ผู้หญิงบรรลุธรรมยากกว่าผู้ชาย..

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ลุงไชย, 29 กุมภาพันธ์ 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    ท่านคนฝั่งโขงมีน้ำใจงาม ขออภัยได้ทั้งที่ไม่ได้มีเจตนาร้าย หาได้ยาก sun dog ได้บันทึกไว้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งในจริยาอันงดงามแล้ว ภายภาคหน้าหากตนเกิดเป็นชายหรือมีธรรมชาติที่เอื้ออำนวยในการเข้าถึงธรรมได้มากกว่ากายอื่น sun dog จะให้โอกาสและสนับสนุนให้ผู้อื่นได้เข้าถึงธรรมด้วยความเคารพนอบน้อมเสมอตนจ้า
     
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    เพราะเหตุเกิดตั้งแต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดเป็นหญิงหรือชายแล้วนั่นเอง....
    ผู้หญิงแตกต่างจากผู้ชายทั้งด้านกายวิภาค และการทำงานของสมอง
    นี่จึงเป็นเหตุอันสมควรที่หญิงจะบรรลุธรรมยากกว่าชาย....
     
  3. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    แฮ่ม!..วันนี้อากาศดีมากครับ เหมาะแก่การทำใจให้สงบนิ่ง..55+จะเป็นหญิงหรือชายก็ตายหมดล่ะจ๊ะ..
    ก่อนตาย..ก็คิดดี พูดดี ทำดี (คบเพื่อนดี) แค่นี้ก็ไปสู่ที่ดีๆแล้วครับผม..
     
  4. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    "ผู้หญิงบรรลุธรรมยากยิ่งกว่าผู้ชาย" (งั้นหรือ)

    คิดว่าไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยสักนิด

    เพราะหากเปรียบการบรรลุธรรมคือการประสบความสำเร็จในวัฎสงสาร

    ก็คงจะเหมือนกับการประสบความสำเร็จทางธุรกิจหน้าที่การงาน

    ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีผู้หญิงมากมาย ที่ประสบความสำเร็จ และเจริญรุ่งเรืองได้ดีกว่าผู้ชาย มีอยู่เยอะแยะถมเถไป

    ที่ยกตัวอย่างเอามาพูด เป็นแค่การเปรียบเทียบพื้นๆในความคิดของนานจอง มันอาจจะเปรียบเทียบกันอะไรไม่ได้จริงๆ ไม่ได้มีเหตุผลหรือหลักการอะไรเลยเอามาอ้าง และชี้วัดได้ และที่ำสำคัญ ข้อคิดเห็นอันนี้ อาจจะออกแนวนอกกรอบไปนิดส์ส์(ทำเสียงสูงๆ ลากเสียงยาวๆ)นึงงง
     
  5. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนั่นแหละเน๊น๊น๊าาาะ
     
  6. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    ขอขอบคุณสำหรับสาระดีๆ ที่นำมาให้ได้อ่านค่ะ...แม้จะแอบน้อยใจนิดๆ ที่เกิดมาเป็นผู้หญิง...ไม่สามารถกระทำบางอย่างได้อย่างที่ใจปรารถนา แต่ก็ต้องยอมรับกับสภาพนั้น...เหตุเพราะ...สรีระของผู้หญิงไม่เอื้ออำนวยจริงๆ นั่นแหละค่ะ
     
  7. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131

    Oops!!! อันนี้ขอเถียงเลยแล้วกัน มันไม่จริงหรอกนะ ที่ผู้หญิงจะเท่าเทียมกับผู้ชายไม่ได้ เพราะทุกๆวันนี้ผู้หญิงก็เท่าเทียมกับผู้ชายแล้วนิ ซึ่งบางทีอาจจะเหนือกว่าผู้ชายเลยด้วยซ้ำ (แบบว่าหาได้ยาก)
     
  8. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131

    Oops!!! คนนี้ก็พูดแรงปายยยยย (ไอ้ตัวที่เน้นๆนั่นน่ะ)
     
  9. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    อย่าได้น้อยใจไปเลยที่ได้เกิดเป็นผู้หญิง จงมองในส่วนที่ดีของการที่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง ดึงเอาส่วนดีที่ผู้หญิงสามารถทำได้ แต่ผู้ชายทำไม่ได้ (เอาส่วนดีนะ) ผู้หญิงสามารถทำอะไรได้อีกเยอะ เพียงแต่ว่ามันอยู่ที่การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ให้ได้ (เพราะผู้หญิงมีความสามารถในการปรับตัว รวมทั้งความโอนอ่อนละมุนละม่อมอยู่ในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่จงใช้มันให้กลมกลืน และลงตัว) ความรู้สึกน้อยใจนั้นก็จะหายไปเลย เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจกลับขึ้นมาแทน
     
  10. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    คิดว่าการบรรลุธรรมไม่น่าจะเกี่ยวกับกายวิภาคนะ เพราะการบรรลุธรรม มันคือความคิดและนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรม

    แต่ถ้าจะเปรียบเทียบกันในด้านของการทำงานหนักต่างๆ กายวิภาคของผู้ชาย ย่อมจะสามารถทำไ้ด้ดีกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว เห็นเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน

    แต่ลองดูผู้หญิงที่เค้าเพาะกายสิ เค้าก็สามารถทำงานที่ใช้แรงได้เท่ากับผู้ชายเลยนี่นา คือมันไม่มีอะไรเลยที่ผู้หญิงจะทำไม่ไ้ด้จริงๆ ทุกอย่างมันอยู่ที่แรงใจ ต่างหาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 มีนาคม 2012
  11. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131

    คิดว่านี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ของการยึดติดอยู่ในกรอบของประเพณี มาาาาากกกกจนเกินไป จนทำให้กลายเป็นกฎเหล็กทางประเพณีที่งี่เง่าไปโดยปริยาย


    อุปส์ ขอโทษที่เผลอใช้คำแรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 มีนาคม 2012
  12. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    อันนี้โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าเป็นความเห็นที่ "ผิด" และ "ขอเถียง"

    การจะได้เกิดเป็นเพศชายนั้น คือมี "กรรมดี" หนักกว่า เวลาทำกรรมใดๆ ก็มีความมั่นคง ไม่หวั่นไหว ไม่โลเล มีความแน่วแน่ ถึงจะได้เกิดเป็นผู้ชาย

    เพศหญิงนั้น มี "กรรมดี" น้อยกว่า เวลาทำกรรมดี มักจะทำด้วยไหวหวั่น โลเล ถึงได้ไปเกิดเป็นผู้หญิง มีความมั่นคงทางอารมณ์น้อยกว่า (ขี้วีน ขี้โมโห มีเหตุมีผลน้อยกว่า เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ เป็นต้น)

    ส่วนเพศอันประเสริฐนั้นสูงสุดเหนือเพศใดๆนั้น คือ "ไร้เพศ" ความหมายคือ ไม่ยึดติดในเพศใด จิตวิญญาณแบบนี้สามารถมีได้ในทั้งเพศชายและหญิง หรือ เพศที่ 3 เมื่อปฏิบัติธรรมไปจนถึงระดับหนึ่ง

    หมายถึงจิตวิญญาณข้างใน ไม่ยึดติดในเพศใดๆ (แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นกะเทย ทอม หรือเพศที่ 3 ทั้งหลาย อันนั้นคนพวกทำกรรมหนักกว่าผู้หญิงเสียอีก ถึงได้เกิดมาเป็นแบบนั้น) (สังเกตได้จากการที่เพศที่ 3 มักจะมีอารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก เวลาดูดวงก็ดูยาก เช่น ดวงกะเทยที่ดูดวงได้ยาก เป็นต้น) (ซึ่งข้อคิดเห็นอันนี้ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ด่าว่าเพศที่ 3 แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ) เพียงแต่เพศที่ 3 ดีๆ ก็มีเยอะ
     
  13. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    [​IMG]
    แล้วจิตวิญญาณที่สามารถเข้าถึงความ "ไร้เพศ" หรือ อยู่เหนือเพศจริงๆนั้น มักจะเรียกว่า "จิตวิญญาณแบบอวโลกิเตศวร"

    ดังที่พวกท่านจะสามารถเห็นได้จากรูปหล่อของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ที่สื่อและแฝงถึงความไร้เพศตรงที่ ลักษณะและรูปร่างของท่าน ดูออกยากว่า "เป็นเพศไหน" นี่สื่อถึงความ "ไร้เพศ" "เหนือเพศ" เป็นจิตวิญญาณที่อยู่เหนือคำว่า "เพศ" จริงๆ

    นี่คือสิ่งที่สื่อผ่านมาทางรูปปั้น
     
  14. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    อนึ่ง จิตวิญญาณแบบอวโลกิเตศวรนั้น (หรือไร้เพศ) ท่านสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ด้วยธรรมของความกตัญญู และการให้
     
  15. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    - ในมุมมองผม เมื่อพิจารณาว่าศีลคือเครื่องกลั่นกรองกิเลส ก็น่าจะอธิบายได้ว่าสมัยก่อนผู้ชายมีสิทธิมากกว่าผู้หญิงอย่างมาก ผู้หญิงอาจโดนกดขี่ทางเพศ จนทำให้ความรู้สึกลึกๆของผู้หญิงทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัวจึงอยากให้ผู้ชายมากราบไหว้ตน ต้องการจะอยู่เหนือเพศชาย ดังนั้นจึงมีกฎว่าภิกษุณีต้องกราบไหว้ภิกษุแม้จะบวชนานกว่า
    เช่นเดียวกับศีลของภิกษุ ที่พระอายุมากแต่บวชใหม่ก็ต้องกราบไหว้พระอ่อนกว่าที่บวชมานานกว่า นั่นก็เพื่อลดกิเลสที่อาจเป็นมิจฉาทิฐิ จึงไม่ได้แปลว่าภิกษุแก่จะบรรลุยากกว่าภิกษุหนุ่ม
    - อย่างปัจจุบันแม่ชีถือศีล 8 ข้อก็ยังบรรลุได้ ความยากง่ายจึงไม่น่าจะขึ้นกับจำนวนข้อของศีล แต่น่าจะขึ้นกับการรักษาศีลให้บริสุทธ์ การปฏิบัติภาวนา ซึ่งเพศชายอาจได้เปรียบกว่าในแง่ความปลอดภัยเวลาเดินธุดงค์หรือปฏิบัติภาวนาโดยลำพัง

    ปล.
    - ผมว่าเกิดเป็นอะไรไม่สำคัญ จะเป็นเพศใด ยากดีมีจนยังไง เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ก็บรรลุได้เหมือนกัน
    - ไม่ควรมาน้อยเนื้อต่ำใจเรื่องวาสนาบารมี แล้วมองว่าตนคงบรรลุธรรมไม่ได้เพราะไม่มีบุญ ในเมื่อเราสร้างเองได้ มีบุญเก่าน้อยก็ยิ่งต้องทำบุญให้มาก ต้องใช้ความเพียรให้มาก
     
  16. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    5555 ตั้งแต่น้องนานจองโพสต์มา มีอันนี้ละที่ตรงใจ sun dog

    เรื่องหญิงชายเป็นอย่างไรนั้น ผู้ปฏิบัติย่อมประจักษ์ได้เองตามประสบการณ์ของตนเมื่อถึงกาลอันสมควร คงไม่มีอะไรที่ตนต้องกล่าวถึงอีกแล้วในเรื่องนี้
     
  17. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726
    แล้วผู้หญิงก็เป็นเพศที่รับความจริงยากมาก เพราะคิดละเอียด เมื่อคืนเปิดเทปที่อัดเสียง อ.เจนดูดวงให้ภรรยาครับ แฟนเป็นคนไม่เชื่อแต่บังคับไป อ.เจนถามว่าแฟนไปทำแท้งมาใช้ไหม เป็นเด็กผู้ชาย เขายังไม่อโหสิ ให้ทำบุญให้เขา แฟนก็ยอมรับ แต่เขามาบอกผมว่าไม่เคยไปทำ ถามยังไงก็บอกไม่เคยทำ แต่เด็กเรียกผมว่าพ่อ ประมาณ5ท่านที่พูด แบบนี้ว่ามีเด็กผู้ชายมาด้วยและอโหสิกรรมแล้ว จะคอยช่วยพ่อเพราะอยู่กับผมแล้วมีความสุข พ่อทำบุญให้มากแต่แม่หนูไม่เอา ปัจจุบันเขาไม่ใช้วิญญาณเรร่อน หากทำบุญให้เขามากๆ เขาจะได้เป็นเทวดา แฟนเคยขอเงินไปทำ เราก็รีบไปทำงาน เลยให้เงินไปห้าหมื่น เมื่อเกือบ16ปีที่แล้ว กลับมาวันเดียวเขาบอกไปทำแล้ว และมาบอกว่ามาหลอกเอาเงินไป ไม่ได้ทำ ปจุบันเขาก็ยังไม่รับว่าไปทำมา แต่ผมไปดูมาและได้คุยกับน้องผ่านคนที่ดูมา 5-6ท่าน ทักเป็นเรื่องเดียวกันเลย ที่ทักก็มีคุณริว คุณแบงค์ขยำกระดาษ คุณจอรย์ขย่ำกระดาษ อ.รุตญาณทิพย์ อ.เจนญาณทิพย์ ซิลแสจีนเฉินเทียนฟู ทักแบบเดียวกัน ผมเป็นวิทยาศาสตร์ก็ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แต่พูดมาเป็นหนังเรื่องเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่ามีสิ่งที่ตามนุษย์มองไม่เห็นอีก จบแล้วครับ เป็นวิทยาทานครับ ว่าถ้าเป็นชายเราเด็ดขาดครับผิดคือผิดไม่ลังเล แต่เพศหญิงจะละเอียด ที่จะตัดสินใจเรื่องต่างๆ ทำให้ช้าในการที่จะสำเร็จอะไรบางอย่าง แต่มองแง่ดีก็รอบครอบครับ สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 มีนาคม 2012
  18. konkeesongsai

    konkeesongsai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +1
    ไม่จริงหรอก หญิงชายก็บรรลุธรรมได้เท่าๆกัน

    แต่ความยากของผู้หญิงอยู่ที่การยอมรับทางสังคมมากกว่า
    เหมือนภิกษุณีปัจจุบันที่ยังถูกภิกษุรังเกียจ ไม่นับว่ามีตัวตน

    ส่วนบวชชีพราหมณ์นั้น นับหน้าถือตามีอยู่ในทุกสำนักสงฆ์ ...แต่ไม่เห็นมีในพระไตรปิฏก?
    แล้วแม่ชีเหล่านี้เราก็นับถือกัน ขอถามว่า เขาเป็นพุทธ หรือพราหมณ์ที่อยู่ในวัด

    แล้วทำไมเราไม่ส่งเสริมภิกษุณีแล้วกำจัดพราหมณ์เหล่านี้ไป? ทำไมพระเราส่งเสริมพราหมณ์? หรือ ศาสนานี้วิปริตไปแล้ว?
     
  19. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726
    มันมีเหตุมาจากตรงนี้ครับ ความอาภัพ ๑๘ ประการ มีในบทกรวดน้ำเช้า ทำวัดเช้าครับ

    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑. ไม่เป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๒. ไม่เป็นคนหูหนวกมาแต่กำเนิด[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๓. ไม่เป็นคนบ้า[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๔. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๕. ไม่เป็นคนใบ้[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๖. ไม่เกิดในประเทศป่าเถื่อน[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๗. ไม่เกิดในท้องแห่งนางทาสี[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๘. ไม่เป็นคนมีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฐิ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๙. ไม่เป็นสตรีเพศ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๐. ไม่ประกอบกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๑. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๒. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๓. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๔. ไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรก และโลกันตนรก[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๕. เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาในกามาวจรสวรรค์ คือสวรรคเทวโลก ๖ ชั้น ก็ไม่เกิดเป็นเทวดาซึ่งนับเนื่องเข้าในเทวดาจำพวกหมู่มาร[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๖. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๗. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๑๘. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด "

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    นิยะโต โพธิสัตโตวะ สัมพุทเธนะ วิยากะโต นาฏฐาระสะปิ อาภัพพะ ฐานานิ ปาปุเณยยะหัง

    ขอข้าพเจ้าเป็นเหมือนโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ ได้รับพยากรกรณ์แต่พระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ถึงฐานะแห่งความอาภัพ ๑๘ ประการ

    [/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]
    เป็นการตั้งเจตนา หากพระพุทธเจ้ายังไม่มาอุบัติ ขอไม่เจะเจอกับความอาภัพ 18 ประการครับ ต้องยอมรับกับความจริงมันเป็นกรรมที่ต้องรับ ถ้าไม่อยากเจอให้ทำเหตุให้ตรง และตั้งเจตนาไว้ครับ หญิงชายไม่ต่างกัน แต่แตกต่างที่ความยากง่าย ไม่นับการเป็นพระพุทธเจ้าครับ สาธุ
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 มีนาคม 2012
  20. konkeesongsai

    konkeesongsai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +1
    ใช่แล้วคับ พระพุทธเจ้าต้องเป็นชายเท่านั้น
    ยิ่งพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพุทธทำนายแล้วเท่านั้นถึงจะพ้นอาภัพ18อย่างนี้

    ส่วนพุทธมารดาต้องเป็นหญิงเท่านั้นคับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...