ประมูล **เพื่อบุญผาติกรรม สมเด็จองค์ปฐม ทรงเครื่องจักรพรรดิ์ 4ศอก(หน้า 177)*********************************************

[FONT=&quot]ทำบุญด้วยเงินน้อยๆ[/FONT]
“[FONT=&quot]หลวงพ่อครับ การทำบุญวิหารทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคยร่วมกุศลไปกับวิหารแก้ว [/FONT]100[FONT=&quot]เมตรของวัดท่าซุง ที่กระผมสงสัยก็คือว่า ทำน้อยเกินไปไม่ถึงหมื่นบาท คนอื่นเขาทำเป็นแสนๆ แสดงว่าอานิสงส์ที่ผมได้ก็คงจะน้อยกว่าเขามากไหมขอรับ ผมเสียใจอยากจะทำต่อไปอีก แต่ว่าการเงินไม่สะดวกเลยขอรับ....[/FONT]?”
[FONT=&quot]เอางี้ก็แล้วกัน ตายไปก็มีวิมานแก้วเหมือนกัน แต่หลังเล็กหน่อย[/FONT]
“[FONT=&quot]มีวิมานเหมือนกัน แต่ว่าเล็กไปหน่อย[/FONT]”
[FONT=&quot]ใช่ๆ มีวิมานเหมือนกัน ถ้าตายไปเกิดเป็นคนก็จะมีปราสาทแก้ว [/FONT]7[FONT=&quot] ประการอย่างโชติกเศรษฐีเขาสร้าง[/FONT]
“[FONT=&quot]รูปแปลนแผนผังนี่หลวงพ่อคิดเองหรือมาไงไปไงครับ.....[/FONT]?”
[FONT=&quot]ก็คิดเอง แต่ไม่ได้ทำเองช่างเขาทำ คือว่าพระพุทธเจ้าท่านสั่งน่ะ ส่วนสัดต่างๆนี่สั่งหมด ฉันไม่ต้องคิดอะไรเลย จะเอาแบบไหนท่านสั่งแต่เพียงผู้เดียว[/FONT]
“[FONT=&quot]เวลาสั่งมีภาพแสดงให้เห็น[/FONT]”
[FONT=&quot]ใช่ มีภาพให้ดู[/FONT]
“[FONT=&quot]มิน่าเล่า ดีไซน์แบบออกมา พุทธแบบถึงได้สวยใหญ่[/FONT]”
[FONT=&quot]ใช่[/FONT]
[FONT=&quot] ที่วัดท่าซุงนี่ส่วนมากจะเป็นแบบของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ปี [/FONT]21[FONT=&quot] พุทธแบบ เพราะตอนนั้นฉันจะเลิกสร้าง แต่ท่านให้สร้างต่อ บอกท่านว่าการเงินไม่มี ท่านบอกไม่เป็นไรฉันจะหาเอง ตั้งแต่ปี [/FONT]21[FONT=&quot] เป็นต้นมาใครทำบุญถือว่าทำบุญตรงกับพระพุทธเจ้า[/FONT]
“[FONT=&quot]เพราะว่าเป็นงานของพระองค์ท่าน[/FONT]”
[FONT=&quot]ใช่ ท่านหาสตังค์ด้วย จะโกงก็ไม่ได้นะ รู้ด้วย อย่างมาที่นี่ (บ้านสายลม) จะได้เท่าไหร่บอกมาเสร็จ...................จากหนังสือธรรมปฏิบัติ เล่มที่26[/FONT]

 

ทำบุญด้วย1000บ. ขอหมายเลข 098 389 398 889 898 ครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

เคยมีคนทำบุญกับหลวงพ่อ 20 บาท และรวยภายในวันเดียว สาธุ..........

 

ผมเปิดราคาให้ครับ 1,000 บาท
ปิดกี่โมงบอกด้วยครับ

 

เปิดบุญก่อนเลย 1,999_ บาท

 

อ้าวววว...ไม่ทันเจ้าสัวจาฯ ซะละ

 

ขอจองเบร์ 897 เพิ่ม 1 เบอร์ ครับ

 

ประมูล ***สมเด็จองค์ปฐม{รุ่น๑,๒,๓...พระอื่นๆ}::: เพื่อบุญสร้างพระ4ศอกกฐินวัดท่าซุง2553 (27 คน กำลังดูอยู่)

คึกคักแต่เช้าเลยค่ะ...

 

ร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐม

เมื่อวานนี้ได้โอนเงินจำนวน 500.- บาท เข้าบัญชี นายจรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล ธ.กรุงไทย # 980-146-5530

 

ไปด้วยคน 2,345 บาท (พระกริ่งสมปรารถนามอบโดยคุณพงศ์กฤต)

 

วันนี้เน็ตอืดมาก ล่วงหน้าไปรอก่อน 2,599_

 

ห้วงเวลาในอดีต....
(ณ ที่บ้านสายลม)

ท่านอาจารย์ยกทรง (วีระ งามขำ) ได้กราบเรียนถามองค์หลวงพ่อฯ ว่า..

"..หลวงพ่อครับ อานิสงส์ การสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม
เปรียบเทียบกับ สมเด็จองค์ปัจจุบัน จะแตกต่างกันไหม.."

องค์หลวงพ่อฯ ท่านเมตตา ตอบ ในทำนองว่า..
"..ก็เหมือน ๆ กันแหละ พระพุทธเจ้าเหมือนกัน ใช่ไหม..
เพียงแต่ หากทำบุญที่เนื่องด้วยกับ สมเด็จองค์ปฐม
อานิสงส์ จะไป พระนิพพาน เร็วมาก เป็นทางตรง.."

..................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

การบำเพ็ญบุญ ที่นานนับเนื่องมาแต่อดีต ของพวกเราทั้งหลาย
จะเป็นไปตาม ความเนื่องกันมาของแต่ละบุคคล แต่ละคณะ....

หมายถึง ว่า..
ในอดีตชาติ ที่ผ่านพ้นมา นั้น..
กว่าที่ พวกเรา จะพอเข้าถึงธรรม ชอบฟังธรรม ชอบปฏิบัติในข้อธรรม

พวกเรา ต้องผ่าน การว่ายเวียน เกิด ตาย กันมาแล้ว นับชาติไม่ถ้วนทั่ว
มันเป็น ล้าน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ยกกำลัง ล้าน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นับไม่ถ้วน

บางคน ก็อาจจะแย้ง ว่า จะจริงหรือ.. คุณรู้ได้อย่างไร....
เพราะว่า หาก ตัวเรา ไม่บรรลุธรรม ย่อมจะไม่เห็นธรรม นั้น
ดังนั้น เรื่องที่กระผม ไม่รู้ นั้น.. ก็คงจะจริง..

แต่ทว่า ผมเอง มีความมั่นใจในความคิดเห็นที่ถูกต้อง
เป็น สัมมาทิฐิ คือ น้อมจิต คิดเชื่อในพระธรรม คำตรัสสอน

ดังนั้น เรื่องที่กระผม กล่าวเกริ่นไว้ ก็มีมาในพระไตรปิฎก
หากว่า ใครไม่เชื่อในพระไตรปิฎก.. อย่างนี้ ก็คงไม่ได้คุยกัน

ความที่เนื่องด้วยการปฏิบัติธรรม กว่าที่จะบรรลุถึง พระนิพพาน

สาวกภูมิ ต้องบำเพ็ญบารมี อย่างน้อย 1 อสงไข กำไรแสนกัป

พระอัครสาวก ต้องบำเพ็ญบารมี อย่างน้อย 2 อสงไข กำไรแสนกัป

พระพุทธเจ้า ปัญญาบารมี ต้องบำเพ็ญอย่างน้อย 4 อสงไข กำไรแสนกัป
พระพุทธเจ้า ศรัทธาบารมี ต้องบำเพ็ญอย่างน้อย 8 อสงไข กำไรแสนกัป
พระพุทธเจ้า วิริยาบารมี ต้องบำเพ็ญอย่างน้อย 16 อสงไข กำไรแสนกัป

มีสมเด็จองค์ปฐม เท่านั้น ที่บำเพ็ญพระบารมี ถึง 40 อสงไข กำไรแสนกัป

ทีนี้ เรามาดูอย่าง พวกเรา ๆ ที่เป็น สาวกภูมิ
ต้องบำเพ็ญ 1 อสงไข กำไรแสนกัป นานไหม

ก็ต้องมาดู ที่หน่วยนับ 1 กัป (ไม่ใช่ อสงไขกัป) กันก่อน
ห้วงระยะเวลา 1 กัป นั้น นานแค่ไหน.. กี่ปี กันล่ะ

ตามพระไตรปิฎก ท่านเปรียบเทียบไว้หลายตัวอย่าง
ผมขอยกมา 1 ตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น..

สมเด็จพระจอมไตรฯ ท่านเปรียบเทียบ ไว้ว่า..
ห้วงระยะเวลา 1 กัป นั้น เปรียบเทีบกับ ว่า..

มี ถัง สี่เหลี่ยม กว้าง ยาว สูง ด้านละ 16 กิโลเมตร (1 โยชน์)
ภายใน ถัง บรรจุ เมล็ดพันธุ์ผักกาด (เล็กกว่า เมล็ดงา) ไว้ เต็มเปี่ยม
เมื่อเวลาผ่านพ้นไป 100 ปี ให้หยิบเมล็ดพันธุ์ผักกาด ออกไป 1 เมล็ด
ครบอีก 100 ปี ก็ให้หยิบเมล็ดพันธุ์ผักกาด ออกไป 1 เมล็ด
คือ ทุก ๆ 100 ปี ให้หยิบเมล็ดพันธุ์ผักกาด ออกไป 1 เมล็ด

หยิบไป กี่ปี.. เมล็ดพันธุ์ผักกาด จะหมดสิ้นไป.. นี่คือ ระยะเวลา 1 กัป
(นับ ปี ไม่ได้ ใช่ไหม ครับ)

แล้ว 1 อสงไข ล่ะ มีกี่ "กัป"

ที่อธิบายไว้ว่า 1 กัป.. นับปี ไม่ได้ นั้น
ทำนองเดียวกัน จำนวน 1 อสงไข.. ก็นับ กัป ไม่ได้....

ดังนั้น ลองคิดดูว่า..
นับปีไม่ได้ คูณด้วย นับปีไม่ได้ จะเป็น เท่าไร

ที่สำคัญกว่า....
จำนวนปี ที่นับมาทั้งหมดนี้ จะนับเฉพาะห้วงเวลาที่มีขันธ์ 5 เท่านั้น

หมายความว่า..
หากเรา ไปตกนรก ขึ้นสวรรค์ อยู่พรหม นานนนนน เพียงใด.. ก็ไม่นับรวม
จะนับเฉพาะที่เกิดมามีร่างกาย มีขันธ์ 5 เกิดอยู่ได้กี่ปี ตายไป ก็เก็บสะสมไว้
เกิดมาอีก กี่ปี.. ก็เก็บสะสมไว้อีก.. จนกว่า....

จะสามารถนับรวมได้ ครบ
(อันนี้ เขาก็นับเฉพาะในห้วงเวลาของ ปรมัตถบารมี เท่านั้นเอง)

ค่อย ๆ คิดดูว่า..
เราต้องเกิด ตาย กันกี่ครั้ง.. กี่ชาติ..
เกิดครั้งหนึ่งทุกข์เพียงใด เสียใจกี่ครั้ง ทรมานกายมากไหม....

แล้ว พวกเรา ยังอยากเกิด กันอีกไหม.. หรือว่า สนุกดี....

อันนี้.. ก็จะบอกให้ทุกคน "เบื่อเกิด" กันได้ทุกคน.. ก้เป็นไปไม่ได้
มันขึ้นอยู่กับ บารมี ของแต่ละคน ที่สะสมกันมามาก น้อย เพียงใด
ใกล้ครบ 1 อสงไข เศษอีก 100,000 กัป กันหรือยัง..

ถ้ายัง.. ก็ต้องเดินหน้า.. ฟันฝ่า กันไป ใช่ไหมครับ

ที่อธิบาย ข้อนี้มา เพียงเพื่อว่า....
ให้มองเห็นวิถีทางของพวกเรา ที่ต่างก็มุ่งหน้าฝ่าทะเลทุกข์
เพื่อเดินทางไปสู่ พระนิพพาน ให้ถึง ให้จงได้....

การเดินทาง คงเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะโดดเดี่ยว เดินไปเพียงลำพัง
เกิดแต่ละครั้ง เดินทางแต่ละหน เราก็ต้องมีเพื่อร่วมเดินทาง เช่น..
พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติมิตร และ/หรือ คนที่ไปพบกันระหว่างทาง....
ร่วมเดินทางไปด้วยกัน คือ ร่วมทำบุญไว้ด้วยกัน หรือเป็นญาติกัน..

บุคคลที่เนื่องกันมา ก็คือ คนที่ร่วมทำบุญไว้ด้วยกัน เป็นญาติกันมา นั่นเอง

เมื่อเกิดมาก คนที่ร่วมทำบุญไว้ด้วยกัน เป็นญาติกัน ก็มีมาก เช่นกัน
ซึ่งจะเห็นว่า คณะใหญ่ ๆ ที่เป็นพุทธภูมิมาก่อน คนที่เนื่องกัน ก็ยิ่งมาก เช่น
หลวงปู่มั่นฯ หลวงปู่แหวน พระเดชพระคุณองค์หลวงพ่อฯ เป็นต้น

บางที เราก็จะไปแบ่งกันว่า สายโน้น สายนี้ อิสาน เหนือ ใต้ เป็นต้น
จริง ๆ แล้ว องค์หลวงพ่อฯ ท่านได้กล่าว ว่า.. ต่างก็คณะเดียวกัน คือ..
ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้า พระองค์เดียวกัน เหมือนกัน คณะเดียวกัน คือ..
คณะของ พระพุทธเจ้า นั้นเอง

แต่ที่แบ่งว่า สายโน้น สายนี้ ก็เพราะว่า....

หากไม่เคยเนื่องกันมา ก็จะไม่เกิดความศรัทธาแก่กัน
พูดสิ่งใดมา ก็จะมีความรู้สึกว่า ไม่เข้าใจ
ต้องเป็นคนในคณะเดียวกัน จึงจะพูดกัน รู้เรื่อง....

เรื่องนี้ เคยได้รับฟังจาก พระเดชพระคุณ ท่านพระครูปลัดฯ
ท่านเจ้าอาวาส วัดท่าซุง เปรียบเทียไว้ ในทำนอง ว่า....

พระสุปฏิปันโน แต่ละท่าน ท่านสอนตรง สอนถูก ให้ไปพระนิพพาน ทั้งนั้น
แต่ทว่า บางทีเราไปพบ ไปอ่าน คำสอน คำแนะนำ แล้ว ไม่ค่อยเข้าใจ....
เหมือนกับว่า แกงอย่างเดียวกัน แต่..ถ้วยนี้ อร่อย.. ถ้วยนั้น ไม่อร่อย..
ใครชอบถ้วยไหน ก็กินถ้วยนั้น.. ก็ อิ่ม เหมือนกัน.

เมื่อพวกเรา ทราบ ระลึก คำนึง พิจารณา ให้ถ่องแท้แล้ว
ก็พึงมีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แก่กันและกัน

ใคร เขา ที่เข้ามาเห็นเรื่องของเราปฏบัติ ประกอบกิจ บำเพ็ญเพียร
ก็อาจจะ ไม่เข้าใจ มีข้อคัดแย้งบ้าง เป็นธรรมดาวิสัย ใช่ไหมครับ

ที่เขาว่ามา จริงบ้าง ไม่จริงก็ดี..
หากเราตามติด.. อารมณ์จิต ติดเกาะในเรื่องนั้น ๆ
ใจเราก็จะหมอง.. ช่างมัน.. นี่เป็น คาถา ที่องค์หลวงพ่อฯ แนะนำไว้

หากเรามี "ช่างมัน" เสมอ ๆ นั้นก็คือ จะสามารถทรง อุเบกขารมณ์
ได้เป็น ปกติ.. อย่างนี้ ก็ใกล้ พระนิพพาน เต็มที

ส่วนที่เขาพูดมา ว่ามา กระทบกระเทียบ เปรียบเปรยมา..
กรรมดี.. กรรมชั่ว.. ก็เป็นเรื่องของใคร ก้ของมัน

องค์หลวงพ่อฯ ก็แนะนำ ให้ตามดูจิตของเรา เท่านั้น
จิตของเรา ยังคุมไม่ได้.. จะไปพูดต่อความยาว สอนจิตคนอื่น จะได้หรือ..

แต่ทว่า หากจะอธิบาย ข้อความจริง..
ก็พึงอธิบายไปได้ โดยมี พรหมวิหารธรรม คอยเกื้อหนุนส่ง

พูดอธิบาย เพื่อรักษาประโยชน์ของเขา อย่าให้เขาหมองเพิ่มไปอีก
ไม่พึง พูดกระทบ กระเทียบ แดกดัน มันก็มีแต่หมอง ร้อนแรงยิ่งขึ้น

เหมือนไฟลุกโชนอยู่ เราเติมฟืน เติมน้ำมันเข้าไป ไฟกองนั้นก็ร้อนยิ่งขึ้น
เรายืนอยู่ใกล้ ก็พลอยร้อน เพิ่มขึ้น ไปด้วย

คิดเสียว่า หากเขา เรา ไม่เนื่องกันมาก่อน ก็พูดกันไม่ใคร่จะรู้เรื่อง
หากเราจะไปพระนิพพาน.. เขาไม่ไป ก็เป็นเรื่องของเขา.. เราพึงเฉย

หากว่าเรา ยังไม่อยากไปพระนิพพาน
ทางที่ดี ก็ชวนเขา ทำบุญไว้กะเราเสียเลย

ชาตินี้ พูดไม่เข้าใจ
ชาติต่อไป จะได้คุยกันรู้เรื่อง เนื่องกันมาแล้ว..

วางแผนข้ามภพ ข้ามชาติ.. อย่างนี้ จะดีไหม

เอ้า.. ก็เป็นเรื่องของพวกเรา จะไปคิดต่อกันเอง
ตามวิสัยบารมี ของใคร ก็ของมัน.. ใช่ไหมครับ.

....................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

อืมม ผมก็เป็นเน็ตอืด แต่บุญต้องไว 2,789 (พระกริ่งสม ปรารถนามอบโดยคุณพงศ์กฤต)

 

เนื้อเมมพัตร ทั้งสองรายการ ในกระทู้พระกริ่งสมปรารถนา หมดแล้วครับ:'(
ตอนนี้เหลือแต่ เนื้อสำริดผิวไฟ กับเนื้อนวโลหะ

 

ขอบคุณกับสิ่งดีๆ ที่พี่มหาหินเอามาลงให้อ่านครับ บางวันก็ลืมพิจารณาความยากลำบากในการสร้างบารมีตรงนี้เหมือนกัน....ขอบคุณจริงๆครับ...

 

งานหน้าผมยกให้พี่มหาหิน บู๊ต่อเลยนะครับ
ของวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ผมวางโปรเจคไว้แล้วครับ
ส่วน ผมพอแล้วครับ เหนื่อย ไปทำแบบเล็ก ๆ มั่งดีกว่า เลิกขนดีกว่า ไปคนเดียวสบายกว่าเยอะครับ ฮิฮิ

 

ขอขอบคุณพี่มหาหินที่นำข้อคิดดีๆมาฝากมาเตือนสติ ได้อ่านแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะ
ต่อไปคงต้องใช้คาถาของหลวงพ่อ ใครเค้าจะกล่าวจะว่าอะไร __ช่างมัน__ ลูกเดียว
ไม่ต้องไปยึดไปติดให้จิตตก ทำวันนี้ให้ดีเพื่อเราจะได้ไปอยู่กับหลวงพ่อในวันหน้า

โมทนาด้วยครับ

 

พอจะจำๆได้บ้าง เอาแบบง่ายๆ (รายละเอียดต้องไปอ่านที่ห้องพุทธศาสนา.ครับ)

1 กัป ประมาณ 3 * 10 ยกกำลัง 26 ปี

1 อสงไข ประมาณ 1 * 10 ยกกำลัง 140 กัป


ยาวนานมั๊ย คิดๆแล้วถ้าเทียบกับเกิดเป็นคน สัตว์ เราคงเกิดมาครบทุกสายพันธุ์ แต่ไม่รู้ว่ากี่รอบ

(กราบ..ขออภัยด้วยถ้าผิดพลาด คิดแบบง่ายๆครับ)

 

สาธุๆ โมทนาบุญกับข้อคิดของพี่มหาหินอีกหนึ่งท่านครับ...สาธุคร้าบ.บ.บ.บ.