โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    อันนี้แน่นอนที่สุดเลย หุหุ ยุคสมัยเปลี่ยนไปเร็วมาก
     
  2. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    หลังจากเปิดแล้วเค้าบอกผมจะพบกับสิ่งดีๆขึ้นมาเองและให้ผมไปฝึกนั่งสมาธิและสวดมนต์ เค้าบอกบางอย่างผมต้องรุ้ด้วยตัวเองเค้าเองก็ไม่สามารถแปลภาษาที่ผมพูดได้ออกมาหมด คือประมาณว่าผู้รู้พึงรู้ด้วยตัวเอง บางครั้งผมก็ไม่กล้าฝึกพูดภาษาเทพเองกลัวว่าคนที่มาได้ยินจะหาว่าเราบ้าเพราะผมพักอยู่มันเป็นตึก4ชั้นอยู่รวมกันหลายคน
     
  3. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ฝากให้ท่าน จิ-โป ช่วยดู ว่าผม มีอย่างที่เคย มีคนทักจริงหรือเปล่าครับ เพราะเค้าเสนอให้ผมไปปรับดวงแก้ดวง บอกว่า ผม ดวงจะได้เงินเพราะคำพูด ประมารหมอดูแต่ยังไม่เจออาจารย์ ให้ผมไป เสริมดวงกับเค้า อยากรู้ว่าเป็นแบบนั้นหรือผมมี องค์จริงหรือเปล่า เพราะมีคนที่อ้างว่ามีองค์ โทรมาหาผมว่าองค์เค้าบอกให้มาเตื่อนว่าผมกำลังโดนแฟนหลอกอยู่แล้วองค์เค้าก็ทักว่าผมเป็น องค์เพื่อนของเค้า องค์เค้าชื่อ ธิดานาคราชเจ้าศรีสุดาจันทร์ อะไรประมาณนี้ผมก็จำไม่ได้แล้ว ...... แล้วทักง่าองค์ผม สีม่วงอยุ่ข้างบนให้ผมองค์มาคุยกับเค้า ตอนนัั้นที่คุย ร่างกายผมชาเกือบครึ่งซีกไม่รุ้เหมือนกันว่าเกิดจากอะไร
     
  4. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    ไม่ได้ครับ ภาษาไม่ได้ให้พูดเพื่อว่าเรามีองค์เทพโน่นนี่ คนที่ทักและเข้มใน
    กระแสของเทพมากเกินไปก็ไม่เกิดการละการปลง จะหลงไปตามกระแสสุดท้าย
    ก็เป็นร่างทรง เราต้องอยู่ให้เหนือสมมุติ เทพก็สมมุติ ภาษาก็สมมุติ แม้จิตเรา
    ท่านก็ว่าสมมุติ ใช้ภาษาเทพเป็นอาวุธอย่าถูกอาวุธกลืนกินวิญญาณ

    การชาเกิดจากภาษาเทพที่ใช้กระตุ้นสัญชาติญาณ รวมถึงสิ่งที่แฝงเร้นในร่าง
    กายของเรา ถ้าฝ่ายที่มีฤทธิ์มากกว่าจะไม่เป็นไร ฝ่ายด้อยกว่าจะเกิดเวทนาไป
    เป็นการข่มกันด้วยตบะ ถ้าชามากแสดงว่าโดนของมา ทางคนที่คุยด้วยเอา
    ของนั้นๆออกให้โดยที่บางทีเขาเองไม่รู้ตัว
     
  5. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    หาทางอยู่นานว่าแบบไหนจะถูกจริต คงจะทันช่วงไปปฏิบัติธรรมนะครับ
    มันมีจุดที่ต้องมองอยู่ 2 จุด นั่นคือ
    1.มองหาความสุขที่เกิดในใจ
    2.มองหาความตรึง ความนึกคิดตรงจุดที่เริ่มคิดนั้น

    ในตอนที่นั่งสมาธิหลับตาลง กำหนดมองสองสิ่งนี้ที่จะเกิดกับใจเรา เราจะเห็น
    ความฟุ้งมันพลุ่งขึ้นมาจากท้องเหมือนกลุ่มควัน หัดมองมันนี้เรียกนิวรณ์

    แต่ถ้าไม่ได้หลับตานั่งสมาธินั่งเฉยๆ รึกวาดบ้านไปนึกมองในใจไป จะไม่เห็น
    เป็นกลุ่มควัน แต่จะเป็นคล้ายๆกับว่าใร้อารมณ์ คือมันจะเฉยๆไม่เกิดการอยาก
    จะคิดอะไร แรกๆอาจจะกดแน่นหน้าอกบ้าง หลังจากที่ทำบ่อยเข้าจะชินไปเอง

    ทำสองอย่างนี้ครับเสริมเขาไป
     
  6. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว อยู่เหนือ สิ่งสมมุติทั้งปวงแบบนี้ใช้ไหมครับ ถ้าทำแบบนี้ได้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรไม่ว่า ผี หรือ ของดำ ใช้ไหมครับแต่ต้อง สั่งสมบุญบารมี หมั่นสวดมนต์นั้่งสมาธิ อุทิศส่วนกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวรและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆแค่นี้ก็เพียงพอแล้วใช้หรอไม่ครับ
     
  7. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ขอบคุณคะ คุณจิ-โป

    ทันคะ ...ศิลามณี rabbit_ ออกเดินทางเช้าวันที่ 14... ไปชักพระวันที่ 15 แล้วก็ปฏิบัติธรรม.. วันที่ 18 ตอนเช้าก็กลับถึงเชียงใหม่แล้วคะ
     
  8. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    สวัสดีคะ คุณเจต ยินดีที่รู้จัก เข้ามาคุยในนี้บ่อยๆนิ
     
  9. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ยินดีที่รู้จักเช่นกัน ครับ คุณ ศิลามณี พอดีผมไปเจอกระทู้นี้ เมื่อ2วันก่อนก็เลยอ่านมาตลอดยังไม่ผ่านหน้าที่100 เลย มีบทสนทนา ดีๆทำให้คิดแล้วลองปฏิบัติตาม แต่ผมก็ไม่ถึงฌาณกับเค้าสักที กลายเป็น รู้เวทนา ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ แต่ไม่สงบสักที คุณ ศิลามณีเป็นคนเชียงใหม่หรือครับ ผมอยู่ลำปางนี้เอง นี้ก็เพิ่งสึก มาเมื่อเดือนกว่าๆ เองครับ ก็ไปบวช ที่วัด ร่ำเปิง ที่เชียงใหม่ มาครับ
     
  10. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    รบกวนถาม ท่าน จิขโป อีกเรื่องครั้บ คือ มีอยู่ครั้งนึง ตาผมล้มป่วยไม่สบาย ขยับตัวไม่ได้มือเท้าบวม อ่อนแรงเต็มที อายุแกก็ปาไป88แล้วครับ ผมก็เลย จับมือแกแล้วอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ที่ผมได้กินเจมาครึ่งปี ขออุทิศกุศลนี้ให้แกหมดเลยขอให้แกหายจากการป่วย หลังจากนั้น ไม่นานตาก็กลับฟื้นขึ้นมาเป็นปกติถึงจะเดินเหินไม่สดวกเหมือนก่อนต้องใช้ไม้ค้ำที่แต่ก็ไปไหนมาไหนได้ พูดคุยรุ้เรื่อง แต่ผ่านมาสักปีกว่าๆ หลังเมษา ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก เดินระหวยเรือยแรงแบบเดิม อ่อนล้าไปทีละนิด ผมไม่รุ้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่สิ่งที่ผมทำไปตอนแรก เป้นการ หน่วงกรรมแกหรือเปล่า สมัยก่อนแกเป็นพรานล่าสัตว์ ล่ามาเพื่อจุนเจือครอบครัว ตอนนี้แกก็ลับกรรมของแกคือ ผมสงสารอยากให้ท่านพ้นกรรมนี้สักทีและไม่เป็นภาระของผู้ๆที่ดูแล หรือไม่ก็ให้กลับมาแข็งแรงเป็นปกติ เหมือนเดิม อยากทราบว่ามีวิธีไหนช่วยได้บ้างครับ
     
  11. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737


    แล้วนี้ผมเกิดมา มีรอยหยัก ระหว่างคิ้ว นี้เป็นยักษ์มาเกิดหรือเปล่า
     
  12. chaiyawat

    chaiyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +148
    ซื้อเทียนกับผ้าอาบให้แม่ไปถวายสังฆทาน เมื่อไปถึงวิหารจะมีพระรูปหนึ่งนั่งอยู่และมีใบสำหรับอ่านคำถวาย ญาติโยมก็พากันกล่าวถวายแล้วกรวดน้ำรับพร

    สงสัยขึ้นมาคำว่าสังฆทานคืออะไร แปลตรงตัวคือทานที่ทำพระสงฆ์ซึ่งบุญจะมากกว่าทำกับคนทั่วไปเพราะพระท่านมีศีล แต่ละวัดไม่เหมือนกัน บ้างนั่งสี่รูปเรียงกัน บ้างนั่งหนึ่งรูปแต่ผลัดกันสัปดาห์หนึ่งเปลี่ยนครั้งหนึ่ง บ้างนั่งหนึ่งรูปแต่มีหลายวิหาร หรือหลายศาลา สิ่งที่สงสัยคือ
    1 ของใดจึงเรียกสังฆทาน ต่างจากภัตตาหาร ต่างจากตักบาตรอย่างไร ถ้าเดาว่าเป็นของแห้งเป็นของใช้ จะถูกต้องไหม ทำไมบางคนบอกสังฆทานบุญมากกว่าตักบาตร
    2 ถวายสังฆทานต้องมีคำสวดด้วย สงสัยทำไมพระท่านต้องพนมมือเพราะปกติพระท่านจะไม่ต้องไหว้ฆราวาส
    3 เมื่อพระสงฆ์รับสังฆทานแล้วของเหล่านั้นจะเป็นสิทธิ์ขาดในพระรูปที่รับจะทำอย่างไรก็ได้หรือไม่ จะเก็บไว้ใช้เองได้หรือไม่ หรือต้องเอามาประชุมกันในหมู่สงฆ์วัดนั้น
    4 วัดต่างๆมีห้องสังฆทาน เข้าใจว่าคนถวายเยอะต้องมีห้องเก็บของ เช่นนี้จากข้อ 3 ของทั้งหลายต้องนำไปไว้ในนั้นกระมัง แล้วรูปใดก็หยิบไปใช้ได้ไหม แล้วพระที่รับรูปแรกตอนที่ญาติโยมยื่นถวายสังฆทานเก็บใส่ย่ามได้เลยไหมหรือต้องรอให้นำมาเก็บไว้กองกลางในห้องนี้แล้วค่อยเดินมาหยิบเองภายหลัง

    มิได้มีเจตนาลบหลู่พระครับด้วยความสงสัยจริงๆจะได้เข้าใจและเป็นผู้ถวายที่ดีเมื่อเข้าใจ
     
  13. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    เหมือนที่เคยอ่านมาจำไม่ได้มากนะครับ เค้าบอกว่า การถวายสังฆทานจะได้
    บุญเยอะกว่าการตักบาท แต่จะต้องมี พระสงฆ์ 4 รูปขึ้นไป เพื่ออะไรสักอย่าง
    จำไม่ได้ครับ แต่ถ้าถวายองค์เดียวนี้ ถ้าจำไม่ผิดก็ได้เหมือนแต่ แต่ต้องอะไร
    อีกซักอย่าง เพื่อที่จะได้ไม่ผิดศีลและไปเกิดเป็นเปรต

    ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วย จำไม่ค่อยได้ รอพี่จิ-โป มาตอบอีกทีแล้วกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2011
  14. boriphat

    boriphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2006
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +2,124
    อนุโมทนากับท่าน จิโป ที่ช่วยชี้ทางสว่างครับ
    ไม่ยึดติด ไม่ถือมั่น คือสิ่งที่สมควรที่สุดครับ
     
  15. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ถามท่าน จิโป อีกนิสครับ อาการ ขนหัวตั้งตรงกลางกระหม่อมนี้เกิดจากอะไรครับ(ไม่ใช้เห็นผีหรือสัมผัสวิญญาณแน่นอน)
    ไม่ได้ตั้งทั้งหมดนะครับเฉพาะกระหม่อมเหนือหน้าผากขึ้นไปพื้นที่ประมาณเท่าลูกกอล์ฟรุ้สึกหนักหัวตลอดเวลาด้วย.(หรือผมไม่สบายเพราะอากาศเปลียนแต่เป็นมาหลายวันแล้วแถมคันมือทั้งสองข้างอีกต่างหาก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2011
  16. chaiyawat

    chaiyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +148
    ปกติไปวัดจะเจอพระรูปเดียวรับสังฆทานเป็นส่วนใหญ่(ทุกวัดที่เคยไป)
    ไม่ทราบวิธีที่ถูกต้องในการถวายสังฆทานต้องทำอย่างไร แล้วทำผิดจะได้โทษเป็นเปรตเลยหรือครับ
    ไม่ทราบพี่ๆ เพื่อนๆ ในเว็บส่วนใหญ่เวลาถวายสังฆทานทำอย่างไรกันบ้าง ขอคำแนะนำด้วย จะทำตามครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2011
  17. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]ท่านปู่พระอินทร์ หรือว่าท่านปู่พังคราชก็ได้ ว่าขอดูภาพในเวลานั้น ขอให้ภาพนั้นปรากฏแก่ใจของลูหลานเห็นไหมลูก [/FONT]
    [FONT=&quot]เราจะเห็นว่าในเวลานั้น การแต่งกายเป็นชายทั้งหมด แต่จริง ๆ เป็นผู้หญิงตั้งเยอะ จับดาบ ๒ มือ มีหอกซัด มีขอ มีง้าว สารพัด กองทัพขอมเขายกมาแบบรื่นเริงโห่ร้องกันมา การโห่ของขอมคงไม่เหมือนไทย ขอมคิดว่าคราวนี้ไทยต้องย่ำแย่ ขอมตั้งใจมาเลยว่าคราวนี้ขึ้นชื่อว่าคนไทยทุกคนจะต้องไม่มีชีวิตอยู่บนผืนแผ่นดินไทย เพราะขืนให้มันมีชีวิตอยู่มันก็ต้องขบถแบบนี้อยู่ตลอดเวลา เห็นไหมลูก เขาถือว่าเราขบถ แต่ว่าเขาเป็นโจรปล้นทรัพย์สินของเราเขาไม่คิด นี่เป็นกำลังใจของคนอันธพาล จะว่ากันจริง ๆ มันก็เป็นไอ้โจรร้ายนั่นเอง [/FONT]

    [FONT=&quot]พอกองทัพขอมดำเข้ามาใกล้ มันยับยั้งจะตั้งค่าย ยังไม่ทันจะตั้งท่าเพราะมันเดินขบวนมากัน พอล้ำเขตไทยเท่านั้น พรหมกุมารก็ให้สัญญาณยิงธนูไฟทันที หน่วยกองโจรที่เลี้ยงควายบ้าง ขุดหัวเผือกหัวมันบ้าง ก็ยิงธนูไฟ ยิงธนูสังหารทันทีมาจาก ๒ ข้างทางพร้อมกันนั้นกองทัพทั้งหมดก็บุกตะลุยทันที พรหมกุมารไสช้างพลายประกายแก้วสีขาวผ่อง และเนื้อเป็นประกายเข้าทันที บรรดาสัตว์พาหนะของข้าศึกเห็นช้างพลายประกายแก้วเข้าก็กลัว วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ไอ้ขอมที่อยู่บนหลังม้าคอช้างมันจะอยู่ได้ยังไงเมื่อช้างม้ามันวิ่งหนี [/FONT]

    [FONT=&quot]แม้แต่คนเดินก็เหมือนกัน กำลังใจเสียหมด กองทัพไทยจึงไล่ฟาดฟันขอมอย่างไม่ปรานี พวกที่ตายมากก็คือกองทัพราบ ตายเพราะถูกช้างม้าเหยียบตาย คนเหยียบกันตายมาก ที่ไปไม่ไหวจริง ๆ ก็ถูกคนไทยทั้งสตรี และบุรุษ [/FONT][FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]แต่เวลานั้นแต่งตัวเป็นผู้ชายหมด[/FONT][FONT=&quot]) [/FONT][FONT=&quot]ไล่ฟันตายเสียนับไม่ถ้วน [/FONT]

    [FONT=&quot]ความจริงถ้าจะนับก็ถ้วน แต่ไม่มีเวลานับ ข้าศึกวิ่งหนีไม่ได้ยับยั้ง วิ่งเข้าเมืองโยนกนครแล้วปิดประตูเมือง ช้างพลายประกายแก้วใช้งาแทงประตูพังเลย บุกเข้าไปฟาดฟันข้าศึก [/FONT]

    [FONT=&quot]ตอนนี้ภรรยาก็เป็นทหารไปรบด้วยตามเข้าไปเสียท่าข้าศึกตอนเข้าประตูเมือง ข้าศึกมันแอบอยู่ข้างประตูเมืองมันใช้หอกแทงภรรยาตาย ตอนนี้ใครเป็นใครตายเสียดายกันไม่ได้แล้ว พรหมกุมารเห็นเมียตายยิ่งโมโหร้ายใหญ่ ขับไสช้างประกายแก้วบุกฟาดฟันพังวินาศสันตะโร ข้าศึกเก็บของไม่ทัน ไล่ตีออกทางหลังเมืองตั้งตัวไม่ติด ของสักนิดเก็บไม่ได้ เพราะขืนเก็บก็ถูกฆ่าตาย หนีออกจากเมือง กองทัพของพระเจ้าพรหมราชติดตามไล่ข้าศึกไม่ลดละ ตีทั้งกลางวันกลางคืนไม่ยับยั้ง [/FONT]

    [FONT=&quot]ถ้าจะถามว่ากินข้าวที่ไหน ก็ตอบว่า นักรบทุกคนมีข้าวตากคั่วผสมเกลือเค็ม ๆ หวาน ๆ มีข้าวตากยังไม่คั่วด้วยมีกระติกน้ำ รบไปกินไปประทังชีวิต ได้รับคำสั่งอย่างเดียว [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ขอมอยู่ที่ไหนฆ่าให้หมดแม้แต่เด็กที่ออกในวันนั้น ก็อย่าให้เหลือเป็นเชื้อขอม ตีไม่หยุด ๓ วัน กับ ๓ คืน ขอมมันไม่ได้กินข้าวนี่ ปัดโธ่ มันก็เพลีย ไปไหนไม่ไหว ช้าลง ถ้าช้าก็ตาย แค่ ๓ วัน กองทัพช้างทัพม้าก็มาถึงทุ่งยั้งทัพที่เวลานี้เขาเขียนไว้ว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]บ้านยั้งทัพ[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]มาหยุดตรงนั้น พลรบตามไม่ทันพระเจ้าพรหมราชจึงสั่งยั้งทัพเป็นการพักกำลัง แล้วเคลื่อนไปรวมกันที่บ้านชุมพล พักกันที่นี่ ๓ วัน [/FONT]

    [FONT=&quot]เป็นอันว่าข้าศึกซึ่งมีกำลังมากกว่าเรา ๔ เท่า ต้องย่อยยับไป ทั้งนี้เพราะอาศัยคนไทยตัดสินใจแน่นอนว่าการรบคราวนี้มี ๒ ทาง ถ้าไม่[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2011
  18. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]ชนะก็หมายถึงว่าตายทั้งชาติ เพราะเขาไม่เก็บเราไว้แน่ ดังนั้นการรบ ต้องตัดสินใจแน่นอน คำว่า ไม่กลัวตาย ต้องมีอยู่ในใจถือว่าเป็นของธรรมดา การป่วย เจ็บไข้ไม่สบาย การตาย ถือเป็นธรรมดาของนักรบ แต่ว่าเราก็ต้องหวังผลจากการรบคือ ๑[/FONT][FONT=&quot].[/FONT][FONT=&quot]ได้รับ อิสรภาพ ๒[/FONT][FONT=&quot]. [/FONT][FONT=&quot]ได้รับเนื้อที่ ๓[/FONT][FONT=&quot]. [/FONT][FONT=&quot]คนเบื้องหลังมีความสุข ๔[/FONT][FONT=&quot]. [/FONT][FONT=&quot]คิดว่าเราสละชีวิตของเราหนึ่ง แต่ว่าเพื่อความสุขของคนเบื้องหลังอีกหลายเท่า อย่างนี้จึงจะเป็นนักรบได้ และการรบจริง ๆ ไม่ถือว่ากำลังเป็นสำคัญ กำลังคน กำลังอาวุธมีความสำคัญ ถ้าไม่มีเราก็รบไม่ได้ แต่ถ้ามีกำลังคน กำลังอาวุธ ถ้าขาดกำลังปัญญา มีกลังเท่าไรก็แพ้เขาเท่านั้น [/FONT]
    [FONT=&quot]ดังนั้น กำลังคนก็ดี กำลังอาวุธก็ดี และกำลังปัญญาก็ดี ๓ ประการนี้ต้องประสานกัน นอกจากนี้กำลังสำคัญคือ กำลังเศรษฐกิจ คือ เสบียงอาหาร กำลังสำคัญใหญ่ก่อนออกรบ ก็คือกำลังแห่งความสามัคคีที่พ่อเคยบอกบรรดาลูกรักทั้งหลายว่า [/FONT]
    [FONT=&quot]คนไทยทั้งชาติ ควรจะตั้งอยู่ในสังคหวัตถุ ๔ มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีศรัทธาเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน หมายถึงต่างคนต่างรักความเป็นสุขไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน มีจาคะเสมอกัน หมายถึงมีการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน สร้างความรัก สร้างความเป็นปึกแผ่น มีศรัทธาเสมอกัน คือ หาความเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ มีปัญญาเสมอกัน คือ ก่อนจะเชื่อใช้ปัญญาพิจารณาเสียก่อน ทุกคนถ้าอยู่ร่วมกันได้แบบนี้ก็หมายถึงว่า เราทั้งชาติมีความสุข และไม่มีใครสามารถมาทำอันตรายเราได้ [/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นอันว่า เมื่อกองทัพหน้าอันมีพระเจ้าพรหมมหาราช ตีขอมดำตะลุยไม่หยุดเลย เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน ก็มาพักทัพอยู่ที่บ้านยั้งทัพ แล้วเคลื่อนไปรวมพลที่บ้านชุมพล เห็นว่าทแกล้วทหารรวม[/FONT][FONT=&quot]ตัวกันดี[/FONT][FONT=&quot]และทัพราบตามมาทัน[/FONT][FONT=&quot]มีการพักผ่อนตามสมควร[/FONT][FONT=&quot]ต่อมาก็ขยายกำลังออกเป็นจุดเล็ก[/FONT][FONT=&quot]ๆ[/FONT][FONT=&quot]เพราะตอนนี้ขอมไม่อยู่เป็นจุดใหญ่แล้ว[/FONT][FONT=&quot]ก็เก็บเล็กเก็บน้อย[/FONT][FONT=&quot]ขอมหมดแรง[/FONT][FONT=&quot]เจอะที่ไหนฆ่าที่นั่น[/FONT][FONT=&quot]ขึ้นชื่อว่าขอมไม่ให้มีชีวิตอยู่เลย[/FONT][FONT=&quot]ตอนนี้ต้องใช้เวลาถึง[/FONT][FONT=&quot]๑[/FONT][FONT=&quot]เดือน[/FONT][FONT=&quot]ก็มาถึงเมืองกำแพงเพชร[/FONT]
    [FONT=&quot]ตามตำนานท่านบอกว่าพระอินทร์มาเนรมิตกำแพงเพชรกั้นเอาไว้[/FONT][FONT=&quot]ความจริงแล้วท่านเห็นว่า[/FONT][FONT=&quot]จะทำบาปมากเกินไปจึงให้วิษณุกรรมเทพบุตรมาทำให้ทหารทั้งหมด[/FONT][FONT=&quot]หมดกำลังใจ[/FONT][FONT=&quot]แม้แต่พระเจ้าพรหมมหาราชเอง[/FONT][FONT=&quot]คิดว่าการเก็บล้างขอมก็ยากแล้วแค่นี้ก็พอ[/FONT][FONT=&quot]เป็นอันว่าพระเจ้าพรหมราชได้ขยายอาณาจักรของโยนกนครจากพะเยาลงมาถึงกำแพงเพชร[/FONT][FONT=&quot]นี่ก็ไม่ใช่น้อย[/FONT][FONT=&quot]หลังจากนั้นก็ยกทัพกลับโยนกนคร[/FONT][FONT=&quot]ประชาชนที่อยู่เบื้องหลังยืนถือดอกไม้[/FONT][FONT=&quot]ธูปเทียน[/FONT][FONT=&quot]รับทัพพระเจ้าพรหมมหาราช[/FONT][FONT=&quot]๒[/FONT][FONT=&quot]ข้างทางด้วยอาการสงบ[/FONT]
    [FONT=&quot]พระเจ้าพรหมมหาราชกลับไปก็อัญเชิญพระราชบิดาขึ้นเสวยราชสมบัติ[/FONT][FONT=&quot]ให้พี่ชายเป็นมหาอุปราชแทนที่ตัวจะเป็น[/FONT][FONT=&quot]ท่านเองก็มารักษาอยู่ที่[/FONT]
     
  19. kataporn

    kataporn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ท่านจิโปคะ หนูฝันว่าเดินไปริมสระน้ำแล้วมีงูพุ่งขึ้นมา มันกัดนิ้วชี้ค่ะแล้วหนูก็เอามือกำคอมันไว้ จากนั้นก็เรียกให้ปู่(ที่ล่วงลับไปแล้ว)ช่วยดูลูกชายของหนูให้ก่อน ก็สู้มันไปเรื่อยๆ สักพักหนูก็เหวี่ยงงูไปอีกฝั่งของสระได้ ปูก็เตือนว่าเขวี้ยงงูให้พ้นคอด้วย งูนั้นหมายถึงศัตรูรึเปล่าคะ
     
  20. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    การอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรก็อย่าอุทิศเพราะกลัวแต่ให้อุทิศเพราะใจเราอ่อน
    น้อม ขอขมาลาโทษ ตลอดจนระรึกถึงบุญคุณความรักเมตตาที่ผู้มีพระคุณมอบ
    ให้กับเรา จะได้ผลมากที่สุด

    ถึงเวลาที่สุดในอรูปฌาณท่านก็ให้กำหนดความว่างเปล่า เพื่อเพิกถอนสัญญา
    ในเนวสัญญานาสัญญา ตรงนี้จะรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นสมมุติ รูปสมมุตินามสมมุติ
    เวลาพระถูกคุณไสยก็จะมาตรงนี้กำหนดความว่าง แล้วแยกธาตุตั้งแต่ผมขนเล็บ
    ฟันหนัง อาหารเก่าใหม่ ตับไตใส้ปอด ธาตุดินน้ำลมไฟอากาศ พอพิจารณา
    แล้วก็กลับเข้ารูปฌาณตามปกติ ของดำเลยทำอะไรไม่ได้ ผีก็เลยพลอยหาย
    หน้าหายตาไปเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...