** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ตุ้ย ฉันทะ, 16 พฤษภาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Ton_PB

    Ton_PB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    4,463
    ค่าพลัง:
    +2,005
    อนุโมทนากับพี่ตุ้ย และอนุโมทนาล่วงหน้ากับท่านที่ได้ไปด้วยครับ ต้องถือว่ามีบุญมากทีเดียว ไม่ว่าใครได้ไปผมก็ดีใจด้วยครับ
     
  2. Ton_PB

    Ton_PB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    4,463
    ค่าพลัง:
    +2,005
    อนุโมทนากับพี่โจด้วยครับ
     
  3. วีระชัยมณี

    วีระชัยมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,128
    ค่าพลัง:
    +2,548
    โทดทีครับ..ลืม...


    ....ปฎิบัติภาวนานั้น ไม่ต้องอยากรู้ว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่ ให้ทำเหมือนกินข้าว กินทุกๆวัน กินเรื่อยๆ ก็จะอิ่มเอง รู้เอง....


    สาธุ<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  4. artwhan

    artwhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +1,282
    ไม่ได้เข้ามาดูหลายวัน เลยไม่ทัน ขอให้โชคดีทุกท่านครับ
     
  5. sakcondo

    sakcondo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +22
    คติธรรมของหลวงปู่ดีทุกข้อครับ
    ขอให้นำไปปฎิบัติเพื่อเกิดผลดีแก่ทุกท่านครับ

    ขอให้ทุกท่านโชคดี มีความสุข สมดังที่ปรารถนาไว้ครับ
     
  6. greattve

    greattve สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +10
    555+++...ไม่น่าเชื่อจริงๆครับลูกศิษย์หลวงปู่มีมากมายจิงๆครับ เพียงแค่วันเดียวก็ได้จนครบแล้ว นี่ล่ะครับความศรัทธาที่ทุกท่านมีต่อหลวงปู่

    ผมเองเมื่อวานนี้ไม่มีโอกาศได้เข้ามาดู ต้องไปธุระที่ต่างจังหวัดการร่วมสนุกในครั้งนี้เลยต้อง fail ไปครับ 55++....

    คงต้องรอโอกาศหน้าแทนแล้วกันครับขอให่พี่ๆและเพื่อนๆทุกท่านโชคดี......

    ขออนุโมทนาบุญของพี่โจกับพี่ตุ้ยในครั้งนี้ด้วยครับ
    :cool::cool:
     
  7. ตุ้ย ฉันทะ

    ตุ้ย ฉันทะ ID LINE : 0818477768 ID WeChat : T8477768

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,783
    ค่าพลัง:
    +5,891
    แจ้งส่งพัสดุ EMS ครับ 09/21/2011 เวลา 09:21:01
    คุณปัทมาสน์ EH 1220 2814 0 TH ขอบคุณมากครับ<!-- google_ad_section_end -->
    คุณรัฐนันท์ EH 1220 2815 3 TH ขอบคุณมากครับ
    คุณธนวุฒิ EH 1220 2816 7 TH ขอบคุณมากครับ

    :z8​

    สำหรับผู้ที่ไม่ทันในการร่วมสนุกในครั้งนี้ ไม่ต้องเสียใจมีครั้งหน้าแน่นอนครับ

    fishh_​

    เมื่อวันที่ 17พค. 2554 (วันวิสาขบูชา ๑๕ ค่ำ เดือน ๖) ได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดสะแกกับพี่โจมาครับ และได้ข้าวทิพย์(ข้าวมธุปายา
    ธ)มาหนึ่งกล่องเล็กๆ มาฝากเพื่อนได้มาชิมกัน(ทางสายตานะครับ)
    ส่วนวันที่ 16 พค. 2554 ได้มีการกวนข้าวทิพย์ซึ่งเป็นประเพณีของทางวัดสะแก อ. อุทัย จ. อยุธยา ได้จัดประเพณีนี้ทุกปีเป็นเวลานานหลายสิบปีมาแล้วครับ จะเริ่มมีการกวนตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆ กว่าจะกวนเสร็จแล้วรุ่งขึ้น(วันวิสาขบูชา)ก็จะนำข้าวทิพย์นี้ถวายพระในวันวิสาขบูชา
    การกวน จะกวนกันที่ศาลากวนข้าวทิพย์ หน้าหอสวดมนต์ครับ ที่พื้นศาลาสามารถเปิดแผ่นปูนและตั้งเตากวนได้ครับ เห็นว่าปีนี้กวนกันประมาณ 20กระทะครับ
    [​IMG]
    [​IMG]

    :z2​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2011
  8. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ใจดีมากกๆเลยนะครับ ยิ่งให้ ยิ่งได้ครับผม
     
  9. KonnoK

    KonnoK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +574
    ขออนุโมทนากับพี่ตุ้ย พี่โจ ที่แบ่งปันเกศาและวัตถุมงคลให้กับสมาชิกในครั้งนี้
    ขอให้พี่ทั้งสองบริบูรณ์ด้วยทรัพย์ และอริยทรัพย์ครับ...
     
  10. หูกาง

    หูกาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    4,330
    ค่าพลัง:
    +5,449

    ได้ ๆ วัดดวงกันไปเลย.....เพี๊ยงงงง ใส่ได้พอดี:cool:


    ขอเสนอดี ๆ ยังงี้ไม่สนได้ไงพี่...อิอิ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2011
  11. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    พี่ก็ยังว่า...เห็นเราหายไปไหน..?..ครั้งแรกคุณตุ้ยกับพี่ก็ยังคิดเลยว่า เปิดจอง 3 วัน จะได้สักกี่ชื่อหนา...กะว่าถ้าไม่ครบ 100 ชื่อ ก็จะเปิดให้จองเบิ้ล..ที่ไหนได้..วันเดียว..หมดเกลี้ยง..เพื่อนๆสมาชิกที่ไว้เนื้อเชื้อใจคุณตุ้ยเค้ามากจริงๆ..น่าดีใจ

    .................................................................................

    คุณตุ้ยลงภาพข้าวกวนทิพย์ เค้าเรียกอะไรน่ะ ข้าวมธุรปรายาส เหรอ (ผมเขียนผิดหรือเปล่า) หน้าเรา.. น้องๆคนรุ่นใหม่ก็เยอะ..มีใครไม่เคยเห็นรูปร่างหน้าตามั้ง..(เห็นครั้งแรกยกมือขึ้น) ใครรู้ถึงที่มาที่ไป วัตถุประสงค์การทำบ้างครับ..บอกตรงๆพี่ไม่มีความรู้ด้านนี้เลย..ใครรู้ช่วยๆมาบอกกล่าวเล่าแจ้งบ้างซิ..

    .................................................................................
     
  12. อิฐมอญ

    อิฐมอญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,385
    ค่าพลัง:
    +1,444
    ข้าวมธุปายาส หรือข้าวทิพย์

    [​IMG]


    นางสุชาดาน้อมถวายข้าวมธุปายาสแด่พระพุทธเจ้า


    ตำนานข้าวมธุปายาส มาจากเรื่องของ นางสุชาดา ธิดาเศรษฐี ณ หมู่บ้านเสนานี ใกล้ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม มีหญิงรับใช้ชื่อนางปุณณา นางสุชาดาได้บวงสรวงขอบุตรชายต่อเทวดาประจำต้นไทร เมื่อได้บุตรชายตามประสงค์แล้ว นางจึงให้คนตระเตรียมทำข้าวมธุปายาสเพื่อนำไปเป็นพลีแก่เทวดา ที่บันดาลให้ความหวังของนางเป็นจริง แต่ก็ได้ถวายแด่ นักบวชสิทธัตถะ ผู้ประทับนั่งใต้ร่มไทรนั้น ซึ่งเมื่อนางเห็นก็เข้าใจว่าเป็นรุกขเทวดาที่แสดงตนมาเป็นนักบวช เพราะมีลักษณะงาม นางจึงน้อมข้าวมธุปายาสนั้นเข้าไปถวาย ครั้นนักบวชสิทธัตถะได้บอกความจริงแก่นางแล้วนางก็ยิ่งมีใจศรัทธา จึงได้ถวายข้าวนั้นทั้งถาด นักบวชสิทธัตถะได้นำข้าวมธุปายาสมาแบ่งเป็น ๔๙ ก้อน แล้วฉันจนหมด จากนั้นจึงนำถาดไปอธิษฐานแล้วลอยไปในแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อเสี่ยงทายเรื่องที่จะสามารถตรัสรู้ได้หรือไม่ ข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาจึงนับว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่นักบวชสิทธัตถะจะได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า ดังคำกล่าวที่ว่า



    นับหกปีที่พระสิทธัตถะ
    ฝึกตบะเพียรภาวนามั่น
    จวบวิสาขะรุ่งอรุณพลัน
    นางสุชาดานั้นเฝ้าพระองค์
    ถวายข้าวปายาสด้วยศรัทธา
    เสวยแล้วโมทนาดังประสงค์
    ลอยถาดทวนสายชลจนจมลง
    เสด็จตรงแนวป่าพนาลัย



    วิธีเตรียมทำข้าวมธุปายาสของนางมีดังนี้ นางให้เลี้ยงแม่วัวนมไว้ในป่าชะเอมจำนวน ๑,๐๐๐ ตัว แล้วให้แม่วัวนม ๕๐๐ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑,๐๐๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๒๕๐ ตัว ดื่มกินน้ำนมของแม่วัวนม ๕๐๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๑๒๕ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๒๕๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๖๓ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑๒๕ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๓๒ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๖๓ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๑๖ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๓๒ ตัวนั้น และในท้ายที่สุดนางให้แม่วัวนม ๘ ตัว ดื่มกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑๖ ตัวนั้น หลังจากนั้นนางก็จะนำแม่วัวนมทั้ง ๘ ตัว มารีดเอาน้ำนม และนำน้ำนมมาเคี่ยวจนข้นเป็นนมข้นหวาน ทำให้มีรสอร่อยมาก เรียกว่า "ขีรปริวรรต" และในวันที่นางให้รีดนมนั้น ลูกวัวไม่กล้าเข้าใกล้แม่วัวเหล่านั้นเลย พอนางสุชาดาน้อมภาชนะเข้าไปเท่านั้น น้ำนมก็หลั่งออกมาจากเต้านมของแม่วัวเอง นางเห็นดังนั้นก็เกิดความปิติยินดีอย่างยิ่ง เมื่อได้แล้วจึงเทน้ำนมลงใส่ภาชนะใหม่ยกขึ้นตั้งบนเตา

    ในวันที่นางปรุงข้าวมธุปายาสนั้น ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ คือ ท้าวธตรฐ ท้าวรุฬหก ท้าววิรูปักข์ และ ท้าวเวสวัณ ก็มายืนอารักขาก้อนเส้าเตาปรุงทั้ง ๔ ทิศ รวมทั้ง ท้าวมหาพรหม ก็นำทิพย์เศวตฉัตรมากางกั้นข้างบนกระทะเพื่อเป็นสิริมงคล และป้องกันธุลีบนนภากาศ สมเด็จอมรินทราธิราช เสด็จลงมาก่อไฟใส่ฟืน เทวดาเจ้าในหมื่นโลกธาตุ ก็นำทิพยโอชามารวมใส่ลงไปในหม้อปรุงนั้น ประชาชนในทวีปทั้ง ๔ และทวีปน้อย ๒,๐๐๐ ห้อมล้อม ต่างเป็นดังจักรบีบรวงผึ้งอันอุดมด้วยน้ำผึ้งใส่เข้าไปในภาชนะที่กำลังปรุงนั้น เมื่อทำดังนี้แล้วก็ได้เป็นข้าวมธุปายาส เพื่อนำไปถวายแด่พระภิกษุต่อไป




    [​IMG]



    ที่มาข้อมูล :
    เข้ามธุปายาส (ข้าวมธุปายาส).บำรุง บารมี, มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์.
    สารานุกรมวัฒนธรรมไทย (ภาคเหนือ) เล่ม ๒ : กรุงเทพฯ.

    พิธีสงฆ์ คู่มือชาวพุทธ. เสงี่ยม คุมพวาส, พิมพ์ที่ เทพนิมิตรการพิมพ์, ๒๕๐๘: ๓๑๒-๓๓๓
     
  13. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    คิดว่าเคยได้ยินค่ะแต่ไม่เคยเห็นของจริงค่ะ
    ค้นมาฝากพี่โจค่ะ
    ประวัติข้าวทิพย์ (ภัตตาหารของเทวดา)

    ข้าว มธุปายาส (ข้าวสุกหุงด้วยนมโคเจือด้วยน้ำผึ้ง) ก่อนพุทธกาล (๒๖๓๒ ปี) เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารได้เสด็จออกทรงผนวช ได้เสวยข้าวทิพย์ของนางสุชาดา บุตรีมหาเศรษฐีแห่งบ้านเสนานิคม ซึ่งก่อนแต่งงานได้ไปบนกับเทวดาที่ต้นไทรว่าขอให้ได้แต่งงานกับชายที่มีสกุล และฐานะเสมอกัน และได้บุตรคนแรกเป็นชาย เมื่อได้แล้ว จึงได้ปรุงข้าวทิพย์ไปแก้บน ได้พบเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร (นักบวช) คิดว่าเป็นเทวดา จึงทำพิธีแก้บนถวายด้วยข้าวทิพย์

    นางเป็นสตรีคนแรก ของโลกที่ถวายภัตตาหารมื้อแรก พระพุทธองค์เสวยข้าวทิพย์ ๔๙ ก้อนแล้ว ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในวันวิสาขบูชา (ตามศิลาจารึก ๑ วัดพระเชตุพน) กล่าวถึงชาวรามัญหุงข้าวทิพย์บูชาเทวดาผู้มีฤทธิ์เดช ๕ องค์ ให้มาอภิบาลรักษาและนำทิพย์โอชามาเจือลงในสิ่งของที่จะกวนข้าวทิพย์ กับอาราธนาพระสงฆ์ให้เจริญพุทธมนต์

    เพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ผู้รับ ประทาน ข้าวทิพย์นี้ได้ประกอบพิธีกวนกันมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาถึงสมัยกรุง รัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) โปรดให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งของในการกวนถึง ๖๐ กว่าชนิด เช่น ถั่วงา , ลูกเดือย เป็นต้น การกวนข้าวทิพย์เนื่องในพระราชพิธีนั้น ทรงกระทำในเดือน ๑๐ เริ่มเวลาบ่าย นิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ในพระราชวัง สาวพรหมจารีต้องนุ่งขาวห่มขาวนั่งอยู่ในฉาก มีสายสิญจน์โยงมงคลเหมือนอย่างเจ้านายทำพิธีโสกันต์ (โกนจุก) อาลักษณ์อ่านคำประกาศว่า "การกวนข้าวทิพย์เป็นพระราชพิธีเคยทำมาแต่โบราณ ขอให้พระสงฆ์มีจิตตั้งมั่นด้วยเมตตาได้เจริญสมาธิเจริญพุทธมนต์ตลอดวันตลอด คืนทำให้เกิดพุทธคุณ ผู้รับประทานข้าวทิพย์ ด้วยคุณพระศรีรัตนตรัยขอให้เกิดมงคลและระงับโรคภัยไข้เจ็บ เคราะห์กรรมต่าง ๆ ไม่เจ็บไม่จน

    พุทธศาสนิกชนทั้งหลายรู้จัก“มธุปายาส” ซึ่งเป็นอาหารโบราณตั้งแต่ครั้งพุทธกาลจากเรื่องราวในพุทธประวัติ โดยมีนางสุชาดาเป็นผู้ปรุงถวายพระสิทธัตถะบรมโพธิสัตว์
    หนังสือ“พระปฐม สมโพธิกถา” พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรสมีกล่าวอรรถาธิบาย ขั้นตอนในการหุงข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาไว้เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ถอดความมาได้ดังนี้
    “ก่อนที่จะถึงวันวิสาขปุรณมี เพ็ญเดือนหกนางสุชาดาก็ใช้ให้บุรุษทาสกรรมการทั้งหลายเอาฝูงแม่โคจำนวน 1000ตัวไปเลี้ยงในป่าชะเอมเครือเพื่อให้แม่โคทั้งหมดได้บริโภคเครือชะเอม อันจะทำให้น้ำนมมีรสหวานหอม แล้วแบ่งโคนมออกเป็น 2 พวก พวกละ 500 ตัว เพื่อรีดเอาน้ำนมจากแม่โค 500 ตัวในกลุ่มแรกมาให้แม่โคอีก 500 ตัวในกลุ่มหลังบริโภค ครั้นแล้วก็แบ่งแม่โคในกลุ่มหลังจำนวน 500 ตัว ออกเป็น 2 พวก พวกละ 250 ตัว แล้วรีดเอาน้ำนมแม่โค 250 ตัวจากกลุ่มแรกมาให้แม่โคอีก 250 ตัว ในกลุ่มหลังบริโภค กระทำการแบ่งกึ่งกันเช่นนี้ลงมาทุกชั้นๆ จนเหลือ 16 ตัว แล้วแบ่งออกเป็น 2 พวก พวกละ 8 ตัว นำน้ำนมของแม่โค 8 ตัวแรกมาให้อีก 8 ตัวสุดท้ายบริโภค ทำเช่นนี้เพื่อจะให้น้ำนมของแม่โค 8ตัวที่เหลือมีรสหวานอันเลิศ
    จน กระทั่งเหลือแม่โคที่จัดไว้ใช้ 8ตัว ในคืนก่อนวันเพ็ญเดือน 6 หนึ่งวัน นางจึงนำภาชนะมารองเพื่อเตรียมจะรีดน้ำนมใส่ลง ขณะนั้นน้ำนมก็ไหลออกมาเองจนเต็มภาชนะเป็นมหัศจรรย์ปรากฏ นางสุชาดาเห็นดังนั้นก็รู้สึกปิติยินดีเข้ารับภาชนะซึ่งรองน้ำนมนั้นด้วยมือ ตน นำมาเทลงในภาชนะใหม่แล้วใส่ลงในกระทะนำขึ้นตั้งบนเตา ใส่ฟืนเตรียมก่อเพลิงด้วยตนเองเวลานั้นสมเด็จอัมรินทราธิราชก็เสด็จลงจุดไฟ ให้โชติช่วงขึ้น ท้าวมหาพรหมทรงนำทิพย์เศวตฉัตรมากางกั้นเบื้องบนภาชนะที่หุงมธุปายาสนั้น ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ได้มาประทับยืนรักษาเตาไฟทั้ง 4 ทิศ เหล่าเทพยดาทั่วทั้งหมื่นโลกธาติต่างพากันนำเอาโภชนาหารอันเป็นทิพย์มาโปรย ใส่ลงในกระทะด้วยเมื่อน้ำนมเดือดก็ปรากฏเป็นฟองใหญ่ไหลเวียนขวาทั้งสิ้น จะกระเซ็นตกลงพื้นแผ่นดินแม้นสักหยดหนึ่งก็ไม่มีครั้นสำเร็จเสร็จสมบูรณ์ดี นางจึงนำมาบรรจุลงในถาดทองคำข้าวมธุปายาสอันหุงเสร็จเรียบร้อยก็พอดี ไม่มีพร่องไม่มีเกินแล้วปิดฝาด้วยถาดทองอีกใบหนึ่งห่อหุ้มด้วยผ้าขาว บริสุทธิ์ เมื่อนั้นนางก็จัดแต่งอาภรณ์ให้เรียบร้อยยกถาดทองคำซึ่งบรรจุมธุปายาสอัน โอชะทูนขึ้นไว้บนศีรษะของตนแล้วเดินนำไปสู่ที่ประทับแห่งพระบรมโพธิสัตว์” ข้าวมธุปายาสในครั้งพุทธกาลเป็นอาหารที่ปรุงให้มีรสหวานนุ่มมีส่วนผสมของ ข้าวอ่อนที่ยังไม่สุกจัดคั้นออกจากรวงเป็นน้ำ แล้วหุงกับน้ำนมสดเจือด้วยน้ำผึ้งมีความข้นพอที่จะปั้นให้เป็นคำได้
    ของที่นำมาปรุงข้าวทิพย์
    ของที่นำมาปรุงข้าวทิพย์ 5 ประเภทคือ
    ก. ประเภทถั่ว
    ข. ประเภทข้าว พืชเป็นหัว เมล็ดธัญพืช
    ค. ประเภทน้ำตาล
    ง. ประเภทน้ำมัน
    จ. ประเภทผลไม้ อันได้แก่ ผลไม้สด ผลไม้คั้นน้ำ ผลไม้แห้ง ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม พร้อมทั้งสมุนไพรปรุงรสได้แก่ ชะเอม
    ของปรุง “ข้าวทิพย์”
    เครื่องปรุงทั้ง 5 ประเภทประกอบด้วยของชนิดต่างๆ ดังนี้
    ก. ประเภทถั่ว ได้แก่
    1. ถั่วราชมาษ
    2.ถั่วดำ
    3.ถั่วเหลือง
    4.ถั่วเขียว
    5. ถั่วขาว
    6.ถั่วทอง 7.ถั่วลิสง
    8. ถั่วแม่ตาย
    ข.ประเภทข้าว พืชเป็นหัวและเมล็ดธัญพืช ได้แก่
    1. ข้าวอ่อนที่คั้นเป็นน้ำนม
    2.ข้าวสารหอม
    3. ข้าวเม่า
    4. ข้าวฟ่าง
    5.ข้าวตอก
    6. ข้าวโพด
    7.ขนมปังจืด (ป่นหยาบพอเป็นเกร็ด)
    8.สาคูวิลาด
    9. สาคูลาน
    พืชเป็นหัว 10. มันเทศ
    11. เผือก
    12. แห้วไทย
    13. แห้วจีน
    14. กระจับสด
    เมล็ดธัญพืช
    15.เมล็ดงา
    16. เมล็ดแตงอุลิด
    17. ลูกเดือย
    18. ผลมะกล่ำใหญ่
    ค.ประเภทน้ำตาล ได้แก่
    1. น้ำผึ้ง
    2. น้ำอ้อยสด
    3. น้ำอ้อยแดง
    4. น้ำตาลกรวด
    5. น้ำตาลทราย
    6. น้ำตาลหม้อ
    ง.ประเภทไขมัน ได้แก่
    1. เนย
    2. น้ำนมโค
    3. มะพร้าวแก่
    4. มะพร้าวอ่อน
    จ.ประเภทผลไม้ (ใช้ผลไม้แดงและทุกชนิดที่หาได้)
    ผลไม้สดได้แก่
    1. ทับทิม
    2. ลูกพลับสด
    3. ละมุด
    4. สาลี่
    5. กล้วยหอม
    6. กล้วยไข่
    7. กล้าย
    8. น้อยหน่า
    9. เงาะ
    10. ลางสาด
    ผลไม้คั้นน้ำ ได้แก่
    1.ส้มเขียวหวาน
    2. ส้มเกลี้ยง
    3. ส้มมะเป้น
    4. ส้มซ่า
    5. ส้มตรังกานู
    ผลไม้แห้ง ได้แก่
    1. พลับแห้ง
    2. อินทผลัม
    3. ลำไย
    4. พุทราริ้ว
    5. ลิ้นจี่
    ผลไม้กวน ได้แก่
    1.ทุเรียนกวน
    2. สัปปะรดกวน
    ผลไม้แช่อิ่ม ได้แก่
    1.ผลชิด
    2. ผลกระท้อน
    พร้อมทั้งสมุนไพรปรุงรสได้แก่ ชะเอมสด ชะเอมเทศ รวมของทั้งหมด 62 รายการ

    ที่มา
    หลวงพี่รัช http://www.watsakae.com/smf/index.php?topic=368.msg2461;topicseen#msg2461


    ********************
    ในสมัยที่หลวงปู่มีชีวิต คืนก่อนวันวิสาขบูชา ทางวัดและชาวบ้านจะช่วยกันดำเนินการในเรื่องการกวนข้าวทิพย์ ว่ากันว่าจะใช้หญิงสาวพรหมจรรย์ (แต่หลายวัย) มาเป็นหลักในการกวนข้าวทิพย์ ดูสนุกสนาน แล้วก็แสดงถึงความพร้อมใจกันดีทีเดียว
    พอ ถึงวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา ที่หน้ากุฏิหลวงปู่ จะคราคร่ำด้วยผู้คนที่มากราบนมัสการหลวงปู่ในโอกาสวันวิสาขบูชา แล้วก็ในโอกาสคล้ายวันเกิดหลวงปู่พร้อมกันไป
    ภาพ ที่เห็นประจำทุกปีก็คือ ในตอนสาย ๆ ของวันวิสาขบูชา จะมีคนวัดที่ดูแลการกวนข้าวทิพย์ นำข้าวทิพย์ที่บรรจุใส่ถุงพลาสติกเรียบร้อยแล้วจำนวนหนึ่งมาถวายหลวงปู่ แล้วหลวงปู่ก็มักแจกต่อให้ลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ตรงนั้น แน่นอนของที่ผ่านมือหลวงปู่ย่อมเป็นของมงคล เมื่อใครได้ไปก็ย่อมปลื้มใจ ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ใครได้ข้าวทิพย์ไปแล้วก็มักนำไปฝากคุณพ่อคุณแม่และบุคคลที่รักที่บ้านต่ออีก
    การกวนข้าวทิพย์นี้ นอกจากมีส่วนช่วยสร้างความพร้อมเพรียงของคนในชุมชน และถือเป็นการรักษาวัฒนธรรม อันดีงาม รวมทั้งทำให้พุทธประวัติตอนนางสุชาดากวนข้าวมธุปายาสถูกรำลึกถึงขึ้นอีก ครั้งแล้ว สิ่งที่น่าคิดพิจารณาอีกประการหนึ่งซึ่งสำคัญมากก็คือ "การอาศัยอาหารเพื่อการบรรลุธรรม" ดังที่พระพุทธองค์ตรัสสอนมิให้เรารับประทานอาหารเพราะเห็นแก่ความเอร็ดอร่อย เพลิดเพลินสนุกสนาน หรือบำรุงบำเรออัตภาพให้ดูดี หากแต่จะรับประทานอาหารเพื่อประทังธาตุขันธ์นี้ให้คลายทุกขเวทนาจากความหิว และยังอัตภาพนี้ให้มีกำลังในการประพฤติธรรมให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์
    การ วางใจว่าความเป็นมงคลอยู่ที่ใจที่มีทัศนะว่า เราจะอาศัยอาหารเพื่อประทังธาตุขันธ์เพื่อการปฏิบัติธรรม พร้อมกับการระลึก เชื่อมโยงข้าวทิพย์ไปหาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ (เวลากวนข้าว คนโบราณเขาจะภาวนาไปด้วย) ก็จะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากพิธีกวนข้าวทิพย์นี้ เพราะหากอาหารที่ รับเข้าไป กลายเป็นกำลังไปใช้เบียดเบียนหรือทำผิดศีลธรรม อาหารนั้นแทนจะเรียกว่าเป็น "อาหารทิพย์" ก็กลับกลายเป็น "ยาพิษ" ไปแทน



    ที่มา: http://www.luangpordu.com/



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2011
  14. อิฐมอญ

    อิฐมอญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,385
    ค่าพลัง:
    +1,444

    จัดไป เจ้านิว ไว้กลับมาเมื่อไรจะบอกล่ะกัน ^^ มาถึงสุวรรณภูมิ 29/5/54 นะนิว
     
  15. หูกาง

    หูกาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    4,330
    ค่าพลัง:
    +5,449

    หุหุ....ฝึกงานเสร็จพอดีเลย ให้ไปรับไหม ไปชูป้ายเขียนว่า MR.KAN......อิอิ
    :cool:
     
  16. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    จ๊ะเอ๋......ว่า..บ้านนี้มีงานอะไร...สวัสดีค่ะคุณตุ้ยคุณโจ...คู่ดูโอ้...จัดงานนี่นาเพิ่งกลับมาจากเมืองเหนือค่ะ ขอพรพระรัตนตรัยให้คุณตุ้ยคุณโจผู้ให้ทั้งสองเจริญในธรรม มนุษย์สมบัติ นิพพานสมบัติ อุดมสมบูรณ์พูนสุขตลอดกาลทุกเมื่อค่ะ
     
  17. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    ขอบคุณ.คุณ Aimee และคุณอิฐมอล ด้วยครับ..ที่เสียเวลาช่วยค้นหามาฝากกัน..ก็เป็นความรู้ใหม่ครับ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    สงกะสัย..ทำไม..เพิ่งจะมา จ้ะ..คุณแสงแข ..ไปแอ๊วเหนือมา.มีอะไรมาฝากพี่ๆบ้างป่าว..ขอบคุณในคำพร ชอบทุกสมบัติ แต่นิพพานสมบัติ ยังไม่กล้าอาจเอื้อม จ้ะ ด้วยชาตินี้ รู้อยู่เต็มอกว่า..ยังไม่มีทางแน่..ขอแค่คลำๆทางให้เจอต้นสายก่อนก็พอใจแล้ว..ขอรับ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2011
  18. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410


    "จงปฏิบัติอย่างคนโง่ อย่าปฏิบัติอย่างคนรู้มาก"

    ประทับใจคำสอนหลวงปู่ท่านที่ข้อความนี้ค่ะ ให้ถ่อมตน ถ่อมใจ ........



    ------------------------------------------------------------------------------------

    ตอบคุณโจค่ะ ..สงกะสัย..ทำไม..เพิ่งมา จ้ะ..


    .... ไปเมืองเชียงใหม่มาค่ะ......ดีใจที่ท่านทั้งสองจัดงานพิเศษนี้ค่ะ ...
    -----------------------------------------------------------------------------------
     
  19. หูกาง

    หูกาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    4,330
    ค่าพลัง:
    +5,449
    <table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> หูกาง, kora20, อิฐมอญ, แสงแข, techapunyo, Jopaa, boydbee, thanawut, anusart1, chkaon, sakcondo, plahang</td></tr></tbody></table>คนเยอะจัง ดึกแล้วนะเนี่ย....:cool:
     
  20. ToPiCaL

    ToPiCaL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,475
    ค่าพลัง:
    +4,585
    เน็ตผมไม่ดีจะโพสทีไร ไม่ขึ้นทุกที แหะ ๆ
    สวัสดียามเช้าๆ ครับพี่ฉันทะ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...