รวมกระทู้ที่ไม่เหมาะสมไม่อ้างที่มาในพระไตรฯภาษาไทยของ frozen flower และอีกหลายชื่อ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด, 28 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    1. การชำระจิตวิญญาณมืดด้วยน้ำศักดิสิทธิ์


    ผู้มีบารมีถือแจกันศักดิสิทธิ์ จะใช้น้ำศักดิสิทธิ์นั้นชำระบาป
    จิตวิญญาณที่ถูกพันธนาการอยู่จะ "สลายแล้วเกิดใหม่" ก็
    จะหลุดพ้นจากพันธนาการนั้น


    2. การตัดโซ่ตรวนทิพย์ด้วยดาบเพชรเจ็ดสี


    ผู้มีบารมีถือดาบเพชรเจ็ดสี จะสามารถใช้ดาบนั้นตัดทำลาย
    โซ่ตรวนของซาตานได้ อนึ่ง โซ่ตรวนนี้ ไม่อาจตัดทำลาย
    ได้ด้วยอาวุธทิพย์อื่นใด แม้แต่จักรแก้ว ก็ตัดไม่ขาด
     
  2. จ้าวยุทธ

    จ้าวยุทธ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    การล้างบาปและบังเกิดใหม่ของคริสตศาสนาเป็นคนละความหมายกับเจ้าของกระทู้นะครับ
     
  3. n@kARin

    n@kARin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +94
    เอาแบบที่เป็นไปได้สิ แบบที่ทำได้ด้วยตัวเองน่ะ แบบที่ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ใด และไม่ต้องพึ่งผู้อื่นน่ะมีไหม
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    เมื่อจิตวิญญาณที่ต้องกรรม ถูกพันธนาการ
    ดับสลายแล้วเกิดใหม่ ย่อมพ้นมลทินกรรมแล้ว



    เมื่อใดที่ท่านเจ็บปวดใจอย่างที่สุด จนเหมือนใจสลาย
    นั่นแหละท่านรับกรรมถึงที่สุด คือ "ตายใน" แล้วเกิดใหม่
    ก็จะพ้นพันธนาการได้


    แต่ "จิตวิญญาณดื้อ" ไม่ยอมตาย ทำให้ไม่ตายง่ายๆ
    นั่นทำให้พันธนาการยังอยู่ กรรมเดิมๆ ก็ยังวนเวียนอยู่
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เคยยอมรับความจริงตรงๆ
    แล้วเสียใจแทบหัวใจสลาย
    ร้องไห้ตรงๆ ทุกข์ใจตรงๆ
    ที่สุดแห่งที่สุด



    แล้วมันก็หยุด มันก็นิ่ง
    มันก็จบ โล่ง แล้วก็เริ่มต้นใหม่
    กลายเป็นคนใหม่ มีชีวิตใหม่


    แบบนี้เคยบ้างไหม?
     
  6. n@kARin

    n@kARin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +94
    อื่มม เข้าใจแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบ
     
  7. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214

    คำตอบที่คุณต้องการอยู่ในคำถามหมดแล้ว เหลือแค่คุณลงมือทำด้วยความตั้งใจและพยายาม

    และความจริงคำตอบก็อยู่ในบทความแรกของท่านเจ้าของกระทู้อยู่แล้วครับ เพียงแต่คุณไม่พิจารณา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2011
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ถ้าซาตานสร้าง "ระบบ" ครอบงำโลกไว้ การช่วยโลก คือ การช่วยต่ออายุระบอบซาตานหรือไม่?

    ทุนนิยม, บริโภคนิยม, วัตถุนิยม ฯลฯ
    เหล่านี้คือ ส่วนหนึ่งของระบอบซาตาน
    ที่ครอบงำโลกไว้เกือบ 100% แล้ว
    เมื่อมนุษย์อยู่ภายใต้ระบบนี้ จะนำพา
    ไปสู่นรกมืดไม่ได้ผุดได้เกิด


    เพื่อปลดปล่อยมวลมนุษย์ โพธิสัตว์หนึ่ง
    นำพาบริวารลงมาเพื่อ "เริ่มใหม่" ปลดล็อก
    ระบบซาตานออกไป ฉุดช่วยมวลสัตว์ให้พ้น
    นรกมืด


    ทว่า ยังมีพระโพธิสัตว์บางกลุ่ม "เสียดาย"
    จึงพยายามปกป้องโลกไว้ โดยไม่ทราบว่านี่คือ
    การปกป้องระบอบซาตาน


    ถึงเวลาบำเพ็ญ "อุเบกขาบารมี" แล้ว
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เมื่อธรรมชาติลงมือเอง เป็นไปโดยธรรมชาติ จะทำอย่างไร?


    เมื่อธรรมชาติปรับตัว มีเกิดดับ ตามธรรมชาติของมัน เราควรทำอย่างไร
    ต่อต้านธรรมชาติดีไหม? น้ำท่วม ก็สร้างเขื่อนกั้นด้วยเพราะเรามีฤทธิ์แล้ว
    ฝนตกมากๆ ก็สร้างโดมกั้นฟ้าไปเลยไหม?


    ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะ "หยุด" กระทำกรรมต่อธรรมชาติ เพียรที่จะ
    "ไม่กระทำกรรมใหม่เพิ่ม" คือ ความเพียรแท้ ไม่ใช่เพียรทำอะไรทั้งดี-ชั่ว
    อุเบกขา ยอมรับความจริง ปล่อยธรรมชาติดำเนินไป ใครจะลงมือกระทำ
    ก็ช่าง เขาทำเขารับกรรมเอง เราปล่อยไปตามกรรม ปรับตัวตามธรรมชาติ
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เมื่อกลจักรแห่งธรรมเคลื่อนแล้ว ผู้ต่อต้านย่อมเข้าสู่วิถี "สวัสดิกะ"


    เมื่อ "ธรรมจักรเคลื่อนแล้ว" ธรรมชาติย่อมดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นแม้
    ไม่ตรงตามใจมนุษย์ต้องการก็ตาม แต่จะเอาแต่ใจมนุษย์เป็นสำคัญไม่ได้
    เมื่อนั้น ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงทั้งดีและร้าย ยังมีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ออกตัว
    ช่วยเหลือผู้คน ต่อต้านธรรมชาติ ฝ่าฝืนกฏแห่งกรรม และเขาเหล่านั้นกำลัง
    "หมุนจักรตรงข้ามธรรม" คือ "สวัสดิกะ" ซึ่งเป็นสิ่งตรงข้ามกับ "ธรรมจักร"


    แล้วจึงค่อยๆ เสื่อมลง กลายเป็นซาตานในที่สุด...
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    หมดยุคสมัยของแม่เลี้ยงลูก พ่อต้องลงมือเลี้ยงเอง


    เทวีฝ่ายหญิง เลี้ยงลูกตามใจ มนุษย์ทั้งหลายจึงเลอะเลือน
    กระทำความผิดบาป หลงทิศผิดทาง ยิ่งพาหลงทางเสื่อม
    "ยุคแม่" ทั้งหลาย จึงต้องยุติลง เพื่อให้ "องค์ธรรมบิดา"
    ทรงลงมาดูแลเอง ขับเคลื่อนธรรมจักร อย่างที่ควรจะเป็น
    ปลดภาระหน้าที่ของ "องค์ธรรมมารดา" หมดเวลาดูดนม
    มนุษย์จำต้องโต และยืนหยัดด้วยตนเอง ยอมรับความจริง
    แห่งธรรมชาติที่มีทั้งสองด้าน โลกที่ไม่เที่ยง สุขที่ไม่จีรัง


    องค์ธรรมบิดาจึงต้องทรงลงมาดูแลขับเคลื่อนธรรมจักรนี้
     
  12. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    [​IMG]



    ธรรมจักรเคลื่อนแล้ว...
     
  13. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ความเห็น

    ..ธรรมจักรหรือ ดู ไม่ค่อยจะเหมือน...แต่ ภาพนี้ น่าสนใจครับ โดยเฉพาะ เรือ ลำน้อย..ลำเดียว ในธรรมจักรของคุณ คงใจหายใจคว่ำ น่าดู...
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    http://palungjit.org/threads/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A5-%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%9F%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2-mellen-t-benedict.264647/

    ท่องไปในโลกหลังความตาย-ประสบการณ์ตายแล้วฟื้น
    โดย Mellen Thomas Benedict



    ที่มา:

    Journey Through the Light and Back

    ตอนที่ 2:

    [​IMG]
    (Mellen Thomas Benedict)

    “ในปี 1982 ผมเคยตายเพราะเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โรคที่ผมเป็นมันไม่สามารถรักษาได้
    ไม่ว่าจะด้วยวิธีการทำคีโมใดๆก็ตาม มันก็มีแต่จะทำให้ผมทรุดหนักลงไปอีกเท่านั้นเอง
    ตอนนั้นผมมีเวลาเหลืออีกแค่ 6 – 8 เดือนแค่นั้นเอง


    ก่อนหน้านั้นในราวๆช่วงปี 1970 ผมเคยเป็นพวกที่ชอบวิตกจริต
    กับข้อมูลต่างๆเสมอ และผมก็เริ่มท้อแท้สิ้นหวังกับปัญหาวิกฤตการณ์นิวเคลียร์,
    ปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาอื่นๆมากขึ้นเรื่อยๆ

    ด้วยเหตุนี้ และด้วยความที่ผมไม่มีพื้นฐานด้านจิตวิญญาณมาก่อนเลย
    ผมจึงเริ่มมีความเชื่อว่า ธรรมชาติได้กระทำผิดพลาดไปเสียแล้ว
    และผมก็เชื่อว่ามนุษย์น่าจะเป็นมะเร็งของดาวเคราะห์โลกดวงนี้


    ผมมองไม่เห็นทางออกที่เราจะสามารถแก้ปัญหาที่เราได้ก่อขึ้นกับตัวเราเอง
    และกับดาวเคราะห์โลกดวงนี้ได้เลย ผมมองเห็นมนุษย์เป็นเหมือนมะเร็งร้าย
    และก็เจ้ามะเร็งร้ายนั่นแหละ คือสิ่งที่ผมได้รับเอามา เจ้ามะเร็งร้ายนั่นแหละที่เคยฆ่าผม


    เพราะฉะนั้น จงระมัดระวังทัศนคติในการมองโลกของคุณให้ดี
    เพราะว่ามันสามารถย้อนกลับมาหาคุณได้
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัศนคติในด้านลบ

    ผมก็เคยเป็นผู้ที่มองโลกในแง่ร้ายเอามากๆคนหนึ่งเหมือนกัน
    และนั่นแหละคือสิ่งที่นำผมไปสู่ความตาย..


    .......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2011
  15. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ตามความเข้าใจส่วนตัว คือ การยอมรับ และ เริ่มต้นใหม่
     
  16. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    คริสต์ผสมพุทธ งงครับ
     
  17. beibei

    beibei Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +26
    เหมือน ลิลิธ มาเรียนรู้ธรรมะ แบบนั้น.
     
  18. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ลิลิธนี่ ใช่คนเดียวกับ Ishtar รึเปล่าคะ?
    ดูในวิกิพีเดีย รูปเหมือนเทวี Ishtar..
     
  19. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    11 ตุลาคม พ.ศ. 2481 วันเกิด Thich Nhat Hanh ธรรมาจารย์ด้านพุทธศาสนานิกายเซนชาวเวียตนาม ภิกษุนักรณรงค์เรื่องสันติภาพ ชื่อเดิมคือ Nguyen Xuan Bao ถือกำเนิดที่จังหวัดกวงสี ตอนกลางของเวียดนาม ตอน 9 ขวบ ท่านเห็นปกหนังสือที่มีภาพพระพุทธองค์นั่งบนสนามหญ้าด้วยรอยยิ้มสงบงามและ เต็มไปด้วยความสุข ความประทับใจครั้งนั้นทำให้ท่านตัดสินใจเข้าสู่เพศบรรพชิตเมื่ออายุได้ 16 ปี ที่วัด Tu Hieu ใกล้ ๆ เมืองเว้ อีกเจ็ดปีต่อมาจึงอุปสมบถเป็นพระภิกษุ ได้รับฉายาว่า “ติชนัทฮันห์” ติช เป็นคำเรียกพระ หมายถึงผู้สืบทอดพุทธศาสนา ส่วน นัทฮันห์ หมายถึงการกระทำเพียงหนึ่ง ท่านได้เรียนรู้และฝึกฝนการดำรงสติอยู่กับปัจจุบันขณะที่วัดเซนแห่งนี้เอง

    ปี 2504 ท่านเดินทางไปศึกษาวิชาศาสนาเปรียบเทียบที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ช่วยสอนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สองปีหลังจากนั้น สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างเวียตนามเหนือ-ใต้เริ่มรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ในเวียตนามใต้ก็มีความขัดแย้งภายในอย่างรุนแรง เมื่อ ประธานาธิบดี Ngo Dinh Diem บังคับให้ประชาชนเปลี่ยนไปนับถือคริสตศาสนาเช่นเดียวกับตนเอง ด้วยเชื่อว่าเป็นหนทางนำไปสู่การพัฒนาประเทศ ก่อให้เกิดขบวนการชาวพุทธออกมาต่อต้าน จนกระทั่งพระภิกษุรูปหนึ่งจุดไฟเผาตัวเอง ท่านติชนัทฮันห์จึงถูกเรียกตัวกลับมาช่วยแก้ไขปัญหา เมื่อกลับมาถึง ท่านได้ก่อตั้ง “คณะเทียบหิน” (The Sanga of Interbeing) และโรงเรียนเยาวชนเพื่อบริการสังคม (the School of Youth for Social Services หรือ SYSS) เพื่อนำพุทธศาสนามาช่วยเหลือสังคมโดยยึดหลักสันติวิธี

    ท่านสอนอยู่เสมอว่า “เราไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกว่าเราเป็นฝ่ายเหนือหรือฝ่ายใต้ เป็นพุทธหรือเป็นคริสต์ เพราะไม่ว่าเราจะเป็นอะไร ความเจ็บปวดล้วนเป็นหนึ่งเดียวเสมอ” ด้วยแนวคิดที่อ่อนโยนและทรงพลัง ทำให้กิจกรรมของท่านประสบความสำเร็จอย่างมาก มีประชาชนนับหมื่นคนอุทิศตนเป็นอาสาสมัครเพื่อสังคม นอกจากนี้ท่านยังได้ร่วมก่อตั้งสำนักพิมพ์และเขียนหนังสือเกี่ยวกับพุทธ ศาสนาออกเผยแพร่หลายเล่ม ไม่นานรัฐบาลก็ส่งทหารเข้ามากวาดล้างสมาชิกในองค์กรของท่าน ขณะที่มหาเถระสมาคมมองว่าองค์กรของท่านเป็นพวกนอกรีต ระหว่างที่สงครามเวียดนามรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ท่านได้รับนิมนต์ไปสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นตัวแทนของชาวเวียดนามกล่าวถึงความปรารถนาและความเจ็บปวด รวมทั้งเจรจาเพื่อการหยุดยิง และพยายามหลายวิถีทางเพื่อสันติภาพของเวียดนาม จนท่านถูกต่อต้านจากผู้นำเวียดนามเหนือ-ใต้ และถูกสั่งห้ามกลับเข้าประเทศตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา

    ก่อนที่สงครามจะสงบท่านได้สร้างชุมชนเล็ก ๆ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเพื่อเป็นแหล่งเจริญสติในหมู่ผู้ร่วมปฏิบัติงานเรียกร้อง สันติภาพ โดยใช้ชื่อว่า "Sweet Potato” เพื่อการรำลึกถึงชาวเวียดนาม (มันเทศเป็นอาหารที่ชาวเวียดนามต้องกินในเวลาที่แร้นแค้นที่สุด) ก่อนจะขยายเป็น "หมู่บ้านพลัม” (Plum Village) ณ เมืองบอร์โดซ์ ในเวลาต่อมา ปัจจุบันหมู่บ้านพลัมเป็นชุมชนแบบอย่างการปฏิบัติธรรมของพุทธบริษัท 4 ที่เน้นการเจริญสติในชีวิตประจำวันอย่างตระหนักรู้ในทุกขณะลมหายใจเข้าออก แต่ละปีผู้มาเยือนหลายพันคนจากหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการขยายสังฆะหมู่บ้านพลัมออกไปยังประเทศต่าง ๆ คือ อเมริกา เยอรมนี และเวียดนาม รวมทั้งหมด 12 แห่ง ทั้งยังมีกลุ่มสังฆะหรือกล่มผู้ปฏิบัติธรรมตามแนวทางของท่านติชนัทฮันห์ กระจายอยู่หลายประเทศทั่วโลกอีกกว่าพันกลุ่ม ส่วนประเทศไทยมีสังฆะอยู่ที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่

    ที่มา : 11 ตุลาคม วันนี้ มารู้จัก หลวงปู่ ติชนัทฮันห์ - มีคำตอบ - กูรู
     
  20. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    คนป่วยมีหลายโรค ยามีหลายขนาน การรักษามีหลายขั้นตอน
    แต่ทั้งหมดมุ่งไปสู่ ทำอย่างไรให้คนป่วยหายโรค
     

แชร์หน้านี้

Loading...