ไม่รู้ว่ามีใครเห็น Planet X หรือยัง?

Herodotus บิดาของประวัติศาสตร์ หรือบิดาแห่งการโกหกกันแน่

ปราชญ์ตะวันตกยกย่อง Homer ว่าเป็นบิดาแห่งกาพย์กลอน นับถือ Demosthenes ว่าเป็นบิดาแห่งสุนทรพจน์ และชื่นชม Herodotus ว่าคือบิดาแห่งประวัติศาสตร์ เพราะ Herodotus เป็นผู้ริเริ่มกระบวนการบันทึกเหตุการณ์ และกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ รวมถึงการนำนิทาน เรื่องเล่า และตำนานมาให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ เข้าใจ และให้อนุรักษ์ความรู้เหล่านั้นไม่ให้สูญหายไปจากโลก

Herodotus เกิดที่เมือง Halicarnassus ใน Asia Minor เมื่อประมาณ 484 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยที่ Herodotus ยังอยู่ในวัยเยาว์ เมือง Halicarnassus มีกษัตริย์ชื่อ Lygdanis ปกครอง เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่โหดร้าย และทารุณ Herodotus กับลุงชื่อ Panyasis จึงได้เข้าร่วมขบวนต่อต้านการปกครองของ Lygdanis เมื่อลุงถูกตัดสินประหารชีวิต Herodotus ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่เกาะ Samos เป็นเวลา 8 ปี

เมื่อกษัตริย์จอมโหดถูกปลงพระชนม์ Herodotus ได้เดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน แต่ได้พบว่าเจ้าเมืองใหม่ ยังทำตนเป็นศัตรู Herodotus จึงตัดสินใจหลบหนีจาก Halicarnassus อย่างถาวร และได้วางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในดินแดนต่างๆ ของโลก

เพราะ Athens ณ เวลานั้น คือศูนย์กลางวัฒนธรรม และอารยธรรมของโลก Herodotus จึงเดินทางไป Athens และได้พบเพื่อนใหม่หลายคน เช่น Sophocles กับ Pericles ผู้มีชื่อเสียงด้านการประพันธ์บทละคร และสถาปัตยกรรม ส่วน Herodotus ได้ยึดอาชีพเป็นคนอ่านผลงานเขียนของตนให้ชาวเมือง Athens ฟัง ซึ่งก็ได้ทำให้ชาวเมืองชื่นชม Herodotus มาก จนถึงกับขอเงินจากผู้บริหารนคร Athens มามอบให้ Herodotus เป็นค่าตอบแทน

การมีนิสัยรักการท่องเที่ยว ทำให้ Herodotus พักอยู่ที่ Athens ได้ไม่นาน จึงได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่อียิปต์ตอนบน แล้วเดินทางต่อไป Babylon และ Susa ใน Persia จากนั้นได้ล่องเรือใน Black Sea ถึงปากแม่น้ำ Danube ผ่านแหลม Crimea แล้วลัดเลาะไปตามชายฝั่งของ Syria จนถึงประเทศ Libyaจากนั้นก็เดินทางกลับถึง Athens เมื่อปี 432 ก่อนคริสตกาล

Herodotus เสียชีวิตในอีก 17 ปีต่อมา

ในสมัยเมื่อ 600 ปีก่อนคริสตกาล กรีซมีนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่หลายคน เช่น Heraclitus ผู้เคยกล่าวว่า มนุษย์จะต้องเรียนรู้ธรรมชาติของตน และสิ่งแวดล้อม ครั้นเมื่อ Heraclitus พบว่าชาติต่างๆ มีศีลธรรมที่แตกต่างกัน และมีวิธีคิดที่ไม่เหมือนกัน เขาจึงได้เสนอแนะให้คนกรีกเปลี่ยนแนวคิดจากการเชื่อศรัทธาในเทพเจ้ามาเป็นการตั้งคำถามหาเหตุผลสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง โดย Heraclitus เชื่อว่าการสังเกตผล จะทำให้มนุษย์รู้สาเหตุ และใช้ความรู้ที่ได้คาดการณ์อนาคตได้

Thales แห่ง Miletus ก็เป็นปราชญ์อีกผู้หนึ่งในยุคเดียวกัน ผู้เชื่อว่า เอกภพมีการกำเนิด และการแตกดับ การศึกษาธรรมชาติอย่างเป็นระบบทำให้ Thales รู้ว่าอุปราคาต่างๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แน่นอน เช่น Thales รู้ว่าได้เคยเกิดสุริยุปราคาเหนือ Asia Minor เมื่อ 585 ปีก่อนคริสตกาล เป็นต้น

ส่วน Anaximander นั้น เป็นนักดาราศาสตร์ผู้พยายามเสาะหาความเป็นระบบของหมู่ดาวต่างๆ บนท้องฟ้า และเชื่อว่าธรรมชาติ กับสังคมมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

Herodotus ใช้ชีวิตใน Athens โดยการเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิต และผลงานของผู้คนในต่างแดน โดยได้เสริมเนื้อหาให้คนฟังรู้สึกสนุก มากกว่าจะมุ่งให้คนฟัง รู้ความจริงที่ Herodotus รู้จัก ดังนั้น วิธีเขียนประวัติศาสตร์ ของ Herodotus จึงมิใช่ประวัติศาสตร์ที่เรารู้จักในปัจจุบัน เพราะไม่แม่นยำ และถูกต้องในเชิงปริมาณและข้อมูล

จุดด้อยของ Herodotus อีกประเด็นหนึ่ง คือ การชอบอ้างเทพเจ้าว่ามีบทบาทในการกำหนดชะตาชีวิตของคน และเหตุการณ์ต่างๆ แต่เราก็ต้องตระหนักว่า คนในสมัยนั้นแทบทุกคนศรัทธาในเทพเจ้า ดังนั้นเมื่อ Herodotus ต้องการให้ผู้อ่านชื่นชม และสนุกกับเนื้อหาที่เขาเขียน เขาจึงอ้างเทพเจ้าบ่อย เช่น Herodotus เขียนว่า การที่กษัตริย์ Xerxes แห่งอาณาจักร Persia ทรงปราชัยในการทำสงครามกับกรีซ เพราะเทพเจ้า ไม่ประสงค์จะให้พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ปกครองทั้งยุโรป และเอเชีย เป็นต้น

ดังนั้นในภาพรวม ผลงานของ Herodotus คือ การสร้าง (เล่า) อดีตให้คนปัจจุบันได้รับรู้ และเก็บให้คนรุ่นหลังอ่าน และเข้าใจ เพราะเนื้อหาที่สมควรจะเล่ามีมาก และหลากหลาย Herodotus เองจึง กล่าวว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่คนๆ เดียว จะสามารถบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้หมด จะอย่างไรก็ตาม Herodotus คิดว่า กำลังใจและความกล้าหาญ คือ สาเหตุสำคัญที่จะทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง

ในหนังสือ History of the Persian Wars ที่ Herodotus เรียบเรียงนั้น เขาได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 504 ปีก่อนคริสตกาลว่า เวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักร Persia กำลังแผ่อำนาจและอิทธิพลเข้าสู่กรีซ และกษัตริย์ Persia ทรงบังคับให้ชาวกรีกส่งบรรณาการไปถวาย แต่ชาว Athens ขัดขืนไม่ยินยอม กษัตริย์ Darius จึงทรงกรีฑาทัพบุกกรีซ เมื่อ 490 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีจุดมุ่งหมายจะจับคนกรีกไปเป็นทาสรับใช้ในอาณาจักร Persia

เมื่อกองทัพที่เกรียงไกรของ Darius เดินทางถึงอ่าว Marathon ซึ่งอยู่ห่างจาก Athensประมาณ 40 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ชาวเมือง Marathon ไม่คิดต่อสู้ เพราะไม่ต้องการจะเสียเลือดเนื้อ แต่ชาว Athens ไม่คิดเช่นนั้น

ทหาร Athens 11,000 คน (ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่ากองทัพของ Darius) ภายใต้การนำของ Miltiades ได้ขอให้รัฐ Sparta ส่งทหารมาช่วย โดย Herodotus เล่าว่าผู้ครองนคร Athens ได้ให้นักวิ่งคนหนึ่งชื่อ Philippides วิ่งจาก Athens ไป Sparta เพื่อขอกำลังมาเสริม ในขณะเดียวกัน แต่ในกรีซก็มีเรื่องเล่าเช่นกันว่านักวิ่งชื่อ Pheidippides ได้วิ่งระยะทาง 35 กิโลเมตร จากสนามรบที่ Marathon ไป Athens เพื่อบอกชาวเมือง Athens ว่า กองทัพกรีซมีชัยชนะเหนือกองทัพ Persia และทันทีที่บอกข่าวจบ Pheidippides ก็ล้มลงและขาดใจตาย เรื่องเล่านี้ กับเรื่องที่ Herodotus เขียน มีนักวิ่งที่มีชื่อคล้ายกัน แต่จนกระทั่งทุกวันนี้ ก็ไม่มีใครมั่นใจว่า เรื่องใดจริง เรื่องใดโกหก หรือโกหกทั้งสองเรื่อง

จะอย่างไรก็ตามการพ่ายแพ้สงครามของกองทหาร Persia ครั้งนั้นได้ทำให้ Herodotus สรุปว่าเป็นจุดหักเหที่สำคัญของประวัติศาสตร์ยุโรป และเอเชีย

การพ่ายแพ้สงครามครั้งนั้นได้ทำให้กองทัพ Persia เสียขวัญมาก กษัตริย์ Darius ได้ทรงดำริจะส่งกองทัพมารุกรานกรีซอีก แต่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เสียก่อน และกษัตริย์ Xerxes ผู้ทรงขึ้นครองราชย์แทน ได้ทรงคิดจะเข้าครอบครองอียิปต์แทน แต่ขุนนางชื่อ Mardonius ได้ทูลว่า กษัตริย์ Xerxes พระองค์ทรงมีพระบารมีสูงพอที่จะทรงเป็นกษัตริย์แห่งยุโรป และเอเชียได้ ดังนั้น กษัตริย์ Xerxes จึงทรงดำริจะยึดครองกรีซอีก ถึงอำมาตย์หลายคนจะไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีใครกล้าทูลค้านกษัตริย์ Xerxes

เมื่อ 480 ปีก่อนคริสตกาล กองทัพของ Xerxes ได้เดินทางถึง Hellespont และ Herodotus ได้เขียนบรรยายว่า ทหาร Persia 15,000 คน ที่สวมเกราะทองคำได้เดินทาง 7 วัน 7 คืน มุ่งสู่กรีซ ทั้งๆ ที่เทพ Apollo ทรงเตือนว่า ถ้าทหารกรีกต่อสู้นั่นหมายถึงกองทัพ Persia จะพ่ายแพ้ แต่ Xerxes ทรงคิดว่า สังคมกรีกเป็นสังคมที่อ่อนแอ เพราะผู้คนมีความแตกแยกมาก และผู้ครองประเทศไม่มีนโยบายที่แน่นอน

แต่ Xerxes ทรงคิดผิด เพราะกองทัพกรีกภายใต้การนำของ Leonidas มีทหารกล้าตายเป็นจำนวนมาก โดย Leonidas ได้คัดเอาเลือกคนที่มีบุตรชายแล้วมาเป็นทหารทัพหน้า ส่วนคนที่เป็นโสด หรือยังไม่มีลูกชายสืบสกุล Leonidas ได้จัดให้อยู่ทัพหลัง

เมื่อถึงวันที่ 17 สิงหาคม เวลา 480 ปีก่อนคริสตกาล กองทหารของ Xerxes เข้ารบชนะกองทหารของ Leonidas และได้บุกเข้ากรุง Athens และเผามหาวิหาร Acropolis ในขณะที่เจ้าเมือง Athens ชื่อ Themistocles ได้สั่งให้ชาว Athens ออกจากบ้านเรือนของตน ไปรวมพลสู้ข้าศึกที่บริเวณนอกเมือง

ในวันที่ 20 กันยายน ปีเดียวกัน กองทหารชาว Athens ได้หลบไปอยู่ที่เกาะ Salamis และบุกเข้าทำลายกองทัพเรือของ Persia ลงได้อย่างราบคาบ และตั้งแต่นั้นมา ยุโรปก็ปลอดภัยจากการรุกรานของ Persia ซึ่งมีผลทำให้ Athens ได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจของยุโรป

นอกจากบทความประวัติศาสตร์แล้ว Herodotus ยังได้เขียนบทความเกี่ยวกับธรรมชาติเป็นจำนวนมากด้วย เช่น เรื่องจระเข้ ว่าสามารถอดอาหารได้นาน 4 เดือน แม้จะมีเท้า แต่ก็เป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำ และเมื่อถึงเวลาวางไข่ กลับขึ้นมาวางบนบก ในเวลากลางวันจระเข้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนบก และเมื่อถึงเวลากลางคืนจะกลับลงอยู่ในน้ำ ไข่จระเข้มีขนาดใหญ่กว่าไข่ห่าน เมื่อลูกจระเข้ออกจากไข่ ลำตัวมีขนาดเล็ก แต่เมื่อโตเต็มที่ ลำตัวจะยาวตั้งแต่ 3-4 เมตร จระเข้มีตาเหมือนหมู มีฟันเป็นซี่ และเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ไม่มีลิ้น ถึงกรามล่างจะไม่ขยับเขยื้อน แต่กรามบนขยับได้ เล็บเท้าแข็งแรง หนังมีเกล็ด เมื่ออยู่ในน้ำ จระเข้จะมองอะไรไม่เห็น แต่เวลาอยู่บนบกสายตาจะดี ในปากจระเข้มีทากที่ทำหน้าที่ดูดเลือด และมีนก trochilus ที่ต้องพึ่งพาให้เข้าไปกินทากในปาก ดังนั้น จระเข้จะไม่ทำร้ายนกชนิดนี้เลย

ส่วนนกอีกชนิดหนึ่งที่ Herodotus กล่าวถึง คือ นก phoenix ที่ Herodotus เขียนว่า ตนไม่เคยเห็น แต่รู้ว่านกนี้จะถือกำเนิดในทุก 500 ปี ขนมีสีทอง และแดง รูปร่างคล้ายนกอินทรี มีถิ่นกำเนิดในประเทศ Arabia

ดังนั้น เราจึงเห็นได้ว่า เรื่องที่ Herodotus เขียน บางครั้งเป็นเรื่องเล่า บางครั้งเป็นเรื่องจริง และข้อมูลอาจผิดพลาดมาก แต่ในภาพรวมรายงานที่ Herodotus เขียนล้วนเป็นร้อยแก้วที่น่าสนใจ และอ่านสนุก

คุณหาอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้จาก Herodotus, The Persian Wars โดย Ernle Bradford ที่จัดพิมพ์โดย Macmillan (London ปี 1980)

สุทัศน์ ยกส้าน เมธีวิจัยอาวุโส สกว.

ปล ยังไม่เห็น PX ครับ

 

วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔...
เข็มขัด โฟตอน
<O</O
http://en.wikipedia.org/wiki/Photon_belt
<O
..เรื่องของ โฟตอน เบลท์ หรือ เนบิวล่าสีทอง เป็นเรื่องความเชื่อ ของวิทยาศาตร์ทางจิต เชื่อมโยงกับ ความเชื่อ เรื่องนิวเิอจ ที่จะเกิดขึ้น ใน ปี ๒๐๑๒ และ โยงไปยัง ความเชื่อเรื่องปฎิทินมายัน กลุ่ม โฟตอนหรือ พลังงานแสงสว่างนี้ มาจาก กลุ่มดาว พลีอะเดียส ดังแสดงในภาพข้างล่าง โดยที่โลก ของเราจะ โคจร ตัดกับ แถบกลุ่ม โฟตอน ในปี ๒๐๑๒ เป็นผลให้ เกิด การเปลี่ยนแปลงทาง วิญญาณ การหยั่งรู้ และ การสิ้นสุดของโลก... บ้าง ก็ ว่า ดวงอาทิตย์ จะ ได้ รับการกระตุ้น ให้ ปฎิกริยา เทอร์โมนิวเคลียร์ เพิ่มขึ้น แบบ ไร้ขีดจำกัด...แน่นอน ขนาด ของ ดวงอาทิตย์ จะ ขยายตัวมากขึ้น จน แผดเผาโลก ทั้งใบ ให้ เป็นดาว ที่ ไม่ีมี บรรยากาศ และ น้ำ เหลือ อยู่เลย...
<O</O

...ความจริง ..เรื่องโฟตอน เบลท์ มีมานานตั้งแต่ ประมาณ ปี ๑๙๕๐ พอๆกับ PX เคยมีการฟันธงกันมาแล้วครั้งหนึ่งว่า จะ มาถึง โลก ใน ปี ๑๙๙๖ โดย ประมาณ ในชื่อยุค พลังงานใหม่ แต่ แล้ว ก็ ไม่มีอะไร เกิด ขึ้น ก็ เหมือนๆ กับ เรื่องของ PX ในตอนขาเข้า ประมาณ ปี ๒๐๐๓ ถึง ๒๐๐๘ ซึ่งทำความหัวเสียให้ กับ แฟนๆ ที่นิยมเรื่องพิลึกกึกกือ เป็นอันมาก...พอดี ได้ ปฎิทินมายัน มาช่วยไว้ ระฆัง จึงยัง ไม่หมดยก...มีต่อครับ

..ว่ากันว่า...ในปี ๒๐๑๒ ที่จะถึง นี้ มนุษย์จะ มีวิวัฒนาการ ที่ก้าวกระโดด ถึง ขนาด เปลี่ยน แปลง ดี เอ็น เอ กันเลย ที เดียว ในระหว่าง ที่ เกิด เรื่อง..โลก จะ มืด เราจะ ไม่มีไฟฟ้า ใช้ ...ยาน ยู เอฟ โอ จาก ต่างดาว จะ ลงจอดบน พื้น โลก เพื่อ อพยพ ผู้คน บางส่วน ที่ คิดว่า น่ารัก น่าเอ็นดู ไปจาก โลก นี้

..ว่าที่จริง...เรื่องนี้ แม้ว่า จะ ยัง ไม่มีหลักฐานยืนยัน แบบ ชนิด ที่ นาซ่า ต้อง ลบภาพ จาก กล้อง ดุดาวอวกาศ เหมือนกรณีของ PX ก็ จริง แต่ มี หลายคน ที่ออกมาการันตีว่า นี่แหล่ะ เรื่องจริง...ก็ ชั้น นั่งสมาธิ แล้ว มองเห็นนี่นา...หรือ ไม่ก็ สื่ิอสาร กับ รูปแบบวิญญาณ ที่สูงกว่าได้ ว่าไปแล้ว ก็ ต้องรับฟัง...เพราะ มี แบบนี้ เยอะมาก มองข้ามไป ไม่ได้...
<O
....แล้ว ..จะ พิสูจน์กันได้ อย่างไร...เหลือ เวลา อีก เพียง หนึ่งปี เศษๆ ขนาด PX เล็กกระจ้อยร่อย...ยังตรวจจับได้ แล้ว ประสาอะไรกับ โฟตอน เบลท์ ใหญ่กว่าตั้งเยอะ ทำไม จะ ตรวจจับไม่ได้ ..จริงใหม...
<O
http://indianinthemachine.wordpress.com/2011/01/02/more-evidence-of-photon-belt-astrophysicist-alexia-demetria-says-our-solar-system-is-entering-an-interstellar-energy-cloud/
<O
นักฟิสิกซ์ดาราศาสตร์ ชื่อ อเลกเซีย ดิมิเตรีย กล่าวว่า ใน วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา... สุริยะจักรวาลของเรา ได้ ก้าวเข้าสู่ กลุ่มเมฆพลังงาน ระหว่างดวงดาว ที่ เรียก ว่า โฟตอน เบลท์ นี้ โดยอาศัยผลการสำรวจอวกาศของ ยานโวยาเจอร์ ๑ และ ๒ และ นาซ่า ได้ ออก มาเตือน เกี่ยวกับ การเกิด มหา พายุสุริยะ ใน ช่วง ปี ๒๐๑๒ ถึง ๒๐๑๓ ก็ เนื่องมาจาก ช่วงระยะเวลา ดัง กล่าว เป็นช่วงของ โซล่าร์ แมกซิมั่ม หรือ ช่วงเวลา ที่การระเบิด ของ ดวงอาทิตย์ จะ มีค่าสูงสุด...ความจริง เรื่องนี้ ไม่น่าตก ใจ อะไร หาก ไม่มี โำฟตอน เบลท์ เข้ามาเกี่ยวข้อง...จึง เดาๆ เอาว่า...เหตุที่ต้อง มาเตือน กัน เป็น กรณีพิเศษ เพราะ เป็นช่วงที่ โลก อยู่ ใน กลุ่ม โฟตอน เบลท์ นั่นเอง...และ เหตุผลทั้งหมดนี้ นี่ น่าจะ เป็น เครื่องยืนยัน ตัวตน ของ โฟตอน เบลท์ ได้...
..ความจริงบางแหล่งข่าว ฟันธงเลยว่า...ไม่ใช่ ๒๐๑๒ หาก แต่ เป็นภายใน ปี ๒๐๑๑ ต่างหาก..แหม มาเร็วดีจริง...
<O
..ในครอป เซอร์เคิ้ล...ก็ มีผู้ตีความกันว่า มี ความพยายามที่จะ สื่อสารถึง การมีตัวตนของ โฟตอน เบลท์ ด้วยเช่นกัน...<O

สรุป
<O
สิ่งที่ มีหลักฐานยืนยันได้
๑. ผลการสำรวจ ของ ยานอวกาศ โวยาเจอร์ ๑ และ ๒
๒. การติดต่อสื่อสารทางจิต และ โทรจิต กับ มนุษย์ต่างดาว และ ยู เอฟ โอ <O
๓. ครอป เซอร์เคิ้ล ใน บางบริเวณ
สิ่งที่ยังยืนยันไม่ได้
๑. ภาพถ่ายของ โฟตอน เบลท์ ที่ควร จะ ได้ มานานแล้ว...ไม่มีหรือ มี ก็ เบลอๆ
สิ่งที่ เหมือน กับกรณีของPX
๑. ทั้งคู่ ถูกปฎิเสธการมีอยู่จริง โดยนาซ่า
๒. ถูกเชื่อและ ศรัธทา โดยกลุ่ม คน บางกลุ่ม ซึ่ง เป็นเสียงส่วนน้อย
๓. ถูกปฎิเสธ และ มองว่า เป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ สำหรับผู้คนทั่วไป...
<O
สิ่งที่ควรตั้งข้อสังเกต
<O
...ในเมื่อ โฟตอน เบลท์ เป็น แถบพลังงานแสง และ โลก กำลังผ่านเข้า ไป เรา ก็ ควรเห็น แถบแสงสว่างนี้ ได้ ยาม ค่ำคืน...ดู ภาพ การ กระจายแสง ของ โฟตอน เบล์ท ได้ ตาม ภาพ ข้างล่างนี้...เผื่อว่า บางท่าน อาจสนใจ มองดูดาวในยามค่ำคืนและ พบเข้า ก็ โปรด แจ้งให้ ทราบด้วยนะครับ...

 

๒. การติดต่อสื่อสารทางจิต และ โทรจิต กับ มนุษย์ต่างดาว และ ยู เอฟ โอ
ไม่ทราบว่า สิ่งที่ผู้เขียนอ้างไว้เป็นหลักฐานนี้สามารถพิสูจน์ได้จริงแล้วหรือครับสำหรับเรื่องโทรจิต มนุษย์ต่างดาว ยูเอฟโอ รวมถึง ภาพเบลอๆ กำกวม ไม่ชัดเจน แต่ที่ใส่ลงไปแล้วบทความดูมีสีสันมีมิติ น่าเชื่อถือมากขึ้น คนอ่านสนุกก็เลย นำมาใส่เอาไว้ เพื่อให้อ่านสนุกผมเข้าใจถูกแล้วใช่ไหมครับ

"ดังนั้น เราจึงเห็นได้ว่า เรื่องที่ Herodotus เขียน บางครั้งเป็นเรื่องเล่า บางครั้งเป็นเรื่องจริง และข้อมูลอาจผิดพลาดมาก แต่ในภาพรวมรายงานที่ Herodotus เขียนล้วนเป็นร้อยแก้วที่น่าสนใจ และอ่านสนุก"

 

ผมไม่... เบื่อหรอก....ครับ ทุกวันนี้ ... ผมก็ยังติดตามอยู่... และติดตามมาเป็นเวลามากกว่า... 5ปี ....และก็ไม่ได้บ่น...อะไร ผมก็เข้ามา...ตอบกระทู้นี้ตาม..คำถาม... ของเจ้าของ... กระทู้...เขา... ก็...เท่านั้น แต่บางครั้ง...เห็นว่า หลักฐานที่หยิบยก... กันขึ้นมามันขาด...น้ำ...หนัก พิ...สูจน์ไม่ได้ จน...ทำให้ขาดความน่า...เชื่อ...ถือ แต่เชื่อ... ว่าบางคน... อ่านแล้ว...น่าจะสนุก...และดู...น่า...เชื่อ...ถือ...ดี แต่สำหรับผมมันไม่เลย ประสบการณ์ 5ปีที่ศึกษาเรื่องนี้มา หลักฐาน95%ของPX ไม่มีความ...น่า...เชื่อ...ถือ...เลย ดอีก 5% ที่เหลือผมจึงถือว่ามันเป็น Solid Evidence ดังนั้น ถ้าหลักฐานที่ถูกหยิบยกขึ้นมานั้นเป็น Solid Evidence จริงๆ เวลา... ที่ผมใช้ไปในการศึกษา...ค้นคว้า...กับสิ่งนี้จะคุ้มค่ามาก...ขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ยังทำให้...ผมหาคำตอบอยู่ทุกวันนี้ จบ...

 

Planet X จะจริงหรือไม่จริงก็คงจะได้รู้กันก่อนสิ้นปี 2555 (2012)
ระหว่างนี้ก็ศึกษาเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ จริงบ้างไม่จริงบ้างก็ไม่เป็นไร อย่ากังวลไปเลยครับ

 

เตรียมใจให้พร้อมตายไว้ก่อนก็ดีนะครับ

 

ยังถ่ายไม่ได้เลย ภาคใต้ กำลังจับตาอยู่ครับตอนนี้ ดูทุกเย็น ^^

 

จะจริงหรือไม่จริงหรือจะต้องการค้นหาคำตอบ เราว่าอย่ากังวล ยังไงซะก็รอจนถึงวันที่มันจะมาก็แล้วกันวันนั้นทุกคนจะได้รู้ทั่วเท่ากัน แล้วแต่คนจะเชื่อ จะอ่านแล้วสนุกหรือไม่อย่างไรก็ให้เป็นเรื่องของคนคนนั้นไป

 

ตอบ

ง่ายนิดเดียว...การแก้ไข ปัญหานี้ ใคร ไม่เห็น ไม่เชื่อ...ไม่แสวงหา...เชิญ นั่งรอ ด้านข้างเวทีครับ...ดู เฉยๆและ สงบปากสงบคำ ดีกว่า...

..ผมโพสต์ ภาพให้ดู ตั้งแต่ เมื่อวานนี้ รูปเบ้อเริ่ม ยังมองไม่เห็น ก็ ช่วยไม่ได้...นี่ว่ากันตามหลักฐานของภาพถ่ายจากดวงดาวนะครับ แต่ เอาเถอะ ..หาก มีจริงๆ ตามภาพถ่าย..ไม่ช้า คงหมดข้อสงสัย..ไม่เกิน พฤษภาคม ๒๕๕๔...


..เป็นเพราะ มี สมาชิก ที่ ดี ๆ อย่างคุณ ทศพร...ผม ยินดี จะ โพสต ข้อความต่อไปนี้ ให้ และ น่าจะ เป็น ครั้ง สุดท้าย ที่พูดถึงการมีตัวตนของ นิบิรู เช่นกัน...เพราะ หลังจากนี้..ผม ก็ โกย..ตามวิธี การของ ผม ซึ่ง ก็ เป็นเหตุผลเดียวกับที่ ลุงโล ธ่าร์ เขา เชื่อ...และทำอยู่...ใครจะว่าบ้าก็ช่าง...

ดูภาพข้างล่าง และ ประเมินเอาเองครับว่า นิบิรู ขณะนี้ มัน ใหญ่แค่ใหน... ของอย่างนี้...จะ ปิดบังความจริง หรือ จะ มาแหกตากันได้ ก็ ไม่ตลอดรอดฝั่งหรอกครับ...เดี๋ยวมาต่อให้ใหม่...

 

จากภาพข้างบนนี้...ขนาดปัจจุบันของ นิบิรู จะ ประมาณ ๔ เท่าของ โลก ขอให้เปรียบเทียบกับ ขนาด ของ นิบิรู ปัจจุบัน กับ ดาวอังคาร แล้ว จินตนาการเอาเองนะครับว่า...นิบิรูจะมาถึงโลก ได้ เมื่อไร...

..และนี่ คิอ เหตุผลที่ นาซ่า ถึงกับ ลงทุนส่ง ยานอวกาศ อย่างน้อย สองถึง สี่ลำ ขึ้นวงโคจร ระยะไกล เพื่อปรับมุมกล้องติดตาม นิบิรู...หากยังพอจำกันได้..ผมเคยโพสต์ ไว้ แล้วว่า...ดาวเทียมติดกล้องทั้งหมด จะ ทำหน้าที่อย่าง สมบูรณ์ ในเดือน กุมภาพันธ์นี้...และ เรา ก็ ได้ ภาพ เหล่านี้ มาชมกัน...รีทัชบ้าง ไม่ รีทัชบ้าง แล้ว แต่ อารมณ์ ของ คนคุมเอกสาร...

..มิน่า..เซต้าส์ จึง ไม่พอใจ อย่างมาก ถึงกับตั้งกฎเกณฑ์ ห้าม ผู้ที่ ไม่เชื่อเรื่อง PX แสดงความคิดเห็นใดๆ ในเวป ของ เขา ...เพราะ เขา เบื่อ และ เหนื่อยที่จะ อธิบาย...และ ผู้ที่ไม่เข้าใจเขา ก็ ว่า พวกเซต้าส์ นี้ ใจแคบ หยุมหยิม...

..ดังนั้น..ผม จึง ได้ วางลิงค์ ต่างๆ ไว้ มาก ก็ เพื่อให้ ท่านที่สนใจ ได้ ศึกษาด้วยตนเอง...ก่อนที่จะ ร่วม ขึ้น ลุยไถ แสดงความคิดเห็น...แต่ ก็ ยังไม่วายที่จะ มี บางคน คิดว่า ผม ชอบโชว์ออฟ...อย่าคิดนะว่า...ไม่รู้...

..ถึงทุกวันนี้..ถามว่า ผมเชื่อกี่เปอร์เซ็นต์ ในเรื่องนิบิรู ..ตอบได้ เลยว่า จากเดิม ๔๐% ขึ้นเป็น ๖๐ % ครับ...อีก ๔๐ % เอาไว้ ผิดหวัง... เพราะ ไม่เคยคาดหวังอะไร เต็มร้อยอยู่แล้ว...

 

ก็ไม่ต้องสนใจครับ กับคนที่ไม่เชื่อแล้วเข้ามาโพสในนี้หรือคนที่จะเชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ ให้เขาเชื่อตัวเองไป คิดอย่างไรก้ได้อย่างนั้น ถ้าเชื่อแล้วมันจะเกิดก็ต้องเกิด หากมันไม่เกิดก็ดีไป รอเดือน พฤษภาคมกันครับ

 

อ่า ... ลุงรถเก่า ที่บอกจะโกยแน่บ นี่ .. ไม่แฟร์อย่างแรงเลย .. มีอะไรที่บ่งชี้ชัดว่ามันจะมาเร็วๆนี้ ก้อ กระซิบบอกเด็กอย่างผมบ้างนะครับ ..

 

*** โลก อยู่ด้วยสัจจะธรรม ธรรมเที่ยง...แล้วกลับพูดว่า โลกไม่เที่ยง ****

คนเขาว่า...โลกไม่เที่ยง
แต่นี่ ตอนนี้....คนที่เขาทำได้มี เขามีการกระทำเที่ยงขึ้นมา
ผลตอบแทน ก็เที่ยงตามมา
ต่อไป เวลาของผลตอบแทน จากการกระทำจะเร็วขึ้น
เห็นผลทันตา กรรมติดจรวด
เฉพาะนั้น สิ่งที่ทำได้จากสัจจะ
คลี่กางขยายใหญ่ออกไป ครอบคลุมไปทั่วจักรวาล
แล้วต่อไป เราจะได้เห็นว่า โลกเที่ยงเป็นอย่างไร

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คุณ oldman จะเห็นประมาณพฤษภาคมนี่เหรอ...จะเห็นด้วยตาเปล่า หรือต้องใช้กล้องดูดาวคะ ถ้าเห็นด้วยตาเปล่าเนี่ย..ขนาดจะเล็กหรือใหญ่เท่าไหน เพราะถ้าขนาดเล็กคนที่ไม่ค่อยเก่งเรื่องดาวเนี่ย จะแยกไม่ออกไหนดาวธรรมดา หรือ ไอ้เจ้า px

ถ้าเกิด พ.ค เห็นจริง ๆ ต้องหนีใช่ไหม ...

 

อันนี้ก็บอกไม่ได้ครับว่าจะเห็นด้วยตาเปล่าหรือเปล่า คงต้องรอเวลาและหาข้อมูล
เพิ่มเติมครับ แต่ผมเชื่อว่า nibiru มาแน่ ณ ตอนนี้ผมค่อนข้างจะเชื่อ เกือบ
100 เปอร์ แล้วครับ ที่เหลือก็แล้วแต่บุญแต่กรรม ว่าจะอยู่หรือไป

 

พีเอ็กซ์ หรือ เนบิรุ จะมีจริงหรือมไม่มีจริงก็คิดกันเอาเองนะครับ

อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ผมเคยอ่านกระทู้
กระทู้หนึ่ง แล้วมีพี่คนหนึ่งได้พูดเอาไว้ แต่ผมไม่ขอพูดชื่อนะครับ
จะยกมาแค่ คำอธิบายเฉย ๆ ส่วนจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ วิจารณาณ
ส่วนสำหรับผมเชื่อแน่นอนครับ เพราะผมศรัทธาและนับถือในตัวพี่เค้าครับ
*********
กระทู้นั้นผมเองก็จำไม่ได้ว่าคุยกันเรื่องอะไร เท่าที่มองไปดาวนิบิรุสตอนที่คุยกันว่าเห็น
ตรงกันใหมด้วยความรู้สึกของตัวเองนั้น ผมเองเห็นสภาพของดาวนั้นมีดินเฉพาะขั้วโลก
เหนือและขั้วโลกใต้ ตรงกลางเป็นทะเล และคนของเขาอยู่ในทะเลนั้น เห็นเขากำลังกิน
ข้าว ผมเลยกำหนดถามว่าเขากินอะไร มันเป็นเหมือนวุ้นสีหม่นๆขาวๆ เลยปรากฏชื่อว่า
"อูนมุน" ด้วยสภาพที่เป็นแผ่นดินข้างบนและล่างนั้น ก็เกิดเป็นสนามแม่เหล็กแรงสูงสลับ
ทิศทางตามสภาพของการหมุนที่ไม่เป็นวงกลม แต่จะเหมือนหมุนเหวี่ยงคล้ายๆกับไม่
เสถียร ลักษณะคนดาวนั้นผิวเหมือนกิ้งก่ารูปร่างเหมือนคนเราธรรมดา ไม่บ่งบอกถึงความ
เจริญทางพลังจิตเลยจนผมคิดไปว่าคนดาวนี้ออกจะล้าหลัง ไม่เหมือนในตำนานที่ว่าดาว
นี้จะมีพระเจ้าอยู่ในนั้นแล้ววงโคจรจะมาหาโลกเราอีกทีในอนาคต

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ล้วนแล้วแต่ใช้การมองดู ไม่ได้ใช้การติดต่อพูดคุยกับคนของเขา
เลยอาจจะเรียกว่าเราเข้าไปดูในอาณานิคมที่ไม่เจริญของเขาก็เป็นได้ เลยไม่เห็นคนที่
มีพลังจิตสูงๆที่พอจะติดต่อเราได้ เรื่องแบบนี้พูดยากครับว่าเขาเจริญจริงหรือไม่

**************

ปล.เน้นอีกสักที่ว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ

 

...ถามแบบนี้บ่อยจัง...

๑. ไม่หนี ก็ได้ ครับ แค่ไปให้ พ้น เขตน้ำท่วมถาวร แล้ว ทำอย่าง TPTB ทำได้ม๊ะ...
๒. ก็ ไอ้ที่ รูปร่างเหมือนนกน่ะครับ ดู ไว้...เข้าไป ที่ชมรม ดูนก ของ MisterX' s blog มีให้ ดู จนเบื่อ...

 

ทำไมเขาไม่สร้างไว้ใต้ดินเหมือนกับอย่างรัสเซีย...อยู่บนดินจะสามารถต้านทานอะไรได้หรือเปล่าหนอ

 

ตอบ

..สังเกตให้ดี...ตึกอาคาร แสนจะแพง...แต่ ถนนเป็นดินลูกรัง เขา ไม่เน้นถนนบนดิน คาดว่า มี อุโมงค์เชื่อมต่อกันใต้ดินอยู่แล้ว และ คงสร้างได้ แค่ งบประมาณ เอกชน ที่มีอยู่อย่างจำกัด ไม่เหมือนอุโมงค์ ทางการทหาร เพราะอย่างไร ก็ ยังดีกว่า อยู่ ในบังเกอร์ กับ ไส้เดือน หนู งู และ แมลงสาบ ครับ..ดีๆ ทั้งนั้นเลย...

..วันนี้ พอแค่นี้ นะครับ...ไปล่ะ...

 

ตึกราคาแพงมาก..เฉพาะคนรวยเท่านั่นแหละที่จะสร้างได้ คนจน ๆ หรือฐานะปานกลางก็คงไม่มีปัญญาหรอก....(เมืองไทยก็คงจะมีคนที่มีเงินจะสร้างได้ไม่ถึงพันคนหรอกมัง พวกคนรวยก็รอดอีกตามเคย...) ไม่รู้พวกคนรวยจะเหงาหรือเปล่า..ทั้งประเทศอยู่กันไม่ถึงพันคน...อย่างนี้ต้องเรียกว่า..รวยเสียให้เข็ด

คุณ oldman .ให้สังเกตุรูปร่างที่เหมือนนก เข้าไปดูแล้ว ขอบคุณคะที่แนะนำ