+++Premium พระเครื่องราคาพิเศษ(ปิดกระทู้ชั่วคราว)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 กันยายน 2009.

  1. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ของรางวัลนะครับ เล่าโดยไม่ต้องมีรูปประกอบก็ได้นะครับ

    5 ชุดครับ มาเชิญแชร์ประสบการณ์กัน
    1. รูปถ่ายหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน พิมพ์แจกที่วัดซับลำใย หลวงปู่หมุนปลุกเสก รูปยังขายกัน 2-300 เดี๋ยวนี้ ขนาดประมาณ A4 ครับ
    2. รูปถ่ายครูบาสิงห์โต วัดดอยแก้ว พระที่ผมกราบแล้วประทับใจ หลวงปู่ปลุกเสกเอง ขนาดใหญ่ประมาณโปสเตอร์หาเสียงครับ
    3. พระรอดครูบาสิงห์โต วัดดอยแก้ว เป็นพระรอดที่หลวงปู่ไปซื้อที่ขายเป็นถุงๆมาปลุกเสก ไม่มีมวลสารพิเศษใดๆ ท่านปลุกประมาณ 2 ไตรมาส แต่ท่านให้มาผมก็รับหมดแหละครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0473.JPG
      IMG_0473.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.4 KB
      เปิดดู:
      78
    • IMG_0474.JPG
      IMG_0474.JPG
      ขนาดไฟล์:
      91.6 KB
      เปิดดู:
      83
    • IMG_0475.JPG
      IMG_0475.JPG
      ขนาดไฟล์:
      126 KB
      เปิดดู:
      80
  2. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,714
    ผมขอก่อนละกัน

    ผมมีประสบการณ์ จากพระแก้วแดงหลวงตาม้า กับเบี้ยแก้ หลวงพ่อทรงครับ

    วันหนึ่งผมนอนกับพื้นห้องคอนโด ( ก็ที่บ้านแหละ ) ก็ห้อยพระแก้วแดงนอน แล้วเอาเบี้ยแก้หลวงพ่อทรงมาไว้หัวนอน ก็อารธนาปรกติ

    ตกกลางคืน มีตะขาบ ยาวสัก 5 เซ็น ขนาดนิ้วก้อยผู้ใหญ่ครับ วิ่งมาเข้าในเสื้อดิ้นดุกดิ๊ก ๆ ก็ไม่รู้อะไร ก็เอามือไปจับ แต่มันไม่กัดก็งง เพราะแฟนเคยโดนมันวิ่งเข้าเหมือนกันตอนนอน โดนกัดซะบวม พอจับ เอามารู้ว่าเป็นตะขาบก็สะบัด มือครับแล้วก็รีบตามจับ กลัว หลงในห้องแล้วจะกัดลูก ๆ แล้วก็ปล่อยลงจากหลังบ้าน ชั้น 2 ครับ

    ประสบการณ์เล็กน้อย ครับ จริง ๆ เกือบลืมไปแล้วเรื่องนี้
     
  3. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ผมประเดิมก่อนนะครับ ชุดที่ใช้อยู่ปัจจุบันผมจะแขวนสลับไปมาเรื่อยๆ ประมาณ 10 กว่าชุด โดยอยากใส่อะไรก็ใส่ แล้วลองห้อยติดต่อกันประมาณ 2 อาทิตย์ครับ

    1. ชุดแรก เป็นกริ่งแพโบสถ์น้ำของหลวงปู่บุญศรี เนื้อกะลาหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ พิมพ์พระพุทธ แล้วก็สีผึ้งหลวงพ่อทาบ ครับ ชุดนี้เน้นเมตตาล้วนๆ เท่าที่สังเกตสีผึ้งหลวงพ่อทาบไม่ใช่แบบเกี่ยวสาวนะครับ แต่จะเป็นแบบคนอื่นโดนอาจารย์ด่าหมดแล้วเรารอดอยู่คนเดียว ทั้งๆที่แย่กว่าซะอีก
    2. สมเด็จหลวงปู่ปั้น วัดใหม่ทองเสนครับ องค์เดียวกันกับปั้น วัดสะพานสูง แต่เซียนเรียกชื่อผิด ต่อๆกันมา องค์นี้มีความพิเศษ ที่มีปั้มยันต์ก้นระฆัง วัดช่องแค ประวัติคือ พระองค์นี้หลวงปู่ปั้นบรรจุกรุไว้ ผงที่ผสมมีผงของสมเด็จโต แน่นอน เพราะพระมีอายุเกินร้อยปี หมอสมสุข คงอุไร แห่งสำนักรัศมีพรหม ผู้ร่วมสร้างวัตถุมงคลในหลายๆรุ่น ได้บูชาจากวัดตอนเปิดกรุปี 12 นำไปให้หลวงพ่อพรหมเสกในงานพุทธาภิเษก ถึง 7 ครั้ง รวมทั้งในงานรูปหล่อก้นระฆัง รูปหล่อเตารีด ผงฟ้าผ่าก็เสกทั้งสิ้น นับเป็นของดีที่หายากของหลวงพ่อพรหม ส่วนใหญ่จะตกแก่คนใกล้ชิดของคุณหมอ องค์นี้ผมได้มาฟรีจากหลวงอาชนินทร์ เพราะสมัยนั้นหลวงอาก็ติดตามไปเรียนวิชาจากหลวงพ่อพรหม เจอให้เก็บนะครับ อย่ารีรอ ชุดนี้ใช้กับกรุปากบาง แล้วก็ลูกอมหลวงพ่อสงวน เมตตาดีมากๆชุดนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0476.JPG
      IMG_0476.JPG
      ขนาดไฟล์:
      99.8 KB
      เปิดดู:
      93
    • IMG_0477.JPG
      IMG_0477.JPG
      ขนาดไฟล์:
      114.8 KB
      เปิดดู:
      94
    • IMG_0478.JPG
      IMG_0478.JPG
      ขนาดไฟล์:
      103 KB
      เปิดดู:
      83
  4. ไชยพันธุ์

    ไชยพันธุ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +782
    ตอนนี้ใส่ท้าวเวสสุวรรณครับ หลวงพ่อวัดป่าอธิฐานจิตให้ครับ หลวงพ่อบอกว่าอยากได้อะไรก็ขอเอาครับ ทำได้ทุกอย่างที่ไม่ผิดศีลธรรมครับ การทำงานก็ไม่ติดขัด การเงินก็คล่อง ใช้จ่ายสบาย
     
  5. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    เหลือ 4 ชุดแล้วครับ ช่วยๆกันแบ่งปันประสบการณ์นะครับ
     
  6. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รางวัลคุณ ransang กับคุณไชญพันธุ์ เหลือ 3 ชุดครับ
     
  7. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ชุดที่ 3 ที่ใช้ คือ ผงดวงเศรษฐี กับ รูปหล่อเศรษฐีใหม่ หลวงพ่อทรงครับ ชุดนี้ก็เรื่อยๆการเงินไม่ติดขัดครับ ประทับใจเพราะใส่แล้วเบาไม่หนักมากครับ หลวงปู่หมุนดวงเศรษฐีตะกรุดกับธรรมดาเอาแบบไหนก็ได้ ขอให้ใจศรัทธาครับ

    ชุดที่ 4 ใช้ นางกวักหลวงพ่อสงวน ลูกอมหลวงพ่อสงวน พระพุทโธน้อยแม่ชีบุญเรือน แล้วก็พระนักธรรมครับ อันนี้ยังใช้ไม่นาน ยังบอกอะไรไม่ได้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0479.JPG
      IMG_0479.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110.8 KB
      เปิดดู:
      82
    • IMG_0480.JPG
      IMG_0480.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.3 KB
      เปิดดู:
      84
  8. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,714


    ไม่มีแบ่งสักองค์เหรอ ครับ ท้าวเวสสุวรรณ กำลังมองหาอยู่เลย.. อิ อิ
     
  9. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    จริงๆ ผมยังมีห้อยอีกหลายชุด เช่น ชุดพระกริ่ง+พระคงลำพูน+เหรียญ12ราศี ด้านหลังห้อยเป็นลูกอมชานหมาก หลวงปู่สี ชุดนี้ ผมเอาไปเสกโดยใส่มือพระหลายรูป ทันครูบาอินตา วัดวังทอง ด้วย จำได้ว่าตอนนั้นครูบาจันทร์แก้วท่านสนใจพระกริ่งมาก เพราะผมเอาพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุชานหมากหลวงปู่เทพโลกอุดร อัฐิครูบาอิน อัฐิครูบาบุญปั๋น มาติดด้วย จนถึงครูบาดวงดี วัดท่าจำปี ท่านว่า "แฮง"

    มีชุดนึง คือ พระกริ่งเศรษฐีล้มลุกครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม องค์นี้ก็ได้มาฟรีๆ เหมือนกัน เพราะผมไปที่รูปปั้นหลวงปู่ ตอนนั้นยังอยู่ปีหนึ่ง ไม่มีเงินเท่าไหร่ กินข้าวบางวันไม่ได้กินน้ำ เพราะเสียดายตังค์ ไปกราบท่านขอพระกริ่งเศรษฐีล้มลุก แล้วไปหาพระอาจารย์สิทธิพงศ์ อยู่ดีๆท่านคุยว่า สองวันก่อนมีโยมคนนึงลูกจะเปิดเทอม ไม่มีเงิน เอาพระมาฝากอาตมาให้ไป 1700 เป็นกริ่งล้มลุก โยมรู้จักมั๊ย ท่านก็เอามาให้ดู ผมเลยบอกว่าผมขอทำบุญได้มั๊ย ท่านก็ว่าโยมเอาไปเลย ได้ในวันเดียวกัน ห้อยคู่กับหลวงพ่อผินะ และ สมเด็จแช่น้ำมนต์ครูบาคำ วัดศรีดอนตัน เก็บมาจากถนนคนเดินเชียงใหม่ 200 บาท คนจับพลังบอกว่าเห็นห้อยแต่ละองค์แรงทั้งนั้น องค์นี้เบา แต่ผมก็ชอบ เพราะไปกราบศพท่านแล้วศรัทธาบอกไม่ถูก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  10. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล วัดเขากง ปี 2511

    เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ปี 2511 วัดเขากง จ.นราธิวาส สร้างจากชนวนวัตถุมงคลเก่าๆและตะกรุดของเกจิอาจารย์จำนวนมาก และต่อมายังเข้าปลุกเสกอีกหลายวาระ

    ในพิธีเททอง ขณะกำลังหลอมโลหะวัตถุดิบ ว่ากันว่าแผ่นยันต์ของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย และของอาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลอมไม่ละลาย ทำให้ต้องตักแผ่นขึ้นมาใหม่ทำพิธีอีกจึงหลอมได้สำเร็จ

    เกจิคณาจารย์ร่วมพิธี พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี, อาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี, หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี, พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง, หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง, หลวงปู่นาค วัดระฆัง กรุงเทพฯ, พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง, พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา, หลวงพ่อดี วัดตันหยงมัส จ.นราธิวาส, หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา จ.นราธิวาส, อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุงฯลฯ

    เหรียญเนื้อทองแดงรมดำ ขนาด 2.3 X 3.5 c.m. เป็นรุ่นแรก



    เหรียญนี้แนะนำให้เก็บหนอ่ยนะครับ เพราะราคาจะดันขึ้นตามอาจารย์นำ ตอนนี้ผมเก็บไว้ประมาณ 30 เหรียญ เดี๋ยวเจออีกจะนำมาแบ่งครับ
     
  11. COFFEEMAX

    COFFEEMAX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,318
    ค่าพลัง:
    +9,085
    สร้อยพระที่ผมห้อยประจำก็จะเป็นเส้นนี้ครับ พระสมเด็จ 7 ชั้น เบี้ยแก้อุดผงพุทธคุณ ผ้ายันต์และตะกรุดจารมือของหลวงปู่สม วัดโพธ์ทองครับ ส่วนตะกรุดพอกผง จีวร เกศา และตะกรุดกาฝาก 3 อย่างของหลวงปู่ม่วงวัดยางงาม ราชบุรี ครับ พระของหลวงปู่สมนี่ หลวงปู่ท่านบอกว่าตามแต่อธิฐานขอเลยครับ เนื่องจากหลวงปู่ลงไว้ครบถ้วนแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. Pig_Never_Die

    Pig_Never_Die เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +869
    ผมเคยโดนรถชนจนกระเด็นครับ แต่เนื้อตัวไม่เป็นอะไรเลย ในตัวตอนนั้นมีแค่พระหลวงปู่ทวด วัดประสาท องค์เดียวครับ
     
  13. ไชยพันธุ์

    ไชยพันธุ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +782
    รูปครับ.................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1653.JPG
      IMG_1653.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      90
  14. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    เหลืออีกท่านนึงคับ ตอนส่งของให้แต่ละท่านเตือนผมเรื่องของแจกด้วยนะครับ
     
  15. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    คุณไชยพันธ์สร้อยสวยจังนะครับ
     
  16. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,714

    งามมากครับ :cool:
     
  17. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 742 พระโคนสมอ กรุวังหน้า ปางห้อยพระบาท

    พระโคนสมอกรุวังหน้า
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เรามาคุยกันถึงพระโคนสมอกรุวังหน้ากันดีกว่านะครับ พระโคนสมอ เป็นพระศิลปะอยุธยายุคปลาย แต่พระส่วนมากกลับพบที่ในกรุงเทพฯ เสียเป็นส่วนใหญ่ และส่วนมากที่พบก็เป็นพระเนื้อดิน ซึ่งมีขนาดใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือ และเป็นพระที่ลงรักปิดทองมาแต่เดิม

    พระโคนสมอนั้น แรกเริ่มเดิมทีที่พบเนื่องมาจากได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ วังหน้า หรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กทม.ในปัจจุบัน และได้พบพระโคนสมอเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำพระชนิดนี้มารวมกองกันไว้ที่โคนต้นสมอพิเภก หน้าพิพิธภัณฑ์ เนื่องมีพระจำนวนมากผู้คนที่พบเห็นจึงเรียกชื่อพระตามสถานที่พบเห็นว่า "พระโคนสมอ" ในตอนแรกๆ ก็ไม่มีใครสนใจพระชนิดนี้เท่าไรนัก ต่อมาก็มีคนหยิบไปบูชาบ้าง เนื่องจากว่าเห็นพระเป็นพระปางประจำวันก็นำไปตามวันเกิดของตนเอง และทางกรมศิลป์ ก็เปิดให้เช่าบูชาบ้าง จนพระหมดไปในที่สุด

    ต่อมาก็ได้พบพระแบบเดียวกันนี้อีกตามกรุต่างๆ ในกทม.และอยุธยา เท่าที่ดูรูปแบบศิลปะแล้วสันนิษฐานว่าเป็นพระสมัยอยุธยาตอนปลาย และตอนเริ่มสร้างกรุงเทพฯ นั้นก็ได้มีการชะลอพระพุทธรูปจากโบราณสถานต่างๆ ในจังหวัดที่เป็นวัดร้างเข้ามาประดิษฐานไว้ตามพระอารามต่างๆ ในกทม. พระพุทธรูปจากอยุธยาเองก็ถูกนำเข้ามาไว้ในกรุง หลายองค์ประจำอยู่ตามวัดต่างๆ ในกทม. นอกจากพระพุทธรูปที่ได้นำเข้ามาไว้ในกรุงแล้วก็ยังได้นำพระเครื่องที่พบตามกรุในอยุธยาเข้ามาบรรจุไว้ตามวัดต่างๆ ด้วย และพระโคนสมอก็ได้ถูกนำเข้ามาบรรจุไว้ตามสถานที่ต่างๆ ในครั้งนั้นด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายคือ ไม่มีผู้ใดได้บันทึกไว้ว่า พระทั้งหมดนั้นได้นำมาจากที่วัดใดในอยุธยา

    พระโคนสมอ ที่ถูกพบนั้นส่วนใหญ่เป็นพระเนื้อดินเผา ซึ่งมีขนาดใหญ่ และเป็นพระที่มีการลงรักปิดทองทั้งหมด และมีพระเนื้อดินเผาที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษที่มักเรียกกันว่า "พระเท้าชมพู" ซึ่งเป็นพระยืนปางประทานพร ทรงเครื่องขัดติยราชประดับมงกุฎ สวยงามมาก ส่วนพระโคนสมอทั่วๆ ไปเป็นพระที่สร้างเป็นแบบพระประจำวันเสียเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะเป็นพระที่ประทับอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว ฐานแบบย่อมุม ตามแบบศิลปะอยุธยายุคปลาย นอกจากพิมพ์พระประจำวันแล้วก็ยังมีพิมพ์อื่นๆ อีกบ้าง พระโคนสมอส่วนมากเป็นพระเนื้อดินเผา แต่ก็มีเนื้ออื่นๆ ที่พบน้อยมาก เช่น เนื้อว่าน เนื้อชินเงิน และเนื้อแก้วน้ำประสาน สำหรับเนื้อแก้วน้ำประสานนั้นแทบไม่ค่อยได้พบเห็นกันเลย

    พระโคนสมอที่นิยมกันมากที่สุดก็คือโคนสมอเนื้อชิน ซึ่งเป็นพระที่มีขนาดเล็กที่สุดของพระชุดโคนสมอ พิมพ์ที่พบมักเป็นพระประทับนั่ง มีทั้งพิมพ์สมาธิและพิมพ์ประทับนั่งห้อยพระบาท และพระพิมพ์ห้อยพระบาทเป็นพิมพ์ที่นิยมกันมากที่สุด เนื่องจากว่ามีผู้นำไปห้อยบูชาแล้วเกิดประสบการณ์กันมากทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และมหาอุด พระโคนสมอเนื้อชินนี้มีการทำปลอมเลียนแบบกันมากนานแล้ว เนื่องจากได้รับความนิยมและหาค่อนข้างยาก พระแท้ๆ นั้นมักมีผิวผุกร่อนเป็นเกร็ดกระดี่ มีทั้งผิวปรอทและผิวสนิมตีนกา ส่วนที่ด้านหลังมักเป็นแอ่งเว้าแบบท้องกระทะ และขอบข้างของด้านหลังจะยกสูงเป็นขอบกระด้ง

    พระโคนสมอเนื้อชินจึงเป็นพระที่มีสนนราคาสูงกว่าพระพิมพ์อื่นๆ ในพระชนิดเดียวกันในปัจจุบันสนนราคาหลักหมื่นครับ วันนี้ผมนำรูปพระโคนสมอมาให้ชมกันสององค์คือพิมพ์ห้อยพระบาทและพิมพ์สมาธิครับ

    ด้วยความจริงใจ

    แทน ท่าพระจันทร์ [​IMG]


    ให้บูชา 3800 บาท เอาไว้โชว์ครับ สูง 6 นิ้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 00296304.jpg
      00296304.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.1 KB
      เปิดดู:
      274
    • 2280503.jpg
      2280503.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.5 KB
      เปิดดู:
      152
  18. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    <CENTER>พระเครื่องที่กรมหลวงชุมพรฯทรงเชื่อมั่นและเลื่อมใสในพุทธคุณ

    </CENTER>


    ในวงการพระเราต่างกล่าวขวัญยกย่องกันเป็นเสียงเดียวว่า “พระสมเด็จวัดระฆังฯ” ทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ที่สร้างและพุทธาภิเษกโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหฺมรํสี) คือ “จักรพรรดิแห่งพระเครื่องฯ” แต่ถ้าจะพูดถึง “พระเครื่องฯ แห่งองค์จักรพรรดิ” แล้วไซร้ บรรดานักนิยมสะสมหรือเซียนพระรุ่นเก่า เขาชี้นิ้วไปที่ “พระโคนสมอ” กันครับ

    ทั้งนี้ ด้วยประวัติศาสตร์คำบอกเล่า (Oral History) ระบุว่า พระเครื่องฯ ชุดนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยองค์บูรพกษัตริยาธิราชเจ้า ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และมิใช่ทรงสร้างเพื่อ “สืบอายุพระพุทธศาสนา” แต่เพียงอย่างเดียว เฉกเช่นพระเครื่องฯ ชุดอื่นๆ เท่านั้น ทว่า ยังทรงมีพระราชประสงค์เพื่อ “ป้องกันพระนคร” อีกประการหนึ่งด้วย โดยพระเครื่องฯ ชุดนี้ จะถูกนำไปเป็น “หนึ่งในเครื่องพิชัยยุทธ์” เมื่อพระองค์เสด็จฯ เป็นจอมทัพออกกระทำยุทธนาการปกบ้านป้องเมือง เรียกว่า พระโคนสมอนี้อยู่เคียงข้างองค์พระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลก็มิผิดแต่ประการใด นอกจากนี้ ยังทรงพระราชทานแจกจ่ายให้แก่บรรดาแม่ทัพนายกอง ตลอดจนทหารหาญ เช่น พวกกองอาทมาตทะลวงฟัน ก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจเป็นทัพหน้าปะทะข้าศึก ตามความเชื่อในกระบวนพิชัยสงครามที่ว่าด้วยวิชา “แต่งคนออกศึก” หรือ “แต่งทัพจัดคน”

    จากประวัติศาสตร์คำบอกเล่า ยังระบุด้วยว่า พระโคนสมอถูกสร้างขึ้นที่เมืองพิษณุโลก โดยการสร้าง ตลอดจนพิธีกรรมพุทธาภิเษกกระทำกันต่อหน้าพระพักตร์องค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช และก็นำพิมพ์ทรงของหลวงพ่อพระพุทธชินราช ซึ่งมีองค์พระประทับนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้วนั้นเอง มาเป็นต้นแบบในการจัดสร้าง แต่ได้ประยุกต์พิมพ์ทรงเป็นปางประจำวันต่างๆ ตามความเชื่อใน “คัมภีร์มหาทักษา” ที่ว่าด้วยเรื่องเทวดานพเคราะห์และกำลังวัน อันเป็นหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ที่นิยมกันสมัยกรุงศรีอยุธยา

    สำหรับพิมพ์ทรงพุทธลักษณะของพระโคนสมอนั้น เป็นรูปองค์พระพุทธเจ้าประทับภายในซุ้มเรือนแก้วด้วยปางต่างๆ โดยภาพที่นำมาลงประกอบนี้ เป็นปางสมาธิ ซึ่งเป็นปางประจำวันพฤหัสบดี ประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้ว เหนืออาสนะผ้าทิพย์ บนฐานทำเป็นรูปเหลี่ยมย่อมุม อันเป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนกลางถึงตอนปลายโดยแท้

    ทางด้านเนื้อหานั้น มีหลายประเภทด้วยกัน ทั้ง ดิน ชิน และว่าน โดยภาพที่นำมาลงประกอบนี้ เป็นเนื้อชินเงิน ผิวเกล็ดกระดี่ มีการผุระเบิด ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเนื้อชินเงิน ทั้งนี้ การผุระเบิดจะต้องปะทุจากข้างในออกมาข้างนอกผิวพระ ถ้าปะทุจากข้างนอกเข้าไปหาข้างในถือว่าเป็นพระปลอม ส่วนด้านหลังองค์พระมีทั้งที่เป็นแอ่งและหลังตัน แต่ส่วนใหญ่หลังจะเป็นแอ่งและต้องเป็นแอ่งอย่างในภาพประกอบ ถือว่าเป็นพระดูง่าย

    ด้านพระพุทธคุณนั้น มีประสบการณ์อย่างมากมายครบเครื่อง โดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด อันรวมไปถึงมหาอุด ตลอดจนป้องกันเขี้ยวงา นักเลงพระรุ่นเก่าต่างยกนิ้วให้ว่า อยู่ในระดับแถวหน้า และถ้าจะว่าไปแล้ว พระโคนสมอนี้เองที่ทำให้กรมหลวงชุมพรฯ ทรงเชื่อและเลื่อมใสในพระพุทธคุณ เพราะนำไปลองยิงด้วยพระแสงปืนแต่ไม่ออก แต่ที่สร้างชื่อมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นเหตุการณ์ ทหารไทยได้รับเหรียญกล้าหาญบรอนซ์สตาร์เป็นเหรียญแรกในสมรภูมิสงครามเกาหลี หลังจากยิงสู้จนกระสุนหมด และได้ตัดสินใจวิ่งฝ่ากระสุนปืนกลหนัก เพื่อนำระเบิดขว้างใส่ข้าศึก โดยตนเองไม่ได้รับอันตราย ซึ่งทหารไทยนายนั้นรอดมาได้ เพราะมีพระโคนสมอชินเงินพิมพ์ห้อยพระบาทห้อยคอ เพียงองค์เดียวเท่านั้นเองครับ

    จากคอลัมภ์เก่าอมตะ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ 13/6/50


    ปางห้อยพระบาท
    [​IMG][​IMG]




    ปางสมาธิ
    [​IMG][​IMG]
     
  19. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 743 โคนสมอ พิมพ์สมาธิ ศิลปะอยุธยาครับ

    องค์นี้ไม่มีลงรักปิดทอง เนื้อหยาบ เป็นศิลป์ของอยุธยาครับ แบบเดียวกับหลวงพ่อโต วัดบางกระทิง ไม่สามารถระบุกรุได้ เพราะขึ้นหลายกรุ แต่จะขึ้นเฉพาะวัดหลวง ถ้าบังเอิญได้เป็นกรุวัดใหญ่ชัยมงคล ก็แจ่มไปเลยครับ


    พระโคนสมอ ยอดพระนิรันตราย แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี
    หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาได้ตกไปเป็นเมืองขึ้นของข้าศึกในปี พ.ศ.๒๓๑๐ นั้น ก็ได้เกิดวีระชนคนกล้ามา กู้ชาติ สร้างบ้านแปลงเมืองขึ้นมาใหม่ ก่อเกิดกำเนิดเป็นมหาอาณาจักรขึ้นบนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในปี พ.ศ.๒๓๒๕ “ กรุงรัตนโกสินทร์ “ และนอกจากจะสร้างบ้านเมืองแล้ว ก็ยังมิลืมที่จะให้เมืองแห่งนี้ มีความงดงามประดุจกรุงเก่า ที่ได้เคยมีมาแต่เดิมในครั้งอดีต ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สภาพความเป็นอยู่ รวมถึงสิ่งมงคลล้ำค่า อย่างพระพุทธรูปต่างๆ รวมทั้งพระพิมพ์ที่พอจะรวบรวมได้จากกรุงเก่าเข้ามาในเมืองแห่งนี้ เพื่อที่จะได้อนุรักษ์และรักษาไว้ให้ชนรุ่นหลังสืบต่อไป อย่างเช่น พระโคนสมอ ที่เราจะกล่าวถึง เป็นพระเครื่องที่มีมาตั้งแต่ สมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างจากเนื้อดิน ส่วนใหญ่ และก็มีเนื้อชินอีกด้วย พระส่วนมากจะเป็นพระพิมพ์ประจำวัน และมีพิมพ์อื่นๆอีก เช่น พิมพ์ปางมารวิชัย พิมพ์ซุ้มปราสาท พิมพ์ปางพญาชมภู เป็นต้น พุทธลักษณะองค์พระทั้งทรงพิมพ์ก็สวยงามมาก หาได้จัดทำแบบลวกๆไม่ ลายเส้นของพิมพ์สวย คม ชัด ลึก ตามพระพุทธลักษณะ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะฝากไว้ ในการที่จะสืบอายุพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ จนถึงพุทธกาล ๕๐๐๐ ปี และผู้คนในสมัยอยุธยาครานั้น คงจะร่วมแรงร่วมใจในการสร้างพระนี้ขึ้นมาและด้วยเพราะมีพระเป็นจำนวนมาก ต่อเมื่อหลังจากเสียกรุงศรีฯแล้ว พระชุดนี้ถูกทิ้งร้างมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง มีผู้ที่เห็นคุณค่าจึงได้นำพระกลับมาบรรจุไว้ที่เมืองแห่งนี้ ด้วยเหตุที่ความเชื่อของคนในสมัยก่อนนั้นไม่นิยมที่จะนำเอาพระเข้ามาเก็บไว้ในบ้าน จึงได้นำพระไปฝากไว้ที่วัดบ้าง บ้างก็บรรจุกรุตามวัดต่างๆ นี้ก็เป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมานาน จึงนำพระชุดนี้มาฝากไว้ตามกรุต่างๆโดยเฉพาะบริเวณ พระราชวังหน้า(บริเวณพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกรุงเทพฯ) ก็เช่นกันได้นำพระชุดนี้มาเก็บรักษาไว้ บ้างก็ไว้ตามวัด และบางวัดที่มีเจดีย์ที่ว่างเปล่า ก็จะนำพระที่สร้างขึ้นมาบรรจุรวมทั้งพระชุดนี้ด้วย หากมีจำนวนเหลือก็นำมาเก็บไว้ตามเพดานพระอุโบสถก็มี หากมีมากเกินที่บรรจุไม่ทันก็เลยเอามากองกันที่โคนต้นไม้บ้าง พอคนเดินไปเดินมาเห็นพระกองอยู่ก็เลยเก็บกลับบ้าน เพราะเห็นสวยดี เก็บกันคนละชิ้นสองชิ้น อะไรมันจะไปเหลือก็หมดล่ะสิ แต่ไม่รู้ว่าพระชื่ออะไร เลยเรียกตามสถานที่ที่ไปพบ และเก็บมาก็ที่โคนต้นสมอน่ะแหล่ะ เลยถือวิสาสะเรียกว่า “ พระโคนสมอ “ มาแต่นั้นเอง ถ้าจะพิจารณาพระพิมพ์เหล่านี้สามารถแยกออกได้เป็น ๒ ชนิด คือ
    ๑.พระเนื้อดินกรุเก่า เนื้อดินจะนุ่มกว่า ทั้งรักทองที่ปรากฎ จะติดแน่นและเรียบร้อยกว่า จึงสามารถบอกได้ว่าเป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัย อยุธยาแน่นอน
    ๒.พระเนื้อดินกรุใหม่ จริงๆแล้วก็ไม่ได้ใหม่อย่างที่บอกน่ะครับ สร้างมาก็ตั้งแต่ก่อตั้ง กรุงรัตนโกสินทร์ ขึ้นมาในช่วงนี้ เนื้อหาของดินค่อนข้างหยาบกว่าเล็กน้อย รักทองก็ดูจะใหม่สดกว่า ส่วนพิมพ์นั้น เป็นพิมพ์เดียวกันกับพิมพ์กรุเก่าทุกประการ
    สำหรับพระโคนสมอเนื้อชิน แต่เดิมเป็นพระผิวปรอท แต่ภายหลังเมื่อได้บรรจุกรุแล้ว องค์พระที่แตกกรุมาส่วนใหญ่ จะปรากฎถูกสนิมกัดกินผิวผุกร่อน จนถึงเนื้อในหลุดร่อน เรียกสนิมชนิดนี้ว่า “ สนิมเกล็ดกระดี่ “ เพราะมีลักษณะการหลุดร่อนคล้ายเกล็ดปลากระดี่นั้นเอง ต้องเอาน้ำมันชโลมเลี้ยงไว้ไม่ให้สนิมกินลามจนเสียสภาพไป
    พระโคนสมอ มีการค้นพบ และขึ้นตามกรุต่างๆตามวัดทั่วไป ทั้งที่พบในกรุ เจดีย์ ตามเพดานพระอุโบสถแต่ที่พบมากที่สุดก็ที่ กรุวังหน้า วัดโพธิ์ฯ วัดพระแก้ว และนอกจากนี้ยังมีขึ้นที่วัดอื่นๆอีก เช่น ในปี พ.ศ.๒๕๐๖ ที่วัดเชิงท่า จ.นนทบุรี ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ ที่วัดสระเกศ ก็มีในเจดีย์เหมือนกันในจำนวนมาก และหากเป็นพระโคนสมอขนาดเล็ก เนื้อดินก็จะพบในกรุของ วัดประยูรฯ และวัดสระเกศ เท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นเนื้อชิน จะเป็นของกรุกรุวังหน้า และวัดพระแก้วเท่านั้นเอง ไม่ปรากฎว่ามีขึ้นอีกในที่ใด จำนวนก็น้อย และหายากครับ
    พระโคนสมอนับว่าเป็นพระที่ทรงคุณค่ามาก มีครบทั้งศาสตร์ และศิลป เป็นพระเครื่องที่มีความเชื่อว่าให้คุณเด่นในด้าน คงกระพันชาตรี และนิรันตรายเป็นเยี่ยม จัดในประเภทของดีราคาเบา แสดงอิทธิปาฎิหารย์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน มีข่าวในบางกระแสด้วยว่า แม้องค์พระประมุขของเราอาราธนาติดพระองค์อยู่เสมอ เป็นพระเนื้อชิน พิมพ์ห้อยบาท รวมอยู่ด้วย เคยมีผู้รู้ได้บอกเล่าให้ฟังว่า ในสมัยโบราณนั้น เขาเอาพระโคนสมอให้ม้าศึก และช้างศึกคล้องไว้ เมื่อออกศึกคราใด ก็จะแคล้วคลาดจาก คมหอกคมดาบที่ไปศึกมา เรียกว่าไม่ได้กิน ไม่ได้ระคายผิวเลย เป็นที่เลื่องชื่อมาก และมาในสมัยที่ไม่ไกลเท่าไรนัก ในยุคสงครามอินโดจีน นี้แหล่ะ เชื่อหรือเปล่าว่า นักรบชาติไทยเรา นอกจากจะเป็นทหารหาญ ที่มีจิตใจเข้มแข็ง ขวัญดี และมีฝีมือแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่ทหารเวียดนาม และอเมริกัน ต้องยอมรับนั้นก็คือพระเครื่องที่เป็นที่ยอมรับมากๆ ว่าเยี่ยมจริงๆ โดยเฉพาะการสู้รบของ “ จงอางศึก “ ขนาดข้าศึกมีมากถึง ๑๐ ต่อ ๑ ยังทำอะไรไม่ได้ หรือจะเป็น “ กองพลเสือดำ “ ที่ลือชื่อ สร้างกิตติคุณฝากไว้ยังมีปรากฎอยู่จนถึงเดี๋ยวนี่ แม้ขณะนี้เองก็ตาม บ้านเมืองมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก เปลี่ยนจากสงครามมาเป็นความเสี่ยงจากการทำงานก็ตาม พุทธคุณก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง นับว่าพระโคนสมอยังเป็นพระที่อยู่ในกระแสที่ผู้ที่ต้องการเสาะแสวงหาของดีๆ มีพุทธคุณที่พิสูจน์ได้ จะได้นำมาใช้คุ้มกาย ส่วนสนนราคาก็ว่ากันไปตามสภาพ ว่าสวยคมขนาดไหน พิมพ์ยากง่ายเพียงไร นิยมหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ในปัจจุบันไม่ค่อยพบตามสนามพระแล้วโดยเฉพาะพิมพ์ที่อลังการ สวย คมๆ เนื่องจากมีผู้ที่มีอันจะกิน คอยเก็บสะสมเข้ารัง นำไปใส่แท่น ล้อมกรอบไม้ บูชาติดฝาบ้าน ตามบ้านเศรษฐีเขา พอมองแล้วคลาสสิกดี เลยเดี๋ยวนี้ค่อนข้างจะหาสวยๆยากอีกทั้ง ราคาก็สูงขึ้นมากตามลำดับความต้องการ และหากใครคิดเก็บก็ต้องรีบหน่อย และอย่าประมาทว่าไม่มีของทำเลียนแบบน่ะครับมีเหมือนกัน แต่พิจารณาได้ไม่ยากนักเพราะของเก๋ มันตื้นๆ ไม่ได้รูปทรง เนื้อหาไม่ได้อายุ และทองก็ไม่เหมือน และหากจะสะสมทั้งที่ก็ หาเอาจากผู้ที่น่าไว้ใจมีการรับรองอย่างถูกต้อง และมีความน่าเชื่อถือกันน่ะครับ



    ให้บูชา 2900 บาท

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2280510.jpg
      2280510.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.1 KB
      เปิดดู:
      127
    • 2280511.jpg
      2280511.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.4 KB
      เปิดดู:
      97
  20. amar

    amar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +606
    หลวงปู่ทวด
    ผงยันต์ดวงหลวงปู่ดู่
    ลูกอม ลพ.สงวน
    ลูกอม ลป.ทิม
    แขวนแล้วเมตตาเย็นดีคับ
    ไม่ทันไม่เป็นไรคับ ร่วมสนุกช่วงดึกๆ:cool:

    ที่พกก็ สี่หูห้าตาเนื้ออาปาก้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...