ข่าวแม่ชีทศพร ถึงช่อง 3 แล้ว..หลังจากมีกระแสวิพากษ์กันมากมาย(มีคลิป)

ผมคือคนนึงที่นับถือคุณแม่ชีทศพรนะครับ ผมขออนุญาติพูดอย่างเป็นกลาง
ผมไม่ขอว่าผู้ที่มีความคิดเห็นด้านลบกับคุณแม่ชีนะครับ ผมต้องขอกราบ
ขอบพระคุณด้วยซ้ำที่ทุกท่านห่วงใยพระศาสนา แต่ผมขอความกรุณาฟังผมสัก
นิดนึง คุณแม่ชีท่านไม่เคยพูดว่ากรรมแก้ได้ แม่ชีท่านพูดเสมอ ๆ ว่ากรรมแก้ไม่
ได้ กรรมแก้ไม่ได้ กรรมแก้ไม่ได้ แต่ที่ข่าวออกไปแล้วทำให้คนที่ไม่รู้จักแม่ชี
มากนักมักคิดว่าแม่ชีคนนี้แก้กรรมได้ ผมขอพูดว่าไม่จริง แต่ที่มีนพูดหรือมีข่าว
ออกไปต้องขอทำความเข้าใจด้วยว่าเป็นการใช้คำที่ไม่ถูกต้องหรือเป็นเพราะ
เพื่อการที่พูดเพื่อให้เข้าใจกันง่ายขึ้นของคนเราเท่านั้น แม่ชีไม่เคยพูดว่ากรรม
แก้ได้เลยท่านพูดแต่ว่ากรรมแก้ไม่ได้

ต่อ...ผมขอยืนยันว่าแม่ชีท่านปฏิบัติธรรมจริง ๆ และท่านก็มีความสามารถใน
การเห็นกรรมของผู้อื่นได้จากกรรมฐาน ในส่วนที่แม่ชีท่านให้มีอะไรกันนั้นท่าน
คงไม่ได้มีเจตนาให้คนมีอะไรกันจริง ๆ จัง ๆ แน่ ๆ แต่ที่ท่านทำในความคิดของ
ผมคือคนเรามีเจ้ากรรมนายเวรทุกคน เมื่อเจ้ากรรมนายเวรเขาต้องการในส่วนที่
เราเคยเอาของเขามาแม่ชีท่านเลยให้ทำอะไรแปลก ๆ ผมอยากให้ท่านทั้ง
หลายที่ไม่เห็นด้วยนั้นได้ดูคลิปแม่ชีท่านสอนหรือแสดงธรรมไม่ได้ลามก เพียง
แต่ท่านคนในยุคปัจจุบันมีกามรมณ์มากนักเห็นได้จากการที่เด็กมีเพศสัมพันธ์
ก่อนวัยอันควรเรื่องนี้แม่ชีท่านก็ไม่เห็นด้วย

ต่อ...แม่ชีท่านสอนลูกศิษย์เสมอว่าต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ ผมเป็นคนนึงที่แต่
ก่อนทำตัวไม่ดีกับพ่อแม่ แม่ชีท่านสอนให้กราบพ่อกราบแม่ตอบแรก ๆ ผมก็
อายเหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมกราบพ่อแม่ได้อย่างสนิทใจ แม่ท่านสอนให้ลูกศิษย์
ท่านถือศีล 5 แม่ชีท่านไม่ได้มีสายการปฏิบัติเป็นของตัวเอง ท่านนับถือพระ
รัตนตรัยเป็นสรณะ ท่านมีงานบุญมากมายในบางครั้งที่ท่านอาจทำอะไรแล้วดู
ขัดหูขัดตา ไม่ตรงกับพระศาสนาบ้างนั้น ก็เนื่องมาจากกรรมของบุคคลนั้นเองที่
ไม่กระทำตนให้ตรงกับพระศาสนาแม่ชีท่านเลยแสดงให้เห็นพูดให้รู้ว่าคุณเคย
ทำมาก่อนเพื่อให้จิตของเขาละอายและเกรงกลัวต่อบาป

ต่อ...การกระทำใดที่เห็นว่าไม่สมควรในนามลูกศิษย์ของแม่ชีผมขออภัยมา ณ
ที่นี้ด้วยนะครับ ผมขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้สละเวลาอ่านนะครับ ขอ
พระพุทธบารมี พระธรรมบารมี พระสังฆบารมี โปรดประทานพระพรให้ท่านทั้ง
หลายที่เห็นด้วยกับแม่ชีก็ดี ไม่เห็นด้วยก็ดี จงมีความสุขตลอดกาลเทอญ

 

สำนักพระพุทธศาสนาให้อภัย แม่ชีทศพร






<LI class=provider-img>สนับสนุนเนื้อหา

สำนักพระพุทธศาสนาให้อภัย แม่ชีทศพร
ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาฯ เผย ให้อภัย แม่ชีทศพร หลังพระพรหมโมรี ตักเตือนซึ่งเจ้าตัวยอมรับผิดและขอโทษแล้ว
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณี แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม แก้กรรมพิสดาร ว่าตนได้กราบนมัสการ พระพรหมโมรี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร (วัดพิชัยญาติ) และได้หารือเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเจ้าอาวาสได้ไปว่ากล่าวตักเตือน แม่ชีทศพร แล้วซึ่งแม่ชียอมรับผิดและขอโทษ
ทั้งนี้ยอมรับว่า พฤติกรรมของแม่ชีไม่เหมาะสมเพราะไม่ใช่เรื่องของพระพุทธศาสนา แต่ยอมรับว่ามีคนไทยจำนวนมากยังมีความเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่ ซึ่งการกระทำของแม่ชีทศพรเชื่อว่าเป็นกลอุบายที่ทำให้คนที่มีความทุกข์ ได้สบายใจและหันไปทำความดี ส่วนการแนะนำให้นำหอยไปติดที่ประตูเชื่อว่าเป็นการแก้เคล็ด โดยยอมรับว่าวิธีของแม่ชีทศพร หมิ่นเหม่ต่อการมีเพศสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่ชีทศพร ขอโทษแล้วก็ให้อภัยได้ เพราะที่ผ่านมาแม่ชีก็ได้สนับสนุนงานในด้านของพระพุทธศาสนาไว้มากมาย

สำนักพระพุทธศาสนาให้อภัย แม่ชีทศพร

 

"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ "

ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้วันนี้ล่ะครับ ความดีที่ท่านแม่ชีสร้างไว้กับพระพุทธศาสนามีมากมายเกินจะกล่าวได้หมดไม่นำมาเผยแพร่ วีดีโอที่ท่านแม่ชีสอนมีเป็นร้อยๆเรื่อง พันๆเรื่อง ดูแค่1เรื่อง2เรื่องมาตัดสินท่านและใช้คำพูดดูถูกลบหลู่ท่าน ท่านเป็นคนอารมณ์ดี วาจาที่ใช้ก็ฟังเข้าใจง่ายภาษาบ้านๆ สังเกตุคนไปฟังสิส่วนมากยิ้มแย้มแจ่มใสทั้งนั้น 2สิ่งในโลกนี้ที่ห้ามแตะต้องล่วงเกินด้วยกายวาจาใจ 1.พระรัตนตรัย 2.พ่อแม่ คำสอนนี้ผมก็ได้มาจากท่านแม่ชี ตอนนี้พวกท่านที่ได้ปรามาสแม่ชีไป ได้กระทำข้อแรกไปแล้ว กล่าวล่วงเกินสมณะชีพราห์มหรือผู้ทรงศีล ขอให้บุญที่ท่านมีอยู่จงรักษาท่าน และเมื่อท่านละสังขารไปจากโลกนี้แล้วท่านจะรู้ว่า เรื่องใดจริงเรื่องใดเท็จ ผมเชื่อคำสอนชาติหน้ามีจริงชาติก่อนมีจริงแต่ปัญญาระดับปุถุชนยังไปไม่ถึง แค่เมื่อ7ก่อนผมกินข้าวกับอะไรยังจำไม่ได้ จะระลึกชาติได้เหมือนท่านแม่ชีเป็นไปได้ยาก วันนี้ข้าพเจ้าจึงเข้าใจอย่างแท้จริงว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่หมายถึงอะไร ขอให้บุญรักษาทุกท่าน สิ่งดีๆที่ท่านแม่ชีทำมีมากมายเกินจะกล่าวได้หมด อย่ามองท่านเพียงแค่คลิปวีดีโอ1หรือ2คลิปนี้ ลองฟังสัก10คลิปขึ้นไปแล้วค่อยมาตัดสินท่าน เวรกรรมจะได้ไม่ติดตัวท่านเอง

กรรม แปลว่าการกระทำ การกระทำจะดีหรือไม่ดีให้ดูที่เจตนาเป็นหลัก อยากให้มองที่เจตนาของท่านแม่ชีเป็นหลักนะครับ เช่นหลวงพ่อคูณพระอริยะเจ้าแห่งเมืองโคราช ยังใช้ภาษาพ่อขุนราม แต่เจตนาของท่านบริสุทธิ์ ลาล่ะครับขอให้พวกท่านที่ปรามาสแม่ชีขอให้โชคดีแล้วกันครับ


ขออนุโมทนาในบุญกุศลทั้งหลายที่ท่านแม่ชีได้สร้างไว้ด้วยครับ สาธุ

เป็นกำลังใจให้แม่ชีตลอดไปครับผ<wbr>ลบุญอันใดที่ข้าพเจ้าทำมาตั้งแต<wbr>่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันขณะนี้ ขอให้พระแม่ธรณีเป็นพยาน ผลบุญเหล่านั้นมีผลกับข้าพเจ้าเ<wbr>พียงใดขอให้ผลบุญเหล่านั้นมีแก่<wbr>แม่ชีทศพรและปกปักษ์รักษาแม่ชีทศพ<wbr>รด้วยเทอญ

ปล. ปัญญามี3ระดับ
1.สุตตมยปัญญา
2.จินตมยปัญญา
3.ภาวนามยปัญญา

ปัญญาของท่านแม่ชีผมมั่นใจล้าน%ว่าเป็นระดับภาวนามยปัญญา

เปรียบเหมือนเต่าขึ้นบกแล้วลงมาบอกปลาในทะเลว่าบนบกมีอะไรบ้าง บ้างพวกเข้าใจบ้างพวกไม่เข้าใจเหมือนดอกบัว4เหล่า

ขอให้พวกท่านพินิจพิจารณากันให้ดีเถิด ไม่เชื่ออย่าลบหลู่และขอให้ไปพิสูจน์ด้วยครับ ตามหลักกาลามสูตรครับ

 

แม่ชีทศพรรับ! แก้กรรมหมิ่นเหม่ ขอโทษล่วงเกินสังคม



แฟ้มภาพข่าว

(28 เม.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางไปตรวจสอบที่วัดพิชยญาติการาม ย่านคลองสาน กรุงเทพฯ วานนี้ (27 เม.ย.) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีคลิปวิดีโอคำสอนการแก้กรรม และการใช้คำพูดไม่เหมาะสมของแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ หรือแม่ชีใหญ่ ซึ่งด้านแม่ชีได้เปิดเผยต่อสื่อ ยอมรับว่าแนะนำแก้กรรมหมิ่นเหม่ พร้อมขอโทษหากทำให้สังคมไม่สบายใจ
แม่ชีทศพร ได้เปิดเผยว่า การสอนแบบนี้เป็นความทุกข์ระดับชาวบ้าน จึงต้องพูดลักษณะแบบนี้ ถ้าแม่ชีพูดเรื่องอะไรผิดพลาด ทำให้สังคมยอมรับในคำสอนไม่ได้ ก็ต้องขอโทษ ส่วนกรณีการแก้กรรมด้วยการไปนอนกับผู้ชายนั้น แม่ชีพูดจริงและให้ทำตรงนั้นจริง ให้เด็กผู้ชายจับมือกันแค่นี้ คลิปที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ แม่ชีเป็นคนตัดต่อเอง 300 กว่าตอน อยากจะให้ดูหลายมุมว่าแม่ชีทำอะไร ถ้าแม่ชีอะไรทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย ก็ยินดีออกจากศาสนา
เมื่อถูกถามถึงกรณีการแก้กรรมด้วยการนอนกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่านั้น แม่ชีทศพร เผยว่า อย่ามองแต่ประเด็นนี้ แม่ชียอมรับว่าพูดอย่างนั้นไปจริง แม่ชีไม่ได้ต้องการให้เขาไปนอนด้วยกัน เพียงแต่บอกให้ลูกศิษย์ชื่อ มาร์ท ว่า พี่เขามีกรรมเรื่องนี้ มาอยู่ใกล้ๆ พี่เค้าหน่อย จับมือ กอด แม่ชีขอยืนยันสิ่งที่ทำลงไปไม่มีเจตนาที่จะโด่งดังจากเรื่องนี้ แค่อยากให้รู้ว่า่ตอนนี้ในสังคมไม่มีศีลธรรมอยู่แล้ว
นอกจากนี้แม่ชีทศพรยังเผยอีกว่า ในแต่ละวันมีคนมาปฏิบัติธรรมนับพันคน ทั้งหมดสอนเรื่องมั่นคงในพระรัตนตรัย และสอนเรื่องกฎแห่งกรรม ไม่ได้สอนเรื่องให้ไปเอากับใคร เพียงแต่กรรมของผู้หญิงคนนี้ที่มีกรรมลักษณะนี้ จึงช่วยทำให้เขาสบายใจขึ้น และคลิปที่เผยแพร่คำสอนมีมากกว่า 300 คลิป อยากให้สังคมเอาไปพิจารณา ทำงานเพื่อพระศาสนามาตลอด เงินเดือนไม่เคยได้ ไม่เคยได้ลาภสักการะ อยากบอกว่าแม่ชีบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้พาดพิงใคร ไม่มีเจตนาให้ใครเสียหาย อยากให้ดูกันหลายๆ มุม แต่ถ้าหากแม่ชีทำให้ศาสนากระทบกระเทือน แม่ชีต้องกราบขอโทษทุกคนที่ทำอะไรล่วงเกิน ทำให้ทุกท่านรู้สึกไม่ดี
ในขณะที่ด้าน นายนิพิฏฐ์ ได้กล่าวว่า ได้วอนขอให้แม่ชีปรับวิธีการสอนและจะให้เจ้าหน้าที่ติดตามว่าคำสอนของแม่ชีว่ายังหมิ่นเหม่อีกหรือไม่ หากยังใช้คำสอนเดิมและหมิ่นเหม่ รวมทั้งขัดต่อหลักศาสนา จะต้องหาวิธีดำเนินการลงโทษหรือห้ามปรามต่อไป

http://news.sanook.com/1019094-แม่ชีทศพรรับ-แก้กรรมหมิ่นเหม่-ขอโทษล่วงเกินสังคม.html

 

การแก้กรรมมีจริงมั้ย ?<!-- google_ad_section_end -->


<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>




ถาม : การแก้กรรมมีจริงมั้ยคะ ?

ตอบ : การแก้กรรมมีจริง แต่บุคคลที่แก้กรรมให้ต้องรู้จริง ๆ สามารถติดต่อเจ้ากรรมนายเวรได้จริง ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเขาบอกให้ทำแบบไหนแล้ว ทำแบบนั้นสิ่งนั้นก็จะพ้นไปได้ อย่างเช่นว่า บางคนเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยกรรมอะไรบางอย่าง เขาต้องการทดแทนแบบไหน แล้วทำให้เขาไป อาการป่วยนั้นจะหายทันทีเลยไม่ต้องรักษาไม่ต้องอะไรก็ได้ แต่อย่าลืมนะคนนั้นต้องรู้จริง ๆ ถ้ารู้ไม่จริงอาจจะลำบากหน่อย โดนหลอกได้ง่าย

ถาม : มีโฆษณาเยอะมาก ?

ตอบ : โฆษณานั้นอย่าเพิ่งเชื่อ เรื่องกฏของกรรมนี่ถ้าเรามั่นคงในทาน ศีล ภาวนา เขาจะสนองเราได้ไม่ถึง ๒๕% อีก ๓ ส่วนนั่นโดนอานุภาพของทาน ศีล ภาวนาป้องกันไว้แล้ว

เพราะฉะนั้นเราแก้กรรมทำด้วยตัวเองก็ได้ โดยเฉพาะทาน ศีล ภาวนามันมีผลบุญสูงสุด ทานให้ผล ๑๐๐ ส่วน ศีลให้ผล ๑๐,๐๐๐ ส่วน ภาวนาให้ผล ๑,๐๐๐,๐๐๐ ส่วน เพราะฉะนั้นภาวนาจะให้ผลสูงสุด ถ้าเราทำจนกระทั่งกำลังใจทรงตัวเป็นปกติพวกกรรมเก่ามันจะตามได้ยาก แล้วถ้าหากว่าเรายิ่งหลุดพ้นไปเลยก็เป็นอันว่าจบกันไม่ต้องตามกันเลย

ถาม : แล้วเราอธิษฐานช่วยคนอื่นได้มั้ยคะ ?

ตอบ : ถ้าหากว่าถึงระดับที่ว่าจบกันไปแล้วมันจะเกิดฤทธิ์อย่างหนึ่ง เขาเรียกว่า อธิษฐานฤทธิ์ กับบุญฤทธิ์ ๒ อย่างนี่สามารถช่วยคนได้

ถาม : ถ้ายังไม่ถึงก็ไม่ควรใช่มั้ยคะ ?

ตอบ : ถ้ายังไม่ถึงช่วยได้แต่มันก็ได้น้อย

ถาม : เพราะว่าอย่างแม่เขาจะเป็นโรครักษาไม่หายซักที เสร็จแล้วอย่างหนูสวดมนต์หรือคนอื่นเขาจะทำบุญนี่หนู ๆ ก็จะ...(ไม่ชัด) ?

ตอบ : ไม่เป็นไร ทุกครั้งก็บอกให้เขาโมทนาอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรเขาด้วย ทำไปเรื่อย ๆ ทีละนิดทีละหน่อยดีกว่า ถ้าหากว่าไปแก้กรรมประเภทที่ว่าไม่ถูกต้องตามศีลตามธรรมเดี๋ยวจะเสียหายกันยกใหญ่เพราะมันจะเรียกกันเยอะ ๆ

ถาม : ก็จะมีเพื่อนแนะนำให้ไปวัดโน้นวัดนี้บ้างแต่ก็ไม่กล้าไป ?

ตอบ : ลำบากหน่อย ถ้าหากว่าไม่มั่นใจก็ย่อง ๆ ไปดูเขาก่อนอย่าเพิ่งพาคนไข้ไป ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เข้าไปเหมือนนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ไปสังเกตการณ์ก่อนก็ได้ ถ้ายิ่งได้ทิพจักขุญาณก็ดูมันเลย ดูมันทำได้จริงหรือเปล่า ?

ถาม : แล้วอย่างหนูทำบุญทุกวันหยอดเงินบาทหนึ่ง หยอดเงินหน้าหิ้งพระค่ะ แล้วหนูยังไม่ได้เอามาถวายถือเป็นการทำบุญหรือเปล่าคะ ?

ตอบ : เป็นแล้ว เพราะว่าเราตั้งใจอยู่แล้วว่าเงินส่วนนี้จะทำบุญ ถ้าหากว่าเราตายตอนนั้นผลบุญอันนั้นเราได้เลย แต่พระขาดทุน เพราะยังไม่ได้รับสตางค์ (หัวเราะ) อันนี้ไม่ต้องกังวล อันนี้เป็นบุญอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าของเรานี่ เจตนามันเป็นบุญอยู่แล้ว พอเราได้ทำไปผลบุญนั้นก็เป็นอันสำเร็จแล้ว มันก็เหลืออยู่เพียงว่ามีวาระมีโอกาสก็เอาเงินนั้นมาถวายพระ เพราะฉะนั้นห้ามตายก่อน ตายก่อนพระขาดทุน

อธิษฐานบารมีนี่สำคัญนะ เป็นบารมีที่สำคัญมาก คนที่ไม่ถึงระดับปรมัตถบารมีใช้อธิษฐานไม่เป็นด้วยซ้ำไป บางคนก็เข้าใจผิดว่า อธิษฐานบารมี อย่างเช่นว่า ทำบุญแล้วขอให้เป็นนั่นขอให้เป็นนี่ ขอให้ได้นั่นขอให้ได้นี่ปรากฏว่าเป็นการโลภเขาไปคิดอย่างนั้น อันนั้นไม่ใช่ อธิษฐานบารมีเป็นการเจาะจงว่าผลบุญที่เราทำจะให้มันเกิดอะไร จะให้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ สำหรับตัวเราเป็นการเจาะจงเวลา ถ้าหากว่าเราต้องการของอย่างหนึ่งตอนนี้ ถ้าเราไม่ตั้งใจไว่กอนมันมาอีกโน่นปี ๒ ปี ข้างหน้า ซึ่งไม่มีประโยชน์กับเราแล้ว

อธิษฐานบารมีเป็นการยิงปืนเล็งเป้าเพื่อให้ถูกต้องเป้าหมาย ถ้าหากยิงเหวี่ยงแหส่งเดชไปมันอาจจะไม่ถูกเป้าหมายเลยก็ได้ สิ่งที่เราทำไม่ว่าจะดีหรือชั่วเขาส่งผลอยู่แล้ว
อธิษฐานบารมีนี่เป็นการจำกัดว่าจะให้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เกิดผลอย่างไร มันไม่ได้โลภอะไรเลย เพียงแต่กำหนดให้มันแน่นอนลงไปเท่านั้น เรื่องของอธิษฐานบารมีนี่ถ้าหากว่าเราสร้างสาเหตุได้เพียงพอ ผลมันก็จะเกิด ทีนี้ถ้าหากว่าเหตุมันยังไม่พอผลมันก็ยังไม่เกิดหรอก
อย่างเช่นว่าน้ำขวดนี้ ยกตัวอย่างน้ำนี่ง่ายดี ถ้าหากว่าโยมสร้างเหตุเพียงพอก็คือ น้ำมันจะเต็มขวดแล้ว โยมตั้งใจอธิษฐานขอน้ำขวดหนึ่งโยมได้แน่นอน แต่ถ้าหากว่าน้ำมันแค่นี้ แล้วโยมตั้งใจขอน้ำขวดหนึ่งโยมได้แน่นอน แต่ถ้าหากว่าน้ำมันแค่นี้ แล้วโยมตั้งใจขอน้ำเต็มขวด เขาก็ให้เราไม่ได้เพราะว่ายังไม่เต็ม
เพราะฉะนั้นเราต้องทำเหตุให้เพียงพอ ผลถึงจะได้ เรื่องของธรรมะเป็นเรื่องตรงไปตรงมา

ที่หลวงพ่อโตวัดระฆัง ท่านบอกว่า ถ้าเจ้าไม่สร้างเอาไว้แล้ว เที่ยวไปขอร้องขอต่อคนอื่นเมื่อไหร่เจ้าจะได้ เพราะฉะนั้นก็เลยจำเป็นอยู่ตรงนี้ว่า เราต้องทำให้เพียงพอ ถึงเวลาอธิษฐานว่าเราต้องการอย่างไรมันถึงจะเป็นอย่างนั้น

ถาม : การสวดมนต์นี่ถือเป็นภาวนาอย่างหนึ่งมั้ยครับ ?

ตอบ : เป็นแน่นอน เมื่อกี้อธิบายไปแล้วว่ากันได้ยันนิพพานไปเลย สวดมนต์อย่างเดียวแท้ ๆ

ถาม : มีอานิสงส์เท่ากับการนั่งสมาธิมั้ย ?

ตอบ : ถ้าหากาว่านั่งสมาธิแล้วจิตใจไม่มีคุณภาพ กับสวดมนต์แล้วแล้วจิตใจทรงตัวมากกว่า ก็มีอานิสงส์มากกว่าซะด้วยซ้ำไป มันก็ต้องดูว่าคนทำ ๆ ได้แค่ไหน

ถาม : ที่บอกว่าจิตมีคุณภาพหมายความว่ายังไงครับ ?

ตอบ : จิตมันไม่ฟุ้งซ่านไปคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ถ้าหากว่ามันทรงตัวแน่นอนไปเลยก็สบาย

ถาม : ถ้าเปิดเทปธรรมะนี่แทนที่ตาจะดูหนังสือแล้วสวดตามนี่หลับตาสวดตามได้มั้ยครับ ?

ตอบ : ได้เหมือนกัน อย่างน้อย ๆ ถ้าหากว่าไม่มีสมาธิมันจะสวดผิด สมาธิขั้นต้นมันต้องได้อยู่แล้ว


การแก้กรรมมีจริงมั้ย ? - PaLungJit.com



.

 

ผมเป็นคนนึงที่ไม่กล้าแม้กระทั่งฆ่ายุงสักตัว เพราะคำสอนของแม่ชีท่าน เป็นกำลังใจให้นะครับ

 

แม่ชีท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่ทำผิดหรือหมื่นเหม่ แล้วก็กล้ารับค่ะ เป็นตัวอย่างที่น่ายกย่อง ซึ่งก็อาจจะดีกว่า คนดังในวงการพระพุทธศาสนาหลาย ๆ ท่าน ที่ไม่ยอมรับในการกระทำความผิดของตนเองและคิดว่าตนเองนั้นถูกเสมอ แต่ทั้ง ๆ ที่การเผยแพร่ของตนนั้นผิด

 

"แก้กรรม" มีจริง ธรรมะนั้นลึกซึ้งยิ่งนัก ธรรมะนั้นมีหลายแง่หลายมุม ผู้ที่เข้าถึงหรือผู้รู้เท่านั้นที่จะบอกได้ว่าธรรมะนั้นเป็นเช่นใด

 

อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ...เดี๋ยวเค้าก็ได้รับผลกรรมนั้นเอง...อย่าว่าแต่ผู้ทรงศีลเลยนะคะ..ถ้าเราไปพูดไม่ดี ตะคอกใส่ แม้แต่สัตว์เล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็จะได้รับผลกรรมทางวาจานั้นทั้งหมด แล้วแต่ว่าจะหนักจะเบาจะทำกับใคร....สำหรับคุณมดดำเอง....ก็มีทั้งคนรักและคนเกลียดเช่นกันค่ะ....สิ่งที่เรา เขา ท่าน ทั้งหลายเป็นอยู่ ก็ล้วนแล้วแต่กรรมเก่าในอดีตชาติของแต่ละคนเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาเองค่ะ.....

 

.....................

 

ตามความคิดของผม การแก้กรรมไม่ผิดนะครับ
ผมว่าการแก้กรรมมันก็คือการสะเดาะเคราะห์นะครับ
คิดเห็นยังไงครับ

 

นั้นยังน้อยไปนังคำผกาคนไร้ศาสนานี่หนักกว่าอีก ผมดูรายมัน 2-3 ตอนต้องไปล้างหน้าล้างหู 18 ครั้งเลยทีเดียว แม่ม พูดแต่เรื่องหว่างขาตลอด แถมวันๆมันไม่ทำอะไรเอาแต่โจมตีศาสนาเอาแต่โจมตีประเทศไทยหาว่าวัฒนธรรมไทยไม่ดีอย่างนู้นไม่ดีอย่างนี้ จบ ด.ร เเล้วหลงตัวเองทั้งๆที่เหตุผลของตัวเองก็ยกมาอ้างแบบข้างๆคูๆ

ปล. ผมไม่ได้เชื่อแม่ชีหรอก แต่ก็ไม่ชอบอินี่เช่นกัน (อินี่หนักกว่า)

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=9JC_4x_EoLw&feature=player_embedded"]YouTube - คำ ผกา-แฉแม่ชีทศพร 10-4-54[/ame]

 

รู้สึกหดหู่มากมาย ตอนนี้ ปุถุชนได้ทำความผิดมหันต์ หลบลู่ผู้มีศีล แม่ชีท่านทำคุณอนันต์ มากมาย แต่ปุถุชนคนที่มองไม่เห็น กลับหลบลู่ ปรามาสท่าน เอาอะไรมาวัดหรือค่ะ ว่าท่านไม่ดี ท่านปฏิบัติ จนรู้จนเห็นอดีตชาติของคนทั่วไป คนธรรมดาอย่างเราทำได้หรือค่ะ ถ้าจะว่าท่านควรทำให้ได้อย่างท่านก่อนค่ะ
การที่ดูคลิบทีตัดต่อ เพียงแค่ตอนสองตอนก็เอามาตัดสินกัน ทำไมไม่ไปลองคลุกคลี ไปลองปฏิบัติธรรมที่วัดท่านดูละค่ะ ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรด้วยคลิบที่ตัดต่อนิดหน่อย
ส่วนตัว ทุกวันนี้ที่ไม่กล้าทำความชั่ว เพราะว่าได้ไปปฏิบัติธรรม ฟังธรรมะจากท่านนี้แหละค่ะ

 

เรื่องกรรมก็ตรงไปตรงมา เช่น ฆ่าเขา 2 ครั้ง ต้องโดนฆ่า 2 ครั้ง ก็ให้ไปเอาปืนมา ทำท่าทำทางทะเลาะกันแล้วยิงให้ตาย 2 ครั้ง (โดยไม่ได้ฆ่ากันจริงๆ) นี่แหละวิธีของแม่ชี

ที่ท่านบอกน่ะ ไม่ได้ให้ไปมีไรกับเด็ก จริงๆซะหน่อย เดิมทีผู้หญิงคนนี้มีกรรมต้องเสียตัว ก็ให้เด็กผู้ชายมาทำจับแก้ม เหมือนกับว่าผู้หญิงคนนี้โดนลวนลามแล้วนะ หมดกรรมแล้วนะ ประมาณนี้แหละ ไม่ได้ให้ไปมีไรกันจริงๆซะหน่อย คนเอาข่าวมาพูดก็ตัดมาบางส่วน อย่างนี้ก็แย่อ่ะดิ(ไม่ได้เข้าข้างแม่ชี แต่รู้เหตุและผลว่าทำไม)

แม่ชีก็พูดอยู่ชัดๆว่า วิธีนี้ มันเป็นการแก้ทุกข์ให้ระดับชาวบ้าน แน่นอนยังไม่ใช่ทางนิพพาน ก่อนจะว่าท่านน่าจะใช้ปัญญาหน่อย ว่าระดับบารมีคนเราไม่เท่ากัน(คนที่คิดว่าตนเก่ง ควรต้องรู้ข้อนี้ดี เป็นเรื่องพื้นฐานในการสอนธรรมะเลย) ถ้าเข้าใจเรื่องนี้ จะรู้ว่าเหตุผลคืออะไร

ระดับชาวบ้าน อยู่ๆเค้าทุกข์มา จะไปบอกทางตรงไปนิพพาน ให้เค้าละกิเลส ตัดสังโยชน์ทันที ใครมันจะไปทำได้ พวกที่คิดว่าตนเก่งน่ะ แล้วบอกนั่นไม่ใช่ทางนิพพาน ตนเองตัดกามได้ยังครับ นี่มันเรื่องหยาบเองนะ แบบละเอียดยังมีอีกเยอะ นี่แหละ อยากเอาตรงนิพพาน ถ้าบารมีไม่ถึงนิพพาน พูดกรอกหูให้ตายก็รับไม่ได้ รับได้ก็ทำไม่ได้

พระพุทธเจ้าท่านก็ยังเลือกเลยว่ากลุ่มไหนต้องสอนเรื่องอะไรให้มันถูกกลุ่ม มันถึงจะได้ผล เช่นสอนเทวดา ไปพูดเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย เค้าไม่ซึ้งหรอก เพราะเค้าไม่มีกายหยาบ ก็ต้องสอนเรื่องที่มันเหมาะกับเขา เช่นความไม่หประมาท บุญที่เสวยสุขอยู่นี่ มันมีวันหมดนะ อย่านิ่งนอนใจ เป็นต้น นี่มันอย่างนี้

 

การตำหนิติเตียนผู้อื่น....หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริง
ก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย
ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น
นักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม
ไม่มีดีเลย

จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนามาทรมานอย่างไม่คาดฝัน

การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง
เป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตนให้ได้รับความทุกข์
จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน
งดความเห็นที่เป็นบาปภัยแก่ตนเสีย


ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว
แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง

คติธรรมคำสอนของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
หนังสือ ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ

กรรมทางวาจาระวังไว้ก็ดีเน้อทุกท่าน!

 

กรรม คือการกระทำ การกระทำก็มี 2อย่าง กระทำดี เรียกว่ากรรมดี กระทำชั่ว เรียกว่ากรรมชั่ว ในที่นี้กรรมดีดิฉันไม่อยากพูดถึง ส่วนกรรมชั่วนั้นเชื่อว่าทุกคน คงจะพอมีกรรมชนิดนี้อยู่บ้าง จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจและมีเหตุอะไรจึงกระทำลงไป ทำไปเพื่ออะไร เมื่อทำไปแล้วจะมาแก้ก็คงกระไรอยู่นะ ยอมรับกรรมและไม่ทำอีกก็สบายใจแล้วและพยายามกระทำแต่กรรมดีต่อไป นำบทเรียนในกรรมชั่วนั้นคอยย้ำเตือนสั่งสอนลูก หลานไม่ให้กระทำชั่วเหมือนเช่นเราก็น่าจะเป็นการแก้กรรมได้นะ

 

การแก้กรรมที่ดีที่สุดดิฉันคิดว่า คือการยอมรับผลกรรมด้วยความสำนึกผิด เจริญสมาธิภาวนา ขออโหสิกรรมต่อผู้ที่เรากระทำแก่เขา ไม่เคียดแค้นพยาบาท มีใจเป็นทาน รักทุกคนในโลก ก็เป็นสุขได้

 

หากเราไม่รู้จริง อย่าวิพากษ์ให้ในเราขุ่นมัวเลย

"แม่ชีแก้กรรม ให้คนไปเอากัน"
สื่อ..เอามาเล่น...ขายข่าว คนที่มีปกติใจชอบเสพ อารมณ์ชั่ว ก็จะด่าให้สาแก่ใจ และได้ัสร้างกรรมหนักไปแล้ว...พึงระวังใจเราดีกว่า..อย่าให้มันเสพอารมณ์ชั่ว ตั้งสติให้มั่น..ให้มันเสพแต่อารมณ์ดีๆ
------------------------------------------------------
ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่พระอรหันต์ (หลวงปู่เจี๊ยะ) ผู้ที่พระอาจารย์มั่นกล่าวว่า คือ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" ได้พูดเรื่องใต้สะดือยิ่งกว่าแม่ชีเสียอีก

พระอาจารย์จันทาเรียนถามต่อไปอีกว่า “หลวงปู่เห็นผู้สาวสวยๆ ไม่ชอบบ้างเหรอ ?1 ”
“โอ! ไม่ชอบมันดอก เบื่อหน่ายมัน ไม่สนใจล่ะ เหม็นตดมัน เดี๋ยวมันสิ ตดให้ดม คำว่า“เจี๊ยะ ๆ ” นี่ ไม่คืนกลับมาดมขี้ ดมตดใครอีก”
“โลกสามไม่กลับคืนมาแล้วหรือปู่” พระอาจารย์จันทาถามย้ำ
“เรา...ไปเลยแหละ อยู่ฮีแม่มันทำไมอีกล่ะ คำว่า “เจี๊ยะๆ ”ไม่คืนกลับมาเป็นขี้ข้ากิเลสราคะตัณหาของใครอีกแล้ว มุดทะลวงออกทะเลไปเลย...ว่ะ” พระอาจารย์เจี๊ยะตอบอย่างเด็ดขาด
“ไม่ขึ้นมาอยู่บนโลกสามนี้กับหมู่เพื่อนทั้งหลายอีกแล้วหรือปู่” พระอาจารย์จันทาถาม
“สูเอ๊ย...ถ้ายังมีการคืนมาอยู่ มันก็ไม่ใช่พระนิพพานน่ะซิวะ พระนิพพานแปลว่าสถานที่เยี่ยมล้ำเลิศประเสริฐสุด หาสิ่งใดเสมอเหมือนไม่มี ไม่มีภพชาติสังขารแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงมาอยู่ร่วมกับหลวงปู่ขาว เพราะท่านพูดจริงแนะนำสิ่งที่ดีทุกอย่าง ไม่พูดโกหกหลอกลวงใครทั้งนั้น”
“ผมจะได้ไหมหลวงปู่ พระนิพพาน” พระอาจารย์จันทาถาม“โอ๊ย! บอกคนอื่นไม่ได้ แล้วแต่ตนเองจะทำได้ ได้เมื่อไหร่ตามแม่มึงแหละ มึงขี้คร้านภาวนา”

​

“โอ๊ย! ก็ว่าหมั่นขยันแล้วนะ...หลวงปู่ แต่แล้วมันก็ไม่ปรากฏรสชาติอะไรเพียงแต่ว่าอยู่ได้ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิลงครั้งเดียว”
หลวงปู่เจี๊ยะท่านเป็นคนจุ๊กจั๊ก ทำงานชอบนุ่งผ้าถกเขมรเหน็บเตี่ยว เปิดตูด ทำให้เห็นแก้มก้น สองข้าง พอเราเห็น ท่านก็ว่า “มึงสิดมดากกูบ่... บักห่า”
“ดากดำ ๆ บ่ดมดอก...ปู่”
ท่านนุ่งผ้าเหน็บเตี่ยว ถกเขมรทำงานเก่ง เวลาเลิกทำงานอาบน้ำ ฉันน้ำร้อนก็คุยธรรมะ คุยเรื่องธรรมะเก่ง เล่าละเอียดให้ฟังไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เรื่องอะไร สำหรับหลวงปู่เจี๊ยะท่านได้รู้ ได้เห็นแล้ว เราไม่รู้ไม่เห็นธรรมอย่างท่าน คุยกับท่านมันก็ไม่รู้เรื่องกัน
ปู่เจี๊ยะท่านชอบคุยเรื่องพิจารณากายให้ฟัง คุยถึงครูบาจารย์มั่น ท่านเรียกหลวงปู่มั่นว่า “ครูบาจารย์มั่น” ท่านสอนให้พิจารณากาย กาเยกายานุปัสสีวิหะระติ กายเป็นเพียงที่พึ่งพิงอิงอาศัยของใจเท่านั้น หายใจเข้าออก เข้าพุธ ออกโธ เท่านั้นล่ะท่านว่า
“เอ้า!...นิมนต์หลวงปู่พูดธรรมะให้ฟังหน่อยเถอะจะได้จำไว้”
“ร่างกายนี้ เป็นที่พึ่งที่อิงอาศัยของใจ เอาเท่านั้นก็พอไม่ต้องเอามาก จะพูดอย่างละเอียดให้ฟังก็ไม่ได้เพราะมันไม่รู้ด้วยกัน มันต้องรู้ ได้เห็นของจริงทุกอย่าง ไอ้ห่านี่ บักห่านี่” ท่านพูดแต่สำเนียงอย่างนี้เสมอ
“ไม่อยากได้เมียหรือหลวงปู่” พระอาจารย์จันทาพูดหยอกเล่น

<table id="table14" width="139" align="right" border="0"> <tbody><tr> <td align="center"> </td> </tr> <tr> <td align="center">

หลวงปู่เจี๊ยะ และพระอาจารย์บุญเพ็ง​

สมัยอยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำกลองเพล​

</td> </tr> </tbody></table> ​

“บ่อยากได้ดอก เหม็นฮีมัน”
“ฮ่วย..ฮีนั่นเป็นบ่อเกิดกำเนิดสงสาร ไปเหม็นของเขาทำไมล่ะ หลวงปู่”
“ครูบาจารย์มั่นไม่ให้กูดม ดมทำไมของเน่า หลอกลวงให้เวียนเกิด เวียนตาย เวียนบ่หน่ายอยู่ในโลกสาม”
หลวงปู่เจี๊ยะท่านเคารพหลวงปู่ขาวดี ท่านว่า “หลวงปู่ขาวเป็นพระอรหันต์นะ ประมาทไม่ได้ ท่านรู้หมด เราคุยกันอยู่ตรงนี้ หลวงปู่ขาวท่านก็รู้ เราเคารพท่านไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน เคารพปู่ขาวเนี่ย”
ปู่เจี๊ยะท่านก็ดี ฟังแต่ว่าเจี๊ยะ ๆ เถอะ “บักห่า...มึง” พั่นวะ ทำงานนุ่งแต่ถกเขมรผ้าเหน็บหางกะเตี่ยว เปิดแก้มก้น เปิดฮู้ดากเลย นุ่งแต่เพียงผ้าอาบน้ำ พันเป็นเกลียวเข้าร่องตูด ท่านเดินทำงานสบาย วัดถ้ำกองเพลมันกว้าง เวลามีมอเตอร์ไซค์เขามา ท่านก็ขอซ้อนท้ายเขาเฉย
“คนอื่นเขาจะเห็นตูดแล้ว หลวงปู่”
“เห็นช่างแม่เถอะ!!! มันอยากได้ให้มันมาเลียเอา”
“โอ๊ย!...เขาบ่เลียดอก ขี้เดียดวะตูด”
เราพูดกันกับท่านได้ดี ท่านบ่ฮ้ายบ่ว่าอีหยัง (ไม่ว่าอะไร)
“บักห่ามึงโง่หลาย มึงสิสึกไปเลียดากเขาอีกเบ๊าะ” (พระอาจารย์เจี๊ยะดุอาจารย์จันทา)
“ว่าสิ บ่ไปแหล้ว...หลวงปู่ สิไปกับพรหมจรรย์ตลอด ไม่กลับอีกแล้วเป็นอย่างไรก็ไม่กลับ”
หลวงปู่เจี๊ยะท่านเคารพปู่ขาว ท่านเรียกหลวงปู่ขาวว่า “ครูบาจารย์ขาว” ครูบาจารย์ขาวท่านเป็นพระอรหันต์นะ ผมนึกประมาทไม่ได้ ท่านรู้เลย ผมจงรักษาตัวให้ดี
เวลาหลวงปู่เจี๊ยะทำงานอยู่ตามกุฏิ โอ๊ย...นุ่งแต่ผ้าถกเขมรเหน็บเตี่ยวละ อังสะไม่ใส่เลย
“เอ้า!...ใส่ซะหน่อยไม่ได้หรือปู่ ผ้าอังสะนั่นน่ะ”
“เอ้อ!...ถอดออกนี่แหละ มันแฮงดี บักห่ามึงอย่ามาถามกูหลาย กูรำคาญ” (หัวเราะ)
---------------------------------------

อ่านแล้ว...ท่าน กล้าปล่อยให้ใจท่าน เสพอารมณ์และวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางชั่วหรือไม่ หลวงปู่เจี๊ยะท่านละสังขารไปแล้ว กระดูกท่านเป็นพระธาตุ(ท่านเป็นพระอรหันต์) หากมีสื่อสารมวลชนตัดข้อความไปโพสต์เฉพาะ้ข้อความสีแดง ให้ท่านอ่าน ว่าพระองค์หนึ่งพูด ท่านคงจะด่าอย่างสาแก่ใจ และได้สร้างวิบากใหญ่ให้แก่ตนเองเข้าให้แล้ว เพราะท่านปรามาสพระอรหันต์

กรณีแม่ชีทศพร ผมไม่อยากให้ท่านตัดสินไปก่อนเลย อย่าสร้างวิบากแก่ตัวท่านเองเลย หากแม่ชีท่านเป็นผู้ไม่มีศีลธรรม กรรมย่อมจัดสรรเอง ตัวเราไม่มีสิทธิ์ตัดสิน แต่หากแม่ชีเป็นผู้มีศีลมีธรรม แล้วสอนสั่งเพื่อนมนุษย์ตามระดับสติปัญญา การที่เราไปตัดสินท่านโดยเสพสื่อ ที่ตัดมาเป็นบางช่วง แล้วไปวิพากษ์วิจารณ์ เรามิใช่สร้างวิบากกรรมใหญ่ให้แก่ตนเองหรือ พึงรักษาใจเราไว้ให้สงบ ดีที่สุดแล้ว

สาธุ..สาธุ..สาธุ..

 

ขอบคุณค่ะ...อนุโมทนาค่ะ