เรื่องเด่น ประมวลภาพพลังจิตธรรมสัญจร 55

งดงามเหนือคำบรรยาย

เครติดภาพ : คุณ aemie​

 

ลูกแก้วจักรพรรดิ

​

​

 

ประมวลภาพ พลังจิตธรรมสัญจร (๘)

 

แจ้งสรุปเงินร่วมบุญทริปพลังจิตธรรมสัญจร (๘)

ขอแจ้งยอดเงินที่ชาวคณะและกัลยาณธรรมทุกท่านร่วมบริจาคทำบุญในพลังจิตธรรมสัญจร (๘) กิจกรรมบุญวันมาฆบูชา เตียวขึ้นดอยพระพุทธบาทสี่รอย-ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิืเมืองล้านนา วันที่ ๖-๗ มี.ค. ๕๕ เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบและอนุโมทนาบุญร่วมกัน ดังนี้

ชาวคณะร่วมกันชักลากรถบุษบกอัญเชิญพระเจ้าอินทร์สาน ในประเพณี "เตียวขึ้นดอยพระพุทธบาทสี่รอย ๕๕" ​

​

- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ และผ้าป่าสามัคคี วัดฟ้าฮ่าม ๑,๐๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ และผ้าป่าสามัคคี วัดแสนฝาง ๑,๐๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ และผ้าป่าสามัคคี วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ๑,๐๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ และผ้าป่าสามัคคี วัดเชียงมั่น ๑,๐๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ และผ้าป่าสามัคคี วัดเจดีย์หลวง ๑,๐๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ และผ้าป่าสามัคคี วัดหนองก๋าย ๑,๐๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดพระพุทธบาทสี่รอย ๓,๐๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายปัจจัยกัณฑ์เทศน์ถวายเป็นพุทธบูชาพระเจ้าอินทร์สาน และใส่บาตรพระอุปคุตตลอดเส้นทาง-ตลอดคืน ตามอัธยาศัย

รวมเงินที่เว็บพลังจิตเป็นตัวแทนถวายร่วมบุญ จำนวน ๙,๐๐๐ บาท


- กราบขอมหาอนุโมทนาในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ได้รับตลอดในทุกสถานที่ ๆ ได้ไปในกิจกรรมบุญนี้
- ขอบพระคุณเว็บพลังจิต/วัดท่าขนุน/สะพานบุญ และเจ้าหน้าที่ที่ได้มอบพื้นที่สำหรับกิจกรรมบุญในครั้งนี้
- กราบโมทนากัลยาณธรรมทุกท่านที่ได้ร่วมบุญ ร่วมอนุโมทนาในครั้งนี้
- และขอขอบคุณสมาชิกทั้ง ๒๐ ท่านที่ไ่ด้ร่วมเดินทางสืบสานต่อกิจกรรมบุญกันตามธรรมะจัดสรร


พบกันใหม่กับกิจกรรมบุญ
ธรรมสัญจร (๙) งานทำบุญประจำปีวัดท่าซุง-พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์-ท้าวเวหน-มุฑิตาจิตสักการะท่านเจ้าคุณภาวนากิจวิมล-ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อยุธยา-อ่างทอง-สิงห์บุรี-อุทัยธานี วันที่ ๑๗-๑๘ มี.ค. คลิก

กิจกรรมบุญ (๑) เรียนเชิญร่วมงานทำบุญครบรอบ ๑ ปี บ้านวิริยบารมี วันที่ ๒๙ มี.ค.

กิจกรรมบุญ (๒) เรียนเชิญร่วมกองบุญพิเศษมหากฐินสามัคคี ปี ๕๕ น้อมรับพระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช-พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน วัดท่าขนุนเป็นที่ระลึก ชุดที่ ๔ ประกาศผล ๑๖ พ.ค. คลิก



;aa59
* รับชมรูปภาพกิจกรรมบุญจากกล้องของคุณอัสนี ได้ที่นี่เร็ว ๆ นี้

 

บันทึกการเดินทาง กับเตียวขึ้นดอยพระพุทธบาทสี่รอย ปี ๕๕

....จบลงอย่างบริบูรณ์กับกิจกรรมแรกของเดือนมาฆปูรมีบูชา กับเตียวขึ้นดอยพระพุทธบาทสี่รอย ทริปนี้เปิดรับสมาชิกจำนวนจำกัด เนื่องจากทราบดีว่าเป็นงานบุญที่ต้องแต่ละคนต้องใช้กำลังกายสูง นอกเหนือจากกำลังใจที่ล้วนมีกันเต็มเปี่ยม ประกอบกับกิจกรรมบุญในช่วงไตรมาสแรกของทุกปี มักจะหนีไม่พ้นเขา ไม่ว่าจะเป็นนมัสการสักการะพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ)-นมัสการพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์-เตียวขึ้นดอยพระพุทธบาทสี่รอย

๐๔.๓๐ น. ของเช้าวันอังคารที่ ๖ มี.ค. ผู้จัดเดินทางมารอรับสมาชิกทุกคน ณ จุดนัดพบปั้มน้ำมัน ปตท. สนามเป้า พบเจอสมาชิกมารอกันหลายคนโดยเฉพาะคุณอัสนี (๑)-(๒) ทักทายกันด้วยความคิดถึงและสอบถามถึงอาการของขันธ์ ๕ หลังจบจากทริปนมัสการสักการะเขาวงพระจันทร์-เขาวง (ถ้ำนารายณ์) คุณอ้สนี (๒) แจ้งว่า... แข็งแรงสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่มีแม้แต่อาการเปวดขา-เจ็บขาที่ไหนเลย แถมโรคประจำตัวที่เคยเป็นก็หายไปจนหมดสิ้น ด้วยคุณของพุทธโธอัปมาโน

๐๕.๑๕ น. คนพร้อม รถพร้อมได้เวลาล้อหมุนตามกำหนดการที่วางไว้ แจ้งทุกคนว่า ที่พักรถจุดแรกคือ ร้านเล็กต้มเลือดหมู เพื่อรับประทานอาหารเช้ากันที่นั่น ช่วงเดินทางขอให้ทุกคนพักผ่อนเก็บเรียวแรงกันให้มาก เพราะค่ำคืนนี้ต้องใช้แรงกายสูง

๐๖.๓๐ น. ถึงร้านเล็กต้มเลือดหมู พักรับประทานอาหารเช้าและถวายปัจจัยค่าภัตตาหารแด่พระภิกษุที่เดินทางมาฉันเช้าที่นี่ ถือว่าเป็นบุญแรกของชาวคณะ อิ่มหนำสำราญ ทำธุระส่วนตัวกันเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางต่อในเวลา ๐๗.๐๐ น. แวะเข้าห้องน้ำกันเป็นระยะ ๆ จนถึงเวลาเที่ยงก็เดินทางถึงจังหวัดเชียงใหม่ แวะพักรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านข้าวซอยเสมอใจ อิ่มหนำสำราญก็ได้เวลาไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำบุญใหญ่กันที่วัดฟ้าฮ่าม เป็นสถานที่แรก

ชาวคณะร่วมกันนำเงินทำบุญใส่ซองก่อนติดถวายผ้าป่าลอยฟ้า วัดฟ้าฮ่าม

สถานที่ต่อไปคือ วัดแสนฝาง สถานที่นี้มีสิ่งก่อสร้างเป็นพระเจดีย์คล้าย ๆ กับเจดีย์ชเวดากองของประเทศพม่า จนได้รับนามว่า เจดีย์ชเวดากองเชียงใหม่ องค์พระอุโบสถอยู่ในระหว่างการบูรณะ ชาวคณะเลยได้อานิสงส์ของผ้าป่าบูรณะพระอุโบสถเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งบุญ

เสร็จจากวัดแสนฝาง ชาวคณะเดินทางต่อไปวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เพื่อร่วมกันกราบไหว้พระพุทธสิหิงค์ ซึ่งถือว่าเป็นพระประจำปีมะโรง และเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ร่วมกันถวายปัจจัยทำบุญและผ้าป่า ก่อนที่จะแยกย้ายกันทำบุญประจำปีเกิดกันตามอัธยาศัย และออกเดินทางต่อไปวัดเชียงมั่น เป็นสถานที่สี่ ไหว้พระเสตังคมณี (พระแก้วขาว) อายุ ๑,๘๐๐ ปี และพระศิลา อายุ ๒,๕๐๐ ปี และปิดท้ายด้วยวัดเจดีย์หลวง ร่วมกันถวายปัจจัยทำบุญและผ้าป่าเป็นสถานที่สุดท้ายของตัวเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่จะเดินทางไปสู่ อ. แม่ริมในเวลา ๑๖.๓๐ น.

พุ่มผ้าป่าสามัคคี ณ วัดเจดีย์หลวงที่ชาวคณะร่วมบุญ

๑๗.๐๐ น. เดินทางถึงวัดหนองก๋าย แจ้งสมาชิกทุกคนให้เข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวและจัดเก็บสัมภาระไว้ในรถ ก่อนที่จะสั่งให้รถตู้เดินทางขึ้นไปรอทุกคนที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย ผู้จัดและสมาชิกอีกหลายท่านเป็นตัวแทนถวายปัจจัยและผ้าป่า ไหว้พระพุทธรูปอายุ ๑,๓๐๐ ปี และแยกย้ายกันรับประทานอาหาร พักผ่อนเก็บเรียวแรงไว้สำหรับเวลาเดินทาง

๑๙.๓๐ น. พระครูพุทธบทเจติยารักษ์ (ครูบาพรชัย ปิยะวัณโณ) เริ่มทำพิธีบวงสรวง ปีนี้มีพระครูบาหลายองค์ที่ได้รับกิจนิมนต์มาร่วมพิธี แต่ผู้จัดไม่สามารถจดจำนามได้ทั้งหมด พิธีการดำเนินการไปจนเสร็จ ได้เวลาเตรียมขบวนเพื่อเข้าสู่ช่วงสำคัญ คือ "เตียวขึ้นดอยพระพุทธบาทสี่รอย" ผู้จัดแจ้งสมาชิกทุกคนให้ร่วมกันชักลากอัญเชิญรถบุษบกพระเจ้าอินทร์สาน

พลังสามัคคึ พลังศรัทธาจากคณะญาติธรรม

​

๒๑.๓๐ น. ได้เวลาพร้อม เสียงดนตรีแบบล้านนาบรรเลงนำขบวน ต่อด้วยขบวนทัพหน้า ที่ทำหน้าที่ชักลากรถพระเจ้าอินทร์สาน ต่อด้วยทัพกลาง คือรถบุษบกอัญเชิญน้ำสรงพระราชทานองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ซึ่งได้เมตตาพระราชทานติดต่อกันมาเป็นปีที่ ๙ ต่อเนื่องด้วยทัพหลัง คือ รถฆ้องกลองสะบัดไชย และปิดท้ายด้วยทัพหนุน คือ รถเทรนเลอร์อัญเชิญพระอุปคุตและพระครูบา ๔ องค์แสดงธรรมในแต่ละช่วง

๒๓. ๕๐ น. เดินทางถึงจุดพักที่หนึ่งกับระยะทาง ๔ กม. แรก พระครูบาท่านสั่งพักให้รับประทานอาหาร-น้ำดื่ม ก่อนที่จะร่วมกันทำบุญติดกัณฑ์เทศน์ ถวายผ้าป่าและรับพรร่วมกัน

๐๑.๒๐ น. เดินทางถึงจุดพักที่สอง พระครูบาท่านสั่งพักให้รับประทานอาหาร-น้ำดื่ม ร่วมกันทำบุญติดกัณฑ์เทศน์ ถวายผ้าป่าและรับพรร่วมกัน ก่อนที่จะสั่งให้รถนำส่งผู้แสวงบุญที่เดินทางต่อไม่ไหวขึ้นไปยังวัด ส่วนที่เหลือออกเดินทางต่อไปยังจุดที่สาม ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ชันที่สุด ระหว่างทางต้องพักเพื่อตรวจสอบความพร้อมก่อนลงเขาในแต่ละช่วง โดยเฉพาะช่วงทางลงที่ชันและเป็นเส้นทางที่ยาวที่สุด พระครูบาท่านต้องให้นำเชือกมาผูกรถบุษบกอัญเชิญพระเจ้าอินทร์สานเพิ่ม ก่อนที่จะใช้กำลังคนช่วย ๆ กันผ่อนเชือกลงเป็นระยะ ๆ จนถึงเส้นทางราบด้วยความปลอดภัย

พระครูบาพรชัย สั่งการให้ผูกเฃือกเพิ่มความแข็งแรงก่อนอัญเชิญพระเจ้าอินทร์สานลงเขาในช่วงเส้นทางชัน
​

๐๓.๑๕ น. เดินทางถึงจุดพักที่สาม ณ สถานที่นี้หลายคนถึงกับลงไปนอนเก็บแรงกับพื้นถนน หลายคนนั่งพักเงียบ ๆ แต่กำลังใจทุกคนยังดี คนที่ไม่ไหวก็เดินทางขึ้นไปกับรถที่คอยเก็บตก พระครูบาท่านให้กำลังใจทุกคนเป็นอย่างดี โดยที่ท่านเองก็ร่วมเดินในขบวนกับทุกคน ผู้จัดโชคดีที่ได้เดินอยู่เบื้องหลังท่านและคอยวิ่งขึ้น-ลงเพื่อร่วมชักลากรถพระเจ้าอิินทร์สานทั้งตอนขึ้นเขาและลงเขาโดยไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน.....พักกันจนหายเหนื่อยก็ได้เวลาร่วมกันทำบุญติดกัณฑ์เทศน์ ถวายผ้าป่าและรับพรเสร็จ ก็ได้เวลาเดินทางเข้าสู่ช่วงสุดท้าย

ณ จุดพักที่สาม
​

๐๕. ๓๐ น. เดินทางถึงบ้านพระพุทธบาทสี่รอย ซึ่งเป็นจุดพักสุดท้าย เติมเรี่ยวแรง รับประทานอาหาร-น้ำดื่มเสร็จก็ได้เวลาตั้งขบวนเดินเท้าสู่วัดพระพุทธบาทสี่รอย ผ่านพ้นซุ้มประตูวัดในเวลา ๐๖.๓๐ น. ท่ามกลางการต้อนรับจากคณะญาติธรรมเต็มบริเวณวัด

ขบวนผ่านพ้นเข้าสู่ซุ้มประตูวัดในเวลารุ่งอรุณของวันมาฆบูชา

​

พระครูบาท่านทำพิธีเิบิกเนตรพระเจ้าอินทร์สาน โดยท่านแจ้งว่าองค์นี้เป็นองค์ที่ ๖๙ และจะนำประดิษฐานไว้ที่นี่ หลังพิธีเบิกเนตรเข้าสู่ขั้นตอนของการทำบุญตักบาตรวันมาฆบูชา สรงน้ำพระพุทธบาทสี่รอย และพิธีสืบชะตา ชาวคณะไม่ได้อยู่ร่วมพิธีสืบชะตาจนจบพิธีในปีนี้ เนื่องจากต้องรีบเดินทางกลับกรุงเทพฯ ได้แต่อธิษฐานจิตร่วม

๑๐.๔๐ น. ล้อหมุนจากวัดพระพุทธบาทสี่รอย แวะซื้อของฝากที่ร้านวนัสนันท์ และพักรถรับประทานอาหารกันที่ตาก ก่อนที่จะเดินทางไกลกลับสู่กรุงเทพฯ ถึงจุดหมายปลายทางปั้มน้ำมัน ปตท. สนามเป้าในเวลา ๒๐.๒๐ น. ส่งสมาชิกทุกคนและผู้จัดเดินทางถึงบ้านในเวลา ๒๑.๑๐ น. เป็นอันปิดทริปเตียวขึ้นดอยอย่างสมบูรณ์

ญ.ผู้หญิง
๘ มี.ค.๕๕
​