พระเครื่องวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง(แท้ ดูง่าย)

รายการที่ 227 ตะกรุดกระดาษสา หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว


ปฐมบท
หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พระบรมครูแห่งลุ่มน้ำท่าจีน นครชัยศรี เจ้าตำรับผงยาจินดามณี ผู้สร้างเบี้ยแก้อันโด่งดังลือลั่น

สุดยอดแห่งความหายาก
สืบเนื่องมาจากในสมัยโบราณนิยมจารอักขระคัมภีร์โบราณลงบนใบลานและกระดาษสา ตะกรุดกระดาษสาเป็นตะกรุดในยุคต้นที่หลวงปู่ฯท่านสร้างไว้ จำนวนการสร้างน้อยมาก เพราะกรรมวิธีการสร้างพิถีพิถันแสนยากลำบาก เรียกสูตรลงอักขระตามตำรับโบราณจารย์ ปลุกเสกตามฤกษ์ยามที่หลวงปู่ท่านกำหนด
พุทธคุณ
ครอบจักรวาล เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย เสริมบารมี คุ้มครองแถล้วคลาดภัยอันตรายทั้งปวงฯ




ตะกรุดกระดาษสา หลวงปู่บุญ
บูชา ๓๒๐๐ บาท
ปิดรายการ
โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7<!-- google_ad_section_end -->

 

รายการที่ 228 ตะกรุดหน้าผากเสืิอ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม



ปฐมบท
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม พระเกจิในอดีตผู้สร้างกุมารทองโด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุด มีราคาแพงที่สุดในประเทศไทย ผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาสร้างกุมารทองแก่ศิษย์เอก คือหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม หลวงพ่อเต๋ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก พระเกจิจอมขมังเวทย์แห่งเมืองนครปฐม ต่อมาศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติ่มกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ปรมาจารย์บรมครูผู้สร้างกุมารทอง หลวงพ่อเต๋ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบ เช่น พิรอดแขน ตะกรุดสามห่วง ตะกรุดหน้าผากเสือ ผ้ายันต์ ปลาตะเพียนเงิน-ทอง ตะกรุดโทน ตะกรุดสาลิกา สีผึ้ง และกุมารทอง ฯลฯ แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้

วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านจนทุกวันนี้ คือ กุมารทอง ส่วนตะกรุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ตะกรุดสามห่วง เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า ตะกรุดมหารูด ในยุคต้นจะสร้างด้วย ตะกั่ว หรืออลูมีเนียม เงิน ทองแดง ขึ้นอยู่กับวัสดุของผู้ที่ต้องการนำมาให้ท่านสร้าง ตีแผ่เป็นแผ่นแล้วลงจารอักขระ ปลุกเสกแล้วม้วนเป็นตะกรุด ประมาณ 4-5 ชั้น ยุคต่อมาใช้ กระดาษถุงปูนซีเมนต์ลงจารอักขระ นำมาม้วนด้วยก้านตาล เมื่อนำไปปลุกเสกแล้วจึงนำมาถักด้วยเชือกกระสอบ ทายางไม้หรือทารัก ซึ่งแล้วแต่จะหาวัสดุได้ ยุคสุดท้ายจะถักด้วยเชือกไนล่อน ใช้หนังหน้าผากเสือหรือหนังเสือ หรือใช้ผ้าแดงและผ้าขาว ถักเชือกสามหู เป็นที่มา "ตะกรุดผ้าแดง" เล่ากันว่า ตี๋ใหญ่ใช้ติดตัวด้วย สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกตะกรุดสามห่วง คนที่ได้ไปจะต้องลองยิงก่อนที่แถวหลังวัด เมื่อแน่ใจแล้วจึงนำไปแขวน สำหรับตะกรุดหลวงพ่อเต๋ ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนแบบไหน ใช้ได้ทั้งนั้นสุดยอด ตะกรุดสามห่วง มีประสบการณ์มากมาย ทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง จนมีสมญานามเป็น "เจ้าตำหรับตะกรุดสามห่วง"
ตะกรุดหน้าผากเสือ
หน้าผากเสือ ดีทางมหาอำนาจสูงมาก ดังนี้
1. เป็นเจ้าป่า มีตบะเดชะมหาอำนาจ แค่เพียงกลิ่นสาปเสือโชยไปกระทบสัตว์อื่นเป็นต้องหวาดกลัว
2. ถึงแม้เสือจะเป็นสัตว์ที่ดุและน่ากลัวแต่คนก็อยากเห็นและอยากเจอเสือ ข้อนี้ท่านว่าเป็นเมตตามหานิยมครับ
3. หากินคล่องไม่มีฝืดเคืองเรื่องอาหาร

ตะกรุดหน้าผากเสือ เป็นของทนสิทธิในตัวมีทั้ง เมตตามหานิยม พลังมหาอำนาจ และแคล้วคลาด ท่านฯปลุกเสกด้วยมนต์หัวใจพฆัคฆ์ จึงมีความเข้มขลังด้วยอำนาจแห่งพญาเสือเจ้าป่า ทำให้ขนเสือยาวขึ้นเรื่อยๆ
พุทธคุณ
เด่นทางด้าน มหาอำนาจ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย กันคุณไสย กันภูตผีปีศาจ และ เมตตามหานิยม
คาถาปลุกตะกรุด
ตั้ง นะโม 3 จบ อุทธัง อัทโธ ปัดนะ นะโมพุทธายะ นะแคล้ว โมคลาด พุทธปัด ธาปิด ยะมิถูก นะสันตะรันโตผิด โสอิกะวิติภา

วิธีการใช้ตะกรุด
เป็นมหารูด 1.เวลาสู้ ให้รูดตะกรุดไว้ด้านหน้า
2.เวลาหนี ให้รูดตะกรุดอยู่ด้านหลัง
3.ใช้เป็นเมตตาหาผู้หญิง ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างซ้าย
4.ใช้เป็นเมตตาหาเจ้านาย ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างขวา



ตะกรุดหน้าผากเสือ
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
บูชา ๔๕๐๐ บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 229 ตะกรุดพิศมร หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย สมุทรสงคราม



ปฐมบท
หลวงพ่อแก้ว เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองสมุทรสงคราม ท่านสำเร็จญาณวิเศษ สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆ ได้ทั้งปัจจุบัน อดีต และอนาคต ท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่อง ตะกรุดพิศมรใบลาน เหรียญ ผ้ายันต์ และลูกอม เลื่องลือที่สุดในด้านมหาอุตม์คงกระพันชาตรีเป็นเลิศที่สุดในปัจจุบัน จน เจ้านายหลายพระองค์ได้แวะมากราบนมัสการท่าน ถึงเมืองสมุทรสงคราม อาทิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ฯลฯ มีเรื่องเล่ากันว่า ข้าราชการอยู่ที่สมุทรสงคราม เมื่อต้องเข้ามาทำธุระในกรุงเทพฯ ถ้ารู้ว่ามาจากสมุทรสงคราม เป็นต้องถูกถามหาของฝากเป็นตะกรุดพิศมรใบลานของหลวงพ่อแก้ววัดพวงมาลัย เสียทุกเที่ยวไป
ที่มา คำว่า "พิสมรวัดพวงมาลัย"
สุดยอด ๙ เครื่องราง-ของขลัง ทรงคุณค่า เป็นโคลงคำกลอนดังนี้ ....

"หมากดีที่วัดหนัง เบี้ยขลังวัดนายโืรง ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์ มีดบินวัดหนองโพธิ์ พิสมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะฯ เเหวนอักขระวัดหนองบัว ลูกเเร่ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน "
เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาเเพ้วพาน"
อุปเท่ห์ในการสร้าง
ตะกรุดพิศมร หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า “ตะกรุดบังปืน” สมัยนั้น ถ้าผู้มีความประสงค์จะมาขอให้หลวงพ่อแก้ว ทำตะกรุดพิศมร ผู้ที่ต้องการได้ตะกรุด จะต้องไปตัดใบลานเฉพาะเจาะจงที่ ตำบลบังปืน เท่านั้น หากไม่เป็นไปตามที่หลวงพ่อท่านกำหนดไว้ ท่านจะไม่ลงให้เด็ดขาด สาเหตุ ที่ต้องใช้ใบลานปากคลองบางปืน หลวงพ่อแก้ว บอกว่าเพราะชื่อ "บางปืน" ที่กร่อนเป็น "บังปืน" ให้ความหมายในการข่มนาม ใช้ชื่อในการสะกดลงอักขระเลขยันต์ เพื่อบ่งบอกให้ เทพ เทวดา ฟ้าดิน ได้รับรู้ว่า ของของท่านใช้ดีทางไหน
ตะกรุดพิศมร

ชื่อเสียงอันโด่งดังของตะกรุดพิศมรเป็นที่เลื่องลือทั่วฟ้าเมืองไทย สมฉายาว่า "ตะกรุดพิศมร ถอนไม่ได้" เพราะพุทธคุณความเข้มขลังของตะกรุดพิศมร ที่มีความศักดิสิทธิ์จนเป็น ที่เลื่องลือ ไม่มีเวทย์มนตราใดหรืออาวุธศักดิสิทธิ์ใดจะมาถอดถอนให้ตะกรุดพิศมรเสื่อม คลายความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ได้ จึงเป็นที่เลื่องลือจนถึงทุกวันนี้
คาถาอาราธนา
ตั้งนะโม ๓ จบ
เอา ตะกรุดจบที่หน้าผาก แล้วว่าคาถา ดังนี้ "ภูภิ ภูภะ อะมิ อุทถัง อัดโธ นะโมพุทธายะ" เมื่อคาดเข้าติดตัว ให้ว่าคาถาเวลาผูกปมเชือก ดังนี้ "ภูภิ ภูภะ อะมิ มิมังกายะพัทธนัง อธิษฐานมิ"

ตะกรุดพิศมร หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย เป็นตะกรุดที่ชายไทยต้องมีไว้ติดตัว เป็นประโยคที่พูดติดปากกันมานาน เพราะอานุภาพของตะกรุดนั้นมีมากจริงๆ ทั้งกัน ถอน แก้มีอยู่ในตะกรุดของหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ชื่อเสียงอันโด่งดังของตะกรุดเป็นที่เลื่องลือทั่วฟ้าเมืองไทย เพราะพุทธคุณความเข้มขลังของตะกรุดนั้น มีความศักดิสิทธิ์จนเป็น ที่เลื่องลือ ไม่มีเวทย์มนตราใดหรืออาวุธศักดิสิทธิ์ใดจะมาถอดถอนให้ตะกรุดนั้นเสื่อมคลาย ความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ได้ จึงเป็นที่เลื่องลือจนถึงทุกวันนี้

พุทธคุณ
สุดยอดแห่งมหาอุตม์กันปืน เมตตามหานิยม แคล้วคลาดภัยอันตราย



ตะกรุดพิศมรหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย
ราคาพิเศษ 5000 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

ตะกรุดพิศมร..สุดยอดครับ

 

รายการที่ 230 ปลัดฯดันดะ หลวงปู่ฟัก วัดนิคมประชาสรรค์

ปฐมบท
ท่าน เป็นศิษย์ของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองบางครก พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างพระขรรค์เขาควายเผือกที่โด่งดังทั่วฟ้าเมืองไทย หลวงพ่อฟักท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ผู้เสกปลัดขิกบินได้ ปลัดขิกของท่านมีความเข้มขลังไม่แพ้พระเกจิอาจารย์ยุคเก่า

กรรมวิธีการสร้าง
ปลัดฯของท่านแกะจากไม้ดำดง ท่านลงอักขระ "นะหิ หะหุ จะฉะ ดันดะ" (คนทำของเก๊ไม่กล้าลง เดี๋ยวเป็นบ้า) ท่านลงหัวใจท้าวเวสสุวรรณ เจ้าแห่งภูติผีปีศาจ ที่ลำตัว "เวสสะพุสะ" ผีเจอก็กระเจิง และลงหัวใจเกราะเพชร "ภูตากังเก" และหัวใจนวหรคุณ "อะสังวิสุโลปุสะพุภะ" และหัวใจพาหุงฯ(พระพุทธเจ้าชนะมาร) "พามานาอุกะสะนะทุ" และหัวใจเสฎฐัน "เสพุเสวะเสตะอะเส" (อยู่ในบทเสกของยันต์ตรีนิสิงเหฯ) และหัวใจกรณียเมตตาสูตร "เอตังสะติง" อานิสงส์มีถึง ๑๑ ประการ เช่น นอนเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ล่วงพ้นจากยาพิษ แคล้วคลาดจากศาตราวุธทั้งปวง และหัวใจมหาอุด "อุทธัง อัทโธ" ย่อมาจากบทกรณียเมตตาสูตรนี้เช่นกัน สุดยอดทั้งเมตตาทางผู้หญิงเน้นๆ และกันผี อักขระโดยรวมทั้งหมดครอบจักรวาล
ประสบการณ์
เรื่องราวประสบการณ์ของคุณพ่อพลายแก้ว เมื่อประมาณปี 2525 ผมได้รู้จักกับหลวงปู่ฟัก เนื่องจากอาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมของผม เป็นลูกศิษย์ของท่าน ได้จัดผ้าป่าสามัคคีสร้างโบสถ์ โดยผู้บริจาคปูน จะได้รับปลัดขิก 1 ตัว ราคาประมาณ 3500 บาท สมัยนั้นถือว่าแพงมาก ท่านได้มอบมาให้ผมคาดติดตัวตลอด หลังจากนั้นผมได้ไปต่างจังหวัด และได้ติดเชื้อไข้ป่ามาทำให้เป็นไข้นอนอยู่ที่บ้านชั้นบน ไปไหนไม่ไหวเลย มีอยู่คืนหนึ่ง ผมนอนหลับ รู้สึกได้ยินเสียงมโหรีเล่นอยู่ที่บริเวณนอกบ้านหน้าบ้านของผม ผมเลยเปิดหน้าต่างออกไปดู เห็นคนกวักมือเรียก ก็เลยลงไป ปรากฏว่า ไอ้คนที่เห็นเมื่อสักครู่ มันกลายเป็นผีทั้งหมดและมีเสลี่ยงมาคอยรับผม ทันใดนั้น หลวงปู่ฟักมาปรากฏหน้าประตู และโบกมือไล่ผมให้กลับไปนอน และพูดว่า "ไปนอนเสียลูก" หลังจากนั้นผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว และอาการไข้ก้อหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ผมนึกว่าเราฝันไปหรือเปล่า พอเอามือลูบที่เท้า ปรากฏว่าเท้าผมเปื้อนดิน วันรุ่งขึ้น ผมไปหาหลวงปู่ฟัก พอเจอหน้าหลวงปู่ฯ ท่านพูดว่า "เกือบไม่ทันแล้วลูก เขาจะเอาไปเป็นหัวหน้าของเขา"

ปลัดฯ ดันดะ หลวงปู่ฟัก ตัวนี้ ได้มาจากคนพื้นที่อ.บางบาล ปลัดฯตัวนี้เจ้าของเดิมหวงมากคาดติดตัวตลอด เพราะรับกับมือหลวงพ่อฟัก ในปีที่หลวงพ่อฟักไปอยู่จำพรรษาช่วยหลวงพ่อโก๊ะสร้างโบสถ์ที่วัดเก้าห้อง ปีนั้นลุงเจ้าของเดิมไปช่วยทางวัดฯเทปูนสร้างโบสถ์ โดยเอาแรงกายเข้าแลกไม่คิดค่าแรง ลุงแกเพียรขอหลวงพ่อฟักอยู่นาน จนท่านพิจารณาแล้วเห็นสมควรจึงมอบให้เอาไว้ติดตัว



ปลัดฯดันดะ หลวงปู่ฟัก
ราคาพิเศษ ๖๕๐๐ บาท
ปิดรายการ



โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 231 ตะกรุดลูกอมโลกธาตุ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว




ปฐมบท
ตะกรุดลูกอมโลกธาตุ บรมครูพ่อเฒ่ายิ้ม เป็นเครื่องรางที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และหาชมยากมาก เป็นอิทธิวัตถุมงคลชั้นสูง ท่านได้สร้างด้วยกรรมวิธีสุดยอดเข้มขลังพิถีพิถันละเอียดปราณีตในการสร้าง จนครบตามสูตรตามพิธีตำราโบราณทำให้มีจำนวนน้อยมากผู้ใดมีไว้ครอบครองต่างหวงแหนเป็นที่สุด
กรรมวิธีการสร้าง
หลวงปู่ยิ้มเป็นผู้คิดค้นตะกรุดลูกอมโลกธาตุ(อินธินาทะยิ) มีความขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก ท่านได้ลง จารครบตามตำราหัวใจโลกธาตุ หรือเรียกอีกอย่างว่า คาถาพระพุทธเจ้าเดินจงกรมในพระครรภ์มารดา ดังนี้ "(ยันต์ใบพัด) อิจฉันโต จิตโต อิจฉันโต โลกธาตุมหิ (ยันต์ใบพัด) อัตตะภาเวนัง นาทุยิ วาระวีสะติ สิทธังละอะ (ยันต์ใบพัด) จารกำกับลงไว้ในแผ่นโลหะที่มีความยาวเท่ากับใบมะขามมาวางเรียงต่อกันได้ ๗ ใบ (โพชฌงค์ ๗)

พุทธคุณ
มหาแคล้วคลาด มหากำบัง ปลุกเสกตามกรรมวิธี เล่ากันว่าเมื่อถึงคราวจวนตัวผจญด้วยศัตรูนับร้อยพัน ให้ระลึกถึงพระรัตนตรัย คุณครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์แล้วกลืนตะกรุดเข้าไป จะเป็นมหากำบังล่องหนหายตัว ศัตรูจะมองไม่เห็น รอจนพ้นอันตรายแล้ว ท่านให้นำดอกไม้ธูปเทียนมาอาราธนาตะกรุดออกจากตัว โดยกระทำก่อนนอน เมื่อตื่นขึ้นตะกรุดจะวางอยู่ที่หัวนอน บรมครูเฒ่าหลวงปู่ยิ้มท่านทำสำเร็จในสุดยอดวิชาโลกธาตุตะกรุดนั้นจะไม่ออก เบื้องต่ำเลย (ถ่ายออก) เรื่องดังกล่าวนี้มีผู้เคยทดลองมาแล้ว เป็นจริงสมคำที่กล่าวไว้

พระอาจารย์ของหลวงปู่ยิ้ม
หลวงปู่ยิ้ม ท่านออกธุดงค์ศึกษาตำราวิชาวิทยาคมจากพระอาจารย์สำนักต่างๆ อาทิเช่น
-หลวงพ่อปลัดทิม วัดบางลี่น้อย อัมพวา เรียนวิชาโภคทรัพย์ ผู้ใดอาบน้ำมนต์ คนจนจะกลายเป็นคนรวย ถ้าเป็นขุนนางจะได้เลื่อนยศตำแหน่ง
-หลวงปู่พ่วง วัดลิงโจน เรียนวิชาธงกันอสุนิบาตสายฟ้าและพายุ เรียนวิชาหวายลงอักขระ โยนหวายลงน้ำทะเล ตักน้ำในวงหวายน้ำจะจืดทันที และทำลูกอมหมากทุย ท่านองค์นี้สำเร็จวิชามนต์จินดามณี เรียกเนื้อเรียกปลา
-หลวงพ่อกลัด วัดบางพรม เรียนวิชามหาอุตม์ ผ้าเช็ดหน้ามหานิยม เชือกคาดเอวกระดูกงู ท่านองค์นี้สำเร็จวิชาย่นระยะทาง เดินบนผิวแม่น้ำ
-หลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่อัมพวา เรียนวิชาแพทย์แผนโบราณ มีดหมอปราบภูตผีปีศาจ เชือกคาดเอวตะขาบไฟไส้หนุมาน
-หลวงพ่อกลิ่น วัดหนองบัว เรียนวิชาไสยเวทย์ต่างๆ จนวิชาอาคมของหลวงปู่ยิ้มแก่กล้ามาก

ศิษย์ของหลวงปู่ยิ้ม
หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ท่านเป็นพระบรมครูอาจารย์ใหญ่แห่งสายลุ่มน้ำแม่กลอง พระเกจิอาจารย์ผู้เลื่องลือนามของกาญจนบุรี ผู้ที่มาขอเรียนวิชากับหลวงปู่ยิ้ม ต้องผ่านการทดสอบโดยใช้สมาธิจิตเพ่งไส้เทียนให้ขาดกลาง จึงจะได้เป็นศิษย์เล่าเรียนวิชาอาคมชั้นสูงต่อไป ลูกศิษย์ของท่านทั้งพระและฆราวาสจึงมิใช่ธรรมดา ลูกศิษย์แต่ละองค์จึงเป็นสุดยอดพระเกจิอาจาย์เลื่องชื่อระบือนาม เช่น
-หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ผู้รับการถ่ายทอดวิชาลูกอมโลกธาตุ และตะกรุดนเรศวรปราบหงสา
-หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ผู้สร้างลูกอมมหากัน และตะกรุดมหาปราบ
-หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ เจ้าของเหรียญราคาหลายแสนบาท เป็นที่รู้จักกันดีในกาญจนบุรี
-หลวงพ่อดี วัดเหนือ เทพเจ้าแห่งความเมตตาลุ่มน้ำแม่กลอง กาญจนบุรี
-หลวงพ่อเหรียญ วัดหนองบัว ศิษย์เอกหลวงปู่ยิ้ม ฯลฯ

ประวัติหลวงปู่ยิ้ม เพิ่มเติม
จากคำบอกเล่าของ ปู่หว่า ศิษย์หลวงพ่อดอกไม้ ปัจจุบันอายุ ๙๙ ปี มีเรื่องเล่าสืบต่อกันว่า....
ในปีพุทธศักราช ๒๔๕๐ เป็นปีแรกที่ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสด็จมาศึกษาวิชาทางไสยเวทย์กับหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว หลวงปู่ฯได้นิมนต์ หลวงพ่อดอกไม้ หลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวน หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ และ หลวงปู่เนียม วัดน้อย รวมทั้งหมด ๕ รูป ไปฉันที่วังกรมหลวงชุมพรฯ เพื่อทำพิธีไหว้ครู กรมหลวงชุมพรฯได้ถวายจีวรของใช้ต่างๆให้หลวงปู่ยิ้ม แต่หลวงปู่ยิ้มส่งให้หลวงพ่อดอกไม้นำกลับไปไว้วัดท่าน เพราะวัดท่านยังจนอยู่ ขากลับหลวงปู่ยิ้มแยกเดินทางไปยังวัดน้อยกับหลวงปู่เนียม ต่อมาหลวงปู่เนียม ท่านมรณภาพลงในปี พ.ศ.๒๔๕๒ ด้วยอายุ ๘๐ ปี

ในปีพุทธศักราช ๒๔๕๔ ช่วงเดือนธันวาคม หลวงปู่ยิ้ม มรณภาพลง หลวงพ่อดอกไม้เดินทางร่วมประชุมเพลิงพร้อมกับพระเกจิลูกศิษย์สายของหลวงปู่ยิ้มหลายรูป อาทิเช่น หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้หลวงพ่อดี วัดเหนือ หลวงพ่อเกลี้ยง วัดเขาใหญ่ หลวงพ่อใจ วัดเสด็จ หลวงพ่อเหมือน วัดกลางบางเหนือ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อแช่ม วัดจุฬามณี หลวงพ่อรอด วัดวังน้ำวน หลวงพ่อเก้ายอด วัดบางปลา หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน หลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์ และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกับหลวงปู่ยิ้ม และกรมหลวงชุมพรฯ ศิษย์ฆราวาส

พระอาจารย์กรมหลวงฯ
หลวงปู่ยิ้มมีพลังจิตแก่กล้าสูงยิ่งไม่มีใครเกิน แม้แต่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อเงิน บางคลาน ท่านทั้งสองเป็นพระอาจารย์ผู้ถ่ายทอดสอนวิชาอาคมต่างๆ จนหมดไส้หมดพุงแก่กรมหลวงชุมพรฯ ยังยกย่องสรรเสริญ แนะนำกรมหลวงชุมพรฯ บอกว่า จะเรียนต่อไปให้เยี่ยมยุทธยิ่งขึ้นไป ต้องไปเรียนวิชากับหลวงปู่ยิ้ม กรมหลวงชุมพรฯ พร้อมผู้ติดตามจึงดั้นด้นไปหาหลวงปู่ยิ้ม ท่านฯแสดงฤทธิ์ด้วยธาตุ ๔ ให้ดู และให้กรมหลวงชุมพรกลับไปฝึกเพ่งกสิณไฟจนสำเร็จ เพ่งจนไส้เทียนขาดเทียนระเบิด เพราะถ้าใครจะไปเรียนวิชากับท่านได้ ต้องเพ่งเทียนให้ดับ ท่านจึงจะถ่ายทอดวิชาให้ ท่านฯ เป็นหนึ่งในสามอาจารย์ของกรมหลวงชุมพร มีดหมอประจำพระองค์ที่ใช้ก็เป็นของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
.
สรีระไม่ไหม้ไฟ
หลวงปู่ยิ้มท่านได้ละสังขาร พระเพลิงไม่สามารถ เผาไหม้สรีระของท่านได้ ทางวัดฯได้นิมนต์หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เพื่อนสหธรรมมิกเป็นศิษย์หลวงปู่กลิ่น วัดหนองบัว ศิษย์อาจารย์เดียวกันมาจุดเผาไฟ สรีระของหลวงปู่ฯจึงไหม้ไฟ


ที่มาดี เจ้าของเดิมเป็นศิษย์กรรมการวัดหนองบัว ตะกรุดลูกอมโลกธาตุขนาดเล็ก 1ซม. เนื้อทองแดงโบราณเก่าเป็นจนเป็นสำริด ผิวเป็นคลื่นมะระ ตัดขอบโบราณ พันรอบแกนโลหะด้วยมือ ร่องรอยความเก่าเป็นธรรมชาติ ของแท้หายากมาก



ตะกรุดลูกอมโลกธาตุ ขนาดเล็ก 1ซม.
พิเศษ 6500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 232 ปลัดฯดันดะ หลวงปู่ฟัก วัดนิคมประชาสรรค์

ปฐมบท
ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองบางครก พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างพระขรรค์เขาควายเผือกที่โด่งดังทั่วฟ้าเมืองไทย หลวงพ่อฟักท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ผู้เสกปลัดขิกบินได้ ปลัดขิกของท่านมีความเข้มขลังไม่แพ้พระเกจิอาจารย์ยุคเก่า

กรรมวิธีการสร้าง
ปลัดฯของท่านแกะจากไม้ดำดง ท่านลงอักขระ "นะหิ หะหุ จะฉะ ดันดะ" (คนทำของเก๊ไม่กล้าลง เดี๋ยวเป็นบ้า) ท่านลงหัวใจท้าวเวสสุวรรณ เจ้าแห่งภูติผีปีศาจ ที่ลำตัว "เวสสะพุสะ" ผีเจอก็กระเจิง และลงหัวใจเกราะเพชร "ภูตากังเก" และหัวใจนวหรคุณ "อะสังวิสุโลปุสะพุภะ" และหัวใจพาหุงฯ(พระพุทธเจ้าชนะมาร) "พามานาอุกะสะนะทุ" และหัวใจเสฎฐัน "เสพุเสวะเสตะอะเส" (อยู่ในบทเสกของยันต์ตรีนิสิงเหฯ) และหัวใจกรณียเมตตาสูตร "เอตังสะติง" อานิสงส์มีถึง ๑๑ ประการ เช่น นอนเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ล่วงพ้นจากยาพิษ แคล้วคลาดจากศาตราวุธทั้งปวง และหัวใจมหาอุด "อุทธัง อัทโธ" ย่อมาจากบทกรณียเมตตาสูตรนี้เช่นกัน สุดยอดทั้งเมตตาทางผู้หญิงเน้นๆ และกันผี อักขระโดยรวมทั้งหมดครอบจักรวาล
ประสบการณ์
เรื่องราวประสบการณ์ของคุณพ่อพลายแก้ว เมื่อประมาณปี 2525 ผมได้รู้จักกับหลวงปู่ฟัก เนื่องจากอาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมของผม เป็นลูกศิษย์ของท่าน ได้จัดผ้าป่าสามัคคีสร้างโบสถ์ โดยผู้บริจาคปูน จะได้รับปลัดขิก 1 ตัว ราคาประมาณ 3500 บาท สมัยนั้นถือว่าแพงมาก ท่านได้มอบมาให้ผมคาดติดตัวตลอด หลังจากนั้นผมได้ไปต่างจังหวัด และได้ติดเชื้อไข้ป่ามาทำให้เป็นไข้นอนอยู่ที่บ้านชั้นบน ไปไหนไม่ไหวเลย มีอยู่คืนหนึ่ง ผมนอนหลับ รู้สึกได้ยินเสียงมโหรีเล่นอยู่ที่บริเวณนอกบ้านหน้าบ้านของผม ผมเลยเปิดหน้าต่างออกไปดู เห็นคนกวักมือเรียก ก็เลยลงไป ปรากฏว่า ไอ้คนที่เห็นเมื่อสักครู่ มันกลายเป็นผีทั้งหมดและมีเสลี่ยงมาคอยรับผม ทันใดนั้น หลวงปู่ฟักมาปรากฏหน้าประตู และโบกมือไล่ผมให้กลับไปนอน และพูดว่า "ไปนอนเสียลูก" หลังจากนั้นผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว และอาการไข้ก้อหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ผมนึกว่าเราฝันไปหรือเปล่า พอเอามือลูบที่เท้า ปรากฏว่าเท้าผมเปื้อนดิน วันรุ่งขึ้น ผมไปหาหลวงปู่ฟัก พอเจอหน้าหลวงปู่ฯ ท่านพูดว่า "เกือบไม่ทันแล้วลูก เขาจะเอาไปเป็นหัวหน้าของเขา"

ปลัดฯ ดันดะ หลวงปู่ฟัก ตัวนี้ลายมือลูกศิษย์หลวงปู่ฟัก แท้ ดูง่าย สภาพสวย



ปลัดฯดันดะ หลวงปู่ฟัก
ราคาพิเศษ ๖๕๐๐ บาท

ปิดรายการ
โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 233 ตะกรุดสามห่วงหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม


ปฐมบท
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม พระเกจิในอดีตผู้สร้างกุมารทองโด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุด มีราคาแพงที่สุดในประเทศไทย ผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาสร้างกุมารทองแก่ศิษย์เอก คือหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม หลวงพ่อเต๋ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก พระเกจิจอมขมังเวทย์แห่งเมืองนครปฐม ต่อมาศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติ่มกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ปรมาจารย์บรมครูผู้สร้างกุมารทอง หลวงพ่อเต๋ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบ เช่น พิรอดแขน ตะกรุดสามห่วง ตะกรุดหน้าผากเสือ ผ้ายันต์ ปลาตะเพียนเงิน-ทอง ตะกรุดโทน ตะกรุดสาลิกา สีผึ้ง และกุมารทอง ฯลฯ แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้
ตะกรุดสามห่วง
วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านจนทุกวันนี้ คือ กุมารทอง ส่วนตะกรุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ตะกรุดสามห่วง เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า ตะกรุดมหารูด ในยุคแรกจะสร้างด้วย ตะกั่ว หรืออลูมีเนียม เงิน ทองแดง ขึ้นอยู่กับวัสดุของผู้ที่ต้องการนำมาให้ท่านสร้าง ตีแผ่เป็นแผ่นแล้วลงจารอักขระ ปลุกเสกแล้วม้วนเป็นตะกรุด ประมาณ 4-5 ชั้น ยุคต่อมาใช้ กระดาษถุงปูนซีเมนต์ลงจารอักขระ นำมาม้วนด้วยก้านตาล เมื่อนำไปปลุกเสกแล้วจึงนำมาถักด้วยเชือกกระสอบ ทายางไม้หรือทารัก ซึ่งแล้วแต่จะหาวัสดุได้ ยุคสุดท้ายจะถักด้วยเชือกไนล่อน ใช้หนังหน้าผากเสือหรือหนังเสือ หรือใช้ผ้าแดงและผ้าขาว ถักเชือกสามหู เป็นที่มา "ตะกรุดผ้าแดง" เล่ากันว่า ตี๋ใหญ่ใช้ติดตัวด้วย สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกตะกรุดสามห่วง คนที่ได้ไปจะต้องลองยิงก่อนที่แถวหลังวัด เมื่อแน่ใจแล้วจึงนำไปแขวน สำหรับตะกรุดหลวงพ่อเต๋ ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนแบบไหน ใช้ได้ทั้งนั้นสุดยอด ตะกรุดสามห่วง มีประสบการณ์มากมาย ทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง จนมีสมญานามเป็น "เจ้าตำหรับตะกรุดสามห่วง"
พุทธคุณ
เด่นทางด้าน มหาอุต คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย กันคุณไสย กันภูตผีปีศาจ และ เมตตามหานิยม
คาถาปลุกตะกรุด 3 ห่วง
ตั้ง นะโม 3 จบ อุทธัง อัทโธ ปัดนะ นะโมพุทธายะ นะแคล้ว โมคลาด พุทธปัด ธาปิด ยะมิถูก นะสันตะรันโตผิด โสอิกะวิติภา

วิธีการใช้ตะกรุด
เป็นมหารูด 1.เวลาสู้ ให้รูดตะกรุดไว้ด้านหน้า
2.เวลาหนี ให้รูดตะกรุดอยู่ด้านหลัง
3.ใช้เป็นเมตตาหาผู้หญิง ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างซ้าย
4.ใช้เป็นเมตตาหาเจ้านาย ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างขวา



ตะกรุดสามห่วง
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
บูชา ๓๐๐๐ บาท
ปิดรายการ



โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7
<!-- google_ad_section_end -->

 

รายการที่ 234 ลูกอมหลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร
ปฐมบท
หลวงพ่อร้าย ท่านเป็นพระเกจิในสมัย ร.๓ ยุคโบราณแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง เป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อคง บางกระพ้อม ท่านเป็นพระมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ว่าอะไรเป็นตามนั้น ถ้าท่านอวยพรให้ใครมียศถาบรรดาศักดิ์ อยู่เย็นเป็นสุข ต่อมาก็จะได้เป็นตามนั้นทุกรายไป
ความเป็นมา
ในสมัยก่อนแถบวัดเขายี่สารมีงูเห่าชุกชุม มีชาวบ้านถูกงูกัดเป็นประจำ เมื่อมีคนถูกงูเห่ากัดก็มักจะนำมาให้ท่านช่วยรักษา ท่านจะถามว่าถูกกัดที่ไหน ถ้าบอกว่าถูกกัดที่เขายี่สาร ท่านก็จะบอกว่า "งูเห่าบนเขายี่สารนี่มันกัดคนไม่ตายหรอก" ท่านจะมอบลูกอมเพื่อแจกญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด เอาไว้ให้ป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษต่างๆ



กรรมวิธีการสร้าง
เครื่องรางของขลังหลวงพ่อร้าย ที่ขึ้นชื่อที่สุด คือ ลูกอม มีส่วนผสมของว่านและผงพุทธคุณ ชันยาเรือที่ท่านบิณฑบาต และผงวิเศษต่างๆ เมื่อทำเสร็จท่านก็จะนำไปปลุกเสกภายในพระอุโบสถ แล้วค่อยแจกจ่ายแก่ศิษย์ ลูกอมของหลวงพ่อร้ายมีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย นอกจากจะอยู่ยงคงกระพันชาตรีแคล้วคลาด เมตตามหานิยม กันเขี้ยวงา สัตว์มีพิษแล้ว ในสมัยก่อนเขานำมาห้อยคอเด็กๆ แล้วเกิดประสบการณ์ว่าเด็กตกลงไปในแม่น้ำไม่จม เป็นของดีและหายาก


ลูกอมในตำนาน
หรือเรียกอีกอย่างว่า “ลูกอมด้ายสาวพรหมจรรย์” ลูกอมท่านดีทุกทาง โดยเฉพาะกันเขี้ยวงา สัตว์มีพิษ อีกทั้งเด่นเรื่องมหานิยม เสียดายที่ตอนหลังหลวงพ่อจึงให้ลูกศิษย์เอาลูกอมที่เหลือใส่เรือไปเททิ้งกลางทะเลและไม่สร้างอีกต่อไป เพราะมีคนเอาไปขูดใส่น้ำให้ผู้หญิงกิน เมื่อได้เขาแล้วก็ทิ้งขว้างไม่ดูแล เพื่อไม่ให้นำไปใช้ในทางไม่ดีอีกต่อไป ทำให้ปัจจุบันหาของแท้หายากมาก และมีจำนวนน้อย

ลูกอมหลวงพ่อร้าย มีเอกลักษณ์ตรงที่มีห่วง เนื้อแห้งลงรักเก่า ปัจจุบันหาของแท้ยากมาก ที่มาดี ได้มาพร้อมกับพระเนื้อตะกั่วหลวงพ่อร้าย



ลูกอมหลวงพ่อร้าย
บูชา ๓๕๐๐ บาท
ปิดรายการ


โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

ของจองในราคาพิเศษได้ไหมครับพี่

ด้วยความเคารพ
อ๋อง

 

ขอจองตะกรุดสามห่วง
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม

 

ขอจองตะกรุดสามห่วง
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม

 

ผมขอรบกวนถามหน่อยครับ ไม่ทราบว่าผมนำเสือหลวงพ่อสาย กับ ตะกรุดหลวงปู่ศุข เลี่ยมไว้ด้วยกันตามรูปจะได้หรือไม่ครับ มีข้อห้ามหรือเปล่า

 

รายการที่ 235 พระเนื้อตะกั่วหลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร
ปฐมบท
หลวงพ่อร้าย ท่านเป็นพระเกจิในสมัย ร.๓ ยุคโบราณแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง เป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อคง บางกระพ้อม ท่านเป็นพระมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ว่าอะไรเป็นตามนั้น ถ้าท่านอวยพรให้ใครมียศถาบรรดาศักดิ์ อยู่เย็นเป็นสุข ต่อมาก็จะได้เป็นตามนั้นทุกรายไป
ผู้สำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ

ท่านเป็นผู้สำเร็จวิชากสิณและพระเวทย์ชั้นสูง มีพลังจิตแก่กล้าในวิชาเล่นแร่แปรธาตุวิชาปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์ พระเนื้อตะกั่วผสมปรอทที่ท่านสร้าง จึงมีความศักดิสิทธิ์เปี่ยมด้วยพุทธานุภาพไม่แพ้สำนักใด



พระเนื้อตะกั่วหลวงพ่อร้าย
บูชา ๑๕๐๐ บาท

ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

แจ้งโอนเงินครับ เวลา8.32 น จำนวน 2100 ครับ ที่อยู่ที่เดิมครับ

 

รายการที่ 236 ตะกรุดหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม



ปฐมบท
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม พระเกจิในอดีตผู้สร้างกุมารทองโด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุด มีราคาแพงที่สุดในประเทศไทย ผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาสร้างกุมารทองแก่ศิษย์เอก คือหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม หลวงพ่อเต๋ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก พระเกจิจอมขมังเวทย์แห่งเมืองนครปฐม ต่อมาศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติ่มกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ปรมาจารย์บรมครูผู้สร้างกุมารทอง หลวงพ่อเต๋ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบ เช่น พิรอดแขน ตะกรุดสามห่วง ตะกรุดหน้าผากเสือ ผ้ายันต์ ปลาตะเพียนเงิน-ทอง ตะกรุดโทน ตะกรุดสาลิกา สีผึ้ง และกุมารทอง ฯลฯ แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้
ตะกรุดสามห่วง
วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านจนทุกวันนี้ คือ กุมารทอง ส่วนตะกรุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ตะกรุดสามห่วง เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า ตะกรุดมหารูด ในยุคแรกจะสร้างด้วย ตะกั่ว หรืออลูมีเนียม เงิน ทองแดง ขึ้นอยู่กับวัสดุของผู้ที่ต้องการนำมาให้ท่านสร้าง ตีแผ่เป็นแผ่นแล้วลงจารอักขระ ปลุกเสกแล้วม้วนเป็นตะกรุด ประมาณ 4-5 ชั้น ยุคต่อมาใช้ กระดาษถุงปูนซีเมนต์ลงจารอักขระ นำมาม้วนด้วยก้านตาล เมื่อนำไปปลุกเสกแล้วจึงนำมาถักด้วยเชือกกระสอบ ทายางไม้หรือทารัก ซึ่งแล้วแต่จะหาวัสดุได้ ยุคสุดท้ายจะถักด้วยเชือกไนล่อน ใช้หนังหน้าผากเสือหรือหนังเสือ หรือใช้ผ้าแดงและผ้าขาว ถักเชือกสามหู เป็นที่มา "ตะกรุดผ้าแดง" เล่ากันว่า ตี๋ใหญ่ใช้ติดตัวด้วย สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกตะกรุดสามห่วง คนที่ได้ไปจะต้องลองยิงก่อนที่แถวหลังวัด เมื่อแน่ใจแล้วจึงนำไปแขวน สำหรับตะกรุดหลวงพ่อเต๋ ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนแบบไหน ใช้ได้ทั้งนั้นสุดยอด ตะกรุดสามห่วง มีประสบการณ์มากมาย ทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง จนมีสมญานามเป็น "เจ้าตำหรับตะกรุดสามห่วง"
พุทธคุณ
เด่นทางด้าน มหาอุต คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย กันคุณไสย กันภูตผีปีศาจ และ เมตตามหานิยม
คาถาปลุกตะกรุด
ตั้ง นะโม 3 จบ อุทธัง อัทโธ ปัดนะ นะโมพุทธายะ นะแคล้ว โมคลาด พุทธปัด ธาปิด ยะมิถูก นะสันตะรันโตผิด โสอิกะวิติภา

วิธีการใช้ตะกรุด
เป็นมหารูด 1.เวลาสู้ ให้รูดตะกรุดไว้ด้านหน้า
2.เวลาหนี ให้รูดตะกรุดอยู่ด้านหลัง
3.ใช้เป็นเมตตาหาผู้หญิง ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างซ้าย
4.ใช้เป็นเมตตาหาเจ้านาย ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างขวา



ตะกรุดหลวงพ่อเต๋
บูชา ๒๖๐๐ บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

รายการที่ 237 ตะกรุดคู่ชีวิต สามกษัตริย์ หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง


ตำนานตะกรุดคู่ชีวิต
ตำรานี้ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ยันต์อะสิสัตติ เป็นหนึ่งในตำราพิชัยสงครามได้ระบุไว้ เป็นยันต์ชั้นสูงหาค่ามิได้

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>“อะสิสัตติธะนูเจวะ สัพเพเตอาวุธานิจะ ภัคคะภัคคาวิจุณณานิ โลมังมาเมนะผุสสันติ” </TD></TR></TBODY></TABLE>
ปรมาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชา
หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า ได้สอนวิชานี้แก่หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้ที่สืบทอดวิชาต่อมาคือ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ผู้เป็นหลานของหลวงพ่อเงิน ท่านได้ถ่ายทอดวิชานี้แก่หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง



กรรมวิธีการสร้าง
ตะกรุดชั้นนอกสุดจารด้วยพระคาถาคู่ชีวิต อะสิ สัตติ ตำรับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน,แผ่นทองแดงชั้นที่ 2 จารด้วยพระคาถาอริยสัจจ์โสฬสตามตำราหลวงพ่อโพ วัดวังหมาเน่าท่านเป็นพระอาจารย์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน,แผ่นทองเหลืองชั้นในสุดจารพระคาถาพระเจ้า 16 พระองค์ ที่ท่านเรียนมาจากหลวงพ่อปุ่น วัดดงกลาง


ตะกรุดหยุดปืน
หลานชายของท่านชื่อว่า นายอุดม คำหมู่ ถูกโจรเข้าปล้นบ้าน มันได้ช่วยกันจับตัวนายอุดมเอาไว้และให้บอกที่ซ่อน ด้วยความเสียดายในทรัพย์สินที่อุตส่าห์หา มาด้วยความยากลำบากจึงไม่ยอมบอกที่ซ่อนทรัพย์ยิ่งไปกว่านั้นยังร้องเรียกให้ ชาวบ้านมาช่วยเหลือด้วยเสียงอันดัง เมื่อพวกโจรเห็นเช่นนั้นจึงได้จ่อยิงนายอุดมด้วยปืนยูเอสขนาด 11 มม. หลายนัดก็ปรากฎว่า กระสุนด้านไม่ดังเลยสักนัดเดียว ทำให้นายอุดมมีกำลังใจหึกเหิมกระโดดเข้าต่อสู้กับพวกโจรเป็นพัลวัล พวกโจรช่วยกันยิงนายอุดม ด้วยปืนหลายกระบอกไม่ออกเช่นนั้นก็นึกว่านายอุดมจะต้องมีของดีเป็นแน่ มันจึงช่วยกันจับ นายอุดมขึงพืด และด้วยนายอุดมเป็นคนรูปร่างเล็กสู้แรงโจรไม่ได้มันล้วงดูที่คอไม่เห็นมี อะไร จึงจับนายอุดมและดึงตะกรุดโทนหลวงพ่อเตียงที่เอวออก แต่นายอุดมได้ยื้อแย่งได้แค่เพียงสายตะกรุดเท่านั้น เมื่อโจรมันได้ตะกรุดไปแล้วก็หันปากกระบอกปืนกลับมายิงอีกหลายนัดก็ยิงไม่ ออก เสียงดังแชะๆเท่านั้นเอง ผลสุดท้ายพวกโจรต้องรีบล้าถอยโดยไม่ได้อะไรไปเลยสักนิดเดียว นายอุดม รอดชีวิตมาได้เพราะอิทธิปาฏิหาริย์ในตะกรุดโทนคู่ชีวิตของหลวงพ่อเตียง เพียงดอกเดียวเท่านั้น ถึงแม้พวกโจรจะแย่งเอาตะกรุดไปแล้วเพียงแค่สายตะกรุด ที่อยู่ในมือเพียงนิดเดียวเท่านั้นก็ยังคุ้มลูกกระสุนได้อย่างมหัศจรรย์



ตำนานตะกรุดคู่ชีวิต
เป็นที่เลื่องลือเล่าขานกันมาแต่โบราณ ของตำนานตะกรุดคู่ชีวิต

นักเลงรุ่นเก่าเมือง พิจิตร จะมีตะกรุดคู่ชีวิตดอกเดียวคู่กาย โดนซ้อมรุมกินโต๊ะ เจอทั้ังมีดและปืนไม่ระคายผิว จับมัดแขนขาผูกปากกระสอบโยนทิ้งแม่น้ำ ในขณะที่อยู่ใต้น้ำระลึกถึงครูบาอาจารย์ ฉับพลันเชือกที่มัดถุงปากกระสอบหลุด ขณะที่ใกล้จะหมดลมหายใจตะกายตัวเองขึ้นจากผิวน้ำ เผอิญจังหวะที่ชาวบ้านหาปลาเห็นเข้า ช่วยชีวิตให้พ้นจากมัจจุราชมาได้

พุทธคุณ
ตะกรุดคู่ชีวิต มีชื่อเสียงในเรื่องปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันเสนียดจัญไร ขับไล่สิ่งอัปมงคล
.



ตะกรุดคู่ชีวิต เนื้อสามกษัตริย์
หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง
บูชา 4500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 238 ตะกรุดพิศมร หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย สมุทรสงคราม


ปฐมบท
หลวงพ่อแก้ว เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองสมุทรสงคราม ท่านสำเร็จญาณวิเศษ สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆ ได้ทั้งปัจจุบัน อดีต และอนาคต ท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่อง ตะกรุดพิศมรใบลาน เหรียญ ผ้ายันต์ และลูกอม เลื่องลือที่สุดในด้านมหาอุตม์คงกระพันชาตรีเป็นเลิศที่สุดในปัจจุบัน จน เจ้านายหลายพระองค์ได้แวะมากราบนมัสการท่าน ถึงเมืองสมุทรสงคราม อาทิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ฯลฯ มีเรื่องเล่ากันว่า ข้าราชการอยู่ที่สมุทรสงคราม เมื่อต้องเข้ามาทำธุระในกรุงเทพฯ ถ้ารู้ว่ามาจากสมุทรสงคราม เป็นต้องถูกถามหาของฝากเป็นตะกรุดพิศมรใบลานของหลวงพ่อแก้ววัดพวงมาลัย เสียทุกเที่ยวไป
ที่มา คำว่า "พิสมรวัดพวงมาลัย"
สุดยอด ๙ เครื่องราง-ของขลัง ทรงคุณค่า เป็นโคลงคำกลอนดังนี้ ....

"หมากดีที่วัดหนัง เบี้ยขลังวัดนายโืรง ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์ มีดบินวัดหนองโพธิ์ พิสมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะฯ เเหวนอักขระวัดหนองบัว ลูกเเร่ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน "
เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาเเพ้วพาน"
อุปเท่ห์ในการสร้าง
ตะกรุดพิศมร หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า “ตะกรุดบังปืน” สมัยนั้น ถ้าผู้มีความประสงค์จะมาขอให้หลวงพ่อแก้ว ทำตะกรุดพิศมร ผู้ที่ต้องการได้ตะกรุด จะต้องไปตัดใบลานเฉพาะเจาะจงที่ ตำบลบังปืน เท่านั้น หากไม่เป็นไปตามที่หลวงพ่อท่านกำหนดไว้ ท่านจะไม่ลงให้เด็ดขาด สาเหตุ ที่ต้องใช้ใบลานปากคลองบางปืน หลวงพ่อแก้ว บอกว่าเพราะชื่อ "บางปืน" ที่กร่อนเป็น "บังปืน" ให้ความหมายในการข่มนาม ใช้ชื่อในการสะกดลงอักขระเลขยันต์ เพื่อบ่งบอกให้ เทพ เทวดา ฟ้าดิน ได้รับรู้ว่า ของของท่านใช้ดีทางไหน
ตะกรุดพิศมร
ชื่อเสียงอันโด่งดังของตะกรุดพิศมรเป็นที่เลื่องลือทั่วฟ้าเมืองไทย สมฉายาว่า "ตะกรุดพิศมร ถอนไม่ได้" เพราะพุทธคุณความเข้มขลังของตะกรุดพิศมร ที่มีความศักดิสิทธิ์จนเป็น ที่เลื่องลือ ไม่มีเวทย์มนตราใดหรืออาวุธศักดิสิทธิ์ใดจะมาถอดถอนให้ตะกรุดพิศมรเสื่อม คลายความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ได้ จึงเป็นที่เลื่องลือจนถึงทุกวันนี้
พุทธคุณ
สุดยอดแห่งมหาอุตม์กันปืน เมตตามหานิยม แคล้วคลาดภัยอันตราย

ที่มาดี แท้ ดูง่ายที่สุด ตะกรุดพิศมรดอกนี้ ขนาดเท่าเหรียญบาท ลงรักสองชั้นและทองเก่า




ตะกรุดพิศมร
หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย
ราคาพิเศษ 8500 บาท
ปิดรายการ


โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

ขอจองรายการนี้ครับ...........

 

โอนเงินเรียบร้อยครับ 17.05 น