" ลมปราณ ธาตุสี สมาธิจิต "

งั้นขอถามคะ เพราะจะได้แยกถูก

อารมณื ที่เกิดจากตน มันพุดออกมาจากระบบข้างในได้มั้ยคะ

เกิดจากอาหาร ๔ ลองค้นความหมายดูครับ


ถ้าเราปรับระบบข้างในได้ปกติ มันจะพุดออกมาได้มั้ยคะ

ได้ครับ แต่ต้องเข้าใจในความเป็นเหตุปัจจัย ว่าไม่มีใครไปทำอะไรให้มันเกิดขึ้น หรือ ไปทำอะไรให้มันดับ



แล้ว ธาตุ ใน บวก นอก

ปัจจัย โยงกันรึไม่คะ
นอกสู่ใน หรือ ในสู่นอกคะ

แล้วแต่เหตุครับ

ภายนอก รับเข้ามาเกิด แต่อายตนะ ที่กระทบ

ภายใน เกิดแต่จิตบ้าง เกิดแต่กายบ้าง ปัจจัยภายนอกบ้าง


ถามเยอะไปรึเปล่าคะ คือ หนู จะไปหาอ่าน
ก็ไม่รู้จะอ่านทำความเข้าใจ อันไหน เยอะ ไปหมด
แฮะๆ

 

เคยเล่นแร่ แปรธาตุไหม ^^

 

ยังไงครับ ไม่เข้าใจ เล่นแร่แปลธาตุครับ
ถ้าจับใส่ปากแล้วอึออกฉี่ออก เหงื่อออก หายใจออกพอได้ครับ

 

" หลักๆแล้ว เราเอา กาย มาพิจารณา
ตีแตกด้วยธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้
เหมือน มองให้เห็น สิ่งที่ติดแน่น กายที่ห่อหุ่มจิตใว้
กายที่เรียกว่า ผู้หญิง
กายที่เรียกว่าผู้ชาย
กายที่เรียกว่าเด็ก
กายที่เรียกว่า คนชรา
กายที่เรียกว่าคนป่วย
การที่เรียกว่าคนสวย คนหล่อ คนน่ารัก

เมื่อหลายวันก่อน มณีนั่งฟังเพลง (เกาหลี ชอบ )
แล้วหลงว่าตนเองเป็น หญิง ต้องชอบ ผู้ชาย
มัน แว๊บ สงสัยขึ้นมาเหมือนติดจรวดว่า

เอ๊ะๆๆ.....ทำไมเราต้อง หลง ชอบ ผู้ชาย
ในเมื่อ จิต ไม่ได้แบ่งเพศ
เพียงมันซึมซับ กายนอกที่ครอบอยู่
มันเรียนรู้ ซึมซับ มาตั้งแต่ เกิด เรียน รู้กาย ว่าเป็น ญ
เรียน รู้กาย ว่าต้องรักสวยรักงาม
เรียนรู้กาย ว่า จะต้อง ทำแบบไหน อย่างไร

อยู่ๆ มัน เหมือน นั่ง อยู่ สิ่งที่ ห่อหุ้ม สองชั้น คือ เนื้อหนังที่เรียกว่ากาย
และเสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่มห่อหุ้มกาย อีกชั้น

อัยยะๆ

 

ในธาตุที่เด่นชัดในปัจจุบันที่ปรากฏ มีธาตุอีก ๓ ธาตุประชุมอยู่

เรารู้เป็นสัจจะก็พอครับ นอกนั้นส่วนเกิน ^^

เห็นแย็บมาเรื่องรักษา ถือว่าเข้าใจผิดก็แล้วกัน

 

พิจารณาสิ ตรงไหนที่เป็นหญิง ตรงไหนที่เป็นชาย

สัญญาใช่ไหม ว่าลักษณะอย่างนี้นี่คือหญิง ลักษณะอย่างนี้นี่คือชาย

ที่จริงเป็นก้อนธาตุถูกไหม


อย่างมองกิ้งก่า เรารู้ไหมว่าตัวผู้ ตัวเมีย ก็ไม่รู้ ถูกไหม

 

ผมเองเจตนาจะเห็นว่า การปฏิบัติมาจษะผ่านการสำคัญว่า บังคับกายได้ มีกำลังพิเศษ
ก็ต้องผ่านตรงนี้ไป 0.01

 

อาหาร ๔

อาหารอารมณ์

อาหารจิต

 

นั้นแล เห็นเป็นตัวตน สั่งได้ขึ้นมา

ปล่อยให้เป็นไปตามธรรม จะได้เข้าใจธรรมชาตินั้น เมื่อวางเป็น ^^

 

ธาตุไหนขาด เติมธาตุนั้น ใช่มั้ยคะ

 

พิจารณาด้วยความไม่เที่ยง ไม่ใช่เราครับ

ความรู้แบบนี้เป็นปัญญา

ถ้าชอบดูแลตัวเอง ศึกษาเรื่องอาหาร วิตามินอันเกิดจากอาหาร และสมุนไพรน่าจะดี

มันมีฤิทธิ์ เป็นร้อน เป็นเย็น อะไรก็ว่ากันไป ^^

 

ท้ายสุด มันก็ แค่ ธาตุ

อัยยะ

 

อ่ะอ่ะ

 

นั้นแล พิจารณากายในกาย ภายนอกที่พุทธองค์หมายถึง

 

คุณมนีน้อยๆ กรุณานำอย่านำรูปผมมาประจาน

ผมอับอาย ^^

 

อ้อ แต่ นั้น ก็เป็น สัญญา นะ แต่ สัญญา แบบ นี่ จะ วาง ได้ดีกว่า
ความเห็น อีก นั้นแหล่ะนะ ครับ

 

เคยสังเกตุ พวกกรรมฐานเปิดโลก กระแด่วๆ ไหม นั่นแหละ

การปรุงธาตุอย่างหนึ่ง คือ ทำสมาธิไปเห็นอะไรไหวๆ ปัีป จับหมับ
แล้วเพ่ง เพ่งไม่พอไปโน้มนำมันอีก พอมันตามคราวนี้ไหล คือชัก
มันในอารมณ์ข้างใน พอพาไปมันก็ตาม พอมันตาม เราก็ไป คราว
นี้เลื้อยลงกับพื้นกระแด่วๆ ไปแล้ว ไม่รู้เรื่อง เพราะ ขณะนั้น จิต
รับรู้แต่อาการไหวๆ เล็กๆ ที่เกิดขึ้น แล้วจิตจับต้องเพ่งอยู่ หัวโคก
โครม เลือดอาบ สมองไหล ก็ยังไม่เลิกกระแด่วเลย

อันนั้น พวกหนึ่ง

แบบรักษาโรค อันนี้ก็มี คือ เวลาเพ่งขมับ ยังไงเสียก็จะเห็นอาการ
ตึบๆที่ข้างศรีษะ คราวนี้เพ่ง เพ่งคืออะไร คือ เครียด เครียดแล้ว
ยังไง เส้นเลือดก็ปูดโปน ยิ่งปูดโปนก็ยิ่งเพ่งขมับ เอ จะมีพลังเม็ดตัด
ตอนจากดาวนาเม๊คหรืออย่างไร ก็เลย ยิ่งเพ่ง ยิ่งเพ่งก็ยิ่งเครียด ยิ่ง
เครียดก็ยิ่งงง ยิ่งงงก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งสูบฉีด โครม!! ลม
หัวฟาดพื้นไปแล้ว เส้นเลือดในสมองแตก

นี่ก็อีกพวกหนึ่ง

เอาเท่านี้ก่อน จะเห็นว่า หากโน้มไปผิด จะเกิดการ ปรุงตัณหาขึ้น
เมื่อตัณหากุมจิต ลมหายใจก็หยาบขึ้น ไม่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ระบบ
ภายใน สั่นไหว โคลงเคลง ยิ่งขึ้น ก็ลืมดูตัณหามันครอบ คิดว่า
กำลังพิจาณาธาตุ แบบนี้ก็จะตายได้ บ้าได้ เพราะ กายภาพทาง
สมองเสีย แลเส้นเลือดหัวใจมันเสีย ด้วยความที่ สติกล้าแกร่งเกินไป
ล้ำปัญญา(ใคร่ครวญ ไม่ประมาท) ล้ำศรัทธา(พระพุทธไม่มีอยู่นะตอนนั้น
ลองสังเกตุ ส่วนใหญ่จะเป็น พระเจ้าฯ กันตอนนั้น--เปิดโลกๆ )

 

^-^yimm:VO..................................