<SPAN>ชมรมขุนแผนระฆังทอง&เจดีย์ทอง หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ (โชว์ภาพและประสบการณ</SPAN

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย knutch, 8 สิงหาคม 2010.

  1. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
  2. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    น้องโอ๊ต สวัสดี กำลังปิดงานยังไม่ได้ไปส่งเลย มาเที่ยวฟิวเจอร์ก็บอกนะครับเลี้ยงเตี๋ยวเรือ
     
  3. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ssCkxqdzkZc]YouTube - พิธีพุทธาภิเษกเหรียญหลวงปู่ทิม[/ame]
    พิธีที่9 วัดน้ำคู้เก่า ช่างกล้องลงไว้ครับ
     
  4. PPond

    PPond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    838
    ค่าพลัง:
    +2,348
    สวัสดีทุกท่านครับ หายไปหลายวันเดินทางไปทำธุระที่นครศรีธรรมราชมาเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวาน ผ่านอำเภอพุนพินที่ประสบอุทกภัย ยังมีความเสียหายของถนนและบ้านเรือนจำนวนมาก บางหลังน้ำท่วมถึงหลังคาต้องกางเต้นนอนกันข้างถนน ส่วนถนนก็ถูกน้ำเซาะจนขาดตอนนี้เจ้าหน้าที่นำดินมาถมเพื่อให้ผ่านได้ ใครที่จะเดินทางลงใต้ศึกษาเส้นทางหน่อยก็ดีนะครับ
    ขากลับแวะกราบหลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคล หน้าตักกว้าง9.9เมตรที่ประจวบ เก็บภาพมาฝากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF2382.JPG
      DSCF2382.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.7 MB
      เปิดดู:
      53
    • DSCF2397.JPG
      DSCF2397.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      43
    • DSCF2413.JPG
      DSCF2413.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      42
  5. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    สวัสดีครับ ใกล้เทศกาลสงกรานต์ รถแยะระมัดระวังด้วยนะครับ วันก่อนคุยกับพี่ปลัดวัดละหารไร่กำลังจะสร้างหลวงปู่ทิมองค์ใหญ่ หน้าตัก 12 เมตร คงต้องมีชมรมระฆังทองของพวกเราช่วยงานบูญนี้ด้วย ไม่มากก็น้อย ทำงานถวายหลวงปู่กันครับ รอให้กรรมการวัด สรุปรายละเอียด ผมจะมาแจ้งให้พี่ๆน้องๆทราบครับ คุณปังปอนด์อย่าลืมส่งไฟล์ภาพหลวงปู่ทิมชุดกระดาษยันต์ให้พี่ปลัดด้วยนะครับ คณะกรรมการวัดละหารไร่จะเอาไปทำเสื้อครับ
     
  6. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    คุณภูสวัสดี ตู้พระธรรมอีกใบเอาไปถวายวัดหนองสะเดากันครับ หลังสงกรานต์ก็ได้ครับ นัดกันไปถวายตู้กันครับ แวะมารังสิต โทรมาหานะครับ เลี้ยงเตี๋ยวเรือครับ แถวคลอง 2 เสต็กก็อร่อยครับ ปัจจุบันเรือ ขายทั้งเตี๋ยวเรือ และเสต็กครับ โอเคเลยครับอร่อยใช้ได้ คุณเชนอยู่พรพิมาน สงกรานต์ไม่ไปไหน กริ้งกร้างมาได้ครับผมทำงานถึงวันที่12 ครับ
     
  7. วันเพ็ญ 12

    วันเพ็ญ 12 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    คุณวุธ สวัสดีค่ะ (สมาชิกใหม่)
    มีอะไรเหลือให้บูชาบ้างค่ะ
     
  8. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    http://palungjit.org/threads/ชมรมขุ...ละหารไร่-โชว์ภาพและประสบการณ์.251806/page-382
    *********************เปิดให้จองบูชา พระขุแผน - พระสีวลี ผงพรายกุมาร และ เหรียญรุ่นแรก พิมพ์ย้อนยุค รุ่นแรก รุ่น"เจดีย์ทอง" ***********



    1.รายการเปิดให้บูชาพระสีวลีจำนวน 108 องค์(ถอดพิมพ์จากของแท้เรือนแสน)
    1.1พระสีวลี เนื้อผงพรายเข้มข้น โค๊ตเจดีย์เนื้อโลหะผสมชนวนชินบัญชรรุ่นแรก เปิดให้บูชาจำนวน 108 องค์ บูชาทำบุญองค์ละ 2000 บาท
    1.2พระสีวลี เนื้อผงพรายเข้มข้นโค๊ตเจดีย์เนื้อทองคำผสมชนวนชินบัญชร สร้าง 13 องค์(หมดแล้ว)
    1.3เศษเหลืออีก 11 องค์แผ่นโค๊ตเจดีย์ทองแดงผสมชนวนชินบัญชรให้ผู้ช่วยมวลสารที่ส่งมาในบางท่านที่ผมนำมาผสม(หมดแล้ว)

    พระสีวลีจำนวนการสร้างทั้งหมด 132 องค์ พระสีวลีทั้งหมดปลุกเสกพร้อมกันกับขุนแผนพิมพ์เล็กเจดีย์ทอง ตะกรุดทองคำพิธีวันเพ็ญเดือน12เป็นปฐมฤกษ์ฝนตกฟ้าคำรามแสดงถึงครูบาอาจารย์ หลวงปู่ทิมท่านลงมาทำให้อย่างแน่นอน>>
    การปลุกเสกจะนำเข้าพิธีปลุกเสกหลายที่ด้วยกัน ที่ผ่านมาปลุกเสกไปแล้ว 8 พิธี ติดตามข่าวสารในเว๊ปไซด์ Account Suspended และ พลังจิต เว็บ พระพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism Buddhist

    ช่วยค่าส่งพัสดุไปรษณีย์
    พระสีวลี 1 องค์ ช่วยค่าส่ง 50 บาท



    2.รายการเปิดจองขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม พิมพ์เล็ก พิมพ์ย้อนยุค รุ่นแรก “เจดีย์ทอง”(ถอดพิมพ์จากพระขุนแผนเรือนล้าน)

    2.1 ขุนแผนพิมพ์เล็ก ฝังตะกรุดทองคำ+ปรกใบมะขามโสฬส เนื้อทองแดง ปี33 จำนวนการสร้าง 108 องค์ องค์ละ 2500 บาท(เต็มแล้ว)
    2.2 ขุนแผนพิมพ์เล็ก ตะกรุดทอง 600 องค์ องค์ละ 1000 บาท (เปิดจองแล้ว)
    2.3 ขุนแผนพิมพ์เล็ก ตะกรุดเงิน 700 องค์ องค์ละ 600 บาท (เปิดจองแล้ว)
    2.4 ขุนแผนพิมพ์เล็ก ตะกรุดทองแดง 800 องค์ละ 400 บาท (เปิดจองแล้ว)
    2.5 ขุนแผนพิมพ์เล็ก ไม่มีตะกรุด 1000 องค์ องค์ละ 200 บาท (เปิดจองแล้ว)

    ช่วยค่าส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์ (ขุนแผนพรายกุมารพิมพ์เล็ก)
    พระ 1-2 องค์ 50 บ.
    พระ 2 องค์ขึ้นไป 100 บ.
    พระ 10 องค์ขึ้นไป 150 บ.
    พระขุนแผนและพระสีวลี จะจัดส่งได้รับก่อนเหรียญรุ่นแรก

    3.เปิดจองแล้ว! เหรียญรุ่นแรก พิมพ์ย้อนยุครุ่น "เจดีย์ทอง"นำเหรียญรุ่นแรกราคาเรือนแสนมาทำบล็อคพิมพ์โดยเปลี่ยนอักขระด้านหลัง

    ชุดกรรมการ สร้างเพียง 5 ชุด ชุดละ 35000 บาทได้แก่

    - เหรียญเนื้อทองคำ ย้อนยุครุ่นแรก 1 เหรียญ

    - พระขุนแผนพิมพ์เล็ก เนื้อพิเศษ3สี ตะกรุดเงิน 1 องค์

    - เหรียญเนื้อนวะโลหะพิเศษ 1 องค์

    - เหรียญเนื้อเงิน 1 เหรียญ

    - เหรียญเนื้อทองแดง 1 เหรียญ

    - พระบูชาปูนปั้น หลวงปู่ทิม ทาบรอนซ์ทองหน้าตัก 9 นิ้วย้อนยุครุ่นแรก 1 องค์(ถอดพิมพ์จากของแท้อุดผงพรายกุมาร)

    ชุดกรรมการช่วยค่าส่ง 200 บาท โทรสอบถามที่ คุณ ศศิมา 089-861-9789


    รายการบูชาเหรียญแยกแต่ละรายการ
    3.1 เหรียญเนื้อทองคำจำนวนการสร้าง....ตามจำนวนสั่งจอง........... บูชาองค์ละ....29999...บาท(ทองคำแท่ง 96.5%) สร้าง ......(โทรถาม).......เหรียญ

    3.2 เหรียญเนื้อเงิน จำนวนการสร้าง 199 องค์ บูชาองค์ละ 1500 บาท

    3.3 เหรียญเนื้อนวะพิเศษ จำนวนการสร้าง 999 องค์ บูชาองค์ละ 800 บาท (นวะใส่ทองคำและเหล็กเจ้าน้ำเงิน

    3.4 เหรียญเนื้อทองแดง จำนวนการสร้าง 9999 องค์บูชาองค์ละ 300 บาท (ทองแดงอมชมพูออกคล้ายนาค)
    ช่วยค่าส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์ 100 บาท

    พระ เครื่องเหรียญรุ่นแรกนี้ไม่ได้ปลุกเสกพิธีเดียวแล้วออกให้บูชาเลยนะครับตาม เจตนารมณ์ของคณะผู้จัดสร้างจะนำไปปลุกเสกหลายพิธีไม่แพ้ ขุนแผนระฆังทอง และ ขุนแผนเล็กเจดีย์ทองเพราะต้องนำส่วนหนึ่งไปแจกทหารใต้ด้วยและทหารชายแดนเขา พระวิหารด้วยนะครับซึ่งระหว่างการดำเนินการทัวร์ปลุกเสกต้องมีค่าใช้จ่าย เรื่องพระเกจิอาจารย์มีองค์ไหนปลุกเสกบ้างจะขอยังไม่ระบุตอนนี้คอยติดตาม ข่าวสารได้ในเว๊ปไซด์ด้านล่างนะครับ

    กำหนดการรับเหรียญรุ่นแรกย้อนยุค จะได้รับเหรียญทีหลังพระขุนแผนและพระสีวลี เมื่อเหรียญทั้งหมดกำหนดแจกทหารได้เสร็จสิ้นก็จะดำเนินการจัดส่ง ประมาณเดือนตุลาคม เป็นต้นไป ท่านใดเปลี่ยนที่อยู่ให้โทรติดต่อด้วย
    กำหนดรับพระขุนแผน และ พระสีวลี จะ ได้รับก่อนเหรียญรุ่นแรก เพราะจะนำพระทั้งหมดไปปลุกเสกพ่วงกับเหรียญให้ได้หลายพิธีโดยพระเกจิอาจารย์ ทั่วประเทศ จนกว่าจะเห็นสมควรแจกจ่ายออกสู่ผู้ร่วมบูชา ประมาณปลายเดือน เมษายนไปแล้วน่าจะเสร็จสิ้นครับ ติดต่อสอบถามอีกครั้ง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง


    *****ข้อมูล พระทั้งหมดอาจจะมีการยกเลิก-เพิ่มเติม-เปลี่ยนแปลง ตามดุลพินิจความเหมาะสมถ้ามีการเปลี่ยนแปลงใด ๆในการดำเนินงานในภายหน้าก็จะแจ้งให้ทราบครับ*******





    สนใจติดต่อบูชา พระขุนแผน พระสีวลี เหรียญรุ่นแรก พิมพ์ย้อนยุคได้ที่
    คุณศศิมา โชคชัย0818619789 และ วุธจันทบุรี 0891367954
    หมายเลขบัญชีโอนเงินเข้าที่

    1.ธ.กสิกร สาขา ขลุง จันทบุรี
    หมายเลขบัญชี 213-2-06006-4 ออมทรัพย์
    ชื่อบัญชี คุณ ศศิมา โชคชัย

    2.ธ.กรุงเทพ สาขาขลุง จันทบุรี
    หมายเลขบัญชี 380-0-37050-8 สะสมทรัพย์
    ชื่อบัญชี คุณ ศศิมา โชคชัย

    3.ธ.กรุงไทย สาขาขลุง จันทบุรี
    หมายเลขบัญชี 205-0-08754-3 ออมทรัพย์
    ชื่อบัญชี สราวุธ หัวใจเพชรรัตน์

    ท่านใดสะดวกทาง แฟกซ์Fax. 039362591ส่ง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ของท่านพร้อม รายการพระ และ ใบสลิปเงินโอน มาที่เบอร์แฟกซ์เพื่อสะดวกรวดเร็วในการจัดส่งและถูกต้องในการตรวจสอบข้อมูล
    ท่านใดสะดวกทางเมลส์ ส่ง ใบสลิปเงินโอน ชื่อที่อยู่เบอร์โทร รายการพระ ส่งเมลส์มาที่ JDtong@windowslive.com
     
  9. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
    สวัสดีครับพี่ทัสพงษ์(วันเพ็ญ12) ขุนแผนเจดีย์ทองยังจองได้อยู่ครับ บัวผุดที่เช่าไปเบื่อหรือยัง เอามาแลกกับเจดีย์ทองได้นะครับ5555:d สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณ ศศิมา 0818619789 คร๊าบบบ
     
  10. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    วัตถุมงคลยอดนิยม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ร่มโพธิ์ เล่มที่ 72 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2539
    โดย อาจารย์เพียรวิทย์ จารุสถิติ


    เรื่อง ปลัดขิก และ การค้นพบแก่นแท้วิชาของหลวงปู่ทิม

    หลวงพ่อทิมศึกษาวิชาอาคมจากฆราวาสสายอยู่หลายปีทีเดียว จนมั่นใจว่าวิชาที่ท่าน
    ศึกษานั้นท่านสามารถทำได้ ท่านจึงได้บอกลาฆราวาสสายเพื่อธุดงค์ต่อไปจังหวัดสระบุรี เพื่อ
    นมัสการรอยพระพุทธบาท

    และในระหว่างทางท่านได้เจอคณาจารย์ที่มีอาคมขลังมาปักกลดอยู่ที่รอยพระพุทธบาท
    ตั้งหลายองค์ หลวงพ่อทิมจึงถือโอกาสทดสอบวิชาอาคมที่ท่านได้ศึกษามากับคณาจารย์เหล่านั้น
    เท่าที่ท่านเคยเล่าให้ผมฟังก็มี หลวงพ่อเนียม หลวงพ่อคง หลวงพ่อเหลือ หลวงพ่ออี๋

    เมื่อกลับจากการนมัสการรอยพระพุทธบาทแล้ว หลวงพ่อทิมยังฝังใจวิชาทำปลัดขิก
    ที่หลวงพ่อเหลือ และ หลวงพ่ออี๋ ทำอยู่ว่าทำไมเมื่อนำไม้มาเหลาเป็นปลัดขิก นำมาลงอักขระ
    ให้ถูกต้องตามตำราแล้วจึงนำมาปลุกเสกก็สามารถเคลื่อนไหวได้

    หลวงพ่อทิมก็ทดลองมาทำดูแต่ก็ไม่เคลื่อนไหวหรือกระโดดได้ตามตำราที่ได้ระบุไว้
    ท่านจึงครุ่นคิดอยู่เสมอว่าจะต้องเดินทางไปหาหลวงพ่ออี๋พร้อมกับไต่ถามเรื่องวิชาทำปลัดขิก
    จากหลวงพ่ออี๋ให้ได้ แต่หลวงพ่ออี๋ก็บ่ายเบี่ยงให้ไปถามหลวงพ่อเหลือที่วัดสาวชะโงก
    จ. ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อเหลือก็บอกว่า “เราเองเก่งอยู่ในตัวแล้วทำไมจะต้องมาถามท่านและ
    ก็ไม่ยอมสอน”


    แต่ด้วยความมีมานะ ความเพียรขยัน ต้องการจะรู้ให้ได้หลวงพ่อทิมจึงเดินทางกลับ
    วัดละหารไร่และทดลองทำดูด้วยตนเอง โดยใช้อักขระยันต์ที่ลงเหมือนของหลวงพ่ออี๋ทุกประการ
    แต่ก็ยังไม่สามารถปลุกจนกระโดดโลดเต้นได้ ภายหลังหลวงพ่อทิมได้ไปเปิดพบตำราเก่าที่อยู่ในวัด
    ได้พบวิชาลงปลัดขิกท่านจึงนำมาเติมลงในปลัดขิก


    และคืนนั้นเมื่อท่านทำวัตรสวดมนต์แล้วหลวงพ่อก็ได้นั่งทำสมาธิทำจิตให้นิ่ง
    พร้อมทั้งรำลึกถึงครูบาอาจารย์ที่ท่านได้ศึกษาวิชามา และคืนนั้นหลวงพ่อทิมจึงเข้าใจถึงวิชา
    การปลุกเสกปลัดขิกว่าจะสำเร็จได้ก็อยู่ที่กระแสจิตให้นิ่งหยุดและหยุดนิ่งนั่นแหละคือ
    แก่นแท้ของวิชาที่ท่านค้นคว้ามานาน


    ผมเคยไปกราบพระมหาวิทย์ เจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
    ท่านกรุณาเล่าให้ผมฟังว่า เรื่องการทำปลัดขิกนั้นท่านเคยนำมาศึกษาดูและก็ไม่อยากจะเชื่อว่า
    จะเป็นไปได้ตามตำราที่ระบุไว้ท่านก็เลยลองทำดูนั่งภาวนาปลุกเสก เวลาไปไหนท่านก็นำปลัดขิก
    ใส่ย่ามไปด้วย จะยืนจะนั่งจะนอนก็ภาวนาอาคมปลุกเสกไปตลอดเวลา จนใครๆ เห็นแล้ว
    นึกว่าเสียจริตแต่ท่านก็ไม่สนใจ

    เวลาบิณฑบาตตอนเช้าท่านก็เอาปลัดขิกใส่ไว้ในบาตรแล้วภาวนาปลุกเสกไปเรื่อย
    จากหนึ่งปีเป็นสองเป็นสามปี จนมีอยู่ครั้งหนึ่งขณะที่กำลังเดินไปบิณฑบาตอยู่นั้น จิตใจของ
    ท่านเกิดมีสมาธิ หู 2 ข้างดับสนิท สักพักหนึ่งท่านมีความรู้สึกว่าได้ยินเสียงอะไรดังในบาตร
    ที่ท่านถืออยู่ เสียงดังเหมือนข้าวตอกแตก ท่านดีใจมากระงับความตื่นเต้นไม่อยู่มองลงไปในบาตร
    เสียงเคลื่อนไหวของวัตถุก็เงียบลง ตอนนั้นท่านยังไม่แน่ใจตนเองเท่าไหร่นัก จึงลองเทปลัดขิก
    ที่มีอยู่ 9 ตัว ลงในร่องน้ำแล้วภาวนาคาถากำกับด้วยจิตอันเป็นสมาธิทันใดนั้นเองจะเป็นไป
    ด้วยอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของคาถาที่โบราณคณาจารย์ได้บันทึกไว้หรืออย่างไรก็ไม่ทราบจึง
    ได้เกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น คือ ปลัดขิกที่อยู่ในร่องน้ำต่างวิ่งและเคลื่อนไหวได้สม
    กับความพยายามที่ท่านมหาวิทย์ได้ทดลองทำถึง 5 ปีเต็ม

    เมื่อตอนที่ผมนอนอยู่ที่วัดเพื่อปฏิบัติหลวงปู่ทิม ตอนนั้นผมนอนอยู่นอกห้องของ
    ท่านประมาณตี 2 ถึงตี 3 ช่วงที่หลวงปู่กำลังลงของของท่านในห้อง ผมจะได้ยินเสียง
    เหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ในห้องของท่านเสมอ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของผม
    ผมจึงปลุก เณรฉ่ำ ให้คอยจับเก้าอี้ตัวยาวเพื่อผมจะได้ปีนขึ้นไปดูบนช่องลมว่า มันเสียง
    อะไรกันแน่ที่ผมได้ยินมาหลายคืนแล้ว ในห้องหลวงปู่จะไม่มีแสงไฟ นอกจากแสงเทียน
    ที่ท่านจุดบูชาพระ และในคืนนั้นเองผมก็ได้เห็นสิ่งประหลาดมหัศจรรย์จนทำให้ผมมี
    ความศรัทธาเลื่อมใสในวิชาไสยศาสตร์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา


    ท่านลองคิดดูซิครับ เห็นกับตาอย่างนี้ถ้าไม่เชื่อคนผู้นั้นก็ปัญญาอ่อนเต็มทีแล้ว
    ผมเห็นบรรดาวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมที่วางอยู่เต็มไปหมดในห้องของท่าน เคลื่อนไหว
    เหมือนกับสิ่งนั้นมีวิญญาณสิงสถิตอยู่ในตัว ตัวผมงี้เย็นวาบไปถึงสันหลัง มือที่ยึดเหนี่ยว
    อยู่ที่ช่องลมถึงกับหมดกำลังไปเฉยๆ ร่างของผมหล่นลงมาอย่างแรง
    เข็ดขยาดไป
    หลายวันทีเดียว

    และวันรุ่งขึ้นหลวงปู่ท่านก็ลงโทษผมกับเณรฉ่ำให้ไปล้างส้วมถึง 3 วัน

    และท่านก็ไม่กล่าวโทษผมกับเณรฉ่ำแต่อย่างใด แต่นั่นแหละครับเราทั้งสองรู้ความผิดของ
    ตนเองแล้วจะไปเถียงท่าน ประเดี๋ยวท่านพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคล เราจะพลอยแย่ไปด้วย
    จึงต้องลงไปล้างด้วยความเต็มใจ

     
  11. PPond

    PPond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    838
    ค่าพลัง:
    +2,348
    ประวัติวันสงกรานต์
    จากประวัติที่เล่าสืบต่อกันมานั้น มีปรากฎในศิลาจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามว่า เศรษฐีคนหนึ่ง
    ไม่มีบุตร บ้านอยู่ใกล้กับนักเลงสุรา ซึ่งมีบุตร 2 คน มีผิวเนื้อเหมือนทอง วันหนึ่งนักเลงสุรานั้นเข้าไปกล่าวคำหยาบคายต่อเศรษฐี เศรษฐีจึงถามว่าเหตุใดจึงมาหมิ่นประมาทต่อเราผู้มีสมบัติมากนักเลงสุราจึงตอบว่า ถึงท่านมีสมบัติก็ไม่มีบุตร ตายแล้วสมบัติก็จะสูญเปล่า เรามีบุตรเห็นว่าประเสริฐกว่า ท่านเศรษฐีมีความละอายใจจึงบวงสรวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ตั้งอธิษฐานขอบุตรถึงสามปีก็มิได้มีบุตรอยู่มาถึงวันนักขัตฤกษ์สงกรานต์ พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ เศรษฐีจึงพาบริวารไปยังต้นไทรอันเป็นที่อยู่แห่งฝูงนกทั้งปวงริมฝั่งน้ำ จึงเอาข้าวสารล้างน้ำ 7 ครั้งแล้วหุงขึ้นบูชาพระไทรประโคมพิณพาทย์ตั้งอธิษฐานขอบุตร พระไทรมีความกรุณาจึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลเทวบุตรลงมาปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี เมื่อคลอดแล้วจึงให้ชื่อว่าธรรมบาลกุมาร ปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ใต้ต้นไทรริมฝั่งน้ำนั้น กุมารเจริญขึ้น ก็รู้ภาษานกแล้วเรียนไตรเพทจบ เมื่ออายุได้เจ็ดขวบได้เป็นอาจารย์บอกมงคลการต่าง ๆ แก่มนุษย์ทั้งปวง ในขณะนั้นโลกทั้งหลายนับถือท้าวมหาพรหม และกบิลพรหม องค์หนึ่งว่า เป็นผู้แสดงมงคลแก่มนุษย์ทั้งปวง เมื่อกบิลพรหมทราบจึงลงมาถามปัญหาธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ สัญญา ไว้ว่าถ้าแก้ปัญหาได้จะตัดศีรษะบูชา ถ้าแก้ไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ปัญหานั้นว่า
    ข้อ 1 เช้าราศีอยู่แห่งใด
    ข้อ 2 เที่ยวราศีอยู่แห่งใด
    ข้อ 3 ค่ำราศีอยู่แห่งใด
    ธรรมบาลกุมารขอผลัด 7 วันเพื่อตอบปัญหา ธรรมบาลกุมารขอผลัด7วันเพื่อตอบปัญหาครั้นล่วงไปได้หกวันธรรมบาลกุมารก็ยังคิดไม่ได้จึงนึกว่าพรุ่งนี้จะตายด้วยอาญาท้าวกบิลพรหมไม่ต้อง
    การจำจะหนีไปซุกซ่อนตายเสียดีกว่าจึงลงจากปราสาทไปนอนอยู่ใต้ต้นตาล2ต้นมีนกอินทรี2ตัวผัวเมียทำรังอยู่บนต้นตาลนั้นครั้นเวลาค่ำนางนกอินทรีจึงถามสามีว่าพรุ่งนี้จะได้อาหารแห่งใดสามีบอกว่าจะกินศพ
    ธรรมบาลกุมารซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสียเพราะทายปัญหาไม่ออกนางนกถามว่าปัญหานั้นอย่างไรสามีจึงบอกเล่าปัญหาให้เมียฟังนางนกถามว่าจะแก้อย่างไรสามีบอกว่าเช้าราศีอยู่ที่หน้ามนุษย์จึงเอาน้ำล้างหน้าเว
    ลาเที่ยงราศีอยู่ที่อกมนุษย์ทั้งหลายจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อกเวลา ค่ำราศีอยู่ที่เท้ามนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้าธรรมบาลกุมารได้ยินดังนั้นก็กลับไปปราสาทวันรุ่งขึ้นท้าวกบิลพรหมถามปัญหาธรรมบาลกุมาร
    ก็แก้ ตามที่ได้ยินมา ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกเทพธิดาทั้ง 7 อันเป็นบริจาริกาพระอินทร์มาพร้อมกันแล้ว
    บอกว่าเราจะตัดศีรษะบูชาธรรมบาลกุมาร ศีรษะของเราถ้าตั้งไว้บนแผ่นดิน ไฟจะไหม้ทั่วโลก ถ้าทิ้งขึ้นบน
    อากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าทิ้งในมหาสมุทรน้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดาทั้ง 7 นั้นเอาพานมารับศีรษะ แล้วก็ตัดศีรษะ
    ส่งให้ธิดาองค์ใหญ่นางจึงเอาพานมารับพระเศียรบิดาไว้ แล้วแห่ทำประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที
    แล้วก็เชิญประดิษฐานไว้ในมณฑปถ้ำคันธุรีเขาไกรลาศ บูชาด้วยเครื่องทิพย์ต่าง ๆ พระเวสสุกรรมก็นฤมิตร
    แล้วด้วยแก้วเจ็ดประการ ชื่อภควดีให้เป็นที่ประชุมเทวดา เทวดาทั้งปวงก็นำเอาเถาฉมูลาดลงมาล้างในสระ
    อโนดาตเจ็ดครั้งแล้ว แจกกันสังเวยทุก ๆองค์ ครั้นถึงครบกำหนด 365 วันโลกสมมุติว่าปีหนึ่งเป็นสงกรานต์
    นางเทพธิดาเจ็ดองค์จึงผลัดเวรกันมาเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมออกแห่ประทักษิณเขาพระสุเมรุทุกปี
    ธิดาทั้ง 7 ของท้าวกบิลพรหม ซึ่งเราสมมุติเรียกว่านางสงกรานต์นั้น มีชื่อต่าง ๆ ดังนี้ คือ
    - ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันอาทิตย์ นางสงกรานต์มีชื่อว่า ทุงษ
    - ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันจันทร์ นางสงกรานต์มีชื่อว่า โคราด
    - ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันอังคาร นางสงกรานต์มีชื่อว่า รากษส
    - ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ นางสงกรานต์มีชื่อว่า มัณฑา
    - ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันพฤหัสบดี นางสงกรานต์มีชื่อว่า กิริณี
    - ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันศุกร์ นางสงกรานต์มีชื่อว่า กิมิทา
    - ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันเสาร์ นางสงกรานต์มีชื่อว่า มโหทร
     
  12. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
    <iframe title="YouTube video player" width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/KCN_5v19nYY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe title="YouTube video player" width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/tklPGwra2Hc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  13. PPond

    PPond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    838
    ค่าพลัง:
    +2,348
    สวัสดีปีใหม่ไทย ขอให้มีความสุขทุกท่านครับ
    เล่นสงกรานต์อย่างมีสติ เดินทางปลอดภัยเมาไม่ขับนะครับ:cool:
     
  14. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    สวัสดีปีใหม่ครับปีนี้ฝนไม่ตกเล่นสงกรานต์ให้สนุกนะครับ
     
  15. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    คุณภูสวัสดีครับ เล่นน้ำสนุกมั้ยครับ ผมจะเอาพระพิฆเนศ กับพระพุทธมาสรงน้ำอยู่ครับวันนี้วันพฤห้สบดี วันครูเลยตั้งใจสรงน้ำพระวันนี้ประเดี๋ยวจะโทรไปคุยส่งข่าวครับ
     
  16. PPond

    PPond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    838
    ค่าพลัง:
    +2,348
    พี่รัก รบกวนขออีเมล์พี่ปลัดด้วยครับ fileรูปส่งทางpmไม่ได้ครับ
     
  17. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    (ต่อจากความเดิม---ปลัดขิก และ การค้นพบแก่นแท้วิชาของหลวงปู่ทิม)





    เรื่อง พระฉิมพลี และ เส้นประคำเนื้อผง



    สมัยที่ผมอยู่วัดคอยปฎิบัติท่านและนวดท่าน ประมาณ 2 ทุ่มซึ่งเป็นหน้าที่ของผม
    จะต้องคอยนวดท่านอยู่เสมอ เคยคิดหลบท่านเพื่อหนีไปเที่ยวบ้านโน้นบ้านนี้แถวละแวกวัด
    ละหารไร่ หลวงปู่ท่านจะสั่งเณรให้คอยไปตามอยู่เรื่อย ขณะที่นวดให้ท่าน หลวงปู่ท่านจะสอน
    ธรรมะและอบรมผมไปในตัว ท่านมักจะเล่าให้ผมฟังถึงคุณงามความดีของสาวกของพระพุทธเจ้า
    คือพระสีวลีเถระ หรือพระฉิมพลีให้ผมฟังอยู่เสมอ จนผมสามารถจดจำไว้ได้ หลวงปู่เล่าว่า
    พระฉิมพลีเป็นผู้รวยปัจจัยลาภเลิศกว่าบรรดาพระสาวกทั้งหลายของพระพุทธเจ้า เป็นพระสาวก
    ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องในจำนวนพระอสีติมหาสาวก 80 องค์

    “พระองค์เป็นพระโอรสของ พระมหาราชวงศ์ศากยราช มารดาทรงพระนามว่า พระนาง
    สุปปวาสา เป็นพระธิดาแห่งโกลิยวงศ์ เมื่อท่านปฏิสนธิในครรภ์มารดา ปรากฏว่ามีผู้นำเครื่องบรรณา
    การมาถวายพระมารดาอยู่เสมอ ทำให้พระมารดามีลาภมาก แม้ว่าพระมารดาจะบริจาคทานวัตถุใด
    วัตถุสิ่งนั้นก็ไม่ได้หมดไปคงได้รับเต็มอยู่ตลอดเวลา พระฉิมพลีอยู่ในครรภ์มารดาถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน
    จึงประสูติ เวลาประสูตินั้นง่ายมากเปรียบเสมือนประดุจว่าน้ำที่ไหลลงจากขวดฉะนั้น

    ทั้งนี้ก็เนื่องจากพระนางสุปปวาสาขณะที่ทรงครรภ์อยู่ได้รับความทุกข์เวทนาเป็นอันมาก
    ท่านจึงไปขอพรจากพระบรมศาสดาและได้รับพรว่า “พระนางสุปปวาสาผู้เป็นพระราชธิดาของ
    พระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงที่มีความสุขปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชบุตรผู้หาโรคมิได้เถิด”


    พระนางสุปปวาสาได้ประสูติราชบุตรดังที่สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสพระราชทานพร เมื่อได้
    ประสูติออกมาแล้วพระญาติพระวงศ์ทั้งหลายได้พากันขนานนามว่า “สีวลีกุมาร” ส่วนพระนางสุปปวาสา
    มีความปรารถนาจะถวายทาน 2 วัน จึงให้พระสวามีไปอาราธนานิมนต์พระภิกษุสงฆ์ โดยมีพระพุทธเจ้า
    เป็นองค์ประธาน เพื่อรับภัตตาหารในวังเป็นเวลา 7 วัน

    การที่สีวลีกุมารเมื่อถือกำเนิดปฏิสนธิขึ้นมามีอานุภาพบันดาลให้เกิดโชคลาภ ร่ำรวยมากและภาย
    หลังเมื่อท่านบวช พระพุทธเจ้าทรงยกย่องให้เป็นเอกในทางมีลาภสการนั้นเป็นเพราะเหตุใด? และไฉนท่านจึง
    ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในครรภ์พระมารดาถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ถึงได้ประสูติ ท่านได้สร้างบุญหรือบาปอันใด
    ไว้จึงบันดาลให้เสวยบุญและบาปได้เช่นนี้

    อันการที่พระสิวลีมีลาภมากนั้น เพราะได้ถวายน้ำผึ้งสดเคล้ากับนมเนยถวายแด่พระวิปัสสีพระพุทธเจ้า
    และที่ท่านต้องนอนทนทุกข์ทรมานอยู่ในครรภ์มารดา เนื่องจากในชาติก่อนท่านเป็นเจ้าเมืองได้ยกทัพไปล้อม
    พระนครแห่งหนึ่งไว้ถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ทำให้ราษฏรที่อยู่ในเมืองนั้นสิ้นใจตายอย่างน่าอนาถ เมื่อท่านตายไป
    ผลกรรมจึงทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานดังที่ทราบกันแล้ว

    กล่าวกันว่า เมื่อพระพุทธเจ้าออกบิณฑบาตในที่ทุรกันดารขาดแคลนอาหาร พระพุทธองค์ก็ยังต้องอาศัย
    บุญญาธิการของพระสิวลีเถระเจ้า เพราะพระสิวลีเถระเจ้านี้ ท่านเสด็จไปแห่งหนตำบลใด ที่นั่นจะต้องเจริญด้วย
    ลาภยศเป็นเยี่ยม แม้แต่เทวดายังต้องนำเครื่องบูชาอันเป็นทิพย์มาถวายท่าน

    หลวงปู่ทิมจะเล่าเรื่องสรรเสริญความเป็นผู้มีลาภของพระฉิมพลีให้ผมฟังอยู่เสมอ และต่อมาจึงเป็นแรง
    บันดาลใจให้ท่านสร้างพระผงพิมพ์สิวลีขึ้น ปรากฏว่าพระผงพิมพ์ฉิมพลีเป็นที่แสวงหาของบรรดาผู้ที่รักและนิยม
    พระเครื่องของท่านเป็นอย่างมาก และจัดว่าเป็นพระผงที่หายากพิมพ์หนึ่งทีเดียว ฉะนั้นถ้าใครมีไว้ย่อมไม่มีทาง
    อับจนเป็นอันขาด โดยเฉพาะลาภสักการะจะมาหาท่าน ถ้าท่านบูชาด้วยใจมั่นคงมีจิตหยุดนิ่ง, นิ่งหยุดอยู่เสมอ

    ***********************************************************************

    ตั้งแต่เขียนประวัติหลวงปู่ทิมลงในนิตยสารพระเครื่อง “ร่มโพธิ์” ได้มีโทรศัพท์และจดหมายมาต่อว่า
    เนื้อเรื่องที่ลงนั้นน้อยจังไม่สมกับที่ตั้งใจรอ เหตุที่เป็นเช่นนี้ผมต้องมานั่งทบทวนความจำเก่าๆ ที่ผมได้ประสบมา
    และบางสิ่งที่ได้รับการบอกเล่าจากคนเฒ่าคนแก่แถววัดละหารไร่ วัดหนองกรับ วัดแม่น้ำคู้เก่า วัดหนองมะปริง ฯลฯ
    ซึ่งยอมรับว่าต้องใช้ความพยายามและมานะอดทนเป็นอย่างมาก เพื่อนำมาเรียบเรียงให้ท่านผู้อ่านได้อ่านอย่าง
    มีรสชาติ จึงกล้าการันตีได้เลยว่าสิ่งที่ผมได้เสาะแสวงหามานั้นเป็นเรื่องจริง มิใช่ยกเมฆ ซึ่งก็แล้วแต่ผู้อ่านจะใช้
    ดุลยพินิจพิจารณาเอาเอง

    บางครั้งผมเคยเข้าไปในสภากาแฟเห็นเขาคุยเรื่องหลวงปู่ทิม (บังเอิญในสภานั้นไม่มีใครรู้จักผม) เห็นแต่
    ละคนต่างเล่าเรื่องราวต่างๆ ราวกับตัวเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ แถมยังเอ่ยปากรู้จักผมดีอีกด้วย (ทั้งๆ ที่คนเขาเอ่ย
    ปากก็นั่งฟังอยู่) ครั้นจะแนะนำตัวเองก็เห็นว่าธุระไม่ใช่ก็เลยนั่งเฉยๆ จึงได้รับฟังเรื่องต่างๆ จากผู้รู้ไม่จริงเพราะทุกคน
    ที่พูดต่างเป็นพหูสูตกันหมด สามารถเล่าให้คนที่รู้จริงอย่างผมถึงกับอึ้งไป อยากจะเข้าไปเถียงก็กลัวว่า สภากาแฟที่
    ใครๆ นั่งกันอยู่จะล่มกลางคัน ทำให้ผมนึกถึงคำสอนของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทร์ กล่าวไว้ว่า

    “คนเรามีลาภก็เสื่อมลาภ มียศก็เสื่อมยศ มีสุขก็มีทุกข์ มีสรรเสริญก็มีนินทา เป็นของคู่กันมา จะไปถืออะไร
    กับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม ต้องคิดว่าเขาจะติก็ช่าง ชมก็ช่าง บุญเราทำ กรรมเราไม่
    สร้างจะต้องไปกังวลใครติเตียนทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์ เสียเวลาเปล่าๆ”


    ผมได้อารัมภบทมานานพอเป็นพิธีแล้ว ฉะนั้นจะขอเล่าเรื่องราวของหลวงปู่ทิมเสียที เมื่อ ปี พ.ศ. 2514
    ผมได้ไปศึกษาต่อที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะไปผมได้เดินทางไปที่วัดเพื่อกราบลาหลวงปู่ ท่านได้เมตตาทำน้ำมนต์
    ให้ผมอาบพร้อมทั้งลงกระหม่อมให้ ผมจึงกราบและบอกท่านว่า “หลวงปู่ขอพระติดตัวไปใช้สักองค์ จะเอาไปคุ้ม
    ครองตัวเองหน่อย”
    ท่านมองไปที่ผมและจูงมือผมเข้าไปในห้องนอนของท่าน ท่านได้หยิบสมเด็จ 3 ชั้น ด้านหลัง
    จารด้วยดินสอ ส่งมาให้ผม ผมรับมาแล้วก็เฉยๆ เนื่องจากมีความรู้สึกว่าพระเครื่องที่หลวงปู่ให้ผม ไม่สวยงามเท่า
    ไหร่? บังเอิญสายตาเหลือบเข้าไปเห็นเส้นประคำเข้าเส้นหนึ่ง ผมมีความรู้สึกอยากได้จึงเอ่ยปากขอท่าน ผลหรือครับ?
    ท่านไม่ให้
    ผมรู้สึกน้อยใจมากคิดว่าหลวงปู่ไม่รักเราแล้ว ด้วยอารมณ์ชั่ววูบจึงเอ่ยลาท่านกลับบ้านทันที

    เมื่อผมอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ 1 ปี พอถึงสงกรานต์ปี 2515 ผมจึงกลับบ้านที่จังหวัดระยอง พอไปถึงแทนที่
    จะกลับเข้าบ้านตัวเองก่อน เปล่าหรอกครับ? ผมไปยืมรถเพื่อนและขับไปหาหลวงปู่ที่วัด เพราะมีความรู้สึกคิดถึงท่าน
    มากอยากจะไปหาท่านเร็วๆ เมื่อไปถึงวัดผมได้เดินไปกราบหลวงปู่ทิมที่หน้าห้อง ท่านผู้อ่านเชื่อไหมครับ? พอท่านเห็น
    หน้าผม ท่านไม่พูดอะไร ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนและออกมาพร้อมเส้นประคำเนื้อผง 1 เส้น ปลายประคำจะมีขวด
    เล็กๆ บรรจุน้ำมันติดมาด้วย
    ท่านนั่งและมองหน้าผมสักพักหนึ่งจึงส่งสายประคำเส้นนั้นให้ ผมรู้สึกตื้นตันใจจนพูดอะไร
    ไม่ออก ไม่นึกว่าหลวงปู่ยังจำวันที่ผมขอสายประคำและท่านไม่ได้ให้

    ผมมาทราบทีหลังจากหลวงตารอด ว่าหลวงปู่ท่านได้เพียรหาไม้กาฝากต่างๆ และนั่งลบผงตามตำราในการ
    สร้างลูกประคำ ท่านใช้เวลาหลายเดือนทีเดียวกว่าจะทำสำเร็จ บางครั้งผสมไปแล้วไม่เข้าที่นำมาปั้นก็แตกหมด ท่าน
    ใช้ความอดทนมากอุตส่าห์นั่งปั้นให้กับมือ เมื่อเสร็จแล้วท่านจะนำมารวมไว้ในขันสำริด และใช้เชือกนั่งร้อยประคำให้
    ได้ 108 เม็ดต่อ 1 พวง บางทีท่านจะร้อยเป็นประคำมือก็มี

    หลวงตารอดยังบอกอีกว่าผงที่หลวงปู่ผสมทำลูกประคำนั้นนับเป็นสุดยอดของผงวิเศษทีเดียว ท่านจะนั่งลบ
    จนผงเหล่านั้นลอดจากกระดานชนวนจึงจะใช้ได้ เท่าที่รู้ก็มี ผงจินดามณี ผงอิติปิโสรัตนมาลา ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ฯลฯ
    เมื่อท่านทำเป็นเม็ดประคำและร้อยเชือกเสร็จ ท่านจะนำมารวมไว้ในขันและใส่น้ำมันหอม น้ำมันงาดำ น้ำมันจันทร์
    แป้งเสกลงไปในขันสำริด พร้อมทั้งภาวนาปลุกเสกด้วยจิตอันแน่วแน่จนน้ำมันที่อยู่ในขันนั้นเดือดเป็นฟองตลอดเวลา
    จึงจำสำเร็จและใช้ได้


    สายลูกประคำนี้หลวงปู่ไม่ยอมแจกให้ใครง่ายๆ บางคนไปขอท่านจะนัดให้มาเอาวันหลัง ถ้าคนไหนมีความ
    พยายามดีอยากได้จริงๆ ก็หมั่นเพียรไปหาท่าน ท่านจึงจะให้ บางคนได้ไปปลายลูกประคำไม่มีน้ำมันผูกติดมาก็มี
    ท่านเคยพูดกับผมว่า น้ำมันที่อยู่ในขันนี้ยิ่งมีคุณวิเศษมากสารพัดจะใช้ได้ เป็นเมตตามหานิยมชั้นสูง ใช้ในทางผู้หญิง
    ก็ดีนา
    พอท่านพูดได้แค่นี้ท่านก็หยุด และไม่ยอมพูดอะไรอีกต่อไป ผมพยายามเงี่ยหูฟังเผื่อท่านจะเผลอพูดอะไรออกมา
    อีกบ้าง ปรากฏว่าท่านเงียบและท่านก็เงียบจริงๆ คือวันนั้นทั้งวันจะไม่มีใครได้ยินเสียงของหลวงปู่เลย ซึ่งผมเชื่อว่า
    น้ำมันลูกประคำนี้จะต้องเป็นน้ำมันวิเศษสุดยอดของท่านจริงๆ เพราะลูกศิษย์เก่าๆ อาทิเช่น นายสาย แก้วสว่าง นาย
    แก้ว งามศรี ขรัวรอง (หลวงตารอด)
    และใครๆ อีกหลายคนอยากได้กันมาก ถ้าของไม่ดีจริง? ท่านจะหวงไปทำไม หรือ
    ท่านกลัวว่าผู้อื่นจะนำไปใช้ผิดศีลธรรม จะทำให้ท่านพลอยบาปไปด้วย

    ผมยังจำเหตุการณ์ตอนที่หลวงปู่สร้าง รูปหล่อเนื้อปูนแบบบูชา ออกมา ซึ่งรุ่นนี้มีทั้งหมด 3 แบบ หลวงปู่จะเอา
    กระดาษสามาฉีกให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและใส่ลงในกระป๋องใบชา หลังจากนั้นท่านจะเทน้ำมันลูกประคำลงไปในกระป๋อง
    ใบชา เพื่อให้กระดาษที่อยู่ในนั้นซับน้ำมันไว้ แล้วท่านจะใช้ให้ผมไปพลีใบโพธิ์ที่ต้นโพธิ์มาให้ท่าน หลวงปู่จะใช้เหล็กจาร
    หรือไม่ก็ดินสอลงบนใบโพธิ์ด้วย คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า และ พระยันต์ฉิมพลี เมื่อลงใบโพธิ์เสร็จแล้วท่านจะหยิบกระ
    ดาษในกระป๋องใบชาออกมาชิ้นหนึ่งวางบนใบโพธิ์ และนำมาบรรจุใต้ฐานพระปูนปั้นรูปหล่ออีกทีหนึ่ง พระบูชาไม่ว่า
    จะเป็นเนื้อปูน หรือเนื้อโลหะทั้ง 5 นิ้วและ 3 นิ้ว กรรมวิธีในการบรรจุในใต้ฐานก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน

    ส่วนกระดาษที่ซับน้ำมันลูกประคำที่เหลือนี้หลวงปู่จะนำไปเก็บไว้ในห้องของท่าน ผมจำได้ว่า คุณชินพร
    สุขสถิตย์
    ได้หยิบกระดาษซับน้ำมันที่หล่นขึ้นมาและจะนำมาเก็บไว้ หลวงปู่เดินเข้าไปหาคุณชินพรพร้อมทั้งขอคืน
    จนคุณชินพรรู้สึกน้อยใจมาก แต่นั่นแหละครับ คงยังไม่ถึงเวลาที่พวกเราจะได้ของดีจากท่านกระมัง?
     
  18. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    ขอบคุณคุณภูมากครับที่นำประวัติหลวงปู่มาให้อ่านบางเรื่องผมก็ยังไม่เคยได้ยินและฟังเลยครับ เป็นบุญอย่างสูงครับ ฝากถามพี่โมทย์หน่อยครับ ผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมทีแท้จริงเป็นผงพุทธคุณ หรือกระโหลกเด็กตามที่เคยฟังมาครับ ขอขอบคุณพี่โมทย์ล่วงหน้าครับ
     
  19. ลูกน้ำเค็ม

    ลูกน้ำเค็ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,022
    ค่าพลัง:
    +14,548
    สวัสดีปีใหม่ไทย ๆ ครับพี่รัก
    ไปเล่นสงกรานต์ที่ไหนครับปีนี้...
     
  20. knutch

    knutch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +1,241
    สวัสดีปีใหม่ โชคดีมีสุขทุกคนนะครับ

    ขอนำภาพเหรียญและล็อตเก็ตหลวงตามหาบัวมาให้ชมกันนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_206311.JPG
      IMG_206311.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.8 KB
      เปิดดู:
      28
    • IMG_206412.JPG
      IMG_206412.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84 KB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_206513.JPG
      IMG_206513.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.9 KB
      เปิดดู:
      28
    • IMG_206614.JPG
      IMG_206614.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.3 KB
      เปิดดู:
      26
    • IMG_206815.JPG
      IMG_206815.JPG
      ขนาดไฟล์:
      48.1 KB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_206916.JPG
      IMG_206916.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.6 KB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_207017.JPG
      IMG_207017.JPG
      ขนาดไฟล์:
      49 KB
      เปิดดู:
      25
    • IMG_207118.JPG
      IMG_207118.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.6 KB
      เปิดดู:
      25
    • IMG_207719.JPG
      IMG_207719.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.4 KB
      เปิดดู:
      23
    • IMG_207820.JPG
      IMG_207820.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.3 KB
      เปิดดู:
      28
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...