ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ดูมนุษย์แห่งจักรวาลโลกแล้วค่ะ ดูแล้วนึกไปถึงการฝึกกับบาร์มา กุมารี เมื่อหลายปีก่อน
ฝึกไม่ครบคอร์ส (7ครั้ง)หรอกค่ะ อะไรๆมันเชื่อมโยงกันไปหมดเลยนะคะ เหมือนเรา
ถูกส่งไปมีประสบการณ์เป็นทอดๆ ช่วงนี้ชีวิตก็แปลกประหลาดที่ได้รับข้อมูลแบบ รับ-ส่ง
กันไปทั้งวันและทุกวัน ตัวเองก็ประหลาดใจตัวเองเหมือนกันที่เป็นคนรักพระพุทธศาสนา
แต่กลับไม่ปฏิเสธความรู้อื่น ไม่ว่าจะไปรู้เรื่องสัจธรรมนอกแนวทางก็มักเก็บมาครุ่นคิด
ไคร่ครวญและแอบซาบซึ้งในบางส่วนของเขา ก่อนที่จะมาฝึกราชาโยคะก็แค่เดินไป
สะดุดตากับภาพของกลุ่มฮะเรคริชณะ ที่พระกฤษณะแสดงความเป็นพระเจ้าสูงสุด
จนปรากฎเป็นพระองค์นับร้อยนับพันสภาวะ ความรู้สึกของเราเหมือนกับมีสภาวะของพระองค์
เป็นพันๆในรูปใบเล็กๆ แล้วภาพนั้นก็เหมือนนำทางเราไปเรียนรู้อะไร ได้รับคำตอบอะไร
ไปตลอด หรือเหมือนกับตอนเป็นวัยรุ่นประทับใจกับภาษิตฝรั่งแค่บทเดียวว่า
เพียงตั้งความปรารถนาไว้ แล้วจิตใจจะหาหนทางเอง และภาษิตบทนี้ก็พาตัวเองไปพิสูจน์
อะไรที่เป็นกฎของแรงดึงดูดมาตลอด สำหรับตัวเองคิดว่าตัวเองเป็นพวกฝักใฝ่ใบไม้นอก
กำมือ ขนาดอยู่ในวัดบางทีเจ้าอาวาสยังเปรยซะสะดุ้งว่า ที่นี่สอนเรื่องใบไม้นอกกำมือนะ
ตอนนี้ก็เลยเพลิดเพลินกับใบไม้เหล่านี้มาก มันทำให้ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาก บอกไม่ถูก
คล้ายกับเราได้พยามอยู่ในกรอบแล้วเราได้สูญเสียความเป็นธรรมชาติ (กรอบไม่ได้ผิดนะคะ
เราอาจจะมองกรอบนั้นในมุมที่ไม่ถูกต้อง) แล้ววันหนึ่งเราแหกกรอบไปพบความเป็นอิสระ
เราทะลายความกลัวลงไปได้บ้าง แล้วเราก็เบิกบานมากขึ้น ตอนพบกระทู้นี้ใหม่ๆ
กลัวนะคะ กลัวเราหลุดจากความเป็นสัมมาทิฏฐิ ตอนนี้อ่านไปร้อยกว่าหน้าแล้ว เราก็
เรียนรู้ทั้งข้อมูล และก็เรียนรู้จิตใจของตัวเราเองไปพร้อมๆกัน ในที่สุดหลายๆสิ่งก็ถูก
ปรับมาอยู่ในจุดที่เป็นกลาง

ตอนนี้เหมือนอยู่ในคลื่นความรู้เลยค่ะ แค่คิดอะไรๆคำตอบก็จะปรากฎในวันถัดไป
หรือเขียนอะไรค้างๆไว้ ยังไม่ลงตัว ก็จะพบประโยคที่ต้องการตรงกับใจในคัมภีร์
หรือพอเปิดหนังสือมาหน้านั้นก็พบเลย บางทีก็พบในกระทู้นี้แหละค่ะ
และสิ่งที่ได้พบนั้น ก็มักจะส่งเราไปสู่อีกสิ่งที่เพิ่มเติมในเรื่องเดิม หรือเพิ่มเติมในแง่มุมอื่น


ขอบคุณทุกๆคนในกระทู้นี้นะคะ ทั้งที่เป็นเพื่อนมนุษย์และเพื่อนแห่งจักรวาลนะคะ

 

ใบไม้นอกกำมือ หรือ ใบไม้ในกำมือ ต่างก็สะท้อนซึ่งกันและกันอยู่นะครับ


หากเมื่อใดถึงเวลาที่เราพร้อมจะรับ+หรือพร้อมจะเรียนรู้
ก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่เดินไปหยิบเอา "ลูกบอลแก้วใส"ขึ้นมาเล่น
พอส่องไปรอบๆเราจะเห็นเงาสะท้อนที่กลับด้านกันอยู่ในนั้น
เราบางทีเราอาจจะเห็นอะไรบางอย่างที่แจ่มชัดขึ้น ที่สร้างสรรค์และพิศวงยิ่งขึ้น
เหมือนกับว่ามันกำลังส่องขยายแสงสว่างเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆน่ะครับ

ทุกอย่างที่เราพานพบมาล้วนก็คือ "ของขวัญ"ที่เป็นความรู้ทั้งนั้นเลยนะครับ

 

กระจ่าง ชัดเจน แจ่มแจ้ง ในคำตอบ..ขอบคุณมากครับ

 

ประสบการณ์ชีวิตของคุณฐนานี่ คล้ายกับของผมมากๆเลยครับ
คล้ายจนอาจเรียกได้ว่า มันเป็น Format หรือ Pattern เดียวกันด้วยซ้ำไป

และหลายๆคนในที่นี้ก็น่าจะด้วยนะผมว่า..อย่างคุณ mead เป็นต้น

ก็สนุกกับการอยู่ในกระแสแห่งข้อมูลความรู้กันไปนะครับ
เพราะพัฒนาการ และการเรียนรู้ของจิตวิญญาณ ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้วนี่นา

;aa13
..............................................................

 

มีเรื่องบางอย่างอยากจะเล่าให้ฟังหนะครับ

เรื่องแรก "บทเรียน-บททดสอบเกี่ยวกับการให้อภัย"

เมื่อเร็วๆนี้ ผมเพิ่งให้อภัยคนที่ทำให้ผมเสียใจไปครับ
ให้อภัยแบบหมดจิตหมดใจ และก็เหลือไว้แต่ความรัก
ความเมตตา และปราถนาดีต่อพวกเขาเหมือนเดิม

แล้ว "คุณค่าของการให้อภัย" ก็บังเกิดขึ้นตามมาครับ
(ขอเลียนแบบชื่อข้อความที่เกี่ยวกับ Kim Phuc หน่อยนะครับ)

พวกเขาคงรู้ และ เชื่อแล้วจริงๆว่าผมไม่มีใจคิดทำร้ายพวกเขากลับเลย
ว่าผมให้อภัยพวกเขาจริงๆแล้ว..แล้วตอนนี้พวกเขาทำดีกับผมมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
สรุปว่า..คนพวกนี้แหละ ที่ตอนนี้กลายมาเป็นเพื่อนผมไปซะแล้ว..
ก็ดีครับ..ประทับใจดี..ใจก็รู้สึกโล่งๆเบาๆนะ..มันมีแต่อิ่มเอิบและปิติอยู่ภายใน

เรื่องที่สองเป็นเรื่องเกี่ยวกับความฝันครับ..
ไม่รู้ว่าพักนี้มีใครฝันถึง "งู" เหมือนผมบ้างหรือเปล่านะครับ
ทั้งงูทั้งมังกรพ่นไฟเลยหละ..ฝันมาสองสามคืนแล้วครับ

อย่างเช่นเมื่อคืนนี้..ฉากแรกก็ฝันเห็นชุมชนชุมชนหนึ่ง
เป็นหมู่บ้านหรือเมืองไม่รู้ แต่เหมือนกับผมมองลงมาจากมุมที่สูงมาก
เลยเห็นแต่แสงไฟ และสิ่งก่อสร้างเพียงลิบหลี่ๆ มองไม่เห็นตัวคนเลย เพราะเล็กมากๆ
ในชุมชนนั้นผมเห็นแสงไฟของดอกไม้ไฟสีต่างๆพุ่งขึ้นมาเป็นระยะๆ
และเหนือน่านฟ้าของชุมชนนั้น มีมังกรแบบจีนตัวสีแดงๆอยู่ตัวหนึ่ง ตัวใหญ่มากๆลอยอยู่


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ก็ไม่เชิงลอยครับ แต่เหมือนเกาะอยู่กับต้นไม้ที่สูงมาก แต่ก็ไม่เห็นใบไม้
สักพักหนึ่งผมก็ได้ยินเสียงร้องขึ้นว่า เหตุฉุกเฉิน หรือว่าเหตุด่วนอะไรนี่แหละครับ
แล้วจากนั้น ก็มองเห็นงูสีเขียวตัวใหญ่พอๆกับมังกรตัวหนึ่ง ลอยลงมาจากฟ้า
เหมือนจะมาต่อสู้กับมังกรตัวนั้น แล้วก็จริงครับ มังกรสีแดงก็ค่อยๆยืดตัวออก
ค่อยๆลอยพุ่งตรงขึ้นไปหางูตัวนั้นแบบช้าๆ งูก็ค่อยๆลอยลงมาหาช้าๆ
จากนั้นก็กัดกันหรือไงนี่แหละ แล้วฉากก็เปลี่ยนไป


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

กลายเป็นว่าผมกำลังอยู่กับมังกรแบบฟรั่งอยู่ตัวหนึ่ง แต่ตัวเล็ก ยาวซัก 10 เมตรกระมัง
และก็มีมังกรแบบจีนตัวหนึ่งซึ่งตัวใหญ่กว่ามาก ใหญ่ชนิดที่ว่า สามารถกินมังกรอีกตัวได้เลยหละ
มังกรตัวใหญ่ ไล่พ่นไฟใส่ทั้งมังกรตัวเล็ก และใส่ผมด้วย พวกผมก็วิ่งหนี
และมังกรตัวเล็กก็พ่นไฟใส่กลับไปด้วยนะ แต่สู้แรงและพลังของไฟจากตัวใหญ่ไม่ไหวครับ
พวกผมวิ่งไปไหนหรือ ลอยไปไหนก็โดนไล่พ่นไฟใส่ตลอด แบบไม่เลิกเลย และดูท่าจะโดนเต็มๆด้วยนะครับ

จากนั้นฉากก็เปลี่ยนไปอีก ผมกำลังวิ่งอยู่บนถนนที่ทำด้วยหินก้อนใหญ่ๆปูต่อๆกัน
แต่ปูอยู่บนดินที่อยู่บนน้ำอีกที และมันก็กำลังจะพังแล้ว คือพอก้าวเท้าไปเหยียบหินก้อนไหน
มันก็จมลงไปในน้ำทุกก้อนเลย และมิหนำซ้ำ ก็ยังมีงูสีดำขนาดใหญ่ ใหญ่เท่ากับถนน 4 เลนเลยหละ
เลื้อยไล่ผมมาอีกติดๆ พอผมวิ่งจะเข้าไปในเมืองเมืองหนึ่ง ซึ่งปกติจะมีงูตัวใหญ่พอกันนอนเฝ้าปากทางเข้าอยู่
ก็พบว่า งูตัวนั้นโดนเชือดคอตายไปซะแล้ว เลยไม่มีใครไปสู้กับงูตัวที่ไล่ตามมานั้นได้เลย
ผมก็เลยวิ่งไปบนถนนหินที่ว่านั่น ซึ่งมีคนอื่นๆวิ่งหนีเช่นเดียวกันกับผมหลายคน

จากนั้นงูก็ไล่มาทันพอดี มันเอาตัวมันขดรัดทั้งผม และคนอื่นๆ และก้อนหินที่ลอยอยู่ในน้ำนั้นด้วย
ตอนผมโดนงูรัดนั้น ผมก็กะว่าเป็นไงเป็นกัน แต่พอรัดเสร็จมันก็ปล่อย แล้วหายไป
ส่วนผมก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่ในวงกลมของก้อนหินที่เรียงซ้อนกันเป็นกำแพงรอบๆผมอยู่
ผู้คนที่ถูกงูรัดพร้อมๆกับผม ก็ชะโงกมาดูผม และพูดกันว่าทำไมเป็นอะไรเลย
ผมก็เลยลุกขึ้นแล้วก้มไปดูตรงที่ตัวเองนั่งอยู่นั้น ก็ปรากฎว่ามีเหรียญของเกจิอาจารย์
สารพัดอาจารย์เลยหละ เต็มสองกำมือเลย เลยหอบขึ้นมาให้พวกเขาดู
ซึ่งในความเป็นจริง ผมก็มีเหรียญ และวัตถุมงคลค่อนข้างเยอะจริงๆหนะนะครับ

สรุปว่า เมื่อคืนนี้ฝันเกี่ยวกับงู และมังกร 3 ฉากรวดครับ ก็เลยเดาเอาว่า
น่าจะเกี่ยวกับพลังกุณฑลิณี เพราะว่ามันมีเค้ามาทางนั้นหนะครับ
อย่างเช่น เมื่อวานนี้ตอนค่ำๆ อยู่ๆก็รู้สึกปวดหัวข้างซ้าย ตรงใต้เบ้าตาขึ้นมาอย่างนั้นแหละ
อาจจะเกี่ยวกับพลังนี้หรือเปล่านะ เพราะช่วงปลายปีที่แล้ว ตอนที่ผมฝึกใหม่ๆ
ผมก็มีอาการปวดหัวด้านซ้ายด้านเดียวแบบนี้เหมือนกัน แต่อาจเป็นคนละจุดกัน

ทั้งๆที่ตอนนี้ผมไม่ได้เพ่งอะไรที่จักระที่ 1 (สีแดง) มานานมากแล้วนะครับ
ผมก็แค่ฝึกสมาธิไปตามปกติของผม แบบไล่จักระ แล้วกำหนดจิตที่จักระที่ 4 (สีเขียว) เป็นส่วนใหญ่
ประกอบกับฝึก Sun Glazing มาได้ร่วม 3 เดือนแล้วด้วย เลยสุขภาพแข็งแรงขึ้นมามาก
และเมื่อวานนี้ก็ไปว่ายน้ำมา และรู้สึกแปลกใจที่ไม่ค่อยเหนื่อยมากเหมือนแต่ก่อน

และอีกประเด็นที่น่าจะเกี่ยวข้องด้วยคือ ระดับความสั่นสะเทือนของความคิดและจิตใจของผม
มันถูกเจือปนด้วยความรักและความเมตตามากกว่าปกติ เพราะตอนนี้ อย่างที่ว่านั่นแหละครับ
คือให้อภัยแล้วโล่งมาก เหลือแต่ความรักให้แก่พวกเขาเท่านั้น...

เล่าให้ฟังเฉยๆครับ..

.............................................................

 

ฝันเช่นนี้เกรงว่า ท่านชยุต จะเจอเนื้อคู่อย่างแรง 55(deejai)

 

ค่ะ คุณmead มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อมองไปอีกฟากมันก็สะท้อนกลับมา
อีกฟากนึง มันเติมซึ่งกันและกัน และเราก็เป็นผู้รับประโยชน์จากความบริบูรณ์
นั้น ขอบคุณคุณChayutt และทุกคนที่ร่วมแบ่งปันความรู้และความรู้สึกนะคะ

ฝันของคุณChayutt สนุกตื่นเต้นดีค่ะ แปลกดีนะคะมังกรแดงกับจักระ
สีแดง มันกรเขียวกับจักระหัวใจสีเขียว ไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่า ??:z8

 

จักระที่ 1 สีแดง เป็นที่อยู่ของ "พลังงูไฟ" หรือ "พลังกุณฑลิณี" ครับ
ส่วนจักระที่ 4 หรือจักระหัวใจ จะมีสีเขียว เป็นที่อยู่ของ "ความรัก" ครับ

อย่างที่คุณ cosmiccell เคยเล่าไว้ว่า เมื่อความรักความเมตตา
มันขึ้นถึงระดับหนึ่ง ที่เหมาะสมแล้ว พลังนี้มันก็จะเปิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แบบไม่มีอันตรายใดๆ..

(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ..เดี๋ยวรอเจ้าตัวมา confirm อีกครั้งก่อนนะครับ)

...........................................................................

 

สองสามวันนี้ รู้สึกเข้าใจอะไรขึ้นเยอะมากๆครับ

มีความฝันที่มาเตือนก่อน 1 วันว่า ให้เตรียมตัวสำหรับการแอสเซนชั่น

ก็คิดว่า อะไรหว่า

อีกวันนึงต่อมา อยู่ๆก็ความร้อนขึ้นสูง หัวใจเต้นแรง
แต่ไม่มีอาการปวดศีรษะ ไม่มีความทรมานใดๆเลย

เหมือนนอนแช่อยู่ในกองเพลิง ความร้อนวิ่งเข้าออกทั่วกระดูกสันหลัง
และทุกรูขุมขน

แล้วมีตัวเราที่มอง ตัวเราอยู่ในกองเพลิงอีกที

เป็นอยู่คืนนึงเต็มๆ นอนก็นอนไม่ค่อยได้ ตื่นขึ้นมา ความร้อนก็หายไปเองเฉยๆ

แต่ที่รับรู้หลังจากนี้ ก็คือเรื่องเส้นลมปราณ ที่เชื่อมต่อ เข้ากับหัวใจ ไปสมอง

เส้นนึงที่สำคัญก็คือ เส้นที่เชื่อมระหว่างหัวใจ ไปนิ้วนางด้านซ้าย แล้วเชื่อมไปที่หัวไหล่ด้านซ้าย ขึ้นที่คอด้านซ้าย ผ่านฟันกรามด้านซ้าย ไปที่ศีรษะด้านซ้าย

ซึ่งเป็นเส้นลมปราณ ที่เกี่ยวพันกับความเข้าใจเรื่องความรัก การให้อภัย

ฟังความฝันที่ชัดเจนของคุณชยุต เกี่ยวพันกับพลังกุณฑลิณีแน่นอนครับ

หมายถึง การเชื่อมต่อพลังงานจากโลก เข้ากับพลังงานจากฟ้า

ร้อนรวมกับเย็น

หยินรวมหยาง

กายรวมใจ

เข้าสู่ประตูแรก แห่งความเป็นอิสระครับ

+ ไม่น่าจะรวมกับ _ ได้ น้ำไม่อาจรวมกับไฟได้ ร้อนไม่อาจรวมกับเย็นได้ สิ่งที่จะเชื่อมกันได้ ก็คือ ใส่ความรักอย่างดื่มด่ำ เข้าไป จึงจะทำให้อนุภาคเหล่านี้รวมกันได้

ทุกๆความคิด ทุกๆอารมณ์ ทุกๆการกระทำ ทุกๆการเคลื่อนไหว ไม่ว่าคุณชยุตจะฝึกวิธีไหนที่ถนัดก็ตามนะครับ ใส่ความรักอย่างดื่มด่ำลึกซึ้งเข้าไปด้วย ให้ต่อเนื่อง ไม่ว่าหลับ หรือตื่น แล้วคุณชยุตจะทราบด้วยตนเองครับ

ขอฝากธรรมมะ ที่ได้มาจากความฝันนะครับ

มนุษย์ที่ไร้ซึ่งอารมณ์ ไร้ซึ่งความคิด ยังเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ เหมือนหุ่นยนต์ไขลาน

มนุษย์ที่สมบูรณ์ คือ มนุษย์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ เต็มไปด้วยความคิด ที่รวมกันได้อย่างสันติ

จิตวิญญาณ คือ การปรุงแต่ง


จะเข้าถึงจิตวิญญาณภายในได้ ต้อง รักอย่างดื่มด่ำกับการปรุงแต่งกาย ปรุงแต่งใจ ที่ประกอบมาเป็นตัวเรา จนไม่มีช่องว่างให้ความอาลัย

สิ่งปรุงแต่งทั้งหลายจึงจะสลายไป จนให้เห็นความจริงของศิลปะชั้นยอด ของมหานครกาย มหานครใจภายใน ที่เรานั่นแหละที่เป็นผู้สร้างขึ้นมา

 

ขอฝากธรรมมะ ที่ได้มาจากความฝันนะครับ

มนุษย์ที่ไร้ซึ่งอารมณ์ ไร้ซึ่งความคิด ยังเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ เหมือนหุ่นยนต์ไขลาน

มนุษย์ที่สมบูรณ์ คือ มนุษย์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ เต็มไปด้วยความคิด ที่รวมกันได้อย่างสันติ

จิตวิญญาณ คือ การปรุงแต่ง


จะเข้าถึงจิตวิญญาณภายในได้ ต้อง รักอย่างดื่มด่ำกับการปรุงแต่งกาย ปรุงแต่งใจ ที่ประกอบมาเป็นตัวเรา จนไม่มีช่องว่างให้ความอาลัย

สิ่งปรุงแต่งทั้งหลายจึงจะสลายไป จนให้เห็นความจริงของศิลปะชั้นยอด ของมหานครกาย มหานครใจภายใน ที่เรานั่นแหละที่เป็นผู้สร้างขึ้นมา[/QUOTE]


สาธุ ตัวใหญ่ๆเลยเจ้า

 

คุณ mead ค่ะ (ขอทบทวนเพิ่มเติมค่ะ)
เมื่อจิตจักรวาลดวงใหญ่12เหลี่ยม ได้ให้กำเนิดพลังงานจิตจักรวาล
ดวงเล็ก11 เหลี่ยมจำนวนมาก หลังจากนั้นจิตจักรวาลดวงเล็กก็รับหน้าที่ใน
การช่วยสร้างเอกภพ โดยแบ่งภาคมาเป็นมนุษย์เพื่อป้อนพลังงานบวกในการ
รักษาสมดุลย์ให้กับเอกภพ และเมื่อพันธะสัญญาและภาระกิจบรรลุแล้ว ก็จะ
ย้อนกลับไปยังต้นกำเนิด อันหมายถึง จิตจักรวาลดวงเล็ก 11 เหลี่ยม???
อย่างนี้ใช่มั้ยคะ

 

เมื่อดวงจิตที่แบ่งภาคออกมามากมาย มหาศาล แต่ยังไม่มีรูป ทุกดวงจิตคือตัวรู้ แต่ขาดประสบการณ์ พระบิดา (จิตดวงแรก) อยากจะมีประสบการณ์ จึงต้องมีดวงจิตขันอาสา ลดทอนตัวเองลงมา เพื่อหาประสบการณ์ เช่น ดี ต้องมี ชั่ว จึงจะรู้ว่า ดีนั้นเป็นอย่างไร มีสึฟ้าทั้งหมด ก็จะไม่รู้จักสีฟ้า ต้องมีสีอื่นๆมาเปรียบเทียบ การลดทอนตัวเองลงมาเพื่อหาประสบการณ์ เมื่อได้ประสบการณ์ก็จะนำกลับไปรวมกับจิตแรก (พระบิดา) เพื่อได้สัมผัสประสบการณ์นั้น แต่ดวงจิตที่ขันอาสามา คงจะหลงลืมไปว่า ต้องกลับไปรวมกับพระบิดา (นิพพาน) ก็เลยวนเวียนในวัฏฏะสงสาร อย่างนี้

ประมาณนี้ครับ ตอบแทนคุณ Mead ไปก่อน

 

คุณ ชยุต อย่าลืมถอดรหัสฝันจากความรู้สึกด้วยนะครับ เพราะว่าบางที อาจมีความหมายนัยยะอื่นๆประกอบอยู่ก็ได้ ซึ่งผู้ฝันเท่านั้นที่แปลความหมายออกมาได้

(อย่าลืมซื้อเลขท้าย 3ตัว ไว้ด้วยนะครับ อิอิ)

 

เหล้าเอ๋ย เล่าความฝันบ้างดีกว่า

เมื่อคืนฝันว่า ตัวเองได้ทำงานรับใช้สมเด็จพระบรมราชินี ท่านได้รับสั่งให้ไปสืบหาญาติของท่าน (ใช้ราชาศัพท์ไม่ถูก จะบอกว่าพระญาติมันพ้องเสียงยังไงก็ไม่รู้ ขออภัยด้วย) ที่หายสาบสูญไปนาน ท่านให้ไปเดี๋ยวนี้ และชี้ไปที่รถ Mercedes Benz 500 เปิดประทุน รุ่นเก่าหน่อย ให้ใช้รถคันนี้ไป ผมและลูกน้องอีกสองคน ในชุดสีกากี ไม่ได้ใส่เครื่องหมายใด กระโดดขึ้นรถขับไปทันที รถเครื่องมีกำลังมาก ต้องแตะคันเร่งเบาๆ เสียงมันเหมือนเครื่องยนต์ ช่วงชักยาว ระหว่างทางแวะทานอาหาร หนึ่งมื้อ โดยเดินเข้าไปในร้านบอกเจ้าของร้านว่า "มีอะไรที่จะทำ ให้ทำเพิ่มด้วยเดี๋ยวนี้"

เมื่อไปถึงที่ซึ่งญาติของพระองค์อยู่ เสมือนอยู่ที่ริมหน้าผาห่างจากชุมชน เมื่อเข้าไป ก็พบสามี ภรรยา คู่หนึ่ง อยู่ในชุดสีกากี ไม่ใส่เครื่องหมายเหมือนกัน จึงเล่าความประสงค์ให้ฟัง แต่ผมไม่ตามหาอย่างเดียว ขอนำตัวท่านทั้งสองกลับไปด้วย ท่านทั้งสอง ยินดีที่จะกลับ พร้อมบุตรสาว อีกสองคน อายุประมาณ 10 กับ 12 ปี ในระหว่ารอคอย ผมได้เดินมาที่รถ เปิดกระโปรง(รถนะครับ)หลังรถ หยิบเอาเลื่อยเครื่องยนต์ออกมาด้วย และเดินกลับไปที่บ้านท่านทั้งสอง

ในระหว่างทางเดิน เริ่มมีชาวบ้านที่ทราบข่าว มานั่งคุกเข่ารอสองข้างทางหลายสิบคน ผมร้องเพลงไปด้วย เป็นเพลงของ ธานินท์ อินทรเทพ ชื่อเพลง เหมือนคนละฟากฟ้า ร้องห้วนๆ ออกแร๊บนิดๆ

เหล้ามาซะนาน ติดใจตรงชื่อเพลงนี่แหละครับ

 

ฝันของพี่วิจิตรมี key word อยู่หลายคำ
ลองค้นหาความหมายดูนะครับ เพราะอย่างว่าหนะแหละครับ
เจ้าตัวผู้ฝันเท่านั้นที่จะรู้ เพราะมันบวกความรู้สึกไปในนั้นด้วย

"ญาติที่หายไป - ญาติที่พลัดพรากกันไปนาน"
"รถเบนซ์ราคาแพง เครื่องดีมีกำลังมาก"
"มีอะไรที่จะทำ ให้ทำเพิ่มเดี๋ยวนี้"
"กำลังอยู่ริมหน้าผา"
"บุตรสาวสองคน"
"เหมือนอยู่กันคนละฟากฟ้า"

ฟังดูก็คล้ายๆข้อความจากต่างมิติของใครนะ เร็วๆนี้
ที่ว่าตอนนี้พวกคุณกำลังอยู่ตรงขอบของวิวัฒนาการแล้ว
และปลายทางของมัน ก็คง "เหมือนอยู่กันคนละฟากฟ้า"เลย
ถ้าเป็นผมนะ ถ้าฝันว่าได้ขับถรหละก็..
สุขภาพของเราเองจะมีสภาวะแบบรถที่ขับนั่นแหละครับ
นี่ถ้าให้เดาก็จะบอกว่า..ตอนนี้สุขภาพพืี่วิจิตรกำลังดีขึ้นอย่างมากหรือเปล่าครับ

เพราะฉะนั้น..กายพร้อมแล้ว..ใจพร้อมแล้ว..
"มีอะไรที่จะต้องทำเพิ่ม..ก็ให้รีบทำเดี๋ยวนี้"
ไปตามหาสิ่งที่จะต้องทำเพิ่มซะ ไปตามหาญาติที่หายไปคนนั้นซะ

หรือเปล่านะ..เดาเอาหนะครับ..

.....................................................................

 

ดวงเนตแห่งอียิปได้ส่องสว่างแล้ว

 

พอดีผ่านมาอ่านเพลิน ๆ ค่ะ มาสะดุดตรงที่ว่า

"บุตรสาวสองคน"
"เหมือนคนละฟากฟ้า"

รู้สึกเหมือนว่า เป็นภาวะของ 2 ด้าน
ด้านมืด-ด้านสว่าง ความกลัว-ความรัก อะไรที่ยังแบ่งแยก
ถึงเวลาที่จะหลอมรวม กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ประมาณนี้อะค่ะ

อันนี้แค่แวะมาแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกนะคะ
เพราะจริง ๆ อย่างที่คุณ Chayutt ว่า
เจ้าตัวผู้ฝันเท่านั้นที่จะรู้ เพราะมันบวกความรู้สึกไปในนั้นด้วย


ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทีมงานแสงสว่างทุกท่านด้วยค่ะ (^_^)V

 

ขอบคุณพี่วิจิตรด้วยครับ ชัดเจนดีแล้ว
จิตวิญญาณมนุษย์มี 6 เหลี่ยมมุมนะครับ (ตามข้อมูลจิตจักรวาล)
เราสามารถพัฒนาเหลี่ยมมุมให้เพิ่มขึ้นได้เหมือนการยกระดับจิตวิญญาณน่ะครับ
โดยการเพิ่มแรงเหวี่ยงบนสามเหลี่ยมทางพลังงาน หรือ merkabah
ให้เกิดความสมดุลย์ขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่ง merkabah นี่อาจารย์ปริญญาเค้าหมายถึงยานพาหนะของจิตวิญญาณด้วย
เราน่าจะคุ้นกับรูปข้างล่างนี้กันมาแล้ว เรื่องเดียวกันครับ



ว่าไปเราหลายๆคนที่ได้รู้จักจิตจักรวาล ก็ซึมซับเรื่องแนวนี้กันมาระดับหนึ่งแล้ว
อาจารย์ปริญญา ท่านก็บอกไว้หลายเรื่องบนพื้นฐานเดียวกับข้อความต่างมิติ
คุณฐนาเข้าใจได้ไม่ยากอยู่แล้วครับ

 

เมื่อคืนฝันถึงว่าในต่างประเทศ ว่าภูมิประเทศเ้นินเขา ลดเลี้ยวไปมา มีขบวนเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาศพระชนม์มายุครบ ๕๐ พรรษาของเจ้าหญิงเมืองนั้น เหมือนเราเป็นพสกขนิกร รอชมบารมีอยู่ริมทาง พอขบวนนั้นลับสายตาไป
พลันก็ปรากฏขบวนใหม่ตามมา เป็นขบวนของฟ้าหญิงจุฬาถรณื อยุ่บนรถเปิดประทุนใบหน้าสดใสอิ่มเอิบมาก โบกพระหัตถืแด่ผู้มารับเสด็จ และในฝันก็แสดงให้รู้ว่า เป็รการเฉลิมพระชนม์พรรษา ๕๐ พรรษาเช่นเดียวกันตัวเลข๕๐ชัดเจนมาก
แค่จะบอกว่าฝันมั่วๆน่าปวดหัวมาหลายคืนแล้ว นานแล้วไม่ไดฝันชัดๆ ฟ้าหญิงพระพักตร์สดใสมากๆดูความสุขจัง