ประกาศข่าวแผ่นดินไหว(&การคาดการณ์)

ไหวทดสอบความมั่นคงของเขื่อน

Last 2 Weeks of Earthquakes
(within 10 degrees of LON=95.982, LAT=51.719)


DATE links are into the IRIS WILBER system where you can see seismograms and request datasets.

DATE and TIME (UTC) LAT-ITUDE LONG-ITUDE MAG-NITUDE DEPTH km REGION
27-FEB-2012 08:56:06 51.61 95.78 4.7 10.1 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
27-FEB-2012 02:55:02 52.11 94.83 4.5 10.0 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
27-FEB-2012 01:12:16 47.76 87.32 4.3 10.0 NORTHERN XINJIANG, CHINA
26-FEB-2012 19:59:31 51.75 96.03 5.1 15.0 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 13:44:53 51.61 95.97 4.4 10.0 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 13:17:34 51.97 95.31 4.5 10.0 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 13:06:36 51.81 95.92 4.9 10.0 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 12:50:23 51.81 96.23 4.8 10.0 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 11:59:06 51.76 96.01 5.2 9.5 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 11:50:56 51.66 95.43 4.4 10.0 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 11:07:41 51.71 96.11 5.2 10.0 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 06:52:39 51.73 96.03 4.9 10.1 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA
26-FEB-2012 06:17:19 51.72 95.98 6.7 12.7 SOUTHWESTERN SIBERIA, RUSSIA

13 database rows displayed.
Earthquake data courtesy of USGS

 

แผ่นดินไหว 5.6 ริกเตอร์ ที่หมู่เกาะริวกิวทางใต้ของญี่ปุ่น เมื่อเวลา 04.31 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 02.31 น.ตามเวลาประเทศไทย ห่างจากเมืองนาฮา ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 83 กม. และอยู่ลึกเพียง 18 กม.แต่ไม่มีคำเตือนการเกิดสึนามิหรือรายงานความเสียหาย

 

แผ่นอเมริกาใต้กำลังเคลื่อนตัวมาทางแปซิฟิก

สังเกตการไหวแนว ขอบแปซิฟิกและรอยต่อกับแผ่นอาฟริกาและแอนตาร์คติคของแผ่นอเมริกาใต้แล้ว ชาวแคริบเบียนพร้อมเกาะเล็กเกาะน้อยคงจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ จะต้องเตรียมย้ายหนีไปประเทศใกล้เคียงกันทีเดียว...ชาวไทยยังโชคดีกว่า ที่เพียงภายในประเทศเท่านั้น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 14 จังหวัดภาคกลาง มีภารกิจเร่งด่วนพอควรลองใส่เลข 40 ฟุตลงไปด้วย

ตระหนักดีแล้วควรส่งข่าวให้เพื่อนๆที่อาจอยู่ในพื้นที่เสี่ยงในเขตชายฝั่งทะเลทราบด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตให้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ล่วงหน้าหากเกิดเหตุขึ้น เมื่อปลายสุดของอินโดฯจมไป 80 ฟุตขึ้นมาอย่างกระทันหัน ไทยและหลายๆประเทศก็จะเสียหายไม่น้อยทีเดียว ลองค่อยๆพิจารณาแผนที่น้ำท่วมของกูเกิลดูไปทั่วๆทีละโซน โดยเฉพาะหากพื้นที่เสี่ยงภาคกลาง 14 จังหวัด ถูกน้ำทะเลท่วมถาวร เรื่องพลังงานทั่วประเทศจะเกิดผลกระทบทันที การคมนาคมจะเป็นอุปสรรคที่หลายๆคนอาจไม่เคยคิดถึง

พื้นที่น้ำท่วมจะเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งพลังงานไปยังที่สูงที่น้ำไม่ท่วมก็ตาม และสถานีจ่ายแกซต่างๆก็จะได้รับผลกระทบอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบมาที่การผลิตกระแสไฟฟ้า ที่เราไม่ได้พึ่งพาไฟฟ้าพลังน้ำจากลาวโดยตรงทั้งหมด ยังไม่ทราบว่าผู้บริหารพลังงานของประเทศได้เตรียมแผนฉุกเฉินสำรองเอาไว้แล้วหรือยังเช่นค่ายบางจาก...ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ได้มีแผนรองรับในเรื่องเหล่านี้เอาไว้อย่างไรบ้าง?

 

Urasian Tounge จมลง

ก็สังเกตอยู่จ้า....หากยูเรเซี่ยนทั้งค์ จมลงที่ปลายสุดประเทศอินโดฯถึง 80 ฟุตอย่างกระทันหันนั้น ของแถมสำหรับอ่าวไทยจะมามาหลังแผ่นดินทรุดลง 40 ฟุตแล้ว คลื่นสึนามิจากทางใต้จะเคลื่อนตัวมาทางเหนือของแผ่นยูเรเซี่ยนหรือ Sunda Plate ที่จมลงไป น้ำจะไหลมาทางโคนแผ่น แต่อย่าลืมว่าปากอ่าวไทยนั้นกว้าง แต่ก้นอ่าวไทยความกว้างจะลดลงเหลือเพียง 80 กม.เท่านั้น เมื่อพื้นที่สอบแคบลงเช่นนี้ น้ำที่เคลื่อนขึ้นมาต้องยกตัวเพิ่มขึ้นพร้อมกับเร่งความเร็วมากขึ้นขุดโคลนตรมขึ้นมาจากก้นทะเล เนื่องจากน้ำมีที่ไหลบ่าไม่มากนัก พื้นที่ชายฝั่งของส่วนช่องแคบก็จะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าขนาดของสึนามิที่คุณ Zeta คาดว่าจะประมาณ 30-40 ฟุต แต่พื้นที่แคบ ก้นอ่าวไทยจะขยายความแรงขึ้นอีกเป็นเท่าๆัตัวทีเดียว จะสูงกว่าทางเกาะภูเก็ตที่ ดร.สมิทธิ กล่าวไว้มาก....ผลลัพล์ที่แสดงไว้บนเส้นสีฟ้าและสีดำก็เป็นด้วยปกาละฉะนี้เอง ในเรื่องของไฮโดรลิคที่เลื่อนไหลเข้ามาสู่พื้นที่ปิด จะต้องซึมซับเอาพลังงานที่น้ำนำมาด้วยทั้งหมด...ทรัพย์สินและผู้คนบนแผ่นดินชายฝั่งจำเป็นต้องได้รับไป...ขอเปลี่ยนพลังงานทั้งหมดนี้เป็นโชคลาภได้ก็ดีนะ...ก็มีคนได้รับนะแต่เขาไม่ประกาศให้ทราบเท่านั้น เช่นหลังจากสึนามิเข้าภาคใต้ด้านอันดามัน หลายๆอาชีพก็ร่ำรวยขึ้นอย่างทันตาเห็นทีเดียว

 

<TABLE class=tbis border=0 cellSpacing=0 cellPadding=5 width=840 align=center><TBODY><TR class=tbis1 bgColor=#336699><TD width=130 noWrap>วัน-เวลา *ประเทศไทย</TD><TD width=40 noWrap align=middle>ขนาด</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Latitude</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Longitude</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Phase</TD><TD noWrap>บริเวณที่เกิด</TD><TD width=20></TD><!-- <td nowrap="nowrap">ข้อมูลอื่นๆ</td> --></TR><TR class=tbis3><TD vAlign=top>2555-02-28 08:21:12</TD><TD vAlign=top align=middle>2.8</TD><TD vAlign=top align=middle>20.52</TD><TD vAlign=top align=middle>99.89</TD><TD vAlign=top align=middle>15</TD><TD vAlign=top>ประเทศพม่า</TD></TR></TBODY></TABLE>

ห่างไปทางทิศเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 10 กม.


B5 - War Room Falkman

 

--น่ากลัวมากๆ...เวลานั้นคงใกล้เข้ามาทุกที--! :boo::boo:

 

ลำดับแรกของเหตุการณ์ 7 of 10 Sceanarios

7 ใน 10 เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดนำมาก่อนที่โลกจะย้ายขั้วนั้น ผู้สันทัดกรณีอย่างคุณ Zeta ให้การยืนยันว่าจะเกิดขึ้นกับ Sunda Plate ทรุดตัวลงก่อนเหตุการณ์อื่นๆ จึงเป็นสิ่งเร่งด่วนเฉพาะหน้าลำดับแรกของผู้ที่อยู่บนพื้นที่เสี่ยงของแผ่น Sunda Plate ทั้งหมด ควรเฝ้าติดตามรายละเอียดต่างๆที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นฉากๆก่อนที่ Sunda Plate จะจมลงอย่างกระทันหัน ทันทีที่แผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ปลดเบรค....ติดตามศึกษารายละเอียดเพิ่มที่ ลิงค์นี้

 

ไปกลัวทำไม รู้ท่าเขาก่อน จะมาเมื่อไรเราก็หลบได้

การได้รู้ท่าเขาล่วงหน้า ผู้ที่ไม่ประมาทก็จะเตรียมหนทางที่จะหลบไปให้ปลอดภัย....ส่วนผู้ไม่สนอะไรทั้งนั้นก็ต้องแล้วแต่

 

ไหวที่แตกต่าง

ที่ละติจูด 20.25 นั้นเปลือกโลกโก่งตัว จากแรงโน้มของปลายแผ่น Sunda Plate เป็นเหตุ

ส่วนที่ละติจูด 12 องศานั้น เป็นแรงเคลื่อนตัวของแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ...ใกล้เข้ามาอีกนิด ขยับมาทางด้านทิศตะวันออกมากขึ้น

 

จริงค่ะ..ทำให้ต้องเข้ามาติดตามข้อมูลของคุณอา Somdul ติดขอบจอแทบทุกวัน จะได้รู้ตัวล่วงหน้า
เผื่อเวลาโกยทัน..black_pig :z8อิอิ...


ขอบคุณสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ และนำมาแบ่งปันกันให้ทราบค่ะ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กระโจนลงทะเล เปิดยุคสำรวจมหาสมุทร ดำดิ่งสู่พื้นที่ลึกสุดโลก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>28 กุมภาพันธ์ 2555 07:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>โลกของเรามีพื้นที่ทะเลขนาดใหญ่ ประกอบด้วยมหาสมุทรถึง 5 แห่ง แต่มีพื้นที่เพียงน้อยนิดใต้น้ำที่มนุษย์เราเข้าไปสำรวจถึง การทำความรู้จักโลกในด้านลึกจึงเป็นที่สนใจมากขึ้น ขณะเดียวกันข้อมูลรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกใต้สมุทรยังเป็นที่ต้องการ เพื่อพิจารณาปัจจัยเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่หนักขึ้นทุกวัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เมื่อแผ่นเปลือกโลกมาเจอกัน อาจเบียดกันจนเกิดการมุดเข้าหากัน และแผ่นดินบางส่วนก็มีภูเขาใต้น้ำค้ำอยู่ ทำให้เกิดรอยแยกขนาดใหญ่ อย่างมาเรียนาเทรนช์ที่กินพื้นที่ยาวกว่า 2,500 กิโลเมตร</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของแผ่นดินใต้ทะเล ที่ระดับความลึก 4,000 เมตร คือ เขตที่ราบมหาสมุทร และลึกลงไปจนถึงสะดือทะเล ที่เรายังมีข้อมูลจากการสำรวจเพียงน้อยนิด</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก มีลักษณะพิเศษน่าค้นหา แต่อาจจะหมดไป เพราะคาร์บอนสะสมที่ก้นทะเล</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ทะเลยิ่งลึกก็ยิ่งมืด แต่ใช่ว่าสิ่งมีชีวิตบริเวณนั้นจะไร้สีสันตามไปด้วย</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>แนวโน้มการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ลงไปสำรวจส่วนที่ลึกสุด เพื่อให้ได้ตัวอย่างมากที่สุด แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงว่า การที่มนุษย์ได้ลงไปเห็นกับตาตัวเองน่าจะเป็นการเก็บข้อมูลที่ดีกว่า </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>กระแสการสำรวจยุคใหม่ หันกลับมาให้ความสนใจโลกลี้ลับที่ใต้มหาสมุทรลึก และโดยเฉพาะเครื่องไม้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ที่เอื้ออำนวยให้มนุษย์เราได้มีโอกาสศึกษาสภาพใต้ท้องทะเลที่ลึกแสนลึกได้ ความพยายามเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นส่วนที่ลึกที่สุดในโลกจึงเกิดขึ้น

สำนักข่าวบีบีซีได้รายงานถึงสถานการณ์ การแข่งขันกันสำรวจใต้มหาสมุทร โดยมีเป้าหมายที่ “ร่องลึกมหาสมุทรมาเรียนา” หรือ“มาเรียนา เทรนช์” (Mariana Trench) ซึ่งเป็นรอยแยกที่ทอดตัวยาวกว่า 2,500 กิโลเมตรในพื้นทะเล และหุบเหวส่วนที่ลึกที่สุดนั้นลึกเกือบ 11 กิโลเมตร

ทำไมต้องลงทะเล

ดร.จิม การ์ดเนอร์ (Jim Gardner) จากศูนย์การทำแผนที่ชายฝั่งและมหาสมุทรแห่งสหรัฐฯ (US Centre for Coastal and Ocean Mapping : CCOM) เผยว่า ขณะนี้เหล่านักวิทยาศาสตร์ กำลังจับตาไปที่ร่องลึกก้นสมุทรต่างๆ

นักธรณีวิทยาใช้เวลากว่า 5 ปี สำรวจรายละเอียดต่างๆ ในมาเรียนาเทรนช์ และเพิ่มควาสมน่าสนใจเข้าไปอีก เมื่อการสำรวจพบว่า มีหุบเหวลึกมากกว่า 20 แห่งเหมือนมาเรียน่านี้ กระจายอยู่ใต้มหาสมุทรทั่วโลก แต่มากที่สุดเห็นจะเป็นที่มหาสมุทรแปซิฟิก

เทรนช์ก่อตัวจากรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น (tectonic plate) ที่มีขอบชัดเจน โดยการมุดเข้าหากัน (subduction) ซึ่งนักธรณีวิทยาคิดว่า บริเวณเหล่านี้น่าจะเกี่ยวข้องต่อการเกิดแผ่นดินไหวครั้งสำคัญ

“เป็นบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกเบียดเข้าหากัน ดังนั้นภูเขาใต้ทะเลที่อยู่บนแผ่นแปซิฟิก ก็ถูกบีบอัดเข้าไปด้านใต้ร่องลึก หรือไม่ก็ถูกเบียดเข้ากับขอบของอีกแผ่น ซึ่งบางทฤษฎีชี้ว่า ถ้าภูเขาใต้ทะเลมุดอยู่ใต้แผ่นเปลือกโลกอีกแผ่น ก็จะเป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ อย่างที่เกิดล่าสุดในญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย” ดร.การ์ดเนอร์อธิบาย

สิ่งมีชีวิตในโลกมืด ไม่จืดชืดอย่างที่คิด

เรื่องในทะเลไม่ใช่สิ่งรัญจวนใจแค่สำหรับนักสมุทรศาสตร์ แต่นักชีววิทยาก็ตาวาวไม่แพ้กัน ดร.อลัน จามีสัน (Dr Alan Jamieson) จากโอเชียนแล็บ มหาวิทยาลัยอะเบอร์ดีน (Oceanlab at the University of Aberdeen) เคยใช้อุปกรณ์ง่ายๆ สำรวจก้นเหวลึกเหล่านี้ ด้วยการติดกล้องเข้ากับขาตั้งเหล็ก แล้วหย่อนลงไปด้วยเบ็ด จากนั้นกล้องสำรวจก็หล่นสู่ก้นมหาสมุทร พร้อมทั้งบันทึกภาพสิ่งมีชีวิตในโลกใต้น้ำ

“เมื่อเราเริ่มสำรวจ เราคิดว่าสิ่งที่ค้นพบน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ และคงไม่มีสีสัน แค่เพียงพยายามอาศัยอยู่ในห้วงลึกอันมืดสนิทนั้นให้ได้ แต่เมื่อได้บันทึกภาพออกมา กลับพบเรื่องประหลาดใจมากมายในพื้นที่ที่ลึกที่สุดของท้องทะเล”

กล้องบันทึกภาพของ ดร.อลัน เผยให้เห็นชีวิตในโลกมืดใต้ทะเล ตั้งแต่พวกแมลงน้ำ (amphipods) หรือ สิ่งมีชีวิตคล้ายกุ้งที่มีลำตัวยาวถึง 1 ฟุต รวมถึงปลาที่มีลำตัวเหมือนวุ้นใสและยังเรืองแสงสีชมพูได้อีกด้วย

ตอนนี้ ดร.อลันกำลังศึกษาสรีระของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ และค้นหาว่าพวกมันมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรในสภาวะแรงดันมากกว่า 1,000 เท่า เมื่อเทียบกับที่ระดับผิวน้ำทะเล และอุณหภูมิยังต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ซ้ำยังมืดสนิทแสงอาทิตย์ส่องลงไปไม่ถึง

คาร์บอนจมสู่ก้นทะเล ทำลายชีวิตใต้บาดาล

ถ้าชีวิตที่ใต้น้ำลึกช่างน่าสนใจ และจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกมันค่อยๆ ตายหายไป ปัญหานี้เริ่มประจักษ์เมื่อพบ ซากสิ่งมีชีวิตในแถบเทรนช์เป็นจำนวนมาก

ผลการศึกษาเมื่อปีก่อน พบว่า เป็นพราะคาร์บอนที่สะสมอยู่ในร่องเหวลึกนั้น มีมากกว่าส่วนอื่นๆ ในท้องทะเล และนำไปสู่การสันนิษฐานว่า ที่บริเวณเทรนช์นี้อาจเป็นแหล่งวงจรคาร์บอนที่ใหญ่และสำคัญ และอาจจะมีผลต่อสภาพภูมิอากาศโลกมากกว่าที่มนุษย์เราเคยคาดการณ์ไว้

ขณะนี้ นักวิจัยกำลังพยายามค้นหาว่า มีคาร์บอนมากแค่ไหนกันที่จมสู่ก้นทะเลลึก และแบคทีเรียจะสามารถรีไซเคิลคาร์บอนได้มากขนาดไหน ที่จะนำคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศได้ และแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะเข้าถึงข้อมูลที่ก้นทะเลลึกได้แล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล อย่าง ดร.ซิลเวีย เออร์เล (Sylvia Earle) เชื่อว่า ยังต้องศึกษากันอีกยาวไกล

“ฉันเสียใจที่จะบอกว่า เราอยู่ในศตวรรษที่ 21 ที่มีความรู้เกี่ยวกับส่วนอื่นๆ ของระบบสุริยะ มาเสียกว่ารู้จักมหาสมุทรในโลกของเราเอง เรามีการพัฒนาแผนที่ดวงจันทร์ ดาวอังคาร และดาวพฤหัสบดี มากกว่าจะทำแผนที่พื้นมหาสมุทร” ความเห็นของอดีตผู้อำนวยการองค์การมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งสหรัฐฯ (National Oceanic and Atmospheric Administration : Noaa) ที่มีศักยภาพในการสำรวจโลกเทียบเท่ากับองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ที่ทำหน้าที่สำรวจนอกโลก

คนหรือเครื่อง แบบไหนจะเก็บข้อมูลได้ดีกว่า

ดร.เออร์เลเห็นว่า ส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสุทรนั้นเป็นพื้นที่ที่ถูกทอดทิ้ง ตั้งแต่ที่ระดับ 4,000 - 6,000 เมตร ซึ่งเรียกกันว่า เขตที่ราบมหาสมุทร (abyssal zone) แต่เทรนช์นั้นลึกยิ่งกว่าลึก และกินพื้นที่ “สะดือทะเล” (Hadal Zone) โดยพื้นที่เหล่านี้ใหญ่พอๆ กับทวีปออสเตรเลียและอเมริกาเหนือ หรือพอๆ กับจีน แล้วเราจะยังไม่เข้าไปศึกษาพื้นที่เหล่านี้ได้อย่างไร

อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีการถกเถียงถึงวิธีการที่ดีที่สุดในการสำรวจส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร โดยฝ่ายของ ดร.เออร์เล ก็เชื่อว่า จะดีกว่าหากส่งมนุษย์ลงไปสำรวจด้วยตาตัวเอง และเลือกเก็บตัวอย่างจากโลกใต้น้ำที่แสนลึก ขณะที่อีกฝ่ายคิดว่าการใช้เครื่องหรือหุ่นยนต์ลงไปทำงานใต้น้ำ น่าจะได้ข้อมูลที่มากกว่ากลับมา

ทั้งนี้ ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถลงไปสำรวจหุบเหวต่างๆ ในท้องทะเล เพราะยังขาดแรงสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยี และมนุษย์เรายังไม่รู้สึกเกี่ยวข้องกับพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจริงๆ แล้วหุบเหวลึกก็มีความสำคัญไม่ต่างจากพื้นที่อื่นๆ ในมหาสมุทร และแน่นอนว่าการอนุรักษ์มหาสมุทรก็ต้องดูแลต้งแต่ผิวน้ำไปจนถึงส่วนที่ลึกที่สุดด้วย

เอามาฝากทุกคนครับ.....งิงิ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พี่ somdul พอจะบอกข้อมูลหน่อยได้มัยค่ะ เท่าที่ศึกษามา หากเกิดแผ่นดินไหว สึนามิเกิดขึ้น หรือว่าโอกาสที่น้ำแข็งละลาย หิมะละลาย คิดว่าระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นประมาณเท่าไร ตอนนี้บ้านที่อยู่นนทบุรีปัจจุบันสูงกว่าระดับน้ำทะเล แค่ 3 เมตรเอง อยากจะรู้ว่า เช่น หากปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกละลายเรื่อย ๆ ไอ้ 3 เมตรนี่ จะอยู่ได้อีกกี่ปีหนอออออออออ

 

Sea water rising

ผมบอกไม่ได้ แต่ที่นี่บอกเอาไว้ละเอียดเลย ทั้งก่อนและหลัง PS ถามเรื่องนี้มีแถมให้หน่อยหนึ่งเพิ่ง เตรียมเสร็จใหม่ๆได้อ่านเป็นคนแรก

 

น้ำท่วมนนทบุรี

หนูติ๊กถ้าถามผิดถามใหม่ได้ว่า บ้านหนูจะอยู่ไปได้อีกกี่เดือน?ไม่ต้องตกใจเกิดมาทำข้อสอบโลกทั้งที ทำให้เต็มที่ก่อนตั้งใจมาเกิดช่วงนี้ไง

 

เสียใจด้วยกับนักสำรวจเหวลึกใต้ทะเล

Mariana Trench ได้ถูกแผ่นแปซิฟิก เลื่อนมากลบไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อ 13 ธ.ค. 2011 ไปตอนนี้มีแต่แผ่นดินไหวเป็นของฝาก อาจจะเจอแจ๊กพ๊อต 8 ริกเตอร์ก็ได้ ตัวใครตัวมันพร้อมกับสึนามิด้วย เอาเรือขนาดไหนกันล่ะระวางขับน้ำกี่พันตัน

 

ดาวศุกร์และเพื่อน

ดาวศุกร์ กับ PX อยู่ห่างโลกพอๆกัน เพียงแ่ต PX ใหญ่กว่าดาวศุกร์ 4 เท่า จึงดูสุึกสว่างใหญ่กว่าในท้องฟ้าเวลา 1 ทุ่ม สังเกตดู ตำแหน่ง PX เคลื่อนที่ไปจากเดิม หรือดาวศุกร์เคลื่อนที่? พรุ่งนี้จะสังเกตซ้ำอีกที ตอนนี้ดาวศุกร์กำลังถูก เอ๊ดดี้โฟร์ ของ PX บีบอยู่ในศูนย์กลางของ eddy flow อาจแกว่งไปแกว่งมา ใครที่ใช้กล้องส่องดูดาวลองช่วยสังเกตให้หน่อย หากถ่ายภาพขอให้ใช้ฟิลเตอร์สีแดงจะได้ภาพชัดเจน พร้อมๆกับกลุ่มจันทร์บริวารด้วย อย่าให้แพ้ Alberto ที่ถ่ายเอาไว้มากหลายภาพ จนเกิด Revolution ในเรื่องนี้ไปแล้ว NASA จุกอกพูดไม่ออกถูกนักดูดาวสมัครเล่น เล่นงานเสียจุก และ COWS ยังจะเปิดโอกาสให้คนทั่วไปบนโลกมองด้วยตาเปล่าเร็วขึ้นอีกด้วย จะได้หมดสงสัยและหยุดข้อโต้แย้งหรือถูกหลอกอีกต่อไป

 

แหม... พี่ก้อ.... หนูก็แค่ปลอบใจตัวเอง
ปีที่แล้วท่วมแค่เมตรกว่า ๆ จิ๊บ ๆ ค่ะ พึ่งจะหายตกใจ
ตอนนี้ไม่กลัวน้องน้ำแล้วค่ะ อยากมาก็มา แต่เราจะไม่อยู่ต้อนรับแล้ว
มี.ค. นี้ก็จะหนีไปอยู่ลำปางแล้วค่ะ
ดัน...ต้องไปสู้กับหมอกควันอีก แต่ก็คงต้องทำใจ มีพื้นดินให้อยู่อย่างน้อย ๆ ปลูกอะไรกินเองได้
แต่ถ้าต้องอยู่กับน้องน้ำ ขอ บาย บ๊าย เอาไม่อยู่.....ค่ะ

 

ZetaTalk Chat Q&A for February 11, 2012

Why has Planet X suddenly become so much more visible? Has its position vs a vs the Earth changed?



​

Has Planet X changed position, that it is now appearing at the 6 o'clock position for Europe and the eastern US? This is due to the tilt of the wobble, putting the viewer at a different angle than when Planet X was predominantly viewed at the 4 o'clock position. But visibility seems to have been remarkably improved! The issue of the continuing cover-up over the presence of Planet X has been brought repeatedly before the Council of Worlds, which wants a balance on Earth so that young souls can weight the reality of their and other's situations. If life is not rosy, but is being portrayed that way, then those who are leaning toward becoming Service-to-Other become complacent, rather than taking action. It is taking action that develops the young soul, so it is taking action that is desired. Thus a decision was made to allow more visibility of Planet X, aka Nibiru, not only on film but also naked eye during the day, to shatter the cover-up over the presence of Planet X. Expect more of this!

The World Economic Forum Annual Meeting was held January 25-29, 2012, in Davos-Klosters, Switzerland. Could the Zetas be a fly on the wall yet again and share with us some of the more interesting-yet-secret highlights of this meeting? Was the forum used by the wealthy and power elite to discuss Planet X related matters face to face? [and from another] http://www.weforum.org/events/world-economic-forum-annual-meeting-2012 The World Economic Forum Annual Meeting in Davos has wrapped up. It has been as ever, a cornucopia of intellectual fare, with some 260 sessions on everything from the Secrets of the Universe to Fixing Capitalism, and a cast of the world's intellectual, business, arts, cultural and social giants. It has been a week of superlatives, the most participants, sessions, snow, media coverage - you name a record and we have broken it. In short, The outlook, after a week of intense discussion, is of a troubled world pressed for solutions across a number of fronts, but with optimism provided by human ingenuity and progress. Rather than attempt to summarise or curate, we direct you to the full library of content, videos, summaries, tweets, quotes, blog posts and highlights. [and from another] http://www.weforum.org/members The Forum's 1,000 Member companies are at the heart of all our activities and their support is essential to helping us find truly sustainable solutions to improve the state of the world. [and from another] http://en.wikipedia.org/wiki/World_Economic_Forum The Forum is best known for its annual meeting in Davos, a mountain resort in Graubünden, in the eastern Alps region of Switzerland. The meeting brings together some 2,500 top business leaders, international political leaders, selected intellectuals and journalists to discuss the most pressing issues facing the world, including health and the environment.
​

Unlike the G20 meeting recently, the annual Davos forum has more invitees, and thus there is immense opportunity to talk behind closed doors, face-to-face, about pressing matters such as the doomsday predictions made by those highly accurate Zetas of ZetaTalk. It is hardly doomsday for the common man, who will reincarnate if losing their life and can expect a life in the Aftertime freed from the constraints of debt and political coercion. But for the attendees, life as they know it will end. They will no longer be on top of the pile, in control of money, which will become worthless.

When the 2011 Davos annual meeting occurred our 7 of 10 predictions had barely started to unfold. Yes Pakistan along the Indus Valley had sunk by the 10 feet predicted, and yes, sinking had started in the Philippines but not to the degree predicted for the Sunda Plate. Snickering, both from relief and ridicule, was the reaction. But by the 2012 Davos forum the horror of a buckling Thailand with flood waters rushing through Bangkok had occurred, vast parts of Viet Nam and Java were clearly under water and plates everywhere were showing the stress predicted by ourselves.

But more than the horror of life as they know it disappearing - the possibility of the very wealthy and their lackeys becoming irrelevant - was the fear of an awakened public. Those who imagined they could slide from their comfortable and controlled life styles into comfortable and secure bunkers are having a rude awakening. The common man is not going to be lulled into ignoring the signs, the Earth changes, and will be demanding answers and to be accommodated! The increasing wobble has placed the Sun and Moon where they ought not to be, and this is abuzz on the Internet, as is the moaning and trumpeting Earth.

The Davos attendees had been complacent, assured that NASA and the USGS would hold the curious back by denying the facts and manipulating the data. They now see that something as simple as the greater visibility of Planet X and its components in the sky can shatter anything NASA states, and prove them to be liars. A simple technique, available to the common man, of using a filter FOR red to see the complex cannot be stopped, and the cat is now out of the bag. A single individual, such as Alberto, posting red photos on the Pole Shift ning can create a revolution.

They are in panic! After the horror of the breaking cover-up is discussed, and the horror of our predictions coming true in full is discussed, they discuss what to do. They have no options. When it is clear there is a planet between the Earth and Sun, as ZetaTalk has stated all along, then NASA is dead, and the USGS will be ignored as the populace will know when quakes are striking. The status of the Davos attendees will disappear also when cities are imploding, bridges are dropping, and starving refugees are roving everywhere. For the Davos attendees, when they fall silent during such discussions, is the realization that the only solution is to rush to their bunkers early.

I understand that the following is all part of the usual shenanigans of the powers-that-be as an attempt to gain greater control over all of us - but it would be interesting to understand a bit more about why they have chosen to speed up the switch from radar to GPS when you and I and, very likely, they know that GPS is going to become a lot less reliable in the the near future. Its like putting a monkey in charge of a running a roller coaster. Maybe worse. [and from another] Congress passes FAA bill that speeds switch to GPS. http://www.boston.com/news/nation/washington/articles/2012/02/06/senate_passes_faa_bill_that_speeds_switch_to_gps/ A bill to speed the nation's switch from radar to an air traffic control system based on GPS technology, and to open U.S. skies to unmanned drone flights within four years, received final congressional approval. Instead of time-consuming, fuel-burning, stair-step descents, planes will be able to glide in more steeply with their engines idling. Planes will also be able to land and take off closer together and more frequently, even in poor weather, because pilots will know the precise location of other aircraft and obstacles on the ground. Fewer planes will be diverted.
​

This bill primarily has as its goal a reduction in fuel usage, as the process of landing and taking off will speed up. Where awareness of the presence of Planet X, and the likelyhood of a passage is increasing, what is passed around, secretly, is sketchy. The rumors refer to government sources rather than ZetaTalk, and seldom cover the detail that we provide. Thus, looking at the short term, legislators are concerned about war in the Middle East which they assume will occur during the End Times and will result in a fuel shortage in the US. If the bill passes and is implemented, this will ultimately mean more chaos at airports as the wobble worsens and satellites fail.

There have been an increase in shootings in Australia lately. http://news.smh.com.au/breaking-news-national/sydney-shooting-linke... Reading between the lines it seems there could be tighter controls on gun laws as a result. Australian gun laws came into existence after a massacre at a cafe Port Authur, blamed on a young introvert Martin Bryant. This massacre was extremely controversial, in that there was suspected covert operatives involvement to achieve the result. Two Questions: do the Zetas know if there are plans in Australia to disarm or restrict the public even more, i.e. remove registered firearms from those that legally have them, leading into the PS?, and can the Zetas confirm the suspicions of the public about this massacre and who was behind it? [and from another] http://www.citizens4freedom.com/Articles/tabid/1387/ Secretary of State Hillary Clinton is pushing for the United States to become a party to a global gun control law proposed by the United Nations. And President Barack Obama appears to be sympathetic. The goal of the treaty is to come up with internationally recognized rules governing the trade of guns and ammo. The United States is the world's largest exporter of arms. [and from another] http://www.jbs.org/legislation/un-s-arms-trade-treaty-endangers-your-right-to-bear-arms The United Nations is planning on its Arms Trade Treaty (ATT) being finalized in 2012. The biggest arms suppliers are the United States, France, Belgium, the Czech Republic, Germany, Slovakia, the UK and Italy. However they ignore the worst transgressors of illegal trafficking like Russia and Albania.
​

The United Nations has been pressing for a universal gun control treaty since 2006, but consensus is hardly in sight nor will it be achieved. The reasons for dissension are many as there are many agendas at play. Revolutions are started and supplied by an infusion of armaments, as the recent revolution in Libya shows. If a war is to be avoided, or if the current government is to be overthrown, then the locals are given guns.

Another agenda is the profit motive, as manufacturing and selling armaments is lucrative. The client list is endless, with governments wanting armaments to defend themselves topping the list. The argument is that if a country such as Saudi Arabia can defend themselves, then no need for the US to have a base there and do it for them. Thus sales to wealthy countries proceed. Later, should that country be considered to have gone rogue, then more armaments can be sold while the rogue element is countered. Sales all around, on all sides.

Then there is the black market element, which would only increase if arms sales were to become illegal. This is quite evident from the police reports, as criminals forbidden to own arms have no problem arming themselves on the black market. The UN has had a focus on arms sales not because they think they can suppress the sale of arms beween countries or the arming of rebellions under a UN mandate to assist, but because many of their member states are concerned about the coming chaos during the Pole Shift, and what this might mean in the Aftertime.

What has proponents of individual liberty "up in arms" is the focus on controlling small arms sales. Governments are concerned about being able to keep control of their populace, when starvation will induce riots, and the "have nots" are inclined to invade the enclaves of the "haves" for looting and the takeover of supplies. None of this is likely to be settled, with all the agendas afoot, and thus the Last Weeks will arrive with the situation much as it is today, under discussion.

The earthquake more than 10 times happened on 2012/02/06 at Negros - Cebu Region, Philippines - two earthquakes big M6.7 and M6 and the aftershocks. Does this show that Mariana plate leaned?


​

What does it mean for the Mariana and Philippine plates to tilt and fold? The plates are unevenly shaped. Is there evenly spaced subduction on the western edges, or are there points where more or less pressure is applied? Having the Marian Trench collapse is an easy concept to understand, as this is like a clam snapping shut, a simple shuffle of the undersea land to the west. Even though the trench is not a straight line, curving toward the west as it curves southward, it would seem that moving the entire Pacific plate east of the trench a bit to the west would simply close the trench.

The islands dotting the eastern side of the Mariana Plate find water heaping on occasion during this process, which the buoys lately have shown is occurring. While the Mariana Plate may have its angle of slope toward the west somewhat altered, this is excused by the populace on the Mariana Islands as the tides are washing their shores, and tides can be erratic. The eastern edge of the Philippine Plate, which is merely an undersea ridge, also gives little evidence that the angle of drop toward the west, the slope, has increased.

But the western edge of the Philippine Plate abuts the land masses of the Philippine Islands, and during the folding process must drop, and subduct, to accommodate the compressing Pacific. This forces the Philippine Plate under Taiwan, under the island of Luzon, and under most of the other Philippine Islands. Taiwan and Luzon are assumed by man to be residing on the Philippine Plate, but as we have explained they cling to the plates to their west, and do not sink while the Philippine Plate tilts and folds.

A year ago David Cameron hosted a meeting of Baltic leaders to discuss the EU tsunami, commented on by the Zetas He has not only hosted another meeting recently but attended a second in Sweden within a month of the first. Can the Zetas comment on what these meetings are producing, a year later, from the discussions being had? If they meet once then have to reconvene less than a month later, surely they must be achieving something in terms of making decisions? [and from another] http://www.guardian.co.uk/politics/2012/feb/09/david-cameron-nordic-goliaths-sweden Less than a month after hosting a British-Nordic summit in Downing Street which would have baffled previous Conservative prime ministers, David Cameron was in Sweden attending a Nordic-Baltic summit between Sweden, Denmark, Finland and Norway and their ex-Soviet Baltic neighbours Estonia, Latvia and Lithuania.
​

This is indeed a work in process, with the initial proposals and concerns moving to action plans. Latvia has now been included, at the insistence of her neighbors. The focus is on commandeering enough boats to move refugees fast enough to avoid what would be termed a "humanitarian crisis". The European tsunami as described by ourselves would primarily devastate the UK and Denmark. The solution for this swath is advance warning from buoys and ships at sea, a network that has also been the focus.

Any serious New Madrid activity in the US will put this network on high alert, and any sign of tsunami waves will bring a screaming alert to the UK and Denmark. Moving the populace inland in the UK, and to Sweden or onto boats in Denmark would be initiated immediately. These exercises may be repeated, if called too early in the 7 of 10 process, but will be considered good preparation for the real thing. Those counties that will suffer less during the European tsunami are expected to likewise move their coastal populations inland to safety.

Frankly, the issue of rising seas in the Aftertime is not being discussed, as preparations for the tsunami is more than the participants can handle. The current plan is to return refugees from the UK and Denmark to their homelands, when the tsunami waters drain. Of course this is not an ultimate solution, but all are avoiding any talk of further crisis. Scientists employed by the governments have confirmed our analysis of how the North Atlantic would react to a release of the bow tension in N America, which is evident for all with eyes open. They know the tsunami is coming.



ZetaTalk Chat Q&A for February 11, 2012




.