ถ้ามีคนมาถามว่าเวลาคืออะไร

ช่ายๆๆๆๆๆๆๆๆ กระผมว่าทำไม่ได้นะ ธรรมชาติน่าจะมีกฎ อยู่นะ (หรือปล่าว) แต่ถ้า แว๊บไป แว๊บมา ด้วย ความเร็วมากๆ น่าจะทำได้แน่นอน(หรือไม่แน่นอน) 5555555

 

เวลาจะกลืนกินทุกๆสิ่ง แม้กระทั่งตัวมันเอง

มีอย่่างเดียวที่พ้นจากความเสื่อมไปได้ นั่นคือนิพพาน

จึงกล่าวได้ว่า นิพพานอยู่เหนือกาลเวลา


นี่ก็น่าคิดนะ กระผมว่ามีเหตุผลทางความเชื่อของศาสนา แต่การจะอยู่เหนือเวลา ก็คงยากเย็นจริงๆ ยิ่งกระผมยังมีกิเลสหนาด้วยแล้ว ชาตินี้คงไม่ผ่านแน่

อืมมม ว่าแต่ นิพาน มีตัวตน หรือ สามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ ครับ ขออภัยนะครับ กระผมไม่มีเจตนาลบหลู่นะครับ โดยส่วนตัวกระผมก็เชื่อว่าต้องมีจริง แต่กี่คนเล่าจะก้าวถึง เฮ้อออออ
<!-- google_ad_section_end -->

 

มุมมอง

ในห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่งที่มีประตูสองทาง ได้มีคนมายื่นอยู่คนละข้าง ของประตูและมองเข้าไปในห้องนั้น แล้วเขากับออกมาจากห้องนั้น
มาเล่าสู่กันฟังว่าเขาเห็นอะไรบ้าง
คนที่หนึ่งเล่าว่า............เป็นอย่างนี้นะ
คนที่สอง เล่าว่า ไม่ช่ายๆๆๆมันเป็นแบบนี้......
ต่างคนต่างก็บอกว่า ที่ตนเห็นนะถูกต้องที่สุดแล้ว

คนเราเมื่อเห็นแบบใดก็คิดว่าถูกต้องที่สุด ตัวเองถูกต้องไม่ผิดแน่นอน
แต่หารู้ไม่ว่า เขาเพียงแต่มองแค่มุมหนึ่งเท่านั้นเอง

ปล. เขียนทำไมก็ไม่รู้ :boo:

 

มีศรัทธาๆเท่านั้น
ขนาดผีเรามองไม่ค่อยเห็น เค้ายังมีตัวตนเลย
สิ่งที่เราไม่เห็นแต่มันก็จริง

สามารถพิสูจน์ได้ครับ ลองออกจากงานประจำสิแล้วบวชพระทิ้งบ้านทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง 5555+ลองดูครับได้เป็นอรหันแล้วอย่าลืมมาให้พรมั่งนะครับ

 

http://palungjit.org/threads/ใครมีข...้อนเวลาและไปในอนาคตมาเล่ากันบ้างนะครับ.38935/

http://palungjit.org/threads/เราจะสามารถปกป้องกาลเวลาจากผู้เดินทางข้ามเวลาได้หรือไม่.194794/

http://palungjit.org/threads/time-machine-เป็นไปได้จริงเหรอ.238741/

http://palungjit.org/threads/อาคันตุกะเดินทางย้อนเวลา-มาสังเกตการณ์ประวัติศาสตร์.264038/

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/


รวมกระทู้ในพลังจิตที่เคยถามเกี่ยวข้องกับเรื่องกาลเวลามาให้ ลองอ่านดูนะครับ อาจจะได้ความรู้มากขึ้น

 

เวลา คือ ความคิดที่ยึดกับตัวตน

ความคิดดับ เวลาไม่เกิด

ความคิด ไม่เกิด ไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืน ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต ไม่มีตัวตน

 

เวลา เป็น ของปัจเจกบุคล ใครมีชีวิต ก็ จะมีเวลา นั่นคือ อธิบายให้ คนทุกคนเข้าใจเหมือนกันหมดไม่ได้ ทุกคำตอบล้วน ถูก ผิด เหมือนกัน แล้วแต่ใคร จะ คิด แบบใหน เพราะ ฉนั้น เวลา ก็ คือ สิ่งที่ปัจเจกบุคคลคนนั้นจำได้(สัญญาทางศาสนา)จากประสพการณ์ของร่างกายและจิตใจ(รูป-นาม)เช่นบอกว่าเมื่อวานไปดูหนังมา นี่คือ สัญญาความจำจากร่างกายที่ได้ทำมา และจิตใจรับรู้ แม้ปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้ (ร่างกาย และ จิตใจรับรู้) นาน เร็ว แค่ใหน ก็คือ สัญญา เพราะฉนั้นเวลาเกิดจาก ร่างกายและจิตใจของมนุษย์ของแต่ละบุคคล ส่วนเวลาตั้งแต่กำเนิดจักรวาลในส่วนที่เราไม่รู้เห็นด้วยตาตัวเองเป็นแค่ จินตนาการ(สังขารปรุงแต่ง) ไม่มีอยู่จริง......

 

เข้าท่าครับ...

พลังงานมืด ที่เชื่อกันว่ามีอยู่จริงแต่มองไม่เห็น ที่ทับซ้อนกับมิติ (ภพภูมิ) ที่เราอยู่ หรืออาจจะอยู่นอกเหนือไปจากแสงในมิติของเราในจักรวาลนี้ ฉนั้นหากสิ่งใดก็ตามที่ตามองเห็นได้จะเป็นโฟตอนที่เกิดจากแสงในจักรวาลนี้เท่านั้น และจะไม่สามารถข้ามกาลเวลาได้

จิตไม่ขึ้นกับแสงและกาลเวลา
เวลาในมุมมองของจิต จึงไม่มีอยู่จริง
แต่สิ่งหนึ่งที่มีการบัญญัติเวลาขึ้นเพื่อยอมรับและใช้เป็นสากลโดยทั่วกัน เพื่อบ่งบอกถึงสถานะสิ่งหนึ่งเกิดก่อนหรือหลังอีกสิ่งหนึ่ง

ว่ากันด้วยเรื่องย้อนเวลาอาจทำได้ครับ แต่ไม่ใช่ด้วยเครื่องมือ
สำหรับการเดินทางลัด ก็มีความเป็นได้ครับและมีการทดลองแล้วว่าสามารถเดินทางข้ามกาลเวลา แต่ในเฉพาะปัจจุบันเท่านั้น ไม่สามารถข้ามไปในอดีตของมิติตัวเองได้ แต่ก็ยังไม่แน่ใจครับสำหรับ ทฤษฏี quantum teleportatoin

 

เวลาคืออ่ะไร
(ขออนุญาติย่อจากฉบับเต็ม แต่ถ้าอยากอ่านเต็มๆมีด้านล่าง)
วันนี้จะเสนอแนวคิดเรื่องเวลาในมุมมองของอัจฉริยะทั้งสามคนครับ

คนแรกท่านเซอร์ไอแซกนิวตัน
-เวลาและตำแหน่งเป็นฉากหลัง
-เวลาเป็นอิสระจากทุกสิ่ง
-เวลาสัมบูรณ์

เวลาของนิวตันแยกจากตำแหน่ง เสมือนหนึ่งทางรถไฟทอดยาวถึงอนันต์ทั้งสองทิศทาง

คนที่สองไอน์สไตน์
-สิ่งที่ใช้เรียงลำดับเหตุการณ์
-เวลาอันเป็นจิตวิสัย
-สิ่งที่วัดได้โดยนาฟิกา
-ไอน์สไตน์ไม่ยอมรับเรื่องเวลาสัมบูรณ์ของนิวตัน

สรุปแนวคิดของไอน์สไตน์
-แต่ละคนมีมาตรฐานเวลาของตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่า อยู่ ณ จุดใดและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าไหร่
-ตำแหน่งและเวลามีความสัมพันธ์กัน
-เวลาไม่มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด


คนที่สามฮอร์กิ้ง
-เวลามีจุดเริ่มต้น ณ บิ๊กแบง
-เวลามีจุดจบ ณ หลุมดำ เพราะที่ภาวะซิงกูลาริตี เวลาจะหยุดนิ่ง
แสดงว่า บิ๊กแบงคือจุดเริ่มต้นของเวลาทั้งจักรวาลของเราและหลุมดำคือจุดจบของเวลาเฉพาะที่


บทสรุปของเวลา(ชัดๆ)
เวลามีความสัมพันธ์กับตำแหน่ง และมีจุดเริ่มต้นคือบิ๊กแบง และจุดจบคือหลุมดำ



.................................................
ฟิสิกส์นั้นศึกษาธรรมชาติเวลาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
เราจึงต้องทำความเข้าใจเวลาตามรูปแบบของผู้ศึกษาฟิสิกส์
............
ขอขอบคุณ
นายศรศิลปฺ รักษ์สุวรรณ

สัมนาฟิสิกส์ ระดับปริญญาตรี ภาควิชาฟิสิกส์


อ่านฉบับเต็ม

http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/64/space-time.files/frame.htm

 

เวลาไม่มีอยู่จริง หากไม่มีเวลาที่มนุษย์กำหนดเราคงไม่ต้องเร่งรีบกันอย่างนี้
หากถามว่าย้อนเวลาก็ทำไม่ได้น่ะซิ ... หากย้อนได้เราว่าเขาคงย้อนเหตุการณ์มากกว่า
เพราะยังไงแล้วเวลาก็ไม่มีอยู่จริงมีแต่กลางวันกลางคืน วันนี้พรุ่งนี้ เป็นหน่วยใหญ่

 

รู้เวลาตามรูปแบบใหนก็ได้ครับ ผนวกกันหลายอย่างก็ได้ แต่เราจะยึดมันไม่ได้ เหมือนเรายึดร่างกาย จิตใจ เราให้อยู่กับที่ไม่ได้ เพราะฉนั้นมันเกี่ยวข้องกันโดยตรงแน่แน่ครับ (มันคือส่วนหนึ่งในตัวเราแน่นอน..)

 

เวลา มีอยู่จริงหรือไม่ ?

มีคำตอบอยู่ 3 ทัศนะ

1. ทัศนะที่บอกว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง
- เวลาเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ และสามารถดำรงอยู่ได้โดยตัวมันเอง ถึงเอกภพจะว่างเปล่าจาก โลก ดวงอาทิตย์ เวลาก็ยังมีอยู่
- เวลาไม่อาจวัดหรือสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัส ที่เราวัดเวลากันเป็นชั่วโมง วัน เดือน ปี เป็นการวัดของดวงดาว หรือมุมบนหน้าปัดนาฬิกา เท่านั้น
- เปรียบได้กับกระแสน้ำที่ไหลไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ เป็นตัวชี้วัดว่าอะไรคือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต เหตุการณ์ไหน เกิด ก่อน หลัง ปัจจุบัน เป็นต้น

2. ทัศนะที่บอกว่าเวลาเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
- เวลาเป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์สมมติขึ้นเพื่อเรียกความเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆเท่านั้น เช่นเรียกการที่โลกโคจรรอบตัวเองครบหนึ่งรอบว่าหนึ่งวัน
- อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นเพียงลำดับของเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาสู่การรับรู้ของมนุษย์เท่านั้น มันไม่ได้มีอยู่จริง

3. ทัศนะทางพุทธศาสนา
- เวลาไม่ได้มีอยู่จริงในแง่ อภิปรัชญา เพราะโดย ปรมัตถสัจจะ แล้วเวลาไม่สามารถจำแนกเข้ากับ รูป จิต เจตสิก นิพพาน ได้
- ถ้ายอมรับว่า อสังขตธรรม มีมากกว่าหนึ่ง เวลาก็ไม่สามารถ จำแนกเข้ากับสิ่งเหล่านั้นได้อยู่ดี
- ทั้งนี้เพราะเวลาเป็น สมมติสัจจะ คือเป็นคำที่มนุษย์สมมติขึ้นเพื่อเรียกลำดับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อน-หลัง เท่านั้น

* สรุปจากวิทยานิพนธ์เรื่อง กาล-อวกาศ ของ อ.สมภาร พรมทา


เห็นมีคนโพสเกี่ยวกับเรื่องการย้อนเวลา เลยรวบรวมคำตอบมาให้อ่านกัน

เวลาสามารถย้อนคืนได้หรือไม่ ?
1. ทัศนะที่บอกว่าเวลาสามารถย้อนคืนได้
- จากทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ บอกว่า ถ้ามีวัตถุใดเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับแสง เวลาจะหยุดเดินทันที แต่ถ้ามีวัตถุใดเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่าแสง เวลาจะสามารถย้อนกลับได้
- ในทางกายภาพเป็นไปไม่ได้ คือ เมื่อใดก็ตามที่วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าแสง เมื่อนั้นความยาวของวัตถุจะหดสั้นลงจนเหลือค่าเป็น 0 หมายความว่าวัตถุนั้นจะไม่มีตัวตนเหลืออยู่เลย ในเมื่อไม่มีอะไรเหลืออยู่ก็ไม่อาจมีสิ่งใดที่เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสงได้
2. ทัศนะที่บอกว่าเวลาสามารถย้อนคืนไม่ได้
- เวลาดำเนินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ถึงจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่สามารถย้อนคืนได้ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการย้อนคืนของเวลา แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามลำดับของเวลาเท่านั้น เช่น อีก 5 วินาที ผมจะสามารถย้อนไปในยุคของบางระจันได้ การย้อนไปไม่ใช่การย้อนอดีต แต่เป็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้านับเวลานี้เป็นปัจจุบัน ดังนั้น ทัศนะนี้จึงบอกว่าเวลาไม่สามารถย้อนคืนได้
- กฎเทอร์โมไดนามิกส์ การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ทุกอย่างดำเนินไปข้างหน้า ไม่มีทางย้อนคืนได้ เช่น จากเด็กเป็นผู้ใหญ่ จากผู้ใหญ่เป็นคนแก่ ไม่มีทางจะทำให้คนแก่กลับมาเป็นเด็กได้

* สรุปจากวิทยานิพนธ์เรื่อง กาล-อวกาศ ของ อ.สมภาร พรมทา

 

-+ นักวิทยาศาสตร์บอกว่าโลกใบนี้เกิดมานานหลายล้านปี ส่วนตัวแล้วโลกใบนี้มีอายุเท่าตัวผมนี่ละครับ +-

 

เวลาเกิดขึ้นพร้อมจักรวาล ตามสามัญสำนึกของคนเรามองว่า "เวลา" ต่างหากที่เคลื่อนคล้อยไปไม่ใช่ตัวเรา แต่นิกาย Zen บอกว่า "เวลา" เป็นสิ่งหยุดอยู่กับที่ แต่ตัวเราเองต่างหาก ที่กำลังเคลื่อนผ่านไป

 

ฮ่า ฮ่า ฮ่า โปรด สระกดใหม่ตรวจสอบทุกตัอัษรด้วยว่าผิดหรือไม่ (เออเหรอ)

 

คุณมีเวลานั่งฟังเราอธิบาย ได้นานแค่ไหนละ ?
ตอบ............
คุณ ก็รู้อยู่แล้วมาถามทำไม ว้าไปละ

 

มันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผ่านไป โดยมีความเร็วเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มขึ้นหรือ ลดลง ของเวลานั้น การย้อนเวลา ต้องเข้าใจเรื่องของความเร็ว ก่อน