เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

รายการที่ ๗ พระนักธรรม

ตามรูปตามสภาพครับ เอาใจแฟนบ้านเหรียญบินครับ

เปิดราคา ๑ บาทครับ

 

รายการที่ 7 เปิดให้299 ครับ

 

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา ตอน ๒ใน๔

ชีวประวัติของ
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินธรมหาเถร) ตอนที่ ๒ ใน ๔
ชาตะ วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ.๒๔๔๘ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง ในรัชกาลที่ ๕ บ้านตำบลคลองสะแก อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในตระกูลชาวนา โยมบิดาชื่อฟุ้ง พรายภู่ โยมมารดาชื่อ กัง พรายภู่ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๓ คน คือนายฟอง พรายภู่ เจ้าประคุณสมเด็จ และนายฟ้อย พรายภู่ ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่วัดขวิด ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็นวัดทองทรงธรรม อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ฝั่งตรงข้ามกับที่บ้านโยมบิดา มารดา โดยเป็นการเรียนหนังสือกับพระตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ เมื่ออายุ ๑๔ ปี พ.ศ.๒๔๖๒ ได้เดินทางเข้า กรุงเทพฯ พร้อมกับเด็กชายฟ้อย น้องชายอยู่กับพระสละ หรือสระ ซึ่งเป็นคนบางเดียวกัน ณ วัดอนงคาราม เรียนบาลี ที่วัดอนงคาราม กับพระมหาลิ้ม ต่อมา พระสละ ย้ายมาอยู่ที่วัดสามพระยา เจ้าประคุณสมเด็จกับเด็กชายฟ้อยน้องชาย ก็ได้ย้ายตามมาอยู่ที่วัดสามพระยาด้วย มาเรียนอยู่กับพระสมุห์ฟองและพระมหาเทพ ขอย้อนกล่าวถึงชีวิตเมื่อเยาว์วัยของเจ้าประคุณสมเด็จ ซึ่งท่านได้นิมนต์ไว้ เป็นคำนำในหนังสืออนุสรณ์งานฌาปนกิจศพ คุณแม่กังพรายภู่ โยมมารดาของท่าน เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๐ ณ เมรุลอยวัดสามพระยา ขอคัดมาเป็นบางตอนดังนี้ “ในระยะเวลาที่ลูก ๆ ยังเล็ก ชาวบ้านทั่วไปที่นิยมให้ลูกของตนเรียนหนังสือมีน้อยมาก ในสมัยที่ข้าพเจ้าอยู่วัดที่บ้านเพื่อเรียนหนังสือ มีเด็กวัดอยู่เรียนหนังสือไม่เกิน ๒๐ คน และในบางปีเท่านั้น จะมีถึง ๒๐ คน โดยปรกติมี ๑๒-๑๕ คน เป็นพื้น ทั้ง ๆ ที่หมู่บ้านตำบลคลองสะแก มีจำนวนหลังคานับร้อย เขานิยมเอาลูกไว้ช่วยทำมาหากินหรือให้รับจ้างผู้อื่น ในแถวบ้านนั้นเอง การที่จะนำลูกไปฝากวัดเรียนหนังสือกับพระภิกษุ ดูเป็นนของไมม่จำเป็นแต่โยมแม่ของข้าพเจ้าเห็นตรงกันข้ามการนำลูกไปฝากวัดให้เรียนหนังสือเป็นของจำเป็น และได้พูดดัง ๆ แบบขวานผ่าซากโดยไม่ต้องนึกว่า “ใครจะโกรธใครจะเกลียดว่าใคร ไม่ให้ลูกเรียนหนังสือนั้นโง่ ตนเองโง่ยังไม่พอ ยังพลอยให้ลูกโง่อีกด้วย “ ข้าพเจ้าคุยได้เต็มปากว่า ในตำบลที่บ้านข้าพเจ้าเกิดนั้น จะมีแต่ที่บ้านข้าพเจ้าเท่านั้นที่โยมแม่นำลูกทุกคนไปฝากวัดเพื่อเรียนหนังสือและมิใช่หยุดยั้งแต่เพียงนั้น ยังส่งลูกให้มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯทุกคน แต่ให้มาเรียนในทางพระ ทั้ง ๆ ที่โยมแมม่เป็นชาวนาโดยกำเนิด นอกจากจะส่งลูกให้มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯแล้ว ยังส่งหลานคือลูกของน้องชายให้มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เป็นรุ่นที่ ๒ อีกในขณะที่ข้าพเจ้าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อเรียนหนังสือต่อไป โยมแม่ได้สั่งสอนข้าพเจ้าถึงเรื่องเกี่ยวกับการมาเรียนต่อ โดยแม่บอกว่า”ไม่มต้องเป็นห่วงแม่ แม่ทำมาหากินเองได้ และสามารถที่จะส่งลูกให้เล่าเรียนศึกษาได้ ขอให้ลูกขยันเรียนให้สำเร็จ อย่าให้อายชาวบ้านเขา ลูกอย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายจำเพาะที่จำเป็น เงินที่แม่ส่งเสียลูก ขอให้ลูกจำคำแม่ไว้ ถึงอย่างไร ๆ แม่ของลูกก็เชื่อว่าลูกของแม่จะต้องเรียนสำเร็จแน่ “ ตามที่โยมแม่สอนข้าพเจ้าเช่นนี้ คงจะแว่วมาในขณะที่มีข่าวลือว่าข้าพเจ้าจะมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ มีคฤหัสถ์ชั้นผู้ใหญ่หลายคนที่คุ้นเคยกับหลวงพ่อคืออาจารย์ข้าพเจ้า พูดให้ข้าพเจ้าได้ยินทีเดียว คนอย่างข้าพเจ้าซึ่งซนอย่างยิ่ง จะเรียนสำเร็จได้อย่างไร มันคงไปซนที่กรุงเทพฯอีกตามเคย ความจริงข้าพเจ้าเองเมื่ออยู่วัดที่บ้านเกิด ซนเอาการอยู่ ที่ผู้ใหญ่พูดทำนองคาดคะเนนั้น เป็นการพูดตามสาเหตุ คงมิใช่มุ่งประมาทหมิ่นข้าพเจ้าโดยไร้สาเหตุ” อีกตอนหนึ่ง ที่เจ้าประคุณสมเด็จเล่าถึงการที่ต้องพายเรือขายของกับโยมแม่”ขายของแม่เอ๊ย”
“ในปี พ.ศ.๒๔๖๐ เกิดอุทกภัยร้ายแรง เฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาข้าวในนาจมน้ำเสียหายเป็นส่วนมากที่สุด เฉพาะในตำบลบ้านข้าพเจ้าแล้ว จะไม่เห็นต้นข้าวเลย เห็นแต่น้ำกับฟ้าเท่านั้น ข้าวยากหมากแพงเกิดตามมา” ในปีนี้ โยมแม่ต้องประกอบการค้าขายไปในที่ต่าง ๆ ในเขตจังหวัดพระครศรีอยุธยา โดยอาศัยเรือมาดม้าเป็นพาหนะโยมแม่แจวท้าย ข้าพเจ้าพายหัวในชีวิตของโยมแม่ไม่เคยค้าขายเลยคราวนี้เป็นครั้งแรก เพราะจำเป็นต้องหาเลี้ยงแม่(แม่โต) เลี้ยงพี่สาวและลูก ตลอดถึงเจือจานครอบครัวของน้าชาย (น้าทองหล่อ) ที่น่าขำที่สุดนั้นคือ ทั้งโยมแม่และข้าพเจ้าร้องขายของไม่เป็น ทั้ง ๆ ที่คำร้องขายของไม่ยากเย็นอะไร เมื่อแจวเรือไปในที่ว่างบ้านและผู้คน โยมแม่ให้ข้าพเจ้าหัดร้องขายของว่า “ขายของแม่เอ๊ย” ความก็เท่านี้ ข้าพเจ้าร้องขายของได้แต่พอถึงถิ่นบ้านผู้คน ข้าพเจ้าร้องไม่ออก รู้สึกอย่างไรก็ไม่ทราบ ข้าพเจ้าเกี่ยงให้โยมแม่ร้องขายโยมแม่ก็ร้องไม่ออกเช่นเดียวกัน มันน่าขำอยู่มิใช่น้อยการค้าขายครั้งนี้ สำหรับข้าพเจ้ารู้สึกสนุกปนกับความลำบาก ราว ๖-๗ วัน จึงนำผลกำไรมาซื้อข้าวปลาอาหารส่งไปขายที่บ้านเสียครั้งหนึ่ง ค้าขายอยู่ประมาณ สองเดือน ฯลฯ”
จากนิพนธ์ข้างต้น เราได้รับความรู้ว่าเจ้าประคุณสมเด็จฯสมัยเมื่อเป็นเด็กเคยพายหัวเรือเร่ขายของกับโยมมารดา และเคยหัดร้อง “ขายของแม่เอ๊ย “ คงไม่มีใครในครั้งนั้น ที่จะคาดคิดว่าเด็กที่ร้อง “ขายของแม่เอ๊ย” จะได้รับบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ศึกษาพระปริบัติธรรมสอบได้เป็นเปรียญ ๙ ประโยค เป็นสมภารเจ้าวัด เป็นเจ้าคุณ กระทั่งได้รับสถาปนาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่ “สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์”

 

รายการที่ ๘

พระนักธรรม ตามรูป ตามสภาพครับ

สรรพคุณไม่ต้องบรรยายซ้ำน่ะครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
การประมูลรอบนี้แรงจริงๆครับ

 

โมทนาบุญด้วยครับท่าน ที่น้ำไม่ท่วมเป็นห่วงท่านอยู่ วัดนี้ตอนบูรณะใหม่ ๆ เราเรียกกันว่า วัดโคกแก้ว ตอนหลัง ไม่ทราบเจตนาของท่าน เปลี่ยนเป็นวัดบางประทุน อย่างที่ท่านว่า หลวงพ่อสวย เป็นพระธุดงค์ จอมขมังเวทย์ อยากฟังเรื่องราว มหัศจรรย์ ลึกลัีบ พิศดาร ก็ไปคุยกับท่าน และลองถามท่านว่า พระที่ท่านสร้าง "ฤกษ์เศรษฐี ๑๗ เมษายน ๒๕๔๓" ที่ได้่นำไปให้่หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ ปลุกเสก หมดแล้วหรือยัง ถ้ายังรีบเก็บเอาไว้เลย และ ๑๕-๑๘ พ.ย.๕๔ ข้าพเจ้าจะไปทำงานแถว พบพระ จ.ตาก จะแวะไปทำบุึญค่าน้ำ ค่าไฟ วัดนี้ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า กันหลายรอบเกือบ ๑๐ ปี กว่าจะเห็นเป็นปัจจุบันนี้ แต่ยังไม่สมบูรณ์ดี บังเอิญได้เก็บซากเก่าสมัยทอดผ้าป่้าเรี่ยไร สร้างโบสถ์บ้าง ซื้อที่ดินบ้าง เอามาให้ดู เป็นขวัญตา จะได้หายข้องใจ
รูปขนาดเล็ก

 

เคยอ่านเอกสารข้อความที่เกี่ยวการคัดเลือกพระที่จะมาดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๙ (ปัจจุบัน) มีข้อความเกี่ยวกับสมเด็จฯ วัดสามพระยาด้วย ทราบว่าสมเด็จฯท่านเป็น ๑ ใน ๓ ของผู้มีสิทธิ์ที่จะได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช เพราะพร้อมด้วยวัยวุฒิ(พรรษา) และคุณวุฒิ(ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะชั้นสูง) แต่สมเด็จฯท่านปฏิเสธโดยมีหนังสือแจ้งไปยังสำนักพระราชวังว่า สมเด็จฯท่านขอสละสิทธิ์ในการขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชโดยให้เหตุผลว่าชราภาพและสุขภาพไม่เอื้ออำนวย เกรงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่เบื้องลึกสมเด็จฯท่านคงทราบว่า เบื้องบนได้กำหนดไว้แล้วว่าผู้ใดที่มีบุญบารมีในการดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชคู่บารมีของในหลวง จึงปฏิเสธไม่รับ และมีพระราชาคณะอีกรูปหนึ่งที่พร้อมด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิที่เหมาะสมก็ได้ทำหนังสือแจ้งขอปฏิเสธเช่นกัน แต่รูปนี้ผมจำไม่ได้ว่าใคร

พระอย่างนี้กราบได้สนิทใจจริง ๆ ครับ สาธุ ๆ ๆ

 

รายการที่ 6. พระนักธรรม..999.- บาทครับ

 

ขอโมทนาสาธุด้วย ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง เท่านี้ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว

 

รายการที่ ๙ พระนักธรรม

ผมลงไปแล้วหาย เลยต้องลงอีกที สภาพตามรูปน่ะครับ พระนักธรรมมนี่จะลงเป็นชุดสุดท้ายน่ะครับ ตามคำเรียกร้องจากแฟนในเว็บและทางบ้านน่ะครับ

เปิดราคาที่ ๑ บาทครับ

 

799 บาทครับ

 

รายการที่9. 999.-

 

ในสมัยเมื่อเป็นยาม คอยรักษาความปลอดภัยให้กับหลวงพ่อฤาษีัลิงดำ ที่ซอยสายลม มีญาติโยมท่านหนึ่งถาม คำถามหลวงพ่อฤาษีว่า ในปัจจุบันจะยังมีพระที่ทำบุญได้อย่างสนิทใจ หรือไม่ พระที่ไปแล้วไม่กลับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้เมตตา แนะนำเอาไว้ ๔ องค์ ก่อนหน้านี้จำได้หมด แต่พอนานเข้าลืมไปหมด จำได้อยู่องค์เดียว ชื่อหลวงปู่เกี่ยว วัดสระเกศ ท่านเมตตาไปที่สำนักแม่ชี ประทุม เป็นประจำ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านได้ไปเป็นประธาน เททอง ที่สำนักแม่ชี ขณะที่ท่า่นอยู่ใน ประรำพิธี แดดดออกมาจ้า และร้อนมาก พอท่านเดินทางออก ก็มีเมฆมาบดบัง พอท่านเข้่าไปทักทาย พระ และญาติโยม ในประจำพิธี แดดก็ออกมา พอท่านออกมานอกประรำพิธี ทำท่าจะกลับ เมฆก็มาบดบังแสงแดด หุบเข้า หุบออกประมาณ ๓๐ นาที หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านบอกว่าหลวงปู่เกี่ยว องค์นี้ ไปแล้วไม่กลับ

 

ที่ประมูล ก็ประมูํลกันไปนะครับ เหนื่อยนัก ก็พักยก ฟังนิทาน ฟังประวัติศาสตร์เก่า ๆ ประดับวาสนา บารมี

 

มารอฟังเรื่องราวจากพี่ช้างครับ

 

พระชุดที่ ๓ ส่งไปให้เจ้าของแล้วน่ะครับ

จากตะวันออก ยันทิศใต้ ( ใต้ กทม ...แหะๆ ) จำนวน ๕ ท่าน มีจากทางบ้าน ๑ คนครับ

ตามสลิปที่แนบมา ส่ง EMS ไปตอนบ่าย แต่ตอนนี้ EMS ช้า อาจจะสอง สามวันน่ะครับ

 

สรุปราคาตอนนี้ครับ
รายการที่ 1 ตะกรุดโสฬส วัดมอญ plamp256 ประมูล 9999 บาท #31766
รายการที่ 2 ตะกรุดมหาจักรเนื้อทองแดง mmax ประมูล11111บาท #31769
รายการที่ 3 เหรียญจอบเศรษฐีใหม่ พิมพ์ยอดธง vavakoko ประมูล 2999 บาท #31775
รายการที่ 4 เหรียญจอบ เศรษฐีใหม่ พิมพ์มีห่วง vavakoko ประมูล 3333 บาท #31778
รายการที่ 5 เหรียญจอบ เศรษฐีใหม่ พิมพ์มีห่วง mmax ประมูล 1999 บาท #31782
รายการที่ 6 พระนักธรรม พิมพ์หนาพิเศษ romeget ประมูล 999 บาท #31791
รายการที่ 7 พระนักธรรม mmax ประมูล 299 บาท #31784
รายการที่ 8 พระนักธรรม G.sis.t ประมูล 299 บาท #31788
รายการที่ 9 พระนักธรรม Jiroman ประมูล 999 บาท #31795

 

ขอบคุณมากครับ เห็นภาพเลยครับ

 

แหะ แหะ ว่างครับช่วงนี้ ตกงานน้ำท่วม กลับโรงงานไม่ได้รอไปหาลูกพรุ่งนี้ที่โรงพยาบาล

 

ลูกเป็นอะไรครับ