สถานภาพของสถานปฏิบัติธรรมของพระมหาโพธิสัตว์ หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ

หุหุ คุณอัญญาสิทธิ์คนเดิมจริงๆ เพราะภพภูมิ ท่านมาเยอะจริงๆ
ผมเพิ่งทราบนะครับว่าพระโพธิ์สัตว์ท่านเป็นทุกข์ เพราะ
"ไม่สามารถล้มเลิกหรือไม่สามารถหยุดการสร้างบารมีได้เพราะมันเป็นหน้าที่ เป็นพุทธประเพณีที่ต้องทำสืบต่อกันไป"

ผมเคยถามพระโพธิ์สัตว์ท่านหนึ่งตอนนี้ ท่านมีชีวิตอยู่ ถามท่านว่า ความทุกข์ของพระโพธิ์สัตว์คืออะไร และความสุขของพระโพธิ์สัตว์คืออะไร ท่านตอบว่า
"ความทุกข์ของพระโพธิ์สัตว์คือ เห็นสัตว์โลกต้องมีทุกข์ ความสุขคือช่วยให้สัตว์นั้นพ้นจากทุกข์"

ที่ท่านอัญญาสิทธิ์บอกว่าไม่สามารถล้มเลิกได้เพราะเป็นหน้าที่ จริงๆแล้วท่านลาพุทธภูมิได้ครับ แต่ถ้าเป็นแบบคุณบอก เห็นทีจะไม่ใช่พระโพธิ์สัตว์ เหตุเพราะท่านจะไม่เห็นแก่ตัว ผมไม่คิดว่า ปู่ทวด ปู่โต ปู่ทองทิพย์ พระตถาคต และปู่ขาวมหาราช บอกท่านมาอย่างนั้น บอกมาทางไหนก็แล้วแต่ ญาณทัศนะ คุณอาจจะผิดพลาด ถ้าอยากรู้จริงหรือไม่ ต้องทำแบบที่หลวงปู่ดู่บอกนะครับ ลองทายตังค์ในกระเป๋าเพื่อนดู ถ้าถูก ก็นับว่าใช้ได้...

แต่เรื่องที่ผู้พันเล่ามา ต้องขอโทษนะครับ ผมไม่เชื่อเลย เพราะ พระโพธิ์สัตว์ที่ต้องมาสร้างบารมีจริง ต้องมาจุติบนโลกเท่านั้นครับ ดังเช่นพระพุทธเจ้า ท่านมาทำบารมีของท่านหลายต่อหลายชาติ ทุกชาติล้วนเกิดมาเป็นสรรพสัตว์บนโลก
ท่านไม่เคยให้คนอื่นมาสร้างให้ สร้างให้กันไม่ได้ครับ

 

คุณ kitjung

การเรื่องการสร้างบารมี ของแต่ละคนนั้น ในแต่ละวาระจะไม่เหมือนกัน เป็นไปตามบารมีที่สั่งสมมา ว่าเกี่ยวพันกันมากับใคร อย่างไร อย่างหลวงปู่ทวด ผมเคยถามท่าน ท่านไม่ได้เป็นทุกข์แต่ท่านเมตตาสรรพสัตว์ เห็นเขาเป็นทุกข์แล้วสงสารเขา ท่านจึงสงเคราะห์ ผมถามท่านว่า ครั้งสุดท้ายที่ปู่มาใช้ธาตุขันธ์ นั้น เมื่อไหร่ ท่านบอกว่ายุคอโยธยา ผมถามท่านว่าไม่มาใช้ธาตุขันธ์แล้ว ปู่ทำบารมีอย่างไร ท่านบอกว่า ปู่ใช้ทำบารมีร่วม ใครปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ปู่ก็ไปทำร่วมด้วย ไปสนับสนุนเขา ก็ทำบารมีได้เช่นกัน ผมถามแม้กระทั่งว่า ปลวงปู่มาใช้ชาติเป็นหลวงปู่ดู่ หรือเปล่า หลวงปู่ทวดท่านบอกว่าไม่ใช่ ปู่ไม่ได้ลงมา

และหลายๆคนคงยังไม่เคยได้รู้เห็นหลวงปู่ทวด ในแง่ของการปราบหรือจัดการกับพระสงฆ์ที่ทำผิดในศาสนา ท่านจับเจตภูติเขาไปลงนรก อย่างนี้หลวงปู่ท่านก็ทำเช่นกัน ท่านบอกว่าเพื่อพระพุทธศาสนา ในบางวาระท่านก็ทำแบบนี้ แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ยังต้องปราบมาร เช่นกัน บางครั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านมีหน้าที่ ท่านก็อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้ามาปราบมาร ได้เช่นกัน ดังนั้นการสร้างบารมี อย่างที่หลวงปู่ทวดท่านทำนั้น ท่านก็ทำทั้งโปรดและปราบด้วย ครับ

ผมเองไม่เคยได้แขวนพระหลวงปู่ทวด ผมถามท่านว่าควรจะแขวนดีไม๊ ท่่านบอกว่า ไม่ต้องแขวน นั่นเป็นแค่สัญญลักษณ์ เพราะไปไหนมาไหนท่านไปด้วยอยู่แล้ว แต่ท่านแนะนำให้ผมแขวนพระพุทธ ปางนึง ท่านบอกว่าเวลาเราไปสร้างบารมี ญาณบารมีพระพุทธเจ้าท่านจะแผ่บารมีให้ มารก็จะขัดขวางไม่ได้

อย่างครูบาอาจารย์หลายรูป ท่านก็สร้างบารมีร่วมกับสานุศิษย์ และวาระการสร้างบารมีก็เป็นวาระของแต่ละคน และเป็นขั้นๆด้วย ความหมายก็คือ ถ้าเป็นหน้าที่ของใคร คนนั้นจึงจะมีสิทธิ์ทำบารมี เช่น ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์ลำดับที่หนึ่ง ท่านจะมีสิทธิ์เรียนรู้ตามหน้าที่หรือมีสิทธิ์ที่จะทำในเรื่องนั้นๆ โพธิสัตว์ลำดับที่ 2 ก็ต้องรอคิว ให้ตนเองเป็นลำดับที่หนึ่งก่อน จึงจะมีสิทธิ์ เรียนรู้ในสิ่งที่พระโพธิสัตว์ลำดับที่หนึ่งท่านเรียนรู้ เป็นต้น อันนี้หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเทศน์บอกไว้ชัดเจน ผมมีเทปอยู่ฟังมาหลายครั้งแล้ว แม้กระทั่งการแบ่งกันโปรดสัตว์ เขาก็ตกลงกันชัดเจน ว่าใครจะนำพาสรรพสัตว์ไปเท่าไหร่ เหลือไว้เท่าไหร่ เช่น ในภัทรกัปป์นี้ มีพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ท่านแบ่งกันเรียบร้อยว่าใครจะโปรดสัตว์นำพาไปเท่าไหร่ บังเอิญว่าเรื่องพระโพธิสัตว์นี่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเทศน์ไว้ละเอียดมาก เทศน์ไว้แม้กระทั่งเรื่องการอธิษฐานสร้างโลก สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านก็บอกผมว่าต่อไปจะต้องทำบารมีอย่างไรบ้าง อย่างการสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์นั้น ผู้นำสร้างตัวจริง คือหลวงปู่ทองทิพย์ฯ เมื่อท่านรู้ว่าท่านจะต้องละขันธ์ก่อน ท่านก็มอบหน้าที่นี้ให้ผมทำต่อ ท่านก็ทำบารมีร่วมเช่นกัน แต่ท่านทำในภาวะที่เป็นทิพย์ ผมทำในภาวะกายเนื้อ อันนี้เป็นการทำบารมีร่วมกันกับครูบาอาจารย์ ไม่มีใครการทำแทนใครได้

อย่างเรื่องของพระพุทธเจ้านั้น ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่คนถกเถียงกันมาก ว่าสภาวะของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร แต่ถ้าหากเข้าถึงท่านสภาวะก็ไม่แตกต่างกัน อย่างผมรู้เห็นพูดคุยกับพระพุทธองค์ ผมก็สืบเสาะไปหาผู้ที่ท่านเข้าถึงเรื่องพวกนี้ อย่างแม่จันดี น้องสาวของหลวงตาบัว ที่ท่านรู้เห็นเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าน่ะตาเนื้อเลย แน่นอนหลวงตาบัวท่านก็เข้าถึงแน่นอน เรื่องพวกนี้มันเลยตำราไปแล้ว หมายถึงว่า ตำราบางครั้งก็บันทึกไว้ไม่หมด ครับ

เรื่องเหล่านี้ ต้องปฏิบัติไปพิสูจน์เอาเอง อย่างแต่ก่อนผมก็สงสัยว่า หลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านย้อนไปถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้อย่างไร เพราะต้องย้อนไปไกลมหาศาล แต่เมื่อเราเข้าถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐมเอง ปรากฏว่า ไม่ใช่เป็นการย้อนกาลเวลา เพราะสภาวะของท่านไม่ได้ขึ้นอยู่กับกาลเวลาอย่่างมนุษย์ เมื่อเข้าถึงพระองค์นึงก็สามารถเข้าถึงได้ทุกๆพระองค์ นั่นเอง บางทีสิ่งที่เราคิดแบบมนุษย์ เมื่อเราเข้าถึงจริงมันอาจจะไม่ใช่เพราะเป็นอีกสภาวะนึง เป็นต้น

อย่างการรู้เห็นนี่ ผมไม่ได้เชื่อเลย ต้องพิสูจน์กันหลายๆคน ครับ เช่น เวลาที่จะอาราธนาครูบาอาจารย์ที่เป็นท่านเป็นทิพย์มาสอบถาม ก็ต้องอยู่กันหลายๆคน จะได้ช่วยกันดู ช่วยกันถาม เป็นต้น ครูบาอาจารย์บางรูปท่านก็มีหลายภาค เช่นบางทีท่่านก็มารูปกายเนื้อ บางทีก็มาในรูปกายทิพย์ที่เป็นกายเทวดาเต็มยศ อย่างหลวงปู่ทวด หลวงปู่โต ทุกครั้งที่กายทิพย์ท่านมา จะมาในรูปกายเนื้อที่เป็นพระสงฆ์ พระอินทร์ท่านส่วนใหญ่ท่านจะมานุ่งขาวห่มขาว แต่ในพิธีสำคัญๆ ท่านก็มาในรูปเทวดาเต็มยศ แต่อย่างหลวงปู่ทองทิพย์นี่ีท่านก็มีหลายรูปกาย รูปกายที่เป็นญาณใหญ่ของท่านไม่ใช่แบบพระสงฆ์ เป็นกายสีเงินใสๆ เป็นต้น ที่เป็นดังนี้ก็เนื่องด้วยภาคญาณต่างๆของแต่ละพระองค์ ที่ท่านสร้างบารมีมา

ดังนั้นผมจึงสรุปได้ว่า การแบ่งภาคญาณนั้นมีอยู่จริง ซึ่งก็พิสูจน์มาแล้วด้วยตนเอง อย่างหลวงปู่ทองทิพย์สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านก็เคยบอกผมว่า พระศรีฯท่านอวตารลงมารักษาพระศาสนา ท่านเกิดที่บ้านพระเจ้า(ชื่อบ้านที่หลวงปู่ท่านเกิด) ตอนนี้บวชเป็นพระสงฆ์อยู่ จะเฮ็ดบุญกุศลอะไรก็ให้รีบเฮ็ด ก็รู้ทันทีว่าท่านบอกอะไรผม มีวันนึงในงานบุญที่ผมเป็นเจ้าภาพ ท่านให้ผมขับรถพาท่านไป ที่วัดศรีเมืองฯ จ. หนองคาย วันนั้นผมจำได้แม่นเลยว่าตอนก่อนถึงวัดศรีเมืองฟ้ามีเมฆดำครึ้ม หลวงปู่ท่านก็ชี้ให้ผมดู พอเข้าเขตวัดศรีเมืองเมฆหายแดดส่องจ้าเลย หลวงปู่ท่านบอกกับผมว่า นิมิตดี ไปกราบพระศรีฯองค์จริง ท่านลงมาอยู่ในโบสถ์ ไปอธิษฐานเอาที่นั่น พระพุทธรูปองค์ที่ยืนนะ ผมลงจากรถเข้าไปกราบองค์พระไชยเชษฐา หลวงปู่ท่่านนั่งรอในรถ และก็สอดคล้องกันกับที่หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่า ตอนกลับจากภูเขาควาย ปู่แวะไปที่พระธาตุหลวง ประเทศลาว ปู่ยกมือขึ้นอธิษฐาน ห้องที่เก็บทรัพย์สมบัติของกษัตริย์ ลาวก็เปิดออก หลวงปู่ท่านบอกว่า เพราะในสมัยนั้นพระไชยเชษฐา ท่านได้อธิษฐานว่า สมบัตินี้จะเปิดออกได้ ก็ต่อเมื่อท่านมาเกิดใหม่เท่านั้น นอกจากท่านแล้วจะไม่มีใครเปิดออกได้ เมื่อเชื่อมโยงกันก็คือ ญาณพระไชยเชษฐา ญาณหลวงปู่ทองทิพย์ ญาณพระศรีฯ เป็นภาคญาณที่ท่านแบ่งออกมา ต่อมาก็มีเหตุให้ไปรับรู้เรื่องญาณของหลวงปู่ที่เป็นพระมหาจักรพรรดิ์อีกด้วย(ตอนทำพิธีรับญาณพระจักรพรรดิ์ ถ่ายภาพได้แสงเป็นเส้นๆลงมาจากท้องฟ้ามากมาย) เพราะญาณนี้ไปเชื่อมโยงถึงญาณของพระไชยเชษฐา ซึ่งผมตอนนั้นผมต้องไปลาวที่พระธาตุหลวง รวมทั้งไปอาราธนาญาณท่านมาจากเขตนึงของภูเขาควาย แถวๆพระบาทแอวขันและในวาระนั้นแหละที่พระอินทร์ท่านรออยู่ที่นั่นเพื่อจะมาที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ จึงอัญเชิญญาณพ่อพระอินทร์ท่านมาและก็เททองหล่อรูปพระอินทร์ เพื่อรองรับญาณของท่าน ไม่ใช่ว่าอยู่ๆแล้วอยากจะทำขึ้นมาหรอก ท่านสั่งให้ทำเองแหละ

หลวงปู่ทองทิพย์ท่านบอกผมว่า ผมสร้างบารมีมากับท่าน ติดตามกันมาทุกภพทุกชาติ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต ก็ต้องไปกันด้วยกันอีก

ที่เล่ามานี่ไม่ต้องการให้ใครเชื่อหรอกครับ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ของใครของมัน

เรืองที่หลวงปู่ท่านเล่าให้ผมฟังนั้นมีอีกมากมาย ที่ลืมๆไปก็มีเยอะ โดยเฉพาะสิ่งที่ท่านกล่าวถึงเกี่ยวกับการสร้างบารมีนั้น ชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมทั้งท่านก็ทำให้ดูและก็ชี้แนะให้ผู้ที่มีหน้าที่ทำด้วย ถ้าใกล้ชิดท่านจริงๆ หลวงปู่ท่านจะบอกเลยว่า เราสร้างบารมีมาแบบไหน ใครต้องสร้างแบบสาวก แบบพระปัจเจก แบบพระโพธิสัตว์ และแต่ละคนควรใช้คำภาวนาว่าอย่างไร อย่างของผมตอนเจอหลวงปู่ใหม่ๆ ผมภาวนาพุทโธ หลวงปู่ท่านก็ให้ผมเปลี่ยนไปใช้คำภาวนา นะมะ พะทะ บางคนท่านก็ให้ใช้ พุทโธ บางคนหลวงปู่ก็ไม่สอน ไม่พูดเรื่องการภาวนาให้ฟังเลย เคยถามท่านเหมือนกัน ว่าทำไมบางคนปู่ไม่ให้คำภาวนาเขา ท่านบอกว่า บอกไปก็เสียเวลาเปล่า เขาเฮ็ดบ่ได้

ศึกษาไป ศึกษามา เรื่องคำภาวนา ก็เข้าเค้าเรื่องของภพภูมิเก่าๆที่เราเคยทำมาเรื่องของ การตั้งธาตุ หนุนธาตุ แยกธาตุ สลายธาตุ ฯลฯ ในยุคโบราณนั้น ครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้สอนผมกับพี่ชาย คือหลวงปู่ศรีทัตย์ แห่งพระบาทโพนฉัน ประเทศลาว นั่นเองครับ(แต่ยุคโบราณนั้น ท่านไม่ใช่ชื่อนี้)

 

ขอบคุณท่าน yaba150 ครับที่มาตอบ ส่วนท่านอัญญาสิทธิ์ผมรู้แล้วว่าจะต้องไม่ตอบ หรือตอบก็พูดไปทางอื่น ก็เป็นตามที่คิดไว้จริงๆ เดี๋ยวผมจะส่งเอกสารลับไปให้ครับ เเต่จะเปิดเผยหรือไม่นั้นแล้วแต่ท่านyaba150นะครับ เพราะเขียนข้างบนว่า ลับผมรู้แล้วครับว่าใครจริงหรือไม่จริง ผมก็จะเลิกยุ่งเหมือนกันครับ มีครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า ใครที่ทำอนันตริยกรรม ก็ไม่ควรเข้าใกล้เพราะเป็นบาปหนักโดยเฉพาะสังฆเพศครับ ทำสงค์แตกแยกหนักสุดๆ

 

ขอบคุณมากครับ สำหรับเอกสาร ผมได้รับแล้วครับ เป็นอันเดียวกับที่ผมมีจริงๆ
มีพี่ที่เว็บพลังจิต 4 ท่าน ส่งข้อความหาผม เกี่ยวกับเรื่องนี้ และบอกให้ผมฟ้องท่านAunyasit ข้อหาหมิ่นประมาท แต่ผมก็คงไม่ทำหรอกครับ ไม่อยากให้เสื่อมเสียถึงหลวงปู่ทองทิพย์ครับ เพราะทุกวันนี้วัดก็บอบช้ำอยู่แล้วครับ
ผมก็คิดเหมือนกันว่า ท่านAunyasit คงไม่ตอบแน่นอนแล้วก็เป็นจริงตามที่คิดไว้ (ถ้าตอบคงตอบตอนหลังหรือไม่ตอบเลย)
เข้าพรรษาผมได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน แล้วได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ กว่าจะได้คุย ประมาณ เกือบ 6 ทุ่มครับ (ขอสงวนนามหลวงปู่)
ท่านบอกผมว่า 1. นาวาอากาศโท..................... ถ้าเป็นไปได้ห้ามเข้าใกล้เลยครับ ให้หลีกห่างไว้ แล้วบอกผมว่าอย่าไปเล่นกับไฟ
2.คนที่ทำสังฆเพศ มีแต่จมกับจมครับ (เหมือนท่านปีศาจสายลมว่าครับ)
3.เครื่องธรรมที่หลวงปู่ฝากท่านAunyasit ไว้ก่อนละสังขาร ผมถามแล้วท่านบอกว่าเครื่องทมเครื่องธรรมอะไรไม่มีหรอก (ท่านว่าอย่างนี้ครับ)
4.ก็ขอขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับที่เป็นกำลังใจให้ผม จากนี้ไปผมคงจะเข้ามาตอบในสิ่งที่ดีและมีสาระ และจะไม่พูดเถียงกับท่านAunyasitครับ(เพราะหลวงปู่ห้ามไว้) ถ้าเข้ามาก็คงเข้ามาอ่านติดตามความเคลื่อนไหวของหลายๆท่าน ขอบคุณทุกท่านมากครับ

 

สมาชิกหายไปไหนหมดแล้วครับ

เห็นวัตถุมงคลของท่าน yaba150 แล้วผมก็อยากได้ไว้บูชาเหมือนกันครับ ท่านเก็บไว้เยาะจริงๆ
แต่ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่งครับ ที่ท่านอัญญาสิทธิ์ว่า เป็นรูปที่เทวดาถ่ายภาพไว้(รูปตอนเป็นฤษี) ผมเคยถามพี่คนหนึ่ง ศิษย์หลวงปู่อาจจะรู้จัก แกบอกว่าอดีตชาติเคยเกิดเป็นลูกหลวงปู่ทองทิพย์มาก่อน (หลวงปู่เป็นคนบอกเอง) แกบอกว่ารูปตอนปู่เป็นฤษี ทหารอเมริกันที่มารบที่ลาวเป็นคนถ่ายไว้ครับ บอกว่าหลวงปู่ตั้งใจให้เห็นและให้ถ่ายภาพไว้ เลยมีคนขอฟิล์มมาล้างไว้และนำให้หลวงปู่อธิฐานตอนที่หลวงปู่สละผ้าลายมาห่มเหลือง เป็นรูปที่มีอิทธิฤทธิ์สูงมากครับ จริงหรือไม่จริงผมไม่ทราบแต่ผมได้ยินกับหูตัวเองครับ

 

มาแล้วครับ ไม่ได้หายไปไหนหรอก เดินสายทำบุญและทำงานครับ วัตถุมงคลของหลวงปู่ถ้าอยากได้เดี๋ยวผมจัดส่งให้ แต่ให้ได้นิดหน่อยนะครับ
เรื่องรูปหลวงปู่ตอนเป็นฤษีผมเคยสงสัยหลายครั้งเหมือนกันว่าทำไมเทวดาถ่ายภาพได้ และมีหลายคนพูดเหมือนกันแสดงว่าอาจรับข้อมูลที่ผิดมาหลายทอด ถ้าเทวดาถ่ายจริงจะถ่ายยังไงผมก็งงอยู่ แต่ก็มีเค้าครับที่ว่าทหารอเมริกันเป็นคนถ่าย เพราะช่วงนั้นหลวงปู่่ไปฝึกที่ภูเขาควาย 7 ปี 7 เดือน 7 วัน จนผมยาวมาก(ที่บอกว่าเคยเป็นลูกหลวงปู่ใช่พี่ที่ชื่อว่า หนุ่ม หรือเปล่าครับ ผมเคยเจอกับพี่หนุ่มที่วัดและท่านบอกคล้ายๆกับพี่ปีศาจสายลมว่าครับ คล้ายว่าเคยเกิดเป็นพ่อลูกกันมาก่อนในอดีต) ถ้ามีโอกาสได้เจอพี่หนุ่มอีกผมจะลองถามเรื่องเกี่ยวกับปฎิปทาหลวงปู่และเหตุการหลายๆอย่างที่พี่แกได้เจอมา จะนำมาเล่าเป็นวิทยาทานให้ฟังครับ

 

นำรูปหลวงปู่มาให้ชมครับ หลวงปู่เมตตาจารให้ทั้งสองภาพเลย
กราบหลวงปู่ทองทิพย์ ด้วยเศียรเกล้า

 

ผมยังรอฟังเรื่องราวของหลวงปู่อยู่ตลอดนะครับ ศรัทธาครับ

 

รออ่านอยู่รับเรื่องหลวงปู่ผมรู้ขอมูลน้อยมากครับเคยอ่านแต่ในหนังสือของหลวงปู่เณรคำครับพระของหลวงปู่ผมก็ไม่มีครับใครมีช่วยแบ่งปันกันได้ไหมครับผมขอไม่วิจารณ์นะครับเรื่องราวต่างเพราะผมรู้น้อยมากเรื่องการปฏิบัติของหลวงปู่ผมพอรู้บ้างครับน่าจะมีหนังสือของหลวงปู่ออกมาบ้างนะครับชีวประวัติการปฏิบัติการแสดงธรรม

 

เรื่องของหลวงถ้าผมปู่ถ้าเล่าไปเยอะ บางเรื่องก็มีโอกาสทำให้คนปรามาสแล้วก็ตกนรกเยอะครับ โดยเฉพาะผู้ที่ไปยุ่งเกี่ยวกับพระเครื่องของหลวงปู่ที่คนเขาไปขุดมาจากวัด ไม่รอดสักคน หลวงปู่ท่านบอกว่าลงนรกหมด อาญาสิทธิ์แห่งหลวงปู่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้

มีอุทาหรณ์เกี่ยวกับการซื้อขายพระสมเด็จฯ มีพี่คนนึงลูกศิษย์หลวงปู่ มีพระสมเด็จของแท้ มีคนเขาให้ราคาสูงมาก ก็อยากจะขาย พี่เขาไปถามหลวงปู่ว่าจะขายพระสมเด็จได้ไม๊ หลวงปู่ท่านบอกว่า ถ้าอยากลงนรกก็ขายไป สุดท้ายก็ไม่ได้ขาย

มีบุคคลบางส่วนที่มาวุ่นวายกับการทำหน้าที่ของผม ผมก็อธิษฐานใช้อาญาสิทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านทำหน้าที่ร่วมกับผม(องค์ประธานแห่งไตรภพ) ส่งเจตภูติลงไปจองจำในโลกันต์มหานรก 1 พุทธันดร สิ้นศาสนาของพระศรีฯเมื่อไหร่ก็จะสามารถขึ้นมาบนโลกได้(คงเป็นโลกใบใหม่) คนเหล่านี้เขามีกรรมมาก่อนครับเขามาเกี่ยวข้องเพราะเขามีกรรมมา กรรมในอดีตส่งผลมาในปัจจุบันแล้วก็มาผิดอีก ก็ต้องลงไปรับกรรมอีก ก่อนจะอธิษฐานก็อาราธนาองค์ประธานแห่งไตรภพลงมาแล้วก็อธิษฐานขอใช้อาญาสิทธิ์ปราบมาร บางครั้งเรามองไม่เห็น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีมารแฝงมา องค์ประธานแห่งไตรภพท่านลงมาท่านก็จัดการเลย

ที่จริงในพระพุทธศาสนาของเรามีท่านที่ทำหน้าที่ปราบมารอยู่ แต่ท่านจะลงมาทำหน้าที่เมื่อถึงวาระและจากการร้องขอของผู้ที่ลงมาทำหน้าที่ทางศาสนาเท่านั้น ผมลงมาทำหน้าที่ในหลายวาระ ก็ลงมาปราบทุกยุค ยุคนี้ก็เช่นเดียวกัน ถ้าอยากจะรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ปฏิบัติภาวนาให้ถึง ม้ามณีกาบ ม้าพลาหก ที่อยู่รอบๆธาตุเจดีย์(ต้นโพธิ์)ในวัดหลวงปู่ แล้วจะเข้าใจ หลวงปู่ท่านขี่ม้าพลาหก(สูงสุด) ของผมขี่ได้แค่ม้าบินคือม้ามณีกาบ กับขี่จักรเท่านั้น มีสัญญลักษณ์ของหลวงปู่ขี่ม้าพลาหก อยู่ที่ต้นโพธิ์ในวัด ท่านสร้างไว้ แต่ก่อนตรงฐานม้าบินนั้น สมัยหลวงปู่อยู่ยังไม่มีม้า ผมเคยถามหลวงปู่ท่านว่า ทำไมมีแต่แท่น แต่ไม่มีม้า หลวงปู่ท่านบอกว่า ถึงเวลาเจ้าของเขาจะมาเฮ็ดของเขาเอง สุดท้ายก็มีเหตุให้ผมต้องมาสร้างม้าบินไว้บนแท่นนั้น เคยพยายามผลักภาระไปให้คนอื่นสร้างแต่สุดท้ายเขาสร้างไม่ได้ ผมก็เลยต้องมาสร้างเองพร้อมๆกับพระพุทธเจ้าห้าพระองค์

ผมรอดูว่าจะมีใครมาสร้างคนขี่ม้าพลาหกอีกตนนึง ที่อยู่ตรงต้นโพธิ์ หลวงปู่ท่านสร้างม้าไว้รอ แต่ตัวคนขี่ยังไม่ปรากฏ ผมเคยถามหลวงปู่ท่านก็ตอบว่า เจ้าของเขาจะมาเฮ็ดเอง ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าผู้มีบารมีคนใดจะมาสร้าง แต่เท่าที่หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟัง น่าจะเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่เณรคำ

หลวงปู่ท่านเน้นให้ดูที่ภายในเป็นหลัก ท่านว่าเสื้อผ้า ตัวคน ล้วนเป็นภายนอก สำคัญที่จิตวิญญาณภายใน ท่านบอกให้เชื่อในสิ่งที่รู้เห็นของตนเองหลวงปู่ก็คอยดูอยู่ เพราะเรื่องบารมีนั้นของใครของมัน บางทีมารเขาก็แฝงคนมาได้

ผมเคยถามหลวงปู่สมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ว่าถ้าไม่มีวัตถุมงคลของหลวงปู่แล้วจะแขวนอะไรได้ หลวงปู่ท่านบอกว่า รูปของหลวงปู่นั้นแทนได้ทุกอย่าง เท่าที่หลวงปู่เล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับประสบการณ์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่าน ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของรูปภาพของท่านทั้งนั้น ทั้งยิงไม่ออก ตกเครื่องบินไม่ตาย ฯลฯ

 

ผมก็พอมีเหมือนกันครับ ถ้าอยากเก็บไว้บูชา ผมขอเบอร์ที่กล่องข้อความครับ รายได้ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ครับ

 

ผมเพิ่งมาถึงบางอ้อว่าอัญญาสิทธิ์ท่าทางจะไม่ใช่ชายชาติทหารที่ชื่อน.ท.วีระพงศ์คงสวัสดิ์ ซะแร้วววว ก็เนื่องจากปัญหาใดๆ ที่เคยซักถาม แกไม่เคยตอบเล้ยเลี่ยงบาลีไปเรื่อย แถมอ้างภายในอีกต่างหาก ผมว่า ไอ้ที่แกพล่ามๆ นั่นนะเป็นนิทานหลอกคนทั่วไปที่ศรัทธาในหลวงปู่ทองทิพย์ซะมากกว่า
เพราะอะไรหรือครับ? ลองไปหาข้อความในหน้าก่อนๆ ที่ผมหรือเพื่อนๆ สมาชิกสอบถามคุณอัญญาสิทธิ์ซิครับแกไม่เคยตอบเลย เช่น
1. บัญชีมูลนิธิ - ก็ไม่เคยมา post ในเว๊ป แต่ทำมั้ย ทำไมเวลาบอกบุญ บอกในที่สาธารณะ แต่พอจะขอดูบัญชี กลับจะให้ดูส่วนตัว น่าขันจริงๆ
2. บุคคลอ้างอิง - อ้างแต่พระที่ท่านละสังขาร หรือบุคคลที่เป็นชาวบ้าน เช่นแม่ตุ๋ยหรือลูกศิษย์หลวงปู่ที่เลี้ยงควาย ทำไมถึงอ้างท่านเหล่านั้นน่ะหรือ? ก็เพราะจะได้ไม่มีใครไป cross check ข้อมูลไง แหม! พอมีคนอ้างหลวงพ่อทองแดงพร้อมกับเบอร์โทรฯ กะเทยวีระพงศ์ถึงกับกรี๊ดแตก นักปฏิบัติประสาอะไรกันเนี่ย
3. การดูถูกคนอื่น - กะเทยวีระพงศ์ หรือตุ๊ดหนุ่ย ชอบอ้างแต่ธรรมขั้นสูงว่าคนโน้นคนนี้ ไม่มีบารมีบ้างล่ะ หมดบารมีบ้างละ แสดงว่าการปฏิบัติธรรมของตุ๊ดหนุ่ยต้องเริ่มขัดเกลาจิตใจตัวเองก่อนนะยะ

ในความเห็นผม ชื่อหัวข้อในเว๊ปไม่น่าจะชื่อสถานปฎิบัติธรรมของหลวงปู่ทองทิพย์เลย น่าจะเปลี่ยนเป็น“อภินิหารอวิชชาของตุ๊ดหนุ่ย แห่งโรงเรียนนายเรืออากาศ”

ใครเห็นด้วยยกมือขึ้นเร็ววววว

อ้อ! ลืมกล่าวถึงพระอาจารย์น้อยหรือหลวงปู่เณรคำน้อย จอมต้มตุ๋นเดี๋ยวนี้ไม่รู้หายไปไหน ตุ๊ดหนุ่ยถึง Solo เดี่ยวเดียวดาย

 

ท่านปีศาจสายลมไม่ต้องขุดคุ้ยเรื่องราวก็ได้ครับ เพราะถึงยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ผมถึงบอกไงครับว่า คนจริงกับคนที่ชอบคนจริงไม่เหมือนกัน ชอบคนจริงแต่ตัวเองไม่จริงก็ไม่มีประโยชน์ครับ
ส่วนผมก็มีพี่สามสี่ท่านส่งข้อความมาหาบอกว่า ผมเป็นลูกผู้ชายจริงๆ กล้าตอบกล้ายอมรับความจริง บางท่านบอกว่าลูกศิษย์ปู่ทองทิพย์ต้องอย่างนี้ครับ การกล้าตอบและกล้ายอมรับความจริง ถือว่าเป็นการสร้างบารมีเหมือนกัน ไม่ต้องมาคุยโม้โอ้อวดให้เปลืองน้ำลายและเสียเวลาเปล่า ผมก็ขอบคุณพี่ทุกท่านด้วยนะครับที่เข้าใจทุกอย่างว่าใครเป็นยังไง

ดูวัตถุมงคลหลวงปู่ไปพลางๆก่อนครับ เท่าที่เก็บสะสมครับ

 

หยุดยาว 3 วัน พี่ๆไปทำบุญกันที่ไหนบ้างครับ

 

คำสอนหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ มหาโพธ&#3
เรียนคุณบัวเกี๋ง และแด่ศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ ครับ ประวัติและภาพท่านในอดีตในส่วนที่ควรเปิดเผยได้, เสียงคำสอนหลวงปู่พร้อมอักษรที่แกะแล้วและได้รับเมตตาตรวจอักษรและคำบาลีโดยพระสงฆ์เปรียญธรรม 9 ประโยค (มิได้แต่งเติมใด ๆ ทั้งสิ้น ครับ) เพื่อศึกษาธรรมแท้จากท่าน เพื่อรักษาผู้ประพฤติตามครับ อันที่จริงผมมีเสียงท่านในภาษาอีสานอีกราว 8-9 ไฟล์แต่เกรงว่าจะแกะผิด หรื่อหากศิษย์หลวงปู่ในอดีตท่านใดมีก็นำมาร่วมกันเผยแผ่คำสอนได้นะครับ เพื่อความสามัคคีเป็นธรรมทานรักษาโลก ไม่ทำเพื่อตนเองใด ๆ ทั้งสิ้น

 

คำสอนหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ มหาโพธ&#3
เรียนคุณบัวเกี๋ยง และแด่ศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ ครับ ประวัติและภาพท่านในอดีตในส่วนที่ควรเปิดเผยได้, เสียงคำสอนหลวงปู่พร้อมอักษรที่แกะแล้วและได้รับเมตตาตรวจอักษรและคำบาลีโดยพระสงฆ์เปรียญธรรม 9 ประโยค (มิได้แต่งเติมใด ๆ ทั้งสิ้น ครับ) เพื่อศึกษาธรรมแท้จากท่าน เพื่อรักษาผู้ประพฤติตามครับ อันที่จริงผมมีเสียงท่านในภาษาอีสานอีกราว 8-9 ไฟล์แต่เกรงว่าจะแกะผิด หรื่อหากศิษย์หลวงปู่ในอดีตท่านใดมีก็นำมาร่วมกันเผยแผ่คำสอนได้นะครับ เพื่อความสามัคคีเป็นธรรมทานรักษาโลก ไม่ทำเพื่อตนเองใด ๆ ทั้งสิ้น

 

ท่านพิจรณา ถ้าอยากได้ไฟล์เทศท่าน ต้องทำยังไงบ้างครับ

 

ใครสามารถแกะได้ช่วยแปลแล้วมาเล่าสู่กันฟังจะดีมากครับ

 

แม่นแล้วครับ อยากฟังเหมือนกัน

 

วันเสาร์นี้ผมจะไปหนองคายแล้วเลียบโขงไปปากคาด
คิดว่าคงจะผ่านตำบล สีกาย
ไม่รู้ว่าวัดหลวงปู่ทองทิพย์อยู่แถวไหนครับ
เผื่อจะแวะไปกราบสรีระหลวงปู่