เจตสิกธรรมไม่มี หรือ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฐาณัฏฐ์, 26 ธันวาคม 2011.

  1. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    เกี่ยวกับอุเบกขาในความหมายว่า เลิก หยุด พิจารณานั้น คิดว่าถ้าเป็นเสขะบุคคล คงมีย่อหย่อนบ้าง ขึ้นอยู่กับสติ เท่าที่สังเกตุดู ถ้าว่างๆไม่มีอะไรรบกวนใจมันก็จะระรึกอยู่เสมอ

    เช่น มรณา ปฏิกูล แต่พอผลของการระรึกสัญญานั้นๆเกิดผลที่ยิ่งขึ้นไป เวลาระรึก มันก็จะมีระรึกข้ามไปที่ผลนั้นเลย เช่น ถ้าถึงอนิิจจัง ก็จะระรึงลงถึงอนิจจังเลย ไม่มาระรึกหยุดอยู่แค่ ปฏิกูล มรณา ..
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    สนใจประโยคนี้

    ถกกันเอาปัญญาได้ แต่ถ้าไปเที่ยบเคียงขี้ตามช้าง มันเกินวิสัย ^^
     
  3. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    เอาใจความสิ ผมว่า...หมายถึงถ้า อนิจจสัญญานั้น ไม่สามารถทิ้งความต้องการ(ความอยาก)ได้ ท่านจะไม่กล่าว ยืนยัน ใน อนิจจสัญญา นี้ว่าดีอย่างไร ทำให้กิเลสตัณหาน้อยลงอย่างไร...:cool:
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แจ่มๆ

    ขออนุญาติปรับเป็น ภาษาปริยัติ

    ปรกติเมื่ออบรมสมถะมาก่อน เมื่อมาเจริญอนิจจาสัญญา เมื่อเกิด พยาบาท
    วิตก หรือ วิหิงสาวิตก เกิดปะปนอยู่ จิตจะไหลเข้าสู่ สมถะภูมิ แต่ถ้ายังระลึก
    อยู่เสมอ ไม่หลงลืมสติ ยังกำหนดรู้อยู่ ถอยจากอุเบกขา(จิตที่ไหลเข้ากอง
    สมถะ ปุญญาภิสังขาร) มันก็จะแจ้ง อนิจจสัญญา อีกครั้ง

    ดังนั้น หากระลึก อนิจจสัญญาที่ข้ามเจโตวิมุตติได้ ก็เรียกว่า รู้เร็ว ไม่ต้อง
    อ้อมออกทุกขาปฏิปทา

    เมื่อมี ภาวนาอินทรีย์ กล้า ก็ระลึกมาที่ อนิจสัญญา ตัวนี้เลย เวลากระ
    ทบผัสสะ จิตจะวื๊บมาเลย แล้วให้ แลอยู่ ดูไปเรื่อยๆ ยังอีกไกล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็มัวแต่เกิด มานะ แทนที่จะยก ก็คิดว่า ไม่ใช่ฐานะ

    ไม่ลองชนดูบ้างหละ กลัวตัวสูญหาย ไม่เหลือผลงานที่กำไว้เหรอ
     
  6. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    ที่ยกอนิจจังมา มิได้หมายถึงระรึกอยู่ที่อนิจจังหรอกหนาพี่นิืวรณ์ หุหุ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ฮี้ ฮี้ ฮี้ จะบอกว่า ดูทุกขัง หรือ อนัตตา เหรอ

    หลวงตาบอกว่าไง หลวงตาบอกว่า เห็นอะไรในสามตัวนี้ ก็เห็นเหมือนกัน
    หมดนั่นแหละ

    การที่คนปรารภว่าเห็นอะไร มันจึงเกิดจาก อาสวะ อยากจะพูดว่า เห็นตัวนั้น
    ทางนั้น

    แต่ถ้าเข้าใจหลักการแล้ว ไม่ต้องไปแยก ไปแข่ง ไปแบ่งว่า "ข้าเห็นตัวนี้
    เฟ้ย ไม่ได้ดูตัวนั้นสักหน่อย" อะไรแบบนี้จะไม่มี เพราะในทางธรรม มัน
    เห็นพร้อมกัน

    การพูดว่าเห็นอะไร จึงขึ้นกับ ความพอใจที่จะหยิบบัญญัติมากล่าว ไม่เกี่ยว
    การสิ่งที่เห็น

    * * *

    แต่ถ้ามาถึงตรงนี้แล้ว พี่ชาติบอกว่า กูไม่เห็นอะไรทั้งนั้นในไตรลักษณ์

    ผมก็ร้อง อ้าว เป็นค้าง บ่าง ชนี หาผัวไป
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อ่ะอ่ะ


    การที่พุทธองค์ตรัส สมมุตติ ลาภสักการะ คำสรรเสริญ และ เรื่องอุเปกขา และเรื่องเป็นและไม่เป็นปฏิกูลนั้น

    มองว่าเป็นเรื่อง ตรัสถึงธรรมของ ภูมิอานาคามี

    คำว่า ลาภสักการะ คำสรรเสริญ เป็นเรื่อง ธรรม กามคุณ ๕

    คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่ยังยินดี หรือ ละความยินดีได้แล้ว

    คำว่า ปฏิกูล เป็นธรรมที่ปัญญาอบรม เห็นเป็นของไม่เที่ยง ไม่น่ารัก น่าใคร่

    ทีนี้ การเจริญไม่ถึง เป็นเรื่องการรู้ชัด รู้ทั่วในธรรมอนิจจัง



    เป็นแค่ความเห็นนะครับ ^^
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอ้า เอ้า เอาเข้าไป พอตี ภูมิจิตอรหันต์ ก็ ลดขั้นมาภูมิจิตอนาคามี

    ไม่อ่านหละครับว่า พระสูตรอะไร สัญญา7 การเจริญ สัญญา7อย่าง

    ทีนี้ คุณก็พิจารณาเอาสิว่า สิ่งเหล่านี้ สัญญา7 เหล่านี้ สงวน
    เอาไว้สอน ภูมิจิตอะไรบ้าง

    อนุญาติให้ลดขั้นได้จนถึง ต่ำสุด
     
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    พิจารณารูปประโยคสิ

    ทีแรก จะพิมพ์คำ ว่าอนาคามีขึ้นไป แต่คิดแล้ว ว่า ถ้าสูงขึ้นไป ไม่จำเป็นแล้ว เรื่อง ลาภยส กามคุณ :cool:

    ส่วนที่ต่ำกว่าอานคมี ลงมา ท่านก็ยังข้องกามอยู่ พึงเจริญ พึงทำให้ถึง

    ก้เข้าใจอย่างนี้นะ

    เพราะรูปประโยค ไม่พบการแสดงธรรมส่วนเหตุ


    อีกอย่าง วิสัยพรุพุทธองค์ ทรงตรัสธรรม ตามฐานะผู้ฟัง

    อยู่ๆจะตรัส อนิจังสัญญากับปุถุชน ย่อมไม่เข้าใจหรอก ^^
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อ้าวๆ ผลิกจากการ วิเคราะห์ กลับไปฟันธง เรื่อง พุทธวิสัย เสียแล้ว

    ก็เนี่ยะหน้า ผมก็บอกว่า ให้ไปยกดู อะไรที่ อาหลงว่าดี ก็เอาตัวนั้น
    แหละยกเป็น ทุกขสัจจ อย่างหนึ่ง ลองกำหนดุรู้ดู ดูให้มากๆ
    ( ทำไมกล้าบอกให้ยกเห็นทุกขสัจจอย่างหนึ่ง จะเป็นไปได้หรือ
    ก็ อาหลงถึงอรหันต์ยังหละ ถ้ายัง ทุกสิ่งที่มีอยู่ ยกเป็นทุกขสัจจได้
    หมดและ เขาเรียกว่า สัพโลเกภิรต )

    แล้วจะพบเลย "อาการ เมา ผงมาม่า" ที่เขาใช้ปรักปรำนักอภิธรรม
    บางจำพวก เนี่ยะ มันมีจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  12. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    มันก็เหมือนหลวงพ่อพุธท่านพูดนั้นแหละ
    จิตมันปฏิวัติตัวเอง

    ก็เมื่อจิตยังไม่รู้ภัยของลาภสักการะ
    เห็นว่าเป็นคุณเป็นประโยชน์กับตน
    พอเห็นเข้าก็ยื่นมือเข้าไปรับ

    ต่อเมื่อจิตปฏิวัติตัวไปเอง
    โดยเห็นว่าเป็นของปฏิกูล
    จิตก็ไม่ออกไปรับ

    ก็เหมือนเด็กเล่นไฟนั่นแหละ
    ไม่รู้ว่าไฟมันร้อนก็เอามือไปเล่นไฟ
    ไฟมันก็ลวกมือ
    แต่เมื่อเด็กโดนไฟลวกมือแล้ว
    รู้แล้วว่าไฟมันร้อน เกิดการปฏิวัติในความรู้แล้ว
    คราวหลังก็ไม่กล้าจับไฟ
    ก็เมื่อรู้แล้วนี่ว่าไฟมันร้อน

    ไม่ต้องถามหาภูมิไหนหรอก
    เมื่อทำเหตุให้พอ พิจารณาเป็นอนิจจสัญญาให้พอแล้ว
    จิตจะปฏิวัติไปเองแหละ
    ผลแห่งการพิจารณาจะเกิดเองนั่นแหละ
    ถ้าพิจารณาพอแล้ว
     
  13. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    วันก่อนเราคุยเรื่อง สัญญา มาก่อนญานใช่ใหมครับพี่หลง...จะว่าเป็นธรรมในธรรมก็ได้ในการพิจารณาสัญญานี้..จะผิดตรงใหน?...มรณะสัญญา อสุภสัญญา....ดูอย่างที่ พระองค์กล่าวฝากพระอานนท์ไปถึง พระคิริมานนท์ ที่อาพาธอยู่ พระองค์ก็ฝากสัญญา10ไปให้เพื่อพิจารณา(ธรรมในธรรม)เพื่อเป็นธรรมโอสถ...โดยควรแก่ฐานะ(ก็โดยควรแก่เรา)นะครับ...ผมว่าไม่จำกัดภูมิ:cool:
     
  14. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ก็ว่ากันตามเนื้อผ้า ไม่ได้มาขัดขาใคร

    ศึกษาธรรม บางทีต้องดูถึงต้นเรื่อง ว่าตรัสที่ไหนตรัสกับใคร แสดงธรรมอะไร ในเหตุการณ์ใด ^^

    เรื่องทุกขสัจจะ นั้น

    เจริญสติ ไปญาณ ก็เห็นได้ พิจาณากันได้ครับ

    ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไร มันเป็นเรื่อง มีเหตุ ก็ต้องมีผล

    คำว่า สัจจะ คือ ความจริง

    การเห็นธรรมจริงขณะที่เกิด นั่นแหละเห็นจริง ปรากฏจริง

    ทุกข ก็มันมีหลายอย่าง ก็ควรรู้ที่ลักษณะนั้นแหละ

    โพสเฮียดำรงค์ เมื่อวานสรุปได้กระชับ ที่ผมเห็นด้วยนั่นแหละ

    มันเป็นสเตป ^^
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    งืมๆ ตรงจิตหวลกลับ งอกลับ อะไรนี่ หากเปิดฉบับ บาลี

    จะเห็นคำว่า "ปฏิวัตติ" เป็นรากศัพท์แท้ ปรากฏอยู่
     
  16. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ต้องกลับมาอีก
    ถ้าคิดในแง่ว่า อุเบกขาสามารถเกิดร่วมกับอกุศลเจตสิกได้
    ขอให้ยกข้อความนี้ออกไปก่อน



    เพื่อกลับมาคุย อุเบกขาในอนิจจสัญญา(พระสูตร)ก่อน
    ขอให้ค้นพบความจริงกันต่อไป ราตรีสวัสดิ์
     
  17. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    ราตรีสวัสดิ์
     
  18. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    สัญญา10------อนิจจสัญญา อนัตสัญญา อสุภสัญญา อาทีนวสัญญา ปหานสัญญา วิราคสัญญา นิโรธสัญญา สัพโลเกอนภิรตสัญญา สัพสังขาเรสุอนิจสัญญา อานาปานสติ...................:cool:
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็อย่า สุกเอาเผากินสิคร้าบ มาทำทีว่า ก็แนะนำให้ศึกษา ต้องดูต้น
    เรื่อง

    ก็ อาหลงไปดูมาสิ ไปดูมาก่อน ไปดูแล้วค่อยมาพูด

    แต่ไม่ใช่ไม่ได้ดูอะไรเลย พูดว่าจะ ว่าจะ แล้วก็ไม่ลงมือกระทำอะไรเลย

    แต่ไอ้สิ่งที่แนะนำนี่ หากตัวเอง ผ่านมาก่อน ทำมาก่อน ไปดูมาก่อน
    แล้วว่า ตรัสที่ไหน อย่างไร กับ ใครบ้าง กล่าวเป็นอเนกอนันต์ จำนวน
    มากแค่ไหน ก็จะพึงทราบ แล้ว ไม่มา อ้างว่า ต้องศึกษาใด้ดีก่อน

    ก็เอาตัวเองนั่นแหละไปศึกษามาก่อนเลย แล้ว มาสรุปให้เพื่อนฟัง ยังดีเสียกว่า

    แล้วไม่เอานะ สุดท้ายไปศึกษามาแล้ว ก็ ยกมานะอีกตัวว่า

    อ๋อ นั่นปุถุชนสมัยพุทธกาล เขาเลยฟังได้ !!!!
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    คำตอบเขากระชับดีนะ ^^

    แบ่งกิจสัญญาเป็น ๒ ส่วน

    ส่วนแรก เข้าไปเห็นรู้ทั่ว ประจักษ์แก่จิตแล้ว

    ส่วนสอง เป็นเรื่องระลึกได้บ่อย และรวดเร็วขึ้น เมื่อธรรมปรากฏ ^^

     

แชร์หน้านี้

Loading...