การทดสอบทางวิทยาศาสตร์เรื่อง "ความเมตตา"

ในพระพุทธศาสนาสอนให้ทุกคนมีความเมตตาต่อกันตามหลัก พรหมวิหาร 4 นี้เป็นผลทดสองทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันคำสอนเรื่อง "ความเมตตา" ของพระพุทธเจ้า

นิสิตจุฬา ฯ ทดลองแผ่เมตตาให้ต้นไม้ ใช้หลักวิทยาศาสตร์ในการทดลองโดยการแยกแปลงดอกดาวกระจายออกเป็น 2 แปลง แปลงหนึ่งได้แผ่เมตตาอีกแปลงหนึ่งไม่แผ่เมตตา เปรียบเทียบกัน ทั้งนี้เราได้ให้ น้ำ ปุ๋ย อากาศ เท่ากัน (เงื่อนไขเหมือนกัน ต่างกันแค่ ความเมตตา)ปรากฏว่าต้นไม้ที่แผ่เมตตาให้นั้นเจริญเติบโตงอกงาม สวยงามอย่างรวดเร็วในขณะที่อีกแปลงหนึ่งที่ไม่ได้แผ่เมตตาก็เจริญตามปกติของมันแต่มีความแตกต่างในเรื่องดอกไม้ คือ แปลงที่แผ่เมตตาให้มีดอกสวยงามส่วนแปลงที่ไม่ได้แผ่เมตตาให้ปรากฏว่าไม่มีดอกไม้เลย และยังมีความสูงแตกต่างกัน 42.9 % ความงามก็ต่างกันแปลงที่แผ่เมตตาให้มีความเจริญงอกงามดีกว่าแปลงที่ไม่ได้แผ่เมตตาให้อย่างเห็นได้ชัด

<Oในส่วนสิ่งตรงกันข้าม คือ ความเกลียดชัง ความโกรธแค้นพยาบาท การแช่ง มีนิสิตอีกคน คณะวิทยาศาสตร์ จุฬา ฯ เช่นกัน ใช้เวลาลงเรื่องดังกล่าว (ตรงข้ามกับความเมตตา) ที่ต้นไม้ 3 ชั่วโมง ปรากฏว่าต้นไม้มันก็เหี่ยวแห้งไป เมื่อเห็นแล้วก็อดสงสารต้นไม้ไม่ได้<O></O>
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 class=inlineimg title="Tongue out" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" alt="" border="0" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o</v:shapetype>referrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><Vath o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></Vath>

ข้อมูลจากยุวพุทธิสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

ต้นไม้นี้ไม่เกี่ยวกับข้อความในกระทู้นี้ เพียงแต่ลงไว้เพื่อประกอบข้อความในกระทู้เท่านั้น

 

ของฝรั่งเค้าทำจนกระบอกเพชรโตมาไม่มีหนาม ครับ

 

นักวิทยาศาสตร์หลายคน เช่น ศาสตราจารย์ฟูคะราย ในประเทศญี่ปุ่น และเดอลาวาร์ในประเทศอังกฤษ

ได้ทดลองถ่ายรูปของความนึกคิดออกมาได้ แสดงให้เห็นว่าความคิดของเรามีคลื่นพุ่งออกไปจากตัวเราจริงๆ

การเเผ่เมตตาก็เช่นกัน

 

มองไม่เห็น แต่รับรู้ได้ เวลาคุยกับคนที่มีเมตาจิตสูงๆ มันจะรู้สึก สบายใจ

 

ท่านอาจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ก็เคยกล่าวไว้หลายปีแล้วว่ามีการทดลองแบบนี้ก็เห็นผลดังที่ จขกท.นี้กล่าวแล้ว ฯ

เราสามารถมองเห็นหรือสัมผัสส์ความเมตตาได้ ด้วยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครับผม

 

นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ทำเรื่องผลึกของน้ำครับ....หัวข้อเดียวกัน.....

 

คิดดี พูดดี ทำดี ส่งผลกับทุก ๆ สิ่งอย่างบนโลกใบดี ขอบคุณ

 

แปลกดีแฮะ ทดลองกับต้นไม้ น่าลองดูกับคนบ้างนะ เห็นทันตาเลยละครับ หรือลองกับสัตว์ก็ได้

 

การแผ่เมตตามีผลจริงครับ จะได้ผลเพียงไหนก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของผู้นั้น ถ้ามีความเพียรทำมากก็มีผลมาก สาธุ สาธุ สาธุ

 

เรื่องนี้ก็คือเรื่องที่ ดร.อาจอง ท่านให้นักศึกษาของท่านทดลองแผ่เมตตาให้ต้นไม้ในแปลงเพื่อทำการทดลองเกี่ยวกับพลังงานของเมตตาครับ ท่านย้ำว่า อย่าไปสาปแช่งใครเด็ดขาด แต่ก็มีนักศึกษาของท่านคนหนึ่งฝืนคำสั่งคือทดลองสาปแช่ง ใส่ความโกรธ เกลียด แค้น ทุกอย่าง ซึ่งก็ทำให้ต้นไม้เฉาภายในสามชั่วโมง และนักศึกษาคนนั้นก็ป่วยปางตายและได้สารภาพกับดร.อาจองในภายหลัง

ดร.อาจอง ท่านให้เหตุผลว่า ก่อนที่พลังงานเมตตา หรือสาปแช่ง จะไปถึงเป้าหมาย ก็ต้องผ่านร่างกายของเราก่อนซึ่งเป็นทางผ่านพลังงาน

เพิ่มเติมครับ พลังงานเมตตา เป็นพลังงานละเอียดและทรงพลังมหาศาลในระดับอนู สามารถควบคุมในระดับอนูซึ่งเล็กกว่าอิเล็คตรอนหรือนิวเคลียส (สามารถสร้างมหาปีระมิดและสฟิ้งได้ภายในเวลาชั่วอึดใจ)ด้วยเหตุนี้ครูบาร์อาจารย์(สายที่ถูกจริตผมคือหลวงปู่ปานและหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ท่านจึงย้ำนักย้ำหนาว่าผู้ที่จะฝึกอภิญญา อันดับแรกต้องเจริญพรหมณ์วิหารสี่

 

อนุโมทนาบุญกับความริเริ่มทดลองที่ดีเช่นนี้ ให้พลังความเมตตาสามารถพิสูจเป็นวิทยาศาสตร์ได้

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ วันนี้ได้ความรู้ใหม่ที่ผมมองข้ามไปเป็นบทความที่ดีมากครับ

 

เรื่องเมตตานี่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ที่ทำงาน ที่บริษัทเหมือนกันนะคะ ก็แผ่เมตตาให้ลูกน้อง หัวหน้า ให้คนที่เป็นเพื่อนร่วมงาน ดีจริงนะคะ

 

เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน และที่เค้าเปิดเพลงคาสสิคกะเพลงร๊อคให้ต้นไม้ฟังก้อเคยได้อ่านมาค่ะ โชคดีที่ได้อ่านอีกครั้ง
โมทนาสาธุค่ะ

 

เห็นด้วยคะ ที่ทำงาน ราก็มีความเมตตา

 

ถึงว่า เวลาไปกราบหลวงปู่หลวงพ่อหลายๆท่าน

เรามักจะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ สะบายใจ รู้สึกดี

 

น่าจะทำการทดลองแผ่เมตตาให้กระเป๋าตังค์เรานะคะ เผื่อเงินจะงอกเงยขึ้นมาบ้าง อิอิ

 

เป็นการแผ่พลังงานชนิดหนึ่ง ทำมากๆ บ่อยๆ จะเห็นชัด
มีการทดลองมามากมายโดย Mazaru Emoto ลองดูใน Hado.net

พระพุทธองค์ได้สอนเราให้ทำมาแต่ครั้งพุทธกาล ในพรหมวิหารเมตตา
ไม่น่ามีข้อสงสัย กังขาในเรื่องนี้อีก
หากอยากได้ผลควรเร่งปฏิบัติ ด้วยตนเอง ก็จะเห็นเองในไม่ช้า

สาธุ

 

เมตตาธรรมนี้ สามารถนำไปใช้ไปปฏิบัติได้ทุกคน ถ้าทุกคนในโลกใบนี้มีเมตตาต่อกัน และมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และโลก ยิ่งใช้ก็ยิ่งดีต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และโลก ดังสุภาษิตที่ว่า "เมตตาธรรมค้ำจุนโลก"

 

ขออนุโมทนาด้วยครับ สำหรับเรื่องราวที่ส่งมา จะลองทำดูบ้างครับ