรมตนเอง กรรมผู้อื่น แล้วมักจะมีอาการ เห็นที่ไปที่มาบ้าง คิดเอาเองบ้าง
    จนมีอาการ กรูไปยุ่งทำไม
    หรือว่าเกิดอาการ เบื่อขึ้นมาเฉยๆ
    หรือเกิดอาการ ช่างมันเหอะ
    หรือเกิดอาการ มันเป็นแบบนี้เองเหรอ
    พี่หลงว่า อาการที่ผมกล่าวมา ผมฟุ้งซ่านไหมครับ
    หรือมีคำอธิบายทางธรรมไหมครับ
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ไม่ฟุ้งหรอกครับ

    คิดเรื่องกรรม คิดออกจากกาม คิดเพื่อคลายกำหนัด คิดเพื่อกุศล

    เห็นสัตว์ เห็นกรรมของสัตว์ เห็นกรรมของตน ที่เป็น ที่เสพเพราะมีกรรมเป็นสมบัติ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,014
    ด้วยความเคารพนะครับ..ลองพิจารณาดูนะครับ

    ได้ครับ..เอายังงี้นะ..ผมจะให้แง่คิดแบบนี้นะครับก่อนอธิบาย ..
    1.ถ้าคุณอาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่งคุณสามารถมองเห็นภายในบ้านได้หมด..แต่คุณไม่สามารถที่จะมองลักษณะรูปทรง และมิติต่างๆของบ้านหลังนั้นได้..นอกจากคุณจะออกมายืนมองข้างนอก..ถูกไหมครับ..
    เช่นเดียวกับที่คุณบอกว่า สติและสัมปชัญญะที่คุณบอกว่ามันอยู่ในจิตทั้งที่มันเป็นตัวที่ไช้ดูจิต..มันจะเห็นจิตได้อย่างไรหละครับถ้ามันอยู่ข้างในจิต..ลองคิดดูนะครับ..ที่มันอยู่ในจิตนะ..เป็นความคิดที่เกิดจากจิต ..คุณเลยตอบผมไม่ได้ว่าใช้เครื่องมืออะไรในการดูจิตไงครับ..เพราะคุณยังไม่มีนั่นเอง...
    2.และถ้าคุณมีแล้ว..คุณจะเห็นดวงจิตที่เป็นวิญญานได้นั่น..คุณก็ต้องเคยถอดจิตมาก่อน..ไม่ใช่ในโหมดสมาธิเล็กน้อยนะครับเพราะตัวนี้จะไม่สามารถเห็นได้ชัดเจน..ต้องโหมดฌาน 4 คุณถึงจะมองเห็นเค้าได้.จะเห็นได้ก็ตอนเค้าออกไปแล้วและคุณระลึกขึ้นมาตัวสตินี้ถึงปรากฏให้เห็น.สติทางธรรมตัวนี้นี่หละครับจะคอยตามควบคุมเค้าตลอดชนิดที่ว่าไปไหนไปด้วยจะทำให้การเห็นของคุณไม่ยึดติดและไม่สุ่มเสี่ยงเป็นมิจฉาสมาธิโดยไม่รู้ตัว..ตัวนี้หละครับที่สร้างจากการเจริญสติที่เน้นอยู่ที่ฐานกาย.ไม่ว่าจะด้วยลมหายใจหรือขยับร่างกายอะไรแล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล...
    ลองคิดดูครับปลาอยู่ในน้ำมันก็เห็นแต่เรื่องน้ำรู้แต่เรื่องน้ำใช่ไหมครับ..นอกจากมันจะปฎิวัติตัวมันเอง..ให้อยู่บนบกได้ด้วย..มันถึงจะมองเห็นแหล่งน้ำที่มันอยู่่ว่าลักษณะเป็นอย่างไรใช่ไหมครับ..

    ที่นี้การพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรมเนี่ย ถ้าจะพิจารณาได้ ต้องมีแต่จิตตัวเดียวและเค้าต้องว่างรับรู้...แต่ตอนนี้ของคุณความคิดจากจิตยังแอบอยู่ในจิตโดยที่คุณเข้าใจว่าเป็นสติ..ซึ่งตอนนี้คุณพิจารณาอะไร ..ก็ตัวเค้าเองนั้นหละครับที่ยกตัวเองมาปรุงร่วมกับจิต..หรือที่เค้าเรียกว่า จิตหลอกจิตครับ..
    ที่คุณเห็นยังไม่ใช่ จิตเห็นจิต แต่เป็นความคิดที่อาศัยอยู่ในจิตและเค้าอยู่ร่วมกันมานานแล้วด้วย..สำคัญว่าคุณจะแยกเค้าออกมาได้หรือเปล่า..ถ้าแยกได้เค้าก็มีรูปร่างเหมือนกัน เหมือนจิตที่เป็นดวง สติก็มีอีกแบบ ตัวความคิดจากจิตก็อีกแบบ ถ้าแยกได้จะแบ่งเป็น 3 ส่วนชัดเจนไม่เกี่ยวกันเลย..แยกได้แล้วก็ต้องตามทำความเข้าใจอีก..ไม่งั้นเค้าก็กลับสู่สภาพเดิมอีก.และยังมีตัวก่อภพก่อชาติอีกคือความคิดที่ผุดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจหรือขันธ์ 5 ส่วนนามธรรม ไม่ใช่ว่าคิดแบบคุณว่าเห็นจิตแล้วหรือที่คุณคิดก็จบกิจเลย..มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกครับ.แค่อาการตอนนี้มันแค่สงบหลอกเราเฉยๆเพราะพวกนี้เค้าเนียนมากๆคล้ายจริงมากๆ.คุณก็ต้องมาคลายเกลียวตัวนี้อีกเพื่อทำลายอวิชชาต่างๆ ถึงจะใกล้ถึงจุดจบกิจ.ประมาณนี้ก่อนในเบื้องต้น..คุณลองพิจารณาดูแล้วกันนะครับ..
    อนุโมทนาสาธุครับ..
     
  13. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    เจตสิกเป็นอาการของจิตครับ
    ส่วนคำแปลท่านไม่ได้แปลไว้ครับ
    ใช้ทับศัพท์ไปเลย เจตสิก
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,014
    ขอบคุณครับ..และผมเห็นด้วยครับ..
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  15. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เท่าที่ผมอ่าน คุณไม่ได้เห็นจิตเลยครับ ผมบอกไปหลายครั้งแล้วครับ

    ว่า สติ และ สัมปชัญญะ เป็นพลังงานของจิต คุณไปเอามาจากไหนครับ

    ที่หาว่าผมบอกว่าอยู่ในจิต ที่ผมบอกให้เข้าไปในจิต เพื่อไม่ปรุงแต่ง

    คุณ ออกมานอกบ้าน คุณ เห็นทุกส่วนของบ้านแค่ด้านที่คุณมอง

    คุณต้องเดินไปรอบๆจึงจะเห็นทุกส่วนของบ้าน และ ต้องเข้าไปในบ้าน

    จึงจะเห็นในส่วนของห้อง และ ต้องเดินไปทั่วบ้าน จึงจะเห็นทั้งหมด

    ผมคงไม่มีความจำเป้นต้องคุยกับคนที่ยังไม่รู้จักจิต ได้แต่คอยหาทางจับผิด

    เพราะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรครับ ผู้ที่ไม่เห็น จะไปบอกให้เห็นเป็นเรื่องยากครับ

    สาธุครับ
     
  16. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ในเมื่อคุณไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร คุณรู้ได้ไงที่ผมบอกกล่าวนั้นผิด

    เมื่อไม่มีต้นสายปลายเหตุ หาจุดเริ่มต้นไม่เจอ ไม่รู้ตามความจริง

    แต่กล้าที่จะไปชี้ว่าคนนั้นผิด คนนี้ถูก เป็นสิ่งที่สมควรไหมครับ

    แต่คุณตอบแบบจริงใจ ไม่เหมือนคนที่ตอบมาก่อนหน้าครับ

    ผมยอมรับความจริงใจของคุณครับ ให้รู้จริงก่อน ไม่ใช่รู้ตามตำรา

    จะเป็นได้แค่เถรใบลานเปล่าครับ ผมได้อธิบายชัดเจนแล้วครับ

    โดยที่ไม่ไปจับผิดใคร หรือ ต้องถามผู้อื่นก่อนว่าถึงขั้นไหนแล้ว

    ผมก็ได้แสดงความจริใจอย่างชัดเจนครับ ผมมีเรื่องให้ลองทำดูครับ

    คนตาบอดทำไมจึงรู้ว่าแบงค์ไหนจริง แบงค์ไหนปลอมครับ

    ลองหลับตา และ สัมผัสด้วยตนเองครับ จะได้รู้ว่าทำไม คนตาบอดถึงรู้

    สาธุครับ
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผู้ปฎิบัติธรรม ควรที่จะเพ่งโทษตนเอง มากกว่าไปเพ่งโทษผู้อื่น

    ตนนั้นปฎิบัติถึงพร้อมแล้วหรือยัง หากยังไม่ถึงพร้อมควรไหมที่คอยจับผิดผู้อื่น

    กระทู้นี้บอกกล่าวชัดเจนแล้ว กรุณาอย่ามาบิดเบือน ให้เปลี่ยนไป

    ผมจะขอกล่าวทิ้งท้ายในกระทู้นี้ครับ ว่ารู้จักประมาณตนเองก่อน ที่จะไปเพ่งโทษผู้อื่น

    สาธุครับ
     
  18. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    ผมเห็นด้วยนะ ผมกำลังด่าตัวเองอยู่ ปฏิบัิติยังไม่ถึงไหนเลย ไอขี้ข้ากิเลส
    ซักวันผมจะเตะปาก มัน คอยดูสิ หมายถึงกิเลสของผมเองแหละ :cool::cool:
     
  19. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    พอพูดถึงเจตสิกนี่ทำให้ผมคิดคือ
    พระอภิธรรม มีคนสับสนกันมาก
    จนกระทั่งขึ้นเวทีทะเลาะถกเถียงกันจนตาดำตาแดง
    แต่พอลงจากเวทีมา ตาบอดกันทั้งคู่

    ก็เพราะการให้ความหมายหรือคำแปลที่คุณอธิเดช
    ถามถึงอยู่นี่ล่ะครับ
    พอให้นิยามศัพท์ต่างกันก็ทำให้สับสนกันทันที

    อย่างที่ทะเลากันว่าจิตเกิดดับคือไม่
    ถ้าว่าตามฝั่งยึดตามตำราอภิธรรม
    ฝั่งนี้ว่าจิตคือวิญญาณขันธ์
    ดังนั้นเมื่อวิญญาขันธ์เกิดดับ ดังนั้นจิตจึงเกิดดับเช่นกัน
    อย่างนี้ก็ถูกของฝั่งยึดตำราอภิธรรมครับ

    ส่วนฝั่งที่ศึกษามาจากพระกรรมฐาน
    ที่ว่าจิตนี้ไม่เกิดไม่ดับ ไปเกิดไปถือร่างตามภพต่าง ๆ ที่ไปเกิด
    ที่เกิดที่ตายคือร่างกายในภพต่าง ๆ แต่จิตนี้ไม่ตาย
    นี่ก็ถูกเพราะจิตฝั่งพระกรรมฐาน ก็คือ นิพพาน ในพระอภิธรรมนั่นเอง

    ทีนี้มาดูว่าทำไมผมกล่าวอย่างนั้น
    เพราะในภาคปฏิบัตินั้น
    มีจุดหนึ่งที่ชี้ให้เห็นได้คือ
    ขั้นโสดาปัตติมรรค ตามอภิธรรมนั้นโสดาปัตติมรรคท่านเห็นนิพพาน

    แต่ตามพระกรรมฐาน โสดาปัตติมรรคท่านเห็นจิตหรือผู้รู้
    แยกจากขันธ์ 5 อย่างชัดเจน
    เห็นจิตขอนตนอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
    เพราะเมื่อก่อนจิตกับขันธ์จะกลมกลืนกันจนแยกไม่ออกว่า
    อะไรคือจิตอะไรคือขันธ์ ซึ่งก็คือขันธ์ปกปิดจิตที่แท้จริงเอาไว้
    แต่พอขั้นโสดาปัตติมรรคแล้ว
    จะเห็นจิตตัวเองอย่างชัดเจน แยกออกมาจากขันธ์
    ขันธ์ไม่ได้ปกปิดจิตอีกต่อไป

    ซึ่งฝั่งพระกรรมฐานจะตรงกับพระอภิธรรม
    ตรงจุดที่ว่าโสดาปัตติมรรค จะเห็นนิพพาน ในฝั่งพระอภิธรรม
    ตรงกับการเห็นจิตของตนอย่างชัดเจน ในฝั่งพระกรรมฐานนั่นเอง

    นี่คือเหตุผลที่ผมกล่าวว่า
    นิพพาน ตามพระอภิธรรม
    ตรงกับ จิต ตามการสอนของพระกรรมฐาน ครับ

    แล้วผมจะมาเสนอความคิดต่อว่า
    นักอภิธรรมเชื่อว่าสติเป็นสังขารขันธ์จึงเกิดดับ
    ดังนั้นสติจะสืบเนื่องไปไม่ได้
    ถ้าสติสืบเนื่องจะขัดกับหลัก ที่ว่าสติเป็นสังขารขันธ์ต้องเกิดดับ
    กลุ่มนักอภิธรรมจึงว่าการทำสติให้สืบเนื่องผิดหลักการ

    แต่คราวหน้าผมจะมาเสนอว่าความคิดแบบนี้ผิด
    และเป็นการปิดทางมรรคผลนิพพานของตนครับ
     
  20. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรครับ
    ผมก็บอกว่าไม่มีการแปล ใช้ทับศัพท์ไปเลย
    เจตสิก ท่านไม่แปล
    มีแต่คุณนี่่ล่ะครับแปลอยู่คนเดียว
    ว่าเจตสิก แปลว่า ใจ

    คุณนี่เข้าใจอะไรยากนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...